ทันทีที่พวกเขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งก้าวออกมา ทุกคนในสองแถวนั้นก็โค้งคำนับให้ทันที ผู้หญิงที่มีผิวขาวราวหิมะ ซึ่งดูอายุประมาณยี่สิบเจ็ดปี สวมแว่นตากันแดดแบรนด์เนม เธอยังสวมเสื้อผ้าที่ดูแพงสุด ๆ ด้วยเช่นกัน เติมเต็มด้วยเสื้อคลุมที่คลุมไหล่ของเธอ ขณะที่เธอยังเคี้ยวหมากฝรั่งต่อไป เธอเอียงไหล่ของเธอเล็กน้อย ปล่อยเสื้อคลุมของเธอหลุดออกจากบ่าอย่างแนบเนียน หนึ่งในบอดี้การ์ดของเธอจับมันไว้ทันก่อนที่มันจะตกถึงพื้นด้วยซ้ำ แม้กระทั่งจากระยะไกล ทุกคนก็เห็นได้ว่าบอดี้การ์ดทุกคนที่ล้อมรอบเธอไว้มีสายตาดุดันพอ ๆ กันในดวงตาของพวกเขา คนเหล่านี้เป็นบอดี้การ์ดประเภทที่พร้อมจะรับมือกับสถานการณ์ทุกรูปแบบที่พวกเขาต้องเผชิญอย่างแน่นอนที่สุด แม้เธอจะมีเสน่ห์มาก แต่ผู้หญิงคนนี้ก็มีออร่าที่รุนแรงมากเช่นกัน กดดันให้คนมากมายที่อยู่ที่นั่นไม่แม้แต่จะกล้าที่จะหายใจด้วยซ้ำ ขณะที่เธอกวาดมองผ่านฝูงชน สายตาของเธอก็จับจ้องไปที่ธงขนาดใหญ่ด้านนอก มันคือธงของเจอรัลด์ จากนั้นเธอก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะชี้ไปที่มันและตะโกนขึ้นมา “ยกธงนั้นให้สูงขึ้น!” “ได้ครับ!” หัวหน้าของสถานีการออกอากาศที่ไม่กล้าแม้แต่จะยืดตัวตรงด้วยซ้ำก
“บอกฉันมา ทำไมเธอถึงจ้องธงนั้นก่อนหน้านี้?” ผู้หญิงคนนั้นถาม น้ำเสียงของเธอชัดเจนมาก มีล่าเพียงก้มหัวของเธอลง ไม่มั่นใจว่าจะพูดอะไรด้วยซ้ำ ขณะที่มีล่ายังคงเอาแต่นิ่งเงียบ ผู้หญิงคนนั้นก็สังเกตเห็นรอยตบหน้าบนแก้มของมีล่า จากนั้นเธอก็ยื่นมือของเธอออกไปยกคางของมีล่าขึ้นอย่างอ่อนโยน “เธอสวยมากแต่เธอก็ถูกตบ ช่างน่าสงสาร…เธอมาจากที่ไหนล่ะ?” ผู้หญิงคนนั้นถาม น้ำเสียงของเธอฟังดูเสียใจอย่างแท้จริง “ม เมย์เบอร์รี่ค่ะ!” มีล่าตอบกลับ เธอไม่ได้ตอบคำถามของผู้หญิงคนนั้นก่อนหน้านั้นเนื่องจากเธอไม่ต้องการให้เธอรู้ว่าเธอกำลังคิดถึงเจอรัลด์อยู่อย่างจริงใจ! ท้ายที่สุดแล้ว มีล่าก็ยังคงไม่มั่นใจถึงตัวตน และสถานะที่แท้จริงของผู้หญิงคนนั้น “เธอเป็นนักศึกษาฝึกงานที่ได้รับเลือก และส่งมาที่นี่จากมหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่ครับ! ผลการศึกษาของเธอนั้นโดดเด่นมาก!” หัวหน้าสถานีการออกอากาศตอบกลับ ผู้หญิงคนนั้นเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง และไม่ได้พูดอะไรขณะที่เธอเหลือบมองมีล่าอีกไม่กี่ครั้งก่อนจะหันกลับเดินเข้าไปในบริเวณหลัก อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะเดินผ่านประตู เธอหันหลังกลับ และชี้ไปที่มีล่าก่อนจะพูดขึ้นมา “
