หากเผ่ากระหายเลือดไม่สูญเสียศิษย์จากการตามล่าผู้คนที่มาจากดินแดนรกร้างไปบ้างแล้ว การที่เผ่ากระหายเลือดที่จะกำจัดพวกเขาออกไปนั้นคงจะง่ายได้ยิ่งกว่านี้ขณะที่ออสตินไม่สามารถทนรับการโจมตีไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว เขาจึงบินออกไปให้ห่างกว่าเก่า ก่อนจะตะโกนใส่เอ็ดเวิร์ดแห่งเผ่ากระหายเลือดว่า “คุณบ้าไปแล้วหรอ เอ็ดเวิร์ด? หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเราทั้งคู่จะต้องพบกับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ผมจะบอกคุณไว้ให้เลยนะ คุณไม่เห็นกลุ่มคนทั้งนั้นเลยหรอ พวกเขามาที่นี่เพื่อเล่นงานพวกคุณไม่ผิดแน่ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเพราะควรจะต้องพบกับความพ่ายแพ้!”“ฮ่าฮ่า! จริงอยู่คนพวกนั้นมีจำนวนมากกว่า แต่พวกเขาไม่มีพลังต่อสู้สูงนัก!” เอ็ดเวิร์ดตอบกลับในทันทีพร้อมเสียงหัวเราะ “ถ้าผมนับเวลาไม่ผิด คนจากเผ่าดาบราชันย์ก็มาถึงเร็ว ๆ นี้เช่นกัน!”เอ็ดเวิร์ดยังคงโจมตีออสตินต่อไปออสตินรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขามักขอความช่วยเหลือจากกองกำลังอื่น ๆ แต่ไม่เคยคาดคิดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะทำแบบเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ คงยากที่จะบอกได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในที่สุดเฟนด์และคนอื่น ๆ ก็บินเข้าไปใกล้ แต่พวกเขาหยุดที่ไหนสักแห่งใกล
เมื่อเห็นว่าหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งนั้นมีไหวพริบและดูจริงใจเพียงใด ในที่สุดเฟนด์ก็ชี้ไปข้างหน้าและประกาศออกไปว่า “ทุกคน ฟังผม เผ่ากระหายเลือดที่ยืนอยู่ต่อหน้าเราในตอนนี้ได้เห็นพวกเขาฆ่าพี่น้องของพวกเราไปมากมาย และนี่เป็นโอกาสที่เราจะได้ล้างแค้นกับคนพวกนี้ โจมตีและทำร้ายพวกเขาให้ราบเป็นหน้ากลอง!”"จู่โจม!" แนชและคนอื่น ๆ รีบกรูเข้าไปข้างหน้าทันทีราวกับได้รับได้รับแรงกระตุ้น“หัวหน้าเผ่า พวกนั้นมีกันไม่น้อยเลย! เราควรทำยังไงดี? ในพวกนั้นมีคนที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดไม่น้อยเลยเหมือนกัน!” ชายชราคนหนึ่งถามหัวหน้าเผ่ากระหายเลือดในทันที เขาค่อนข้างตื่นตระหนกหลังจากที่สังเกตเห็นการรวมตัวกันฝูงชน“เราจะกลัวไปทำไม? ไม่ว่าจะยังไงเราก็จะสู้ต่อไป พวกเขาเทียบกับเราไม่ได้หรอก เมื่อเทียบกันแล้วเรามีคนที่อยู่ในขั้นที่หกหรือเจ็ดในระดับเทพสูงสุดมากกว่าพวกนั้น แล้วมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย!” เอ็ดเวิร์ดสั่งเสียงดัง “พอผมฆ่าหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งของพวกเขาได้แล้ว เราก็จะชนะได้ง่ายกว่าเดิมเสียอีก!”ชวิ้ง!เฟนด์พุ่งเข้าหาศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดที่อยู่ในขั้นที่แปดระดับเทพสูงสุดใน
