Share

บทที่ 4

Author: โมเนโต้
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“เหลืออีกหกนาที คนที่เหลืออยู่รีบจัดการสถานที่นี้ เนื่องจากพวกคุณได้กระทำผิด อย่าคิดที่จะเรียกเก็บค่าบริการเด็ดขาด!”

เฟนด์จ้องมองคนที่เหลืออย่างเย็นชา

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเช่นกัน แต่พวกเขาก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับมังกรดำ จึงไม่มีใครกล้ามอง เฟนด์

“ทุกคนออกไปเดี่ยวนี้!”

พวกเขาเริ่มตะโกนโหวกเหวกทันที เห็นได้ชัดว่าลูกค้าคนอื่นๆ รู้สึกหวาดกลัวต่างจากเมื่อก่อนและวิ่งหนีไปราวกับว่าชีวิตของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย

พวกเขาไม่รู้ว่ามังกรดำตายได้อย่างไร ราวกับว่ามีสิ่งที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้น

ภายในไม่ถึงหนึ่งนาทีโรงอาบน้ำทั้งหมดก็ว่างเปล่า!

พนักงานสาวสวยเดินออกมาอย่างอ่อนโยน หลังจากถูกคนเฝ้าประตู ส่งสัญญาณและถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “นายท่านคะ ที่นี่ไร้ซึ่งผู้คนแล้ว เราจะให้บริการคุณอย่างไรดีคะ”

“ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ และอาหารอร่อยๆ ให้ลูกสาวของฉัน ถ้าไม่ทำอย่าคิดที่มีชีวิตจากที่นี่!”

เฟนด์อุ้มไคลีเข้าไปข้างใน ทำให้พนักงานบริการและคนเฝ้าประตูมีสีเลือดแล่นผ่านบนใบหน้า

“แน่นอนค่ะท่าน เราจะดำเนินการทันที!”

พนักงานบริการสาวสวยฟื้นจากความงุนงงและก้มหัวอย่างนอบน้อมไปที่หลังของเฟนด์

เฟนด์พาไคลีเข้าไปด้านในห้องอาบน้ำและถอดเสื้อผ้าสกปรกเก่าๆออก มุมปากของเขากระตุก

ไคลีรู้สึกกลัว มีรอยแผลเป็นบนผิวที่อ่อนนุ่มของเธอ

“ไคลีคะ ก่อนหน้านี้พ่อทำให้หนูกลัวไหมคะ?”

เฟนด์ยิ้มให้ไคลีด้วยความรัก ขณะที่น้ำตาเกือบจะไหลลงหลุดล่วงลงมาจากตา

“คุณพ่อยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ แต่ก็น่ากลัวด้วย!” ไคลี เม้มริมฝีปากของเธอจากนั้นก็มองอย่างระมัดระวัง

"น่าสะพรึงกลัว?"

เฟนด์ตกใจที่เห็นไคลีเด็กน้อยอายุเพียงแค่สี่ขวบ นั่นเป็นช่วงอายุที่ไร้เดียงสาที่สุด แต่เขากลับลงมือต่อหน้าเธอและยังฆ่าคนตาย

สำหรับเขาแล้วการฆ่าคน ไม่ต่างอะไรจากการกินหรือดื่ม

อย่างไรก็ตามสำหรับ ไคลี นั่นคือ ...

“เอาล่ะไคลีจากนี้ไป พ่อจะไม่น่ากลัวแบบนั้นอีก คนเหล่านั้นเป็นคนเลวและพวกเขาสมควรถูกลงโทษ!”

เฟนด์ช่วยไคลีล้างเนื้อล้างตัวอย่างพิถีพิถัน “จากนี้ไปพ่อจะให้หนูและแม่ของหนูอยู่อย่างสุขสบาย ไคลีสามารถมีชีวิตที่สะดวกสบายเหมือนเด็กคนอื่นๆ!”

เด็กน้อยดูท่าทางสับสน

ข้างๆพวกเขา ชาวน่ายิ้มขึ้นและพูดว่า “นายท่านคะ อยากโทรหาคุณเซเลน่าไหม ถ้าเธอรู้ว่าคุณกลับมาเธอจะต้องดีใจแน่นอน!”

"ไม่จำเป็นหรอกครับ เพราะเราจะไปพบกับเธอเร็วๆนี้!”

