นั่นเป็นข้อพิสูจน์ถึงทักษะของเฟนด์ได้ชัดเจนที่สุด พวกเขารู้สึกว่าหากเฟนด์ต้องต่อสู้กับชายสวมหน้ากากคงเป็นการต่อสู้ที่สูสีกันน่าดู ศิษย์จากสำนักทางเหนือทุกคนยิ้มอย่างมีความสุข บางคนถึงกับเริ่มส่งเสียงเชียร์เฟนด์ดัง ๆ แต่เบนจามินก็ปรามพวกเขาไว้ทันทีนั่นก็เพราะเฟนด์ยังคงดูดซับโอสถขัดเกลาวิญญาณอยู่ หากเขาถูกรบกวนด้วยเสียงร้องตะโกนเหล่านั้น เขาอาจจะได้รับผลกระทบ แต่ถึงกระนั้นเขายังคงไม่สามารถหยุดความกระตือรือร้นของทุกคนได้“เฟนด์น่าทึ่งมาก ฉันนี่มันไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ ฉันประเมินเฟนด์ต่ำไป ฉันก็นึกว่าเฟนด์กำลังมีปัญหา แต่จริงๆ แล้วเขาเตรียมพร้อมมาโดยตลอด!”“นี่มันน่าทึ่งเกินไปแล้ว หลังจากดูดซับโอสถขัดเกลาวิญญาณแล้ว เขาจะก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอย่างแน่นอน เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่าระหว่างเขากับชายสวมหน้ากากแล้ว ใครแข็งแกร่งกว่ากัน!”“ฉันคิดว่าเฟนด์จะเป็นผู้ชนะ เขาไม่เคยทำให้เราผิดหวัง คราวนี้ สมบัติล้ำค่าบนหุบเหวแห่งสุญญะทั้งหมดจะต้องตกเป็นของเฟนด์แน่!”ศิษย์ของสำนักทางตอนเหนือต่างสนับสนุนเฟนด์ โดยเชื่อว่าเฟนด์จะสามารถเอาชนะชายสวมหน้ากากได้ ขณะเดียวกันศิษย์จากสำนักทางใต้ไม่พอใจกับเรื่องนั้นแม้
“เขาแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ ที่อยู่ในขั้นสูงสุดของระดับแรกกำเนิด เขาอาจได้รับบาดเจ็บมา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทักษะของเขาอ่อนแอกว่าเฟนด์สักหน่อย“คุณก็ไม่ได้ตาบอดนี่ คุณก็น่าจะบอกได้ว่าเฟนด์สามารถเอาชนะอสรพิษปีศาจแปดหางได้อย่างง่ายดายและได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย นั่นเพราะเฟนด์มองเห็นจุดอ่อนของอสรพิษแปดหาง“หากชายสวมหน้ากากรู้จุดอ่อนของอสรพิษแปดหางเหมือนเขา เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียวอย่างแน่นอน เฟนด์ก็แค่โชคดีมากเกินไป คุณไม่ควรกังขาในทักษะของชายสวมหน้ากาก เขาต้องเอาชนะเฟนด์ได้แน่นอน!”คำพูดสุดท้ายนั่นแทบจะถูกซาเมียนตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง เขาต้องการใช้คำพูดพวกนั้นเป็นข้อยืนยันว่าชายสวมหน้ากากจะไม่มีวันแพ้!ศิษย์จากสำนักทางเหนือต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป หากสิ่งที่ซาเมียนพูดถูกต้อง เฟนด์ก็คงไม่สามารถเอาชนะชายสวมหน้ากากได้ท้ายที่สุดแล้ว ชายสวมหน้ากากก็เคยอยู่ที่ระดับผลึกวสันต์ ทักษะที่เขาฝึกฝนนั้นมีข้อจำกัดน้อยกว่าทักษะของพวกเขามากระดับของพลังยุทธเป็นข้อจำกัดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการเรียนรู้ทักษะยุทธ เฉพาะผู้ที่อยู่ระดับการบ่มเพาะสูงเท่านั้นที่จะสามารถฝึกฝนทักษะระดับสูงและสามา
