แชร์

บทที่ 1817

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
"ถูกต้อง หากพวกคุณคิดจะไปจากที่นี่ก็ไปได้เลย และเรายังพร้อมอ้าแขนรับผู้ที่ต้องการอยู่ต่อด้วย แต่ถ้าพวกคุณเลือกที่จะจากไปตอนนี้ แล้วต้องเผชิญกับเผ่ากระเลือดในภายหลัง ก็อย่าโทษตระกูลวู๊ดของเราหากเราไม่ช่วยคุณ” โยลันดาพูดเสริม “นายน้อยเฟนด์มีแผนอยู่แล้ว ถึงได้ขอให้เรารอที่นี่ ถ้าพวกคุณอยากจะออกไปตอนนี้ เราก็จะไม่รั้งพวกคุณไว้!”

"ถูกต้อง!" ผู้อาวุโสอีกคนของตระกูลวู๊ดกล่าวเสริม “ผู้อาวุโสโยลันดาพูดถูก หากท่านใดคิดจะแยกตัวออกไปตอนนี้ ก็เชิญได้เลย พูดกันตรง ๆ การที่พวกเรามีกันมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี และบางคนก็อาจเป็นตัวถ่วงของเราด้วย การที่คนน้อยลงน่าจะง่ายกับเรามากกว่า!”

ทุกคนก้มหน้า ไม่มีใครกล้าออกไปหลังจากได้ฟังคำพูดของพวกเขา

พวกเขาไม่ใช่คนโง่ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเฟนด์และคนอื่น ๆ พวกเขาก็คงจะรอดไปได้ยากแม้ว่าพวกเขาจะออกจากผืนป่านี้ไปแล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าสมาชิกของเผ่ากระหายเลือดได้ส่งศิษย์มาคุ้มกันบริเวณป่าบ้างหรือไม่

เมื่อสังเกตเห็นว่าไม่มีใครยืนกรานในเรื่องนั้นอีกต่อไป เฮเลน่าจึงเดินไปข้างหน้าและพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “พวกเรา ตระกูลคาเบลโลจะไม่ไปไหนแน่นอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1818

    “เป็นไปได้ยังไง? นายน้อยเฟนด์สังหารผู้อาวุโสของเผ่ากระหายเลือดไปคนหนึ่งงั้นเหรอ? นั่นหมายความว่านายน้อยเฟนด์จะสามารถต่อสู้กับหัวหน้าเผ่าของพวกเขาได้งั้นหรือ” สมาชิกบางคนของตระกูลลึกลับรู้สึกตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้“เยี่ยมมาก! ตอนนี้เรามีปรมาจารย์อยู่กับเราหลายคน เมื่อรวมกับผู้ที่ทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งและขั้นที่สองระดับเทพสูงสุดของที่นี่ เราก็เป็นทีมที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง สมาชิกของเผ่ากระหายเลือดจะไม่ทำให้เราทุกข์ร้อนได้ง่ายนัก!” เฮเลน่ายิ้มอย่างมีความสุข ทุกคนรู้สึกโล่งใจและมั่นใจ เมื่อรู้ว่ามีหลายคนที่มีพลังยุทธสูง และเฟนด์ยังสามารถฆ่าผู้อาวุโสของเผ่ากระหายเลือดได้คนหนึ่งด้วย“พระเจ้า ผู้นำตระกูลของเรา… ผู้นำตระกูลของเราก็อยู่ในขั้นที่หกในระดับเทพสูงสุดเหมือนกันงั้นเหรอ?” สมาชิดตระกูลคาเบลโลล้วนรู้สึกยินดีกับเรื่องดังกล่าวนี้ และผู้อาวุโสหลายคนก็ถึงกับตัวสั่นขณะที่พวกเขาพูด พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอเล็กซานเดอร์ คาเบลโล หัวหน้าตระกูลของพวกเขาจะทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หกระดับเทพสูงสุดได้“ใช่ และต้องขอบคุณเฟนด์ ถ้าเขาไม่ให้ยาฉัน ฉันคงทะลวงไปเร็วขนาดนี้ไม่ได้หรอก! หากยาเหล่านี้ถูก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1819

