บริษัทยาตระกูลหลีตั้งใจตรงชานเมืองฝั่งตะวันตกของหยุนเฉิง ที่นั่นมีพื้นที่โรงงานผืนหนึ่ง ซึ่งก็คือโรงงานผลิตของบริษัทนั่นเองสองสามวันต่อจากนี้ หลีเอียนแทบจะพักอยู่ที่นี่ เฝ้าดูแลทุกกระบวนการการผลิตด้วยตัวเองวันนี้ ในที่สุดผลิตภัณฑ์ยาล็อตแรกก็ผลิตเสร็จแล้วแต่ทว่าหลีเอียนกลับรู้สึกกังวลเรื่องผลกำไร และขาดทุนเธอยืนอยู่ในโกดังเก็บของของโรงงาน เมื่อมองดูผลิตภัรฑ์ยาที่ตกลงมาจากเครื่องจักรสายการผลิตจำนวนมากแล้ว หลีเอียนพลันขมวดคิ้วแน่นเป็นปมเข้าด้วยกันจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เห็นหัวเถ้าแก่หวงเลยหลีเอียนโทรศัพท์หาเขาวันนี้ อีกฝ่ายก็ไม่รับสายด้วย“ประธานหลี จะให้ผลิตต่อไหมครับ?”หัวหน้าโรงงานผลิตพูดขึ้นข้างๆ“ล็อตสองรอก่อนก็ได้ค่ะ”หลีเอียนตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจากนั้นก็หันไปมองเย่เฟิงที่อยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยหลายวันมานี้ เย่เฟิงที่เป็น ‘ผู้ช่วยประธาน’ ในนามคนนี้ เวลาว่างจะอยู่ข้างกายหลีเอียนตลอด“คุณบอกเองว่าให้ผลิตเลย! ตอนนี้เถ้าแก่หวงยังไม่กลับมาเลย ไม่สามารถเข้าถึงช่องทางการจำหน่ายได้เลยด้วยซ้ำ ทีนี้จะทำยังไง?”หลีเอียนถามด้วยน้ำเสียงตำหนิเล็กน้อยเธอสัมผัสได้
“นี่หลานสาวคนโต ฉันแนะนำให้เธอเลิกความพยายามเลยดีกว่า แล้วแต่งงานกับคุณชายฉู่ดีๆ ซะ!”หลีเทียนกังพูดเหยียด“แล้วรวดคืนบริษัทให้ลุงรองของเธอดูแลต่อเถอะ อยู่กับเธอมันจะเจ๊งแล้วเนี่ย! จึๆ…”หลี่เยว่ผิงเหยียดหยามยิ่งกว่าหลีเอียนโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เธอกัดริมฝีปากแน่นทันใดนั้น เย่เฟิงก็แค่นเสียงเย็นชา “ใครบอกพวกคุณว่ายาพวกนี้จะขายไม่ออก?”พูดจบ เขากดมือ แล้วพูดกับผู้จัดการระดับสูงสุดของบริษัทพวกนั้นว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งรีบร้อนใจไป! ผมรับรองว่ายาพวกนี้จะขายออกไปได้ เรื่องออเดอร์มูลค่าร้อยล้านก็เป็นเรื่องในไม่ช้านี้ ถึงตอนนั้นการเงินส่วนที่ขาดหายไปของบริษัท ก็จะนำกลับมาได้ ไม่ใช่แค่นั้น แต่พวกคุณยังจะได้รับโบนัสและคอมมิชชั่นจำนวนมากด้วย!”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของผู้จัดการระดับสูงสุดเหล่านั้นก็ยังทำหน้าเรียบเฉยหลีเทียนกังหัวเราะแห้ง พูดว่า “เย่เฟิง ถึงตอนนี้แล้วก็ยังจะโม้อีกเหรอ? นายกับหลีเอียนคงไม่ได้ยังรอเถ้าแก่หวงอยู่หรอกนะ? ฮ่าๆๆ…ฉันจะบอกให้นะ ความจริงตอนนี้เถ้าแก่หวงอยู่ในหยุนเฉิงนี่แหละ แต่แค่ไม่อยากสนใจพวกนายก็เท่านั้น! ดูสิว่านี่คือใคร?”พูดจบ เขาก็ปรบมือตามด้วยเงาร่างอ้
