“คุณเจียง เกิดอะไรขึ้นครับ?”ผู้จัดการเข้ามาถามด้วยความโนบน้อมถึงซ่งเจียงจะเป็นแค่สายเลือดห่างๆ แต่ก็เป็นรุ่นหลังของตระกูลซ่ง ดังนั้นผู้จัดการจึงทำตัวเกรงใจเขาเช่นเดียวกัน“ลากตัวหมอนี่ออกไปซะ!”ซ่งเจียงชี้ไปที่เย่เฟิง แล้วสั่งการผู้จัดการได้ยินดังนั้น ก็สำรวจมองเย่เฟิงแวบหนึ่ง จากนั้นก็ทำมือเชิญออกต่อเย่เฟิง แล้วพูดเสียงแข็งว่า “คุณผู้ชายคนนี้ ขอเชิญออกไปด้วยตัวเองเถอะครับ!”เย่เฟิงเลิกคิ้ว “ทำไมผมต้องออกไปด้วย? ผมก็เป็นลูกค้าที่มาทานข้าวเหมือนกัน พวกคุณดูแลลูกค้าแบบนี้น่ะเหรอ?”สิ้นเสียง ซ่งเจียงก็หัวเราะแห้ง “นายเนี่ยนะลูกค้า? เชียนเว่ยเซวียนเขามีไว้สำหรับลูกค้าวีไอพีเท่านั้น นายไม่เห็นเหรอว่าที่นี่ไม่มีห้องอาหารโถงใหญ่ มีแต่ห้องส่วนตัวน่ะ? ที่นี่รับแต่ลูกค้าวีไอพี นายมีบัตรวีไอพีของที่นี่เหรอ?”ระหว่างที่พูด เขาก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูกดูแคลนพวกเขาทุกคนรวมทั้งชายหญิงต่างก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาแบบนั้นเช่นเดียวกัน“ดูจากทรงแล้ว จะมีบัตรวีไอพีของที่นี่ได้ยังไง?”“บัตรสมาชิกที่ต่ำที่สุดของที่นี่ ก็มีมูลค่าเป็นแสนแล้ว!”“รีบออกไปเถอะ! วันนี้นายไม่ถูกจัดการก็ถือว่าบุญโขแล้
บร๊ะ!เมื่อเห็นการ์ดสีดำนั่นแล้ว ยามรักษาความปลอดภัยต่างก็อ้ำอึ้งในบัดดลผู้จัดการเองก็สีหน้าเปลี่ยน รีบพูดขึ้น “หยุด!”ซ่งเจียงและคนอื่นๆ ยิ่งเบิกตากว้าง สีหน้าไม่อยากเชื่อซ่งมู่เสวี่ยหรี่ตาลง แล้วมองไปที่การ์ดสีดำในมือของเย่เฟิง พูดว่า “นี่คือการ์ดระดับสูงสุดของทุกกิจการของตระกูลซ่งของเรา?”เย่เฟิงหัวเราะแห้ง “ไม่รู้ว่าการ์ดใบนี้เป็นสมาชิกระดับไหนของที่นี่กัน?”“สมาชิกระดับสูงสุด!”ซ่งมู่เสวี่ยตอบ แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความสงสัย และไม่เข้าใจ “ขอฉันดูหน่อยได้ไหม?”ซ่งมู่เสวี่ยเป็นสายเลือดตรงของตระกูลซ่งท แต่ว่าปกติไม่ค่อยยอมเผยหน้าเท่าไหร่นัก ดังนั้น ผู้จัดการของที่นี่จึงรู้จักแต่ซ่งเจียง ไม่รู้จักเธอเย่เฟิงยักไหล่ แล้วยื่นการ์ดให้อีกฝ่ายซ่งมู่เสวี่ยรับมือดูอย่างละเอียด สีหน้าพลันเปลี่ยนไปหลายส่วน“เป็นไงบ้าง? ของจริงไหม?”เย่เฟิงถามยิ้มๆ“เหมือนจะเป็นของจริง!”ซ่งมู่เสวี่ยพยักหน้า แล้วคืนการ์ดให้กับเย่เฟิง“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นผมก็สามารถไล่สมาชิกระดับต่ำกว่าผมได้แล้วน่ะสิ?”เย่เฟิงหัวเราะเยาะสิ้นเสียง สีหน้าของซ่งเจียงก็เปลี่ยนไปอย่างไม่มั่นคง ซ่งมู่เสวี่ยเอ
