“เธอหามันมากี่คน ฉันก็จะฆ่ามันกี่คน!”ขณะที่เขาพูด เขาก็ทุบของในห้องทุกอย่างที่สามารถจะทุบได้ จนในห้องแทบจะยับเยินชายหนุ่มที่ว่าก็คือฉู่ทียนหลง ลูกชายคนโตของตระกูลฉู่เขาสาบานว่าจะเอาหลีเอียนมาเป็นของเขาให้ได้!ในความเป็นจริงแม้ว่าจะเอาอีกฝ่ายมาเป็นของตัวเองได้แต่ฉู่เทียนหลงก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะเขานั้นมีข้อบกพร่องทางร่างกายและยังมีตั้งแต่เด็ก!แต่ด้วยเหตุนี้ เขาจึงสร้างนิสัยที่บิดเบี้ยวและความปราถนาที่ต้องการครอบครองในแบบวิปริต! !……สองวันต่อมาเย่เฟิงนั่งแท็กซี่และมาถึงบริเวณบังกะโลเก่าซึ่งที่นี่ก็คือบ้านที่เขาเช่าอยู่เพื่อรักษาอาการป่วยของนั่วนั่ว เขาจึงขายบ้านเดิมที่อาศัยอยู่ออกไปและทำได้แค่เช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้นในเวลานี้บนใบหน้าของเย่เฟิงปรากฎรอยยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว!อาการของนั่วนั่วดีขึ้นอย่างสิ้นเชิงซึ่งเธอสามารถออกจากโรงพยาบาลและกลับบ้านได้แล้ววันนี้เขากลับมาก่อนก็เพื่อทำความสะอาดและเตรียมบ้านอันอบอุ่นให้กับเด็กหญิงตัวน้อยเย่เฟิงที่เข้าใจเรื่องคัมภีร์จักรพรรดิมังกรในขั้นแรกแล้วนั้น มั่นใจอย่างยิ่งว่าอาการป่วยของลูกสาวของเขาจะไม่แย่ลงไปกว่านี้ นอกจา
หลังจากที่อาการของนั่วนั่วแย่ลงและต้องเข้าโรงพยาบาลครั้งที่แล้ว เย่เฟิงก็เก็บข้าวของที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันแล้วอยู่ในโรงพยาบาลกับลูกสาวของเขาแต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากไม่ได้กลับบ้านมาสักพักเจ้าของบ้านเช่าก็ไม่แม้แต่จะทำการทักทาย แถมยังมาไล่กันออกเลยหรอ?แล้วทำไมเย่เฟิงถึงต้องไปเล่า?ค่าเช่าบ้านก็จ่ายแล้ว และเขาก็มีสิทธิ์ในการอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้เพียงเพราะเจ้าของบ้านเช่าดูถูกคนอื่นและคิดว่าเขาไม่มีเงินที่จะต่อสัญญาเช่า ก็เลยไล่เขาออกก่อนกำหนด?เย่เฟิงนั้นได้รับโชคบางอย่าง แต่โชคนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นตัวเงินครั้งที่แล้วหลีเอียนจ่ายแค่ค่ารักษาพยาบาลให้นั่วนั่วเท่านั้นและไม่ได้ช่วยเย่เฟิงจ่ายค่าใช้จ่ายอื่นอย่างอื่นแต่ใด ซึ่งเย่เฟิงในตอนนี้ไม่มีเงินที่จะไปหาที่อยู่อื่นแล้วยิ่งกว่านั้นนั่วนั่วกำลังรอกลับบ้านอยู่มันจะเศร้าสลดหดหู่เพียงใดหากพวกเขาสองพ่อลูกถูกไล่ออกมา“ไม่ออก?แกจะเชื่อมั้ยฉันสามารถหาคนมาเล่นงานแล้วไล่แกออกได้”เจ้าของบ้านชี้ไปที่หน้าของเย่เฟิงและด่าสาปอย่างเย่อหยิ่งทันใดนั้น ก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้นมา“เย่เฟิงนี่แกแม้แต่ค่าเช่าบ้านก็ไม่มีจ่ายจนต้องถูกไล่ออ
