แชร์

บทที่ 1826

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“วิเศษมาก! แผนนี้ของคุณวิเศษจริง ๆ นายน้อยเฟนด์ ยอดเยี่ยมมาก!” หัวหน้าตระกูลลึกลับชั้นสามยกนิ้วให้เฟนด์

"ถูกต้อง ผู้คนในกองทัพทั้งเก้าเพิกเฉยต่อเรา และทั้งที่พวกเขาก็รู้ว่าเรากำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังวางเฉย เราไม่รู้ว่าพวกเขาไม่เคยคิดจะช่วยเราเลยหรือเพราะพวกเขากลัวเผ่ากระหายเลือดมากเกินไปกันแน่” หัวหน้าตระกูลชนชั้นสูงที่โกรธเกรี้ยวโวยวาย “คราวนี้เราต้องมอบบทเรียนให้แก่พวกเขาบ้าง!”

ดาเนียลล่าก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพากองกำลังปฏิภาคีและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพทั้งเก้าเพื่อให้การบ่มเพาะของเราง่ายขึ้นในอนาคต เราก็ไม่อยากจะร่วมมือกับคนพวกนี้เลยจริง ๆ! ”

“เอาล่ะไปกันเถอะ ตอนนี้เราไม่ได้มีตัวเลือกมากมายอะไร พี่สาวคนโตของคุณใครพูดถึงเรื่องนี้มาก่อนด้วยนะว่า กลุ่มของพวกอาเธอร์และคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะเป็นคนดี แต่พวกเขาคงไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรเนื่องจากพวกเขามีทักษะยุทธไม่สูงนัก” เฟนด์ยิ้มและโบกมือขณะนำผู้คนไปยังทิศทางของกองทัพทั้งเก้า

"อะไรกัน? ทำไมถึงมีเสียงการต่อสู้ที่ด้านนอกป่าได้ล่ะ” ในขณะที่เฟนด์และคนอื่น ๆ กำลังต่อสู้กับเหล่าศิษย์จากเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1827

    “หัวหน้าเผ่า อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นกับศิษย์ที่เราทิ้งไว้ที่นั่นหรือเปล่า?” ชายชราคนหนึ่งกล่าวในขณะที่เขานึกขึ้นได้“จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?” เอ็ดเวิร์ดขมวดคิ้ว แต่น้ำเสียงของเขามีแววไม่มั่นใจ"โจมตี! ฆ่าพวกเขาซะ!” เขากัดฟันและโจมตีใส่ออสตินด้วยความรุนแรงยิ่งขึ้นตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!ในขณะที่ชัยชนะในการต่อสู้โอนได้โอนเอียงไปทางเผ่ากระหายเลือด ผู้คนในกองทัพทั้งเก้าก็ล้มตายกันมากขึ้นเรื่อย ๆทันใดนั้น ขณะที่เฮนดริกกำลังต่อสู้ เขาก็ร้องเรียกอาเธอร์ “นายน้อยอาเธอร์ ดูนั่นสิ มีกลุ่มคนกำลังบินมาทางนี้!”หลังจากสังหารชายขั้นสูงสุดระดับเทพแท้จริงด้วยหมัด อาเธอร์หันกลับมามอง มีกลุ่มคนกำลังบินมาทางจากที่ไกล ๆ จริง ๆ เสียด้วย "โอ้โห พวกเขาคงมีกันอย่างน้อยหลายหมื่นคนเลยล่ะ! ทำไมมีกันมากมายถึงพวกนี้? พวกเขามาจากตำหนักคลื่นเมฆารึเปล่า?” อาเธอร์ตะโกนออกมาขณะที่เฮนดริคบินไปหาอาเธอร์ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเขา “เป็นไปไม่ได้หรอก ตำหนักคลื่นเมฆาจะไม่มาจากทิศทางนั้น ศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดไม่ได้ฆ่าผู้คนที่มาจากดินแดนรกร้างไปจนเกือบหมด ก่อนที่จะบุกมาโจมตีเรางั้นหรอ?”อาเธอร์หรออ้าปากค้าง "เป็นไปไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1828

