หลังจากที่อาการของนั่วนั่วแย่ลงและต้องเข้าโรงพยาบาลครั้งที่แล้ว เย่เฟิงก็เก็บข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันแล้วอยู่ในโรงพยาบาลกับลูกสาวของเขาแต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากไม่ได้กลับบ้านมาสักพักเจ้าของบ้านเช่าก็ไม่แม้แต่จะทำการทักทาย แถมยังมาไล่กันออกเลยหรอ?แล้วทำไมเย่เฟิงถึงต้องไปเล่า?ค่าเช่าบ้านก็จ่ายแล้ว และเขาก็มีสิทธิ์ในการอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้เพียงเพราะเจ้าของบ้านเช่าดูถูกคนอื่นและคิดว่าเขาไม่มีเงินที่จะต่อสัญญาเช่า ก็เลยไล่เขาออกก่อนกำหนด?เย่เฟิงนั้นได้รับโชคบางอย่าง แต่โชคนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นตัวเงินครั้งที่แล้วหลีเอียนจ่ายแค่ค่ารักษาพยาบาลให้นั่วนั่วเท่านั้นและไม่ได้ช่วยเย่เฟิงจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นอย่างอื่นแต่ใด ซึ่งเย่เฟิงในตอนนี้ไม่มีเงินที่จะไปหาที่อยู่อื่นแล้วยิ่งกว่านั้นนั่วนั่วกำลังรอกลับบ้านอยู่มันจะเศร้าสลดหดหู่เพียงใดหากพวกเขาสองพ่อลูกถูกไล่ออกมา“ไม่ออก?แกจะเชื่อมั้ยฉันสามารถหาคนมาเล่นงานแล้วไล่แกออกได้”เจ้าของบ้านชี้ไปที่หน้าของเย่เฟิงและด่าสาปอย่างเย่อหยิ่งทันใดนั้น ก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้นมา“เย่เฟิงนี่แกแม้แต่ค่าเช่าบ้านก็ไม่มีจ่ายจนต้องถูกไล่ออ
โจวชิ้งยิ้มเยาะเย้ยด้วย ใบหน้าแสดงความเหยียดหยามและอำมหิต "ใครจะมาเมตตาอะไรกับคุณ?คุณคู่ควรหรอ ถ้าจะโทษกัน ก็ต้องโทษที่คุณมันทั้งยากจนทั้งเสแสร้ง! ของไร้ประโยชน์อย่างคุณสมควรถูกเหยียบให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าเท้านั้น!”“แม่งเอ้ย ข้ากำลังพูดกับแกอยู่นะ ไอ้หนู คุกเข่าลงซะ!”เมื่อนายกวงเห็นว่าเย่เฟิงเพิกเฉยต่อเขา เขาก็บันดาลโทสะทันทีและกล่าวอย่างดุเดือด“ขอโทษที ขาผมมันไม่ค่อยดี คงคุกเข่าให้ไม่ได้หรอก!”เย่เฟิงกล่าวอย่างไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา“ไอบ้านี่! ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันจะรักษามันให้แกเอง! รออะไรอยู่ล่ะ จัดการมันซะ!”นายกวงพูดด้วยสีหน้าดุร้ายวินาทีต่อมา ลูกสมุนของเฮียกวงก็รุมล้อมเย่เฟิงอย่างทันที“เหอะ...ให้แกไปไม่ยอมไป! ตอนนี้ฉันคงไม่ต้องไปหาคนมาไล่แกแล้ว มีคนมาจัดการคนจนตรอกอย่างแกแล้ว”เมื่อเห็นเช่นนี้ เจ้าของบ้านเช่าก็กลับพูดออกมาอย่างยินดี เช่นกันวินาทีต่อมาฉากที่ทำให้คนถึงกับต้องอ้าปากค้างก็ปรากฏขึ้นผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!เย่เฟิงชกออกไป สีข้างของอันธพาลคนหนึ่งก็ยุบหักลงไป กระดูกซี่โครงของเขาหักทุกซีกขาท่อนหนึ่งพุ่งมาราวกับจรวด ชายร่างใหญ่สามคนกระอักเลือดออกจากปากและล้มลงไปข้า