โจวชิ้งยิ้มเยาะเย้ยด้วย ใบหน้าแสดงความเหยียดหยามและอำมหิต "ใครจะมาเมตตาอะไรกับคุณ?คุณคู่ควรหรอ ถ้าจะโทษกัน ก็ต้องโทษที่คุณมันทั้งยากจนทั้งเสแสร้ง! ของไร้ประโยชน์อย่างคุณสมควรถูกเหยียบให้อยู่ใต้ฝ่าเท้าเท้านั้น!”“แม่งเอ้ย ข้ากำลังพูดกับแกอยู่นะ ไอ้หนู คุกเข่าลงซะ!”เมื่อนายกวงเห็นว่าเย่เฟิงเพิกเฉยต่อเขา เขาก็บันดาลโทสะทันทีและกล่าวอย่างดุเดือด“ขอโทษที ขาผมมันไม่ค่อยดี คงคุกเข่าให้ไม่ได้หรอก!”เย่เฟิงกล่าวอย่างไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา“ไอบ้านี่! ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันจะรักษามันให้แกเอง! รออะไรอยู่ล่ะ จัดการมันซะ!”นายกวงพูดด้วยสีหน้าดุร้ายวินาทีต่อมา ลูกสมุนของเฮียกวงก็รุมล้อมเย่เฟิงอย่างทันที“เหอะ...ให้แกไปไม่ยอมไป! ตอนนี้ฉันคงไม่ต้องไปหาคนมาไล่แกแล้ว มีคนมาจัดการคนจนตรอกอย่างแกแล้ว”เมื่อเห็นเช่นนี้ เจ้าของบ้านเช่าก็กลับพูดออกมาอย่างยินดี เช่นกันวินาทีต่อมาฉากที่ทำให้คนถึงกับต้องอ้าปากค้างก็ปรากฏขึ้นผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!เย่เฟิงชกออกไป สีข้างของอันธพาลคนหนึ่งก็ยุบหักลงไป กระดูกซี่โครงของเขาหักทุกซีกขาท่อนหนึ่งพุ่งมาราวกับจรวด ชายร่างใหญ่สามคนกระอักเลือดออกจากปากและล้มลงไปข้า
หลังจากที่นายป้าวพาคนเข้ามา ก็ตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์ในลานบ้าน หลังจากที่ตกตะลึง เขาก็จ้องเขม็งไปที่เย่เฟิง! ขณะเดียวกันหลิวหาวกับโจวชิ้งที่กำลังจะแอบหนีออกไปเงียบๆก็ต้องหยุดชะงัก เช่นเดียวกับเจ๊หวังที่เป็นเจ้าของบ้านเช่า เพราะพวกเขาได้ยินเสียงตะโกนเรียกของนายกวง คนที่มาคือผู้ที่จะมาช่วยนายกวงอย่างนั้นหรือ และฟังจากชื่อที่นายกวงเรียกนั้น เห็นได้ชัดว่าต้องเก่งกาจกว่าเขาเสียแน่ “เฮียป้าว ท่านมาพอดีเลย ไอ่เด็กคนนี้แหละที่ทำให้พี่น้องของเราต้องบาดเจ็บ เขาลงมืออย่างโหดร้าย! ท่านต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อผมและพี่น้องของเรานะ!” หลังจากที่นายกวงพูดอย่างนั้นไป เขาก็มองไปที่เย่เฟิง และสีหน้าก็เปลี่ยนจากความตื่นตระหนกเป็นความภาคภูมิใจและดุร้ายอีกครั้ง "นี่!ไอ่หนู อย่าคิดว่าตัวเองเก่งเรื่องการต่อสู้มากไปหน่อยเลย ทักษะแมวสามขาของแกไม่ควรเอามาพูดถึงต่อหน้านายท่านป้าวหรอก! นายท่านป้าวน่ะคือผู้ฝึกต่อสู้ตัวจริง! พลังของเขาสามารถบดขยี้แกจนตายตามต้องการได้เลย!และพลังของฉันก็เทียบอะไรไม่ได้เลยเมื่ออยู่ต่อหน้านายท่านป้าว! แกเจอดีแน่! ฮ่าๆๆๆ……” เสียงพูดค่อยๆเบาลง หลิวหาวกับโจวชิ้งและเจ้