หงเม่าหมิงวิ่งเข้าไปในโกดัง ทำให้ฝูงชนตะลึงตกใจ ต่างก็มองคนคนนี้ด้วยสายตาแปลกประหลาด“คุณครับ หยุด! ที่นี่เป็นโกดังของโรงงานเรา คุณจะเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะครับ!”ขณะนี้ ยามรักษาความปลอดภัยของโรงงานวิ่งตามมาข้างหลัง แล้วพูดตะโกนต่อหงเม่าหมิงตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ประจำมณฑลจงโจว ประธานผู้จัดงานมหกรรมยาผู้นี้ วิ่งเข้าโกดัง เพื่อทำเวลาโชคดีที่เขามีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันอยู่เสมอ จึงช่วยเขากันคนอื่นๆ ได้เถ้าแก่หวงจำหงเม่าหมิงได้ เขาเดินเข้าไปทักทายอีกฝ่าย “คุณคือหงเม่าหมิง ประธานผู้จัดหงจริงเหรอครับ?”แต่ว่าหงเม่าหมิงกลับไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ผลักเขาออก แล้วมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ในที่เกิดเหตุตัวแทนจำหน่ายน้อยๆ อย่างเถ้าแก่หวงไม่ถือว่าเป็นรายใหญ่มากในหยุนเฉิง ดังนั้นเถ้าแก่รายใหญ๋อย่างหงเม่าหมิงจะรู้จักเขาได้อย่างไร?เขาได้รับการติดต่อโดยซุนกว่างซาน หมอซุนบอกเขาให้มาพบประธานบริษัทยาตระกูลหลี บอกว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง แถมยังสวยมากด้วย“คุณคือประธานหลี หลีเอียนใช่ไหมครับ?”จากนั้น สายตาของหงเม่าหมิงก็จ้องไปที่หลีเอียน แล้วเดินเข้าไปถามอย่างให้เกียรติต้องยอมรับว่าเขาตาถ
หงเม่าหมิงได้ยินหลีเอียนตอบตกลง ก็เผยหน้าดีใจออกมาจากนั้นก็มองไปที่กองผลิตภัณฑ์ยาที่รวมอยู่ในโกดังเหล่านั้นด้วยสีหน้าหิวกระหาย แล้วถามว่า“ยังไม่มีค่ะ! ประธานหงเป็นคนแรกที่มาขอร่วมงานด้วยเลยค่ะ”หลีเอียนส่ายหน้าสิ้นเสียง หงเม่าหมิงก็ตบหน้าตักแรงๆ “เยี่ยมเลยครับ! ถ้างั้นยาพวกนี้ผมเหมาหมดเลย! เพื่อแสดงความจริงใจ เดี๋ยวผมเซ็นสัญญากับประธานหลีตอนนี้เลย เอาอย่างนี้ ผมจ่ายเงินร้อยล้านไปก่อน ถ้าไม่พอ ก็ถือว่าเป็นเงินมัดจำ ถ้าเกินมา ก็ถือว่าเป็นเงินชำระล่วงหน้าสำหรับการร่วมงานกันครั้งหน้าระหว่างเรา คุณคิดว่ายังไงครับ?”เมื่อคำพูดนี้เผยออกไป ฝูงชนพลันส่งเสียงโฮออกมาทันที!เปิดมา ก็ออเดอร์ร้อยล้านเลยเหรอ?ลมหายใจของแต่ละคนเริ่มถี่ขึ้นบริษัทยาตระกูลหลีจะบินแล้วเหรอเนี่ย?หลีเอียนหันไปมองเย่เฟิง ในดวงตาสวยงามที่ตื่นเต้นของเธอมีร่องรอยของน้ำตาซ่อนอยู่ตอนเห็นเถ้าแก่หวงเมื่อครู่นี้ จิตใจของเธอตกต่ำถึงสุดขีด ความรู้สึกเสียใจและโกรธแค้นนั่นแทบทำให้เธอสิ้นหวังแต่ภายในชั่วพริบตาเดียว ก็มีเซอร์ไพรส์ตามมาทันทีเพียงแค่คิดก็รู้แล้วว่าความรู้สึกขึ้นและลงในใจของหลีเอียนต้องมากแค่ไหน!ออเดอร์