แทบจะทุกคนที่อยู่ที่นั่นถึงกับตกตะลึงจนพูดไม่ออกกัน ในขณะที่มอลลี่รู้สึกกลัวและเศร้าใจพอ ๆ กันแทนมีล่าขณะที่เธอเฝ้ามองเพื่อนที่แสนดีของเธอถูกผลักลงกับพื้น แต่ก็ต่างกันกับฮอลลี่ที่กำลังยิ้มเยาะเหมือนกับจะไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว ประธานคลอฟอร์ดเอง ที่กำลังได้รับข้อความในขณะนั้น ก็แสร้งทำเป็นเหมือนว่าเธอไม่ได้เห็นอะไร “ฮึ่ม! เธอกล้ามารุกรานคุณคลอฟอร์ดได้ยังไง? ถ้าฉันไม่สอนบทเรียนให้เธอเป็นการส่วนตัวตอนนี้ละก็ เธอก็จะไม่มีวันเรียนรู้แน่!” โยเอลตะเบ็งเสียงใส่ ขณะที่เขายกแขนของเขาขึ้น ดูเหมือนพร้อมที่จะทุบตีมีล่าแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะทันได้เริ่มโจมตีครั้งแรก เขาก็หยุดชะงักได้ทันเวลาพอดี เขาสังเกตเห็นได้ทันเวลาว่าหน้าจอโทรศัพท์ของมีล่า ซึ่งก่อนหน้านี้ตกไปด้านข้าง มีรูปถ่ายของคุณคลอฟอร์ด! “…หืมม? อะไรเนี่ย?!” โยเอลกล่าว รู้สึกสะดุ้งตกใจ “เธอรู้จักคุณคลอฟอร์ดใช่ไหม?” โยเอลถาม เห็นได้ชัดว่าประหลาดใจที่เห็นรูปของน้องชายอุปถัมภ์ของเขา ในโทรศัพท์ของผู้ช่วยพนักงานบางคน จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา พยายามอย่างหนักที่จะรู้ให้ได้ว่าจริง ๆ แล้วเธอเป็นใครกัน เพราะเขายังไ
“นั่นฉันเอง เขาเล่าเรื่องฉันให้เธอฟัง ใช่ไหม?” เจสสิก้าตอบกลับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเธอ มีล่าประหลาดใจมากเกินกว่าที่จะตอบกลับเธอได้ในทันที เจอรัลด์เอ่ยถึงเธอมาก่อนจริง เขาเล่าให้เธอฟังว่าพี่สาวของเธอดูแลเขาดีอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น เจสสิก้าก็เป็นคนรับผิดชอบในการก่อตั้งกลุ่มการค้าเมย์เบอร์รี่ในอดีต! แม้ว่ามีล่าจะตระหนักดีว่าพี่สาวของเขาร่ำรวยมาก แต่เธอก็ไม่คาดคิดว่าเธอจะร่ำรวยและมีอิทธิพลขนาดนี้! ณ จุดนี้ เจสสิก้าก็แทบจะถือได้ว่าเป็นบุคคลของราชวงศ์อยู่แล้ว! นี่จึงทำให้มีล่ายิ่งประหม่ามากกว่าที่เธอเป็นอยู่ เดิมทีเธอไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันของความมั่งคั่ง และอิทธิพลที่แท้จริงของตระกูลคลอฟอร์ดเพราะเธอไม่เคยสนใจเงินของเจอรัลด์ตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม มันไม่ได้สำคัญสำหรับเธอไม่ว่าเจอรัลด์จะร่ำรวยหรือยากจน สิ่งที่สำคัญสำหรับเธอก็คือการที่พวกเธอทั้งคู่ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่ ด้วยวิธีคิดแบบนั้น แม้ว่าเธอรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเจอรัลด์ แต่เธอก็ไม่เคยตระหนักว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่เช่นนี้ระหว่างพวกเธอ ตอนนี้ที่เจสสิก้ากำลังยืนอยู่ต่อหน้าเธอ อย่างไรก็ต