หลังจากที่นายป้าวพาคนเข้ามา ก็ตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์ในลานบ้าน หลังจากที่ตกตะลึง เขาก็จ้องเขม็งไปที่เย่เฟิง! ขณะเดียวกันหลิวหาวกับโจวชิ้งที่กำลังจะแอบหนีออกไปเงียบๆก็ต้องหยุดชะงัก เช่นเดียวกับเจ๊หวังที่เป็นเจ้าของบ้านเช่า เพราะพวกเขาได้ยินเสียงตะโกนเรียกของนายกวง คนที่มาคือผู้ที่จะมาช่วยนายกวงอย่างนั้นหรือ และฟังจากชื่อที่นายกวงเรียกนั้น เห็นได้ชัดว่าต้องเก่งกาจกว่าเขาเสียแน่ “เฮียป้าว ท่านมาพอดีเลย ไอ่เด็กคนนี้แหละที่ทำให้พี่น้องของเราต้องบาดเจ็บ เขาลงมืออย่างโหดร้าย! ท่านต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อผมและพี่น้องของเรานะ!” หลังจากที่นายกวงพูดอย่างนั้นไป เขาก็มองไปที่เย่เฟิง และสีหน้าก็เปลี่ยนจากความตื่นตระหนกเป็นความภาคภูมิใจและดุร้ายอีกครั้ง "นี่!ไอ่หนู อย่าคิดว่าตัวเองเก่งเรื่องการต่อสู้มากไปหน่อยเลย ทักษะแมวสามขาของแกไม่ควรเอามาพูดถึงต่อหน้านายท่านป้าวหรอก! นายท่านป้าวน่ะคือผู้ฝึกต่อสู้ตัวจริง! พลังของเขาสามารถบดขยี้แกจนตายตามต้องการได้เลย!และพลังของฉันก็เทียบอะไรไม่ได้เลยเมื่ออยู่ต่อหน้านายท่านป้าว! แกเจอดีแน่! ฮ่าๆๆๆ……” เสียงพูดค่อยๆเบาลง หลิวหาวกับโจวชิ้งและเจ้
เกิดอะไรขึ้น?นี่มันเรื่องอะไรกัน?ชายยากจนคนนึง ไม่เลยว่าจะได้รับการสนับสนุนและความเคารพจากเฮียกวงเมื่อเห็นเห็นจุดจบของเฮียกวง โจวชิ้งและหลิวห่าวเพียงแค่รู้สึกเหมือนน่องของตัวเองหมุนรอบๆ"คุณเย่พวกมัน... "อาเปามองไปที่ชายหญิงคู่นึงแล้วถามไปว่าเขาไม่แน่ใจว่าสองคนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงยังไม่บุ่มบ่ามทำอะไรไป"ไล่พวกมันไปให้พ้น!"เย่เฟิงพูดอย่างเย็นชาท่ามกลางเสียงพูดไม่มีแม้แต่อารมณ์ความรู้สึกใดๆ หากเมื่อก่อนเค้าเคยเพ้อฝันเกี่ยวกับโจวชิ้งผู้หญิงคนนี้มาก่อน ภาพเหล่านั้นนี้ก็คงหายไปหมดแล้วเพียงแต่ว่าโจวชิ้งเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของ นั่วนั่ว ดังนั้นเย่เฟิงจึงไม่สามารถลงมื่วเย่เฟิงลงมือกับเธอได้"เอาล่ะ พวกฉันจะไปจะไสหัวไปให้พ้นๆสะเมื่อได้ยินสิ่งนี้หลิวหาว รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เขาดึงโจงชิ้งที่ยังคงจ้องเขม็งเย่เฟิงและวิ่งหัวซุกหัวซุนไป"คุณเย่ คุณได้ช่วยปู่ของฉันไว้ในครั้งที่แล้วในตอนนั้นฉันรีบไปส่งคุณปู่ที่โรงพยาบาล ฉันจึงไม่มีเวลาได้ขอบคุณคุณเลย!”“คราวนี้พ่อและลูกของฉันอยากจะเชิญคุณมาเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างเป็นทางการ ไม่ทราบว่า คุณเย่พอจะมีเวลาไหม”“ห