“ไป ตามเขาไป อย่าให้เขาหนีไปเด็ดขาด! การ์ดนั่น เขาต้องขโมยมาแน่ๆ!”ซ่งเจียงเห็นดังนั้น ก็รีบตะโกนขึ้น“ไปชั้นบนสุดด้วย? โม้เก่งจริงๆ เขากล้าเหรอ?’“นายท่านซ่งอยู่รับแขกผู้มีเกียรติอยู่ชั้นบนสุดพอดี ถ้าเขาไปชั้นบนสุดจริง ก็จะได้เปิดเผยตัวตนเขาด้วย!”“วางใจเถอะ เขาไม่กล้าหรอก! ฉันว่านะ เขาแค่อยากขึ้นลิฟต์ แล้วหนีผ่านชั้นอื่นมากกว่า!”“ตามเขาไป!”กลุ่มคนพูดนั่นนี่กันสนุกปาก แล้วขึ้นลิฟต์ตามเย่เฟิงไปซ่งเจียงเองก็จะเข้าไปด้วย แต่ว่ามีสายเข้าพอดี“พี่หย่งไท่!”คุณซ่งที่ว่านี้รับสายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อมซ้ำยังฟังดูสนิทสนม ทำให้คนฟังต้องขนลุกไปทั้งตัวอีกฝ่ายคือคุณชายซ่ง ซ่งหย่งไท่ หนึ่งใน ‘สองคุณชาย’ แห่งหยุนเฉิงเขาไม่เพียงแต่มีอำนาจ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นลูกหลานสายเลือดตรงของตระกูลซ่งที่แท้จริง คนละระดับกับซ่งเจียงที่เป็นลูกหลานสายเลือดห่างอย่างสิ้นเชิง“มายัง?”ซ่งหย่งไท่เอ่ยถามนิ่งๆ“มาถึงแล้วครับๆ!”ซ่งเจียงรีบตอบ“มาถึงเร็วจริง ถ้างั้นนายออกมารอแขกผู้มีเกียรติกับฉันที่หน้าประตู เขามาถึงจะได้พาเขาขึ้นไป”ซ่งหย่งไท่พูดสั่ง“ได้เลยครับ พี่หย่งไท่!”ซ่งเจียงตอบตกลง
เมื่อเห็นเย่เฟิงเดินตรงไปทางห้องส่วนตัว ทุกคนก็ตกใจและสับสนเหิมเกริมขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเขาแสวงหาความตายเพราะความไม่รู้ หรือเพราะเหตุผลอะไรกันแน่?ดวงตาที่สวยงามของซ่งมู่เสวี่ยฉายแววความสงสัยหรือว่า เขาจะเป็นแขกผู้มีเกียรติจริงๆ!คุณปู่ขอให้เธอมาพบกับชายผู้มีพรสวรรค์ คงไม่ใช่ไอ้คนนี้จริงๆ หรอกมั้ง?ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณปู่ก็ไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลยนะไม่ต้องพูดถึงการแต่งกายของอีกฝ่าย แค่ความจริงที่ว่าเขาเป็นสามีของคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลีเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ซ่งมู่เสวี่ยจะยอมรับได้แล้วเวินเสี่ยวเหมิง และจางเฉิงเฟิงมองหน้ากัน ทายาทรุ่นสองคนอื่นๆ ก็ด้วย“หรือว่า เขาจะเป็นแขกผู้มีเกียรติคนนั้นจริงๆ?”“เป็นไปไม่ได้ๆ!”“ลูกเขยของตระกูลหลีจะกลายเป็นแขกผู้มีเกียรติของนายท่านซ่งได้ยังไง?”แต่ในวินาทีถัดมา ขณะที่ทุกคนยังคงมีร่องรอยแห่งความหวัง และความไม่พอใจอยู่ในดวงตาของ เย่เฟิงก็เดินไปถึงบริเวณหน้าห้องส่วนตัว“คุณคือ...”พนักงานเสิร์ฟหน้าตาดีสองคนที่เฝ้าประตูอยู่เห็นเย่เฟิงเดินมา ก็เอ่ยถามอย่างสุภาพ“แซ่เย่”เย่เฟิงกล่าวเบาๆในเวลานี้ ประตูห้องส่วนตัวเปิดออก นายท่านซ่งโผล่หัวออก
