เย่เฟิงขอให้อาเปาไปโรงพยาบาลก่อน และจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้กับนั่วนั่วจากนั้นพาเจ้าตัวเล็กไปด้วยและมุ่งหน้าไปที่บ้านซ่งด้วยกันวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้น ลูกสาวมีเรื่องต้องเข้าโรงพยาบาลเขาเลยไม่ค่อยสบายใจนั่วนั่วดีใจมากเมื่อได้ยินว่าพ่อจะพาไปบ้านคนอื่นในฐานะแขกจริงๆเด็กอายุ 5 ขวบควรเข้าเรียนอนุบาลแล้ว แต่เนื่องจากอากา รป่วยของนั่วนั่ว จึงไม่มีโอกาสได้เรียนเลยดังนั้นนั่วนั่วจึงมักจะเหงามากและหวังว่าจะได้พบปะผู้คนมากขึ้นพอถึงบ้านซ่งก็เห็นเพียงแค่ชายชราสองคนนั่งตรงข้ามกันในลานบ้านและกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่ฝั่งขวาของซ่งเหล่าเย๋ หยวนหยวนเด็กน้อยหน้าตาน่ารักกำลังกอดตุ๊กตาบาร์บี้และมองดูปู่ของเขาเล่นหมากรุกชายชราอีกคนสวมหน้ากากสีน้ำเงิน ดูท่าทีแปลกๆ มีหญิงสาววัยยี่สิบคนนึงยืนอยู่ด้านหลังเขามีรูปร่างหน้าตาที่มีเสน่ห์และมีหุ่นสวยใช่ได้เลยทีเดียวหลังจากที่เย่เฟิงเข้ามา เขาก็มองไปที่ชายชราที่สวมหน้ากากอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็ล้มลงบนตัวเด็กสาวคนนั้นหลังจากจ้องมองกันสักพัก สีหน้าของเขาก็แปลกไป"ดูอะไรห้ะ?"เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของเย่เฟิง จู่ๆ หญิงสาวก็เลิกคิ้วขึ้นและดุด่าเ
เมื่อมองไปรอบๆ เขาเห็นหลิงเอ๋อจ้องมองไปที่เย่เฟิงด้วยความโกรธ ราวกับว่ากำลังมองพวกอันธพาลหรือพวกคนโกหก"ดูสมองฉันสิ ฉันลืมแนะนำให้พวกนายรู้จักไปเลย เหล่าเป่ย หลิงเอ๋อ นี่คือหมอเย่เฟิง ต้องขอบคุณหมอเย่ที่ทำหายให้ฉันหายป่วยในวันนั้น ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่มีชีวิตรอดถรอดมาถึงทุกวันนี้!แม้แต่หมอซุนก็ยังเคารพหมอเย่เป็นอย่างสูงเลยนะนี่ เล่าเป่ย บางทีนายอาจให้หมอเย่ตรวจโรคให้ได้นะ บางทีอาจจะ... "“ที่ข้าเป็นมันคืออาการบาดเจ็บ ไม่ใช่โรค ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้หรอกและอีกอย่าง ถึงแม้จะรักษาได้ ฉันก็ไม่รักษาหรอก นี่เทียบเท่ากับเหรียเลยนะเหรียญรางวัลของฉันเลยนะ!"เป่ยเหล่าโบกมืออย่างไม่เห็นด้วยและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง:"อีกอย่าง ฉันไม่เคยเห็นหมอมหัศจรรย์ที่อายุน้อยขนาดนี้มาก่อนเลย"ขณะที่เขาพูด เห็นได้ชัดว่าเขาเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเย่เฟิง“เหรียญรางวัลงั้นหรอ?”เย่เฟิงมองไปที่เหล่าเป่ยและเลิกคิ้วขึ้น"ใช่! ปีนั้นได้สู้รบกับศัตรูต่างชาติ เหล่าเป่ยได้รับบาดเจ็บ สำหรับพวกเราแล้ว อาการบาดเจ็บเหล่านี้เปรียบเสมือนเหรียญรางวัล และความดีความชอบ! แต่น่าเสียดาย ตรงที่เหล่าเป่ยได้รับบาดเจ็