    แม้ว่าเอ็ดเวิร์ดจะยืนกรานเช่นนั้น แต่ความจริงแล้วเขาก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ลึก ๆ เพราะกลุ่มคนกลุ่มนั้นมีสมาชิกอยู่ราวสองแสนคน และพวกเขาจะต้องมีพลังยุทธที่แข็งแกร่งพอตัว ถึงได้รอดชีวิตจากการตามล่าของศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดได้ อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะมีคนที่อยู่ในระดับเทพที่แท้จริงไม่น้อยเลย และคงมีคนที่อยู่ในระดับกึ่งเทพไม่มากนักยิ่งไปกว่านั้น คนพวกนี้ต้องทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งหรือขั้นที่สองในระดับเทพสูงสุดไปบ้างแล้ว นี่เป็นระดับพลังที่ต้องคอยจับตาดูเป็นพิเศษสิ่งเดียวที่เขาต้องการจะทำคือการฆ่าออสติน ผู้ยืนอยู่ต่อหน้าเขา เพื่อที่เขาจะได้ฆ่านายท่านจากกองทัพทั้งเก้าคนอื่น ๆ ที่อยู่ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดได้ เพื่อเป็นเช่นนั้นพวกเขาจะถือไพ่เหนือกว่าปรมาจารย์เหล่านี้ตู้ม!ออสตินเริ่มลังเลใจเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีอย่างบ้าคลั่งของเอ็ดเวิร์ด เขามองไปที่ป่าในตอนที่กำลังสู้ เขาหวังว่าคนพวกนั้นจะมาช่วยเขาให้เร็วกว่านี้หน่อยจากนั้นในขณะที่กำลังรอคอยอยู่เขาก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ เขาสังเกตได้ว่า แม้กองกำลังดังกล่าวจะมีผู้คนมากมาย แต่คนพวกนั้นก็บินเข้ามาหาพวกเขาช้าอย่างน่าปวดใจ"เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1829

    หากเผ่ากระหายเลือดไม่สูญเสียศิษย์จากการตามล่าผู้คนที่มาจากดินแดนรกร้างไปบ้างแล้ว การที่เผ่ากระหายเลือดที่จะกำจัดพวกเขาออกไปนั้นคงจะง่ายได้ยิ่งกว่านี้ขณะที่ออสตินไม่สามารถทนรับการโจมตีไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว เขาจึงบินออกไปให้ห่างกว่าเก่า ก่อนจะตะโกนใส่เอ็ดเวิร์ดแห่งเผ่ากระหายเลือดว่า “คุณบ้าไปแล้วหรอ เอ็ดเวิร์ด? หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเราทั้งคู่จะต้องพบกับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ผมจะบอกคุณไว้ให้เลยนะ คุณไม่เห็นกลุ่มคนทั้งนั้นเลยหรอ พวกเขามาที่นี่เพื่อเล่นงานพวกคุณไม่ผิดแน่ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเพราะควรจะต้องพบกับความพ่ายแพ้!”“ฮ่าฮ่า! จริงอยู่คนพวกนั้นมีจำนวนมากกว่า แต่พวกเขาไม่มีพลังต่อสู้สูงนัก!” เอ็ดเวิร์ดตอบกลับในทันทีพร้อมเสียงหัวเราะ “ถ้าผมนับเวลาไม่ผิด คนจากเผ่าดาบราชันย์ก็มาถึงเร็ว ๆ นี้เช่นกัน!”เอ็ดเวิร์ดยังคงโจมตีออสตินต่อไปออสตินรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขามักขอความช่วยเหลือจากกองกำลังอื่น ๆ แต่ไม่เคยคาดคิดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะทำแบบเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ คงยากที่จะบอกได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในที่สุดเฟนด์และคนอื่น ๆ ก็บินเข้าไปใกล้ แต่พวกเขาหยุดที่ไหนสักแห่งใกล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1830

