โดยการกระแอมในลำคอก่อนจะพูดไปแบบนั้น จากนั้นควินแลนก็ล้วงมือไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะยิ้มเยาะ “ความวุ่นวายทั้งหมดนี้คืออะไรกัน? พวกเราพยายามที่จะเรียนกันที่นี่นะ!” อาจารย์หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา ขณะที่เธอและเพื่อนร่วมงานของเธอก้าวออกมาจากห้องปฏิบัติการข้าง ๆ ด้วยความไม่พอใจ เมื่อหันไปเผชิญหน้ากับพวกเธอ จากนั้นควินแลนก็พูดขึ้นมา “ก็คุณคลอฟอร์ดน่ะสิครับ…ผมขอให้คุณสวิฟต์มีชั้นเรียนร่วมกันกับผม เพราะผมอยากจะมีประสบการณ์สอนบ้าง… ช่างบังเอิญ ช่วงเวลาที่ผมเลือกดันไปชนกับชั้นเรียนของคุณคลอฟอร์ด! พูดตามตรงทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของผมเอง…” “มันไม่ใช่อย่างงั้นจริง ๆ คุณคลอฟอร์ดแค่ไม่นึกถึงคนอื่นเลย! ก็แค่ใช้บทเรียนถัดไปสิคะ! ไม่มีความจำเป็นต้องสร้างเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลย ใช่ไหมคะ?” เพื่อนร่วมงานหญิงคนอื่นกล่าว ขณะที่พวกเธอทั้งคู่พยักหน้าพร้อมเพรียงกัน เมื่อลูบผมเธอให้ตรง จากนั้นมาร์จอรีก็พูดเสริม “ทำไมคุณไม่ย้อนกลับไปที่ชั้นเรียนของคุณก่อนล่ะคะ คุณคลอฟอร์ด?” เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์จึงทำได้เพียงแค่ขมวดคิ้วเท่านั้น เขารู้เป็นอย่างดีว่าการพยายามที่จะโต้เถียงกับพวกเขาจะไม่เป็นการ
“ให้ตาย! คุณยังเป็นอาจารย์อยู่หรือเปล่าเนี่ย? คุณไม่รู้จักภูเขาบลูมลินได้ยังไงกัน? นั่นคือสถานที่ที่คนหนุ่มสาวมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแก๊งกัน มักจะไปรวมตัวเพื่อจัดปาร์ตี้! ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ชอบมีการแข่งรถกันที่นั่น เพื่อสร้างความบันเทิงให้ตัวเองเช่นกัน! สถานที่แห่งนั้นเป็นสถานที่ไม่ดี!” นักเรียนอีกคนอธิบายอย่างค่อนข้างช่วยไม่ได้ “ไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายมันให้เขาฟังหรอก! ไม่ว่ายังไง ทิวลิปก็กล้าพอที่จะไปที่ไหนก็ตาม เมื่อความไม่ยั้งคิดของเธอเริ่มขึ้น! ฉันก็น่าจะรู้อยู่แล้ว เพราะเรื่องแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้น เมื่อเธอเดือดร้อนครั้งล่าสุด! เอาน่า รีบไปกันเถอะและพยายามพาเธอกลับมาได้แล้ว!” นิโคลที่ตอนนี้กังวลใจมาก จนเธอแทบจะร้องไห้ได้อยู่แล้วเอ่ยออกมา แม้นิโคลเป็นเพื่อนรักของทิวลิป แต่เธอก็ยังเป็นลูกสาวของพ่อบ้านของตระกูลโยเวลล์เช่นกัน เพราะเช่นนั้น นิโคลจึงมักจะได้รับมอบหมายให้จับตาดูทิวลิปเอาไว้ ท้ายที่สุดแล้ว เกือบจะทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคุณหนูรองแห่งตระกูลโยเวลล์ก็รู้ว่า เธอมีชื่อเสียจากการทำตัวไม่ยั้งคิด เธอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความเพลิดเพลินของตัวเธอเองเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ซึ