เช้าตรู่วันต่อมา เจอรัลด์ พร้อมกับแบร์รี่และเควต้า ก็ไปตามหาผู้เชี่ยวชาญที่แบร์รี่เอ่ยถึงในคืนก่อนกัน ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นอาศัยอยู่ในจุดชมวิวบนยอดภูเขา เนื่องจากต้องใช้เวลามากขึ้นอีกเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะได้ผลลัพธ์สุดท้าย ทั้งแบร์รี่และเควต้าจึงยังคอรออยู่ที่นั่นกัน เจอรัลด์เองก็เดินออกไปค่อนข้างไกลจากสถานที่เพื่อโทรศัพท์หาพี่สาวของเขา เมื่อคืนที่ผ่านมานี้เองเมื่อเจอรัลด์พบในที่สุดว่าเธอก็กลับมาจากต่างประเทศ เขาคิดอยู่เสมอว่าเขาจะเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่จะได้พบกับพี่สาวของเขาทันทีที่เธอกลับมา ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็คิดถึงเธอมากเนื่องจากพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้พบกับมานานแล้ว ระหว่างการโทร เจสสิก้าก็เล่าให้เขาฟังว่าเธอกำลังเข้าร่วมพิธีการใหญ่บางอย่าง เธอยังพูดว่าเธอก็อยากให้เจอรัลด์อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากเจอรัลด์อธิบายว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับบางอย่างให้พ่อของพวกเขา เธอจึงไม่มีอะไรอื่นให้พูดมากนัก ครู่ต่อมา เจอรัลด์ก็วางสายและกำลังจะมุ่งหน้ากลับไปเมื่อเขาได้ยินบางคนตะโกนเรียกเขา “เจอรัลด์?” เมื่อหันหลังกลับเพื่อดูว่าใครเรียกเขากัน เขาก็ตกตะลึงไปเมื่อเขาเห็นใบหน้าที
นี่คือสิ่งที่เมอากล่าว ทันทีที่เธอเห็นว่าเจอรัลด์ก็เข้ามายังศูนย์ความบันเทิงชั้นนำเช่นกัน เจอรัลด์เองเพียงเดินไปรอบ ๆ ยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเองก่อนจะหันกลับไปมองที่เมอาหลังจากได้ยินเสียงตะโกนของเธอ ตรงกันข้ามกับเมอา เขาสงบเยือกเย็นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เมอาไม่มีอะไรแบบนี้เลย สำหรับเธอ เจอรัลด์อาจจะเข้ามาได้เพราะเขาติดตามพวกเธอมาอย่างใกล้ชิด ในขณะที่จาเมียร์แสดงบัตรวีไอพีของเขาให้พนักงานดูก่อนหน้านี้ พนักงานคนนั้นต้องอนุญาตให้เขาเข้ามาจากนั้นแน่ เมื่อคิดว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพวกเธอ! เมื่อเห็นเจอรัลด์ในสถานที่เช่นนี้จึงทำให้เมอาผู้สึกคับอกคับใจขึ้นมา “เฮ้ เจอรัลด์! ทำไมนายถึงอยู่นี่เหมือนกันล่ะ? ใครอนุญาตให้นายเข้ามาในนี้กัน?” เมอาถามอย่างค่อนข้างฉุนเฉียว เมื่อได้ยินคำถามที่เกี่ยวกับการซักถามของเมอา เจอรัลด์ก็รู้สึกตกตะลึงไป ‘ใครอนุญาตให้ฉันเข้ามางั้นเหรอ? ฉันสามารถมาและจากไปตามที่ฉันพอใจเพราะพนักงานได้รับการบอกกล่าวแล้วว่าฉันมาด้วยกันกับแบร์รี่ไง’ ‘ฉันจึงมีสิทธิ์เข้ามาที่สถานที่แห่งนี้ตามปกติ!’ ด้วความสัตย์จริง เจอรัลด์เพียงเดินผ่านศูนย์ความบันเทิ
