หงเม่าหมิงได้ยินหลีเอียนตอบตกลง ก็เผยหน้าดีใจออกมาจากนั้นก็มองไปที่กองผลิตภัณฑ์ยาที่รวมอยู่ในโกดังเหล่านั้นด้วยสีหน้าหิวกระหาย แล้วถามว่า“ยังไม่มีค่ะ! ประธานหงเป็นคนแรกที่มาขอร่วมงานด้วยเลยค่ะ”หลีเอียนส่ายหน้าสิ้นเสียง หงเม่าหมิงก็ตบหน้าตักแรงๆ “เยี่ยมเลยครับ! ถ้างั้นยาพวกนี้ผมเหมาหมดเลย! เพื่อแสดงความจริงใจ เดี๋ยวผมเซ็นสัญญากับประธานหลีตอนนี้เลย เอาอย่างนี้ ผมจ่ายเงินร้อยล้านไปก่อน ถ้าไม่พอ ก็ถือว่าเป็นเงินมัดจำ ถ้าเกินมา ก็ถือว่าเป็นเงินชำระล่วงหน้าสำหรับการร่วมงานกันครั้งหน้าระหว่างเรา คุณคิดว่ายังไงครับ?”เมื่อคำพูดนี้เผยออกไป ฝูงชนพลันส่งเสียงโฮออกมาทันที!เปิดมา ก็ออเดอร์ร้อยล้านเลยเหรอ?ลมหายใจของแต่ละคนเริ่มถี่ขึ้นบริษัทยาตระกูลหลีจะบินแล้วเหรอเนี่ย?หลีเอียนหันไปมองเย่เฟิง ในดวงตาสวยงามที่ตื่นเต้นของเธอมีร่องรอยของน้ำตาซ่อนอยู่ตอนเห็นเถ้าแก่หวงเมื่อครู่นี้ จิตใจของเธอตกต่ำถึงสุดขีด ความรู้สึกเสียใจและโกรธแค้นนั่นแทบทำให้เธอสิ้นหวังแต่ภายในชั่วพริบตาเดียว ก็มีเซอร์ไพรส์ตามมาทันทีเพียงแค่คิดก็รู้แล้วว่าความรู้สึกขึ้นและลงในใจของหลีเอียนต้องมากแค่ไหน!ออเดอร์
เมื่อได้ยินคำพูดของนายท่านตู้แล้ว ใบหน้าของหลีเอียนที่เดิมเต็มไปด้วยความดีใจ กลับเปลี่ยนเป็นความโกรธและหดหู่ในทันทีบริษัทของตนไม่เคยบาดหมางกับคนคนนี้ แถมอีกฝ่ายยังเป็นคนมีชื่อเสียงฐานะด้วย น่าจะไม่หูเบาเชื่อคำพูดของลุงรองหรือคุณย่า แล้วร่วมมือกับพวกเขามาใส่ร้ายตนแต่ทำไมถึงต้องมาดูถูกยาตัวใหม่ของบริษัทตนด้วยล่ะ?หลีเทียนกังและหลี่เยว่ผิง รวมถึงเถ้าแก่หวงล้วนเผยสีหน้าดูถูกดูแคลน และดีใจออกมารู้สึกว่าสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจขึ้นอีกครั้งแล้วแต่แล้วสิ่งที่ทำให้ผู้คนไม่คาดคิดคือ หงเม่าหมิงไม่ฟังคำเตือนพวกเขาเลย เพียงแค่มองนายท่านตู้ แล้วพูดว่า “นี่ตาเฒ่า อย่ามาพูดไร้สาระหน่อยเลย คุณมาช้าไป เพราะยาพวกนี้ผมเหมาหมดแล้ว ฮ่าๆ…”สีหน้าของนายท่านตู้ย่ำแย่ในบัดดล “เถ้าแก่หง ฉันขอเตือนว่าอย่าเสี่ยงมากดีกว่า ยามากมายขนาดนั้น นายเหมาไปหมด ถ้าหากขาดทุนขึ้นมาจะทำยังไง? เอาอย่างนี้ดีไหม นายแบ่งให้ฉันสักครึ่งหนึ่ง ฉันช่วยนายกระจายความเสี่ยงเอง!”สิ้นเสียง ในโกดังพลันเกิดเสียงโห่ร้องขึ้นมาหลีเทียนกังและหลี่เยว่ผิงที่เพิ่งได้ใจเมื่อวินาทีก่อนหน้า สีหน้าแข็งทื่อไปในบัดดล