ทุกคนตกตะลึงกับคำพูดเหล่านั้น การชายสวมหน้ากากบอกว่าเขาต้องการฆ่าเฟนด์อาจไม่กระตุ้นการตอบสนองมากนัก แต่การที่เฟนด์บอกว่าเขาต้องการฆ่าชายสวมหน้ากากนั้นทำให้ทุกคนตกใจอย่างแน่นอนท้ายที่สุดแล้วเฟนด์ดูเหมือนจะตามหลังชายสวมหน้ากากในทุก ๆ ด้าน แต่เมื่อเขาพูดคำเหล่านั้น น้ำเสียงของเขาก็สงบอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งใบหน้าของเขายังไม่ปรากฏอารมณ์ใด ๆ อีกด้วยการที่เขาประพฤติเช่นนั้นก็หมายความว่าคำพูดที่เขาพูดนั้นไม่ใช่การพูดเพื่อศักดิ์ศรี แต่เป็นเพราะเขาต้องการกำจัดชายสวมหน้ากากอย่างแท้จริง!เกรแฮมสูดลมหายใจเข้าแล้วพูดว่า "ถึงเวลาที่พวกคุณต้องหยุดเถียงกันได้แล้ว"เขาไม่อยากฟังทั้งสองเสวนากันอีกต่อไป นั่นก็เพราะเขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขาในตอนที่พวกเขาทำเช่นนั้นทันทีที่เกรแฮมพูดจบประโยค เสียงของผู้อาวุโสก็ดังขึ้นอีกครั้ง "สองคนที่ผ่านไปได้โปรดขึ้นไปยังจุดสูงสุด!"ทันทีที่เขาพูดอย่างนั้น ทุกคนก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้ว! พวกเขาจะได้เห็นแล้วว่าใครในบรรดาอัจฉริยะทั้งสองที่อยู่จุดสูงสุดที่แข็งแกร่งกว่ากันไม่รู้ว่าเฟนด์จะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้อีกค
จนกระทั่งเฟนด์เปิดเผยทักษะที่แท้จริงของเขาต่อชายสวมหน้ากาก จนเขาตระหนักได้ว่าเฟนด์เกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับเขาแล้ว!แต่ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกสับสนและหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น นั่นคือสาเหตุที่ชายสวมหน้ากากต้องถาม ไม่ใช่แค่ชายสวมหน้ากากที่สับสน แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็มองเฟนด์ด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็นเช่นกันริมฝีปากของเฟนด์กระตุกขณะที่เขาเกาจมูกอย่างช่วยไม่ได้ ย้อนกลับไปตอนนั้นเขาสามารถรวบรวมดาบวิญญาณได้เพียงสิบห้าเล่มเท่านั้น! เขาเลือกที่จะวิ่งหนีก็เพื่อเอาชีวิตรอดจริง ๆ เพราะในตอนนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต่อกรกับชายสวมหน้ากากได้แต่เขาไม่อธิบายออกไปแบบนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงถูกบีบให้ต้องสร้างเรื่องบางอย่างขึ้น“มันไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะจะเอาไว้ใช้สู้กันนี่นา!”คำพูดเหล่านั้นทำให้ทุกคนหยุดชะงัก แววตาที่ครุ่นคิดแวบขึ้นมาในดวงตาของชายสวมหน้ากาก เขาหมายถึงอะไรที่บอกว่ามันไม่ใช่สถานที่ที่จะใช้สู้กัน? ทำเลที่ตั้งสำคัญขนาดนั้นเชียวเหรอ?"นายหมายความว่ายังไงกันแน่?"เฟนด์กระแอมเล็กน้อย การโกหกเพียงหนึ่งครั้งอาจต้องใช้การโกหกอีกมากมายเพื่อปกปิดมัน เขาพูดต่อด้วยค
