เมื่อได้ยินน้ำเสียงบูดบึ้งของประธานกอร์ดอน ไซลาจึงไม่สามารถหัวเสียงดังอีกต่อไปได้เลยจริง ๆ …มัน…มันคือเรื่องจริงหรือเปล่า? ตั้งแต่ตอนนั้น ไซลาก็เกลียดมันอยู่เสมอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเห็นใบหน้าที่สิ้นหวังของเจอรัลด์ เธอไม่อาจจริงจังกับเขาได้ แค่ไม่กี่ปีตั้งแต่พวกเขาพบกันครั้งสุดท้าย…เจอรัลด์เปลี่ยนไปมาขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ? ทำไมบุคคลที่มั่งคั่งและมีอิทธิพลมากมายขนาดนี้ ถึงทำตัวเคารพและสุภาพต่อเขามากขนาดนี้ล่ะ? สิ่งเหล่านี้จะเป็นไปได้ยังไง? คำถามทั้งหมดเหล่านี้ดังก้องอยู่ในใจของไซลา เจอรัลด์เพียงเมินเฉยต่อเธอ โดยเลือกที่จะพูดคุยกับประธานกอร์ดอนและคนอื่น ๆ ต่อไปแทน จากนั้นงานเลี้ยงก็ดำเนินต่อไปใหม่ประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนเจอรัลด์จะกล่าวลาประธานกอร์ดอนและคนที่เหลือ เอาตามตรงเขาก็อยากจะจากไปตั้งนานแล้ว ขณะที่ที่เขาออกจากโรงแรมไป คนกลุ่มใหญ่ก็ตามไปส่งเขากัน ก่อนที่เขาจะจากไป เอเลน่าก็กระซิบบางอย่างข้างหูพ่อของเธอก่อนจะแลบลิ้นออกมา เธออยากจะจากไปพร้อมกับเจอรัลด์ และตามปกติแล้วพ่อของเธอก็ตกลง ไซลาเองกำลังรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก ขณะที่เธอออกจากโรงแรมมาด้วยกันกับวินซี่เพ
โดยที่ไม่สนใจคำถามของยาเอลไปขั่วขณะ จากนั้นยูนัสจึงถามขึ้นมา “นายแอบถ่ายรูปไว้อยู่ไม่ใช่เหรอ? ให้ฉันดูสิว่าใครอยู่ที่นั่นกันบ้าง!” หลังจากส่งรูปพวกนั้นให้ ยูนัสมองพวกมันทีละรูปก่อนจะกระแทกมือลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ เขาพบผู้ก่อการแล้ว! “แม่งเอ้ย! เป็นเจอรัลด์จริง ๆ! เป็นไอ้คลอฟอร์ดนั่นอีกแล้ว!” ไม่เพียงยูนัสจะถูกเจอรัลด์ทำให้ขายหน้าซ้ำ ๆ ในวันเกิดของเขา แต่เขายังถูกกักบริเวณทันทีที่เขากลับไปในวันนั้นด้วย! ชื่อเสียงทั้งหมดที่เขาสะสมมานานหลายปีก็หมดสิ้นไป ง่าย ๆ แบบนั้น ยูนัสเกลียดคน ๆ นั้นสุด ๆ “เขาคือ คุณคลอฟอร์ดจากเมย์เบอร์รี่ใช่ไหม?” ยาเอลที่เห็นได้ชัดว่าเคยได้ยินเกี่ยวกับเจอรัลด์มาก่อนถามขึ้นมา เมื่อได้ยินคำถามของยาเอล ยูนัสจึงใช้โอกาสนี้เล่ารายละเอียดถึงความขุ่นแค้นและความคับข้องใจทั้งหมดของเขาต่อเจอรัลด์ให้เขาฟัง “ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่แปลกที่ทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างราบรื่นมากสำหรับแจสมิน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากคนจากตระกูลเฟนเดอร์สันคนไหนเลยด้วยซ้ำ! เธอมีคนที่มีอำนาจเช่นนี้คอยช่วยเหลือเธออยู่ตลอดเวลานั่นเอง! ไม่แปลกที่ทำไมแจสมินถึงไม่ได้จริงจังกับนายเลย แม้หลังจ