เมื่อได้ยินคำพูดของนายท่านตู้แล้ว ใบหน้าของหลีเอียนที่เดิมเต็มไปด้วยความดีใจ กลับเปลี่ยนเป็นความโกรธและหดหู่ในทันทีบริษัทของตนไม่เคยบาดหมางกับคนคนนี้ แถมอีกฝ่ายยังเป็นคนมีชื่อเสียงฐานะด้วย น่าจะไม่หูเบาเชื่อคำพูดของลุงรองหรือคุณย่า แล้วร่วมมือกับพวกเขามาใส่ร้ายตนแต่ทำไมถึงต้องมาดูถูกยาตัวใหม่ของบริษัทตนด้วยล่ะ?หลีเทียนกังและหลี่เยว่ผิง รวมถึงเถ้าแก่หวงล้วนเผยสีหน้าดูถูกดูแคลน และดีใจออกมารู้สึกว่าสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจขึ้นอีกครั้งแล้วแต่แล้วสิ่งที่ทำให้ผู้คนไม่คาดคิดคือ หงเม่าหมิงไม่ฟังคำเตือนพวกเขาเลย เพียงแค่มองนายท่านตู้ แล้วพูดว่า “นี่ตาเฒ่า อย่ามาพูดไร้สาระหน่อยเลย คุณมาช้าไป เพราะยาพวกนี้ผมเหมาหมดแล้ว ฮ่าๆ…”สีหน้าของนายท่านตู้ย่ำแย่ในบัดดล “เถ้าแก่หง ฉันขอเตือนว่าอย่าเสี่ยงมากดีกว่า ยามากมายขนาดนั้น นายเหมาไปหมด ถ้าหากขาดทุนขึ้นมาจะทำยังไง? เอาอย่างนี้ดีไหม นายแบ่งให้ฉันสักครึ่งหนึ่ง ฉันช่วยนายกระจายความเสี่ยงเอง!”สิ้นเสียง ในโกดังพลันเกิดเสียงโห่ร้องขึ้นมาหลีเทียนกังและหลี่เยว่ผิงที่เพิ่งได้ใจเมื่อวินาทีก่อนหน้า สีหน้าแข็งทื่อไปในบัดดล
“ประธานหงจ่ายหนึ่งร้อยล้าน แต่ได้แค่อำนาจการจำหน่ายในมณฑลจงโจวเท่านั้น นายท่านตู้จ่ายสองล้าน ก็จะเอาอำนาจการจำหน่ายทั้งสามมณฑลตะวันออกเลย ราคานี้ไม่น้อยไปหน่อยเหรอครับ? อีกอย่างผลลัพธ์ยาของเราก็แค่นั้น แถมยังเป็นยาของบริษัทน้อยๆ ด้วย ไม่มีใครยอมรับหรอก”เย่เฟิงพูดประชดประชัน“เอ่อ…ฮ่าๆ ผมก็แค่ขู่ประธานหงไปงั้นน่ะ ผลลัพธ์ยาของบริษัทคุณอัศจรรย์มาก ต้องโด่งดังมากแน่ๆ! ผมอยากร่วมงานกับพวกคุณจากใจจริงนะครับ”“เอาอย่างนี้! สี่ร้อยล้าน แล้วมอบอำนาจการจำหน่ายทั้งสามมณฑลตะวันออกให้กับผมคนเดียวได้ไหม? เดี๋ยวผมจะให้คนโอนเงินตอนนี้เลย!”นายท่านตู้ยิ้มแย้ม จากนั้นก็กัดฟันพูดเมื่อได้ยินเช่นนั้น คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็สูดลมหายใจเย็นเหล่าผู้สนับสนุนบริษัทแต่ละคนตื่นเต้นจนแทบร้องไห้ออกมาพวกเขาเห็นเย่เฟิงพูดจาต่อรองไปมากับนายท่านตู้แล้ว ก็กลัวว่าตัวตึงแห่งวงการยาคนนี้จะหลุดมือไปจริงๆแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับเพิ่มราคาให้จริงๆ แต่ยังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวด้วย!นี่ต้องอยากได้อำนาจการจำหน่ายยานี่ขนาดไหนกันเชียว?ส่วนหลีเทียนกัง หลี่เยว่ผิง และเถ้าแก่หวง สีหน้าดูไม่ดีเอาซะเลยจากนั้น ก็มีตัวแ
ฝั่งหลีเทียนกังและหลี่เยว่ผิง หลังจากที่พวกเขาออกจากโรงงานไป ก็ได้รับสายจากผู้อาวุโสหลีทันทีหลังลงจากรถ“แม่ครับ!”หลีเทียนกังรับสาย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ“ได้ยินว่าวันนี้แกพาพวกสนับสนุนบริษัทยาไปที่โรงงานใช่ไหม? เป็นยังไง เอียนเอ๋อร์สิ้นหวังแล้วใช่ไหม?”ผู้อาวุโสหลีถามเธอรู้ว่าที่ลูกชายคนรองไปครั้งนี้ ก็เพื่ออยากดูเรื่องสนุกของหลานสาวคนโตคนนี้แน่ๆเป็นลุงคนหนึ่ง แต่เข้ากับหลานสาวตัวเองไม่ได้ขนาดนี้ ความจริงแล้วเป็นพฤติกรรมที่ต่ำช้าแต่ว่าเธอไม่คิดจะติโทษกับความต่ำช้าแบบนี้ กลับกันยังถามอย่างตั้งหน้าตั้งตารอด้วยสรุปแล้วคือ ทุกคนในตระกูลหลีตอนนี้ ต่างก็มีความคิดอยากตัดหางปล่อยวัดหลีเอียนกันทั้งนั้น แล้วเข้าร่วมตระกูลฉู่แต่โดยดี“สิ้นหวัง? สิ้นหวังอะไรกัน? แม่ไม่เห็นว่านังนั่นทำหน้าผยองแค่ไหน!”