เฟนด์กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ชาวน่าจากนี้ไปฉันจะดูแล ชาวน่าและไคลีเอง เธอไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะไม่ลดเงินเดือนของเธอลง!”

“โอ้ ฉันได้ยินมาว่าทหารเกษียณจะได้รับเงินบำนาญเยอะเลยใช่ไหมคะ ขั้นต่ำลือว่าอยู่ที่ประมาณ 10 ถึง 20,000 เหรียญ นายท่านคุณได้รับเท่าไหร่เนี่ย?”

ชาวน่า นึกถึงบางสิ่งบางอย่างอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หัวเราะออกมา “ฉันสนิทกับคุณเซเลน่ามาก ฉันจะดูแลคุณเซเลน่าให้ดีที่สุด สำหรับเงินเดือนนั้น ขอเพียงมีพอที่จะอยู่รอดก็พอแล้วค่ะ!”

“อิๆ ก็เพียงพอแล้ว!”

เฟนด์ หัวเราะออกมา สำหรับเขาแล้วนั้น เขาสามารถกลายมาเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาเขตกลางได้ด้วยการยกโทรศัพท์ครั้งเดียว หากเขาต้องการมัน

ชาวน่า ครุ่นคิดสักครู่แล้วพูดอีกครั้ง “ใช่แล้วนายท่านเฟนด์ นามสกุลของ ไคลีคือเทย์เลอร์ มันช่วยไม่ได้ สะใภ้ของคุณคำนึงถึงสถานะเดิมของคุณ และคิดว่าคุณไม่ได้กลับมา…”

“โอ้…” เฟนด์ตอบแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก เธอก็เป็นลูกสาวของเซเลน่า และ ฉัน!”

ด้วยความวดเร็วพนักงานสาวสวย ก็นำอาหารอร่อยๆ และชุดสวยๆ สไตล์เจ้าหญิงมาให้ไคลี เธอวางไว้ด้านหนึ่งของห้อง จากนั้นเธอก็รีบออกจากห้องอย่างระมัดระวัง

โครกก!

หลังจากอาบน้ำเสร็จไคลี กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากและเริ่มรู้สึกหิว

เฟนด์สัมผัสใบหน้าของไคลีด้วยความรักความเอ็นดู ขณะที่เขามองดูหมาป่าตัวน้อยกินอาหารของเธอพลางพูดว่า “เด็กบ๊อง กินช้าๆ ! หลังจากกินเสร็จแล้วเราจะไปหาคุณแม่ของหนูกัน!”

หลังจากที่ไคลีทานอาหารเสร็จเธอก็คว้าเค้กที่เหลือสองชิ้นไว้ในมือของเธอ

“คุณพ่อ...หนูอยากจะนำสิ่งนี้กลับไปให้คุณแม่และคุณยายด้วย!”

เธอมองไปที่เฟนด์ แล้วถามต่อด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “ได้ไหมคะ”

เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออก ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งก่อนของเขาทำให้ไคลีหวาดกลัว และอาจะทำให้เธอกลัวเขา

"แน่นอนสิคะ! ตราบเท่าที่หนูมีความสุข!”

เฟนด์อุ้มไคลี่ไว้ในอ้อมแขน เฟนด์พร้อมแล้วที่จะเดินทางต่อไปกับชาวน่า

อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะไปถึงประตูทางออก รถออดี้ ก็หยุดอยู่ข้างนอกและชายหัวโล้นก็ลุกออกไป

ชายหัวโล้นมีใบหน้าที่น่ากลัวและมีแผลเป็นยาว ดวงตาของเขาเฉียบคม

พนักงานบริการไม่สามารถเก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้ได้ “สุดยอดไปเลย นักสู้อันดับหนึ่งของตระกูลคลาร์ก อยู่ที่นี่แล้ว ฮ่า ๆ ๆ ไอ้เด็กคนนั้นซวยแน่!”

“ถูกตัองแล้วนายท่านคลาร์กโกรธมากหลังจากรับโทรศัพท์และให้เจมส์สัน แดน มาจัดการทำให้เด็กคนนั้นกลายเป็นคนพิการ

การ์คนอื่นแอบมองและเฝ้าดูจากข้างสนามหวังว่าจะได้ดูโชว์ของดี

“เขาอยู่ที่ไหน”

แดนเดินไปหาเฟนด์หลังจากถามไปรอบ ๆ

เจ้าเด็กคนนี้เจ้าเป็นคนที่ฆ่ามังกรดำได้สำเร็จ!”

