“…นั่น…เอาล่ะ ตอนที่เขาจับเธอไว้ ฉันเพียงใช้โอกาสนั้นสไลด์ตัวลงที่ลาดเอียงไปน่ะ! ทั้งหมดที่ฉันจำเป็นต้องทำหลังจากนั้นก็คืออ้อมไปด้านหลังที่รถอยู่ไง!” เจอรัลด์อธิบาย “เข้าใจแล้ว! ฉันไม่คาดคิดเลยว่าคุณจะฉลาดขนาดนั้น!” ทิวลิปตอบกลับด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็เพียงส่ายหัวของเขาเงียบ ๆ เท่านั้น เมื่อมาถึงตรงเชิงเขา เจอรัลด์ก็หรี่ตาของเขา และเห็นว่ารถหรูคันอื่นหลายคันกำลังเร่งความเร็วมาทางพวกเขาในเวลานี้ เมื่อรถมาล้อบรอบพื้นที่ไว้ ทิวลิปจึงร้องเสียงแหลมขึ้นมาฉับพลัน “ตายแล้ว! นั่นคือรถของพ่อของฉัน! นิโคลต้องบอกเขาว่าฉันอยู่ที่นี่แน่! ฉันพังแน่ตอนนี้!” ทิวลิปกล่าว ขณะที่เธอตัวสั่นด้วยความกลัว ไม่กี่วินาทีต่อมา ผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากรถ และเดินมาหาเธอก่อนจะถามอย่างกระวนกระวายใจ “คุณ…คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ คุณหนูรอง…?” “ฮ ฮึ่ม! ถ้าคุณมาถึงช้ากว่านี้ งั้นคุณก็คงจะไม่ได้เห็นอีกต่อไปแล้วล่ะ!” ทิวลิปตอบกลับ ร่องรอยของความกลัวยังคงแฝงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ “ขอบคุณพระเจ้าพวกเรามาได้ทันเวลา คือ…นิโคลเป็นคนที่เตือนผมว่าคุณอาจตกอยู่ในอันตราย เป็นผลให้ผมนำคนเห
“เป็นยังไงบ้าง?” เจอรัลด์ถาม “เอิ่ม อาจารย์ที่เอาช่วงเวลาเรียนห้องปฏิบัติการของพวกเราไปจากเราถูกทุบตีน่ะครับ! คุณโยซอนกำลังเดือดร้อนอย่างมากในตอนนี้! ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไปทำให้นายน้อยของตระกูลไลท์เบิร์นต้องขุ่นเคืองใจ! หากคุณไม่รู้นะ นายน้อยตระกูลไลท์เบิร์นอยู่ภายใต้การปกป้องของกองกำลังใต้ดิน!” สเปคกี้อธิบาย เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็มองไปข้างหน้าและเห็นควินแลนถูกคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งกายด้วยชุดสูทสีดำรุมล้อมเอาไว้ มาร์จอรีและอาจารย์หญิงคนอื่นสองสามคนก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดแข็งทื่ออยู่กับที่ด้วยความตกใจกลัว “พวกเรายังไม่จบนะ!” หนี่งในผู้ชายชุดดำตะโกนขึ้น ขณะที่เขาถลึงตามองควินแลน ควินแลนเองก็ดูเหมือนจะมีรอยตบอย่างชัดเจนอยู่หลายรอยบนแก้มของเขา ขณะที่อธิการบดีของมหาวิทยาลัยยังคงพยายามที่จะทำให้สถานการณ์สงบลง ควินแลนก็เช็ดเลือดสออกจากแว่นตาของเขาก่อนจะพูดเยาะเย้ยขึ้นมา “ไม่เป็นไรครับ อธิการบดี แค่ให้ผมโทรออก และทุกอย่างก็จะได้รับการจัดการเอง” “ฮึ่ม! เชิญเลย! มาดูกันว่าคุณจะโทรเรียกใครมา!” ผู้ชายคนนั้นพูดเยาะเย้ยอย่างโกรธแค้น เมื่อส่ายหัวของเขา จากนั้นควินแลนก็หยิบ
