แชร์

บทที่ 113

ผู้แต่ง: เฟิงฮั่วเหลียนเทียน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ฉะนั้น เย่เฟิงย่อมต้องตอบแทนอยู่แล้ว

“ฮ่าๆ เสี่ยวเย่นี่เอง!”

นายท่านซ่งรับสาย แล้วส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเป็นมิตร

“นายท่านซ่ง ต้องขอบคุณท่านกับหมอซุน แล้วก็เป่ยเหล่ามากเลยนะครับที่ช่วย เอาอย่างนี้ ผมอยากจะชวนพวกคุณรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันวันนี้ ไม่ทราบว่าพวกคุณจะว่างไหม?”

เย่เฟิงพูดเชื้อเชิญ

เป่ยเหล่าเป็นแขกประจำของตระกูลซ่งเสมอ หมอซุนเองก็เป็นคนที่ตระกูลซ่งเชิญมาจากเทียนตู ดังนั้นเย่เฟิงจึงติดต่อหานายท่านซ่งทีเดียว

“เสี่ยวเย่ นายเกรงใจเกินไปแล้ว!”

นายท่านซ่งพูดปฏิเสธอ้อมๆ ไปประโยคหนึ่ง

“เป็นเรื่องที่ควรอยู่แล้วครับ!”

เย่เฟิงตอบด้วยความจริงใจ

“ถ้างั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันจะบอกเป่ยเหล่ากับหมอซุนให้!”

นายท่านซ่งไม่ได้ปฏิเสธอีกต่อไป เพราะเขาเองก็อยากกระชับมิตรกับเย่เฟิงเหมือนกัน

จากนั้น เขาก็พูดขึ้นว่า “อ้อ จริงสิ เสี่ยวเย่ นายมากินข้าวกับตาเฒ่าอย่างพวกฉันแบบนี้คงเบื่อแย่ใช่ไหม? เอาอย่างนี้ เดี๋ยวฉันจะเรียกคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนายมาด้วย กินข้าวสังสรรค์ด้วยกัน นายไม่ถือสาหรอกใช่ไหม?”

เย่เฟิงตอบอย่างไม่ถือสา “ได้ครับ ว่าตามนายท่านซ่งเลยครับ”

“โอเค! ถ้างั้นฉันขอเลือกร้านเองแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 114

    จางเฉิงเฟิงนอนโรงพยาบาลไปหนึ่งสัปดาห์กว่าแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็ได้ออกจากโรงพยาบาลสักทีแม้ว่าตอนนั้นเย่เฟิงจะใช้ ‘ยาธาตุทองตระกูลหลี’ ให้กับเขาแล้วก็ตาม แต่ว่าวอดก้า 96% นั่นได้ไปทำลายกระเพาะอาหารและลำไส้ของเขาไปแล้ว จึงไม่สามารถฟื้นฟูได้ทั้งหมดและอาจทิ้งอาการข้างเคียงถาวรไว้ก็ได้ไม่พูดถึงเรื่องอื่น เขาอาจมีเสียงแบบนี้ไปตลอดชีวิตก็เป็นได้ดังนั้น จางเฉิงเฟิงชายเสเพลในกองทหารคนนี้ จะไม่โกรธแค้นเย่เฟิงตัวต้นเรื่องนี้ได้อย่างไร?ดังนั้นตอนเห็นเย่เฟิงเมื่อครู่นี้ เขาจึงโกรธจนตาแดงก่ำ“คุณจาง คุณรู้จักคนนี้ด้วยเหรอ?”ชายเจาะหูเห็นดังนั้น ก็ถามอย่างเป็นกังวลเพราะถ้าหากเป็นเพื่อนของจางเฉิงเฟิงล่ะก็ การที่เขาชนแล้วหาเรื่องเย่เฟิงนั้น ก็น่าอายมากแล้ว“รู้จักสิ! รู้จักอยู่แล้ว! ที่พี่เฟิงต้องเข้าโรงพยาบาล ก็เพราะมันเนี่ยแหละ!”เวินเสี่ยวเหมิงพยักหน้า แล้วจ้องเย่เฟิงเขม็งพวกเขามีกันอยู่นับสิบกว่าคนรวมชายหญิง นอกจากผู้หญิงที่สะดุดตาคนหนึ่งแล้ว คนอื่นๆ ได้ยินแบบนั้นต่างก็เผยสีหน้าไม่เป็นมิตรออกมามีเพียงหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ หน้าตาสวยงามไร้ที่เปรียบ ท่าทางสุขุมเย็นชาเท่านั้นที่ไม่สนใจ