“ประธานหงจ่ายหนึ่งร้อยล้าน แต่ได้แค่อำนาจการจำหน่ายในมณฑลจงโจวเท่านั้น นายท่านตู้จ่ายสองล้าน ก็จะเอาอำนาจการจำหน่ายทั้งสามมณฑลตะวันออกเลย ราคานี้ไม่น้อยไปหน่อยเหรอครับ? อีกอย่างผลลัพธ์ยาของเราก็แค่นั้น แถมยังเป็นยาของบริษัทน้อยๆ ด้วย ไม่มีใครยอมรับหรอก”เย่เฟิงพูดประชดประชัน“เอ่อ…ฮ่าๆ ผมก็แค่ขู่ประธานหงไปงั้นน่ะ ผลลัพธ์ยาของบริษัทคุณอัศจรรย์มาก ต้องโด่งดังมากแน่ๆ! ผมอยากร่วมงานกับพวกคุณจากใจจริงนะครับ”“เอาอย่างนี้! สี่ร้อยล้าน แล้วมอบอำนาจการจำหน่ายทั้งสามมณฑลตะวันออกให้กับผมคนเดียวได้ไหม? เดี๋ยวผมจะให้คนโอนเงินตอนนี้เลย!”นายท่านตู้ยิ้มแย้ม จากนั้นก็กัดฟันพูดเมื่อได้ยินเช่นนั้น คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็สูดลมหายใจเย็นเหล่าผู้สนับสนุนบริษัทแต่ละคนตื่นเต้นจนแทบร้องไห้ออกมาพวกเขาเห็นเย่เฟิงพูดจาต่อรองไปมากับนายท่านตู้แล้ว ก็กลัวว่าตัวตึงแห่งวงการยาคนนี้จะหลุดมือไปจริงๆแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับเพิ่มราคาให้จริงๆ แต่ยังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวด้วย!นี่ต้องอยากได้อำนาจการจำหน่ายยานี่ขนาดไหนกันเชียว?ส่วนหลีเทียนกัง หลี่เยว่ผิง และเถ้าแก่หวง สีหน้าดูไม่ดีเอาซะเลยจากนั้น ก็มีตัวแ
ฝั่งหลีเทียนกังและหลี่เยว่ผิง หลังจากที่พวกเขาออกจากโรงงานไป ก็ได้รับสายจากผู้อาวุโสหลีทันทีหลังลงจากรถ“แม่ครับ!”หลีเทียนกังรับสาย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ“ได้ยินว่าวันนี้แกพาพวกสนับสนุนบริษัทยาไปที่โรงงานใช่ไหม? เป็นยังไง เอียนเอ๋อร์สิ้นหวังแล้วใช่ไหม?”ผู้อาวุโสหลีถามเธอรู้ว่าที่ลูกชายคนรองไปครั้งนี้ ก็เพื่ออยากดูเรื่องสนุกของหลานสาวคนโตคนนี้แน่ๆเป็นลุงคนหนึ่ง แต่เข้ากับหลานสาวตัวเองไม่ได้ขนาดนี้ ความจริงแล้วเป็นพฤติกรรมที่ต่ำช้าแต่ว่าเธอไม่คิดจะติโทษกับความต่ำช้าแบบนี้ กลับกันยังถามอย่างตั้งหน้าตั้งตารอด้วยสรุปแล้วคือ ทุกคนในตระกูลหลีตอนนี้ ต่างก็มีความคิดอยากตัดหางปล่อยวัดหลีเอียนกันทั้งนั้น แล้วเข้าร่วมตระกูลฉู่แต่โดยดี“สิ้นหวัง? สิ้นหวังอะไรกัน? แม่ไม่เห็นว่านังนั่นทำหน้าผยองแค่ไหน!”หลีเทียนกังพูดอย่างอารมณ์เสียได้ยินดังนั้นแล้ว ผู้อาวุโสหลีก็แปลกใจ “ทำไม? เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”“ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆ ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ทั่วประเทศก็แห่กันอยากเป็นตัวแทนจำหน่ายยาตัวใหม่ครั้งนี้...”หลีเทียนกังเล่าเหตุการณ์ที่ประสบพบเจอมาก่อนหน้านี้ด้วยท่าทางอยากร้องไห้ แต่ไ
หลีเอียนถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ เพียงแต่ในตากลับมีความรู้สึกลังเลซ่อนอยู่ในใจลึกๆ ของเธอคาดหวังกับคำตอบบางอย่าง“คุณน่าจะรู้ประสบการณ์ที่ผมเคยผ่านมานะ ผมเป็นผู้ชายที่เคยถูกทำร้ายมาก่อน เพราะฉะนั้นไม่ตกหลุมรักใครง่ายๆ หรอก ฮ่าๆ…”เย่เฟิงหัวเราะเยาะตัวเองที่เขาพูดคือเรื่องจริง หลังจากที่ถูกโจวชิ้งทิ้งไป เขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เชื่อในความรักอีกต่อไปความอ่อนโยนที่หลงเหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวนั้น