    เมื่อเห็นว่าหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งนั้นมีไหวพริบและดูจริงใจเพียงใด ในที่สุดเฟนด์ก็ชี้ไปข้างหน้าและประกาศออกไปว่า “ทุกคน ฟังผม เผ่ากระหายเลือดที่ยืนอยู่ต่อหน้าเราในตอนนี้ได้เห็นพวกเขาฆ่าพี่น้องของพวกเราไปมากมาย และนี่เป็นโอกาสที่เราจะได้ล้างแค้นกับคนพวกนี้ โจมตีและทำร้ายพวกเขาให้ราบเป็นหน้ากลอง!”"จู่โจม!" แนชและคนอื่น ๆ รีบกรูเข้าไปข้างหน้าทันทีราวกับได้รับได้รับแรงกระตุ้น“หัวหน้าเผ่า พวกนั้นมีกันไม่น้อยเลย! เราควรทำยังไงดี? ในพวกนั้นมีคนที่อยู่ในขั้นที่หนึ่งในระดับเทพสูงสุดไม่น้อยเลยเหมือนกัน!” ชายชราคนหนึ่งถามหัวหน้าเผ่ากระหายเลือดในทันที เขาค่อนข้างตื่นตระหนกหลังจากที่สังเกตเห็นการรวมตัวกันฝูงชน“เราจะกลัวไปทำไม? ไม่ว่าจะยังไงเราก็จะสู้ต่อไป พวกเขาเทียบกับเราไม่ได้หรอก เมื่อเทียบกันแล้วเรามีคนที่อยู่ในขั้นที่หกหรือเจ็ดในระดับเทพสูงสุดมากกว่าพวกนั้น แล้วมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย!” เอ็ดเวิร์ดสั่งเสียงดัง “พอผมฆ่าหัวหน้าป้อมปราการลำดับที่หนึ่งของพวกเขาได้แล้ว เราก็จะชนะได้ง่ายกว่าเดิมเสียอีก!”ชวิ้ง!เฟนด์พุ่งเข้าหาศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดที่อยู่ในขั้นที่แปดระดับเทพสูงสุดใน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1831

    “พระเจ้า เขาแข็งแกร่งมาก!” เหล่าปรมาจารย์แห่งกองทัพทั้งเก้าพี่อยู่ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดหลายคนอุทานออกมาเมื่อได้เห็นพลังของเฟนด์ พวกเขาตกใจสุดขีดเพราะอีกฝ่ายคือศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดในขั้นที่แปดระดับเทพสูงสุด และมันเป็นเรื่องยากสำหรับปรมาจารย์ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดเช่นพวกเขาที่จะฆ่าคนเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เขาล้มลงต่อหน้าเฟนด์ซึ่งทำให้เขาจบชีวิตลงอย่างรวดเร็ว“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าฉัน” ผู้อาวุโสแห่งป้อมปราการที่หนึ่งรู้สึกเบิกบานใจเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเฟนด์ไม่ใช่คนเดียวที่มีพลังการต่อสู้สูง มีปรมาจารย์หลายคนในขั้นที่หกระดับเทพสูงสุดและปรมาจารย์ในขั้นที่ห้าระดับเทพสูงสุดภายในกลุ่มของเฟนด์เมื่อคนเหล่านี้เข้าร่วมกับพวกเขาอย่างกะทันหัน พวกเขาก็เอาชนะความแตกต่างด้านความแข็งแกร่งกับคู่ต่อสู้ได้เฟนด์ยังพาคนจำนวนมากมาด้วย และภายใต้สถานการณ์ที่พวกเขามีพลังระดับเดียวกัน พวกเขาสามารถรวมตัวกันเป็นกลุ่มสองหรือสามคนและโจมตีศิษย์ของเผ่ากระหายเลือดที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ดังนั้นพวกเขาจึงถือไพ่เหนือกว่า และจำนวนสมาชิกของเผ่ากระหายเลือดก็ลด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1832

    “พวกคุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าผมเป็นใคร สิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือมันถึงคราวตายของพวกคุณแล้ว!” เฟนด์ตัดสินใจไม่บอกพวกเขาว่าเขาเป็นใคร เพราะเผ่ากระหายเลือดมีสมาชิกจำนวนมาก และเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งสมาชิกบางคนอาจหาทางหนีออกไปได้ถ้าพวกเขารู้จักคนที่มีความสามารถพอ ๆ กับคนที่มาจากดินแดนรกร้างและประสบความสำเร็จภายในระยะเวลาอันสั้นอย่างเขา เมื่อถึงตอนนั้นกองกำลังภาคีจะต้องสนใจเขาอย่างแน่นอน คนพวกนั้นคงไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการฆ่าเขา“พ่อหนุ่ม แกคิดว่าแกเป็นคนเดียวที่รู้จักวิธีใช้หมัดมังกรคู่งั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งและสองสบตากันก่อนที่พวกเขาจะแยกขา และหมอบลง เตรียมที่จะใช้ทักษะหมัดมังกรคู่“หมัดมังกรคู่!” ทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกัน และหมัดของคนทั้งคู่ที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวมังกรก็โผล่ออกมาแทบจะใดทันที กำปั้นขนาดมหึมาเหล่านี้ดูเหมือนจะสูงหลายฟุตและดูแข็งแกร่งมากถึงกระนั้นเฟนด์หัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะเหวี่ยงกำปั้นทั้งสองข้างของตัวเองออกไปข้างหน้า ระเบิดพลังออกไปทางพวกเขาจากนั้นการโจมตีก็จับตัวรูปร่างซึ่งสูงหกสิบเมตรต่อหน้าเขา"โอ้พระเจ้า! นี่มัน… ชายหนุ่มคนนี้ได้บ่มเพาะทักษะหมัดมังกรคู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1833