เย่เฟิงขอให้อาเปาไปโรงพยาบาลก่อน และจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้กับนั่วนั่วจากนั้นพาเจ้าตัวเล็กไปด้วยและมุ่งหน้าไปที่บ้านซ่งด้วยกันวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้น ลูกสาวมีเรื่องต้องเข้าโรงพยาบาลเขาเลยไม่ค่อยสบายใจนั่วนั่วดีใจมากเมื่อได้ยินว่าพ่อจะพาไปบ้านคนอื่นในฐานะแขกจริงๆเด็กอายุ 5 ขวบควรเข้าเรียนอนุบาลแล้ว แต่เนื่องจากอากา รป่วยของนั่วนั่ว จึงไม่มีโอกาสได้เรียนเลยดังนั้นนั่วนั่วจึงมักจะเหงามากและหวังว่าจะได้พบปะผู้คนมากขึ้นพอถึงบ้านซ่งก็เห็นเพียงแค่ชายชราสองคนนั่งตรงข้ามกันในลานบ้านและกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่ฝั่งขวาของซ่งเหล่าเย๋ หยวนหยวนเด็กน้อยหน้าตาน่ารักกำลังกอดตุ๊กตาบาร์บี้และมองดูปู่ของเขาเล่นหมากรุกชายชราอีกคนสวมหน้ากากสีน้ำเงิน ดูท่าทีแปลกๆ มีหญิงสาววัยยี่สิบคนนึงยืนอยู่ด้านหลังเขามีรูปร่างหน้าตาที่มีเสน่ห์และมีหุ่นสวยใช่ได้เลยทีเดียวหลังจากที่เย่เฟิงเข้ามา เขาก็มองไปที่ชายชราที่สวมหน้ากากอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็ล้มลงบนตัวเด็กสาวคนนั้นหลังจากจ้องมองกันสักพัก สีหน้าของเขาก็แปลกไป"ดูอะไรห้ะ?"เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของเย่เฟิง จู่ๆ หญิงสาวก็เลิกคิ้วขึ้นและดุด่าเ
เมื่อมองไปรอบๆ เขาเห็นหลิงเอ๋อจ้องมองไปที่เย่เฟิงด้วยความโกรธ ราวกับว่ากำลังมองพวกอันธพาลหรือพวกคนโกหก"ดูสมองฉันสิ ฉันลืมแนะนำให้พวกนายรู้จักไปเลย เหล่าเป่ย หลิงเอ๋อ นี่คือหมอเย่เฟิง ต้องขอบคุณหมอเย่ที่ทำหายให้ฉันหายป่วยในวันนั้น ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่มีชีวิตรอดถรอดมาถึงทุกวันนี้!แม้แต่หมอซุนก็ยังเคารพหมอเย่เป็นอย่างสูงเลยนะนี่ เล่าเป่ย บางทีนายอาจให้หมอเย่ตรวจโรคให้ได้นะ บางทีอาจจะ... "“ที่ข้าเป็นมันคืออาการบาดเจ็บ ไม่ใช่โรค ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้หรอกและอีกอย่าง ถึงแม้จะรักษาได้ ฉันก็ไม่รักษาหรอก นี่เทียบเท่ากับเหรียเลยนะเหรียญรางวัลของฉันเลยนะ!"เป่ยเหล่าโบกมืออย่างไม่เห็นด้วยและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง:"อีกอย่าง ฉันไม่เคยเห็นหมอมหัศจรรย์ที่อายุน้อยขนาดนี้มาก่อนเลย"ขณะที่เขาพูด เห็นได้ชัดว่าเขาเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเย่เฟิง“เหรียญรางวัลงั้นหรอ?”เย่เฟิงมองไปที่เหล่าเป่ยและเลิกคิ้วขึ้น"ใช่! ปีนั้นได้สู้รบกับศัตรูต่างชาติ เหล่าเป่ยได้รับบาดเจ็บ สำหรับพวกเราแล้ว อาการบาดเจ็บเหล่านี้เปรียบเสมือนเหรียญรางวัล และความดีความชอบ! แต่น่าเสียดาย ตรงที่เหล่าเป่ยได้รับบาดเจ็
นั่วนั่วกับหยวนหยวนกำลังเล่นด้วยกัน และอาเปาถูกทิ้งให้ดูแลเด็กน้อยทั้งสองขณะที่คนอื่นๆ เข้าไปในบ้านตามคำขอของเย่เฟิง ผู้อาวุโสซ่งสั่งให้มีคนส่งเข็มเงินมาคู่หนึ่งเป่ยเหล่านอนลงและถอดหน้ากากออกก่อนที่จะ"เปิดเผย"เย่เฟิง เขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีหลังจากถอดหน้ากากออก ท่านผู้อาวุโสซ่งก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนเก่าของเขาแม้แต่หลิงเอ๋อที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดทั้งปีก็ยังรู้สึกหนาวสั่นและเป็นทุกข์! !