หลีเทียนกังพูดอย่างอารมณ์เสียได้ยินดังนั้นแล้ว ผู้อาวุโสหลีก็แปลกใจ “ทำไม? เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”“ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆ ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ทั่วประเทศก็แห่กันอยากเป็นตัวแทนจำหน่ายยาตัวใหม่ครั้งนี้...”หลีเทียนกังเล่าเหตุการณ์ที่ประสบพบเจอมาก่อนหน้านี้ด้วยท่าทางอยากร้องไห้ แต่ไ
หลีเอียนถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ เพียงแต่ในตากลับมีความรู้สึกลังเลซ่อนอยู่ในใจลึกๆ ของเธอคาดหวังกับคำตอบบางอย่าง“คุณน่าจะรู้ประสบการณ์ที่ผมเคยผ่านมานะ ผมเป็นผู้ชายที่เคยถูกทำร้ายมาก่อน เพราะฉะนั้นไม่ตกหลุมรักใครง่ายๆ หรอก ฮ่าๆ…”เย่เฟิงหัวเราะเยาะตัวเองที่เขาพูดคือเรื่องจริง หลังจากที่ถูกโจวชิ้งทิ้งไป เขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เชื่อในความรักอีกต่อไปความอ่อนโยนที่หลงเหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวนั้น เหลือไว้ให้กับลูกสาวของเขานั่วนั่วสำหรับหลีเอียน เขาจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยไม่ได้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เธอ ส่วนใหญ่แล้วก็เพราะความซาบซึ้งและการตอบแทนบุญคุณเย่เฟิงไม่คิดว่าตัวเองจะเกิดความรู้สึกต่อหลีเอียนมากขนาดนั้นสิ้นเสียง หลีเอียนก็หัวเราะ ‘เหอะๆ’ ออกมา ไม่รู้เพราะอะไร ในใจของเธอถึงได้อึดอัดมาก“บังเอิญจัง ฉันเองก็ถูกทำร้ายมาก่อนเหมือนกัน และไม่ตกหลุมรักใครง่ายๆ ด้วย ฉะนั้น ระหว่างเรายังเป็นแค่ธุรกิจอยู่ เชอะ!”หลีเอียนกัดริมฝีปาก พยายามบังคับให้ตัวเองพูดอย่างใจเย็นขณะนั้นเอง เธอได้รับสายจากพ่อของเธอ หลีเทียนหยางเมื่อได้ยินคำพูดที่พ่อของเธอพูดแล้ว สายตาของหลีเอียนก็เผยคว
“เอ่อ...”เย่เฟิงมองโทรศัพท์ที่ถูกวางสายไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความมืดมนในเวลานั้นเอง เขารู้สึกได้ถึงสายตาคมกริบจากด้านข้างที่พุ่งตรงมาทางเขา!“ใครเหรอคะ? ที่รัก?”หลีเอียนยิ้มอย่างมีเสน่ห์ แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้เย่เฟิงรู้สึกใจหวิว“แค่กๆ... เพื่อนคนหนึ่งน่ะ”เย่เฟิงตอบด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย“เพื่อน? เพื่อนผู้หญิงใช่ไหม?”หลีเอียนถามพลางหัวเราะเบาๆ มือเล็กๆ ของเธอคว้าหูของเย่เฟิงไว้แล้ว“ใช่! เอ่อ ไม่! ไม่ใช่! เป็นเพื่อนผู้หญิง! แค่เพื่อนธรรมดา!”เย่เฟิงยิ้มแหยๆ ตอบ“เหรอ? เพื่อนธรรมดา?”หลีเอียนหรี่ตามองอย่างสงสัย“ใช่ ก็แค่เพื่อนร่วมชั้นเก่า” เย่เฟิงรีบอธิบายหลีเอียนส่งเสียงฮึเบาๆ “เพื่อนร่วมชั้นเก่า หรือแฟนเก่า?”