    ตู้ม! ตู้ม!ผู้อาวุโสทั้งสองลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับว่าวป่านขาด ก่อนที่จะกระแทกกับศาลาหินอย่างแรง สิ่งนี้ได้ทำลายโครงสร้างของศาลานั้นลง“อุ่ก!”เลือดพุ่งออกทางปากของพวกเขา ขาของทั้งคู่กระตุกเกร็ง และสิ้นใจลงสมาชิกจากทั้งเผ่ากระหายเลือดและกองทัพทั้งเก้าต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นภาพดังกล่าว และบางคนถึงกับหยุดต่อสู้เพราะเหตุนี้“เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง? เขาฆ่าทั้งผู้อาวุโสลำดับที่หนึ่งและสองหนุ่มได้งั้นหรอ? เขาฆ่าคนที่อยู่ในขั้นที่เก้าระดับเทพสูงสุดสองคนพร้อมกันได้เลยงั้นหรอ?” ผู้อาวุโสลำดับที่สามของเผ่ากระหายเลือดหน้าซีดเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากเข้าร่วมในสนามรบได้ไม่นานเฟนด์ได้ฆ่าปรมาจารย์ของเผ่ากระหายเลือดไปถึงสามคน เขายังทำให้สมาชิกเผ่ากระหายเลือดตกตะลึงอีกด้วยหากเรื่องราวยังคงดำเนินไปเช่นนี้พวกเขาเสร็จแน่เพราะสมาชิกของกองทัพทั้งเก้าที่อยู่ในขั้นที่แปดและเก้าในระดับเทพสูงสุดจะไม่เข้าไปเผชิญกับปรมาจารย์ของฝ่ายตรงข้ามเช่นนี้แน่“นี่… นี่คือเฟนด์ที่ฉันรู้จักงั้นเหรอ?” เอลล่าตกตะลึง เธอจำได้ว่าเฟนด์ดูเหมือนจะอยู่ในขั้นที่สองในระดับเทพสูงสุดในตอนที่เขาช่วยชีวิตเธอเมื่อไม่นา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1834

    ออสตินมีเลือดซิบที่มุมปาก เขาเอ่ยปากด้วยความเกลียดชัง ดวงตาเสมอทึง “ถูกต้อง! คนอื่นจะหนีไปไหนก็ไม่สำคัญหรอก แต่เราจะปล่อยให้ตาเฒ่านี่หนีไปไม่ได้ น้องเฟนด์เรามาฆ่าเขาด้วยกันเถอะ!”สีหน้าของเอ็ดเวิร์ดชะงักงันกับคำพูดประโยคนี้เขาคิดมาตลอดว่าพลังการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่าออสตินมาก และเขาน่าจะสามารถฆ่าออสตินได้ในไม่กี่นาที หากเฟนด์และคนอื่น ๆ ไม่เข้ามายุ่ง เผ่ากระหายเลือดก็จะชนะพลังการต่อสู้ที่เฟนด์แสดงให้เห็นนั้นเทียบได้กับขั้นที่หนึ่งระดับทะลวงวิญญาณเลยด้วยซ้ำ แค่เฟนด์เพียงคนเดียวก็สร้างปัญหาให้เขามามากพอแล้ว หากทั้งคู่โจมตีเขาพร้อมกันมันจะแสนเข็ญขนาดไหนเมื่อคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น เอ็ดเวิร์ดเริ่มอ้อนวอนออสติน “ออสติน คุณคิดให้ถี่ถ้วนนะ คุณบอกเองไม่ใช่หรอว่าหากเรายังต่อสู้กันต่อไปมันจะส่งผลให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่กับเราทั้งคู่? เรามาลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เราแยกย้ายกันไปทางใครทางมันกันเถอะ”ออสตินได้แต่หัวเราะ “ฮ่าฮ่า! ตอนที่ผมขอร้องให้คุณหยุด คุณตอบผมว่ายังไง เอ็ดเวิร์ด เกรย์? คุณปฏิเสธผม แล้วทำไมตอนนี้ผมต้องยอมรับข้อเสนอนั้น ในเมื่อตอนนี้ผมกำลังถือไพ่เหนือกว่า”จากนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status