“อย่างไรก็ตามวันนี้จะไม่จบลงด้วยดีสำหรับแก!” แดนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มดวงตาของเขาหรี่ลง

“ถ้าฉันอยากให้แกตาย แกจะไม่รอดเกินสามวินาที!”

“เฟนด์มองไปที่คู่ต่อสู้จากนั้นก็มองไปที่ไคลีในอ้อมแขนของเขา อย่างไรก็ตามลูกสาวของฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากทำให้เธอตกใจ ทำไมเราไม่มีการประลองงัดข้อกันล่ะ!”

"งัดข้อ?"

แดนถามต่อด้วยความงงงวย “แกคิดว่าฉันมาที่นี่เพื่อเล่นกับแกงั้นเหรอ”

“เฮ้! แน่นอนว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แกเพิ่งบอกว่าเจ้านายของแกต้องการทำให้ฉันพิการใช่หรือไม่”

“ก็ใช่ เพราะถ้าแกชนะฉัน ฉันจะทำให้แขน ขาของฉันพิการโดยเต็มใจ!”

“แต่ถ้าแกแพ้ แกต้องตัดนิ้วของแกทิ้งหนึ่งนิ้ว!”

เฟนด์กระชากเสียงหัวเราะ จากประสบการณ์กับการฆ่ามามากมายเขาสามารถบอกได้ด้วยรูปลักษณ์ว่าคนๆ นี้เป็นคนที่โหดเหี้ยม อำมหิต

“น่าสนใจ!”

แดนยิ้ม แล้วเดินไปที่โต๊ะ “มาตรงนี้ ถ้าแกชอบที่จะเล่นนักล่ะก็ฉันจะเล่นเป็นเพื่อนแกเอง!”

“ชาวน่าอุ้มไคลีให้ฉัน!”

จากนั้นเฟนด์ก็ส่งไคลีไปที่ชาวน่า

ทันใดนั้นทั้งสองมือก็ประสานกัน

"เริ่ม!" หนึ่งในผู้คุมประกาศขึ้น

“เด็กหนุ่มคนนี้กล้างัดข้อกับแดนเลยเหรอ? เขาไม่รู้หรือไงว่าแดนแข็งแกร่งแค่ไหน”

“ถูกตัอง แดนสามารถฆ่าวัวตายทั้งตัว ได้ด้วยหมัดเดียว!”

ชายหนุ่มสองสามคนกำลังดูการแสดงโดยเอามือกอดอกไว้

ถ้าเฟนด์แพ้และพยายามไม่ทำตามผลลัพธ์ แดนจะสอนให้เขารู้จักบทเรียนแห่งความเสียใจ

“อ๊าากกก!”

แดนทุ่มกำลังทั้งหมดที่มีของเขา เขาเพิ่งสังเกตว่าแขนของเฟนด์ไม่ได้ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว

“ปะ - ปะเป็นไปไม่ได้!?”

เขาอ้าปากค้างของอากาศ ในทันทีต่อมา เฟนด์ หัวเราะเยาะในใจที่แดนแพ้ในการแข่งขัน

“ฉันเชื่อว่าแกจะไม่ปฏิเสธผลของการแข่งขัน หนึ่งนิ้ว ส่วนแกจะเลือกนิ้วไหน ฉันให้แกตัดสินใจเอาเอง!”

จากนั้นเฟนด์ก็อุ้มไคลีกลับมาในอ้อมแขนและพากันออกจากที่เกิดเหตุ

"เขาคือใคร? ความแข็งแกร่งของเขาน่าทึ่งมาก!” ในที่สุดแดนก็พูดด้วยความไม่เชื่อหลังจากที่ เฟนด์หายออกไป

“พี่แดน คุณจะไม่ตัดนิ้วจริงๆเหรอ” ชายคนหนึ่งถามขึ้นขณะที่เขากำลังเดินเข้าไปหาผู้ชายหัวโล้นคนนี้ เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ขณะที่มองไปยังประตูที่ว่างเปล่า