เมื่อสังเกตเห็นการมาถึงของนิโคลและเพื่อนร่วมชั้นของเธอ วัยรุ่นคนอื่นมากมายที่อยู่ที่นั่นก็เริ่มกรีดร้องและผิวปากใส่พวกเขากันทันที ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่มีพวกเขาคนไหนเคยเห็นนักเรียนที่แต่งตัวด้วยชุดเครื่องแบบที่นั่นมาก่อนเลย ยิ่งไปกว่านั้น ในหมู่นักเรียนสามสิบกว่าคน ครึ่งหนึ่งของพวกเขาต่างก็เป็นผู้หญิงตัวสูงและผอมเพรียวที่ดูไร้เดียงสาและน่ารัก การปรากฏตัวของพวกเขาที่ภูเขาบลูมลินก็ไม่ต่างอะไรไปจากเรื่องไม่ธรรมดาสำหรับพวกอันธพาล แม้แต่ผู้ชายทรงผมบิ๊กแฮร์ก็กระโดดออกมาจากรถของเขาด้วยความตื่นเต้น สายตาของเขาเบิกกว้างขึ้น “นิโคล… พวกเธอทั้งหมด… ทำไมพวกเธอทุกคนถึงมาที่นี่ล่ะ?” ทิวลิปถาม “ทำไมพวกเราจะมาที่นี่งั้นเหรอ? แน่นอน พวกเราเป็นห่วงเธอไง! รีบไปกันเถอะ! พอคิดว่าเธอจะกล้ามาที่นี่จริง ๆ ล่ะก็! ถ้าเกิดว่าพ่อของเธอรู้เข้าล่ะ? เธออยากจะทนทุกข์ทรมานขนาดนั้นจริง ๆ ใช่ไหม?” นิโคลตอบกลับ ขณะที่เธอจับแขนของทิวลิปไว้ เนื่องจากมันชัดเจนว่าทิวลิปต้องการจะไปกับพวกเขา ผู้ชายก่อนหน้านี้จึงเพียงพูดเยาะเย้ย “ไม่เอาน่า ไม่ต้องรีบร้อนที่จะจากไปหรอก! ทำไมพวกเราไม่แข่งกันก่อนล่ะ? ท้ายที่สุดแล้ว มันต้อง
“อย่ามองฉัน…ฉันไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าเขาจะตามพวกเรามาที่นี่จริง…” นิโคลตอบกลับอย่างข่วยไม่ได้ “ฉันจะจบเห่แน่ถ้าเขาบอกมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับเรื่องนี้! นั่นยังไม่ใช่ส่วนที่เลวร้ายที่สุดด้วยซ้ำ! ถ้าเกิดว่ามหาวิทยาลัยแจ้งให้พ่อของฉันรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ?!” ทิวลิปร้องออกมาด้วยสภาพที่บ้าคลั่ง “ใจเย็น ๆ ทิวลิป ฉันมีวิธีที่จะให้เขาร่วมมืออย่างเชื่อฟัง ในเวลานี้เธอต้องการผู้ชายในรถของเธอ ใช่ไหม? ทำไมพวกเราไม่ให้เขาทำมันล่ะ? เมื่อเขาอยู่ด้านในแล้ว เขาก็จะกลัวเธออย่างแน่นอน!” สเปคกี้แนะนำ “แม่งเอ้ย…” แม้ทิวลิปอยากจะต่อว่าสเปคกี้ แน่นอนหลังจากได้ยินคำล้อเลียนทางอ้อมของเขาต่อทักษะการขับรถของเธอ แต่เมื่อคิดย้อนกลับไป เขาก็พูดมีเหตุผล เนื่องจากเธอก็รำคาญเจอรัลด์อยู่แล้ว หลังจากเหตุการณ์ของเช้าวันนั้นที่ห้องปฏบัติการ ทิวลิปจึงไม่เป็นกังวลมากเกินไป ที่จะทำให้เขาทนทุกข์เช่นกัน นอกจากนี้ เขาก็ดูเหมือนเป็นผู้ชายจริงใจและค่อนข้างเซ่อซ่าคนหนึ่ง เมื่อเธอจัดการเขาในรถเสร็จ เขาก็จะไม่กล้ารายงานความประพฤติของเธออย่างแน่นอน ด้วยความคิดทั้งหมดนั้นในใจ เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตามแผนการของสเปคกี้ “พวกเธอทุก