    จากนั้น ออเรียลก็เรียกสมาชิกของตำหนักเทพยดา “คำนับเจ้าตำหนักคนใหม่ของทุกคน!”ตำหนักเทพยดาทั้งหมดซึ่งนำโดยผู้อาวุโสทำความเคารพอย่างกึกก้อง “ยินดีกับเจ้าตำหนักคนใหม่ในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งด้วย!”ในขณะเดียวกัน ออเรียลก็หยิบเอาสัญลักษณ์เจ้าตำหนักของเธอออกมาและส่งต่อให้เมโลดี้"เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจะขอรับเสื้อคลุมของเจ้าตำหนักไปแล้วกัน” ในที่สุดเมโลดี้ก็พยักหน้ารับสัญลักษณ์นั้นไป “ทุกคนโปรดลุกขึ้นเถิด ต่อไปเราต้องฝึกฝนไปด้วยกันให้ดี แม้ว่าพื้นที่นี้จะเป็นสถานที่ที่ดีในการฝึก แต่ทุกคนก็ทราบดีว่ามีกองกำลังภาคีกำลังหมายหัวเราอยู่ และเราอาจเผชิญหน้ากับอันตรายที่มากขึ้นในอนาคตด้วย ไม่ว่าในตำหนักของเราจะเหลือกันมากน้อยขนาดไหน แต่ฉันก็หวังว่าทุกคนจะสามัคคีกันและร่วมแรงร่วมใจกัน!”ออเรียลยิ้มด้วยความพอใจเมื่อทุกคนยืนขึ้น “เจ้าตำหนักเมโลดี้ ตอนนี้เธอเป็นเจ้าตำหนักแล้ว ไม่ใช่สตรีศักดิ์สิทธิ์ของเราอีกต่อไป ถอดผ้าคลุมออกเดี๋ยวนี้เลย”ใบหน้าของเมโลดี้ขึ้นสีชาดด้วยความเขินอาย ถึงกระนั้นเธอจะพยักหน้าก่อนจะค่อย ๆ ถอดผ้าคลุมที่เธอสวมมาหลายปีออกหลาย ๆ คนจากตระกูลอื่น ๆ ตั้งตารอที่จะได้เห็นรูป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1820

    “พวกเขาวางแผนนี้มานานหรือยัง” แนชขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “คุณหมายความว่าตอนนี้เผ่ากระหายเลือดพร้อมที่จะโจมตีกองทัพทั้งเก้า?”เฟนด์พยักหน้า “ผมว่าน่าจะมีโอกาสเป็นเช่นนั้นสูง ตลอดสองสามวันที่ผ่านมานี้พวกเขาคงฆ่าคนของเราไปไม่น้อย เพราะดูเหมือนในตอนนี้ไม่ได้เกิดการปะทะกันขึ้นบ่อยนัก แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเราได้ช่วยเหลือผู้คนที่เผชิญหน้ากับพวกเขาไว้และในระหว่างทางก็ได้แจ้งให้ผู้คนมาซ่อนตัวกันที่นี่”ผู้อาวุโสจากตระกูลลึกลับชั้นสองที่พูดก่อนหน้านี้ยิ่งมีความสุขเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้นเขาพูดอย่างตื่นเต้นว่า “วิเศษจริง ๆ! ดีเลย นายน้อยเฟนด์ หากพวกเขาโจมตีกองทัพทั้งเก้า เราจะได้ใช้โอกาสนี้หลบหนี!”คนอีกสองสามคนพยักหน้าอย่างตื่นเต้นในโอกาสที่น่าจะเป็นไปได้ดังกล่าวแต่ไม่คิดเลยว่าสีหน้าของเฟนด์จะแข็งกร้าวขึ้น เขาเริ่มถามชายคนนั้นว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะหนีไปไหนได้? ตามความเข้าใจของผม หากพวกเขารู้ว่าพวกเราเข้ามาในพื้นที่นี้อย่างมามากมายมหาศาล กองกำลังภาคีจะส่งพรรคพวกคนอื่น ๆ ของพวกเขามาตามล่าเราอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นเอลล่า ลาวีนที่ผมได้พบก่อนหน้านี้บอกผมว่าพื้นที่นี้ไม่ได้ใหญ่โตเท่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1821