“พระเจ้า เขาแข็งแกร่งมาก!” เหล่าปรมาจารย์แห่งกองทัพทั้งเก้าพี่อยู่ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดหลายคนอุทานออกมาเมื่อได้เห็นพลังของเฟนด์ พวกเขาตกใจสุดขีดเพราะอีกฝ่ายคือศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดในขั้นที่แปดระดับเทพสูงสุด และมันเป็นเรื่องยากสำหรับปรมาจารย์ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดเช่นพวกเขาที่จะฆ่าคนเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เขาล้มลงต่อหน้าเฟนด์ซึ่งทำให้เขาจบชีวิตลงอย่างรวดเร็ว“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าฉัน” ผู้อาวุโสแห่งป้อมปราการที่หนึ่งรู้สึกเบิกบานใจเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเฟนด์ไม่ใช่คนเดียวที่มีพลังการต่อสู้สูง มีปรมาจารย์หลายคนในขั้นที่หกระดับเทพสูงสุดและปรมาจารย์ในขั้นที่ห้าระดับเทพสูงสุดภายในกลุ่มของเฟนด์เมื่อคนเหล่านี้เข้าร่วมกับพวกเขาอย่างกะทันหัน พวกเขาก็เอาชนะความแตกต่างด้านความแข็งแกร่งกับคู่ต่อสู้ได้เฟนด์ยังพาคนจำนวนมากมาด้วย และภายใต้สถานการณ์ที่พวกเขามีพลังระดับเดียวกัน พวกเขาสามารถรวมตัวกันเป็นกลุ่มสองหรือสามคนและโจมตีศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ดังนั้นพวกเขาจึงถือไพ่เหนือกว่า และจำนวนสมาชิกของเผ่ากระหายเลือดก็ลด
“พวกคุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าผมเป็นใคร สิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือมันถึงคราวตายของพวกคุณแล้ว!” เฟนด์ตัดสินใจไม่บอกพวกเขาว่าเขาเป็นใคร เพราะเผ่ากระหายเลือดมีสมาชิกจำนวนมาก และเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งสมาชิกบางคนอาจหาทางหนีออกไปได้ถ้าพวกเขารู้จักคนที่มีความสามารถพอ ๆ กับคนที่มาจากดินแดนรกร้างและประสบความสำเร็จภายในระยะเวลาอันสั้นอย่างเขา เมื่อถึงตอนนั้นกองกำลังภาคีจะต้องสนใจเขาอย่างแน่นอน คนพวกนั้นคงไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการฆ่าเขา“พ่อหนุ่ม แกคิดว่าแกเป็นคนเดียวที่รู้จักวิธีใช้หมัดมังกรคู่งั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งและสองสบตากันก่อนที่พวกเขาจะแยกขา และหมอบลง เตรียมที่จะใช้ทักษะหมัดมังกรคู่“หมัดมังกรคู่!” ทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกัน และหมัดของคนทั้งคู่ที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวมังกรก็โผล่ออกมาแทบจะใดทันที กำปั้นขนาดมหึมาเหล่านี้ดูเหมือนจะสูงหลายฟุตและดูแข็งแกร่งมากถึงกระนั้นเฟนด์หัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะเหวี่ยงกำปั้นทั้งสองข้างของตัวเองออกไปข้างหน้า ระเบิดพลังออกไปทางพวกเขาจากนั้นการโจมตีก็จับตัวรูปร่างซึ่งสูงหกสิบเมตรต่อหน้าเขา"โอ้พระเจ้า! นี่มัน… ชายหนุ่มคนนี้ได้บ่มเพาะทักษะหมัดมังกรคู่