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 115

    “คุณเจียง เกิดอะไรขึ้นครับ?”ผู้จัดการเข้ามาถามด้วยความโนบน้อมถึงซ่งเจียงจะเป็นแค่สายเลือดห่างๆ แต่ก็เป็นรุ่นหลังของตระกูลซ่ง ดังนั้นผู้จัดการจึงทำตัวเกรงใจเขาเช่นเดียวกัน“ลากตัวหมอนี่ออกไปซะ!”ซ่งเจียงชี้ไปที่เย่เฟิง แล้วสั่งการผู้จัดการได้ยินดังนั้น ก็สำรวจมองเย่เฟิงแวบหนึ่ง จากนั้นก็ทำมือเชิญออกต่อเย่เฟิง แล้วพูดเสียงแข็งว่า “คุณผู้ชายคนนี้ ขอเชิญออกไปด้วยตัวเองเถอะครับ!”เย่เฟิงเลิกคิ้ว “ทำไมผมต้องออกไปด้วย? ผมก็เป็นลูกค้าที่มาทานข้าวเหมือนกัน พวกคุณดูแลลูกค้าแบบนี้น่ะเหรอ?”สิ้นเสียง ซ่งเจียงก็หัวเราะแห้ง “นายเนี่ยนะลูกค้า? เชียนเว่ยเซวียนเขามีไว้สำหรับลูกค้าวีไอพีเท่านั้น นายไม่เห็นเหรอว่าที่นี่ไม่มีห้องอาหารโถงใหญ่ มีแต่ห้องส่วนตัวน่ะ?​ ที่นี่รับแต่ลูกค้าวีไอพี นายมีบัตรวีไอพีของที่นี่เหรอ?”ระหว่างที่พูด เขาก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูกดูแคลนพวกเขาทุกคนรวมทั้งชายหญิงต่างก็มองเย่เฟิงด้วยสายตาแบบนั้นเช่นเดียวกัน“ดูจากทรงแล้ว จะมีบัตรวีไอพีของที่นี่ได้ยังไง?”“บัตรสมาชิกที่ต่ำที่สุดของที่นี่ ก็มีมูลค่าเป็นแสนแล้ว!”“รีบออกไปเถอะ! วันนี้นายไม่ถูกจัดการก็ถือว่าบุญโขแล้

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 116

    บร๊ะ!เมื่อเห็นการ์ดสีดำนั่นแล้ว ยามรักษาความปลอดภัยต่างก็อ้ำอึ้งในบัดดลผู้จัดการเองก็สีหน้าเปลี่ยน รีบพูดขึ้น “หยุด!”ซ่งเจียงและคนอื่นๆ ยิ่งเบิกตากว้าง สีหน้าไม่อยากเชื่อซ่งมู่เสวี่ยหรี่ตาลง แล้วมองไปที่การ์ดสีดำในมือของเย่เฟิง พูดว่า “นี่คือการ์ดระดับสูงสุดของทุกกิจการของตระกูลซ่งของเรา?”เย่เฟิงหัวเราะแห้ง “ไม่รู้ว่าการ์ดใบนี้เป็นสมาชิกระดับไหนของที่นี่กัน?”“สมาชิกระดับสูงสุด!”ซ่งมู่เสวี่ยตอบ แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความสงสัย และไม่เข้าใจ “ขอฉันดูหน่อยได้ไหม?”ซ่งมู่เสวี่ยเป็นสายเลือดตรงของตระกูลซ่งท แต่ว่าปกติไม่ค่อยยอมเผยหน้าเท่าไหร่นัก ดังนั้น ผู้จัดการของที่นี่จึงรู้จักแต่ซ่งเจียง ไม่รู้จักเธอเย่เฟิงยักไหล่ แล้วยื่นการ์ดให้อีกฝ่ายซ่งมู่เสวี่ยรับมือดูอย่างละเอียด สีหน้าพลันเปลี่ยนไปหลายส่วน“เป็นไงบ้าง? ของจริงไหม?”เย่เฟิงถามยิ้มๆ“เหมือนจะเป็นของจริง!”ซ่งมู่เสวี่ยพยักหน้า แล้วคืนการ์ดให้กับเย่เฟิง“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นผมก็สามารถไล่สมาชิกระดับต่ำกว่าผมได้แล้วน่ะสิ?”เย่เฟิงหัวเราะเยาะสิ้นเสียง สีหน้าของซ่งเจียงก็เปลี่ยนไปอย่างไม่มั่นคง ซ่งมู่เสวี่ยเอ