นั่วนั่วกับหยวนหยวนกำลังเล่นด้วยกัน และอาเปาถูกทิ้งให้ดูแลเด็กน้อยทั้งสองขณะที่คนอื่นๆ เข้าไปในบ้านตามคำขอของเย่เฟิง ผู้อาวุโสซ่งสั่งให้มีคนส่งเข็มเงินมาคู่หนึ่งเป่ยเหล่านอนลงและถอดหน้ากากออกก่อนที่จะ"เปิดเผย"เย่เฟิง เขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีหลังจากถอดหน้ากากออก ท่านผู้อาวุโสซ่งก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนเก่าของเขาแม้แต่หลิงเอ๋อที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดทั้งปีก็ยังรู้สึกหนาวสั่นและเป็นทุกข์! !ยังไงสะ เป่ยเหล่าก็ไม่ยอมให้หลานสาวเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขาได้อย่างง่ายดายเขาเองก็รู้ดีว่ามันน่ากลัวแค่ไหน!ใบหน้าของเป่ยเหล่าบิดเบี้ยวไปหมด! ดั้งจมูกเอียงไปทางซ้าย และคางเอียงไปทางขวา แม้กระทั่งฟันก็บิดเบี้ยวไปหมดมีรอยแผลเป็นกลมๆ ที่น่าตกใจคือแก้มทั้งสองข้างมีรอย!ใบหน้าที่เกินกว่าจะจดจำและไม่อาจทนมองดูได้!หลิฃเอ๋อร์ปิดปากของเธอและในดวงตาของเธอค่อยมีน้ำตาเมื่อเห็นปู่ของเธอแบบนี้ เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งหากมีใครสามารถรักษาคุณปู่ได้จริงๆ ไม่เพียงแต่จะเปลื้องผ้าให้ดูให้ไปนอนด้วยก็ย่อมได้แต่ยังไงก็ตามเธอก็ไม่เชื่อว่าคนโกหกที่ชื่อเย่คนนี้จะท
แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้ยินวิธีการดังกล่าวมาก่อน แต่ในฐานะนักรบ เป่ยเหล่าก็เข้าใจดีว่ามันน่าเหลือเชื่อแค่ไหน!หลิงเอ๋อร์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่คาดคิดว่าปู่จะช่วยคนโกหกคนนี้ตำหนิเธอในขณะนี้ เย่เฟิงพูดอย่างจริงจัง:"วีระบุรุษเก่าได้โปรดอย่าพูดเลย และห้ามลงมือใด ๆ !""โอ้! โอเค! โอเค!"เป่ยเหล่าพูดอยู่เสมอว่าเขาไม่อยากรักษา โดยบอกว่าใบหน้านี้ที่ผิดปกติ เป็นสิ่งที่เขาภาคภูมิใจแต่ในความเป็นจริงมีเพียงเขาเองเท่านั้นที่รู้ว่าคำพูดเหล่านี้เป็นเพียงการปลอบใจตัวเองในความสิ้นหวังทำไมเขาถึงไม่อยากถอดหน้ากากล่ะ? ทำไมถึงไม่อยากเห็นแสงสว่างอีกครั้ง?หลังจากหลายปีมานี้ เขาก็ยอมแพ้อย่างสมบูรณ์แล้วอย่างไรก็ตามในเวลานี้ เย่เฟิงยอมทำให้เขาเห็นแสงสว่างที่ริบหรี่!ดังนั้นเป่ยเหล่าซึ่งมีนิสัยไม่มีเหตุผลจึงตกลงเหมือนเด็กดีแล้วก็ผิดปากพร้อมนั่งอย่างนิ่งเฉยหลังจากนั้น ขณะที่เย่เฟิงค่อย ๆ แทงเข็มเข้าไปทีละเข็ม ฉากที่น่าอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น!ประการแรกรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเป่ยเหล่าจางลง จากนั้นใบหน้าที่บิดเบี้ยวจะค่อยๆ รีเซ็ตจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพลังมังกรในร่างกายของเย่เฟิงนั้นอ่อนโยน แต่เมื่อมัน