แม้เขาจะไม่พอใจ แต่นายไลท์เบิร์นก็ไม่ได้โง่ หลังจากได้ฟังถึงสิ่งที่ลูกน้องของเขาพูดมา เขาก็เข้าใจแล้วว่ามันจะเสี่ยงยังไงถ้าเขายังคงจะผลักดันประเด็นนี้ต่อไป เพราะเช่นนั้น เขาจึงไม่พูดอะไรมาก รอลยัล ดราก้อน กรุ๊ป ของเจอรัลด์เองก็ได้พัฒนาขึ้นอยู่ในตำแหน่งใหญ่โตในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้มันก็ได้รับความช่วยเหลือจากกองกำลังทั้งห้าที่ได้รับมาในเขตเมืองทาลโก้ ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งไทสันและเดรก ที่ถูกสเวนทุบตีอย่างสาหัส ตอนนี้ก็กลับมาอยู่เคียงข้างเจอรัลด์แล้ว แม้ฐานทัพหลักของพวกเขายังคงอยู่ในเขตเมืองทาลโก้ แต่ไม่นานมานี้พวกเขาได้เริ่มพัฒนาในเมืองเฮฟเวินลีเช่นกัน ความพยายามของพวกเขาในการทำแบบนั้น ได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากตระกูลเวสลีย์ “รอลยัล ดราก้อน กรุ๊ป เป็นม้ามืดอย่างแท้จริง!” สเปคกี้ ที่ยืนอยู่ข้างเจอรัลด์ตลอดเวลามานี้พึมพำกับตัวเอง “ฉันสงสัยว่าพวกเขาได้อำนาจมากอย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน…” ผู้หญิงสองสามคนที่ได้ยินความเห็นของสเปคกี้ถามขึ้นมา “อืม จากสิ่งที่ฉันได้ยินมา บอสของรอลยัล ดราก้อน กรุ๊ป มีสมรรถภาพสูงอย่างมาก! ฉันยังเคยได้ยินมาเช่นกันว่าบอสของทั้
ดูคล้ายกับทิวลิป ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก และพวกเธอทั้งคู่ก็คล้ายคลึงกันและกันมาก อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ก็เห็นได้ว่าแม้ทิวลิปมีท่าทางที่ไร้เดียงสามากกว่าสำหรับเธอ แต่ผู้หญิงคนนั้น ในทางตรงกันข้าม กลับดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่ามาก “นั่นคือเขา พี่สาว!” ทิวลิปกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ขณะที่เธอชี้ไปที่เจอรัลด์ เมื่อได้ยินแบบนั้น เธอก็มองเจอรัลด์เพียงครู่เดียว ๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย ตามมาหลังจากนั้น เธอก็คว้ากระเป๋าของเธอและลุกขึ้นเพื่อจากไป ในขณะที่เจอรัลด์ตั้งใจที่จะทักทายเธอเล็กน้อย แต่เธอกลับเมินเฉยเขาไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเธอจากไปแล้ว ทิวลิปก็พูดขึ้นมาอย่างอิ่มอกอิ่มใจ “นั่นคือพี่สาวของฉัน จูเลียต โยเวลล์ คุณคิดว่าเธอเป็นไงบ้าง? เธอสวยใช่ไหม? ฮ่า! แม้คุณปฏิเสธมัน แต่ฉันก็เห็นว่าสายตาของคุณเบิกกว้างแค่ไหนทันทีที่คุณเห็นเธอ!” เขาพยักหน้าเล็กน้อย เจอรัลด์เพียงตอบกลับ “งั้นก็บอกมา เธอต้องการพบฉันเพื่ออะไร?” “อืม แน่นอนว่าเป็นเรื่องดี มีบางอย่างที่ฉันต้องบอกคุณเป็นการส่วนตัว จริง ๆ แล้ว มันเป็นข่าวดีที่มาก!” ทิวลิปกล่าวก่อนจะถอนหายใจ “ความจริงก็คือว่า ฉันกำลังมองหาใครบางคนท