    “ประการแรก เราจะสามารถฆ่าลูกศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดได้ หากเราร่วมมือกับกองทัพทั้งเก้าและจะได้ล้างแค้นให้กับตัวพวกเราเอง ประการที่สอง พวกเขาจะเป็นหนี้บุญคุณเราจากการที่เราไปช่วยพวกเขากำจัดเผ่ากระหายเลือด ซึ่งเราจะได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังปฏิภาคีอีกด้วย ถูกต้องไหม? นี่ไม่ดีกว่าการเคลื่อนไหวโดยไม่มีจุดหมายหรอกหรือ?” เฟนด์อธิบายต่อฝูงชนโดยแจ้งให้พวกเขาทราบถึงความตั้งใจของตัวเอง “ถึงแม้ว่าเราจะไปช่วยพวกเขาแต่ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไปช่วยตอนนี้ ปล่อยให้พวกเขาสู้กันให้ลากเลือดไปก่อน เพราะยังไงซะ กองทัพทั้งเก้าก็ได้พักผ่อนอย่างสบายใจตลอดเวลาที่เพิกเฉยต่อเราก่อนหน้านี้นี่ ถูกไหมล่ะ?”"ถูกต้อง! เราไม่ต้องรีบรุดไปช่วยพวกเขาหรอก เราก็ต้องมีเวลาพักผ่อนอย่างสบายใจบ้างเหมือนกัน” วีนัสมีความสุขมากขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งนี้“ฮ่าฮ่า…ไปกันเถอะ ทุกคนออกจากที่นี่แล้วไปดูกันว่าระหว่างทางจะพบพรรคพวกของเราหรือไม่ เราจะรวบรวมคนของเราเข้าด้วยกัน และถ้าเราพบศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดเมื่อไหร่ เราจะฆ่าพวกเขาทันที แน่นอนว่าเราจะฆ่าคนจากดินแดนท้องทะเลด้วยหากเราได้เจอพวกเขา ผู้คนจากดินแดนท้องทะเลเป็นศัตรูของเราเสมอมา ด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1822

    “พวกเขากลับมากันทำไม? คราวนี้เผ่ากระหายเลือดต้องการอะไรอีก?” หัวหน้าป้อมปราการคนหนึ่งงงงวย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเผ่ากระหายเลือดถึงกลับมาอีกครั้ง ทั้งที่เพิ่งจากไปได้ไม่นานยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้พวกเขายังพาคนมามากมาย และกะเกณฑ์ดูแล้วคงมีประมาณเจ็ดหมื่นคน ดูเหมือนว่าเผ่ากระหายเลือดจะนำคนทั้งเผ่ามาที่นี่เดิมทีหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งต้องการตำหนิคนที่ลั่นระฆัง แต่เมื่อเขาเห็นเผ่ากระหายเลือดสีหน้าของเขาก็ชะงักไป ในตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าใครหน้าไหนที่ทำแบบนั้นออสตินครุ่นคิดอย่างละเอียดก่อนจะถามเอ็ดเวิร์ดเสียงดัง “หัวหน้าเผ่าเอ็ดเวิร์ด นี่มันหมายความว่ายังไง? ทำไมคุณถึงพาคนของคุณมาที่นี่อีก? ไหนพวกคุณบอกว่าคนจากดินแดนรกร้างเข้ามาในป่าเพียงไม่กี่คนเองไม่ใช่หรอ? พวกคุณไม่ได้ตามล่าพวกนั้นหรือยังไง? ทำไมคุณมาหาเรื่องเราอีกแล้วล่ะ?”เอ็ดเวิร์ดยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “หึ! หยุดเสแสร้งสักที คนของคุณฆ่าผู้อาวุโสลำดับที่สี่และปรมาจารย์ของเราอีกหลายคน และเรามาที่นี่เพื่อล้างแค้นให้พวกเขา!”เอ็ดเวิร์ดไม่คิดที่จะพูดอะไรให้มากความ ดังนั้นเขาจึงโบกมือและเอ่ยคำสั่งออกไปว่า “ทุกคน กวาดล้างกองทัพท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1823

    อนิจจา ออสตินไม่มีเวลาประเมินอะไรอย่างถี่ถ้วน เมื่อเขาเห็นว่าเอ็ดเวิร์ดเหวี่ยงกำปั้นมาทางเขา ก็เหวี่ยงหมัดกลับไปสกัดกั้นอีกฝ่ายเอาไว้ตู้ม!เสียงอึกทึกก้องออกมาในขณะที่ปรมาจารย์ในขั้นที่หนึ่งระดับทะลวงวิญญาณทั้งสองปะทะฝีมือกันครั้งแรกพลังอันแข็งแกร่งกระจายออกจากจุดที่กำปั้นของพวกเขาสัมผัสกันและทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรง ความสั่นสะเทือนดังกล่าวนี้ได้ส่งศิษย์ที่มีพลังยุทธต่ำหลายคนปลิวไปไกลกว่าที่พวกเขาจะตั้งหลักได้"อ๊า!" ออสตินตะโกนเสียงดังและยืนหยัดต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามเป็นเวลาหลายวินาที เม็ดเหงื่อร่วงหล่นลงมาจากหน้าผาก คู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่าเขามาก"อ๊า!" เอ็ดเวิร์ดตะโกนออกมาเช่นกัน สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความอาฆาตมาดร้าย เขาเพิ่มพลังลงไปในหมัดของเขาและในที่สุดก็ได้เปรียบคู่ต่อสู้ เขาบังคับให้ออสตินล่าถอยไปได้ประมาณ 10 กว่าเมตรออสตินถลาไปกลางอากาศก่อนที่เขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่“ฮ่าฮ่า! คุณสู้ผมไม่ได้หรอก ออสติน หลังจากที่ผมฆ่าคุณ ก่อนที่จะฆ่าหัวหน้าป้อมปราการที่อยู่ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดอีกสองสามคน ผมจะเอาชนะพวกคุณได้แน่ ต่อให้ตอนนี้พวกคุณจะดูเหมือนว่ามีคนมากกว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1824

