“เธอหามันมากี่คน ฉันก็จะฆ่ามันกี่คน!”ขณะที่เขาพูด เขาก็ทุบของในห้องทุกอย่างที่สามารถจะทุบได้ จนในห้องแทบจะยับเยินชายหนุ่มที่ว่าก็คือฉู่ทียนหลง ลูกชายคนโตของตระกูลฉู่เขาสาบานว่าจะเอาหลีเอียนมาเป็นของเขาให้ได้!ในความเป็นจริงแม้ว่าจะเอาอีกฝ่ายมาเป็นของตัวเองได้แต่ฉู่เทียนหลงก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะเขานั้นมีข้อบกพร่องทางร่างกายและยังมีตั้งแต่เด็ก!แต่ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสร้างนิสัยที่บิดเบี้ยวและความปราถนาที่ต้องการครอบครองในแบบวิปริต! !……สองวันต่อมาเย่เฟิงนั่งแท็กซี่และมาถึงบริเวณบังกะโลเก่าซึ่งที่นี่ก็คือบ้านที่เขาเช่าอยู่เพื่อรักษาอาการป่วยของนั่วนั่ว เขาจึงขายบ้านเดิมที่อาศัยอยู่ออกไปและทำได้แค่เช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้นในเวลานี้บนใบหน้าของเย่เฟิงปรากฎรอยยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว!อาการของนั่วนั่วดีขึ้นอย่างสิ้นเชิงซึ่งเธอสามารถออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้านได้แล้ววันนี้เขากลับมาก่อนก็เพื่อทำความสะอาดและเตรียมบ้านอันอบอุ่นให้กับเด็กหญิงตัวน้อยเย่เฟิงที่เข้าใจเรื่องคัมภีร์จักรพรรดิมังกรในขั้นแรกแล้วนั้น มั่นใจอย่างยิ่งว่าอาการป่วยของลูกสาวของเขาจะไม่แย่ลงไปกว่านี้ นอกจา
หลังจากที่อาการของนั่วนั่วแย่ลงและต้องเข้าโรงพยาบาลครั้งที่แล้ว เย่เฟิงก็เก็บข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันแล้วอยู่ในโรงพยาบาลกับลูกสาวของเขาแต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากไม่ได้กลับบ้านมาสักพักเจ้าของบ้านเช่าก็ไม่แม้แต่จะทำการทักทาย แถมยังมาไล่กันออกเลยหรอ?แล้วทำไมเย่เฟิงถึงต้องไปเล่า?ค่าเช่าบ้านก็จ่ายแล้ว และเขาก็มีสิทธิ์ในการอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้เพียงเพราะเจ้าของบ้านเช่าดูถูกคนอื่นและคิดว่าเขาไม่มีเงินที่จะต่อสัญญาเช่า ก็เลยไล่เขาออกก่อนกำหนด?เย่เฟิงนั้นได้รับโชคบางอย่าง แต่โชคนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นตัวเงินครั้งที่แล้วหลีเอียนจ่ายแค่ค่ารักษาพยาบาลให้นั่วนั่วเท่านั้นและไม่ได้ช่วยเย่เฟิงจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นอย่างอื่นแต่ใด ซึ่งเย่เฟิงในตอนนี้ไม่มีเงินที่จะไปหาที่อยู่อื่นแล้วยิ่งกว่านั้นนั่วนั่วกำลังรอกลับบ้านอยู่มันจะเศร้าสลดหดหู่เพียงใดหากพวกเขาสองพ่อลูกถูกไล่ออกมา“ไม่ออก?แกจะเชื่อมั้ยฉันสามารถหาคนมาเล่นงานแล้วไล่แกออกได้”เจ้าของบ้านชี้ไปที่หน้าของเย่เฟิงและด่าสาปอย่างเย่อหยิ่งทันใดนั้น ก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้นมา“เย่เฟิงนี่แกแม้แต่ค่าเช่าบ้านก็ไม่มีจ่ายจนต้องถูกไล่ออ