Related chapters

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 5

    ชาวน่าพาเฟนด์ไปยังที่ประตูของบ้านหลังเล็กที่ดูเก่าทรุดโทรมที่ลานกว้างมีต้นไทรต้นใหญ่ เมื่อมองเข้าไปที่นั่นดูเงียบสงบ ยังไงซะสถานที่นั้นดูทรุดโทรมเกินไป“เธอกำลังบอกฉันว่าแม่ของฉัน แม่ของเซเลน่าและสะใภ้อยู่กันที่นี่?”เมื่อเห็นบ้านที่อยู่ตรงหน้าเฟนด์ก็รู้สึกสงสารพวกเขาขึ้นมาทันทีเซเลน่าเป็นลูกสาวของนายท่านเทย์เลอร์ เธอมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม ย้อนกลับไปตอนนั้นเธอยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำที่หน้าตาดี น่าทึ่งและน่าภาคภูมิใจ มีคนมาติดพันเธอนับไม่ถ้วนแค่เพียงการที่เธอตัดสินใจที่จะเก็บเด็กไว้ ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกมาจากบ้านเพื่ออยู่ในสถานที่แห่งนี้!”ชาวน่า ยิ้มอย่างขมขื่น “มีลูกพี่ลูกน้องของเธอด้วย!” เขายังเด็กนัก เมื่อห้าปีที่แล้ว แต่ตอนนี้เขาอายุ 19 ปีและอยู่ที่นี่ด้วยกัน”“หลายคนเลยงั้นเหรอ!”ตาของเฟนด์เปลี่ยนเป็นสีแดง “เซเลน่าคงต้องผ่านปัญหามาเยอะเหลือเกิน!”อย่างไรก็ตามพวกเขาสังเกตเห็นรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งจอดอยู่ที่ลานข้างในบ้าน“ทำไมถึงมีรถเบนท์ลีย์อยู่ที่นี่”เฟนด์นิ่วหน้าอย่างสงสัย“ฉันก็ไม่ทราบค่ะ หลังจากนั้นฉันแทบจะไม่มาที่นี่เลย เฮ้อ มีหลายอย่างเกิดขึ้นตลอดห้าปี คุณเซเลน่า เธอรอค

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 6

    “ถูกต้อง คุณพูดได้ถูกจริง ๆ พูดตามตรงฉันไม่ค่อยชอบสาวน้อยคนนี้อยู่แล้ว!”ฟิโอน่า พยักหน้าตอกย้ำ ๆ “สุดท้ายเธอไม่ควรที่จะมีตัวตน”เมื่อได้เฟนด์ได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขารู้สึกอยากจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดให้ตายในการลงมือเพียงครั้งเดียวยังไงซะลึก ๆ แล้วเขาพยายามเตือนตัวเองให้สงบสติอารมณ์ ท้ายที่สุดฟีโอน่า ก็คือแม่ของเซเลน่าแม่ภรรยาของเขาสถานที่แห่งนี่ไม่ใช้สนามรบที่เขาต้องสังหารฆ่าฟัดตามที่เขาต้องการอีกต่อไป ฟีโอน่าและแอนดรูว์อย่างน้อยก็ไม่ใช่ศัตรูของเขาขาของแอนดรูว์ที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ในปัจจุบัน เกิดจากการกระทำที่บุ่มบ่ามของเขา ในคืนงานแต่งงานของเซเลน่าความเกลียดชังของพวกเขา ที่มีต่อเขานั้นสมเหตุสมผลมีบุคคลภายนอกเข้ามากำลังเข้ามาเฟนด์ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วจ้องมองไปที่นายน้อยคลาร์ก “ไคลีเป็นลูกสาวของฉัน เธอไม่ใช่ภาระและเธอก็ไม่ใช่เด็กนอกคอก แกต้องคุกเข่าและขอโทษสำหรับคำพูดของแกเมื่อกี้!”เมื่อถึงจุดนั้น เฟนด์หยุดอยู่ชั่วขณะแล้วพูดต่อว่า “ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าฉันไม่อยากทำให้บ้านต้องมาแปดเปื้อน ของการกลับวันแรกของฉัน แกก็คงจะได้ตายแล้วตอนนี้!”“ฮ่า ๆ บัดซบ! ฉันได้ยินแกกำลังขู่ฉันอยู่ห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 7