ยังไงสะ เป่ยเหล่าก็ไม่ยอมให้หลานสาวเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขาได้อย่างง่ายดายเขาเองก็รู้ดีว่ามันน่ากลัวแค่ไหน!ใบหน้าของเป่ยเหล่าบิดเบี้ยวไปหมด! ดั้งจมูกเอียงไปทางซ้าย และคางเอียงไปทางขวา แม้กระทั่งฟันก็บิดเบี้ยวไปหมดมีรอยแผลเป็นกลมๆ ที่น่าตกใจคือแก้มทั้งสองข้างมีรอย!ใบหน้าที่เกินกว่าจะจดจำและไม่อาจทนมองดูได้!หลิฃเอ๋อร์ปิดปากของเธอและในดวงตาของเธอค่อยมีน้ำตาเมื่อเห็นปู่ของเธอแบบนี้ เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งหากมีใครสามารถรักษาคุณปู่ได้จริงๆ ไม่เพียงแต่จะเปลื้องผ้าให้ดูให้ไปนอนด้วยก็ย่อมได้แต่ยังไงก็ตามเธอก็ไม่เชื่อว่าคนโกหกที่ชื่อเย่คนนี้จะท
แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้ยินวิธีการดังกล่าวมาก่อน แต่ในฐานะนักรบ เป่ยเหล่าก็เข้าใจดีว่ามันน่าเหลือเชื่อแค่ไหน!หลิงเอ๋อร์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่คาดคิดว่าปู่จะช่วยคนโกหกคนนี้ตำหนิเธอในขณะนี้ เย่เฟิงพูดอย่างจริงจัง:"วีระบุรุษเก่าได้โปรดอย่าพูดเลย และห้ามลงมือใด ๆ !""โอ้! โอเค! โอเค!"เป่ยเหล่าพูดอยู่เสมอว่าเขาไม่อยากรักษา โดยบอกว่าใบหน้านี้ที่ผิดปกติ เป็นสิ่งที่เขาภาคภูมิใจแต่ในความเป็นจริงมีเพียงเขาเองเท่านั้นที่รู้ว่าคำพูดเหล่านี้เป็นเพียงการปลอบใจตัวเองในความสิ้นหวังทำไมเขาถึงไม่อยากถอดหน้ากากล่ะ? ทำไมถึงไม่อยากเห็นแสงสว่างอีกครั้ง?หลังจากหลายปีมานี้ เขาก็ยอมแพ้อย่างสมบูรณ์แล้วอย่างไรก็ตามในเวลานี้ เย่เฟิงยอมทำให้เขาเห็นแสงสว่างที่ริบหรี่!ดังนั้นเป่ยเหล่าซึ่งมีนิสัยไม่มีเหตุผลจึงตกลงเหมือนเด็กดีแล้วก็ผิดปากพร้อมนั่งอย่างนิ่งเฉยหลังจากนั้น ขณะที่เย่เฟิงค่อย ๆ แทงเข็มเข้าไปทีละเข็ม ฉากที่น่าอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น!ประการแรกรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเป่ยเหล่าจางลง จากนั้นใบหน้าที่บิดเบี้ยวจะค่อยๆ รีเซ็ตจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพลังมังกรในร่างกายของเย่เฟิงนั้นอ่อนโยน แต่เมื่อมัน
ส่วนสถานการณ์ของเจ้าสามและเจ้าสี่ไม่ชัดเจนนักผู้อาวุโสหลีหน้าเสียต่อหน้าหลีเอียนและเย่เฟิงมานักต่อนัก สุดท้ายยังต้องยอมจำนนอย่างน่าอับอายอีกเธอในตอนนี้ไม่ถูกกับครอบครัวลูกชายคนโตเลยแม้แต่นิด!ดังนั้นเธอย่อมต้องสนับสนุนคนที่ไม่ถูกกับอีกฝ่ายเช่นเดียวกันอยู่แล้วซึ่งคนคนนั้น ก็มีเพียงหลีเทียนกัง ลูกชายคนรองเท่านั้น…หลังจากที่กลับจากคฤหาสน์ตระกูลหลี ทันทีที่หลีเทียนกังขึ้นรถไป หลี่เยว่ผิวและหลีถิงที่รออยู่บนรถก่อนแล้วก็เอ่ยถามอย่างรอไม่ไหว“ที่รัก ผู้อาวุโสเป็นยังไงบ้าง? ใกล้จะไม่ไหวแล้วใช่ไหม?”