เช้าตรู่วันต่อมา เจอรัลด์ พร้อมกับแบร์รี่และเควต้า ก็ไปตามหาผู้เชี่ยวชาญที่แบร์รี่เอ่ยถึงในคืนก่อนกัน ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นอาศัยอยู่ในจุดชมวิวบนยอดภูเขา เนื่องจากต้องใช้เวลามากขึ้นอีกเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะได้ผลลัพธ์สุดท้าย ทั้งแบร์รี่และเควต้าจึงยังคอรออยู่ที่นั่นกัน เจอรัลด์เองก็เดินออกไปค่อนข้างไกลจากสถานที่เพื่อโทรศัพท์หาพี่สาวของเขา เมื่อคืนที่ผ่านมานี้เองเมื่อเจอรัลด์พบในที่สุดว่าเธอก็กลับมาจากต่างประเทศ เขาคิดอยู่เสมอว่าเขาจะเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่จะได้พบกับพี่สาวของเขาทันทีที่เธอกลับมา ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็คิดถึงเธอมากเนื่องจากพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้พบกับมานานแล้ว ระหว่างการโทร เจสสิก้าก็เล่าให้เขาฟังว่าเธอกำลังเข้าร่วมพิธีการใหญ่บางอย่าง เธอยังพูดว่าเธอก็อยากให้เจอรัลด์อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากเจอรัลด์อธิบายว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับบางอย่างให้พ่อของพวกเขา เธอจึงไม่มีอะไรอื่นให้พูดมากนัก ครู่ต่อมา เจอรัลด์ก็วางสายและกำลังจะมุ่งหน้ากลับไปเมื่อเขาได้ยินบางคนตะโกนเรียกเขา “เจอรัลด์?” เมื่อหันหลังกลับเพื่อดูว่าใครเรียกเขากัน เขาก็ตกตะลึงไปเมื่อเขาเห็นใบหน้าที
นี่คือสิ่งที่เมอากล่าว ทันทีที่เธอเห็นว่าเจอรัลด์ก็เข้ามายังศูนย์ความบันเทิงชั้นนำเช่นกัน เจอรัลด์เองเพียงเดินไปรอบ ๆ ยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเองก่อนจะหันกลับไปมองที่เมอาหลังจากได้ยินเสียงตะโกนของเธอ ตรงกันข้ามกับเมอา เขาสงบเยือกเย็นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เมอาไม่มีอะไรแบบนี้เลย สำหรับเธอ เจอรัลด์อาจจะเข้ามาได้เพราะเขาติดตามพวกเธอมาอย่างใกล้ชิด ในขณะที่จาเมียร์แสดงบัตรวีไอพีของเขาให้พนักงานดูก่อนหน้านี้ พนักงานคนนั้นต้องอนุญาตให้เขาเข้ามาจากนั้นแน่ เมื่อคิดว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพวกเธอ! เมื่อเห็นเจอรัลด์ในสถานที่เช่นนี้จึงทำให้เมอาผู้สึกคับอกคับใจขึ้นมา “เฮ้ เจอรัลด์! ทำไมนายถึงอยู่นี่เหมือนกันล่ะ? ใครอนุญาตให้นายเข้ามาในนี้กัน?” เมอาถามอย่างค่อนข้างฉุนเฉียว เมื่อได้ยินคำถามที่เกี่ยวกับการซักถามของเมอา เจอรัลด์ก็รู้สึกตกตะลึงไป ‘ใครอนุญาตให้ฉันเข้ามางั้นเหรอ? ฉันสามารถมาและจากไปตามที่ฉันพอใจเพราะพนักงานได้รับการบอกกล่าวแล้วว่าฉันมาด้วยกันกับแบร์รี่ไง’ ‘ฉันจึงมีสิทธิ์เข้ามาที่สถานที่แห่งนี้ตามปกติ!’ ด้วความสัตย์จริง เจอรัลด์เพียงเดินผ่านศูนย์ความบันเทิ