“เกี่ยวอะไรล่ะ! ถ้าเป็นแฟนเก่าจริงๆ ผมจะกล้ารับโทรศัพท์ต่อหน้าคุณไหม? คุณว่าไหม?”เย่เฟิงเหงื่อแตกพลั่กเมื่อได้ยินเช่นนั้น หลีเอียนจ้องเย่เฟิง “ใครจะไปรู้ล่ะ? เผื่อคุณไม่แคร์ฉันไง ก็เลยไม่กลัวว่าฉันจะรู้”เย่เฟิงได้ยินดังนั้น ถึงกับหน้าตาเศร้าสลด “ที่รัก! ผมแคร์คุณไหม คุณรู้สึกไม่ได้จริงๆ เหรอ? ถ้าคุณพูดแบบนี้ ผมคงเสียใจมากเลยนะ!”บอสสาวสวยส่งเสียง “อื
“ไอ้คนแก่บ้า! ฉันอยากจะตบเธอสักทีจริง ๆ!”สวีเพ่ยเพ่ยโกรธจนหน้าแดงและพูดด้วยเสียงโมโห“เพ่ยเพ่ย คุณพูดอะไรน่ะ? นั่นแม่ของเรา…”หลีเทียนหยางขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของภรรยา“นั่นแม่ของคุณ ไม่ใช่แม่ของเรา! ฉันไม่ยอมรับผู้หญิงคนนี้เป็นแม่สามี! ฉันโกรธจนแทบคลั่งแล้ว!”สวีเพ่ยเพ่ยพูดด้วยฟันที่ขบแน่นหลีเทียนหยางหดคอด้วยความเกรงใจ แสดงให้เห็นด้านที่กลัวภรรยาที่สำคัญคือเขารู้สึกผิดจนไม่รู้ว่าจะช่วยพูดแทนผู้อาวุโสหลีได้อย่างไรครั้งนี้แม่ของเขาทำเกินไปจริงๆ จนถึงขั้นเรียกได้ว่าต่ำช้า"แม่ ใจเย็นๆ เถอะ! ตระกูลหลีถ้าขาดบ้านเราไป นั่นก็คือความสูญเสียของพวกเขาเอง"หลีหย่วนเองก็ได้แต่ยิ้มขื่นพยายามปลอบใจเย่เฟิงที่นั่งขับรถอยู่ด้านหน้าเอ่ยขึ้นมาบ้าง "แม่ ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมไม่คาดคิดว่าผู้อาวุโสจะทำแบบนี้! ครั้งหน้า! ถ้ามีโอกาส ผมสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก!"ตอนท้ายเสียงของเย่เฟิงแฝงไว้ด้วยความเย็นเยียบหากรู้ล่วงหน้าว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาคงไม่ปล่อยให้จู้ชิวหนานมีโอกาสเปิดเผยวิธีแก้ไขแน่นอนต้องจัดการให้เด็ดขาด บีบให้ผู้อาวุโสหลีคายทุกอย่างที่เก็บไว้ ไม่
คำตอบของผู้อาวุโสหลี ทำให้เย่เฟิงและครอบครัวของหลีเอียนชะงักไป“แม่ ทำไมท่านถึงทำแบบนี้? อยู่ ๆ ทำไมถึงกลับคำพูด?”“เอาชีวิตแม่อะไรกัน พวกเราแค่อยากกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล และขอสิทธิ์ที่เป็นของเราคืนเท่านั้นเอง”“ถ้าไม่ใช่เสี่ยวเย่ ท่านคงถูกครอบครัวเจ้ารองวางแผนฆ่าไปแล้ว! ตอนนี้พวกเรามีข้อเรียกร้องเล็กน้อย แต่ท่านกลับปฏิเสธพวกเรา?”สวีเพ่ยเพ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาลเนื่องจากพวกเธอถูกขับออกจากตระกูลหลี หลีเทียนหยางและสวีเพ่ยเพ่ย จึงถูกถอดจากตำแหน่งในบริษัทตระกูลหลี และต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านโดยไม่มีอะไรทำสำหรับพวกเขา การเรียกหุ้นคืนและกลับไปทำงานในบริษัทไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่ยังเป็นเรื่องของการมีสิ่งให้ทำในชีวิตด้วยทั้งสองไม่ขาดแคลนเงิน แต่อายุพวกเขาเยอะแล้ว ว่างอยู่อย่างนี้จะเป็นบ้าเอาได้“หึ! สิทธิ์ของพวกเธอ? อะไรคือสิทธิ์ของพวกเธอ?”“ออกไป! พวกเธอไม่ใช่คนของตระกูลหลีอีกต่อไปแล้ว สักบาทของตระกูลหลีก็ไม่มีสิทธิ์เป็นของพวกเธอ!”“พวกเธอมีบริษัทยาของตัวเองไม่ใช่เหรอ? ฮึ!”ผู้อาวุโสหลีพูดด้วยเสียงเย็นชาและหัวเราะเยาะคำพูดนี้ทำให้หลีเอียนและครอบครัวรู้สึกโมโหอย่างมาก“คุ