โจวชิ้งยิ้มเยาะเย้ยด้วย ใบหน้าแสดงความเหยียดหยามและอำมหิต "ใครจะมาเมตตาอะไรกับคุณ?คุณคู่ควรหรอ ถ้าจะโทษกัน ก็ต้องโทษที่คุณมันทั้งยากจนทั้งเสแสร้ง! ของไร้ประโยชน์อย่างคุณสมควรถูกเหยียบให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าเท้านั้น!”“แม่งเอ้ย ข้ากำลังพูดกับแกอยู่นะ ไอ้หนู คุกเข่าลงซะ!”เมื่อนายกวงเห็นว่าเย่เฟิงเพิกเฉยต่อเขา เขาก็บันดาลโทสะทันทีและกล่าวอย่างดุเดือด“ขอโทษที ขาผมมันไม่ค่อยดี คงคุกเข่าให้ไม่ได้หรอก!”เย่เฟิงกล่าวอย่างไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา“ไอบ้านี่! ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันจะรักษามันให้แกเอง! รออะไรอยู่ล่ะ จัดการมันซะ!”นายกวงพูดด้วยสีหน้าดุร้ายวินาทีต่อมา ลูกสมุนของเฮียกวงก็รุมล้อมเย่เฟิงอย่างทันที“เหอะ...ให้แกไปไม่ยอมไป! ตอนนี้ฉันคงไม่ต้องไปหาคนมาไล่แกแล้ว มีคนมาจัดการคนจนตรอกอย่างแกแล้ว”เมื่อเห็นเช่นนี้ เจ้าของบ้านเช่าก็กลับพูดออกมาอย่างยินดี เช่นกันวินาทีต่อมาฉากที่ทำให้คนถึงกับต้องอ้าปากค้างก็ปรากฏขึ้นผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!เย่เฟิงชกออกไป สีข้างของอันธพาลคนหนึ่งก็ยุบหักลงไป กระดูกซี่โครงของเขาหักทุกซีกขาท่อนหนึ่งพุ่งมาราวกับจรวด ชายร่างใหญ่สามคนกระอักเลือดออกจากปากและล้มลงไปข้า
หลังจากที่นายป้าวพาคนเข้ามา ก็ตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์ในลานบ้าน หลังจากที่ตกตะลึง เขาก็จ้องเขม็งไปที่เย่เฟิง! ขณะเดียวกันหลิวหาวกับโจวชิ้งที่กำลังจะแอบหนีออกไปเงียบๆก็ต้องหยุดชะงัก เช่นเดียวกับเจ๊หวังที่เป็นเจ้าของบ้านเช่า เพราะพวกเขาได้ยินเสียงตะโกนเรียกของนายกวง คนที่มาคือผู้ที่จะมาช่วยนายกวงอย่างนั้นหรือ และฟังจากชื่อที่นายกวงเรียกนั้น เห็นได้ชัดว่าต้องเก่งกาจกว่าเขาเสียแน่ “เฮียป้าว ท่านมาพอดีเลย ไอ่เด็กคนนี้แหละที่ทำให้พี่น้องของเราต้องบาดเจ็บ เขาลงมืออย่างโหดร้าย! ท่านต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อผมและพี่น้องของเรานะ!” หลังจากที่นายกวงพูดอย่างนั้นไป เขาก็มองไปที่เย่เฟิง และสีหน้าก็เปลี่ยนจากความตื่นตระหนกเป็นความภาคภูมิใจและดุร้ายอีกครั้ง "นี่!ไอ่หนู อย่าคิดว่าตัวเองเก่งเรื่องการต่อสู้มากไปหน่อยเลย ทักษะแมวสามขาของแกไม่ควรเอามาพูดถึงต่อหน้านายท่านป้าวหรอก! นายท่านป้าวน่ะคือผู้ฝึกต่อสู้ตัวจริง! พลังของเขาสามารถบดขยี้แกจนตายตามต้องการได้เลย!และพลังของฉันก็เทียบอะไรไม่ได้เลยเมื่ออยู่ต่อหน้านายท่านป้าว! แกเจอดีแน่! ฮ่าๆๆๆ……” เสียงพูดค่อยๆเบาลง หลิวหาวกับโจวชิ้งและเจ้