ภรรยาคนนี้ทำหน้าตั้งตารอ“พ่อคะ พ่อต้องทำให้ย่าเขียนพินัยกรรมมอบหุ้นส่วนทั้งหมดให้พ่อก่อนที่ท่านจะตายนะคะ!”หลีถิงเองก็ทำหน้าโลภมากหลีเทียนกังแค่นเสียงเย็นชา แล้วโบกมืออย่างอารมณ์เสีย “คิดอะไรอยู่น่ะ? ผู้อาวุโสยังไม่ตายเร็วๆ นี้หรอก หมอบอกว่าแค่พักผ่อนดีๆ รักษาอาการป่วยให้ดี ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง!”เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่เยว่ผิงและหลีถิงก็เผยสีหน้าผิดหวังออกมาหลีเทียนกังเห็นดังนั้น ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า “แต่ผมขู่ผู้อาวุโสไป ให้ท่านรู้สึกว่าตัวเองเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วแล
เมื่อเห็นท่าทางของลูกชายคนรอง ผู้อาวุโสหลีก็รู้สึกไม่ดี!ท่าทีของอีกฝ่าย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตนใกล้จะตายแล้วอย่างไรอย่างนั้น"เป็นอะไรกันแน่? บอกมา!"ผู้อาวุโสหลีถามเสียงเข้ม สีหน้ายิ่งแดงก่ำกว่าเดิมพร้อมไอเป็นครั้งคราว"แม่ ไม่มีอะไรจริงๆ แม่พักผ่อนให้สบายเถอะ"หลีเทียนกังพยายามปลอบแต่ผู้อาวุโสหลียังจับตาดูลูกชายอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจ "เฮ้อ…ฉันเองก็อายุมากแล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่แปลก! เพียงแต่…ฉันไม่ยอม!"เธอพูดพลางตบโต๊ะด้วยความโกรธหลังจากใช้ชีวิตอย่างเด็ดเดี่ยวมาตลอด สุดท้ายเธอกลับพ่ายแพ้ให้กับหลานสาวตัวเอง จนถึงขั้นเสียบริษัทยาไปทั้งหมดความรู้สึกนี้ยากที่จะทำใจยอมรับได้ แม้จะเป็นวาระสุดท้ายก็ตาม!"แม่ครับ ผมจะช่วยกู้ศักดิ์ศรีกลับมาให้แม่เอง!"หลีเทียนกังกัดฟันและกล่าวด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นครั้งนี้ไม่ใช่การแสร้งทำ!เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ครอบครัวเขาหน้าด้านหน้าทนไปขอหลีเอียน แต่กลับถูกขับไล้ออกมาอย่างไร้เยื่อใย ในใจเขาเองก็รู้สึกอับอายและโกรธมากเช่นกัน"แม่ ถึงแม้เราจะเสียเปรียบเรื่องบริษัทยา แต่เราสามารถหาวิธีอื่นจัดการครอบครัวพี่ใหญ่ได้นี่ครับ!หลีหย่วนยังไงก็
“ราคาสูง? สูงแค่ไหน?”เย่เฟิงขมวดคิ้วถาม“ยกตัวอย่างเช่น ยาหนึ่งเม็ดจากตระกูลนี้ ราคาก็สูงถึงหลักสิบล้าน ส่วนทักษะวิชาการต่อสู้บางเล่มอาจทะลุไปถึงร้อยล้านเลย...”หลีหยวนเล่าความเป็นมาของตระกูลกู่นี้ให้เย่เฟิงฟังตระกูลกู่เป็นตระกูลที่เงียบสงบและไม่เผยตัวต่อสาธารณะ แต่ก็แข็งแกร่งมากพวกเขาไม่ทำธุรกิจข้างนอก แต่ก็ร่ำรวยมหาศาลลำพังแค่งานประมูลหนึ่งครั้ง ก็สามารถทำรายได้ถึงหลายพันหลายหมื่นล้านแล้วยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลนี้ยังเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญฝีมือสูงที่สามารถรับงานต่างๆ ได้ แต่ค่าจ้างก็แพงมากเช่นกันแน่นอนว่าความสามารถของยอดฝีมือที่ส่งไปนั้น