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 117

    “ไป ตามเขาไป อย่าให้เขาหนีไปเด็ดขาด! การ์ดนั่น เขาต้องขโมยมาแน่ๆ!”ซ่งเจียงเห็นดังนั้น ก็รีบตะโกนขึ้น“ไปชั้นบนสุดด้วย? โม้เก่งจริงๆ เขากล้าเหรอ?’“นายท่านซ่งอยู่รับแขกผู้มีเกียรติอยู่ชั้นบนสุดพอดี ถ้าเขาไปชั้นบนสุดจริง ก็จะได้เปิดเผยตัวตนเขาด้วย!”“วางใจเถอะ เขาไม่กล้าหรอก! ฉันว่านะ เขาแค่อยากขึ้นลิฟต์ แล้วหนีผ่านชั้นอื่นมากกว่า!”“ตามเขาไป!”กลุ่มคนพูดนั่นนี่กันสนุกปาก แล้วขึ้นลิฟต์ตามเย่เฟิงไปซ่งเจียงเองก็จะเข้าไปด้วย แต่ว่ามีสายเข้าพอดี“พี่หย่งไท่!”คุณซ่งที่ว่านี้รับสายแล้วพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อมซ้ำยังฟังดูสนิทสนม ทำให้คนฟังต้องขนลุกไปทั้งตัวอีกฝ่ายคือคุณชายซ่ง ซ่งหย่งไท่ หนึ่งใน ‘สองคุณชาย’ แห่งหยุนเฉิงเขาไม่เพียงแต่มีอำนาจ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นลูกหลานสายเลือดตรงของตระกูลซ่งที่แท้จริง คนละระดับกับซ่งเจียงที่เป็นลูกหลานสายเลือดห่างอย่างสิ้นเชิง“มายัง?”ซ่งหย่งไท่เอ่ยถามนิ่งๆ“มาถึงแล้วครับๆ!”ซ่งเจียงรีบตอบ“มาถึงเร็วจริง ถ้างั้นนายออกมารอแขกผู้มีเกียรติกับฉันที่หน้าประตู เขามาถึงจะได้พาเขาขึ้นไป”ซ่งหย่งไท่พูดสั่ง“ได้เลยครับ พี่หย่งไท่!”ซ่งเจียงตอบตกลง

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 118

    เมื่อเห็นเย่เฟิงเดินตรงไปทางห้องส่วนตัว ทุกคนก็ตกใจและสับสนเหิมเกริมขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเขาแสวงหาความตายเพราะความไม่รู้ หรือเพราะเหตุผลอะไรกันแน่?ดวงตาที่สวยงามของซ่งมู่เสวี่ยฉายแววความสงสัยหรือว่า เขาจะเป็นแขกผู้มีเกียรติจริงๆ!คุณปู่ขอให้เธอมาพบกับชายผู้มีพรสวรรค์ คงไม่ใช่ไอ้คนนี้จริงๆ หรอกมั้ง?ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณปู่ก็ไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลยนะไม่ต้องพูดถึงการแต่งกายของอีกฝ่าย แค่ความจริงที่ว่าเขาเป็นสามีของคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลีเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ซ่งมู่เสวี่ยจะยอมรับได้แล้วเวินเสี่ยวเหมิง และจางเฉิงเฟิงมองหน้ากัน ทายาทรุ่นสองคนอื่นๆ ก็ด้วย“หรือว่า เขาจะเป็นแขกผู้มีเกียรติคนนั้นจริงๆ?”“เป็นไปไม่ได้ๆ!”“ลูกเขยของตระกูลหลีจะกลายเป็นแขกผู้มีเกียรติของนายท่านซ่งได้ยังไง?”แต่ในวินาทีถัดมา ขณะที่ทุกคนยังคงมีร่องรอยแห่งความหวัง และความไม่พอใจอยู่ในดวงตาของ เย่เฟิงก็เดินไปถึงบริเวณหน้าห้องส่วนตัว“คุณคือ...”พนักงานเสิร์ฟหน้าตาดีสองคนที่เฝ้าประตูอยู่เห็นเย่เฟิงเดินมา ก็เอ่ยถามอย่างสุภาพ“แซ่เย่”เย่เฟิงกล่าวเบาๆในเวลานี้ ประตูห้องส่วนตัวเปิดออก นายท่านซ่งโผล่หัวออก

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 119

    เป่ยเหล่าหัวเราะร่า “เสี่ยวเย่ เดี๋ยวจะแนะนำให้ คนนี้คือประธานถง ถงว่านจินแห่งถงฟากรุ๊ป ภรรยาของเขาเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวซีเอ็มแอล ก่อนหน้านี้อยู่ในระยะสุดท้าย ดูไม่มีโอกาสรอดแล้วแต่ผมมีตัวอย่างยา ‘แสงแห่งชีวิต’ ที่รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวโดยเฉพาะที่คุณให้มาไม่กี่ชุดอยู่ ผมก็เลยคิดในมุมมองม้าตายให้รักษาอย่างม้าเป็น แล้วมอบให้ประธานถงไปหน่อยคาดไม่ถึงว่าคุณนายถงจะมีชีวิตรอดต่อไปจริงๆ แถมอาการยังมั่นคงกว่าก่อนหน้านี้อีกด้วย!”เมื่อได้ยินดังนั้น เย่เฟิงก็เข้าใจในทันที ขณะเดียวกันยังพูดด้วยสีหน้าตะลึงงันว่า “คุณคือประธานถงเองเหรอครับ? เศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งมณฑลเจียง?”ไม่น่าล่ะ เย่เฟิงถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าตั้งแต่แวบแรกที่เห็น แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหนที่แท้ก็ไม่ใช่คนรู้จักในชีวิตจริง แต่แค่เคยเห็นเศรษฐีอันดับหนึ่งคนนี้จากในข่าวมาก่อนเท่านั้น“เศรษฐีอันดับหนึ่งอะไรกัน ไม่กล้าหรอกครับ! หมอเทวดาเย่ คุณคือผู้ช่วยชีวิตของผมกับภรรยาผมเลยนะ! ผมถงว่านจินไม่รู้จะตอบแทนยังไงจริงๆ นี่คือหุ้นส่วน 20% ของถงฟากรุ๊ป ขอหมอเทวดาเย่รับไว้ด้วยนะครับ!”ถงว่านจินพูด แล้วหยิบเอกสารมอบหุ้นส่วนออก