เกิดอะไรขึ้น?นี่มันเรื่องอะไรกัน?ชายยากจนคนนึง ไม่เลยว่าจะได้รับการสนับสนุนและความเคารพจากเฮียกวงเมื่อเห็นเห็นจุดจบของเฮียกวง โจวชิ้งและหลิวห่าวเพียงแค่รู้สึกเหมือนน่องของตัวเองหมุนรอบๆ"คุณเย่พวกมัน... "อาเปามองไปที่ชายหญิงคู่นึงแล้วถามไปว่าเขาไม่แน่ใจว่าสองคนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงยังไม่บุ่มบ่ามทำอะไรไป"ไล่พวกมันไปให้พ้น!"เย่เฟิงพูดอย่างเย็นชาท่ามกลางเสียงพูดไม่มีแม้แต่อารมณ์ความรู้สึกใดๆ หากเมื่อก่อนเค้าเคยเพ้อฝันเกี่ยวกับโจวชิ้งผู้หญิงคนนี้มาก่อน ภาพเหล่านั้นนี้ก็คงหายไปหมดแล้วเพียงแต่ว่าโจวชิ้งเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของ นั่วนั่ว ดังนั้นเย่เฟิงจึงไม่สามารถลงมื่วเย่เฟิงลงมือกับเธอได้"เอาล่ะ พวกฉันจะไปจะไสหัวไปให้พ้นๆสะเมื่อได้ยินสิ่งนี้หลิวหาว รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เขาดึงโจงชิ้งที่ยังคงจ้องเขม็งเย่เฟิงและวิ่งหัวซุกหัวซุนไป"คุณเย่ คุณได้ช่วยปู่ของฉันไว้ในครั้งที่แล้วในตอนนั้นฉันรีบไปส่งคุณปู่ที่โรงพยาบาล ฉันจึงไม่มีเวลาได้ขอบคุณคุณเลย!”“คราวนี้พ่อและลูกของฉันอยากจะเชิญคุณมาเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างเป็นทางการ ไม่ทราบว่า คุณเย่พอจะมีเวลาไหม”“ห
เย่เฟิงขอให้อาเปาไปโรงพยาบาลก่อน และจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้กับนั่วนั่วจากนั้นพาเจ้าตัวเล็กไปด้วยและมุ่งหน้าไปที่บ้านซ่งด้วยกันวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้น ลูกสาวมีเรื่องต้องเข้าโรงพยาบาลเขาเลยไม่ค่อยสบายใจนั่วนั่วดีใจมากเมื่อได้ยินว่าพ่อจะพาไปบ้านคนอื่นในฐานะแขกจริงๆเด็กอายุ 5 ขวบควรเข้าเรียนอนุบาลแล้ว แต่เนื่องจากอากา รป่วยของนั่วนั่ว จึงไม่มีโอกาสได้เรียนเลยดังนั้นนั่วนั่วจึงมักจะเหงามากและหวังว่าจะได้พบปะผู้คนมากขึ้นพอถึงบ้านซ่งก็เห็นเพียงแค่ชายชราสองคนนั่งตรงข้ามกันในลานบ้านและกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่ฝั่งขวาของซ่งเหล่าเย๋ หยวนหยวนเด็กน้อยหน้าตาน่ารักกำลังกอดตุ๊กตาบาร์บี้และมองดูปู่ของเขาเล่นหมากรุกชายชราอีกคนสวมหน้ากากสีน้ำเงิน ดูท่าทีแปลกๆ มีหญิงสาววัยยี่สิบคนนึงยืนอยู่ด้านหลังเขามีรูปร่างหน้าตาที่มีเสน่ห์และมีหุ่นสวยใช่ได้เลยทีเดียวหลังจากที่เย่เฟิงเข้ามา เขาก็มองไปที่ชายชราที่สวมหน้ากากอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็ล้มลงบนตัวเด็กสาวคนนั้นหลังจากจ้องมองกันสักพัก สีหน้าของเขาก็แปลกไป"ดูอะไรห้ะ?"เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของเย่เฟิง จู่ๆ หญิงสาวก็เลิกคิ้วขึ้นและดุด่าเ
เมื่อมองไปรอบๆ เขาเห็นหลิงเอ๋อจ้องมองไปที่เย่เฟิงด้วยความโกรธ ราวกับว่ากำลังมองพวกอันธพาลหรือพวกคนโกหก"ดูสมองฉันสิ ฉันลืมแนะนำให้พวกนายรู้จักไปเลย เหล่าเป่ย หลิงเอ๋อ นี่คือหมอเย่เฟิง ต้องขอบคุณหมอเย่ที่ทำหายให้ฉันหายป่วยในวันนั้น ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่มีชีวิตรอดถรอดมาถึงทุกวันนี้!