“ท่านผู้บัญชาการเหอ ขอบคุณครับ!”เย่เฟิงกล่าวพร้อมยื่นมือไปจับมือกับท่านผู้บัญชาการเหอท่านผู้บัญชาการเหอ จับมือกับเขา ก่อนจะชี้ไปที่เย่เฟิงและพูดว่า “นายเองก็ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่! ฮึ!”ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างรู้ดีว่า จู้ชิวหนานและศิษย์ ต้องถูกเย่เฟิงเล่นงานบางอย่างแน่นอนการที่เย่เฟิงกล้าทำเรื่องแบบนี้ต่อหน้าท่านผู้บัญชาการเหอ ถือว่าน่าทึ่งและไม่เกรงกลัวใครเลย“ผมติดหนี้บุญคุณท่าน ถ้าท่านต้องการความช่วยเหลือจากผมในอนาคต บอกมาได้เลยครับ”เย่เฟิงยิ้มเจื่อนเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ท่านผู้บัญชาการเหอ ก็หัวเราะออกมา “นี่นายพูดเองนะ!”…คืนนั้น เวลาเกือบสี่ทุ่มในห้องของผู้อาวุโสหลี มีทั้งหลีเทียนหยาง สวีเพ่ยเพ่ย เย่เฟิง หลีเอียน และหลีหย่วน รวมตัวกันอยู่ผู้อาวุโสหลีนั่งอยู่ที่เก้าอี้ เธอยกถ้วยชาขึ้นมาเพื่อดื่มแต่เย่เฟิงรีบยื่นมือไปหยุด “ผู้อาวุโส อย่าใช้ถ้วยนี้อีกเลยครับ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสหลีชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเข้าใจความหมายเพล้ง!เธอโยนถ้วยชาลงพื้นด้วยความโกรธและแค่นเสียงเย็นชาเย่เฟิงยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดขึ้น “ผู้อาวุโส ตอนนี้ความจริงปรากฏแล้ว ถ้าท่านไม่อยากตา
"ฮ่า ๆ ตอนนี้ทุกคนได้ยินความจริงแล้วใช่ไหม?"เย่เฟิงหัวเราะเยาะ พลางมองไปรอบ ๆ ห้องทุกคนในห้องมองเย่เฟิงด้วยความหวาดหวั่น พร้อมกับแอบมองไปที่จู้ชิวหนานและศิษย์ของเขา ซึ่งนอนบิดตัวอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดนี่ถือว่าเป็นการซักถามโดยการทรมานต่อหน้าท่านผู้บัญชาการเหอหรือเปล่า?บางคนแอบคิดว่าเย่เฟิงช่างกล้าหาญเกินไปหลีเทียนกังตัวสั่นด้วยความโกรธ ก่อนจะชี้นิ้วไปที่เย่เฟิงและตะโกน "ท่านผู้บัญชาการเหอ คำพูดของจู้ชิวหนานและศิษย์ของเขาเชื่อไม่ได้! นี่มันชัดเจนว่าเย่เฟิงทรมานพวกเขาให้พูด!"ท่านผู้บัญชาการเหอยิ้มเยาะและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ฉันไม่เห็นว่าเย่เฟิงจะทำอะไรพวกเขานะ เขาไม่ได้แตะตัวพวกเขาเลยสักนิด!พวกคุณเองก็พูดไว้แล้ว ทุกเรื่องต้องมีหลักฐานใช่ไหม?"“แก…ฉัน…”คำตอบนี้ทำให้หลีเทียนกังพูดไม่ออกหลี่เยว่ผิงและหลีถิงต่างก็ดูโกรธแค้น แต่ก็เถียงอะไรไม่ได้ใช่แล้ว ไม่มีใครเห็นเย่เฟิงแตะต้องจู้ชิวหนานและศิษย์ของเขาเลยแม้จะชัดเจน แต่กลับไม่มีหลักฐานวิธีการของเย่เฟิงมันเหนือธรรมชาติเกินไป!เย่เฟิงยิ้มเยาะ ก่อนจะหันมาทางหลีเทียนกังและครอบครัว "พวกคุณไม่มีอะไรจะพูดอีกเหรอ? ฉันไม่