"หลิงเอ๋อร์ยินดีที่จะยอมรับความพ่ายแพ้! ฉันและปู่ซ่ง ขอตัวลาไปก่อน"เป่ยเหล่ามองดูหลานสาวของเขาอย่างลึกซึ้ง สวมหน้ากากอีกครั้งแล้วเดินออกไปไม่ใช่ว่าเขาทำเพื่อตัวเองถึงขั้นว่าจะขายหลานสาวของตัวเองหรอกแต่หลิงเอ๋อร์ได้เดิมพันกับเย่เฟิง และเป็นเรื่องปกติที่ต้องรักษาคำพูดนอกจากนี้เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือที่หมอเทวดาเย่สนใจหลานสาวของเขา?“นายเย่ดูเหมือนจะเป็นคนตรงไปตรงมานะ ฮ่าฮ่า...”ซ่งเหล่าเย๋พูดอย่างคลุมเครือแล้วเดินตามเธอออกไปแต่ในใจของเขา เขากำลังคิดที่จะแนะนำสาวสวยในวัยที่เหมาะสมจากตระกูลซ่งให้กับเย่เฟิงหมอเทวดาเย่มักในกามไหม?มักในกามก็ดี!เมื่อคุณต้องการทำความรู้จักกับใครสักคน คุณกลัวที่สุดว่าอีกฝ่ายจะไม่มีความปรารถนาหรือความต้องการใดๆเมื่อเห็นปู่ของเธอและคนในตระกูลซ่งออกไป หลิงเอ๋อร์ก็ยืนอยู่ที่นั่นอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาววินาทีต่อมา ดวงตาคู่หนึ่งจ้องมองไปที่เย่เฟิงด้วยสีหน้าราวกับว่าเขาอยากจะกินใครสักคน“คุณมีลูกแล้วแต่คุณกลับหยาบคายและไร้ยางอายมาก !”เธอกัดฟันสาปแช่ง“ผู้ชายก็เป็นเด็กไปจนตาย เธอไม่รู้หรือ?”เย่เฟิงยิ้มและถาม"คุณ……"ใบหน้าของหลิงเอ๋อร์เปลี่ยนเป
ในความทรงจำของเขา นอกเหนือจากวิญญาณมังกรมุ่งมั่นสู่เส้นทางเซียน คัมภีร์จักรพรรดิมังกร และวิชาการแอบมองนภามังกร ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกในนั้น มีท่าออกกำลังกายที่เหมาะกับผู้หญิงมากมาย"จริงหรือ?"หลังจากคำพูดจบลง ดวงตาที่สวยงามของหลิงเอ๋อร์ก็สว่างขึ้นเย่เฟิงพยักหน้า“ตกลง ฉันจะเชื่อคุณสักครั้ง! ถ้าคุณกล้าโกหกฉัน ฉันจะฆ่าคุณ!”“เอาเบอร์โทรศัพท์ของคุณมา!”หลิงเอ๋อร์กัดริมฝีปากของเธอและแสร้งพูดด้วยความดุร้าย……เมื่อเย่เฟิงออกจากตระกูลซ่ง ก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้วซ่งเหล่าเย๋ยืนกรานที่จะให้เขาและนั่วนั่วทานอาหารเย็นก่อน แล้วค่อยให้อาเปาไปส่งเย่เฟิงที่บ้านน่าเสียดายที่เย่เฟิงค้นหาหญ้าไขกระดูกมังกรในห้องยาของตระกูลซ่งแต่ไม่พบอย่างไรก็ตาม ตอนนี้นั่วนั่วยังอาการดีอยู่และยังไม่รีบร้อนผ่านไปอีกสองวัน!ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ก็ช่วยนั่วนั่วลงทะเบียนเรียนแล้วซึ่งได้รับการช่วยเหลือตระกูลซ่ง ทำให้ได้เรียนโรงเรียนอนุบาลเดียวกันกับหยวนหยวนเด็กน้อยทั้งสองมีช่วงเวลาที่ดีในวันนั้นเมื่อรู้ว่าเธอสามารถไปโรงเรียนและเล่นกับเด็กๆ มากมายได้ ช่วงสองวันนี้นั่วนั่วคงมีความสุขมากเช้าวันนี้ หลังจากที
เย่เฟิงจ้องไปที่เหลียงน่าน่า ซึ่งทำให้เลขาคนสวยโกรธทันทีดูถูกเกินไปแล้ว!เหลียงน่าน่ารู้สึกรังเกียจที่ถูกขยะแบบนี้แทะโลมเธอด้วยสายตาหากอีกฝ่ายเป็นชายหนุ่มที่มีอนาคตหรือลูกเศรษฐี หรือแม้ว่าเขาจะเป็นคนแก่ แต่เขามีหน้ามีตา แบบนั้นจะมองก็มองไปเถอะเหลียงน่าน่าอาจจะกระพริบตาส่งซิกกลับไปบ้างแต่ในขณะนี้เขาเป็นแค่ลูกเขยหุ่นเชิดที่ไร้ประโยชน์จ้องมองไปที่ความอวบอึ๋มของเธอ!เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ข้างๆเขาก็ถอนหายใจ:"ไร้ยางอายจริงๆ!"พนักงานที่เดินผ่านไปตอนนี้ชี้ไปที่เย่เฟิง"เกิดอะไรขึ้น?"“ผู้ชายคนนั้นบอกว่าเขาเป็นสามีของคุณหลี!”“คุณหลีมีคู่หมั้นคนใหม่แล้วหรอ?”“คู่หมั้นอะไรกันล่ะ ก็แค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้น! ฮ่าๆ…”"น่าเสียดายจริงๆบอกว่าเป็นคู่หมั้นของคุณหลีแต่ฉันเกรงว่าแม้แต่ปลายนิ้วของคุณหลีคงแตะไม่ได้ด้วยซ้ำ!"“ดูเขาสิ คงหิวมากสินะ ละสายตาจากเลขาเหลียงไม่ได้เลย!”"จุ๊จุ๊..."เมื่อฟังความคิดเห็นอันไม่พึงประสงค์เหล่านี้ ใบหน้าของเย่เฟิงก็มืดมนวินาทีต่อมา เขาพูดกับเหลียงน่าน่าที่ยังคงดูถูกเขาด้วยคำพูดว่า"เลขาเหลียง ผมมาที่บริษัทเพราะเจ้านายของพวกคุณประธานหลีสั่งให้ผ
เหลียงน่าน่าตื่นตระหนกเต็มที่! เย่เฟิงเยาะเย้ยและยื่นมือออกเพื่อดึงเหลียงน่าน่า:"เลขาเหลียง โปรดหลีกทางด้วย!" เหลียงน่าน่าสะดุ้งและพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง เธอขวางประตูสุดกำลังทั้งหมด "คุณเย่ มันไม่ใช่กงการของฉัน! เครื่องดักฟังอันนี้ไม่ใช่ของฉัน คุณจะกล่าวหาฉันอย่างไม่ยุติธรรมไม่ได้!” เธอพิงประตูเพื่อกันไม่ให้เย่เฟิงออกไป และพูดด้วยเสียงคล้ายจะร้องไห้ของเธอ “บอกผมไปมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก! ให้ประธานหลีตัดสินใจด้วยตัวเองเถอะ ว่าเครื่องดักฟังนั้นเป็นของคุณหรือไม่” เย่เฟิงกล่าวอย่างไม่แสดงออก พูดจบเขาก็ยื่นมือออกอีกครั้งเพื่อดึงเหลียงน่าน่าออกไป เหลียงน่าน่าคว้าเย่เฟิงด้วยมือทั้งสอง จากนั้นจึงคุกเข่าลงต่อหน้าเย่เฟิงเสียงดังลั่น "คุณเย่ ฉันขอร้องคุณอย่าบอกประธานหลีเลย! ฉันขอร้องล่ะ!" “ตราบใดที่คุณไม่พูดอะไร ฉันจะทำตามที่คุณสั่งทุกอย่าง!” ขณะที่พูด เลขาสาวสวยก็คว้ามือของเย่เฟิงแล้วยัดเข้าไปที่เสื้อของเธอ ดวงตาของกลมโตคู่หนึ่งกระพริบตาอย่างสิ้นหวังส่งไปที่เย่เฟิงสองสามครั้ง มันเต็มไปด้วยเสน่ห์ เย่เฟิงเยาะเย้ยและเหวี่ยงมือออกไป:"ไปให้พ้น! ประธานหลีคือภรรยาของฉัน คุณเ
ใบหน้าของลู่ไฉ่หยุนเผยความร้ายกาจออกมาชั่วขณะ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเย่เฟิงจริงๆ!เฉาเหนียนถอนหายใจและหันไปพูดกับภรรยาของเขา: “ไฉ่หยุน เราให้เงินกับเย่เฟิงไปดีกว่านะ ถึงยังไงเมื่อก่อนเราก็รับปากเขาไว้แล้ว! ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เฟิง ในวันนั้น หลี่ชื่อคงฆ่าเราทั้งตระกูล…”จริง ๆ แล้ว เฉาเหนียนอยากจ่ายเงิน 4000 ล้านให้เย่เฟิงตามที่เขาเป็นหนี้อยู่ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเงินแล้วจริง ๆหลังจากให้เย่เฟิงไป 2500 ล้านบาทในครั้งแรก เงินทุนของเฉาเหนียนที่เขามีอยู่ก็เหลือน้อยลง เงินอีกส่วนหนึ่งของตระกูลเฉาก็ฝากไว้ในบัญชีของลู่ไฉ่หยุนตอนนี้ถ้าลู่ไฉ่หยุนไม่เห็นด้วย เขาก็นำเงินมาจ่ายเย่เฟิงไม่ได้“เฉาเหนียน คุณโง่หรือเปล่า? วันนั้นปล่อยให้เย่เฟิงมันขอเงินได้ยังไง? นั่นมันเป็นการแบล็กเมล์กันชัดๆ! อีกอย่าง ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ฆ่าหลี่ชื่อเพื่อช่วยเราแก้ปัญหาอย่างสมบูรณ์ แล้วคุณยังจะให้เงินเขาอีกเหรอ? ถุ้ย!!”