ก็เก่งกาจมากเช่นกันเฉินจิงเทียนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักสู้อันดับหนึ่งในมณฑลเจียง ยังอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญบางคนในตระกูลนี้ด้วยซ้ำ เพียงแค่พวกเขาไม่เปิดเผยตัวเท่านั้นหลังจากที่หลีหย่วนพูดจบแล้ว เย่เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและรู้สึกหนักใจตระกูลกู่จะมีผู้เชี่ยวชาญหรือยอดฝีมืออะไรไม่เกี่ยวกับเขา สิ่งที่เขาต้องการคือของประมูลราคาสูงลิ่วที่หลีหย่วนพูดถึงตามที่หลีหย่วนกล่าว ราคาของหยกพลังวิญญาณนั่น เผลอๆ อาจสูงถึงร้อยล้านเลยก็ได้
ใช่แล้ว หลีเอียนรู้เรื่องจี้หยกรูปมังกรของเย่เฟิงตอนที่เย่เฟิงโดนรถของเธอชนแล้วกระเด็นไป ตอนนั้นเขากำจี้หยกชิ้นนั้นไว้แน่น หลีเอียนจึงจำมันได้ขึ้นใจอีกทั้งตอนที่เย่อินเสวียนหยิบภาพวาดออกมา หลีเอียนเองก็สงสัยอยู่ในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมาเมื่อได้ยินคำขู่ของหลีเอียน สีหน้าของเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาแฝงด้วยความเย็นชา “คุณกำลังขู่ผมอยู่เหรอ?”หลีเอียนที่เห็นสายตาเย็นชาของเย่เฟิง ก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย ในใจเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความไม่พอใจ เธอจ้องมองเขาอย่างน้อยใจ“ใช่ ฉันขู่คุณ แล้วจะทำไม? ยังจะกล้าขัดคำสั่งฉันไหม?”เย่เฟิงถอนหายใจเล็กน้อย รู้สึกปั่นป่วนในใจเมื่อเห็นท่าทางของเธอ สุดท้ายเขาก็ยอมจำนน“โอเคๆ ผมจะทำตามที่คุณบอก โอเคไหม คุณภรรยาผู้ยิ่งใหญ่ของผม...แต่คุณต้องช่วยผมเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะ”หลีเอียนจ้องเขาด้วยสายตาไม่พอใจแล้วพูดขึ้น “ก็ต้องดูพฤติกรรมของคุณแล้ว”“ผมว่าผมก็ทำตัวดีมาตลอดนะ”“แย่สุดๆ!”หลีเอียนกัดฟันและพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชาทำให้เย่เฟิงได้แต่นั่งหน้าหมอง พร้อมคิดในใจว่า(ผู้หญิง เหอะๆ…เปลี่ยนอารมณ์ง่ายเหมือนเปลี่ยนหน้าหนังสือเลย!
สวี่ซีเหยียนหน้าซีดด้วยความกลัว "เย่เฟิง ช่วยหน่อยเถอะนะ เห็นแก่ที่ฉันกับเอียนเอียนเป็นเพื่อนกัน นายอย่าถือสาฉันเลยนะ ช่วยฉันด้วย…ฉันไม่อยากโดนหนอนพิษ..."เหล่าทายาทตระกูลใหญ่ทั้งหลายต่างพากันตกใจกลัว ร้องขอความช่วยเหลืออย่างหมดท่า"หึๆ ตอนนี้รู้สึกกลัวแล้วเหรอ? ไม่ต้องตกใจไป หนอนพิษเพิ่งเข้าไปไม่นาน ยังอยู่แค่ในกระเพาะอาหารของพวกเธอ ยังไม่เข้ากระแสเลือดกลับไปเอาผงสารส้มละลายน้ำร้อน แล้วก็ล้วงคอให้อาเจียนออกมา อาเจียนออกมาให้หมดจนไม่มีอะไรเหลือค้างอยู่"เย่เฟิงพูดนิ่งๆเมื่อพูดจบ เหล่าทายาทตระกูลใหญ่ต่างรีบพุ่งออกจากห้อง ไม่รอช้าแม้แต่วินาทีเดียวเซียวคุนกับถงซวี่เย่ยิ่งรู้สึกศรัทธาและเคารพเย่เฟิงมากขึ้นไปอีกหลังจากนั้น เซียวคุนก็เปลี่ยนห้องเพื่อทานอาหารกันสี่คนแบบเรียบง่ายหนึ่งชั่วโมงต่อมา...เย่เฟิงและหลีเอียนออกมาจากร้านเชียนเว่ยเซวียน กำลังจะขึ้นรถไปส่งบอสสาวสวยกลับบ้านหลีเอียนเดินตามหลังเย่เฟิง มองเย่เฟิงที่เดินนำหน้าไปอย่างไม่สนใจใยดีด้วยสายตาที่มีแววขุ่นเคืองตอนทานอาหารเมื่อครู่ หลีเอียนเห็นเซียวคุนหลงใหลและอ่อนโยนกับเย่อินเสวียน ก็รู้สึกแปลกๆ แล้วแม้จะรู้ว่าเซ