เป่ยเหล่าหัวเราะร่า “เสี่ยวเย่ เดี๋ยวจะแนะนำให้ คนนี้คือประธานถง ถงว่านจินแห่งถงฟากรุ๊ป ภรรยาของเขาเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวซีเอ็มแอล ก่อนหน้านี้อยู่ในระยะสุดท้าย ดูไม่มีโอกาสรอดแล้วแต่ผมมีตัวอย่างยา ‘แสงแห่งชีวิต’ ที่รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวโดยเฉพาะที่คุณให้มาไม่กี่ชุดอยู่ ผมก็เลยคิดในมุมมองม้าตายให้รักษาอย่างม้าเป็น แล้วมอบให้ประธานถงไปหน่อยคาดไม่ถึงว่าคุณนายถงจะมีชีวิตรอดต่อไปจริงๆ แถมอาการยังมั่นคงกว่าก่อนหน้านี้อีกด้วย!”เมื่อได้ยินดังนั้น เย่เฟิงก็เข้าใจในทันที ขณะเดียวกันยังพูดด้วยสีหน้าตะลึงงันว่า “คุณคือประธานถงเองเหรอครับ? เศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งมณฑลเจียง?”ไม่น่าล่ะ เย่เฟิงถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าตั้งแต่แวบแรกที่เห็น แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหนที่แท้ก็ไม่ใช่คนรู้จักในชีวิตจริง แต่แค่เคยเห็นเศรษฐีอันดับหนึ่งคนนี้จากในข่าวมาก่อนเท่านั้น“เศรษฐีอันดับหนึ่งอะไรกัน ไม่กล้าหรอกครับ! หมอเทวดาเย่ คุณคือผู้ช่วยชีวิตของผมกับภรรยาผมเลยนะ! ผมถงว่านจินไม่รู้จะตอบแทนยังไงจริงๆ นี่คือหุ้นส่วน 20% ของถงฟากรุ๊ป ขอหมอเทวดาเย่รับไว้ด้วยนะครับ!”ถงว่านจินพูด แล้วหยิบเอกสารมอบหุ้นส่วนออก
เวินเสี่ยวเหมิงเองก็รู้ว่าตนพูดผิด!เย่เฟิงที่เดิมไม่พูดอะไรเลย แต่กลับถูกคำพูดนี้ของเธอนึกถึงประเด็นนี้ขึ้นมาเช่นนั้น เย่เฟิงก็สามารถใช้เรื่องนี้เล่าเหตุการณ์ที่ตนถูกคนเหล่านี้ดูถูกเหยียดหยามยังไงออกไปได้นี่!เวินเสี่ยวเหมิงร้องไห้ไม่มีน้ำตา อยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ สักทีหนึ่งเธอบาดหมางกับนายท่านซ่งไม่ได้ ดูถูกแขกผู้มีเกียรติของนายท่านซ่ง ไม่แน่ตระกูลเวินอาจซวยไปด้วยก็ได้!อีกอย่างที่บ้านทำธุรกิจหยกและไข่มุก รู้จักถงฟากรุ๊ปบ้าง และสามารถพูดได้ว่าต้องการถงฟากรุ๊ปแต่ตอนนี้ ถงว่านจินที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งกลับเรียกเย่เฟิงว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตถึงขนาดคุกเข่ามอบหุ้นส่วนให้เห็นได่ชัดว่า ถงว่านจินซาบซึ้งเย่เฟิงมากดูถูกเย่เฟิงในตอนนี้ ก็เท่ากับดูถูกถงว่านจินด้วยธุรกิจของบ้านเวินเสี่ยวเหมิงอาจได้รับผลการทบมาก ถึงขนาดแค่ถงว่านจินโกรธ ก็อาจตัดความสัมพันธ์ของทั้งสองออกทันทีทายาทรุ่นสองคนอื่นๆ เองก็เผยสีหน้าเป็นกังวลออกมาตระกูลของพวกเขาสู้เวินเสี่ยวเหมิงไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นยิ่งไม่อาจบาดหมางกับตระกูลซ่งและถงว่านจินอยู่แล้วจบแล้ว!เพียงแค่คำพูดเดียวของเย่เฟิง เกรงว่าพวกเขาต้อ
ถึงแม้จะด่าออกไป แต่ในใจหลิงเอ๋อร์กลับไม่รู้สึกรังเกียจ มีเพียงความรู้สึกได้ใจ และดีใจผู้หญิงคนนี้มีความรู้สึกซาบซึ้ง และความรู้สึกดีๆ ต่อเย่เฟิงอย่างบอกไม่ถูกเธอเพิ่งฝึกฝน ‘หทัยปักษาหวนชีวา’ ไปได้อาทิตย์กว่า ก็พบว่าตนได้บรรลุถึงระดับพลังมืดทมิฬแล้วขนตามร่างกายที่แต่เดิมทำให้เธอเขินอายที่จะเห็นพบปะผู้คนก็หายไป และผิวพรรณของเธอก็เรียบเนียนขึ้นวันนี้หลิงเอ๋อร์สวมชุดเดรสเป็นพิเศษ ทำให้เธอดูสดใสและมีเสน่ห์เป็นเวลานานแล้วที่เธอไม่ได้แสดงความเป็นผู้หญิงออกมาอย่างมั่นใจแบบนี้"อะแฮ่ม!"