ลู่ไฉ่หยุนกัดฟันแล้วด่าอย่างดูถูก ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธทันใดนั้นใบหน้าของเฉาเหนียนก็เปลี่ยนเป็นสีแดง: “หลี่ชื่อเป็นลูกชายของผมนะ แล้วเย่เฟิงจะฆ่าเขาได้ยังไง?”เมื่อกล่าวถึงหลี่ชื่อ หัวใจของเฉาเหนียน
“ถ้าพี่มีเงินมากพอก็อาจจะพอซื้อของจากตระกูลกู่ได้มากหน่อย! แน่นอนว่า ถ้ามีพลังมากพอ ก็อาจจะไปปล้นดูก็ได้นะ เหอะๆ…”พอพูดถึงประโยคสุดท้าย หญิงสาวตรงหน้าก็ทำหน้าหยอกล้อ และพูดจาแหย่เย่เฟิงสีหน้าของเย่เฟิงเป็นประกาย และถามออกมาโดยไม่รู้ตัว: “ตระกูลกู่แข็งแกร่งแค่ไหน?”เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่อินเสวียนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง: “ไม่ได้ตั้งใจที่จะปล้นจริงหรอกใช่มั้ย? เท่าที่ฉันรู้ ตระกูลกู่เคยมีผู้นำตระกูลระดับสร้างแก่นลมปราณ ผู้นำตระกูลเฒ่าคนนั้นไม่ได้ปรากฏตัวมาหลายสิบปีแล้ว ไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ส่วนผู้นำตระกูลปัจจุบันกับบรรดาผู้พิทักษ์และผู้อาวุโสหลายคน ต่างก็เป็นจอมยุทธ์ระดับพื้นฐานลมปราณขั้นปลาย”“เอ่อ…”สีหน้าของเย่เฟิงเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินแบบนั้น เขายักไหล่และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นไปหาพวกเขาเพื่อเจรจาแลกเปลี่ยนคงจะดีกว่า”ตามความเข้าใจของเขา ระดับพลังของจิตมังกรบำเพ็ญเซียนถูกแบ่งจากระดับต่ำสุดไปสูงสุดคือ ระดับรวบรวมลมปราณ ระดับพื้นฐานลมปราณ ระดับสร้างแก่นลมปราณ ระดับสำเร็จแก่นลมปราณ ระดับแก่นก่อกำเนิด ระดับก่อรูปธรรม ระดับสูญรูปธรรม ระดับมหายาน ระดับวิบาก รวม 9 ระดับพลัง
เย่เฟิงหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินแบบนั้น: “คราวนี้ คำสาปจะถูกยกเลิกโดยไม่เอ่ยถึงจี้หยกได้ไหม”ครั้งก่อนผู้หญิงคนนี้หลอกเขา บอกว่าเธอสามารถระงับคำสาปได้ด้วยจี้หยกรูปมังกรแล้วครั้งนี้ เธอจะพูดจริงอย่างนั้นเหรอ“ฉัน...ฉันไม่กลัวพี่ทรมานฉันหรือไง ครั้งนี้ทุกอย่างที่ฉันบอกพี่เป็นเรื่องจริงทุกอย่างนะ!”เย่อินเสวียนกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกายเย่เฟิงถามเธออีกครั้งว่าเขาจะตามเจอตระกูลเย่เก่าแก่ได้ยังไง“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน! ตระกูลเย่ที่ซ่อนตัวอยู่ของเราเป็นแค่เครือหนึ่งเท่านั้น มีเพียงหัวหน้าตระกูลและบุคคลสำคัญเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถสืบหาที่ตั้งของตระกูลเย่เก่าแก่ได้! และฉันขอแนะนำว่าอย่ายั่วยุตระกูลเย่เก่าแก่ในตอนนี้จะดีกว่า! ไม่ใช่ว่าฉันดูถูกพี่หรอกนะ อย่าว่าแต่ตระกูลเย่เก่าแก่เลย แค่ตระกูลเครือข่ายแยกย่อยอย่างเราก็สามารถกำจัดพี่ได้ง่ายๆ!!”