    “วันนี้ฉันจะตายใช่ไหม ฉันกลับไม่คิดอย่างนั้น!”เฟนด์ไม่สะทกสะท้าน เขามองออกไปข้างนอกและเห็นว่าชาวน่า ได้พาไคลีมาหลังจากที่ไปเล่นที่ใต้ต้นไทรมาแล้ว“ฮึ...ฉันจะดูว่าแกวางแผนทำตัวแข็งกร้าวได้ภายหลังอย่าง!”นายน้อยคลาร์กไม่สนใจที่พูดคุยกับเฟนด์ เพราะเขาเชื่อว่าเฟนด์จะต้องเสียใจอีกในไม่ช้าสักครู่นึงมีรถสองสามคันพุ่งเข้ามาจอดที่ด้านนอก แดน เจมสัน นักสู้อันดับหนึ่งของตระกูลคลาร์ก เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายกล้ามโตสองสามคนขณะที่เขาเดินเข้ามาภายในบ้าน แดนก็ตะโกนถามว่า “ใครกันที่มันกล้ามารังแกนายน้อยของเรา? แกอยากตายใช่ไหม”ตอนนี้แดนกำลังโมโหมากเมื่อเขาได้เข้าไปหาเรื่องใครบางคนที่เขาไม่สามรถจะเอาชนะได้ จนทำให้เขาต้องเสียนิ้วมือไปเขาเพิ่งรักษาบาดแผลจากที่โรงพยาบาลเสร็จ นายของเขาก็โทรหาเขาอีกครั้ง โดยบอกว่านายน้อยคลาร์กถูกคนทำร้ายให้เขาไปจัดการจัดเรื่องนี้“มันคือถังขยะที่ชื่อ เฟนด์ วู๊ด เป็นแค่ทหารเกษียณตัวเหม็น ที่ยังมากล้าทำตัวหยิ่งต่อหน้าฉัน!”นายน้อยคลาร์กเริ่มพูดออกมาทันทีเมื่อเขาเห็นแดนเดินเข้ามาใกล้เขา“ไอพวกสวะ นี่มันจริง ๆ” แดนร้องเสียงหลงขณะที่เขากำลังจะลงมือเพื่อระบายความโมโห

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 8

    “แม่ไม่ว่าแม่จะพูดยังไงเขาก็ยังคงเป็นพ่อของไคลีและลูกเขยของแม่ อย่าไปเยาะเย้ยเขาแบบนั้นอีกได้ไหม!”“เรื่องมันผ่านไปแล้ว มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว เราควรจะหยุดพูดถึงมัน!”เซเลน่าเป็นคนใจดีและเข้าใจคนอื่นเหมือนเดิม“พอกันที! เราไม่มีความจำเป็นต้องนับเขาเป็นลูกเขยของเรา!” ฟีโอน่าตอบโต้กลับ“ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เพราะแก ขาของฉันก็คงไม่อยู่ในสภาพแบบนี้!” แอนดรูว์กลั้นความเสียใจที่เกิดขึ้นไว้ในแบบเดียวกัน“แต่เขาทำผิดอะไร? ย้อนกลับไปหนูนอนกับเขาทั้ง ๆ ที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมาท้อง!”เซเลน่ารู้สึกทำอะไรไม่ถูก มันเป็นการกระทำที่หน้าไม่อายของเธอเองที่ทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้น แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะไปทำแท้งเด็กได้สถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญจนถึงจุดนี้ถือเป็นการชดเชยความผิดพลาดที่เธอทำในตอนนั้น“แกไม่ต้องมาอุ้มเด็ก แก...แกกำลังพยายามทำให้ฉันหัวใจวายจริง ๆ” ฟีโอน่ากระแทกเท้าด้วยความหงุดหงิด“ไม่เป็นไร มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว ตอนนี้เขากลับมาจากสงครามแล้ว มาดูกันว่าเขาจะหาอะไรทำในอนาคตได้ไหม ไม่แน่ชีวิตเราอาจจะดีขึ้นในที่สุด!”“แอนดรูว์หยิบบุหรี่ออกมาแล้วจุดไฟ เขาโกรธมากเมื่อเห็นเฟนด์ แต่ตอนนี้เขาไม่ส