เย่เฟิงเดินเข้าไปตบไหล่ครอบครัวหลีเทียนกัง แล้วพูดจาแฝงไว้ด้วยความหมายลึกซึ้ง“นาย... นายทำอะไร? อย่ามาแตะตัวฉันนะ!”หลีถิงตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นรอยยิ้มของเย่เฟิงที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น เธอรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวและตะโกนเสียงแหลมเย่เฟิงแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะหันไปมองจู้ชิวหนานและศิษย์หนุ่ม“พูดมา!”เย่เฟิงพูดเพียงสองคำสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นและกดดัน“อ๊ากก! ฉันพูด... ฉันจะพูด!”“ฉันพูดทุกอย่าง! หลีเทียนกังมาหาฉัน และบอกให้ฉันช่วยทำลายชีวิตของผู้อาวุโสหลี โดยที่ไม่มีใครรู้...”“พวกเขาจ่ายเงินฉันมาพันล้าน และเพราะฉันเคยโกรธแค้นคุณเย่มาก่อน ฉันเลยตกลง!”“คุณเย่... โปรดไว้ชีวิตฉัน... ขอร้องล่ะ!”จู้ชิวหนานพูดด้วยใบหน้าเหยเกพลางกลิ้งไปมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวดศิษย์หนุ่มของเขาก็พูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ใช่... ใช่! ในสูตรยาที่อาจารย์ฉันเตรียมให้ มีเนื้อห่านแห้ง! การผสมเนื้อห่านกับไข่ไก่ จะทำให้พลังชีวิตของคนลดลงอย่างรุนแรง...หลี่เยว่ผิงเป็นคนเตรียมซุปไข่ให้ผู้อาวุโสหลีในช่วงนั้น...นั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้พลังชีวิตของเธอถูกทำลายจนร่างกายล้มเหลว!”“คุณเย่...
เมื่อเห็นจู้ชิวหนานและศิษย์ปรากฏตัว เย่เฟิงก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเล็กน้อย“หมอเทวดาจู้ อธิบายสิว่าพวกเขาจ่ายเงินจ้างคุณยังไงในการวางแผนทำร้ายผู้อาวุโสหลี”เย่เฟิงพูดพลางชี้ไปที่ครอบครัวหลีเทียนกังด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งสีหน้าของหลีเทียนกังและครอบครัวเปลี่ยนไปทันทีหัวใจเหมือนตกลงสู่หุบเหวหมอเทวดาจู้ยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ!พวกเขาไม่รอดแน่!แต่แล้ว…“อะไรนะ? จ้างฉันวางแผนทำร้ายผู้อาวุโสหลีเหรอ? คุณเย่ คุณพูดอะไรออกมาน่ะ?”“ใช่แล้ว หลังจากวันนั้นที่ฉันออกไป ฉันก็ยกผู้อาวุโสหลีให้คุณดูแลแทน ทำไมตอนนี้เธอถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?”จู้ชิวหนานถามอย่างสงสัยคำพูดของจู้ชิวหนานทำให้สีหน้าของเย่เฟิงเปลี่ยนไปทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปในพริบตาเขาไม่คิดเลยว่าจู้ชิวหนานจะเปลี่ยนคำพูดยิ่งกว่านั้นยังทำเป็นไม่รู้อะไรทั้งสิ้นดวงตาของเย่เฟิงเปลี่ยนเป็นเย็นชาขณะที่หลีเทียนกังและครอบครัวเริ่มยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ“หมอเทวดาจู้ คุณไม่รู้หรือว่า หลังจากคุณออกไป เย่เฟิงก็ทิ้งผู้อาวุโสหลีไว้โดยไม่สนใจอะไรเลย?”“ตอนนี้เขายังกล้าบอกว่าพวกเราจ้างคุณมาวางแผนทำร้ายผู้อาวุโสอีก!”หลีเทียนกังพ