ในเวลานี้ นายท่านซ่งกระแอมสองสามครั้งและแนะนำให้เย่เฟิงว่า "เสี่ยวเย่ ฉันขอแนะนำให้นายรู้จัก นี่คือหลานสาวของฉัน ซ่งมู่เสวี่ย! คนหนุ่มสาวอย่างพวกนายสามารถสื่อสารพูดคุยกันมากๆ!"หลังจากสิ้นคำพูด เป่ยเหล่าที่อยู่ข้างๆ เม้มริมฝีปากแล้วพูดกับตัวเองว่า ตาแก่นี่ เห็นหลานสาวของฉันสนิทกับเสี่ยวเย่เข้าหน่อย ก็รู้สึกไม่ดีแล้วใช่ไหม?ซ่งมู่เสวี่ยเม้มริมฝีปากของเธอ ก้าวไปข้างหน้าแล้วยื่นมือไปหาเย่เฟิง "สวัสดีค่ะ คุณเย่!""สวัสดีครับ"เย่เฟิงจับมือกับอีกฝ่ายและปล่อยทันทีเมื่อนายท่านซ่งเห็นสิ่งนี้ เขาก็ดูไม
ในเวลานี้ ซ่งมู่เสวี่ย เวินเสี่ยวเหมิง จางเฉิงเฟิงและคนอื่นๆ ก็อยากจะเข้าไปตบหน้าซ่งเจียงด้วยเช่นกันเย่เฟิงไม่ได้จะเอาเรื่องพวกเขาแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าซ่งเจียงจะหาเรื่องตายอีกครั้ง!แม่ง…โง่หรือไงวะ?รบกวนช่วยดูสถานการณ์ก่อนที่จะส่งเสียงร้องได้ไหม?ไม่เห็นหรือไงว่าคุณเย่กำลังนั่งอยู่ที่นี่น่ะ?“พี่หย่งไท่ พี่…”ซ่งเจียงถูกทุบตีอย่างหนักจนเขาเซ ปิดหน้าแล้วพูดด้วยความสับสน“แหกตาดูให้ชัดเจน คุณเย่เป็นแขกผู้มีเกียรติที่ปู่ของฉันเชิญมาในวันนี้! เมื่อกี้นายคงทำให้คุณเย่ไม่พอใจสุดๆ สินะ?”ซ่งหย่งไท่มีสีหน้าชั่วร้าย คว้าคอเสื้อของซ่งเจียงแล้วถามอย่างเคร่งขรึมด้วยคำอธิบายที่ประดับประดาของซ่งเจียงเกี่ยวกับ "คนก่อเรื่อง" ในตอนนี้ ซ่งหย่งไท่สามารถจินตนาการได้ว่าซ่งเจียงได้ทำหน้าแบบไหนต่อเย่เฟิง"เชอะ!"นายท่านซ่งตะคอกอย่างหนักและมองไปที่หลานสาวของเขาซ่งมู่เสวี่ยและเวินเสี่ยวเหมิงคนแก่มักรู้เยอะ เขาสัมผัสได้ตั้งนานแล้วว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเย่เฟิงกับทายาทรุ่นสองเหล่านี้เพียงแต่เย่เฟิงปกปิด และไม่ได้เอ่ยถึงมัน ดังนั้นนายท่านซ่งจึงไม่ไล่ตามมันจนถึงที่สุดแต่ซ่งเจียงเข้ามาและตะ
เย่เฟิงมีสีหน้าเคร่งขรึม มองดูนั่วนั่ววิ่งไปหาโจวชิ้ง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขัดขวางตอนนี้การห้ามนั่วนั่วไม่ให้ติดต่อกับโจวชิ้ง จะมีแต่ทำให้เกิดผลลบ"นั่วนั่ว เด็กดี! คิดถึงแม่ไหม?"โจวชิ้งยื่นแขนออกมา ถามนั่วนั่วฟิ้ว!ในขณะนั้นเอง ก็มีกระถางต้นไม้หล่นลงมาจากฟ้า!จากความเร็วและวิถีการตก ดูเหมือนว่าจะหล่นใส่นั่วนั่วเย่เฟิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบจะปกป้องลูกสาวแต่ปฏิกิริยาของโจวชิ้งกลับเร็วกว่าเย่เฟิง เธอพุ่งไปหานั่วนั่วอย่างรวดเร็ว อุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนป้องกันเอาไว้ฟิ้ว!