เกิดอะไรขึ้น?นี่มันเรื่องอะไรกัน?ชายยากจนคนนึง ไม่เลยว่าจะได้รับการสนับสนุนและความเคารพจากเฮียกวงเมื่อเห็นเห็นจุดจบของเฮียกวง โจวชิ้งและหลิวห่าวเพียงแค่รู้สึกเหมือนน่องของตัวเองหมุนรอบๆ"คุณเย่พวกมัน... "อาเปามองไปที่ชายหญิงคู่นึงแล้วถามไปว่าเขาไม่แน่ใจว่าสองคนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงยังไม่บุ่มบ่ามทำอะไรไป"ไล่พวกมันไปให้พ้น!"เย่เฟิงพูดอย่างเย็นชาท่ามกลางเสียงพูดไม่มีแม้แต่อารมณ์ความรู้สึกใดๆ หากเมื่อก่อนเค้าเคยเพ้อฝันเกี่ยวกับโจวชิ้งผู้หญิงคนนี้มาก่อน ภาพเหล่านั้นนี้ก็คงหายไปหมดแล้วเพียงแต่ว่าโจวชิ้งเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของ นั่วนั่ว ดังนั้นเย่เฟิงจึงไม่สามารถลงมื่วเย่เฟิงลงมือกับเธอได้"เอาล่ะ พวกฉันจะไปจะไสหัวไปให้พ้นๆสะเมื่อได้ยินสิ่งนี้หลิวหาว รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เขาดึงโจงชิ้งที่ยังคงจ้องเขม็งเย่เฟิงและวิ่งหัวซุกหัวซุนไป"คุณเย่ คุณได้ช่วยปู่ของฉันไว้ในครั้งที่แล้วในตอนนั้นฉันรีบไปส่งคุณปู่ที่โรงพยาบาล ฉันจึงไม่มีเวลาได้ขอบคุณคุณเลย!”“คราวนี้พ่อและลูกของฉันอยากจะเชิญคุณมาเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างเป็นทางการ ไม่ทราบว่า คุณเย่พอจะมีเวลาไหม”“ห
เย่เฟิงขอให้อาเปาไปโรงพยาบาลก่อน และจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้กับนั่วนั่วจากนั้นพาเจ้าตัวเล็กไปด้วยและมุ่งหน้าไปที่บ้านซ่งด้วยกันวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้น ลูกสาวมีเรื่องต้องเข้าโรงพยาบาลเขาเลยไม่ค่อยสบายใจนั่วนั่วดีใจมากเมื่อได้ยินว่าพ่อจะพาไปบ้านคนอื่นในฐานะแขกจริงๆเด็กอายุ 5 ขวบควรเข้าเรียนอนุบาลแล้ว แต่เนื่องจากอากา รป่วยของนั่วนั่ว จึงไม่มีโอกาสได้เรียนเลยดังนั้นนั่วนั่วจึงมักจะเหงามากและหวังว่าจะได้พบปะผู้คนมากขึ้นพอถึงบ้านซ่งก็เห็นเพียงแค่ชายชราสองคนนั่งตรงข้ามกันในลานบ้านและกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่ฝั่งขวาของซ่งเหล่าเย๋ หยวนหยวนเด็กน้อยหน้าตาน่ารักกำลังกอดตุ๊กตาบาร์บี้และมองดูปู่ของเขาเล่นหมากรุกชายชราอีกคนสวมหน้ากากสีน้ำเงิน ดูท่าทีแปลกๆ มีหญิงสาววัยยี่สิบคนนึงยืนอยู่ด้านหลังเขามีรูปร่างหน้าตาที่มีเสน่ห์และมีหุ่นสวยใช่ได้เลยทีเดียวหลังจากที่เย่เฟิงเข้ามา เขาก็มองไปที่ชายชราที่สวมหน้ากากอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็ล้มลงบนตัวเด็กสาวคนนั้นหลังจากจ้องมองกันสักพัก สีหน้าของเขาก็แปลกไป"ดูอะไรห้ะ?"เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของเย่เฟิง จู่ๆ หญิงสาวก็เลิกคิ้วขึ้นและดุด่าเ
