แม้แต่เฟนด์ก็ยังถูกแสงสีม่วงและสีแดงห้อมล้อมเอาไว้ ชายสวมหน้ากากรวบรวมกำลังได้เต็มที่แล้ว “ฉันไม่อยากเสียเวลากับนายนานเท่าไหร่นักหรอก! เพราะงั้นฉันจะฆ่านายด้วยการโจมตีครั้งนี้แหละ!”ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น เขาก็สร้างผนึกอยู่ตลอดเวลา สายฟ้าหลั่งไหลเข้าสู่แหวนเพลิงอินทนิลอย่างต่อเนื่อง!“ฉันจะไม่ปิดบังอะไรจากนาย แล้วจะให้นายตายไปอย่างไม่ต้องรู้สึกค้างคา! ทักษะอสุนีโลหิตมารที่ฉันกำลังฝึกฝนนั้นเป็นทักษะยุทธขั้นกลางระดับปฐพี! นอกจากนี้ ฉันก็อยู่ในระดับเชี่ยวชาญแล้วด้วย! อีกนิดเดียวฉันก็จะเข้าถึงระดับสมบูรณ์แล้ว!”เฟนด์เลิกคิ้วหลังจากได้ยินแบบนั้น เขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อมันมากนัก เนื่องจากเขาเองก็คาดหวังเอาไว้ก่อนแล้ว เขาเคยคาดเดาระดับพลังยุทธของชายสวมหน้ากากมาก่อนแล้วหลังจากการตั้งสมมติฐาน เขาก็มั่นใจว่าชายสวมหน้ากากนั้นแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่ออย่างแน่นอน เนื่องจากเขาอยู่ในระดับผลึกวสันต์แล้ว ชายสวมหน้ากากยอมถือได้ว่าอยู่บนจุดสูงสุดในบรรดาทุกคนที่นั่นอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามทักษะและความสามารถของเขายังคงถูกจำกัดเอาไว้ ไม่มีทางที่ชายสวมหน้ากากจะฝึกฝนทักษะยุทธขั้นสูงในระดับปฐ
ก่อนหน้านี้เฟนด์คิดว่าอย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นทักษะระดับเทพสูงสุด แต่หลังจากครุ่นคิดมันเพิ่มเติมแล้ว เขาก็พบว่ามันอยู่ในขั้นสูงสุดระดับเทพสูงสุด!ขั้นสูงสุดของระดับเทพสูงสุดเทียบได้กับทักษะระดับปฐพี และเฟนด์ก็อยู่ในขั้นสมบูรณ์ของทักษะแล้ว! ทักษะของเขาสูงขึ้นไปหนึ่งระดับแล้ว และมันก็เป็นระดับที่สูงกว่าเช่นกัน!แม้ว่าความแข็งแกร่งของเฟนด์จะไม่เท่ากับชายสวมหน้ากาก แต่ทักษะที่เฟนด์ใช้นั้นแข็งแกร่งกว่าทักษะที่ชายสวมหน้ากากใช้มาก! เมื่อเปรียบเทียบกันด้วยวิธีนั้น เฟนด์ก็ไม่กลัวชายสวมหน้ากากเลยแม้แต่น้อย!เขาตะคอกออกไปอย่างเย็นชาขณะที่เขายกดาบขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง เขาเล็งไปที่สายฟ้าที่พุ่งเข้ามา แล้วฟันออกไป! ทุกคนได้ยินเสียงการโจมตีปะทะกันในขณะที่พื้นที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงจากสายฟ้าสีแดงเลือด!สายฟ้าแยกออกจากกัน และกระจัดกระจายอย่างต่อเนื่องอยู่บนจุดสูงสุดของหุบเหวแห่งสุญญะ! อันที่จริง แล้วมันก็ดูสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อแม้จะมีสายฟ้าหลากสีสันขยับขยายไม่หยุด แต่ก็ไม่มีใครสนใจที่จะมองมันพวกเขาทั้งหมดต่างมุ่งความสนใจไปที่ว่าเฟนด์จะสามารถป้องกันการโจมตีได้หรือไม่!เบนจามินอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น มันก็ทำให้เกรแฮมรู้สึกเหมือนกำลังถูกก้อนหินขนาดใหญ่ถ่วงไว้มากมาย! ในขณะนั้น ก็เกิดเสียงร้องดังออกมาจากภายในสายฟ้า!เนื่องจากความดังของการปะทะกัน จึงไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเสียงร้องนั้นมาจากใคร ขณะที่ทุกคนวิตกกังวลอย่างไม่น่าเชื่อ สายฟ้าที่กระจายไปทั่วสนามรบก็เริ่มอ่อนลงอย่างช้า ๆคนสองคนยืนอยู่ตรงกลางจุดสูงสุดของหุบเหวแห่งสุญญะ คนหนึ่งยืนอยู่ทางทิศตะวันตก และคนหนึ่งยืนอยู่ทางทิศตะวันออก คนทางทิศตะวันตกมีดาบอยู่ในมือ ซึ่งแทงทะลุหน้าอกของคนทางทิศตะวันออก! คนที่ยืนอยู่ทางทิศตะวันออกยังคงถือแหวนเพลิงอินทนิลอยู่ทุกคนถึงกับอ้าปากค้างในที่เกิดเหตุ แม้แต่ชายสวมหน้ากากก็มองดูเฟนด์ที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความไม่เชื่อ!เลือดไหลลงมาจากมุมปากของเขา ใบหน้าที่อยู่ด้านหลังหน้ากากเต็มไปด้วยความตกใจอยู่นานแล้ว “ทำไมกัน? ทำไมฉันถึงไม่สามารถเอาชนะนายได้! นายเป็นใคร? เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้แน่ ๆ!“ทักษะอสุนีโลหิตมารเป็นทักษะขั้นกลางระดับปฐพีเชียวนะ! นายมีทักษะแบบไหนกัน? ทำไมมันถึงทะลวงผ่านทักษะอสุนีโลหิตมารและแทงเข้าที่อกของฉันได้!”หลังจากการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น เฟนด์ใช้การโจ
เพราะอาการไออย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาก็ซีดราวกับกระดาษ เลือดไหลออกมาจากปากของเขาอย่างควบคุมไม่ได้ “ฉันจะตายอยู่รอมร่อแล้ว ก่อนฉันจะตายนายช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่านายเป็นใครกันแน่? แล้วนายใช้ทักษะระดับเทพสูงสุดแบบนี้ได้ยังไง?” ชายสวมหน้ากากใช้กำลังเฮือกสุดท้ายในการพูดเฟนด์สูดหายใจเข้าลึก ๆ มีบางสิ่งที่เขาคิดจะเก็บเป็นความลับไว้กับตัวจนตาย แต่ทว่าชายสวมหน้ากากพูดถูก อีกฝ่ายกำลังจะตายอยู่แล้ว เขาทำอะไรไม่ได้อีกเฟนด์หัวเราะเล็กน้อย และก็คิดเพียงให้พวกเขาสองคนได้ยินกันเพียงเท่านั้น “คุณพูดถูกแล้ว ผมใช้ทักษะในระดับเทพสูงสุด และไม่ใช่แค่นั้น มันยังอยู่ในขั้นสูงสุดอีกด้วย!”ในตอนที่เขาพูดออก ชายสวมหน้ากากก็เบิกตากว้างราวกับว่าเขาเพิ่งถูกตบหน้า เขามองเฟนด์อย่างไม่เชื่อสายตา เขาพูดถูก! เฟนด์ใช้ทักษะระดับเทพสูงสุดจริง ๆทำไม ทำไมเขาถึงสามารถเรียนรู้อะไรแบบนั้นได้? เฟนด์เป็นเพียงผู้ที่อยู่ขั้นกลางของระดับแรกกำเนิด เมื่อเขาถึงจุดสูงสุด เขาจะไม่มีทางได้พบกับคนที่เป็นแบบเขาอีกอย่างแน่นอน"นายเป็นใครกัน?!" ชายสวมหน้ากากพูดขณะที่ตัวสั่นเฟนด์หัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาดึงมือขวากลับไป ด้วยการออกแรงเพีย