ผ่านไปครู่หนึ่ง กระถางต้นไม้ตกลงมาใกล้จะกระแทกหัวโจวชิ้งโจวชิ้งหลับตา ในใจต่อสู้กับความลังเล แต่สุดท้ายก็กัดฟันไม่ขยับเธอรู้ว่านี่เป็นเพียงกระถางเปล่า!หากโดนตกใส่ อย่างมากก็แค่หัวแตกเย็บไม่กี่เข็ม ร้ายแรงสุดกฌคงกระทบกระเทือนทางสมองเล็กน้อย แต่ไม่ถึงตายเย่เฟิงมองดูการกระทำของโจวชิ้งในตอนนี้ ดวงตาของเขาหดแคบลงเล็กน้อยปัง!ในที่สุด ก่อนที่กระถางต้นไม้จะกระแทกหัวโจวชิ้ง เย่เฟิงก็ลงมือ!เขาตบกระถางต้นไม้จนแตกเป็นผุยผง กระจายไปทั่วตัวของโจวชิ้งแต่สุดท้ายก็ไม่มีภาพเหตุการณ์ที่เธอต้อ
"ได้! ผมอยากรู้เหมือนกันว่าคุณอยากจะพูดอะไร"โจวชิ้งมองเย่เฟิงด้วยสายตาที่ซับซ้อน ก่อนจะเดินนำไปก่อนเย่เฟิงกระตุกยิ้มเย็นพร้อมกับจูงมือนั่วนั่วตามไปเขาอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้คิดจะทำอะไร?หลังจากเดินมาได้สักพัก!โจวชิ้งหยุดอยู่ในย่านที่เต็มไปด้วยอะพาร์ตเมนต์เก่า 6 ชั้นใกล้กับโรงเรียนอนุบาลเหวินเฟิงไม่รู้ว่าเธอเดินมาไกลเพราะไม่อยากถูกมอง หรือมีเหตุผลอื่น"อยากพูดอะไรก็ว่ามา"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์เขาจูงมือนั่วนั่วไว้แน่น ยืนอยู่ใต้อะพาร์ตเมนต์เก่าพร้อมกับโจวชิ้ง"อาเฟิง…ให้โอกาสฉันอีกครั้งได้ไหม?""ช่วงที่ผ่านมาฉันเพิ่งเข้าใจว่าชีวิตฉันที่ไม่มีคุณกับลูก ฉันอยู่ต่อไปไม่ได้เลย""ฉันคิดถึงพวกคุณทั้งกลางวันและกลางคืน ในฝันฉันก็ยังเห็นหน้าคุณกับนั่วนั่ว…"โจวชิ้งพูดพลางสะอื้น น้ำตาคลอเบ้าเธอย่อตัวลงไปหานั่วนั่ว พยายามจะจับมือลูก "นั่วนั่ว หนูคิดถึงแม่บ้างไหม?"ทันใดนั้น เย่เฟิงดึงนั่วนั่วมาอยู่ข้างหลังเขาทันที น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือก "อย่ามาแตะต้องลูก!"โจวชิ้งมองเย่เฟิงด้วยสีหน้าทุกข์ใจ เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ครั้งที่แล้ว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายลูกเ
บ่ายวันนั้น!ขณะที่เย่เฟิงไปรับนั่วนั่วจากโรงเรียนอนุบาล เขาพบว่าคุณครูซู ซึ่งเป็นครูประจำชั้นที่มีนิสัยประจบสอพลอ ถูกแทนที่ด้วยครูสาวคนใหม่ที่ดูอ่อนเยาว์และสดใสดูเหมือนว่าคุณครูซูจะถูกไล่ออกแล้วแต่ในขณะที่เย่เฟิงจูงมือนั่วนั่วเดินออกจากโรงเรียน เขากลับเจอคนที่เขาไม่อยากพบที่สุดในตอนนี้"เย่เฟิง…"เสียงที่เจือความรู้สึกซับซ้อนดังขึ้น"ลูกเขย หลานสาวสุดที่รัก!""หลานสาวคนดี มาให้คุณตาอุ้มหน่อยเร็ว!"โจวชิ้งพร้อมกับจ้าวเหม่ยฟ่ง และโจวเพ่ยหยิน เดินตรงเข้ามาหาด้วยท่าทีที่ดูอบอุ่นโจวเพ่ยหยินถึงกับนั่งยองๆ ตบมือเรียกนั่วนั่วเหมือนกำลังแสดงความรักอันล้นหลามแต่นั่วนั่วกลับจับมือเย่เฟิงแน่น แล้วถอยหลังไปหลบหลังเขาเล็กน้อยโดยเฉพาะตอนที่มองไปที่โจวชิ้ง เด็กน้อยดูหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดเธอไม่ลืมเหตุการณ์ครั้งก่อนที่โจวชิ้งพาเธอไปยังที่ลับตา และเกือบส่งตัวเธอให้คนแปลกหน้า"นั่วนั่ว เป็นอะไรไปลูก? นี่หนูจำแม่กับคุณตาคุณยายไม่ได้แล้วเหรอจ๊ะ?"จ้าวเหม่ยฟ่งพูดพร้อมรอยยิ้ม "ใจดี"เย่เฟิงมองคนทั้งสามด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "โจวชิ้ง เธอคิดจะทำอะไรอีก?"ผู้ห