ด้วยเหตุนี้ ความทรงจำของเหตุการณ์ก็สิ้นสุดลง เมื่อมองไปที่เจอรัลด์ ทิวลิปก็บอกได้เลยว่าเขากำลังครุ่นคิดอยู่ แน่นอนว่าเจอรัลด์เองไม่ได้ตื่นเต้นมากเกินไปเกี่ยวกับความจริงที่ว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนงามคนนั้นอย่างฉับพลันดังนั้นเขาก็กำลังคิดถึงการปฏิบัติจริงของการดำเนินการต่อไปด้วยกัน พูดตามตรง ทิวลิปได้ลงมืออย่างดีในแง่ของความก้าวหน้าของแผนการของเขา ท้ายที่สุดแล้ว ตราบใดที่เขาสามารถแอบเข้าไปในตระกูลโยเวลล์ได้ เขาก็จะสามารถหยุดวิถีชีวิตเร่ร่อนของเขาได้อย่างน้อยก็สักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักก็ยังคงมีอยู่ ทำไมเขาถึงต้องแต่งงานกับผู้หญิงแปลกหน้าเช่นนี้ เพียงเพื่อให้บรรลุผลนั้นด้วยล่ะ? แต่คำถามที่ดีกว่านั้นคือ ทางเลือกของการกระทำของเขาจะตอบคำถามของมีล่าในภายหลังได้หรือไม่? “งั้นเอานี้ไหม? ฮ่าฮ่า! อย่างที่คุณรู้ การแต่งงานจะเป็นเวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้น เมื่อปีนั้นมาถึง คุณจะต้องหย่ากับเธอ! ถึงอย่างนั้นตระกูลโยเวลล์จะเสนอเงินจำนวนมหาศาลให้คุณอย่างแน่นอน เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ฉันไม่เห็นว่าจะมีผลเสียที่คุณจะไม่เห็นด้วยเลยนะ! ท้ายที่สุดแล้ว ไม่เพียงคุณจะมีกินมีใช้ไปทั้งชาติเมื่
ร่องรอยของความไม่พอใจสามารถได้ยินได้ในน้ำเสียงของผู้ชายคนนั้น ขณะที่เขาชี้ไปที่เจอรัลด์ “แน่นอน! นี่คือสามีของฉัน เจอรัลด์!” จูเลียตตอบกลับขณะที่เธอคล้องแขนเจอรัลด์ “เจอรัลด์ นี่คาแวน เพื่อนร่วมชั้นของฉันจากต่างมหาวิทยาลัย!” จูเลียตกล่าวเสริม ขณะที่เธอแนะนำเขาให้ผู้ชายคนนั้น “ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบคุณนะครับ!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขายื่นมือออกไปตามมารยาทที่จูเลียตสอนเขาก่อนหน้านี้ “ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในใจของเธอ…แม้ว่าเธอจะเลิกกับเขาแล้ว เธอก็แค่หาคนอื่นนอกเหนือจากผู้ชายคนนี้ได้อย่างง่ายดาย…” คาแวนพึมพำ เมื่อสังเกตเห็นสายตาที่กำลังเตือนของจูเลียต คาแวนจึงหยุดพูด มันชัดเจนว่าคาแวนเป็นหนึ่งในผู้ที่ตามจีบจูเลียต นั่นจึงอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงเมินเฉยการจับมือของเจอรัลด์ไปโดยสิ้นเชิงเช่นกัน คาแวนไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ปฏิบัติกับเจอรัลด์แบบนั้น เพื่อนร่วมชั้นชายคนอื่นของจูเลียตก็ยิงสายตาที่ไม่เป็นมิตรให้เขาอย่างไม่แพ้กัน โดยปฏิเสธที่จะพูดอะไรกับเจอรัลด์เลยทั้งสิ้น แม้แต่เพื่อนร่วมชั้นหญิงของเธอก็กำลังจ้องเจอรัลด์อย่างดูถูกเป็นครั้งคราว ราวกับว่าพวกเขาทุกคนกำลังสงส
