“วิเศษมาก! แผนนี้ของคุณวิเศษจริง ๆ นายน้อยเฟนด์ ยอดเยี่ยมมาก!” หัวหน้าตระกูลลึกลับชั้นสามยกนิ้วให้เฟนด์"ถูกต้อง ผู้คนในกองทัพทั้งเก้าเพิกเฉยต่อเรา และทั้งที่พวกเขาก็รู้ว่าเรากำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังวางเฉย เราไม่รู้ว่าพวกเขาไม่เคยคิดจะช่วยเราเลยหรือเพราะพวกเขากลัวเผ่ากระหายเลือดมากเกินไปกันแน่” หัวหน้าตระกูลชนชั้นสูงที่โกรธเกรี้ยวโวยวาย “คราวนี้เราต้องมอบบทเรียนให้แก่พวกเขาบ้าง!”ดาเนียลล่าก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพากองกำลังปฏิภาคีและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพทั้งเก้าเพื่อให้การบ่มเพาะของเราง่ายขึ้นในอนาคต เราก็ไม่อยากจะร่วมมือกับคนพวกนี้เลยจริง ๆ! ”“เอาล่ะไปกันเถอะ ตอนนี้เราไม่ได้มีตัวเลือกมากมายอะไร พี่สาวคนโตของคุณใครพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนด้วยนะว่า กลุ่มของพวกอาเธอร์และคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะเป็นคนดี แต่พวกเขาคงไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรเนื่องจากพวกเขามีทักษะยุทธไม่สูงนัก” เฟนด์ยิ้มและโบกมือขณะนำผู้คนไปยังทิศทางของกองทัพทั้งเก้า"อะไรกัน? ทำไมถึงมีเสียงการต่อสู้ที่ด้านนอกป่าได้ล่ะ” ในขณะที่เฟนด์และคนอื่น ๆ กำลังต่อสู้กับเหล่าศิษย์จากเ
“หัวหน้าเผ่า อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นกับศิษย์ที่เราทิ้งไว้ที่นั่นหรือเปล่า?” ชายชราคนหนึ่งกล่าวในขณะที่เขานึกขึ้นได้“จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?” เอ็ดเวิร์ดขมวดคิ้ว แต่น้ำเสียงของเขามีแววไม่มั่นใจ"โจมตี! ฆ่าพวกเขาซะ!” เขากัดฟันและโจมตีใส่ออสตินด้วยความรุนแรงยิ่งขึ้นตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!ในขณะที่ชัยชนะในการต่อสู้โอนได้โอนเอียงไปทางเผ่ากระหายเลือด ผู้คนในกองทัพทั้งเก้าก็ล้มตายกันมากขึ้นเรื่อย ๆทันใดนั้น ขณะที่เฮนดริกกำลังต่อสู้ เขาก็ร้องเรียกอาเธอร์ “นายน้อยอาเธอร์ ดูนั่นสิ มีกลุ่มคนกำลังบินมาทางนี้!”หลังจากสังหารชายขั้นสูงสุดระดับเทพแท้จริงด้วยหมัด อาเธอร์หันกลับมามอง มีกลุ่มคนกำลังบินมาทางจากที่ไกล ๆ จริง ๆ เสียด้วย "โอ้โห พวกเขาคงมีกันอย่างน้อยหลายหมื่นคนเลยล่ะ! ทำไมมีกันมากมายถึงพวกนี้? พวกเขามาจากตำหนักคลื่นเมฆารึเปล่า?” อาเธอร์ตะโกนออกมาขณะที่เฮนดริคบินไปหาอาเธอร์ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเขา “เป็นไปไม่ได้หรอก ตำหนักคลื่นเมฆาจะไม่มาจากทิศทางนั้น ศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดไม่ได้ฆ่าผู้คนที่มาจากดินแดนรกร้างไปจนเกือบหมด ก่อนที่จะบุกมาโจมตีเรางั้นหรอ?”อาเธอร์หรออ้าปากค้าง "เป็นไปไ
แม้ว่าเอ็ดเวิร์ดจะยืนกรานเช่นนั้น แต่ความจริงแล้วเขาก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ลึก ๆ เพราะกลุ่มคนกลุ่มนั้นมีสมาชิกอยู่ราวสองแสนคน และพวกเขาจะต้องมีพลังยุทธที่แข็งแกร่งพอตัว ถึงได้รอดชีวิตจากการตามล่าของศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดได้ อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะมีคนที่อยู่ในระดับเทพที่แท้จริงไม่น้อยเลย และคงมีคนที่อยู่ในระดับกึ่งเทพไม่มากนักยิ่งไปกว่านั้น คนพวกนี้ต้องทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งหรือขั้นที่สองในระดับเทพสูงสุดไปบ้างแล้ว นี่เป็นระดับพลังที่ต้องคอยจับตาดูเป็นพิเศษสิ่งเดียวที่เขาต้องการจะทำคือการฆ่าออสติน ผู้ยืนอยู่ต่อหน้าเขา เพื่อที่เขาจะได้ฆ่านายท่านจากกองทัพทั้งเก้าคนอื่น ๆ ที่อยู่ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดได้ เพื่อเป็นเช่นนั้นพวกเขาจะถือไพ่เหนือกว่าปรมาจารย์เหล่านี้ตู้ม!ออสตินเริ่มลังเลใจเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีอย่างบ้าคลั่งของเอ็ดเวิร์ด เขามองไปที่ป่าในตอนที่กำลังสู้ เขาหวังว่าคนพวกนั้นจะมาช่วยเขาให้เร็วกว่านี้หน่อยจากนั้นในขณะที่กำลังรอคอยอยู่เขาก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ เขาสังเกตได้ว่า แม้กองกำลังดังกล่าวจะมีผู้คนมากมาย แต่คนพวกนั้นก็บินเข้ามาหาพวกเขาช้าอย่างน่าปวดใจ"เ