เมื่อรถมาหยุดอยู่ข้างเควต้า คนสองสามคนก็เลื่อนเปิดประตูรถตู้ และพยายามลากเธอเข้าไปข้างในทันที! “เควต้า!” คุณอาเฟนเดอร์สันที่กำลังกลับมาจากร้านค้าตะโกนออกมา เมื่อเธอเห็นรถตู้ที่น่าสงสัยกำลังขับไปหาลูกสาวของเธอ จากนั้นเธอก็เริ่มวิ่งไปทางหญิงสาวที่น่าสงสารที่พยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่เพื่อหนีจากคนที่จับเธอ คนจับเองก็ยังคงพยายามที่จะลากเธอเข้าไปในรถตู้ให้ได้ ในความกระวนกระวายใจของเธอ เธอจึงกัดแขนของหนึ่งในผู้ชายที่ปิดหน้าอย่างแรง! เขาตะโกนด้วยความเจ็บปวด จากนั้นชายที่แข็งแรงจึงผลักเควต้าออกไปอย่างแรง ทำให้เธอล้มลงกับพื้นอย่างจัง! ผลก็คือ หัวด้านหลังของเควต้ากระแทกกับข้างถนนโดยไม่ตั้งใจและเธอก็เป็นลมไปทันทีจากการประแทกอย่างแรงนั้น เมื่อเซร่ามาถึงผู้ชายกลุ่มนั้น พวกเขาก็อุ้มเควต้าที่หมดสติในตอนนี้เข้าไปในรถตู้แล้ว ด้วยความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้พวกเขาพาเธอไป เซร่าจึงเริ่มตีผู้ชายพวกนั้นอย่างบ้าคลั่งทันที อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเธอจะต่อสู้อย่างเต็มที่แค่ไหนก็ตาม เธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้สำหรับพวกเขาอยู่ดี ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอจะเอาชนะผู้ชายตัวใหญ่กลุ่มหนึ่งด้วยตัวเองได้ยังไง? และในขณะ
แม้รูปภาพเองจะค่อนข้างไม่ชัดเจน แต่เจอรัลด์ก็มั่นใจว่าคนที่อยู่ในนั้นคือ ยูนัส หลง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาจะไม่สามารถจำคนที่เขาเกือบจะเขาตกเป็นเหยื่อให้แล้วยังไงกัน? “นั่นเป็นเขา หลังจากการลืบสวนเล็กน้อย พวกเราพบว่าเขามาถึงจังหวัดซอลฟอร์ดเป็นครั้งแรกเมื่อไม่กี่วันก่อน แม้ผมเข้าใจได้ว่าเขามีเหตุผลของเขาที่จะแก้แค้นคุณ แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงจะตามคุณมาจนถึงที่นี่เพียงเพื่อจะทำแบบนั้นล่ะครับ!” เดรกตอบกลับ ขณะที่เขาขมวดคิ้ว แต่อย่างไรก็ตาม การตอบสนองฉับพลันของเจอรัลด์คือ การชกผนังข้าง ๆ เขาอย่างแรง “ผมไม่สนเขาหรือแม้แต่เหตุจูงใจของเขา ทั้งหมดที่ผมรู้ก็คือ เควต้าเป็นผู้บริสุทธิ์ในเหตุการณ์นี้ แต่เธอก็เกือบจะเสียชีวิตไปเพราะผม! เดรก, ไทสัน ผมเชื่อว่ายูนัสยังไม่ออกไปจากจังหวัดซอลฟอร์ด ผมต้องการให้พวกคุณสองคนแกะรอยหาเขาและจับเขามาให้ผม! ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีอะไรก็ตาม ทำให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ออกไปจากจังหวัดซอลฟอร์ดได้อย่างลอยนวล!” เจอรัลด์กล่าวอย่างโกรธเคือง ขณะที่เขามองไปที่เควต้าที่ยังไม่ได้สติผ่านหน้าต่างประตูของห้องคนไข้ “ได้ครับ คุณคลอฟอร์ด!” พวกเขาทั้งคู่กล่าวพร้อมกันขณะท