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 9

    “ใช่ คนเหล่านี้กำลังพูดถึงสงคราม และการนำความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศ กลายเป็นเรื่องตลก!”เจ้าหนุ่มอีกคนก็แอบมองตามปัง ปัง!ในชั่วพริบตาถัดไป เด็กทั้งสองเห็นเพียงภาพเบลอจากนั้นก็ถูกส่งให้ลอยไปและกระแทกติดเข้ากับกำแพงด้านหลังทำให้มันพัง“อั๊ก!”ทั้งคู่พ่นเลือดสด ๆ ออกมาเต็มปาก ขาของพวกเขาแข็งทื่อจากนั้นก็หยุดเคลื่อนไหว“อ๊า! ฆาตกร!”หญิงสาวทั้งสองร้องเสียงหลงราวกับเพิ่งเห็นผี พวกเธอวิ่งหนีทันที“โอ้ว! เฟนด์คุณฆ่าคนตาย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาเป็นบุคคลสำคัญหรืออยู่ในองค์กรบางแห่ง เราจะทำยังไงกันดี”เมื่อเห็นทั้งสองคนนอนนิ่งอยู่ที่นั่นโจแอนก็หน้าซีด “คุณมันหัวร้อนเกินไป ที่นี่ไม่ใช่สนามรบ มีคนบางคนที่เราไม่สามารถทำให้ไม่ขุ่นเคืองใจได้ คุณยังคิดว่าตัวเองยังอยู่ในสนามรบสามารถฆ่าใครก็ได้เป็นเรื่องปกติเหรอ “ทำไมคุณถึงเก็บอารมณ์ไม่ได้? พวกเขาพูดแต่เพียงไม่กี่คำ!”เซเลน่าก็หงุดหงิดมาก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีเมื่อเขาเห็นผู้หญิงสองคนที่รักและดูแลเป็นห่วงเขามากที่สุด เฟนด์ก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาอบอุ่นขึ้น“แม่ เซเลน่าไม่ต้องกังวล พวกเขาแค่สลบไป ฉันรู้วิธีที่จะอดทนกับมัน สักพักพวกเขาจะต

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 10

    “สามคนนี้มีสติดีไหม? พวกเขาดูสกปรกมาก ดูผู้หญิงที่สวมเครื่องแบบพนักงานทำความสะอาดถนนและหมวกสานของเธอสิ พระเจ้า! นี่เป็นร้านพิเศษสำหรับแบรนด์ชื่อดังต่าง ๆ อย่างนั้นหรือ”หญิงสาวที่ดูร่ำรวยมีฐานะหัวเราะเยาะเย้ยเธอ ขณะที่มองไปแล้วหยิบเสื้อผ้าของเธอ เธอใช้กระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรู“ฉันขอโทษนะคะคุณนาย ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้!”พนักงานขายสาวสวยข้าง ๆ เธอตอบทันทีด้วยรอยยิ้มตามธรรมเนียม จากนั้นหันกลับไปสั่งพนักงานขายคนอื่นว่า “ไป เขาพวกเขาออกไปจากที่นี่ อย่าปล่อยให้พวกเขาลดระดับร้านค้าของเรา!”พนักงานบริการรีบสวมรองเท้าส้นสูงของเธอและเดินเข้าไปหากลุ่มของเฟนด์ “สวัสดีค่ะ คุณมาที่นี่เพื่อซื้อเสื้อผ้าใช่ไหมคะ? เราเป็นร้านค้าแบรนด์ชั้นนำ ผลิตภัณฑ์ของเรามาจากต่างประเทศและมีคุณภาพสูง... ”พนักงานขายคนนี้เป็นพนักงานที่มีประสบการณ์ เธอแน่ใจว่าเมื่อทำแบบนี้คนยากไร้เหล่านั้นจะตระหนักว่าพวกเขามาผิดที่และจากไปอย่างเงียบ ๆอย่างไรก็ตามครั้งนี้เธอได้ทำผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัดเฟนด์มองไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า “ดูหรูหราดี ฉันกำลังหาซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ให้แม่และภรรยา ฉันจะไม่รับของเกรดต่ำพวกนั้น”“อะไรนะ?!”พนักงานบริ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 11