หากเผ่ากระหายเลือดไม่สูญเสียศิษย์จากการตามล่าผู้คนที่มาจากดินแดนรกร้างไปบ้างแล้ว การที่เผ่ากระหายเลือดที่จะกำจัดพวกเขาออกไปนั้นคงจะง่ายได้ยิ่งกว่านี้ขณะที่ออสตินไม่สามารถทนรับการโจมตีไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว เขาจึงบินออกไปให้ห่างกว่าเก่า ก่อนจะตะโกนใส่เอ็ดเวิร์ดแห่งเผ่ากระหายเลือดว่า “คุณบ้าไปแล้วหรอ เอ็ดเวิร์ด? หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเราทั้งคู่จะต้องพบกับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ผมจะบอกคุณไว้ให้เลยนะ คุณไม่เห็นกลุ่มคนทั้งนั้นเลยหรอ พวกเขามาที่นี่เพื่อเล่นงานพวกคุณไม่ผิดแน่ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเพราะควรจะต้องพบกับความพ่ายแพ้!”“ฮ่าฮ่า! จริงอยู่คนพวกนั้นมีจำนวนมากกว่า แต่พวกเขาไม่มีพลังต่อสู้สูงนัก!” เอ็ดเวิร์ดตอบกลับในทันทีพร้อมเสียงหัวเราะ “ถ้าผมนับเวลาไม่ผิด คนจากเผ่าดาบราชันย์ก็มาถึงเร็ว ๆ นี้เช่นกัน!”เอ็ดเวิร์ดยังคงโจมตีออสตินต่อไปออสตินรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขามักขอความช่วยเหลือจากกองกำลังอื่น ๆ แต่ไม่เคยคาดคิดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะทำแบบเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ คงยากที่จะบอกได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในที่สุดเฟนด์และคนอื่น ๆ ก็บินเข้าไปใกล้ แต่พวกเขาหยุดที่ไหนสักแห่งใกล
เมื่อเห็นว่าหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งนั้นมีไหวพริบและดูจริงใจเพียงใด ในที่สุดเฟนด์ก็ชี้ไปข้างหน้าและประกาศออกไปว่า “ทุกคน ฟังผม เผ่ากระหายเลือดที่ยืนอยู่ต่อหน้าเราในตอนนี้ได้เห็นพวกเขาฆ่าพี่น้องของพวกเราไปมากมาย และนี่เป็นโอกาสที่เราจะได้ล้างแค้นกับคนพวกนี้ โจมตีและทำร้ายพวกเขาให้ราบเป็นหน้ากลอง!”"จู่โจม!" แนชและคนอื่น ๆ รีบกรูเข้าไปข้างหน้าทันทีราวกับได้รับได้รับแรงกระตุ้น“หัวหน้าเผ่า พวกนั้นมีกันไม่น้อยเลย! เราควรทำยังไงดี? ในพวกนั้นมีคนที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดไม่น้อยเลยเหมือนกัน!” ชายชราคนหนึ่งถามหัวหน้าเผ่ากระหายเลือดในทันที เขาค่อนข้างตื่นตระหนกหลังจากที่สังเกตเห็นการรวมตัวกันฝูงชน“เราจะกลัวไปทำไม? ไม่ว่าจะยังไงเราก็จะสู้ต่อไป พวกเขาเทียบกับเราไม่ได้หรอก เมื่อเทียบกันแล้วเรามีคนที่อยู่ในขั้นที่หกหรือเจ็ดในระดับเทพสูงสุดมากกว่าพวกนั้น แล้วมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย!” เอ็ดเวิร์ดสั่งเสียงดัง “พอผมฆ่าหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งของพวกเขาได้แล้ว เราก็จะชนะได้ง่ายกว่าเดิมเสียอีก!”ชวิ้ง!เฟนด์พุ่งเข้าหาศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดที่อยู่ในขั้นที่แปดระดับเทพสูงสุดใน