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 120

    เวินเสี่ยวเหมิงเองก็รู้ว่าตนพูดผิด!เย่เฟิงที่เดิมไม่พูดอะไรเลย แต่กลับถูกคำพูดนี้ของเธอนึกถึงประเด็นนี้ขึ้นมาเช่นนั้น เย่เฟิงก็สามารถใช้เรื่องนี้เล่าเหตุการณ์ที่ตนถูกคนเหล่านี้ดูถูกเหยียดหยามยังไงออกไปได้นี่!เวินเสี่ยวเหมิงร้องไห้ไม่มีน้ำตา อยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ สักทีหนึ่งเธอบาดหมางกับนายท่านซ่งไม่ได้ ดูถูกแขกผู้มีเกียรติของนายท่านซ่ง ไม่แน่ตระกูลเวินอาจซวยไปด้วยก็ได้!อีกอย่างที่บ้านทำธุรกิจหยกและไข่มุก รู้จักถงฟากรุ๊ปบ้าง และสามารถพูดได้ว่าต้องการถงฟากรุ๊ปแต่ตอนนี้ ถงว่านจินที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งกลับเรียกเย่เฟิงว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตถึงขนาดคุกเข่ามอบหุ้นส่วนให้เห็นได่ชัดว่า ถงว่านจินซาบซึ้งเย่เฟิงมากดูถูกเย่เฟิงในตอนนี้ ก็เท่ากับดูถูกถงว่านจินด้วยธุรกิจของบ้านเวินเสี่ยวเหมิงอาจได้รับผลการทบมาก ถึงขนาดแค่ถงว่านจินโกรธ ก็อาจตัดความสัมพันธ์ของทั้งสองออกทันทีทายาทรุ่นสองคนอื่นๆ เองก็เผยสีหน้าเป็นกังวลออกมาตระกูลของพวกเขาสู้เวินเสี่ยวเหมิงไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นยิ่งไม่อาจบาดหมางกับตระกูลซ่งและถงว่านจินอยู่แล้วจบแล้ว!เพียงแค่คำพูดเดียวของเย่เฟิง เกรงว่าพวกเขาต้อ

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 121

    ถึงแม้จะด่าออกไป แต่ในใจหลิงเอ๋อร์กลับไม่รู้สึกรังเกียจ มีเพียงความรู้สึกได้ใจ และดีใจผู้หญิงคนนี้มีความรู้สึกซาบซึ้ง และความรู้สึกดีๆ ต่อเย่เฟิงอย่างบอกไม่ถูกเธอเพิ่งฝึกฝน ‘หทัยปักษาหวนชีวา’ ไปได้อาทิตย์กว่า ก็พบว่าตนได้บรรลุถึงระดับพลังมืดทมิฬแล้วขนตามร่างกายที่แต่เดิมทำให้เธอเขินอายที่จะเห็นพบปะผู้คนก็หายไป และผิวพรรณของเธอก็เรียบเนียนขึ้นวันนี้หลิงเอ๋อร์สวมชุดเดรสเป็นพิเศษ ทำให้เธอดูสดใสและมีเสน่ห์เป็นเวลานานแล้วที่เธอไม่ได้แสดงความเป็นผู้หญิงออกมาอย่างมั่นใจแบบนี้"อะแฮ่ม!"ในเวลานี้ นายท่านซ่งกระแอมสองสามครั้งและแนะนำให้เย่เฟิงว่า "เสี่ยวเย่ ฉันขอแนะนำให้นายรู้จัก นี่คือหลานสาวของฉัน ซ่งมู่เสวี่ย! คนหนุ่มสาวอย่างพวกนายสามารถสื่อสารพูดคุยกันมากๆ!"หลังจากสิ้นคำพูด เป่ยเหล่าที่อยู่ข้างๆ เม้มริมฝีปากแล้วพูดกับตัวเองว่า ตาแก่นี่ เห็นหลานสาวของฉันสนิทกับเสี่ยวเย่เข้าหน่อย ก็รู้สึกไม่ดีแล้วใช่ไหม?ซ่งมู่เสวี่ยเม้มริมฝีปากของเธอ ก้าวไปข้างหน้าแล้วยื่นมือไปหาเย่เฟิง "สวัสดีค่ะ คุณเย่!""สวัสดีครับ"เย่เฟิงจับมือกับอีกฝ่ายและปล่อยทันทีเมื่อนายท่านซ่งเห็นสิ่งนี้ เขาก็ดูไม