ตู้ม! ตู้ม!ผู้อาวุโสทั้งสองลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับว่าวป่านขาด ก่อนที่จะกระแทกกับศาลาหินอย่างแรง สิ่งนี้ได้ทำลายโครงสร้างของศาลานั้นลง“อุ่ก!”เลือดพุ่งออกทางปากของพวกเขา ขาของทั้งคู่กระตุกเกร็ง และสิ้นใจลงสมาชิกจากทั้งเผ่ากระหายเลือดและกองทัพทั้งเก้าต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นภาพดังกล่าว และบางคนถึงกับหยุดต่อสู้เพราะเหตุนี้“เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง? เขาฆ่าทั้งผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งและสองหนุ่มได้งั้นหรอ? เขาฆ่าคนที่อยู่ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดสองคนพร้อมกันได้เลยงั้นหรอ?” ผู้อาวุโสลำดับที่สามของเผ่ากระหายเลือดหน้าซีดเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากเข้าร่วมในสนามรบได้ไม่นานเฟนด์ได้ฆ่าปรมาจารย์ของเผ่ากระหายเลือดไปถึงสามคน เขายังทำให้สมาชิกเผ่ากระหายเลือดตกตะลึงอีกด้วยหากเรื่องราวยังคงดำเนินไปเช่นนี้พวกเขาเสร็จแน่เพราะสมาชิกของกองทัพทั้งเก้าที่อยู่ในขั้นที่แปดและเก้าในระดับเทพสูงสุดจะไม่เข้าไปเผชิญกับปรมาจารย์ของฝ่ายตรงข้ามเช่นนี้แน่“นี่… นี่คือเฟนด์ที่ฉันรู้จักงั้นเหรอ?” เอลล่าตกตะลึง เธอจำได้ว่าเฟนด์ดูเหมือนจะอยู่ในขั้นที่สองในระดับเทพสูงสุดในตอนที่เขาช่วยชีวิตเธอเมื่อไม่นา
ออสตินมีเลือดซิบที่มุมปาก เขาเอ่ยปากด้วยความเกลียดชัง ดวงตาเสมอทึง “ถูกต้อง! คนอื่นจะหนีไปไหนก็ไม่สำคัญหรอก แต่เราจะปล่อยให้ตาเฒ่านี่หนีไปไม่ได้ น้องเฟนด์เรามาฆ่าเขาด้วยกันเถอะ!”สีหน้าของเอ็ดเวิร์ดชะงักงันกับคำพูดประโยคนี้เขาคิดมาตลอดว่าพลังการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่าออสตินมาก และเขาน่าจะสามารถฆ่าออสตินได้ในไม่กี่นาที หากเฟนด์และคนอื่น ๆ ไม่เข้ามายุ่ง เผ่ากระหายเลือดก็จะชนะพลังการต่อสู้ที่เฟนด์แสดงให้เห็นนั้นเทียบได้กับขั้นที่หนึ่งระดับทะลวงวิญญาณเลยด้วยซ้ำ แค่เฟนด์เพียงคนเดียวก็สร้างปัญหาให้เขามามากพอแล้ว หากทั้งคู่โจมตีเขาพร้อมกันมันจะแสนเข็ญขนาดไหนเมื่อคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น เอ็ดเวิร์ดเริ่มอ้อนวอนออสติน “ออสติน คุณคิดให้ถี่ถ้วนนะ คุณบอกเองไม่ใช่หรอว่าหากเรายังต่อสู้กันต่อไปมันจะส่งผลให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่กับเราทั้งคู่? เรามาลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เราแยกย้ายกันไปทางใครทางมันกันเถอะ”ออสตินได้แต่หัวเราะ “ฮ่าฮ่า! ตอนที่ผมขอร้องให้คุณหยุด คุณตอบผมว่ายังไง เอ็ดเวิร์ด เกรย์? คุณปฏิเสธผม แล้วทำไมตอนนี้ผมต้องยอมรับข้อเสนอนั้น ในเมื่อตอนนี้ผมกำลังถือไพ่เหนือกว่า”จากนั้น