แม้แต่หมอซุนก็ยังเคารพหมอเย่เป็นอย่างสูงเลยนะนี่ เล่าเป่ย บางทีนายอาจให้หมอเย่ตรวจโรคให้ได้นะ บางทีอาจจะ... "“ที่ข้าเป็นมันคืออาการบาดเจ็บ ไม่ใช่โรค ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้หรอกและอีกอย่าง ถึงแม้จะรักษาได้ ฉันก็ไม่รักษาหรอก นี่เทียบเท่ากับเหรียเลยนะเหรียญรางวัลของฉันเลยนะ!"เป่ยเหล่าโบกมืออย่างไม่เห็นด้วยและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง:"อีกอย่าง ฉันไม่เคยเห็นหมอมหัศจรรย์ที่อายุน้อยขนาดนี้มาก่อนเลย"ขณะที่เขาพูด เห็นได้ชัดว่าเขาเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเย่เฟิง“เหรียญรางวัลงั้นหรอ?”เย่เฟิงมองไปที่เหล่าเป่ยและเลิกคิ้วขึ้น"ใช่! ปีนั้นได้สู้รบกับศัตรูต่างชาติ เหล่าเป่ยได้รับบาดเจ็บ สำหรับพวกเราแล้ว อาการบาดเจ็บเหล่านี้เปรียบเสมือนเหรียญรางวัล และความดีความชอบ! แต่น่าเสียดาย ตรงที่เหล่าเป่ยได้รับบาดเจ็
นั่วนั่วกับหยวนหยวนกำลังเล่นด้วยกัน และอาเปาถูกทิ้งให้ดูแลเด็กน้อยทั้งสองขณะที่คนอื่นๆ เข้าไปในบ้านตามคำขอของเย่เฟิง ผู้อาวุโสซ่งสั่งให้มีคนส่งเข็มเงินมาคู่หนึ่งเป่ยเหล่านอนลงและถอดหน้ากากออกก่อนที่จะ"เปิดเผย"เย่เฟิง เขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีหลังจากถอดหน้ากากออก ท่านผู้อาวุโสซ่งก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนเก่าของเขาแม้แต่หลิงเอ๋อที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดทั้งปีก็ยังรู้สึกหนาวสั่นและเป็นทุกข์! !ยังไงสะ เป่ยเหล่าก็ไม่ยอมให้หลานสาวเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขาได้อย่างง่ายดายเขาเองก็รู้ดีว่ามันน่ากลัวแค่ไหน!ใบหน้าของเป่ยเหล่าบิดเบี้ยวไปหมด! ดั้งจมูกเอียงไปทางซ้าย และคางเอียงไปทางขวา แม้กระทั่งฟันก็บิดเบี้ยวไปหมดมีรอยแผลเป็นกลมๆ ที่น่าตกใจคือแก้มทั้งสองข้างมีรอย!ใบหน้าที่เกินกว่าจะจดจำและไม่อาจทนมองดูได้!หลิฃเอ๋อร์ปิดปากของเธอและในดวงตาของเธอค่อยมีน้ำตาเมื่อเห็นปู่ของเธอแบบนี้ เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งหากมีใครสามารถรักษาคุณปู่ได้จริงๆ ไม่เพียงแต่จะเปลื้องผ้าให้ดูให้ไปนอนด้วยก็ย่อมได้แต่ยังไงก็ตามเธอก็ไม่เชื่อว่าคนโกหกที่ชื่อเย่คนนี้จะท
“ไม่! ไม่! ถึงผมกล้าขนาดไหน ผมก็ไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก!”จู้ชิวหนานส่ายหัว พูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว“อย่างนั้นก็ดี! คืนนี้สองทุ่ม ตระกูลหลีจะจัดประชุมตระกูล จำไว้ให้ดี ต้องไปให้ถึง!”เย่เฟิงฮึดฮัด แล้วก็ตบไหล่ลูกศิษย์หนุ่ม สั่งเสียทั้งสองคนพอพูดจบ ก็จากไป!หลังจากที่เย่เฟิงไปไกลแล้ว ดวงตาของลูกศิษย์หนุ่มก็เป็นประกายแวบหนึ่ง“อาจารย์ พวกเราจะไปช่วยเขาเป็นพยานจริงๆ เหรอครับ? หรือว่าพวกเราจะหนีไปดีกว่าครับ? กลับไปโม๋ตู ด้วยอิทธิพลของพวกเราในโม๋ตู ไม่เชื่อหรอกว่าเขายังจะกล้าตามไปฆ่าพวกเราที่โม๋ตูถึงตอนนั้น คนที่ตายอาจจะเป็นเขาก็ได้”จู้ชิวหนานหัวเราะเยาะ: “หนีเหรอ? ทำไมต้องหนี? ฉันมีแผนอยู่แล้ว”ขณะพูด ดวงตาของเขาก็แวบแววร้ายกาจเปลี่ยนใจเหรอ?