บทล่าสุด

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 271

    กลางดึกคืนนั้น เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้นในคฤหาสน์ส่วนตัวของตระกูลเฉา “ฮือ...ฮือๆ...”ในคฤหาสน์ส่วนตัวของตระกูลเฉา เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้ ฟังดูน่าขนลุกเฉาเริ่นและเฉาเหนียนผู้เป็นพ่อยืนอยู่ในห้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจและสงสัย เบื้องหน้าของทั้งสองคือคุณนายเฉา ที่นั่งอยู่บนพื้นห้องในสภาพเสียสติ ร้องไห้ไม่หยุด แถมยังใช้กรรไกรตัดผ้าปูที่นอนจนขาดเป็นเส้นๆ “นี่มันอะไรกัน? ที่รัก คุณเป็นอะไรไป?”เฉาเหนียนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สะท้านไปด้วยความหวาดกลัว การที่คนข้างกายลุกขึ้นมากลางดึกและเริ่มแสดงพฤติกรรมแปลกประหลาดเช่นนี้ ย่อมทำให้ใครก็ต้องขนลุก ส่วนคุณนายเฉาไม่เพียงแต่แค่ร้องไห้เท่านั้น แต่ยังดูเสียสติด้วยเธอร้องไห้ไปด้วยถือกรรไกรไปด้วย พร้อมกับตัดผ้าปูเป็นเส้นๆแต่ไม่ว่าจะเรียกหรือถามอย่างไร คุณนายเฉาก็ไม่มีทีท่าว่าจะตอบ ไม่ว่าเฉาเหนียนและลูกชายเฉาเริ่นจะเรียกเธอยังไง เธอก็ไม่ตอบสนองคล้ายเป็นคนเสียสติ“พ่อ...หรือว่าแม่จะโดนของ?”เฉาเริ่นถามด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวและเต็มไปด้วยความสับสน “เร็วเข้า! เรียกอาจารย์คงมาดูหน่อย!”เฉาเหนียนรีบร้อนสั่งลูกชาย

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 270

    ถงซวี่เย่ยิ้มพลางถาม เฉาเริ่นหน้าตึงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดกับเย่เฟิงด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจนัก “ขอบใจ!” เย่เฟิงได้ยินแล้วก็ยิ้มเยาะเล็กน้อย พลางถามกลับ “ขอบคุณยังไงล่ะ?” เขาไม่ได้ติดเรื่องช่วยคนอื่น แต่ติดเรื่องช่วยเหลือคนอื่นแล้ว อีกฝ่ายยังแสดงท่าทีไม่รู้บุญคุณอีกดังนั้น เขาเองก็ไม่ไว้หน้าเฉาเริ่นเช่นกัน!เมื่อได้ยินดังนั้น เฉาเริ่นถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วถามกลับด้วยสีหน้าไม่พอใจ “แล้วนายอยากให้ขอบคุณยังไง? จะเอาเงินรึไง?” ในน้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด!แต่เย่เฟิงกลับพยักหน้าตอบหน้าตาย “เอาสิ! ขอสัก 90 ล้านแล้วกัน”ได้ยินดังนั้น เฉาเริ่นเบิกตากว้าง มองเย่เฟิงด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธจัด ถงซวี่เย่เองก็อึ้งไปเหมือนกัน ไม่คิดว่าเย่เฟิงจะพูดเอาเงินตรงๆ แบบนี้ “นายนี่กล้าดีจริงๆ นะ ยังจะ 90 ล้านอีก? นี่นายจนจนคลั่งไปแล้วใช่ไหม? หรือว่าคุณหนูใหญ่หลีไม่ให้เงินใช้?” เฉาเริ่นพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “ถ้าเกิดอุบัติเหตุในไซต์งานนี้ นายต้องจ่ายค่าชดเชยไปเท่าไหร่? ไหนจะค่าเสียหายจากการหยุดงาน และผลกระทบในแง่ลบต่อชื่อเสียงบริษัทอีก? บร