หลังจากหายใจได้ไม่กี่อึดใจ เซียวคุนก็รู้สึกถึงความขมคาวในลำคอของเขา"แหวะ!" ทันใดนั้น เขาก็อาเจียนออกมา!พบว่ามีหนอนสีแดงสดตัวหนึ่งถูกอาเจียนออกมาจากปากของเขา!"อ๊า!" ฉากนี้ทำให้หญิงสาวบางคนในที่นั้นกรีดร้องออกมาส่วนคนอื่นๆ ก็มองด้วยความตกใจกลัว รู้สึกขนลุกและหัวใจเต้นแรงเซียวคุนที่ตอนนี้สีหน้ากลับมาเป็นปกติ แววตาที่เคยหลงใหลในเย่อินเสวียนหายไป แทนที่ด้วยความสับสนสงสัยเขามองดูหนอนพิษที่ตัวเองอาเจียนออกมาอย่างตกใจและโมโห "เสวียนเอ๋อร์ ฝีมือคุณจริงๆ เหรอ?"แต่เย่อินเสวียนกลับไม่สนใจเขาเลย สำหรับเธอแล้ว เซียวคุนก็แค่เครื่องมือเท่านั้นในเมื่อเครื่องมือถูกทำลาย เธอก็มองเย่เฟิงด้วยความโกรธแค้น"ไอ้ผู้ชายบ้า มาขัดขวางฉันอีกแล้ว! วอนหาที่ตาย!”เธอด่าด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะเคลื่อนไหวพุ่งตรงไปหาเย่เฟิงอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งทำเป็นมีดแล้วฟันไปที่คอของเขา ส่งเสียงฟาดลมอันดุดันออกมาเย่เฟิงเบิกตากว้าง แล้วรีบรับมือทันที!ปัง! ปัง! ปัง...ทั้งสองกระโดดเหยียบบนโต๊ะ ต่อสู้กันไปมาสามครั้งในพริบตาเดียว เย่อินเสวียนส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะถอยร่นกลับด้วยแรงผลักจากนั้นใช้
ดูเหมือนจะรู้สึกโกรธเย่เฟิงขึ้นมาเล็กน้อย"พี่เย่ พี่หมายความว่าไง? เสวียนเอ๋อร์ทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ หรือว่าผมไปทำอะไรให้พี่?”คุณชายเซียวถามด้วยสีหน้ามืดมนหลีเอียนเองก็มองเย่เฟิงอย่างไม่เข้าใจ แต่เธอก็ไม่ได้แตะต้องแก้วเหล้านั้น เพราะเธอเชื่อว่าเย่เฟิงคงไม่พูดหรือทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลรวมถึงถงซวี่เย่ เขาลังเลเล็กน้อยแล้ววางแก้วลงด้วยเช่นกันลูกชายคนสำคัญของถงฟากรุ๊ปยังคงมีความเยือกเย็นอยู่บ้างเนื่องจากเย่เฟิงเพิ่งรักษาแม่ของเขาให้หาย ถงซวี่เย่จึงมีความไว้วางใจที่ยากจะอธิบายต่อเย่เฟิง เมื่อเย่เฟิงบอกว่าอย่าดื่ม เขาจึงไม่ดื่มและรอดูสถานการณ์ในขณะนั้นเอง เย่เฟิงก็แสดงสีหน้าจริงจังและพูดกับเย่อินเสวียนทีละคำว่า "ฟ่งหวงเตี่ยนโถว (ฟินิกซ์พยักหน้า)! เป็นเทคนิคสุดยอดในการใช้หนอนพิษแห่งมู่เจียง! คุณเย่ คุณคือใครกันแน่? แล้วมาที่หยุนเฉิงเพื่อจุดประสงค์อะไร?"เมื่อคำพูดจบลง คนอื่นๆ บนโต๊ะต่างแสดงสีหน้าไม่แน่ใจ"ฟ่งหวงเตี่ยนโถวอะไรกัน? หนอนพิษอะไร? นายพูดเหลวไหลอะไรอยู่น่ะ?"สวี่ซีเหยียนหัวเราะเยาะและถามคนอื่นๆ ก็มองเย่เฟิงเหมือนว่าเขาเป็นคนบ้าเช่นกันส่วนเย่อินเสวียนก็แสดงสีหน้าใส