เย่อินเสวียนเบะปากพูดใบหน้าของเย่เฟิงมืดหม่นราวกับธาราลึก หลังจากพยักหน้า เขาก็จ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเคร่งขรึมเย่อินเสวียนหวาดกลัว ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที: “พี่คิดจะทำอะไร”เธอรับรู้แรงสังหารของเย่เฟิงได้อย่างชัดเจน!ผู้ชายคนนี้ คิดอยาก
แต่มาตอนนี้ จากคำบอกกล่าวของหลานเขอซี เย่เฟิงได้รับรู้ว่าพ่อแม่ของเขา...ตายแล้ว!ดังนั้น การอยู่กับคนไร้ความจริงใจอย่างเย่อินเสวียนจึงไม่มีความหมายอีกต่อไป!ดวงตาคู่งามของเย่อินเสวียนกะพริบสองสามครั้ง ก่อนที่เธอจะกัดฟันแล้วพูดว่า “อยากถามอะไรก็ถามมา!”เย่เฟิงพยักหน้า...ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ เย่อินเสวียนก็ลุกขึ้น แล้ววิ่งพุ่งไปทางประตูหวังจะหลบหนี!แต่ว่าเย่เฟิงเตรียมพร้อมไว้ก่อนอยู่แล้ว เมื่อเขาเห็นแบบนั้น เขาก็ตบคู่ต่อสู้ด้วยฝ่ามือของเขา!ฝ่ามือของเขาเปล่งพลังชี่แท้แข็งแกร่งและพุ่งออกไปราวกับรอยประทับฝ่ามืออรหันต์โจมตีเข้าที่ด้านหลังเย่อินเสวียนด้วยความเร็วดุจสายฟ้า!พลั่ก!ทันใดนั้น เย่อินเสวียนก็กระอักเลือดออกมา เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสจากฝ่ามือของเย่เฟิงจนล้มลงไปกองอยู่บนพื้น ในการต่อสู้ครั้งแรก เย่อินเสวียนยังหนีรอดจากเงื้อมมือของเย่เฟิงได้แต่ในเมื่อตอนนี้ เย่เฟิงทะลวงถึงระดับพื้นฐานลมปราณแล้ว แล้วเขาจะปล่อยผู้หญิงคนนี้หนีไปได้ยังไง?วินาทีต่อมา เย่เฟิงโยนเย่อินเสวียนลงบนเตียง ดึงผ้าปูที่นอนมาปิดตัวเธอไว้เพื่อปิดร่างกายบอบบางที่ทำให้เขาเลือดสูบฉีดเย่อินเสวียนจ้องมองเขา ก
เมื่อถูกผลักออกในจังหวะเวลาแบบนั้น เย่อินเสวียนตกตะลึงไปชั่วขณะ แววตาของเธอวูบไหวไม่สงบเธอจ้องมองเย่เฟิงอยู่ครู่หนึ่งด้วยความประหลาดใจปนกับความตกใจ จะยังไงเย่อินเสวียนก็ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกปฏิเสธเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากแบบที่หาเจอได้ไม่บ่อยนัก รวมกับเสน่ห์ที่เธอทำใส่เขา เขาน่าจะต้องโดนพลังของกู่เสน่ห์หาถึงจะถูกตามปกติแล้ว ขอแค่เธอกระดิกนิ้วเรียก อีกฝ่ายก็ควรจะลุ่มหลงไปกับร่างกายของเธอสิ!แต่ในเวลาแบบนี้ เขากลับผละตัวเธอออกอย่างนั้นเหรอ?