เหลือไว้ให้กับลูกสาวของเขานั่วนั่วสำหรับหลีเอียน เขาจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยไม่ได้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เธอ ส่วนใหญ่แล้วก็เพราะความซาบซึ้งและการตอบแทนบุญคุณเย่เฟิงไม่คิดว่าตัวเองจะเกิดความรู้สึกต่อหลีเอียนมากขนาดนั้นสิ้นเสียง หลีเอียนก็หัวเราะ ‘เหอะๆ’ ออกมา ไม่รู้เพราะอะไร ในใจของเธอถึงได้อึดอัดมาก“บังเอิญจัง ฉันเองก็ถูกทำร้ายมาก่อนเหมือนกัน และไม่ตกหลุมรักใครง่ายๆ ด้วย ฉะนั้น ระหว่างเรายังเป็นแค่ธุรกิจอยู่ เชอะ!”หลีเอียนกัดริมฝีปาก พยายามบังคับให้ตัวเองพูดอย่างใจเย็นขณะนั้นเอง เธอได้รับสายจากพ่อของเธอ หลีเทียนหยางเมื่อได้ยินคำพูดที่พ่อของเธอพูดแล้ว สายตาของหลีเอียนก็เผยคว
โจวชิ้งได้ยินคำพูดของเว่ยเหล่าหู่แล้ว สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย“นายท่านเว่ยหมายความว่าอะไรคะ?”“แม่ย้อย! นายท่านเว่ยบอกให้แกไปเอาตัวนังเด็กนอกคอกของแกกับเย่เฟิงมา แกไม่เข้าใจหรือไง?”หลิวหาวสบถคำหยาบออกไป แล้วก่นด่าโจวชิ้งเขม็งต่อหน้าเว่ยเหล่าหู่ เขาทำตัวประจบและหวั่นเกรงถึงสุดขีด กลัวว่าการแสดงออกของโจวชิ้งจะทำให้นายท่านเว่ยไม่พอใจ แล้วจะทำให้เขาซวยไปด้วย“อย่าด่าเธอ เดี๋ยวฉันค่อยๆ พูดกับเธอเอง”เว่ยเหล่าหู่โบกมือหยุดหลิวหาว แล้วพูดยิ้มแย้มต่อว่า “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันชอบเด็กที่สุดแล้ว คุณโจวพาลูกสาวมาทำพิธีรับเป็นปู่บุญธรรมกับฉันไม่ดีเหรอ?”สายตาของโจวชิ้งสั่นวาบเล็กน้อย แล้วพูดยิ้มๆ ว่า “ค่ะ! สามารถมีปู่บุญธรรมเป็นนายท่านเว่ยได้ ถือเป็นวาสนาของนังหนูนั่น แต่หลังจากหย่ากันไป เด็กนั่นก็อยู่กับพ่อแกมาตลอด ไม่เคยอยู่กับฉันเลยค่ะ!”เธอเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ และไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นจริง แต่ว่าเมื่อรู้ว่าเป้าหมายของนายท่านเว่ยคือนั่วนั่วแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็ชะงักไปครู่หนึ่งเช่นกันเธอสามารถไม่สนใจใยดีนั่วนั่วได้ แต่จะให้เธอคิดทำร้ายลูก โจวชิ้งตัดใจทำไม่ลงจริงๆ“อยู่กับพ่อแล้วทำไม
ฉะนั้น เย่เฟิงย่อมต้องตอบแทนอยู่แล้ว“ฮ่าๆ เสี่ยวเย่นี่เอง!”นายท่านซ่งรับสาย แล้วส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเป็นมิตร“นายท่านซ่ง ต้องขอบคุณท่านกับหมอซุน แล้วก็เป่ยเหล่ามากเลยนะครับที่ช่วย เอาอย่างนี้ ผมอยากจะชวนพวกคุณรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันวันนี้ ไม่ทราบว่าพวกคุณจะว่างไหม?”เย่เฟิงพูดเชื้อเชิญเป่ยเหล่าเป็นแขกประจำของตระกูลซ่งเสมอ หมอซุนเองก็เป็นคนที่ตระกูลซ่งเชิญมาจากเทียนตู ดังนั้นเย่เฟิงจึงติดต่อหานายท่านซ่งทีเดียว“เสี่ยวเย่ นายเกรงใจเกินไปแล้ว!”