    "โถ่ถัง! เป็นไปได้ยังไง? ทำไมพวกเขาถึงมีกันมากขนาดนี้?”ศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดมาคุ้มกันที่ด้านนอกของป่าเพราะเกรงว่าผู้รอดชีวิตจากดินแดนรกร้างจะหลบหนีไป พวกเขายังคิดอยู่เลยว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เชื่อว่าผู้รอดชีวิตจะยังคงซ่อนตัวอยู่ในป่า หลังจากที่อีกฝ่ายปะทะกับพวกเขาในครั้งก่อนสิ่งที่ศิษย์เหล่านี้ไม่คาดคิดก็คือการที่ศัตรูหลายแสนคนจะรีบออกจากป่าเช่นนี้ แถมคนส่วนใหญ่ก็อยู่ในระดับเทพสูงสุดอีกด้วย"โจมตี!" แนชคำรามขณะที่เขานำพรรคพวกเข้าโจมตี ความเดือดดาลครอบงำเขาในขณะที่เขานึกถึงสิ่งที่สมาชิกในตระกูลวู๊ดหลายพันคนที่เสียชีวิตต้องประสบสมาชิกของตระกูลอื่น ๆ เข้าร่วมการต่อสู้อย่างไม่เกรงกลัว เพราะพวกเขาได้โอกาสที่จะล้างแค้น ก่อนหน้านี้พวกเขาได้แต่หลบหนีแม้ว่าจะเสียใจและต้องเห็นสมาชิกในตระกูลเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!ในไม่ช้าเสียงการต่อสู้ที่ด้านนอกของป่า แต่ไม่มีใครรู้ว่ากลุ่มคนจากดินแดนท้องทะเลและตำหนักนภาได้มารวมตัวกันอยู่บนยอดเขาอีกลูกในป่า“ทำไมเราถึงได้ยินเสียงของการต่อสู้กันที่ด้านนอกป่าอีกแล้วล่ะ” ผู้คนที่อยู่กันที่นี่มีจำนวนไม่มากนักและมีเพียงป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1825

    ในที่สุดชายชราคนหนึ่งก็มองไปที่ลิลลี่ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรลิลลี่วิเคราะห์หาทางออกและเสนอว่า “ฉันคิดว่าเรามีกันจำนวนไม่น้อยเลย แถมยังมีคนที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดหลายคน หากเราอยากที่จะรอดไปได้ เราก็ควรที่จะรีบลงจากเขาไปเสียตอนนี้เลยดีไหม? ฉันคิดว่าเมื่อเราไปถึงที่นั่น หัวหน้าตระกูลและสมาชิกของเผ่าโบราณก็คงจะรีบออกไปเช่นกัน ศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดจะไล่ตามเฟนด์และคนอื่น ๆ ไปในตอนที่พวกเขาหลบหนี ซึ่งจะทำให้เรามีโอกาสหนีออกจากป่าแห่งนี้ไปได้”“และหลังจากนั้นเราจะไปที่ไหนกันต่อ? เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพื้นที่นี้เลยสักนิด!” ชายชราคร่ำครวญด้วยความงุนงง “นอกจากนี้คนของเราบางคนยังได้ยินศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดพูดถึงสิ่งกองกำลังภาคีอีกด้วย ดูเหมือนว่ากองกำลังภาคีนี้จะจัดตั้งขึ้นเพื่อฆ่าพวกเราซึ่งเป็นคนนอกในดินแดนนี้!”“จริงสิ พวกเราไม่มีที่ไปนี่นา เราไม่รู้ว่ากองกำลังภาคีนี้เป็นอย่างไรและกันมากน้อยเท่าไหร่อีกต่างหาก” ลิลลี่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่ดวงตาของเธอจะเป็นประกายขึ้น “ฉันคิดว่านะ ตั้งแต่เผ่ากระหายเลือดโจมตีกองทัพทั้งเก้า ฉันก็ได้ยินศิษย์เผ่ากระหายเลือดบางคน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status