เด็กน้อย แกยังอ่อนหัดอยู่มาก!แกคิดว่าจะขู่ฉันได้งั้นเหรอ?ถึงเวลานั้น ฉันจะทำให้แกกับหลีเทียนกังอึ้งไปเลย!พวกแกทะเลาะกัน ฉันก็รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ฮ่าๆๆ………ค่ำคืนนั้น ที่บ้านเก่าตระกูลหลี!เห็นได้ชัดว่าในลานบ้านกว้างใหญ่ ผู้คนมากมายรวมตัวกันอยู่สมาชิกตระกูลหลี ไม่ว่าจะเป็นสายตรงหรือสายรอง วันนี้มารวมตัวกันหมด!ผู้อาวุโสหลีนั่งอย
ปัง!แต่ในขณะนั้น เห็นเงาของคนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหน้ารถของพวกเขา ขวางทางนักฆ่าเอาไว้“เย่…เย่เฟิง?”จู้ชิวหนานเห็นอีกฝ่าย จึงแสดงสีหน้าประหลาดใจ“เย่เฟิง ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”จู้ชิวหนานลดกระจกลง ตะโกนเสียงดัง: “ถ้าคุณช่วยผม ผมจะช่วยคุณกล่าวโทษหลีเทียนกัง! ไอ้สารเลวนั่น เขามาฆ่าผมเพื่อปิดปากจริงๆ!”เย่เฟิงหันมามองเขา พูดเสียงเคร่งเครียด: “นี่คุณพูดเองนะ!”“สบายใจได้! สบายใจได้! ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร หลีเทียนกังจะฆ่าผม ต่อไปนี้ผมจะช่วยคุณแน่นอน”จู้ชิวหนานพูดอย่างมั่นใจ“ใช่! ใช่ พวกเราสามารถเป็นพยานให้คุณได้!”ลูกศิษย์หนุ่มก็พูดเสียงดังด้วยความรีบร้อนในขณะนั้น เห็นนักฆ่าหลายคน จ้องมองเย่เฟิงด้วยสายตาที่โหดเหี้ยมหัวหน้าพูดเสียงเย็นชา: “ไอ้หนุ่ม ถ้าไม่อยากตาย ก็ไปให้พ้น! อย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่น!”“ขอโทษนะ พวกเขามีประโยชน์ต่อผม! ผมก็อยากจะบอกคุณเหมือนกัน ถ้าไม่อยากตาย ก็ไปให้พ้น!”เย่เฟิงส่ายหัว เตือนอย่างเรียบเฉย"แม่งเอ้ย! ยุคนี้ยังมีคนหาตายอยู่!""ไป! ฆ่าเขาก่อน แล้วจัดการคนในรถ!"นักฆ่าที่เป็นผู้นำหัวเราะเยาะและยกมือสั่งในวินาทีนั้น นักฆ่าหลายคนไม่พูดพล่ามทำ
ถึงแม้ว่าจู้ชิวหนานจะตกใจอยู่ภายในใจ แต่เขาก็จะไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาดเห็นได้จากใบหน้าที่เขาแสดงสีหน้าเยาะเย้ย พูดอย่างไม่รู้ไม่ชี้ว่า: “คุณเย่ ต้องบอกเลยว่าจินตนาการของคุณนั้นค่อนข้างจะหลากหลาย แต่ขออภัย ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาของคุณเท่านั้น ไม่มีหลักฐานใดๆ!ในใบสั่งยาของผมก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีเนื้อเป็ดแห้งทุกอย่าง เป็นเพียงจินตนาการของคุณเท่านั้น! ถ้าไม่มีอะไรแล้ว กรุณาไปได้เลย ไม่งั้นผมจะแจ้งตำรวจ กล่าวหาคุณบุกรุกบ้านผม!”“ไม่ยอมรับงั้นเหรอ?”เย่เฟิงหัวเราะเยาะ แล้วก็มองหมอเทวดาจู้: “หมอเทวดาจู้ คุณเคยคิดบ้างไหมว่า หลังจากที่คุณช่วยครอบครัวของหลีเทียนกังฆ่าผู้อาวุโสหลี พวกเขาจะทำอย่างไรกับคุณ?