จำนวนคนในฝูงชนที่กำลังจะมาถึงนั้นมีประมาณหลายแสนคน และพวกเขาก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาจากทิศทางของเผ่ากระหายเลือด"แย่แล้ว! นั่นมันเผ่าดาบราชันย์! บ้าเอ๊ย! ผมส่งคนไปแจ้งตำหนักคลื่นเมฆาแล้ว แต่ทำไมพวกเขาถึงยังไม่มา คนจากเผ่าดาบราชันย์กำลังจะมาถึงที่นี่แล้ว เราจะทำยังไงกันดี?” สีหน้าของออสตินชะงักงัน ในขณะที่สมาชิกของกองทัพทั้งเก้าและพรรคพวกของเฟนด์รุมล้อมสมาชิกเผ่ากระหายเลือดที่เหลือ การต่อสู้หยุดชั่วคราวสีหน้าของเฟนด์ดูจริงจังขึ้นแม้ว่าจะเล็กน้อยก็ตาม “หัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่ง คุณช่วยบอกผมเกี่ยวกับเผ่าดาบราชันย์หน่อยได้ไหม? พวกเขาแข็งแกร่งมากหรอ? เทียบกับเผ่ากระหายเลือดแล้วดูเป็นอย่างไร?” จากนั้นออสตินก็พูดกับเฟนด์ว่า “ทั้งเผ่ากระหายเลือด และเผ่าดาบราชันย์ถูกจัดได้ว่าเป็นกองกำลังชั้นสามเท่านั้น พวกเขาไม่ใช่กองกำลังที่ใหญ่โตอะไรมากมายนักหรอก”เฟนด์สบายใจขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเผ่าดาบราชันย์มาช่วยเผ่ากระหายเลือด พวกเขาต้องเป็นสมาชิกของกองกำลังภาคีและไม่เป็นมิตรอย่างแน่นอนถึงอย่างนั้นพวกเขายังโชคดีที่เผ่านี้ไม่ใช่กองกำลังขนาดใหญ่ พวกเขาจึงอาจพอที่จะต่อสู้ก
“ไปกันเถอะ ไปกัน เราไม่รู้ว่าเหตุใดซุ่มเสียงของการต่อสู้จากที่นั่นจึงหยุดลงเร็วนัก เพราะงั้นผมจึงคิดว่าเราควรออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด หากเราได้พบกับกลุ่มคนที่มาจากกองกำลังภาคีอีกครั้งเราจะเดือดร้อน!” ชายชราจากวิหารราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ส่งสัญญาณให้กลุ่มคนบินไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับที่เผ่ากระหายเลือดอยู่เพราะว่าพวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าจะได้พบกับกลุ่มคนหลายแสนคนที่บินตรงมาหาพวกเขาหลังจากเริ่มเดินทางได้ไม่นาน“เวรเอ๊ย! เราดันเจอกับพวกเขาเสียนี่ เราจะทำยังไงกันดี? ทั้งสองฝ่ายเป็นกองกำลังขนาดใหญ่และเพราะที่นี่เป็นหุบเขาพวกเขาถึงได้พบเราได้ง่าย ๆ แบบนี้!” ชายคนหนึ่งจากตำหนักนภามีสีหน้ามืดมนเมื่อเห็นกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขามุมปากของลิลลี่กระตุกหลายครั้งก่อนที่เธอจะพูดว่า “เราโชคไม่ดีเอาซะเลย! หวังว่าพวกเขาจะไม่ใช่สมาชิกของกองกำลังภาคี!”สมาชิกคนหนึ่งซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสมาชิกของตระกูลลาโกริโอยืนอยู่ข้าง ๆ เธอและพูดว่า “นายหญิงเจ้าตำหนัก ทำไมเราไม่หันหลังกลับและหนีไปเสียเดี๋ยวนี้เลยล่ะ? ในเมื่อพวกนั้นก็ยังอยู่ห่างจากเราพอสมควร พวกเราบางคนน่าจะรอดได้หากหันหลังกลับเพื่อหนีไปเสียเดี๋ยวนี้