ในทางกลับกัน คาแวนอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวของเขา ขณะที่เขายิ้มขบขันแกมเหน็บแนม มนุษย์ทุกคนมีขีดจำกัดในการดื่มแอลกอฮอล์กัน และแน่นอนเขาจะทำให้เจอรัลด์ดื่มจนเกินกว่าขีดจำกัดของเขา จริงตามคำพูดของเขา ครอบครัวของเพื่อนร่วมชั้นของเขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นไวน์องุ่นจริง คาแวนมั่นใจว่าเขาจะสามารถทำลายเจอรัลด์ได้อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเพื่อนร่วมขั้นของเขา ซึ่งเขาถือว่าเป็นพี่น้องของเขา และพ่อของเขาทั้งคู่ต้านแอลกอฮอล์ได้กันดีมาก อันที่จริงหลังจากการตรวจสุขภาพของพวกเขา ก็เห็นได้ชัดว่าร่างกายของพวกเขาได้รับเอนไซน์ทำลายแอลกอฮอล์มากกว่าเมื่อเทียบกับคนปกติทั่วไป! ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นเพื่อนร่วมชั้นของเขาดื่มเหล้าที่มีเปอร์เซ็นต์สูงมากไปทั้งหมดเจ็ดขวด อย่างต่อเนื่องติด ๆ กัน ก่อนจะถึงขีดกำจัดของเขาในที่สุด แอลกอฮอล์ทั้งเจ็ดขวดเลยนะ! เช่นนั้นในใจคาแวนจึงรู้สึกว่าเจอรัลด์คงจะเลือดออกจากกระเพราะของเขาไปนานแล้ว ก่อนที่เพื่อนร่วมชั้นของเขาจะทันได้เมามากเกินไปด้วยซ้ำ ตอนนี้ที่พวกเขาทุกคนพร้อมแล้ว กฎก็ง่าย ๆ ผู้เข้าร่วมทั้งห้าคน รวมเจอรัลด์ คาแวน เพื่อนร่วมชั้นอื่นอีกสองคน และเพื่อนเจ้าของโรงกลั่นเหล้าอง
หลังจากพูดไปแบบนั้น จูเลียตก็ขมวดคิ้วก่อนจะพูดเสริม “…รู้อะไรไหม? ฉันไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว เธอสามารถทำอะไรก็ตามที่เธอต้องการจะทำ ใช่ไหมล่ะ?” ด้วยเหตุนั้น จูเลียตจึงขับรถกลับบ้านกัน เมื่อกลับมาถึงบ้าน พวกเขาทั้งคู่ก็ได้รับการต้อนรับด้วยภาพของผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์คนหนึ่ง กำลังนั่งอยู่บนโซฟา ทันทีที่เธอเห็นเจอรัลด์และจูเลียต เธอก็ลุกขึ้นทันทีและชี้ไปที่เจอรัลด์ก่อนจะพูดขึ้นมา “งั้นเขาคือเจอรัลด์ใช่ไหม? คนอย่างเขามีสิทธิ์อะไรที่ต้องเข้ามาในตระกูลโยเวลล์?” แน่นอนผู้หญิงที่เพิ่งดูหมิ่นเจอรัลด์ไป คือแม่ของจูเลียตซึ่งมีชื่อว่าไฮดี้ ไฮดี้ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการแต่งงานของลูกสาวของเธอ ในขณะที่เธอยังคงอยู่ต่างประเทศ ทันทีที่เธอรู้ว่าจูเลียตแต่งงานกับผู้ชายโง่เง่าบางคน เธอจึงโมโหมากในทันที! อย่างไรก็ตามเมื่อเธอตื่นขึ้น เธอจึงจองตั๋วกลับบ้านในทันที ทั้งหมดนั้นก็นำมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบันนี้ “นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับแม่ การแต่งงานของหนูกับเขาเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้แม่ต้องมายุ่ง!” จูเลียตโต้กลับ “แกพูดว่าไม่ต้องการให้แม่ยุ่งงั้นเหรอ? บอกมาสิ จูเลียต แกกำลังคิดอะไรอยู่ในหัวของแกกันแน่