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 269

    “ถ้าขุดเจออะไรสกปรกจริงๆ ฉันจะกินมันเข้าไปเลย!”อาจารย์คงพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม แสดงออกถึงความเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเอง “เล่นใหญ่ขนาดนี้เชียว?”เย่เฟิงส่ายหัวพลางถอนหายใจ รถขุดเริ่มทำงานตามจุดที่เย่เฟิงชี้ไว้ขณะที่เย่เฟิงยืนดูอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ถงซวี่เย่เองก็มีสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาจับจ้องไม่กะพริบส่วนเฉาเริ่นกับอาจารย์คงยืนกอดอกอยู่ไม่ไกลนัก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะ ไม่กี่นาทีต่อมา ก็ขุดลึกลงไปได้สี่ถึงห้าเมตร แต่กลับพบเพียงก้อนหินรกๆ เท่านั้น“ตลกจริงๆ! ไอ้ที่นายบอกมันอยู่ไหนล่ะ? ไม่รู้รึไงว่าฉันมีชื่อเสียงขนาดไหนในวงการฮวงจุ้ย กล้ามาสงสัยในฝีมือฉันเนี่ยนะ? ไอ้หนุ่ม จ่ายค่าเสียหายมาเลย ฉันไม่เอาเยอะ สักห้าล้านพอ!”อาจารย์คงพูดด้วยความภูมิใจ “คุณเย่ ถ้าคุณไม่มีเงินจ่าย ก็ขอโทษอาจารย์คงซะ เดี๋ยวผมจะช่วยพูดให้ แล้วปล่อยให้เรื่องนี้จบๆ ไปอย่ากลับไปขอเงินคุณหลีเลยนะ แบบนั้นมันไม่ดี” เฉาเริ่นพูดพลางเย้ยหยัน “คุณชายเฉา จะขุดต่อไหมครับ?”คนงานของเขาเอียงศีรษะออกมาถาม“ขุดต่อไป!” เย่เฟิงพูดเสียงเรียบ ไม่สนใจคำพูดของอาจารย์คงและเฉาเริ

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 268

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนท้ายที่เย่เฟิงพูดเชิงเย้ยหยันด้วยแก้วเหล้านั้น ทำให้เฉาเริ่นยิ่งรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก “ผมเรียกพี่เย่มาช่วยดูฮวงจุ้ยหน่อยน่ะ” ถงซวี่เย่พูดด้วยรอยยิ้ม พอได้ยินเช่นนั้น เฉาเริ่นก็ขมวดคิ้วทันที “คุณชายถง เรื่องงานก่อสร้างนี่ปล่อยให้ตระกูลเฉาของเราจัดการเถอะ คุณไม่ต้องกังวลหรอก!”“ผมคอยดูสักหน่อยดีกว่า” ถงซวี่เย่ตอบ “คุณชายถง คุณไม่เชื่อใจผมแล้วเหรอ?”เฉาเริ่นพูดด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ขณะนั้นเอง ชายชราที่ดูมีลักษณะคล้ายคนมีวิชาในชุดกี่เพ้าเหลืองก็แค่นเสียงดังอย่างไม่พอใจ เฉาเริ่นแนะนำถงซวี่เย่ว่า “นี่คืออาจารย์คง ท่านเป็นอาจารย์ฮวงจุ้ยชื่อดังแห่งหยุนเฉิง ก่อนเริ่มงานก่อสร้างอะไรที่บ้านผมก็มักจะเชิญท่านอาจารย์คงมาดูให้เสมอ มีอาจารย์คงอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเชิญใครที่ไม่ได้เรื่องมาดูอีกหรอกคุณชายถง คุณพาคุณเย่กลับไปเถอะ”พูดจบ เฉาเริ่นก็หันไปมองเย่เฟิงด้วยสายตาเหยียดหยามพร้อมโบกมือไล่ อาจารย์คงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนพูดด้วยความหยิ่งยโส “ผมตรวจดูที่นี่แล้ว ฮวงจุ้ยดีมาก มีแสงแห่งโชคลาภปกคลุม สามารถเริ่มงานก่อสร้างอย่างสบายใจได้เลยพลังชั่ว