นายท่านซ่งพูดปฏิเสธอ้อมๆ ไปประโยคหนึ่ง“เป็นเรื่องที่ควรอยู่แล้วครับ!”เย่เฟิงตอบด้วยความจริงใจ“ถ้างั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันจะบอกเป่ยเหล่ากับหมอซุนให้!”นายท่านซ่งไม่ได้ปฏิเสธอีกต่อไป เพราะเขาเองก็อยากกระชับมิตรกับเย่เฟิงเหมือนกันจากนั้น เขาก็พูดขึ้นว่า “อ้อ จริงสิ เสี่ยวเย่ นายมากินข้าวกับตาเฒ่าอย่างพวกฉันแบบนี้คงเบื่อแย่ใช่ไหม? เอาอย่างนี้ เดี๋ยวฉันจะเรียกคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนายมาด้วย กินข้าวสังสรรค์ด้วยกัน นายไม่ถือสาหรอกใช่ไหม?”เย่เฟิงตอบอย่างไม่ถือสา “ได้ครับ ว่าตามนายท่านซ่งเลยครับ”“โอเค! ถ้างั้นฉันขอเลือกร้านเองแ
จางเฉิงเฟิงนอนโรงพยาบาลไปหนึ่งสัปดาห์กว่าแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็ได้ออกจากโรงพยาบาลสักทีแม้ว่าตอนนั้นเย่เฟิงจะใช้ ‘ยาธาตุทองตระกูลหลี’ ให้กับเขาแล้วก็ตาม แต่ว่าวอดก้า 96% นั่นได้ไปทำลายกระเพาะอาหารและลำไส้ของเขาไปแล้ว จึงไม่สามารถฟื้นฟูได้ทั้งหมดและอาจทิ้งอาการข้างเคียงถาวรไว้ก็ได้ไม่พูดถึงเรื่องอื่น เขาอาจมีเสียงแบบนี้ไปตลอดชีวิตก็เป็นได้ดังนั้น จางเฉิงเฟิงชายเสเพลในกองทหารคนนี้ จะไม่โกรธแค้นเย่เฟิงตัวต้นเรื่องนี้ได้อย่างไร?ดังนั้นตอนเห็นเย่เฟิงเมื่อครู่นี้ เขาจึงโกรธจนตาแดงก่ำ“คุณจาง คุณรู้จักคนนี้ด้วยเหรอ?”ชายเจาะหูเห็นดังนั้น ก็ถามอย่างเป็นกังวลเพราะถ้าหากเป็นเพื่อนของจางเฉิงเฟิงล่ะก็ การที่เขาชนแล้วหาเรื่องเย่เฟิงนั้น ก็น่าอายมากแล้ว“รู้จักสิ! รู้จักอยู่แล้ว! ที่พี่เฟิงต้องเข้าโรงพยาบาล ก็เพราะมันเนี่ยแหละ!”เวินเสี่ยวเหมิงพยักหน้า แล้วจ้องเย่เฟิงเขม็งพวกเขามีกันอยู่นับสิบกว่าคนรวมชายหญิง นอกจากผู้หญิงที่สะดุดตาคนหนึ่งแล้ว คนอื่นๆ ได้ยินแบบนั้นต่างก็เผยสีหน้าไม่เป็นมิตรออกมามีเพียงหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ หน้าตาสวยงามไร้ที่เปรียบ ท่าทางสุขุมเย็นชาเท่านั้นที่ไม่สนใจ
“คุณฉู่เหรอครับ? คุณฉู่คนไหนเหรอครับ?”หวังว่านเป่าอึ้งไปเล็กน้อย แล้วก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “หรือว่าจะเป็นคนของตระกูลฉู่?”ตระกูลฉู่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเอก มีอิทธิพลทั่วทั้งมณฑลเจียงตระกูลหวังเป็นตระกูลรองในหยุนเฉิง พวกเขามีตระกูลฉู่คอยหนุนหลังอย่างไรก็ตาม สำหรับตระกูลฉู่แล้ว ตระกูลหวังก็เหมือนกับลูกน้องเล็กๆที่อยู่ห่างไกลเท่านั้นปกติแล้วธุรกิจที่ติดต่อกัน ก็จะเป็นคนรอบนอกของตระกูลฉู่ที่ติดต่อกับตระกูลหวัง“ใช่! ก็คนของตระกูลฉู่จากเมืองเอกนั่นแหละ!และครั้งนี้ คุณชายใหญ่ตระกูลฉู่ ฉู่อันเจียง มาด้วยตัวเอง! โธ่ ก่อนหน้านี้เราไม่เคยได้ติดต่อกับคนในตระกูลฉู่โดยตรงเลย นี่เป็นโอกาสดี!