ในตอนนี้ รถด้านหลังของพวกเขาก็หยุดลงแล้วเช่นกัน โดยปิดกั้นเส้นทางหลบหนีที่เป็นไปได้ไว้แล้ว ‘มีบางอย่างผิดปกติอย่างแน่นอน!’ เจอรัลด์คิดกับตัวเองขณะที่เขาเฝ้ามองผู้ชายทรงผมบิ๊กแฮร์ และผู้หญิงก้าวลงมาจากรถของพวกเขา “เฮ้ ตอนนี้! พวกนายเป็นแบบนี้ได้ยังไง? สิ่งกีดขวางบนถนนเหล่านี้ไม่ควรอยู่ที่นี่อย่างเห็นได้ชัด! ฉันต้องการให้พวกเราเริ่มใหม่!” ทิวลิปทำหน้าบึ้ง รู้สึกว่าถูกโกง “แน่นอน คุณทิวลิป โยเวลล์! คุณคือคุณหนูรองแห่งตระกูลโยเวลล์ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม…พวกเราสามารถเริ่มต้นใหม่กี่ครั้งก็ได้ตามที่คุณต้องการ!” ผู้ชายทรงผมบิ๊กแฮร์ตอบกลับ ขณะที่เขาหัวเราะเสียงดัง “…นาย…นายรู้จักชื่อของฉันได้ยังไง?” ทิวลิปถาม ในที่สุดก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ฮึ่ม! ลงจากรถมาได้แล้ว คุณหนู! อย่าสร้างปัญหาให้พวกเรามากเกินความจำเป็นเลย!” ผู้ชายทรงผมบิ๊กแฮร์ตะโกนขึ้น ขณะที่เขาดึงวิกผมออก เผยให้เห็นหัวโล้นของเขา! ตามมาหลังจากนั้น เขาก็หยิบปืนออกมา โดยเล็งมันไปที่ทิวลิปก่อนจะคำรามใส่ “ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ? ลงมา!” เมื่อเห็นปืนทิวลิปก็ถึงกับหน้าซีดด้วยความตกใจกลัวทันที เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้าใจแล
“…นั่น…เอาล่ะ ตอนที่เขาจับเธอไว้ ฉันเพียงใช้โอกาสนั้นสไลด์ตัวลงที่ลาดเอียงไปน่ะ! ทั้งหมดที่ฉันจำเป็นต้องทำหลังจากนั้นก็คืออ้อมไปด้านหลังที่รถอยู่ไง!” เจอรัลด์อธิบาย “เข้าใจแล้ว! ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคุณจะฉลาดขนาดนั้น!” ทิวลิปตอบกลับด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็เพียงส่ายหัวของเขาเงียบ ๆ เท่านั้น เมื่อมาถึงตรงเชิงเขา เจอรัลด์ก็หรี่ตาของเขา และเห็นว่ารถหรูคันอื่นหลายคันกำลังเร่งความเร็วมาทางพวกเขาในเวลานี้ เมื่อรถมาล้อบรอบพื้นที่ไว้ ทิวลิปจึงร้องเสียงแหลมขึ้นมาฉับพลัน “ตายแล้ว! นั่นคือรถของพ่อของฉัน! นิโคลต้องบอกเขาว่าฉันอยู่ที่นี่แน่! ฉันพังแน่ตอนนี้!” ทิวลิปกล่าว ขณะที่เธอตัวสั่นด้วยความกลัว ไม่กี่วินาทีต่อมา ผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากรถ และเดินมาหาเธอก่อนจะถามอย่างกระวนกระวายใจ “คุณ…คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ คุณหนูรอง…?” “ฮ ฮึ่ม! ถ้าคุณมาถึงช้ากว่านี้ งั้นคุณก็คงจะไม่ได้เห็นอีกต่อไปแล้วล่ะ!” ทิวลิปตอบกลับ ร่องรอยของความกลัวยังคงแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ “ขอบคุณพระเจ้าพวกเรามาได้ทันเวลา คือ…นิโคลเป็นคนที่เตือนผมว่าคุณอาจตกอยู่ในอันตราย เป็นผลให้ผมนำคนเห