เมื่อมองไปรอบๆ เขาเห็นหลิงเอ๋อจ้องมองไปที่เย่เฟิงด้วยความโกรธ ราวกับว่ากำลังมองพวกอันธพาลหรือพวกคนโกหก"ดูสมองฉันสิ ฉันลืมแนะนำให้พวกนายรู้จักไปเลย เหล่าเป่ย หลิงเอ๋อ นี่คือหมอเย่เฟิง ต้องขอบคุณหมอเย่ที่ทำหายให้ฉันหายป่วยในวันนั้น ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่มีชีวิตรอดถรอดมาถึงทุกวันนี้!แม้แต่หมอซุนก็ยังเคารพหมอเย่เป็นอย่างสูงเลยนะนี่ เล่าเป่ย บางทีนายอาจให้หมอเย่ตรวจโรคให้ได้นะ บางทีอาจจะ... "“ที่ข้าเป็นมันคืออาการบาดเจ็บ ไม่ใช่โรค ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้หรอกและอีกอย่าง ถึงแม้จะรักษาได้ ฉันก็ไม่รักษาหรอก นี่เทียบเท่ากับเหรียเลยนะเหรียญรางวัลของฉันเลยนะ!"เป่ยเหล่าโบกมืออย่างไม่เห็นด้วยและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง:"อีกอย่าง ฉันไม่เคยเห็นหมอมหัศจรรย์ที่อายุน้อยขนาดนี้มาก่อนเลย"ขณะที่เขาพูด เห็นได้ชัดว่าเขาเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเย่เฟิง“เหรียญรางวัลงั้นหรอ?”เย่เฟิงมองไปที่เหล่าเป่ยและเลิกคิ้วขึ้น"ใช่! ปีนั้นได้สู้รบกับศัตรูต่างชาติ เหล่าเป่ยได้รับบาดเจ็บ สำหรับพวกเราแล้ว อาการบาดเจ็บเหล่านี้เปรียบเสมือนเหรียญรางวัล และความดีความชอบ! แต่น่าเสียดาย ตรงที่เหล่าเป่ยได้รับบาดเจ็
นั่วนั่วกับหยวนหยวนกำลังเล่นด้วยกัน และอาเปาถูกทิ้งให้ดูแลเด็กน้อยทั้งสองขณะที่คนอื่นๆ เข้าไปในบ้านตามคำขอของเย่เฟิง ผู้อาวุโสซ่งสั่งให้มีคนส่งเข็มเงินมาคู่หนึ่งเป่ยเหล่านอนลงและถอดหน้ากากออกก่อนที่จะ"เปิดเผย"เย่เฟิง เขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีหลังจากถอดหน้ากากออก ท่านผู้อาวุโสซ่งก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนเก่าของเขาแม้แต่หลิงเอ๋อที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดทั้งปีก็ยังรู้สึกหนาวสั่นและเป็นทุกข์! !ยังไงสะ เป่ยเหล่าก็ไม่ยอมให้หลานสาวเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขาได้อย่างง่ายดายเขาเองก็รู้ดีว่ามันน่ากลัวแค่ไหน!ใบหน้าของเป่ยเหล่าบิดเบี้ยวไปหมด! ดั้งจมูกเอียงไปทางซ้าย และคางเอียงไปทางขวา แม้กระทั่งฟันก็บิดเบี้ยวไปหมดมีรอยแผลเป็นกลมๆ ที่น่าตกใจคือแก้มทั้งสองข้างมีรอย!ใบหน้าที่เกินกว่าจะจดจำและไม่อาจทนมองดูได้!หลิฃเอ๋อร์ปิดปากของเธอและในดวงตาของเธอค่อยมีน้ำตาเมื่อเห็นปู่ของเธอแบบนี้ เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งหากมีใครสามารถรักษาคุณปู่ได้จริงๆ ไม่เพียงแต่จะเปลื้องผ้าให้ดูให้ไปนอนด้วยก็ย่อมได้แต่ยังไงก็ตามเธอก็ไม่เชื่อว่าคนโกหกที่ชื่อเย่คนนี้จะท