ถ้าเราคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ ได้ติดต่อกับคุณฉู่ เราจะยิ่งใหญ่ขึ้นแน่นอน!”หวังหยวนป้าพูด สามารถจินตนาการถึงการแสดงออกที่ตื่นเต้นของเขาทางโทรศัพท์ได้ฉู่อันเจียง คือพี่ใหญ่รุ่นที่สองของตระกูลฉู่ หรือคือเจ้าของตระกูลฉู่คนต่อไปนั่นคือ บุคคลสำคัญจริงๆ!ถ้าได้ติดต่อกับฉู่อันเจียง แค่ให้เขาช่วยเหลือเล็กน้อย ตระกูลหวังก็ร่ำรวยขึ้นมาทันที!“ใช่ๆ!”หวังว่านเป่าก็พูดด้วยความตื่นเต้นคิดว่า
เย่เฟิงไม่ค่อยกังวลเรื่องที่ทำร้ายคนของตระกูลกู่สองคนนักแน่นอน ไม่ใช่ว่าเขาคิดว่าตัวเองจะข่มขู่ตระกูลกู่ได้ แต่เย่เฟิงมีความมั่นใจในอย่างอื่นดังคำกล่าวที่ว่า คนมากมายมุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ คนมากมายก็แสวงหาแต่ผลประโยชน์!เช่นเดียวกับที่บริษัทผู้จัดจำหน่ายยาขนาดใหญ่ของหงเม่าหมิง เพราะเย่เฟิงเปิดตัวยาใหม่ๆหลายตัว ทำให้พวกเขาเห็นผลประโยชน์จากเย่เฟิง จึงยอมร่วมมือกันอย่างว่าง่ายหลายครั้ง!ครั้งนี้ก็เช่นกัน!ตราบใดที่ผมสามารถนำผลประโยชน์มหาศาลให้กับตระกูลกู่ พวกเขาก็จะไม่ใส่ใจเรื่องที่ผมทำร้ายคน และอาจจะนั่งลงคุยกับผมอย่างดีๆด้วยซ้ำ…บริษัทเหล้าหวังป้า“คุณชายหวัง!”“คุณชายหวังมาแล้วเหรอคะ?”พนักงานฝ่ายขายคนอื่นๆในบริษัท เมื่อเห็นหวังว่านเป่าก็รีบเข้ามาทักทายด้วยความอ่อนน้อมหวังว่านเป่าพยักหน้าอย่างมีอารมณ์ สายตามองไปที่เจียงหว่าน“เสียวหว่าน ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายเป็นยังไงบ้าง? เหนื่อยไหม?”หวังว่านเป่าเดินไปที่โต๊ะทำงานของเจียงหว่าน ก้มตัวลงมาถามครั้งที่แล้วเขาได้รับหยางหยวนตันจากเย่เฟิงสิบกว่าเม็ด ตอนนั้นเขาสัญญากับเจียงหว่านว่าจะไม่ไปรบกวนเธออีกแต่ไม่กี่วันต่อมา คุณช
เย่เฟิงพูดอย่างเย่อหยิ่ง!ตัวเขาที่ยืนอยู่กับที่ เปล่งรัศมีอันดุเดือดออกมา!กู่เฉินเช็ดเลือดจากมุมปากของเขาและมองไปที่เย่เฟิงด้วยความหวาดกลัว: “เจ้าหนู เจ้าเป็นใครกันแน่? อาจารย์ของเจ้าคือใคร? แล้วมาจากตระกูลหรือสำนักไหน?”กู่เฉินคิดเพียงว่าเย่เฟิงก็อาจมาจากตระกูลหรือสำนึกวิชายุทธ์โบราณที่ทรงพลังเช่นกัน!ไม่อย่างนั้น ปรมาจารย์หนุ่มที่มีระดับพลังเป็นถึงระดับพื้นฐานลมปราณจะปรากฏตัวในโลกมนุษย์นี่ได้ยังไง?เมื่อได้ยินแบบนั้น ดวงตาของเย่เฟิงก็เผยแววประหลาดใจอาจารย์ของเขาเหรอ?เขามีอาจารย์ที่ไหนกัน? แล้วก็ไม่มีตระกูลหรือสำนักอะไรทั้งนั้นแต่ว่า คำถามของอีกฝ่ายทำให้เย่เฟิงหัวใจเต้นแรงด้วยความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบัน เขายังต่อกรกับตระกูลกู่มากไม่ได้ และเย่เฟิงยังไม่ต้องการที่สร้างความแค้นกับตระกูลกู่ในตอนนี้ปีกของเขายังแข็งไม่พอ รอบกายก็ยังมีเส้นสายไม่มากพอ ฉะนั้น การสร้างศัตรูไปทั่วทุกที่จึงไม่ใช่เรื่องฉลาดยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายเป็นไปได้ว่ายังมีบุคคลที่เป็นถึงระดับสร้างแก่นลมปราณอยู่ด้วยเมื่อคิดได้แบบนั้น เย่เฟิงก็ส่งเสียงฮึในลำคอ ก่อนที่เขาจะตอบแบบลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ถูก: “อย