“เป็นยังไงบ้าง?” เจอรัลด์ถาม “เอิ่ม อาจารย์ที่เอาช่วงเวลาเรียนห้องปฏิบัติการของพวกเราไปจากเราถูกทุบตีน่ะครับ! คุณโยซอนกำลังเดือดร้อนอย่างมากในตอนนี้! ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไปทำให้นายน้อยของตระกูลไลท์เบิร์นต้องขุ่นเคืองใจ! หากคุณไม่รู้นะ นายน้อยตระกูลไลท์เบิร์นอยู่ภายใต้การปกป้องของกองกำลังใต้ดิน!” สเปคกี้อธิบาย เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็มองไปข้างหน้าและเห็นควินแลนถูกคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำรุมล้อมเอาไว้ มาร์จอรีและอาจารย์หญิงคนอื่นสองสามคนก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดแข็งทื่ออยู่กับที่ด้วยความตกใจกลัว “พวกเรายังไม่จบนะ!” หนี่งในผู้ชายชุดดำตะโกนขึ้น ขณะที่เขาถลึงตามองควินแลน ควินแลนเองก็ดูเหมือนจะมีรอยตบอย่างชัดเจนอยู่หลายรอยบนแก้มของเขา ขณะที่อธิการบดีของมหาวิทยาลัยยังคงพยายามที่จะทำให้สถานการณ์สงบลง ควินแลนก็เช็ดเลือดสออกจากแว่นตาของเขาก่อนจะพูดเยาะเย้ยขึ้นมา “ไม่เป็นไรครับ อธิการบดี แค่ให้ผมโทรออก และทุกอย่างก็จะได้รับการจัดการเอง” “ฮึ่ม! เชิญเลย! มาดูกันว่าคุณจะโทรเรียกใครมา!” ผู้ชายคนนั้นพูดเยาะเย้ยอย่างโกรธแค้น เมื่อส่ายหัวของเขา จากนั้นควินแลนก็หยิบ
แม้เขาจะไม่พอใจ แต่นายไลท์เบิร์นก็ไม่ได้โง่ หลังจากได้ฟังถึงสิ่งที่ลูกน้องของเขาพูดมา เขาก็เข้าใจแล้วว่ามันจะเสี่ยงยังไงถ้าเขายังคงจะผลักดันประเด็นนี้ต่อไป เพราะเช่นนั้น เขาจึงไม่พูดอะไรมาก รอลยัล ดราก้อน กรุ๊ป ของเจอรัลด์เองก็ได้พัฒนาขึ้นอยู่ในตำแหน่งใหญ่โตในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้มันก็ได้รับความช่วยเหลือจากกองกำลังทั้งห้าที่ได้รับมาในเขตเมืองทาลโก้ ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งไทสันและเดรก ที่ถูกสเวนทุบตีอย่างสาหัส ตอนนี้ก็กลับมาอยู่เคียงข้างเจอรัลด์แล้ว แม้ฐานทัพหลักของพวกเขายังคงอยู่ในเขตเมืองทาลโก้ แต่ไม่นานมานี้พวกเขาได้เริ่มพัฒนาในเมืองเฮฟเวินลีเช่นกัน ความพยายามของพวกเขาในการทำแบบนั้น ได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากตระกูลเวสลีย์ “รอลยัล ดราก้อน กรุ๊ป เป็นม้ามืดอย่างแท้จริง!” สเปคกี้ ที่ยืนอยู่ข้างเจอรัลด์ตลอดเวลามานี้พึมพำกับตัวเอง “ฉันสงสัยว่าพวกเขาได้อำนาจมากอย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน…” ผู้หญิงสองสามคนที่ได้ยินความเห็นของสเปคกี้ถามขึ้นมา “อืม จากสิ่งที่ฉันได้ยินมา บอสของรอลยัล ดราก้อน กรุ๊ป มีสมรรถภาพสูงอย่างมาก! ฉันยังเคยได้ยินมาเช่นกันว่าบอสของทั้
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