“พระเจ้า เขาแข็งแกร่งมาก!” เหล่าปรมาจารย์แห่งกองทัพทั้งเก้าพี่อยู่ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดหลายคนอุทานออกมาเมื่อได้เห็นพลังของเฟนด์ พวกเขาตกใจสุดขีดเพราะอีกฝ่ายคือศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดในขั้นที่แปดระดับเทพสูงสุด และมันเป็นเรื่องยากสำหรับปรมาจารย์ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดเช่นพวกเขาที่จะฆ่าคนเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เขาล้มลงต่อหน้าเฟนด์ซึ่งทำให้เขาจบชีวิตลงอย่างรวดเร็ว“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าฉัน” ผู้อาวุโสแห่งป้อมปราการที่หนึ่งรู้สึกเบิกบานใจเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเฟนด์ไม่ใช่คนเดียวที่มีพลังการต่อสู้สูง มีปรมาจารย์หลายคนในขั้นที่หกระดับเทพสูงสุดและปรมาจารย์ในขั้นที่ห้าระดับเทพสูงสุดภายในกลุ่มของเฟนด์เมื่อคนเหล่านี้เข้าร่วมกับพวกเขาอย่างกะทันหัน พวกเขาก็เอาชนะความแตกต่างด้านความแข็งแกร่งกับคู่ต่อสู้ได้เฟนด์ยังพาคนจำนวนมากมาด้วย และภายใต้สถานการณ์ที่พวกเขามีพลังระดับเดียวกัน พวกเขาสามารถรวมตัวกันเป็นกลุ่มสองหรือสามคนและโจมตีศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ดังนั้นพวกเขาจึงถือไพ่เหนือกว่า และจำนวนสมาชิกของเผ่ากระหายเลือดก็ลด
“พวกคุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าผมเป็นใคร สิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือมันถึงคราวตายของพวกคุณแล้ว!” เฟนด์ตัดสินใจไม่บอกพวกเขาว่าเขาเป็นใคร เพราะเผ่ากระหายเลือดมีสมาชิกจำนวนมาก และเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งสมาชิกบางคนอาจหาทางหนีออกไปได้ถ้าพวกเขารู้จักคนที่มีความสามารถพอ ๆ กับคนที่มาจากดินแดนรกร้างและประสบความสำเร็จภายในระยะเวลาอันสั้นอย่างเขา เมื่อถึงตอนนั้นกองกำลังภาคีจะต้องสนใจเขาอย่างแน่นอน คนพวกนั้นคงไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการฆ่าเขา“พ่อหนุ่ม แกคิดว่าแกเป็นคนเดียวที่รู้จักวิธีใช้หมัดมังกรคู่งั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งและสองสบตากันก่อนที่พวกเขาจะแยกขา และหมอบลง เตรียมที่จะใช้ทักษะหมัดมังกรคู่“หมัดมังกรคู่!” ทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกัน และหมัดของคนทั้งคู่ที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวมังกรก็โผล่ออกมาแทบจะใดทันที กำปั้นขนาดมหึมาเหล่านี้ดูเหมือนจะสูงหลายฟุตและดูแข็งแกร่งมากถึงกระนั้นเฟนด์หัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะเหวี่ยงกำปั้นทั้งสองข้างของตัวเองออกไปข้างหน้า ระเบิดพลังออกไปทางพวกเขาจากนั้นการโจมตีก็จับตัวรูปร่างซึ่งสูงหกสิบเมตรต่อหน้าเขา"โอ้พระเจ้า! นี่มัน… ชายหนุ่มคนนี้ได้บ่มเพาะทักษะหมัดมังกรคู่
ตู้ม! ตู้ม!ผู้อาวุโสทั้งสองลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับว่าวป่านขาด ก่อนที่จะกระแทกกับศาลาหินอย่างแรง สิ่งนี้ได้ทำลายโครงสร้างของศาลานั้นลง“อุ่ก!”เลือดพุ่งออกทางปากของพวกเขา ขาของทั้งคู่กระตุกเกร็ง และสิ้นใจลงสมาชิกจากทั้งเผ่ากระหายเลือดและกองทัพทั้งเก้าต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นภาพดังกล่าว และบางคนถึงกับหยุดต่อสู้เพราะเหตุนี้“เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง? เขาฆ่าทั้งผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งและสองหนุ่มได้งั้นหรอ? เขาฆ่าคนที่อยู่ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดสองคนพร้อมกันได้เลยงั้นหรอ?” ผู้อาวุโสลำดับที่สามของเผ่ากระหายเลือดหน้าซีดเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากเข้าร่วมในสนามรบได้ไม่นานเฟนด์ได้ฆ่าปรมาจารย์ของเผ่ากระหายเลือดไปถึงสามคน เขายังทำให้สมาชิกเผ่ากระหายเลือดตกตะลึงอีกด้วยหากเรื่องราวยังคงดำเนินไปเช่นนี้พวกเขาเสร็จแน่เพราะสมาชิกของกองทัพทั้งเก้าที่อยู่ในขั้นที่แปดและเก้าในระดับเทพสูงสุดจะไม่เข้าไปเผชิญกับปรมาจารย์ของฝ่ายตรงข้ามเช่นนี้แน่“นี่… นี่คือเฟนด์ที่ฉันรู้จักงั้นเหรอ?” เอลล่าตกตะลึง เธอจำได้ว่าเฟนด์ดูเหมือนจะอยู่ในขั้นที่สองในระดับเทพสูงสุดในตอนที่เขาช่วยชีวิตเธอเมื่อไม่นา