สีหน้าของหลีเทียนกังและครอบครัวเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว ทั้งตกใจและโกรธแค้นส่วนสาวใช้ก็หน้าซีดด้วยความหวาดกลัว ภายใต้สายตาเย็นเยียบของ ท่านผู้บัญชาการเหอ จิตใจของเธอพังทลายลงทันที“ฉัน... ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นค่ะ! คุณผู้ชายรองให้ยาพวกนี้กับฉัน แล้วบอกให้ฉันพูดแบบนั้น!”“ฉัน... ฉันแค่ทำตามคำสั่ง ฉันบริสุทธิ์นะคะ!”คำพูดนี้ทำให้การที่หลีเทียนกังและครอบครัวพยายามใส่ร้ายเย่เฟิง กลายเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าชัดเจนหลีเทียนกัง หลี่เยว่ผิง และหลีถิง ต่างมองสาวใช้ด้วยสายตาแค้นเคืองจนเหมือนจะฆ่าเธอได้“พี่รอง ฉันไม่คิดเลยว่าพี่จะใช้พวกเรามาเป็นเครื่องมือแบบนี้!”“พี่รองกับพี่สะใภ้รอง พวกคุณทำเกินไปแล้ว!”“ฉันยังไปช่วยพวกคุณใส่ร้ายเย่เฟิงเมื่อครู่ พวกคุณจะฆ่าฉันหรือไง?”ในตอนนี้ ลุงสาม ลุงสี่ และอาเล็ก ของหลีเอียน ต่างแสดงสีหน้าโกรธแค้นพวกเขารู้สึกว่าตัวเองถูกครอบครัวของหลีเทียนกังหลอกใช้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นถูกจัดฉากโดยครอบครัวนี้!“ท่านผู้บัญชาการเหอ พวกเขาใส่ร้ายลูกเขยของฉัน ตอนนี้มีหลักฐานชัดเจนแล้ว สามารถจับกุมได้เลยใช่ไหมคะ?”สวีเพ่ยเพ่ย พูดพร้อมมองหลีเทียนกังด้วยสายตาเกลียดชัง
เมื่อเย่เฟิงชี้ไปที่ผู้อาวุโสหลีและบอกว่าเธอเป็นพยานของเขา ทุกคนในห้องถึงกับนิ่งอึ้ง“อะไรนะ? ผู้อาวุโสหลีเป็นพยานให้เย่เฟิง?”“เย่เฟิงบ้าหรือเปล่า?”“ใคร ๆ ก็รู้ว่าผู้อาวุโสเกลียดไอ้หน้าขาวนี่เข้าไส้ จะมาเป็นพยานให้เขาได้ยังไง?”หลีเทียนกังที่ตกใจในตอนแรก ถึงกับหัวเราะออกมา “นายจะให้แม่ฉันเป็นพยานให้นาย? ฮ่า ๆ ๆ…”“ไอ้หน้าขาว นายช่างกล้าคิดนะ?”หลีถิงเองก็หัวเราะเยาะหลี่เยว่ผิงยิ้มเย้ยอย่างกับฟังเรื่องขำขันสมาชิกตระกูลหลีทุกคนคิดว่าเย่เฟิงกำลังเพ้อฝันไปเองแต่เย่เฟิงยังคงมีสีหน้าเคร่งขรึมและมั่นใจ เขาหันไปหาผู้อาวุโสหลีและพูดว่า “ถึงเวลาที่คุณควรพูดอะไรบ้างแล้วครับ”ในสายตาเย้ยหยันและไม่เชื่อถือของทุกคน ผู้อาวุโสหลีกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกคนมองเธอด้วยสายตาตกตะลึงผู้อาวุโสหลียอมทำตามเย่เฟิงอย่างนั้นเหรอ?เธอไม่ควรจะสนใจเย่เฟิงเลยด้วยซ้ำ!เมื่อเห็นเธอลุกขึ้นยืน บรรยากาศในห้องก็เปลี่ยนไปทันที ทุกสายตามุ่งตรงไปยังเธอ“เย่เฟิงไม่เคยรักษาฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว”เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมทั้งมองครอบครัวของลูกชายคนรองด้วยสายตาเย็นชาคำ