เย่เฟิงจะไม่เคยเห็นได้อย่างไร!จี้หยกรูปมังกรที่อยู่ในภาพนั้นก็คือสมบัติตกทอดของตระกูลที่ปู่และพ่อของเขาเคยให้ไว้!เพราะจี้หยกนี้ ทำให้เขาเปลี่ยนชะตาชีวิตและได้รับความสามารถพิเศษหลายอย่างทุกวันนี้ แม้จี้หยกนี้จะหมดแสงเงางดงามไปนานแล้ว แต่เย่เฟิงก็ยังเก็บรักษามันไว้ในตู้เซฟที่บ้านของเขาเป็นอย่างดีคาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมีใครบางคนมาตามหาจี้หยกนี้?แถมที่บังเอิญยิ่งกว่าคือ คนที่ตามหา ก็แซ่เย่เหมือนเขาด้วย!แต่ด้วยความที่เย่เฟิงไม่ไว้วางใจเย่อินเสวียน เขาจึงไม่คิดจะบอกความจริงกับเธอ"อา น่าเสียดายจังค่ะ!"เย่อินเสวียนกล่าวด้วยความเสียดาย พร้อมกับส่ายหัวเบาๆ"คุณเย่เลือกคนถามได้ดีจริงๆ ทุกคนที่นี่ไม่รู้ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไง?"สวี่ซีเหยียนหันปากค่อนขอดเย่เฟิงอีกครั้งแม้ว่าเซียวคุนและถงซวี่เย่จะดูเกรงใจเย่เฟิงมาก แต่เธอกลับมองว่าเย่เฟิงยังคงเป็นแค่คนที่ต้องพึ่งพาผู้หญิงอยู่ ฟลานเดอร์ทำให้เธอเสียหน้าไปมาก เธอจึงไม่อยากเห็นสามีของหลีเอียนได้หน้ามากไปกว่าเธอด้วยความรู้สึกเช่นนี้ เธออยากจะทำให้เย่เฟิงต่ำตมมากจริงๆ"ใช่ครับ ผมไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว"เย่เฟิงยักไหล่ ไม่สนใจคำพูดของ
หลีเอียนหลุดขำเบาๆ พลางส่ายหัวสวี่ซีเหยียนหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย เธอหันไปตบฟลานเดอร์เต็มแรง "ไอ้เลว! แกกล้าหลอกฉันเหรอ? ออกไป! ไปให้พ้น! ฉันเสียหน้าเพราะแกคนเดียว!"ฟลานเดอร์ยกมือขึ้นจับหน้าที่โดนตบ แล้วรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่างหมดสภาพแต่ทันทีที่เขาออกไป เขาก็ถูกผู้จัดการเถิงพร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาขวางเอาไว้เพราะบัตรวีไอพีระดับเพชรที่เขาใช้ มันไม่ใช่ของเขาจริงๆ แต่เป็นของลูกค้าคนหนึ่งที่ทำหายไว้"ซีเหยียน ผู้ชายดีๆ ในเยียนเซียมีตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ทำไมเธอถึงเลือกคบกับคนต่างชาติที่เป็นนักต้มตุ๋นแบบนี้ล่ะ? ยังไงซะ ตระกูลสวี่ก็นับว่าเป็นตระกูลใหญ่ในหยุนเฉิง เธอเองก็เป็นคุณหนูของตระกูลสวี่ จะไปภูมิใจอะไรกับแฟนชาวต่างชาตินักหนา?สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่ภาพลักษณ์ แต่เป็นศักดิ์ศรีของคนเยียนเซีย!"หลีเอียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“เธอ…ฉัน…”สวี่ซีเหยียนรู้สึกอับอายแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีแต่คนในงานวันนี้ล้วนแต่เป็นลูกหลานคนสำคัญในหยุนเฉิงทั้งนั้น เธอจึงไม่กล้าเดินออกไป"เอาล่ะๆ คุณสวี่ก็โดนหลอกเหมือนกันนี่นา! ทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหม งั้นเรามาสั่งอาหารกันดีกว่า"เย