“พวกเราอยู่ที่ไหนกันตอนนี้?” ยูนัสถาม ใบหน้าของเขาซีดเซียวเหมือนกับกระดาษแผ่นหนึ่ง “ผมก็ไม่มั่นใจมากนักเหมือนกันครับ…แม้พวกเราจะสามารถหนีจากคนของเจอรัลด์ ตอนพวกเราบังเอิญพบกับพวกเขาในถนนหลักมาได้ แต่พวกเราก็หลงทางออกมาไกลมากเกินไป และมันเป็นเพียงดินแดนแห้งแล้งรอบ ๆ ตัวเราเท่านั้นครับตอนนี้!” คนขับรถตอบกลับ เสียงของเขาเขาสั่นด้วยความกลัว แม้ก่อนหน้านี้พวกเขาคาดเดาไว้ว่าพวกเขาจะหนีรอดไปได้โดยไม่เป็นไร แต่พวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าคนของเจอรัลด์จะขัดขวางพวกเขาอย่างฉับพลันในถนนหลักที่นำไปสู่เมืองเมย์เบอร์รี่! ขอบคุณยามคำ่คืนได้คืบคลานเข้ามาแล้วในตอนนั้น และเนื่องจากคนขับรถก็เป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง เขาจึงจะสลัดพวกเขาออกไปได้ในท้ายที่สุด แม้พวกเขาหนีคนของเจอรัลด์ได้สำเร็จในขณะนี้ แต่ตอนนี้พวกเขาก็หลงทางเช่นกัน “ทำไมฉันถึงจะยังจ่ายให้นายด้วยนะ ถ้างั้น?! ไอ้โง่เอ้ย!” ยูนัสตะคอกใส่ พวกเขาอยู่ไกลจากตัวเมือง และความมืดมนของบริเวณรอบ ๆ ก็เพียงแต่จะทำให้ยูนัสยิ่งหดหู่ใจมากขึ้นเท่านั้น เป็นตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ในระยะไกล ลมยามค่ำคืนที่หนาวเย็นก็ยิ่งทำให้พวกเขาเย็นสันหลังวาบด้วยคว
หลังจากพูดคุยในโทรศัพท์ครู่หนึ่ง ใบหน้าของชายวัยกลางคนก็เปลี่ยนเป็นซีดเซียวอย่างมากทันที “ป เป็นอย่างงั้นเหรอ…? ผมคงรบกวนคุณมากแล้ว คุณชุยเลอร์! ผมจะส่งคนไปที่นั่นทันที!” สีหน้าของเขาซีดเซียวไปทั้งหน้าขณะที่เขาพูดขึ้นมาอย่างรีบร้อน “ตามคำบอกเล่าของตระกูลชุยเลอร์ ยูนัสได้หายตัวไปในจังหวัดซอลฟอร์ด!” “…ห๋า? พ พวกเราควรทำยังไงล่ะถ้างั้น?!” “สำหรับตอนนี้ ผมจะส่งคนไปที่นั่น บอกพี่รองให้ส่งคนไปที่นั่นเช่นกันเดี๋ยวนี้!” ผู้ชายคนนั้นตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายใจ “พี่รองเหรอ? แต่เขา…” “พี่ใหญ่และฉันไม่สามารถไปได้ ทางเลือกเดียวของเราคือให้สมาชิกครอบครัวจัดการเรื่องนี้ สำหรับเหตุผลนั้น มันคงไม่เป็นไรหรอกสำหรับพี่รองที่จะเป็นตัวแทนของตระกูลที่นั่น ฉันจะบอกคุณฮอบสันให้ตามเขาไปที่นั่นเช่นกัน!” เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นเพียงพยักหน้า ในขณะเดียวกัน ในที่สุดเจอรัลด์ก็มาถึงตรงหน้าผาด้วยเฮลิคอปเตอร์ของเขา หน้าผานั้นลึก และตามคำรายงานของลูกน้องของเขา พวกเขาแทบจะไม่สามารถค้นหาชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ของรถได้เลย นับประสาอะไรกับผู้โดยสารทั้งสองคนล่ะ เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์จึงทำไ