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 267

    เมื่อได้ยินหลีเทียนกังพูดเช่นนี้ หลี่เยว่ผิงก็ฉายแววดีใจออกมาหลีถิงกลับเผยสีหน้าตกใจ “พ่อคะ ไม่…ไม่จริงหรอกใช่ไหมคะ? พ่อเองก็อยาก…”หลีเทียนกังขรึมหน้าลง แล้วจ้องหลีถิงเขม็ง “ถิงถิง แกอย่าพูดออกไปมั่วซั่วล่ะ! ถ้าย่าของแกตาย นั่นก็เพราะหลีเอียนกับไอ้หน้าขาวแซ่เย่! เข้าใจไหม?”หลีถิงตัวสะดุ้ง แล้วพยักหน้าด้วยความหวาดกลัว “เข้า…เข้าใจแล้วค่ะ!”วินาทีต่อมา หลีเทียนกังพลันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกดโทรหาเบอร์หนึ่งในฐานะที่เป็น ‘คุณชายรอง’ ของตระกูลหลี อำนาจของเขาในตระกูลย่อมมีคนสนิทคนหนึ่งอยู่แล้ว“หลีปา จัดการหมอหลี่ที่มาดูอาการผู้อาวุโสวันนี้ซะ! จัดการให้สะอาดล่ะ!”หลังจากวางสาย หลีเทียนกังแค่นเสียงเย็นชาไปทีหนึ่งก่อนจะกล่าวเสียงขรึมว่า “เรื่องนี้จะต้องหาแพทย์แผนจีนที่เก่งกาจคนหนึ่ง และต้องทำแบบเงียบๆ ไร้ร่องรอยด้วย!”หลี่เยว่ผิงกล่าวด้วยสายตาเป็นประกาย “จริงสิคะที่รัก ฉันได้ยินมาว่าหมอเทวดาจู้จากโม๋ตูคนนั้นมาที่หยุนเฉิงแล้ว ไม่กี่วันก่อนยังมารักษาที่คลินิกจู้คังด้วย หรือว่า…จะหาเขาดี?”คลินิกจู้คังที่หมอเทวดาจู้คนนี้ก่อตั้งขึ้นเป็นคลินิกลูกโซ่ ตอนนี้มีคลินิกย่อยอยู่ทั่วประเทศแล้ว

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 266

    ส่วนสถานการณ์ของเจ้าสามและเจ้าสี่ไม่ชัดเจนนักผู้อาวุโสหลีหน้าเสียต่อหน้าหลีเอียนและเย่เฟิงมานักต่อนัก สุดท้ายยังต้องยอมจำนนอย่างน่าอับอายอีกเธอในตอนนี้ไม่ถูกกับครอบครัวลูกชายคนโตเลยแม้แต่นิด!ดังนั้นเธอย่อมต้องสนับสนุนคนที่ไม่ถูกกับอีกฝ่ายเช่นเดียวกันอยู่แล้วซึ่งคนคนนั้น ก็มีเพียงหลีเทียนกัง ลูกชายคนรองเท่านั้น…หลังจากที่กลับจากคฤหาสน์ตระกูลหลี ทันทีที่หลีเทียนกังขึ้นรถไป หลี่เยว่ผิวและหลีถิงที่รออยู่บนรถก่อนแล้วก็เอ่ยถามอย่างรอไม่ไหว“ที่รัก ผู้อาวุโสเป็นยังไงบ้าง? ใกล้จะไม่ไหวแล้วใช่ไหม?”ภรรยาคนนี้ทำหน้าตั้งตารอ“พ่อคะ พ่อต้องทำให้ย่าเขียนพินัยกรรมมอบหุ้นส่วนทั้งหมดให้พ่อก่อนที่ท่านจะตายนะคะ!”หลีถิงเองก็ทำหน้าโลภมากหลีเทียนกังแค่นเสียงเย็นชา แล้วโบกมืออย่างอารมณ์เสีย “คิดอะไรอยู่น่ะ? ผู้อาวุโสยังไม่ตายเร็วๆ นี้หรอก หมอบอกว่าแค่พักผ่อนดีๆ รักษาอาการป่วยให้ดี ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง!”เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่เยว่ผิงและหลีถิงก็เผยสีหน้าผิดหวังออกมาหลีเทียนกังเห็นดังนั้น ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า “แต่ผมขู่ผู้อาวุโสไป ให้ท่านรู้สึกว่าตัวเองเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วแล

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 265

    เมื่อเห็นท่าทางของลูกชายคนรอง ผู้อาวุโสหลีก็รู้สึกไม่ดี!ท่าทีของอีกฝ่าย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตนใกล้จะตายแล้วอย่างไรอย่างนั้น"เป็นอะไรกันแน่? บอกมา!"ผู้อาวุโสหลีถามเสียงเข้ม สีหน้ายิ่งแดงก่ำกว่าเดิมพร้อมไอเป็นครั้งคราว"แม่ ไม่มีอะไรจริงๆ แม่พักผ่อนให้สบายเถอะ"หลีเทียนกังพยายามปลอบแต่ผู้อาวุโสหลียังจับตาดูลูกชายอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจ "เฮ้อ…ฉันเองก็อายุมากแล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่แปลก! เพียงแต่…ฉันไม่ยอม!"เธอพูดพลางตบโต๊ะด้วยความโกรธหลังจากใช้ชีวิตอย่างเด็ดเดี่ยวมาตลอด สุดท้ายเธอกลับพ่ายแพ้ให้กับหลานสาวตัวเอง จนถึงขั้นเสียบริษัทยาไปทั้งหมดความรู้สึกนี้ยากที่จะทำใจยอมรับได้ แม้จะเป็นวาระสุดท้ายก็ตาม!"แม่ครับ ผมจะช่วยกู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้แม่เอง!"หลีเทียนกังกัดฟันและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นครั้งนี้ไม่ใช่การแสร้งทำ!เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ครอบครัวเขาหน้าด้านหน้าทนไปขอหลีเอียน แต่กลับถูกขับไล้ออกมาอย่างไร้เยื่อใย ในใจเขาเองก็รู้สึกอับอายและโกรธมากเช่นกัน"แม่ ถึงแม้เราจะเสียเปรียบเรื่องบริษัทยา แต่เราสามารถหาวิธีอื่นจัดการครอบครัวพี่ใหญ่ได้นี่ครับ!หลีหย่วนยังไงก็