แม้แต่เฟนด์ก็ยังถูกแสงสีม่วงและสีแดงห้อมล้อมเอาไว้ ชายสวมหน้ากากรวบรวมกำลังได้เต็มที่แล้ว “ฉันไม่อยากเสียเวลากับนายนานเท่าไหร่นักหรอก! เพราะงั้นฉันจะฆ่านายด้วยการโจมตีครั้งนี้แหละ!”ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น เขาก็สร้างผนึกอยู่ตลอดเวลา สายฟ้าหลั่งไหลเข้าสู่แหวนเพลิงอินทนิลอย่างต่อเนื่อง!“ฉันจะไม่ปิดบังอะไรจากนาย แล้วจะให้นายตายไปอย่างไม่ต้องรู้สึกค้างคา! ทักษะอสุนีโลหิตมารที่ฉันกำลังฝึกฝนนั้นเป็นทักษะยุทธขั้นกลางระดับปฐพี! นอกจากนี้ ฉันก็อยู่ในระดับเชี่ยวชาญแล้วด้วย! อีกนิดเดียวฉันก็จะเข้าถึงระดับสมบูรณ์แล้ว!”เฟนด์เลิกคิ้วหลังจากได้ยินแบบนั้น เขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อมันมากนัก เนื่องจากเขาเองก็คาดหวังเอาไว้ก่อนแล้ว เขาเคยคาดเดาระดับพลังยุทธของชายสวมหน้ากากมาก่อนแล้วหลังจากการตั้งสมมติฐาน เขาก็มั่นใจว่าชายสวมหน้ากากนั้นแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่ออย่างแน่นอน เนื่องจากเขาอยู่ในระดับผลึกวสันต์แล้ว ชายสวมหน้ากากยอมถือได้ว่าอยู่บนจุดสูงสุดในบรรดาทุกคนที่นั่นอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามทักษะและความสามารถของเขายังคงถูกจำกัดเอาไว้ ไม่มีทางที่ชายสวมหน้ากากจะฝึกฝนทักษะยุทธขั้นสูงในระดับปฐ
ก่อนหน้านี้เฟนด์คิดว่าอย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นทักษะระดับเทพสูงสุด แต่หลังจากครุ่นคิดมันเพิ่มเติมแล้ว เขาก็พบว่ามันอยู่ในขั้นสูงสุดระดับเทพสูงสุด!ขั้นสูงสุดของระดับเทพสูงสุดเทียบได้กับทักษะระดับปฐพี และเฟนด์ก็อยู่ในขั้นสมบูรณ์ของทักษะแล้ว! ทักษะของเขาสูงขึ้นไปหนึ่งระดับแล้ว และมันก็เป็นระดับที่สูงกว่าเช่นกัน!แม้ว่าความแข็งแกร่งของเฟนด์จะไม่เท่ากับชายสวมหน้ากาก แต่ทักษะที่เฟนด์ใช้นั้นแข็งแกร่งกว่าทักษะที่ชายสวมหน้ากากใช้มาก! เมื่อเปรียบเทียบกันด้วยวิธีนั้น เฟนด์ก็ไม่กลัวชายสวมหน้ากากเลยแม้แต่น้อย!เขาตะคอกออกไปอย่างเย็นชาขณะที่เขายกดาบขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง เขาเล็งไปที่สายฟ้าที่พุ่งเข้ามา แล้วฟันออกไป! ทุกคนได้ยินเสียงการโจมตีปะทะกันในขณะที่พื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงจากสายฟ้าสีแดงเลือด!สายฟ้าแยกออกจากกัน และกระจัดกระจายอย่างต่อเนื่องอยู่บนจุดสูงสุดของหุบเหวแห่งสุญญะ! อันที่จริง แล้วมันก็ดูสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อแม้จะมีสายฟ้าหลากสีสันขยับขยายไม่หยุด แต่ก็ไม่มีใครสนใจที่จะมองมันพวกเขาทั้งหมดต่างมุ่งความสนใจไปที่ว่าเฟนด์จะสามารถป้องกันการโจมตีได้หรือไม่!เบนจามินอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น มันก็ทำให้เกรแฮมรู้สึกเหมือนกำลังถูกก้อนหินขนาดใหญ่ถ่วงไว้มากมาย! ในขณะนั้น ก็เกิดเสียงร้องดังออกมาจากภายในสายฟ้า!เนื่องจากความดังของการปะทะกัน จึงไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเสียงร้องนั้นมาจากใคร ขณะที่ทุกคนวิตกกังวลอย่างไม่น่าเชื่อ สายฟ้าที่กระจายไปทั่วสนามรบก็เริ่มอ่อนลงอย่างช้า ๆคนสองคนยืนอยู่ตรงกลางจุดสูงสุดของหุบเหวแห่งสุญญะ คนหนึ่งยืนอยู่ทางทิศตะวันตก และคนหนึ่งยืนอยู่ทางทิศตะวันออก คนทางทิศตะวันตกมีดาบอยู่ในมือ ซึ่งแทงทะลุหน้าอกของคนทางทิศตะวันออก! คนที่ยืนอยู่ทางทิศตะวันออกยังคงถือแหวนเพลิงอินทนิลอยู่ทุกคนถึงกับอ้าปากค้างในที่เกิดเหตุ แม้แต่ชายสวมหน้ากากก็มองดูเฟนด์ที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความไม่เชื่อ!เลือดไหลลงมาจากมุมปากของเขา ใบหน้าที่อยู่ด้านหลังหน้ากากเต็มไปด้วยความตกใจอยู่นานแล้ว “ทำไมกัน? ทำไมฉันถึงไม่สามารถเอาชนะนายได้! นายเป็นใคร? เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้แน่ ๆ!“ทักษะอสุนีโลหิตมารเป็นทักษะขั้นกลางระดับปฐพีเชียวนะ! นายมีทักษะแบบไหนกัน? ทำไมมันถึงทะลวงผ่านทักษะอสุนีโลหิตมารและแทงเข้าที่อกของฉันได้!”หลังจากการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น เฟนด์ใช้การโจ
เพราะอาการไออย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาก็ซีดราวกับกระดาษ เลือดไหลออกมาจากปากของเขาอย่างควบคุมไม่ได้ “ฉันจะตายอยู่รอมร่อแล้ว ก่อนฉันจะตายนายช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่านายเป็นใครกันแน่? แล้วนายใช้ทักษะระดับเทพสูงสุดแบบนี้ได้ยังไง?” ชายสวมหน้ากากใช้กำลังเฮือกสุดท้ายในการพูดเฟนด์สูดหายใจเข้าลึก ๆ มีบางสิ่งที่เขาคิดจะเก็บเป็นความลับไว้กับตัวจนตาย แต่ทว่าชายสวมหน้ากากพูดถูก อีกฝ่ายกำลังจะตายอยู่แล้ว เขาทำอะไรไม่ได้อีกเฟนด์หัวเราะเล็กน้อย และก็คิดเพียงให้พวกเขาสองคนได้ยินกันเพียงเท่านั้น “คุณพูดถูกแล้ว ผมใช้ทักษะในระดับเทพสูงสุด และไม่ใช่แค่นั้น มันยังอยู่ในขั้นสูงสุดอีกด้วย!”ในตอนที่เขาพูดออก ชายสวมหน้ากากก็เบิกตากว้างราวกับว่าเขาเพิ่งถูกตบหน้า เขามองเฟนด์อย่างไม่เชื่อสายตา เขาพูดถูก! เฟนด์ใช้ทักษะระดับเทพสูงสุดจริง ๆทำไม ทำไมเขาถึงสามารถเรียนรู้อะไรแบบนั้นได้? เฟนด์เป็นเพียงผู้ที่อยู่ขั้นกลางของระดับแรกกำเนิด เมื่อเขาถึงจุดสูงสุด เขาจะไม่มีทางได้พบกับคนที่เป็นแบบเขาอีกอย่างแน่นอน"นายเป็นใครกัน?!" ชายสวมหน้ากากพูดขณะที่ตัวสั่นเฟนด์หัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาดึงมือขวากลับไป ด้วยการออกแรงเพีย