"ติดต่อกันบ่อยๆ นะ ครั้งหน้าฉันจะพาภรรยามาแนะนำให้รู้จัก เธอสองคนต้องได้เป็นเพื่อนสนิทกันแน่ๆ!"เย่เฟิงพูดด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น แต่คำพูดกลับแฝงไปด้วยนัยบางอย่างเจียงหว่านชะงักไปเล็กน้อย ก่อนถามด้วยความสงสัย "ภรรยาของนาย? นาย…ไม่ได้หย่าหรอกเหรอ?""แต่งงานใหม่น่ะ…"เย่เฟิงตอบพร้อมหัวเราะเจียงหว่าน "อ๋อ" ออกมาเบาๆ ดวงตาเธอฉายแววหม่นหมองหมอนี่แต่งงานใหม่แล้วสินะ…เหอะๆ นี่ฉันคิดไปเองอีกแล้ว!ก็จริง ตอนนี้เย่เฟิงประสบความสำเร็จขนาดนี้ จะขาดผู้หญิงได้ยังไง?"ได้สิ ติดต่อกันบ่อยๆ นะ!"เจียงหว่านพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูฝืนเล็กน้อยเย่เฟิงมองเจียงหว่าน ผู้หญิงที่เขาเคยแอบชอบในอดีต ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงและความอ่อนล้า"ติดต่อกันนะ! ถ้าเธอมีปัญหาอะไร สามารถมาหาฉันได้เสมอบางที…ฉันอาจจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง"เจียงหว่านพยักหน้า "อืม" ก่อนจะบอกลาและเดินจากไปแต่ไม่รู้ว่าเธอจะเก็บคำพูดของเย่เฟิงไว้ในใจจริงๆ หรือเปล่าสองชั่วโมงต่อมา…เหอปิง หลี่เวย และเจี่ยอี้ เดินออกมาจากโรงแรมโกลด์เดนรอยัล ในสภาพย่ำแย่ปากของพวกเขาบวมเป่งจนแทบมองไม่ได้ พวกเขารีบโทรเรียกรถพยาบาลทันทีที่ออกมา
ทันทีที่ทั้งสามคนคิดว่าจะหนีรอดได้ ก็ต้องชะงักเมื่อเย่เฟิงเรียกพวกเขาไว้!เหอปิง หลี่เวย และเจี่ยอี้ ตัวสั่นด้วยความกลัว ใบหน้าซีดเผือด"เย่… เย่เฟิง…คุณเย่ ฉัน…ฉันแค่พูดเล่นน่ะ ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน คุณ…คงไม่คิดจริงจังใช่ไหม?"หลี่เวยพูดตะกุกตะกักด้วยความหวาดกลัว"เย่เฟิง ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องมีอนาคตที่สดใส! และดูเหมือนฉันจะคิดถูกฉัน… ยังไงฉันก็เคยเป็นครูของนาย…"เหอปิงพยายามฝืนยิ้มและพูดอ้อนวอนด้วยเสียงต่ำคนอย่างพวกเธอที่ชอบดูถูกคนจนและประจบคนรวย ย่อมเปลี่ยนท่าทีได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ!แต่การที่เย่เฟิงเรียกพวกเธอให้หยุด กลับทำให้ทั้งสองคนกลัวแทบหัวใจวาย"พวกเธอ…ช่วยพูดอะไรแทนครูหน่อยสิ!"เหอปิงร้องขอเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ด้วยเสียงสะอื้นแต่ไม่มีใครกล้าออกหน้า ทุกคนรีบหนีออกไปจากห้องราวกับกลัวว่าจะเดือดร้อนเมื่อเห็นว่าไม่มีใครช่วย สีหน้าของเหอปิงเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เธอมองเย่เฟิงด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกซึ้ง"เย่เฟิง…คุณเย่! ฉันเป็นครูของนาย นายทำแบบนี้กับฉันไม่…”"อุ๊บ…"คำพูดยังไม่ทันจบ เย่เฟิงก็คว้าเก้าไม้ออกมา หักที่พักแขนจนขาด จากนั้นใช้มือเปล่าบีบมันจ