เรื่องนี้แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ปิดบังเอาไว้ และคุณก็รู้เรื่องมากเกินไปคุณคิดว่าพวกเขาฆ่าผู้อาวุโสหลีได้ พวกเขาจะปล่อยคุณไปเหรอ?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหมอเทวดาจู้ก็ฉายแววร้ายกาจ แต่เขาก็ยังหัวเราะเยาะ: “เย่เฟิง ผมไม่เข้าใจเลยว่าคุณกำลังพูดอะไร! ผมช่วยครอบครัวหลีเทียนกังฆ่าคน เป็นเพียงการคาดเดาของคุณเอง!”“มันเป็นความจริงหรือเปล่า ตัวคุณเองก็รู้ดีที่สุด! ผมดูแล้วว่าวันนี้หน้าผ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่เทียนกังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าช้าๆ: “ที่รัก เธอพูดถูก! เรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับ หมอเทวดาจู้รู้มากเกินไป ต้องกำจัดเขา!”พอพูดจบ เขาก็ฮึดฮัด แล้วโทรออก“หลี่แปด จัดการหมอเทวดาจู้!”“ครั้งนี้ เธออย่าลงมือเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเปิดเผย จ้างมือสังหารไปทำ!”……บ่ายวันนั้น ที่คลินิกจู้คังช่วงนี้หมอเทวดาจู้พักอยู่ที่นี่ และบางครั้งก็มาตรวจคนไข้ด้วยตัวเองตอนนี้เขาอยู่บนห้องชั้นบน แพทย์หญิงสวยที่สวยงามคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนตัวเขา ใส่น้ำนันนวดที่บริเวณไตให้เขาแพทย์หญิงสวยคนนั้น เป็น “ลูกศิษย์” ของเขา แต่ความสัมพันธ์ที่สกปรกนั้น ทุกคนต่างก็เข้าใจดี“ฮ่าๆ หมอเทวดาจู้มีความสุขจริงๆ ด้วย!”เสียงเยาะเย้ย ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันหมอเทวดาจู้ที่นอนอยู่ก็ตกใจขึ้น แพทย์หญิงสวยที่อยู่บนหลังเขาก็ร้องเสียงหลงปรากฏว่า มีคนเข้ามาในห้อง โดยที่ทั้งสองคนไม่รู้ตัวมาก่อน“เย่... เย่เฟิง? คุณเข้ามาได้ยังไง? คุณจะทำอะไร?”เมื่อหมอเทวดาจู้เห็นคนที่มา ก็ถามด้วยสีหน้าที่สงสัย“อย่าตึงเครียดขนาดนั้นสิ”เย่เฟิงหัวเราะ แล้วมองไปที่แพทย์หญิงสวยดวงตาของหมอเทวดาจู้
ผู้อาวุโสหลีได้ประกาศแล้ว ว่าจะจัดการประชุมตระกูล ในเวลาสองทุ่ม วันนี้!สมาชิกตระกูลหลี่ทุกคน ต้องเข้าร่วม!แม้กระทั่ง ลูกชายคนโตที่ถูกไล่ออกจากตระกูล ก็ได้รับการแจ้งให้ทราบด้วยแรกเริ่ม สวีเพ่ยเพ่ยไม่อยากเข้าร่วม แต่หลังจากที่หลีเทียนหยางบอกเรื่องที่เย่เฟิงพูดกับเขาในวันนั้น แม่ยายก็ประกาศทันทีว่าจะไป“กลับไปที่ตระกูลหลี่อีกครั้ง? และให้เธอเป็นหัวหน้าตระกูลเหรอ? เสี่ยวเย่พูดอย่างนั้นหรือ?”“ดี งั้นฉันต้องไป! ฉันเชื่อว่าลูกเขยจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง!”สวีเพ่ยเพ่ยพูดหลีเทียนหยางเบ้ปากแรกเริ่ม สวีเพ่ยเพ่ยคัดค้านเรื่องที่ลูกสาวไปคบกับ “ลูกเขย” คนนี้มากกว่าเขาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้...นี่ถือว่าเป็นการที่แม่ยายมองลูกเขย ยิ่งมองยิ่งถูกใจใช่ไหม?“ไปเถอะ! ไม่ว่ายังไง ก็ลองไปดูนายหญิงอีกครั้ง! เฮ้อ...”หลีเทียนหยางพยักหน้า เมื่อนึกถึงสภาพที่อ่อนแอและป่วยของแม่ ในครั้งที่แล้ว เขารู้สึกไม่สบายใจเขาไม่ได้คิดที่จะเป็นหัวหน้าตระกูลหลี่คนต่อไป เพียงแค่ต้องการกลับไปที่ตระกูลก็พอถ้าหากสามารถได้รับหุ้นของตระกูลกลับคืนมาเท่าที่ควรจะเป็นของเขา เขาก็พอใจแล้วและในขณะเดียวกันครอบครัวของหลี่เทีย