    “ชุดทั้งสามเหมาะกับคุณมากที่รัก คุณชอบมันไหม?เราจะซื้อทั้งหมดถ้าคุณชอบ!” พนักงานขายสาวสองคนไม่กล้าดูถูกเฟนด์อีกต่อไป พวกเขายืนอยู่ที่นั่นอย่างน่าเวทนาเมื่อได้ยินคำพูดของเฟนด์ เซเลน่าก็หน้าแดง เธอยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับคำว่า “ที่รัก” สักนิด “ฉันยังคิดว่ามันแพงเกินไป!” จากนั้นเซเลน่าก็เปลี่ยนกลับเป็นเสื้อผ้าของเธอแล้ว เธอดูชุดทั้งสามแล้วตอบด้วยรอยยิ้ม “มันสำคัญที่ความคิด ชุดเดียวก็พอ ไม่ต้องมากขนาดนั้น!” “เดี๋ยวก่อน! เพียงแค่ยอมรับว่าคุณยากจน เลิกเสแสร้งเถอะนะ อย่าแม้แต่คิดจะออกจากร้านหากคุณไม่สามารถจ่ายเงินได้ในวันนี้!” คุณนายคาเรนผู้ร่ำรวยได้เริ่มเยาะเย้ยพวกเขา เมื่อพนักงานขายหญิงได้ยินคำพูดเหล่านั้นพวกหล่อนรู้สึกยินดี ‘ทั้งสามคนนี้แสดงท่าทีอวดดีแม้ว่าพวกเขาจะยากจนก็ตาม มาดูกันว่าคุณจะรับมืออย่างไรในตอนนี้คุณได้พบกับบุลคลที่แข็งแกร่งแล้วตรงหน้าแล้ว’ อย่างไรก็ตามจากความคาดหวังของพวกเขา เฟนด์ได้ส่งชุดทั้งสามให้กับพนักงานขายก่อนหน้านี้ “เอาสามชุดนี้ ใส่ถุงให้ฉัน!” “คุณจะซื้อจริงๆเหรอ? รวมเป็นเงินเกือบสองแสนเหรียญ…” หญิงสาวถามด้วยความประหลาดใจจากนั้นก็เดินนำไปในที่สุด หลั

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 12

    “ยุติเรื่อง? คุณมีแผนจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร? สำหรับเรื่องนั้นฉันก็เป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน นอกจากนี้นายใหญ่เทย์เลอร์ ก็ยังเป็นปู่ของฉัน คุณวางแผนที่คิดจะเอาชนะเขาหรือไม่”เซเลน่ายิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “ครั้งนี้คุณมากับเราและอยู่เงียบ ๆ ในมุมหนึ่ง เหตุการณ์ผ่านไปหลายปี อารมณ์ของคุณปู่น่าจะดีขึ้น บางทีถ้าพูดจาดี ๆ สักสองสามคำก็อาจจะทำให้เขาหยุดติดตามเรื่องนี้ได้”“เอาล่ะ ผมจะพยายามทำตามคำแนะนำของคุณ ให้ดีที่สุดผมจะหลีกเลี่ยงมันซะ ไม่งั้นคุณจะบ่นหาว่าผมทำรุนแรงเกินไป!”เฟนด์หัวเราะเล็กน้อย เขาอยากเห็นด้วยตาของตัวเองว่าคนจากตระกูลเทย์เลอร์ จะปฏิบัติต่อเขาอย่างไรถ้าหากไม่รู้ตัวตนของเขานอกจากนี้เหตุผลที่เขากลับมาในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเป็นนักรบสูงสุด เขาเพียงแค่อยากอยู่กับผู้หญิงที่เขารักอย่างสงบสุขและดูแลแม่ของเขาให้มีชีวิตอย่างสุขสบายทั้งสามคนนั่งแท็กซี่มาถึงประตูบ้านเทย์เลอร์ อย่างรวดเร็วไอ้เด็กนั่นหน้าด้านจริง ๆ ที่ทำร้ายนายน้อยเทย์เลอร์ เขาไม่รู้หรือว่านายน้อยเทย์เลอร์ใจแคบมาก”“ถูกต้อง ฉันกลัวว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบลงด้วยดี เขาเป็นแค่ทหารเป็นลูกเขยตัวเหม็นคนนึง เขาควรพิจารณาตั

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status