เจี่ยอี้อึ้งจนพูดไม่ออก!เหอปิง ครูประจำชั้นเก่ามองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ!หลี่เวยอ้าปากค้างจนสามารถใส่กล้วยได้สองลูก…เย่เฟิงที่พูดว่าโรงแรมนี้เป็นของเขา เป็น…เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?ลูกพี่ลูกน้องของหวงเจี้ยน ผู้ที่ว่ากันว่าเป็นคนใหญ่คนโตในโลกใต้ดิน กลับทำงานอยู่ใต้คำสั่งของเย่เฟิง?นี่มัน…เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!ในตอนนั้น เฮียเฉวียนหันไปยิ้มแหยๆ ให้เย่เฟิง "คุณเย่ครับ สรุปแล้วเจ้าเด็กหวงเจี้ยนมันล่วงเกินคุณยังไงเหรอครับ? บอกผมเถอะ ไม่ต้องลงมือเอง ผมจะจัดการมันให้เอง!""เหอะๆ น้องชายนายเป็นมิตรเกินไปน่ะ มันอยากให้ฉันลองชิมรสชาติไวน์บนรองเท้าของมัน!"เย่เฟิงปล่อยมือจากหัวหวงเจี้ยน พร้อมหัวเราะเย็นๆ"ไวน์บนรองเท้า?"เฮียเฉวียนขมวดคิ้ว ก่อนจะเข้าใจและใบหน้ากระตุกด้วยความโกรธทันทีที่คิดได้ เขาเดินอย่างรวดเร็วไปหาหวงเจี้ยน หยิบขวดไวน์บนโต๊ะแล้วฟาดเข้าที่หัวหวงเจี้ยนเต็มแรง"ไอ้เวรนี่! อยากตายรึไง?!"เพล้ง!"หวงเจี้ยน คิดว่าบ้านมีเงินหน่อย แล้วจะครอบงำทั้งหยุนเฉิงได้รึไง?"เพล้ง!"โรงงานกระจอกๆ สองสามโรงของพ่อแก จะทำให้นายลอยฟ้าได้เลยเหรอ?"เพล้ง!"ไอ้เวรตะไล! กล้าลามปามคุณเ
"ไอ้บ้า เย่เฟิงมันเสียสติไปแล้ว!""นึกว่ามีเงินนิดหน่อยจะยุ่งกับใครก็ได้เหรอ? กล้าตบหวงเจี้ยน นายจบเห่แน่!"เจี่ยอี้ยกมือกุมหน้าตัวเอง พลางกัดฟันพูดในใจคนอื่นๆ ในห้องก็คิดเหมือนกัน ว่าเย่เฟิงคงจะทำอะไรไม่คิดถึงผลที่จะตามมา และครั้งนี้เขาคงสร้างปัญหาใหญ่ให้ตัวเองแล้ว"ไอ้ขยะ! โมโหไร้เหตุผล! ทำอะไรก็ไม่คิดถึงผลลัพธ์!"เหอปิง ครูประจำชั้นเก่า ด่าขึ้นด้วยความโมโห"ตบซะสะใจแบบนี้ เดี๋ยวครอบครัวคุณชายหวงคงจัดการนายให้ตายแน่!"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา"ไม่ต้องรอถึงครอบครัว คุณชายหวงโทรหาเฮียเฉวียนแล้ว หมอนี่ต้องตายเร็วๆ นี้แน่นอน!"ผู้หญิงอีกคนพูดพลางหัวเราะเยาะถึงจะพูดแบบนั้น แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปหยุดเย่เฟิง เพราะพลังอันดุดันของเขาทำให้ทุกคนหวาดกลัวเย่เฟิงในขณะนี้ น่ากลัวมาก!มีเพียงเจียงหว่านที่พยายามดึงแขนเย่เฟิง พลางพูดด้วยความร้อนใจ "เย่เฟิง พอได้แล้ว! ถ้านายยังทำแบบนี้ต่อไป เดี๋ยวจะถึงขั้นฆ่ากันตายนะ! ครอบครัวหวงเจี้ยน นายสู้พวกเขาไม่ได้หรอก รีบไปเถอะ ก่อนจะสายเกินไป!""