ตระกูลกู่มีจอมยุทธ์และความรู้มากมาย สมาชิกในตระกูลกู่ต่างก็อาศัยอิทธิพลของตระกูล ทำตัวเผด็จการจจนติดเป็นนิสัยแต่มาตอนนี้ ทั้งคู่กลับเจอปัญหาจากเย่เฟิง ใจของพวกเขาย่อมโมโหเป็นธรรมดา“เจ้ายังต้องการหยกวิญญาณอยู่หรือเปล่า?”กู่เฉินแสยะยิ้มเย็นชาเพียงกระพริบตา ร่างของเขาก็มายืนอยู่ตรงหน้าเย่เฟิงพร้อมพูดด้วยท่าทางชั่วร้าย “เจ้าหนู ถ้าวันนี้เจ้าไม่มอบสูตรยามา เจ้าก็ไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี่!”กู่เหมิงเองก็เข้ามายืนอยู่ด้านหลังเย่เฟิง ทั้งสองคนตัดขาดทางหนีถอยของเย่เฟิง!เย่เฟิงถามอย่างเย็นชา: “หมายความว่ายังไง คิดจะบังคับผมหรือไง?”“ไสหัวไป!”เย่เฟิงตะโกนเสียงดัง จากนั้นจึงก้าวต่อไปอีกครั้ง“เจ้ามันรนหาที่ตาย!”กู่เฉินกัดฟันและก่นด่า ต่อมาเขาก็วาดมือเข้าใส่เย่เฟิงร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง ความแข็งแกร่งระดับปรมาจารย์ถูกแสดงออกมา เขาคิดจะบังคับให้เย่เฟิงอยู่ต่อด้วยการใช้กำลังกู่เหมิงเองก็ปล่อยหมัดเข้าใส่เย่เฟิงจากทางด้านหลังพร้อมเสียงดังสนั่น!เขาเคยต่อสู้กับเย่เฟิงมาก่อนในโรงพยาบาล ทว่าตอนนั้นเขาเสียเปรียบแค่เล็กน้อยเท่านั้นแต่กู่เหมิงคิดเพียงแต่ว่าตัวเขาประมาท ไม่คิดว่าคว
เย่เฟิงเหลือบมองกู่เหมิงและถามเบา ๆ : “ทำไมถึงพูดอย่างนั้น?”“วันนั้นในโรงพยาบาล หลี่ชื่อที่อยู่ข้างกายคุณกู่ ก็คือคนที่ขายยาเม็ด! แล้วเขาก็เป็นของคุณ คุณชายเย่ คุณจะไม่ปฏิเสธใช่มั้ย?”ดวงตาของกู่เหมิงเป็นประกาย ขณะที่จ้องมองไปที่เย่เฟิงและถามในเวลานี้ ชายชราผู้เย่อหยิ่งโบกมือและพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด: “กู่เหมิง เลิกพูดจาอ้อมค้อมสักที!”ขณะที่ชายชราพูด เขาก็มองเย่เฟิงและพูดด้วยสีหน้าแข็งกร้าว: “เจ้าหนู เราจะไม่พูดเรื่องไร้สาระกับเจ้าอีก บอกสูตรและวิธีการกลั่นยาเม็ดหยางหยวนตันมาเถอะ ตระกูลกู่จะซื้อสูตรนั่น!”ชายชราคนนี้นามว่ากู่เฉิน และเขาเป็นหมอกลั่นยาเม็ดจากตระกูลกู่ นอกจากนี้เขายังเป็นจอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์ด้วยสถานะของเขาในตระกูลกู่นั้นเหนือกว่าหรือเทียบเท่ากับผู้อาวุโสของตระกูล และเขาได้รับความเคารพจากผู้อื่นมานานหลายปีแล้วด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้สั่งสมนิสัยหยิ่งผยองและค่อนข้างแข็งกระด้างเวลาติดต่อกับผู้อื่นหลังจากพูดจบ เย่เฟิงก็มองไปที่ชายชรากู่เฉินด้วยท่าทางหยอกล้อ“ตระกูลกู่จะซื้อเหรอ? แล้วพวกคุณตั้งใจว่าจะจ่ายให้ผมยังไงล่ะ?”กู่เฉินส่งเสียงฮึและตอบว่า: “คุณต้องการหยก