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 264

    “ราคาสูง? สูงแค่ไหน?”เย่เฟิงขมวดคิ้วถาม“ยกตัวอย่างเช่น ยาหนึ่งเม็ดจากตระกูลนี้ ราคาก็สูงถึงหลักสิบล้าน ส่วนทักษะวิชาการต่อสู้บางเล่มอาจทะลุไปถึงร้อยล้านเลย...”หลีหยวนเล่าความเป็นมาของตระกูลกู่นี้ให้เย่เฟิงฟังตระกูลกู่เป็นตระกูลที่เงียบสงบและไม่เผยตัวต่อสาธารณะ แต่ก็แข็งแกร่งมากพวกเขาไม่ทำธุรกิจข้างนอก แต่ก็ร่ำรวยมหาศาลลำพังแค่งานประมูลหนึ่งครั้ง ก็สามารถทำรายได้ถึงหลายพันหลายหมื่นล้านแล้วยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลนี้ยังเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญฝีมือสูงที่สามารถรับงานต่างๆ ได้ แต่ค่าจ้างก็แพงมากเช่นกันแน่นอนว่าความสามารถของยอดฝีมือที่ส่งไปนั้น ก็เก่งกาจมากเช่นกันเฉินจิงเทียนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักสู้อันดับหนึ่งในมณฑลเจียง ยังอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญบางคนในตระกูลนี้ด้วยซ้ำ เพียงแค่พวกเขาไม่เปิดเผยตัวเท่านั้นหลังจากที่หลีหย่วนพูดจบแล้ว เย่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและรู้สึกหนักใจตระกูลกู่จะมีผู้เชี่ยวชาญหรือยอดฝีมืออะไรไม่เกี่ยวกับเขา สิ่งที่เขาต้องการคือของประมูลราคาสูงลิ่วที่หลีหย่วนพูดถึงตามที่หลีหย่วนกล่าว ราคาของหยกพลังวิญญาณนั่น เผลอๆ อาจสูงถึงร้อยล้านเลยก็ได้

  • มังกรในตัวฉันตื่นขึ้นมาแล้ว   บทที่ 263

    ใช่แล้ว หลีเอียนรู้เรื่องจี้หยกรูปมังกรของเย่เฟิงตอนที่เย่เฟิงโดนรถของเธอชนแล้วกระเด็นไป ตอนนั้นเขากำจี้หยกชิ้นนั้นไว้แน่น หลีเอียนจึงจำมันได้ขึ้นใจอีกทั้งตอนที่เย่อินเสวียนหยิบภาพวาดออกมา หลีเอียนเองก็สงสัยอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาเมื่อได้ยินคำขู่ของหลีเอียน สีหน้าของเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาแฝงด้วยความเย็นชา “คุณกำลังขู่ผมอยู่เหรอ?”หลีเอียนที่เห็นสายตาเย็นชาของเย่เฟิง ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความไม่พอใจ เธอจ้องมองเขาอย่างน้อยใจ“ใช่ ฉันขู่คุณ แล้วจะทำไม? ยังจะกล้าขัดคำสั่งฉันไหม?”เย่เฟิงถอนหายใจเล็กน้อย รู้สึกปั่นป่วนในใจเมื่อเห็นท่าทางของเธอ สุดท้ายเขาก็ยอมจำนน“โอเคๆ ผมจะทำตามที่คุณบอก โอเคไหม คุณภรรยาผู้ยิ่งใหญ่ของผม...แต่คุณต้องช่วยผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะ”หลีเอียนจ้องเขาด้วยสายตาไม่พอใจแล้วพูดขึ้น “ก็ต้องดูพฤติกรรมของคุณแล้ว”“ผมว่าผมก็ทำตัวดีมาตลอดนะ”“แย่สุดๆ!”หลีเอียนกัดฟันและพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชาทำให้เย่เฟิงได้แต่นั่งหน้าหมอง พร้อมคิดในใจว่า(ผู้หญิง เหอะๆ…เปลี่ยนอารมณ์ง่ายเหมือนเปลี่ยนหน้าหนังสือเลย!

DMCA.com Protection Status