เขาพูดไม่จบประโยค แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าเขาต้องการจะพูดอะไร เบนจามินถอนหายใจออก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ“ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ ดูเหมือนว่าทักษะของเฟนด์จะอยู่ในระดับที่สูงกว่าศิษย์ชั้นนำจากสำนักวายชนม์เสียอีก! และอาจจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าทุกด้านก็ได้”อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าเฟนด์เพิ่งอยู่เพียงขั้นกลางของระดับแรกกำเนิด ด้วยพลังอันน้อยนิดเช่นนี้ เขาสามารถใช้ทักษะระดับเทพสูงสุดได้อย่างไร? นั่นมันไร้สาระเกินไปแล้ว!ทุกคนเข้าใจว่าหากนี่ไม่ใช่เรื่องจริง ก็ไม่มีทางอธิบายทุกสิ่งที่พวกเขาเห็นได้ นั่นก็เพราะชายสวมหน้ากากไม่ได้ประเมินคู่ต่อสู้ของเขาต่ำไปอย่างแน่นอนเขาใช้ทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ยังล้มเหลว นั่นพิสูจน์แล้วว่าทักษะที่เฟนด์ใช้นั้นเหนือกว่าทักษะอสุนีโลหิตมารของชายสวมหน้ากากมากในขณะนั้น เฟนด์ไม่จำเป็นต้องหันกลับไปก็สัมผัสได้ถึงสายตาของทุกคนที่จ้องมองมาที่เขา นอกจากความตกใจแล้ว พวกเขายังเต็มไปด้วยความสับสน เขาละสายตาจากร่างของชายสวมหน้ากากเมื่อชายคนนั้นตายไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องครุ่นคิดถึงอดีตของพวกเขาอีกต่อไป เขามองไปที่หุบเหวแห่งสุญ
เขากำลังอยู่ที่ไหน? นี่เป็นห้วงจินตนาการหรือเปล่า? สถานที่นี้เกี่ยวข้องกับแหล่งทรัพยากรยุทธต้องห้ามหรือไม่? คำถามในใจของเขาผุดขึ้นมาทีละคำถาม แต่ไม่มีใครตอบคำถามเหล่านี้เลย!ทั้งสองหยุดอยู่ห่างกันประมาณร้อยเมตร เฟนด์ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าชายชุดเกราะสีดำมีหน้าตาเป็นอย่างไรเนื่องจากเขาสวมชุดเกราะอย่างมิดชิด แต่ชายชุดขาวไม่ได้ถูกปกปิดเสียเท่าไหร่แต่ใบหน้าของชายคนนั้นดูไม่ชัดเจน ราวกับว่ามีชั้นหมอกหนาลอยอยู่รอบตัวเขา มันปิดบังใบหน้าของเขาไว้อย่างสมบูรณ์สองคนนี้คือใครกัน? ทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นั่น? แล้วทำไมเขาถึงเห็นเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น?ในขณะนั้น ชายชุดขาวกล่าวว่า "นายไม่เพียงแต่โหดร้ายเท่านั้น แต่ยังน่ารังเกียจอีกด้วย! ความสำเร็จทั้งหมดที่นายมีในวันนี้ล้วนเป็นเพราะที่ปรึกษาของนายทั้งนั้น"ชายชุดดำเผยรอยยิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า "ฉันก็เกลียดคนหลอกลวงและเสแสร้งอย่างนายมากที่สุด ถ้านายมาเป็นฉัน นายก็คงเลวยิ่งกว่านี้! อย่ามาพูดเหมือนกับนายเป็นคนที่มีศีลธรรมสูงส่งที่สุดในโลกเลยดีกว่า"ชายในชุดขาวตะคอก "นั่นสินะ คุยกับนายไปก็มีแต่เปลืองน้ำลายเปล่า ๆ!"ชายชุดดำยิ้มออกมาอย่างเย็นชาขณะที่เข