จนกระทั่งเจ้าตัวเล็กเดินเข้าห้องเรียน เขาถึงหันหลังกลับและจากไปนับตั้งแต่นั่วนั่วป่วยครั้งที่แล้ว เย่เฟิงก็ให้ความสำคัญกับทุกช่วงเวลาแห่งความสุขของนั่วนั่วมากยิ่งขึ้น และจะบันทึกทุกรายละเอียดในชีวิตของเธอเป็นครั้งคราวอันที่จริงในใจของเขารู้สึกกลัวอยู่บ้างจริงๆ!กลัวว่าจะไม่สามารถถอนคำสาปของนั่วนั่วได้ กลัวว่าจะจะต่อกรกับตระกูลเย่เก่าแก่ได้ไม่ทันลูกสาวของเขาจะอายุครบเจ็ดขวบ!เย่เฟิงคิดกับตัวเอง: เย่อินเสวียนบอกว่าผู้ที่ได้รับสืบทอดจี้หยกรูปมังกร จะสามารถไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกได้!ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาน่าจะเป็นคนที่ได้รับสืบทอดจี้หยกนั่นเย่เฟิงยังจำได้ว่า ตอนที่เขาหมดสติไปครั้งแรก มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในสมองของเขาแต่เสียงนั่นก็ไม่เคยปรากฏอีกเลย!ในร่างกายของเขา คงไม่ได้มีจิตวิญญาณอื่นอยู่ด้วยหรอกใช่มั้ย?“รุ่นพี่! รุ่นพี่? ได้ยินผมมั้ย?”ขณะกำลังคิด เย่เฟิงก็เรียกใครคนนั้นขึ้นมาในใจ เขาอยากพยายามสื่อสารกับอีกฝ่ายทว่า ในสมองของเขากลับไร้เสียงตอบรับใด ๆ...เย่เฟิงแอบสงสัยว่าเขาคิดมากเกินไปหรือเปล่า เขาจึงส่ายหัวและเตรียมที่จะขึ้นรถและออกไป“คุณชายเย่ รอช้าก่อน!”ในขณะ
ใบหน้าของลู่ไฉ่หยุนเผยความร้ายกาจออกมาชั่วขณะ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเย่เฟิงจริงๆ!เฉาเหนียนถอนหายใจและหันไปพูดกับภรรยาของเขา: “ไฉ่หยุน เราให้เงินกับเย่เฟิงไปดีกว่านะ ถึงยังไงเมื่อก่อนเราก็รับปากเขาไว้แล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เฟิง ในวันนั้น หลี่ชื่อคงฆ่าเราทั้งตระกูล…”จริง ๆ แล้ว เฉาเหนียนอยากจ่ายเงิน 4000 ล้านให้เย่เฟิงตามที่เขาเป็นหนี้อยู่ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเงินแล้วจริง ๆหลังจากให้เย่เฟิงไป 2500 ล้านบาทในครั้งแรก เงินทุนของเฉาเหนียนที่เขามีอยู่ก็เหลือน้อยลง เงินอีกส่วนหนึ่งของตระกูลเฉาก็ฝากไว้ในบัญชีของลู่ไฉ่หยุนตอนนี้ถ้าลู่ไฉ่หยุนไม่เห็นด้วย เขาก็นำเงินมาจ่ายเย่เฟิงไม่ได้“เฉาเหนียน คุณโง่หรือเปล่า? วันนั้นปล่อยให้เย่เฟิงมันขอเงินได้ยังไง? นั่นมันเป็นการแบล็กเมล์กันชัดๆ! อีกอย่าง ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ฆ่าหลี่ชื่อเพื่อช่วยเราแก้ปัญหาอย่างสมบูรณ์ แล้วคุณยังจะให้เงินเขาอีกเหรอ? ถุ้ย!!”ลู่ไฉ่หยุนกัดฟันแล้วด่าอย่างดูถูก ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธทันใดนั้นใบหน้าของเฉาเหนียนก็เปลี่ยนเป็นสีแดง: “หลี่ชื่อเป็นลูกชายของผมนะ แล้วเย่เฟิงจะฆ่าเขาได้ยังไง?”เมื่อกล่าวถึงหลี่ชื่อ หัวใจของเฉาเหนียน