“ฉันมั่นใจว่านายรู้ว่า เมอาเป็นคนตรงไปตรงมามากอย่างไร เจอรัลด์…ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังคงเป็นหัวหน้าของพวกเราแล้ว! มันคือสิ่งที่เธอเป็น เช่นนั้นโปรดอย่าจริงจังกับสิ่งที่เธอพูดเลย!” วินซี่ปลอบโยน “อืม เอาล่ะ!” เจอรัลด์ตอบกลับ แอบมองไปที่เมอาครั้งหนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้วินซี่ เนื่องจากวินซี่เป็นคนเดียวที่ปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดี เขาจึงเลือกที่จะทำตามคำแนะนำของเธอ นอกจากนั้น ถ้าเขาต้องการจะทำให้เมอาอับอายจริง ๆ ละก็ เขาก็สามารถทำแบบนั้นได้ทุกเมื่อที่เขาพอใจ แต่อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่านั่นคงจะดูเหมือนเด็กเล็กน้อยสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงยับยั้งตัวเองจากการทำแบบนั้น ปกติเจอรัลด์ก็จะไม่โต้เถียงกันกับผู้หญิงอย่างเธออยู่ดี “ฉันหวังว่านายจะหมายความอย่างที่นายพูดนะ… เมื่อพูดแล้วก็ ถ้านายไม่ได้ยุ่งอะไรมากนักละก็ ก็มาเที่ยวกันสักหน่อย และพูดคุยกันและกันในเรื่องต่าง ๆ เถอะ! หลังจากจบการศึกษาจากมัธยมปลาย ฉันได้ถามเกี่ยวกับนายและรู้มาว่านายได้รับการตอบรับให้เข้ามหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่! ฉันบอกนายแล้วไงว่านายจะสามารถทำได้ในตอนนั้น!” วินซี่กล่าว ย้อนกลับไปสมัย
“เธอคือคนดังที่มีชื่อเสียง ยูนา ยาเมสไม่ใช่เหรอ? บ้าไปแล้ว! เมื่อคิดว่าจริง ๆ แล้วพวกเราจะบังเอิญพบกับเธอที่นี่ได้!” เมอาอุทาน รู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด “แม้ฉันจะรู้ว่าจุดชมวิวแห่งนี้มีคนดังบางคนที่ต้องการจะมาสนุกหลังจากเข้าร่วมพิธีการงานต่าง ๆ ในเขตปกครองซอลฟอร์ดมาเยี่ยมชมเป็นครั้งคราว แต่ฉันก็ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นศิลปินที่มีชื่อเสียงเช่นนี้เหมือนยูนาที่นี่เลย!” วินซี่กล่าว รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน ความประหลาดใจของเธอรับประกันได้ ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็เคยศึกษาและยังก่อตั้งธุรกิจของตัวเองในเขตปกครองซอลฟอร์ดนี้ จึงมีสถานที่แค่ไม่กี่แห่งที่เธอยังไม่รู้จัก ไม่นานเสียงระเบิดหัวเราะก็ตามมา “ถ้าฉันจำไม่ผิดนะ เธอไม่เคยเป็นคนประเภทที่หลงใหลคนดังหนิ ใช่ไหม เมอา? ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวสำหรับกฏนั้นก็คือ ยูนาสินะ! เธอชื่นชมหล่อนมากขนาดนั้นในช่วงเรียนมัธยมปลายจนถึงขนาดแปะโปสเตอร์ของยูนาไว้ข้างเตียงของเธอด้วยซ้ำ!” เมื่อได้ยินแบบนั้น เมอาก็พยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะพูดขึ้น “ถูกต้อง! ฉันชอบเธอเพราะความมีระเบียบวินัยในตนเองของเธอ! ฉันเคยเห็นงานทั้งหมดของเธอแล้วและฉันก็ยังฝึกฝนตนเองตามวิธีที