เย่เฟิงได้ยินดังนั้น จึงแสดงสีหน้าผิดหวัง: “ก็ได้ ช่วยฉันดูด้วย!”“ครับ!”หลี่ชื่อตอบรับหลังจากให้หลี่ชื่อไปแล้ว เย่เฟิงก็ได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รับสาย“ใครครับ?”ปลายสาย มีเสียงแหบพร่า: “ฉัน คุณยายของหลีเอียน!”“อ้อ? ผู้อาวุโสหลี?”เย่เฟิงตกใจ แล้วถามด้วยความหมายลึกซึ้งเขารู้ ว่าอีกฝ่ายต้องติดต่อเขามาแน่ตอนนี้ ก็เป็นเช่นนั้น...“ผม เย่เฟิง คำพูดของคุณยังใช้ได้อยู่ไหม?”ผู้อาวุโสหลีถามด้วยเสียงแหบพร่า“คำพูดอะไร?”เย่เฟิงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ปลายสายนั้น เงียบไปนาน แล้วพูดด้วยเสียงเคร่งเครียด: “ฉันอยากมีชีวิตอยู่! ไม่อยากตาย!”“ฮ่าๆ เข้าใจแล้ว! งั้นผมจะไปหาคุณ”เย่เฟิงหัวเราะ แล้ววางสายในเช้าวันนั้น เมื่อเย่เฟิงไปพบกับผู้อาวุโสหลี เธอดูซูบผอมและอ่อนแอมากดูเหมือนว่า เธอจะสิ้นใจได้ทุกเมื่อเย่เฟิงรู้ว่า เนื่องจากผู้อาวุโสหลีอายุมากแล้ว รวมทั้งร่างกายก็เสื่อมโทรมลงมาก ถึงแม้ว่าหมอเทวดาจู้จะหยุดให้ยารักษาที่ทำให้ “พลังชีวิตลดลง” ผู้อาวุโสหลีก็คงอยู่ได้ไม่นานแล้วสามวัน!ถ้าไม่ทำอะไรเลย ผู้อาวุโสหลีก็จะอยู่ได้อีกสามวัน!นี่คือกา
“จี้หยกชิ้นนี้อยู่กับพ่อของฉัน ฉันหาเขาไม่เจอเลย! จะทำอย่างไร มีวิธีอื่นไหม?”เย่เฟิงถามด้วยเสียงเคร่งเครียดถ้าหากเป็นคำสาปจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงว่าจี้หยกมังกรไม่ได้ผล ถึงจะได้ผลก็สายไปแล้ว!จี้หยกชิ้นนั้น ถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายของเขาไปแล้ว!เย่อินเสวียนได้ยินคำตอบของเย่เฟิง ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายออกมาที่จริงแล้ว เธอสงสัยมาตลอดว่าเย่เฟิงไม่ได้พูดความจริงกับเธอ จึงอยากจะลองถามเย่เฟิง เพื่อให้เขาเอาจี้หยกมังกรไปให้ลูกสาวแต่ไม่คิดว่า เขายังพูดแบบนี้ดูเหมือนว่าจี้หยกจะอยู่กับพ่อของเขาจริงๆ?เย่อินเสวียนดูเหมือนจะหมดความสนใจที่จะพูดคุยกับเย่เฟิงอีก จึงส่ายหัว: “ไม่มีแล้ว! เว้นแต่...”“เว้นแต่ว่ายังไง?”เย่เฟิงถามอย่างเสียงดังเย่อินเสวียนมองเย่เฟิง ดวงตาของเธอมีแววเยาะเย้ย: “เว้นแต่ คุณจะไปที่สกุลเย่แห่งพลังอันล้ำลึกจากอดีตกาล และให้หัวหน้าตระกูลเย่เป็นคนแก้คำสาปให้ลูกสาวของคุณ! แต่ฉันสามารถบอกคุณได้ว่า นี่แทบจะเป็นไปไม่ได้”เท่าที่ฉันรู้ คุณปู่ของคุณในสมัยนั้น เป็นคนทรยศตระกูลเย่ ถ้าเธอไปที่สกุลเย่แห่งพลังอันล้ำลึกจากอดีตกาล พวกเขาก็จะฆ่าคุณอย่างไม่ลังเล และไม่มีทางที่จะช่