เซร่าเป็นลูกสาวที่มีอนาคตมากที่สุดของนายท่านเฟนเดอร์สัน และยังเป็นบุคคลที่โดดเด่นมากที่สุดอันดับสองภายในตระกูลเฟนเดอร์สัน ความจริงแล้ว ตำแหน่งของเธอยังสำคัญมากกว่าอีกด้วย เมื่อเทียบพ่อของแจสมิน เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้อย่างเดียวก็เป็นการอธิบายอย่างชัดเจนให้เข้าใจแล้วว่า เซร่าเป็นคนที่มีไหวพริบและฉลาดมากแค่ไหน เพิ่มเติมด้วยการหยั่งรู้โดยสัญชาตญาณที่เหนือกว่าของเธอ เซร่าจึงมั่นใจว่าพ่อของเธอคือคนที่ลักพาตัวเควต้าไปแน่ แม้เธอไม่รู้ว่าเขาพบเธอตั้งแต่แรกได้ยังไงก็ตาม “ฉันรู้จักพวกเฟนเดอร์สันเป็นอย่างดี เจอรัลด์ ในขณะที่เรื่องภายในที่ซับซ้อนมากมายเกิดขึ้นภายในตระกูลเฟนเดอร์สัน หากพ่อของฉันเป็นคนที่ลักพาตัวเควต้าไปล่ะก็ งั้นฉันก็วางใจได้ว่าเขาจะไม่ทำเรื่องต่าง ๆ ให้ยากสำหรับเธอหรอก ปัญหาก็คือ ฉันไม่สามารถพูดได้แบบเดียวกันเกี่ยวกับสมาชิกเฟนเดอร์สันที่เหลือ…” “ฮ่าฮ่าฮ่า! กระนั้น…เมื่อคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากอารมณ์โกรธชั่วขณะที่ฉันมีต่อเขาเมื่อหลายปีก่อนล่ะก็! แม้ฉันมั่นใจว่าเขาเสียใจกับมัน แต่เห็นได้ชัดว่านิสัยของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย! เขายังคงคาดหวังที่จะให้ฉันก้าวออกไป และขอโ
“เด็กคนนี้…เธอช่างดื้อรั้นเหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิด! อืมม…แจสมินไม่ได้หาตัวเซเนียได้แล้วไม่ใช่เหรอ? สาวใช้ส่วนตัวคนนั้นของเซร่าใช่ไหม? พยายามให้เธอโน้มน้าวเควต้า อีกอย่าง ไม่มีใครควรจะรู้ว่าเควต้าอยู่ที่นี่ ไม่แม้แต่แจสมิน! ถ้าคำพูดหลุดออกไปล่ะก็ ฉันจะทำให้พวกนายแต่ละคนตายอย่างช้า ๆ แน่นอน! ตอนนี้ไปได้!” เมื่อได้ยินแบบนั้น หมอทั้งหลายก็ตัวสั่นขึ้นมาด้วยความกลัว ก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาไปแล้ว ไบรสันจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นด้วยไม้เท้าในมือของเขา ก่อนจะจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปที่ผนัง ในขณะที่เรื่องมากมายหลายอย่างอยู่ในใจของเขา ความทรงจำที่เด่นชัดที่สุดก็คือ ช่วงเวลาที่เขาตัดสัมพันธ์กับลูกสาวสุดที่รักของเขาต่อสาธารณชน เซร่า เขาไล่เธอออกไปจากตระกูลเฟนเดอร์สัน และแม้ว่าเขาจะเข้มงวดอย่างมาก เมื่อเป็นเรื่องของการใช้กฏบังคับของตระกูล แต่เขาก็รู้สึกเสียใจกับการกระทำของเขาทันทีเมื่อเธอจากไป เขาพยายามทำทุกวิธีที่เป็นไปได้เพื่อหาที่อยู่ของเซร่า เขาไม่ต้องการที่จะให้เธอกลับมาอยู่เคียงข้างเขา แต่เขาเพียงต้องการที่จะรู้ว่าลูกสาวอันเป็นที่รักของเขายังคงมีขีวิตอยู่หรือไม่ และถ้าเธอยังคงมี
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