‘…แม่งเอ้ย’ เจอรัลด์ถึงกับพูดไม่ออกหลังจากเห็นแบบนั้น เขารู้ความจริงว่าชายวัยกลางคนคนนั้นโกหก ผู้ชายคนนั้นรู้เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นมากกว่านั้นอย่างแน่นอน ‘กระนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็คล้ายคลึงกันกับเควต้ามากจริง ๆ…เธออาจจะเป็นกุญแจไปสู่หนึ่งในเบาะแสหรือเปล่า…?’ และในขณะที่เจอรัลด์กำลังจะวิ่งตามชายอ้วนท้วมคนนั้นไป เพื่อสอบถามเขาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ได้ยินเสียงเอะอ่ะขึ้นมาฉับพลันมาจากที่ไหนสักที่ใกล้ ๆ บริเวณบ่อน้ำพุร้อน “หลีกไป! คุณลินตันอยู่ที่นี่! พวกเธอทุกคนถอยไปซะ!” เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็หันหลังกลับไปดูบอดี้การ์ดสองสามคนที่กำลังเคลียร์ฝูงชนที่ยังคงพยายามจะถ่ายรูปด้วยกันกับยูนา ไม่นานก่อนที่ถัดไปทายาทร่ำรวยคนหนึ่งจะเข้ามาในจุดสนใจของผู้คน เขาเดินไปหายูนาพร้อมกับมือล้วงกระเป๋าไว้ เมื่อคนท้องถิ่นเห็นว่าใครมาถึง พวกเขาจึงถอยไปด้านข้างกันทันที เมอาเองที่รอมาค่อนข้างนานแล้วเพียงเพื่อจะได้ถ่ายรูปกับยูนา ก็กำลังจะถ่ายรูปกับเธอ เมื่อบอดี้การ์ดคนหนึ่งชนเธอ ส่งให้โทรศัพท์ของเมอาตกลงพื้น “นายคิดว่านายกำลังทำอะไรอยู่?” เมอาถามอย่างวิตกกังวล “พวกเรากำลังทำอะไรงั้นเห
ก่อนหน้านี้ยูอัฟตาบอดไปด้วยความโกรธ เพื่อแสดงสิทธิ์ความมีอำนาจเหนือ เขาเอามือข้างหนึ่งล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกง เพียงเพื่อจะพิสูจน์ให้ยูนารู้ว่าเขาจะสั่งสอนบทเรียนให้เธอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้มือทั้งคู่ของเขา ด้วยความประหลาดใจ ไม่เพียงแต่ยูนาจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของเขาไปโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ในขณะนั้นเป็นเขาเองที่มีเลือดไหลออกจากหน้าผาก บอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดต่างก็เป็นอัมพาตไปด้วยความกลัว เมื่อพวกเขาเห็นแบบนี้ และแม้แต่บอดี้การ์ดของยูนาก็แข็งทื่ออยู่คาที่ ยูนาเองก็หน้าซีดไปหมดแล้ว นี่กลายมาเป็นฉากนองเลือดอะไรอย่างงี้ล่ะ และพวกเขาก็อยู่ที่เขตปกครองซอลฟอร์ด เช่นกัน! มันจะเป็นเรื่องยากอย่างแน่นอนที่จะบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นถัดไป “อย่าปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นหนีไปได้! เธอคือคนที่ทำร้ายคุณลินตัน!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา ขณะที่เขาชี้ไปที่เมอา “ฉัน…ฉันไม่ได้ทำร้ายเขา!” เมอาตอบกลับ น้ำเสียงของเธอสั่นเทาเล็กน้อย เมอาถึงกับมึนงง เธอเพียงต้องการจะยับยั้งสถานการณ์ไม่ให้เลวร้ายลงเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม มันชัดเจนว่าบอดี้การ์ดทั้งหมดของยูอัฟต่างก็จับจ้องมาที่เธอกันในตอนนี้ ในขณะเดียวกัน เ