ไม่เป็นไร"เย่เฟิงพูดอย่างเรียบๆ จากนั้นก็ยกตัวหวงเจี้ยนขึ้นมาอีกครั้งเจียงหว่านเห็นท่าทีไม่แยแ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หวงเจี้ยนชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ปาแก้วไวน์ในมือลงพื้นจนแตกละเอียด"แกล้งทำตัวใหญ่โตไปได้! ถ้านายไม่อยากไสหัวไป ก็เลียรองเท้าฉันให้สะอาดซะสิ! ฉันอาจเห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้นแล้วให้นายอยู่กินข้าวได้!""เอาสิ! ตอนเรียน นายก็เก่งเรื่องซักถุงเท้ากับขัดรองเท้าอยู่แล้ว นี่มันงานถนัดของนายไม่ใช่หรือ? ฮ่าๆๆ…""เลียให้สะอาด ฉันอาจพิจารณาหางานให้ทำก็ได้นะ!"เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นอีกครั้งทั่วทั้งห้องเจียงหว่านทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอพูดขึ้นอย่างโกรธจัด "หวงเจี้ยน! นายอย่าทำตัวเกินไปนักนะ!"เธอจับมือเย่เฟิงแล้วพูด "เย่เฟิง เราไปกันเถอะ งานเลี้ยงรุ่นนี่ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว"เมื่อเห็นแบบนี้ หวงเจี้ยนมองทั้งสองคนด้วยสายตาเย็นชา เต็มไปด้วยความอิจฉาดูเหมือนที่หลี่เวยบอกเขาเมื่อกี้จะเป็นความจริง เจียงหว่านยังมีใจให้เย่เฟิงอยู่!"จะไปไหน?""พวกแก ช่วยจับไอ้จนคนนี้ไว้ที! ฉันจะใช้หน้ามันเช็ดรองเท้าฉัน!"หวงเจี้ยนตั้งใจจะทำให้เย่เฟิงอับอายต่อหน้าเจียงหว่านเมื่อเขาพูดจบ เพื่อนชายบางคนที่เคยเป็นลูกน้องของหวงเจี้ยนในสมัยเรียนก็กระโดดเข้ามาทันทีพวกนี้เคยเป็นพวกเดียวกับหว
เย่เฟิงหันไปมองเจี่ยอี้ด้วยสายตาเย็นชา ความรู้สึกทั้งหมดที่เคยคิดว่าเขาเป็น "พี่น้อง" ถูกลบล้างจนหมดสิ้นเสียงหัวเราะเยาะที่ดังรอบตัวไม่ได้กระทบจิตใจเขาแม้แต่น้อย เขายืนอยู่ตรงนั้นนิ่งเฉย ราวกับทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับเขา"พวกนายทำแบบนี้ได้ยังไง? เอาความเจ็บปวดของคนอื่นมาล้อเลียน?"มีเพียงเจียงหว่านเท่านั้นที่ยืนขึ้นปกป้องเย่เฟิงเย่เฟิงดึงแขนเธอเบาๆ พร้อมส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรให้มากความสำหรับเขาในตอนนี้ สายตาและมุมมองต่อโลกของเขาต่างจากคนเหล่านี้ไปไกลแล้วมังกรที่บินอยู่บนฟ้าย่อมไม่สนใจคำดูถูกจากมดปลวกบนดิน"หัวเราะพอแล้วใช่ไหม? ถ้าพอแล้ว ก็เชิญไสหัวไปได้เลย!"เย่เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเสียงของเขาไม่ได้ดังนัก แต่ทุกคนในห้องได้ยินชัดเจนคำพูดนี้ทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง"ไสหัวไป? ฉันได้ยินถูกไหม ไอ้คนว่างงานมาบอกให้พวกเราหัวไป?"หลี่เวยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันก่อนกระซิบอะไรบางอย่างกับหวงเจี้ยน"อาหารมื้อนี้คุณชายหวงเลี้ยง นายเป็นใครถึงกล้ามาบอกให้คนอื่นออกไป?"เหอปิง ครูประจำชั้นเก่าเอ่ยขึ้นด้วยความดูถูกหวงเจี้ยนที่ได้ยินหลี่เวยกระซิบแล้วหันไปมอ