“พี่เฟิง นี่พี่ทำอะไรคะ? ที่ว่ายังไม่ถึงขั้นนั้นหมายความว่ายังไง ฉันชอบพี่มาตั้งนานแล้ว ทั้งที่ฉันทุ่มสุดตัวขนาดนี้แล้วแท้ ๆ ทำไมพี่ยังทำตัวลังเลแบบนี้อยู่อีก นี่พี่ยังเป็นผู้ชายอยู่รึเปล่า”ใบหน้าของเย่อินเสวียนมืดหม่น เธอถามด้วยความไม่พอใจและความขุ่นเคืองเย่เฟิงโบกมือ: “ผมยังไม่พร้อม! วันนี้คุณมาหาผมมีเรื่องอะไรเหรอ เรามาคุยเรื่องจริงจังกันก่อนดีกว่านะ”เย่อินเสวียนกลอกตาใส่เย่เฟิงอย่างเย้ายวน ก่อนจะขมวดคิ้ว “แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องจริงจังหรือไงคะ”ขณะที่เธอพูด เธอก็กัดริมฝีปากแล้วเริ่มเข้าหาเย่เฟิงอีกครั้งโครม!แต่ว่าคราวนี้ เย่เฟิงปล
“ไม่ต้องห่วงหรอก! ผมจะใช้ภาพพวกนี้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด!”“ลองจินตนาการดูสิ ว่ามันจะน่าตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้เปิดภาพถ่ายพวกนี้ในงานแต่งของเย่เฟิงและหลีเอียน?”“ฮ่าฮ่า ๆ ๆ…”ทนายลวีพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์......ขณะเดียวกัน ที่อีกด้านหนึ่งเย่เฟิงและเย่อินเสวียนมาถึงโรงแรม และเปิดห้องห้องหนึ่ง!สิ่งที่เย่เฟิงไม่คาดคิด คือผู้หญิงคนนี้เลือกเปิดห้องสวีทคู่รักจริงๆหลังจากเข้ามาด้านใน ภายในห้องมีไฟสีชมพูสลัว ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกเป็นพิเศษเย่เฟิงเลิกคิ้วมองเย่อินเสวียนด้วยสายตาประหลาดใจทว่ากลับเห็นเพียงดวงตาคู่งามของอีกฝ่าย ร่างกายของเธอราวกับกำลังปล่อยฟีโรโมนชวนให้หลงใหล และทุกการเคลื่อนไหวล้วนสามารถดึงดูดผู้คนจนไม่อาจละสายตานี่มันเสน่ห์เหรอ?ดวงตาของเย่เฟิงหรี่ลง ในใจได้แต่ส่งเสียงฮึเป็นเชิงเยาะเย้ยวินาทีต่อมา เขากลืนน้ำลายและถามว่า “อินเสวียน คุณคงจะไม่...”เย่อินเสวียนหัวเราะเล็กน้อย ก่อนที่วินาทีต่อมา เธอจะเดินกรีดกรายเข้ามายืนอยู่เบื้องหน้าเขา“พี่เฟิง พี่ไม่อยากเหรอคะ? วันนี้ฉันจะทำให้พี่สนุกแทบขาดใจเลยละ!”เธอเหยียดนิ้วเรียวยาวออกกรีดไปตามหน้าอกของเย่เฟิงวิน
เย่เฟิงหัวเราะเยาะวินาทีต่อมา เขาก็เดินไปเปิดประตูข้างที่นั่งคนขับ แล้วดึงเย่อินเสวียนออกมาจากรถก่อนจะคว้าเอวเธอมาโอบอย่างรวดเร็ว!เย่อินเสวียนทำส่งเสียงตกใจเล็กน้อยและเหลือบมองโจวชิง แล้วหันไปคล้องแขนของเธอรอบคอของเย่เฟิง: “พี่เฟิง เรารีบไปกันเถอะค่ะ! ฉันจองห้องที่โรงแรมเอาไว้แล้วนะคะ! ห้องแบบสวีทเลยนะ!”เย่เฟิงสาดสายตามองโจวชิง และพูดอย่างเยาะเย้ย: “โจวชิง เคยได้ยินหรือเปล่าว่าม้าดีไม่กลับไปกินฟางเก่าน่ะ? ต่อให้ผมหิวยังไง ผมก็ไม่กลับไปกินของเหลือทิ้งหรอก! ยิ่งกว่านั้น ผมไม่ได้หิว! ใครบอกคุณว่าผมขาดผู้หญิง”โจวชิงมองเย่อินเสวียนที่อยู่ข้าง ๆ เย่เฟิง ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเธอไม่นึกเลยว่าคนที่อยู่ในรถไม่ใช่นั่วนั่ว แต่กลับเป็น…ผู้หญิงที่สวยหยาดเยิ้มอีกคน!ชายหนุ่มยากจนในตอนนั้น มาตอนนี้กลับถูกรายล้อมไปด้วยสาวสวย!แม้เธอจะมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอรู้สึกละอายเล็กน้อยเมื่อเทียบตัวเองกับเย่อินเสวียนเธอยังนึกว่าเย่เฟิงหลงเธอเข้าแล้วซะอีก ทำแบบนี้มันน่าตลกสิ้นดี!“เย่เฟิง! นี่แกว่าใครเป็นของเหลือทิ้ง? แก ไอ้ผู้ชายชั่ว!”“แกมันคนได้ใหม่ลืมเก่า