จากนั้นกลุ่มของเมอาก็มารุมล้อมยูนากันทันที ยูนาเองก็ส่ายหัวของเธอ ขณะที่เธออธิบายอย่างค่อนข้างวิตกกังวล “แม้แต่ผู้คนที่บริษัทของฉันก็ค่อนข้างกังวลใจกันในตอนนี้ ในขณะนี้ พวกเขายังคงคิดหาวิธีที่จะแก้ปัญหากันอยู่ พวกเขายังติดต่อคุณซาไทร์ด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยูอัฟได้รับบาดเจ็บจริงในครั้งนี้ บริษัทของฉันจึงค่อนข้างกังวลว่า แม้แต่คุณซาไทร์ก็จะไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้ได้ดีมากนักด้วยซ้ำเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ฉันก็เป็นเพียงคนดังธรรมดาคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจะไม่ขัดแย้งกับพวกลินตัน เพียงเพราะฉันอย่างแน่นอน แม้จะเป็นเรื่องจริงที่ยูอัฟคือคนที่ก่อความขัดแย้งก่อนก็ตาม ความจริงที่ว่า เขาคือคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บจึงทำให้ทุกอย่างยากที่จะแก้ไข!” ถ้าเพียงยูอัฟไม่ได้รับบาดเจ็บ แบร์รี่ก็คงจะจัดการปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย! ทุกอย่างยากที่จะได้รับการแก้ไขในตอนนี้เพราะอาการบาดเจ็บที่เขาประสบอยู่ พวกเขาไม่อาจบอกแบร์รี่ให้รบกวนพวกคลอฟอร์ดได้เหมือนกันเพราะนั่นก็ค่อนข้างเทียบเท่ากับว่าพวกเขาลาออกจากงานทันทีทันใดต่อพวกเขา แค่ไม่มีใครที่โง่พอที่จะพยายามรับผิดต่อปัญหาใหญ่เช่นนี้หรอก โดยเฉพ
“ขอบคุณมากนะที่จัดการกับสถานการณ์ได้ ยูนา! คุณรู้จักผู้คนมากมายจริง ๆ!” เมอากล่าวอย่างตื่นเต้น “ทำไมเธอถึงยังขอบคุณฉันล่ะ? ฉันควรเป็นคนที่ต้องขอบคุณพวกเธอทุกคนต่างหาก! แม้ว่าอย่างน้อยฉันอยากจะเลี้ยงอาหารให้เธอ และเพื่อนของเธออย่างเหมาะสมที่ช่วยเหลือฉัน แต่ฉันก็ปวดใจที่ต้องบอกว่าฉันต้องรีบกลับไปที่บริษัททันทีก่อน เอางี้ไหม? นี่คือเบอร์ของฉัน ถ้าเธอเผชิญกับปัญหาใด ๆ ในอนาคต ก็อย่าลังเลที่จะโทรหาฉันแล้วกัน!” มันชัดเจนว่ายูนายังคงรู้สึกขอบคุณต่อเมอาที่ก้าวเข้ามาช่วยเหลือเธอก่อนหน้านี้ เนื่องจากเธอก็รู้เช่นกันว่าเมอาเป็นแฟนคลับที่จริงใจของเธอ มันจึงสมเหตุสมผลที่ยูนาจะเป็นห่วงเธอเป็นพิเศษ หลังจากเธอทิ้งข้อมูลติดต่อของเธอไว้กับเมอา เธอก็ออกไปจากที่เกิดเหตุ “ฉันอิจฉาเธอมากเลยเมอา! เมื่อคิดว่าจริง ๆ แล้วเธอสามารถทำให้ยูนารู้สึกดีต่อเธอได้!” วินซี่พูดขึ้นมาทันทีที่ยูนาจากไป “มันไม่ได้น่าทึ่งขนาดนั้น…ยังไง ตอนนี้ก็ไปกันเถอะ! มันคงจะน่าอายถ้าพวกเราบังเอิญเจอคนเหล่านั้นอีกครั้งในภายหลังกัน!” แม้ว่าเมอาไม่ได้แสดงมันออกมาอย่างชัดเจน แต่เธอก็มีความสุขเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