หลังจะพูดเช่นนั้น จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากระยะไกล ราวกับมีบางอย่างระเบิดขึ้น เฟนด์มองไปตามทิศทางของเสียงและได้เห็นแสงอันเจิดจ้า! เขาได้ยินเสียงร้องแห่งความทุกข์ทรมานดังก้องอยู่ไกล ๆชายชุดขาวตื่นตระหนกอย่างยิ่ง เขาหันกลับไปและตะโกนเสียงดังว่า "นายทำแบบนี้ได้ยังไง!"รอยยิ้มของชายชุดดำหายไปและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและมืดมนว่า "ทำไมฉันจะทำแบบนี้ไม่ได้ นายเป็นคนเดียวที่วางแผนและคิดต่อต้านฉันได้อยู่ฝ่ายเดียวหรือไง"เฟนด์มีความกังวลเล็กน้อยแต่ส่วนใหญ่เป็นความรู้สึกสับสน เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมชายในชุดขาวและดำคู่นี้ถึงทะเลาะกัน? แต่ก็ได้ยินจากคำพูดของพวกเขาว่าชายชุดดำนั้นโหดเหี้ยมมากและได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจหลายอย่างทว่าชายชุดขาวก็ไม่ใช่นักบุญเช่นกัน แต่เขาไม่ได้ทราบรายละเอียดของเรื่องทั้งหมด เขาจึงไม่สามารถตัดสินคนทั้งสองได้ แต่เขาเห็นว่าชายชุดขาวดูคล้ายว่าเขาจะถูกหลอกใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวลราวกับว่าเขาต้องการจะออกไปจากที่นี่ในทันที ทั้งยังดูเหมือนว่าเขาจะกังวลในสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน หลังจากนั้นไม่นาน ชายชุดขาวลุกขึ้นรวบรวมกำลังทั
เฟนด์คำนับผู้อาวุโสด้วยความเคารพ เขาพูดอย่างจริงใจว่า "ผู้อาวุโส คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าทำไมสถานที่แห่งนี้ถึงถูกทิ้งเอาไว้ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในภาพที่ผมเห็น"ผู้อาวุโสไม่ได้หันกลับมามองเฟนด์ และไม่ได้ตอบคำถามของเฟนด์โดยตรง เขาพูดอย่างเสียงดังฟังชัดว่า "เดี๋ยวอีกหน่อยเธอก็รู้เอง"ริมฝีปากของเฟนด์กระตุก ในขณะนั้นเขาอยากจะถามคำถามทั้งหมดในใจออกไปอย่างมากแต่เขาก็กังวลว่าผู้อาวุโสจะรู้สึกแปลกหากเขาถามทุกอย่างออกไปเช่นนั้นหากผู้อาวุโสสงสัยในตัวเขา มันอาจทำให้เขาต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้คือระงับความอยากรู้อยากเห็นของเขาไว้ชั่วคราวผู้อาวุโสไม่รู้ว่าเฟนด์กำลังคิดอะไรอยู่ เขาเพียงแต่พูดต่อไปว่า "หีบปะการังแดงในมือของเธอจำเป็นต้องใช้กุญแจในการเปิดมันออก กุญแจนั่นอยู่ที่หุบเขารกชัฎ หากเธอต้องการเปิดกล่อง เธอก็ต้องไปที่นั่น ฉันจะส่งเธอไปเอง"เฟนด์เลิกคิ้วขึ้น หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสับสนยิ่งกว่าเก่า หีบปะการังแดงคืออะไร? หุบเขารกชัฎ อยู่ที่ไหนมันจะยังมีกุญแจอยู่หรือ?คำถามเหล่านั้นผุดขึ้นในใจของเฟนด์ก่อนที่เขาจะจำอะไรบางอย่างได้ในทันใด เขานึกถึงสิ่งที่พวกอาวุโ