เย่อินเสวียนเห็นเย่เฟิงเป็นเช่นนั้น จึงหรี่ตาลง แล้วพยักหน้า: “นี่คือคำสาป! คำสาปที่สืบทอดกันมาหลายพันปี!”“คำสาป? เกิดอะไรขึ้น? บอกฉันทุกอย่างที่เธอรู้!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่เฟิงรู้สึกตกใจและตื่นเต้นไปหมด“บอกคุณก็ได้! เรามีนามสกุลเย่เหมือนกัน เพราะจริงๆ แล้วเราต่างก็เป็นทายาทของตระกูลลึกลับที่ทรงพลัง นั่นคือ “สกุลเย่แห่งพลังอันล้ำลึกจากอดีตกาล”สกุลเย่แห่งพลังอันล้ำลึกจากอดีตกาล เพื่อควบคุมไม่ให้ผู้เชี่ยวชาญในตระกูลหลุดออกไป และเพื่อป้องกันไม่ให้ใครทรยศตระกูล จึงมีการให้หัวหน้าตระกูลเย่ ทุกๆ รุ่น ให้สมาชิกตระกูลเย่ดื่มยาชนิดหนึ่งไม่ว่าจะเป็นสายตรงหรือสายรอง ผู้เชี่ยวชาญทุกคนก็ต้องดื่ม!ยานี้ คือคำสาปคำสาปนี้จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเย่ที่ดื่มยา แต่จะสืบทอดไปยังลูกหลานรุ่นที่ใกล้ชิดที่สุดภายในสี่รุ่นอย่างสุ่มและลูกสาวของคุณ น่าจะได้รับ “คำสาป” นี้!!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่เฟิงเบิกตากว้าง กำลังประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ในสมองอย่างรวดเร็วสกุลเย่แห่งพลังอันล้ำลึกจากอดีตกาล?เขากลายเป็น ทายาทของตระกูลลึกลับที่ทรงพลัง?และโรคของนั่วนั่ว กลับกลายเป็นคำสาป
คืนนั้น เย่เฟิงนอนไม่หลับทั้งคืน!เขาค้นคว้าความทรงจำในสมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน รวมถึงวิธีการต่างๆ แม้กระทั่งวิธีการที่ผิดปกติหวังเพียงแค่ จะหาทางออก!แต่ก็ไร้ผลดังนั้นเขาจึงออกไปที่ลานบ้าน ฝึกฝนวิชาลับอย่างบ้าคลั่งเย่เฟิงรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็น “วิญญาณมังกรมุ่งมั่นสู่เส้นทางเซียน” หรือ “คัมภีร์จักรพรรดิมังกร” หรือ “วิชาการแอบมองนภามังกร” ในสมองของเขานั้น ถูกปลดปล่อยออกมาเพียงบางส่วนเท่านั้นขั้นสูงกว่านั้น จะค่อยๆ ได้รับรู้เมื่อพลังของเขาเพิ่มขึ้น!อาจถึงเวลานั้น เขาจะสามารถรักษาโรคของลูกสาวได้ และทำให้นั่วนั่วไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคภัยอีกต่อไปเวลาเที่ยงคืน โทรศัพท์ของเขาสั่นขึ้นเมื่อดูแล้ว เป็นวิดีโอที่ซ่งหย่งไท่ส่งมาในเวลานี้ เย่เฟิงรู้แล้วว่า เขาเข้าใจผิดกับตระกูลซ่งอาการของนั่วนั่ว น่าจะไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลซ่งเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขารู้สึกผิดอย่างมากกับปฏิกิริยาและคำพูดของตนเองในตอนนั้นเมื่อเปิดดูวิดีโอ ปรากฏเป็นภาพของหยวนหยวนและนั่วนั่วกำลังเล่นกันเด็กหญิงทั้งสองกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน นั่วนั่วก็ล้มลงไปกับพื้นอย่างกะทันหันเย่เฟิงถอนหายใจ แล้วโทรหาซ่งหย่งไท