“ถ้าพี่มีเงินมากพอก็อาจจะพอซื้อของจากตระกูลกู่ได้มากหน่อย! แน่นอนว่า ถ้ามีพลังมากพอ ก็อาจจะไปปล้นดูก็ได้นะ เหอะๆ…”พอพูดถึงประโยคสุดท้าย หญิงสาวตรงหน้าก็ทำหน้าหยอกล้อ และพูดจาแหย่เย่เฟิงสีหน้าของเย่เฟิงเป็นประกาย และถามออกมาโดยไม่รู้ตัว: “ตระกูลกู่แข็งแกร่งแค่ไหน?”เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่อินเสวียนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง: “ไม่ได้ตั้งใจที่จะปล้นจริงหรอกใช่มั้ย? เท่าที่ฉันรู้ ตระกูลกู่เคยมีผู้นำตระกูลระดับสร้างแก่นลมปราณ ผู้นำตระกูลเฒ่าคนนั้นไม่ได้ปรากฏตัวมาหลายสิบปีแล้ว ไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ส่วนผู้นำตระกูลปัจจุบันกับบรรดาผู้พิทักษ์และผู้อาวุโสหลายคน ต่างก็เป็นจอมยุทธ์ระดับพื้นฐานลมปราณขั้นปลาย”“เอ่อ…”สีหน้าของเย่เฟิงเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินแบบนั้น เขายักไหล่และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นไปหาพวกเขาเพื่อเจรจาแลกเปลี่ยนคงจะดีกว่า”ตามความเข้าใจของเขา ระดับพลังของจิตมังกรบำเพ็ญเซียนถูกแบ่งจากระดับต่ำสุดไปสูงสุดคือ ระดับรวบรวมลมปราณ ระดับพื้นฐานลมปราณ ระดับสร้างแก่นลมปราณ ระดับสำเร็จแก่นลมปราณ ระดับแก่นก่อกำเนิด ระดับก่อรูปธรรม ระดับสูญรูปธรรม ระดับมหายาน ระดับวิบาก รวม 9 ระดับพลัง
เย่เฟิงหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินแบบนั้น: “คราวนี้ คำสาปจะถูกยกเลิกโดยไม่เอ่ยถึงจี้หยกได้ไหม”ครั้งก่อนผู้หญิงคนนี้หลอกเขา บอกว่าเธอสามารถระงับคำสาปได้ด้วยจี้หยกรูปมังกรแล้วครั้งนี้ เธอจะพูดจริงอย่างนั้นเหรอ“ฉัน...ฉันไม่กลัวพี่ทรมานฉันหรือไง ครั้งนี้ทุกอย่างที่ฉันบอกพี่เป็นเรื่องจริงทุกอย่างนะ!”เย่อินเสวียนกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกายเย่เฟิงถามเธออีกครั้งว่าเขาจะตามเจอตระกูลเย่เก่าแก่ได้ยังไง“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน! ตระกูลเย่ที่ซ่อนตัวอยู่ของเราเป็นแค่เครือหนึ่งเท่านั้น มีเพียงหัวหน้าตระกูลและบุคคลสำคัญเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสืบหาที่ตั้งของตระกูลเย่เก่าแก่ได้! และฉันขอแนะนำว่าอย่ายั่วยุตระกูลเย่เก่าแก่ในตอนนี้จะดีกว่า! ไม่ใช่ว่าฉันดูถูกพี่หรอกนะ อย่าว่าแต่ตระกูลเย่เก่าแก่เลย แค่ตระกูลเครือข่ายแยกย่อยอย่างเราก็สามารถกำจัดพี่ได้ง่ายๆ!!”เย่อินเสวียนเบะปากพูดใบหน้าของเย่เฟิงมืดหม่นราวกับธาราลึก หลังจากพยักหน้า เขาก็จ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเคร่งขรึมเย่อินเสวียนหวาดกลัว ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที: “พี่คิดจะทำอะไร”เธอรับรู้แรงสังหารของเย่เฟิงได้อย่างชัดเจน!ผู้ชายคนนี้ คิดอยาก