“ฉันมั่นใจว่านายรู้ว่า เมอาเป็นคนตรงไปตรงมามากอย่างไร เจอรัลด์…ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังคงเป็นหัวหน้าของพวกเราแล้ว! มันคือสิ่งที่เธอเป็น เช่นนั้นโปรดอย่าจริงจังกับสิ่งที่เธอพูดเลย!” วินซี่ปลอบโยน “อืม เอาล่ะ!” เจอรัลด์ตอบกลับ แอบมองไปที่เมอาครั้งหนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้วินซี่ เนื่องจากวินซี่เป็นคนเดียวที่ปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดี เขาจึงเลือกที่จะทำตามคำแนะนำของเธอ นอกจากนั้น ถ้าเขาต้องการจะทำให้เมอาอับอายจริง ๆ ละก็ เขาก็สามารถทำแบบนั้นได้ทุกเมื่อที่เขาพอใจ แต่อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่านั่นคงจะดูเหมือนเด็กเล็กน้อยสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงยับยั้งตัวเองจากการทำแบบนั้น ปกติเจอรัลด์ก็จะไม่โต้เถียงกันกับผู้หญิงอย่างเธออยู่ดี “ฉันหวังว่านายจะหมายความอย่างที่นายพูดนะ… เมื่อพูดแล้วก็ ถ้านายไม่ได้ยุ่งอะไรมากนักละก็ ก็มาเที่ยวกันสักหน่อย และพูดคุยกันและกันในเรื่องต่าง ๆ เถอะ! หลังจากจบการศึกษาจากมัธยมปลาย ฉันได้ถามเกี่ยวกับนายและรู้มาว่านายได้รับการตอบรับให้เข้ามหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่! ฉันบอกนายแล้วไงว่านายจะสามารถทำได้ในตอนนั้น!” วินซี่กล่าว ย้อนกลับไปสมัย
“เธอคือคนดังที่มีชื่อเสียง ยูนา ยาเมสไม่ใช่เหรอ? บ้าไปแล้ว! เมื่อคิดว่าจริง ๆ แล้วพวกเราจะบังเอิญพบกับเธอที่นี่ได้!” เมอาอุทาน รู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด “แม้ฉันจะรู้ว่าจุดชมวิวแห่งนี้มีคนดังบางคนที่ต้องการจะมาสนุกหลังจากเข้าร่วมพิธีการงานต่าง ๆ ในเขตปกครองซอลฟอร์ดมาเยี่ยมชมเป็นครั้งคราว แต่ฉันก็ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นศิลปินที่มีชื่อเสียงเช่นนี้เหมือนยูนาที่นี่เลย!” วินซี่กล่าว รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน ความประหลาดใจของเธอรับประกันได้ ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็เคยศึกษาและยังก่อตั้งธุรกิจของตัวเองในเขตปกครองซอลฟอร์ดนี้ จึงมีสถานที่แค่ไม่กี่แห่งที่เธอยังไม่รู้จัก ไม่นานเสียงระเบิดหัวเราะก็ตามมา “ถ้าฉันจำไม่ผิดนะ เธอไม่เคยเป็นคนประเภทที่หลงใหลคนดังหนิ ใช่ไหม เมอา? ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวสำหรับกฏนั้นก็คือ ยูนาสินะ! เธอชื่นชมหล่อนมากขนาดนั้นในช่วงเรียนมัธยมปลายจนถึงขนาดแปะโปสเตอร์ของยูนาไว้ข้างเตียงของเธอด้วยซ้ำ!” เมื่อได้ยินแบบนั้น เมอาก็พยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะพูดขึ้น “ถูกต้อง! ฉันชอบเธอเพราะความมีระเบียบวินัยในตนเองของเธอ! ฉันเคยเห็นงานทั้งหมดของเธอแล้วและฉันก็ยังฝึกฝนตนเองตามวิธีที
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