“เธอเป็นภรรยาเก่าผมเอง”เย่เฟิงตอบพร้อมขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็เปิดประตูรถลงไปด้วยใบหน้าเย็นชาเมื่อโจวชิงเห็นเขา รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ แล้วเธอก็มองเข้าไปในรถ“นั่วนั่วอยู่ที่ไหน? นั่วนั่วอยู่ในรถหรือเปล่า อาเฟิง ขอฉันเจอหน้าลูกหน่อยได้มั้ย”เย่เฟิงปิดประตูรถและถามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์: “โจวชิง คุณคิดจะทำอะไร”โจวชิงมองเย่เฟิงอย่างมีเยื่อใย สายตาของเธอเผยความอ่อนแอ: “ฉันไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย ฉันแค่คิดถึงคุณกับลูก ก็เลยมาหาคุณและนั่วนั่ว” เธอตอบอย่างไร้เดียงสาเมื่อเห็นท่าทางเสแสร้งของเธอ เย่เฟิงรู้สึกรังเกียจอยู่ในใจนานมาแล้ว ที่โจวชิงเคยทำตัวดีและอ่อนโยนต่อหน้าเขาและเพราะแบบนั้น เย่เฟิงถึงถูกเธอล่อลวงจนได้แต่งงานและให้กำเนิดนั่วนั่วเย่เฟิงในตอนนั้น ขอแค่โจวชิงออดอ้อนเสียหน่อย เขาก็จะใจอ่อนและยอมเชื่อฟังเธอทุกอย่างแต่ว่า ตอนนี้เย่เฟิงได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของโจวชิงอย่างชัดเจนแล้ว เขาจะไม่หลงกลอุบายซ้ำสอง!“เรามีความสุขกันดี ไม่ต้องการให้คุณมาเจอหรอก รีบไปซะ!”“แล้วก็ อย่ามาที่นี่อีก ไม่อย่างนั้นอย่าโทษที่ผมเรียกรปภ. มาไล่คุณออกไป!”เย่เฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เย่อินเสวียนจ้องเย่เฟิง ดวงตาคู่สวยของเธอเผยความสงสัยปนกับความโมโหตามหลักการแล้ว ชายตรงหน้าน่าจะตกอยู่ในมนต์หนอนพิษเสน่ห์ของเธอ แถมหนอนพิษที่เธอใช้ก็เป็นหนอนพิษเสน่ห์ที่มีฤทธิ์มากกว่าหนอนพิษทั่ว ๆ ไปด้วยมีหนอนพิษแบบนั้นอยู่ในร่าง เย่เฟิงน่าจะต้องหลงเธอหัวปักหัวปำถึงจะถูกสิแต่ในเวลานี้ เขากลับทำหน้าขมวดคิ้วกับออกอาการหงุดหงิด?“พี่เฟิง เป็นอะไรไป? อารมณ์ไม่ดีเหรอคะ? นี่ฉันมาหาพี่นะ ทำไมทำหน้าไม่พอใจแบบนั้นละคะ?”เย่อินเสวียนเดินบิดสะโพกเข้าไปหาเขาแล้วถามด้วยท่าทางไม่พอใจเย่เฟิงเลิกคิ้ว ก่อนจะรีบแสดงท่าทีหลงเสน่ห์ เขาส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่หรอก เพราะเรื่องลูกสาวผมน่ะ แต่พอเจอคุณผมก็อารมณ์ดีขึ้นมาเลย!”“ฮึ ฉันนึกว่าพี่ไม่ชอบฉันแล้วซะอีกนะคะ”เย่อินเสวียนส่งเสียงฮึหยอกล้อ“จะเป็นไปได้ยังไง? ก็คุณน่าหลงใหลขนาดนี้ ผมคิดถึงคุณทั้งวันทั้งคืนเลย!”เย่เฟิงมองดูเย่อินเสวียนพร้อมรอยยิ้มเหมือนสุนัขขี้ประจบ ทำราวกับว่าเขาหมกมุ่นคิดถึงแต่เธอเย่อินเสวียนยิ้มยั่วยวนกับส่งสายตาหวานหยาดเยิ้ม: “จริงสิคะ คราวก่อนเอาแต่เป็นห่วงเรื่องลูกสาวคุณ ฉันยังไม่ได้ถามคุณเลยนะ! ตอนนี้คุณมีพลังระดับไหนแ