เนื่องจากปัญหาของเหตุการณ์นี้ จึงไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถดำเนินงานเลี้ยงในคืนนี้ได้ต่อ ทั้งเจอรัลด์และเซโน่ต้องไปให้ปากคำ เนื่องจากคุณลีได้พูดไว้ว่า เรื่องนี้จะถูกสืบสวนอย่างเข้มงวด ควาซซีและโกรเวอร์อาจจะต้องเผชิญกับโทษจำคุกมากสุดถึงยี่สิบปีเลยทีเดียว “เหตุการณ์นี้ได้สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงมากเกินไปให้กับมณฑลเงียบสงบ! มันอาจจะกระทบกับอนาคตของมณฑลในทางลบได้! ในฐานะผู้ทำลาย นายกล้าดีมาทำแบบนี้กับพวกเราได้อย่างไร โกรเวอร์? วิธีเดียวที่เขาจะสามารถไถ่โทษสำหรับเรื่องนี้ได้ก็คือ ได้รับบทลงโทษที่รุนแรง!” คุณลีตะเบ็งเสียงใส่อย่างกราดเกรี้ยว เขาอยู่ในสำนักงานของเขาพร้อมกับกองเอกสารขนาดใหญ่บนโต๊ะ พนักงานคนอื่นที่อยู่ที่นั่นถึงกับสะดุ้งตกใจกันถ้วนหน้า “คุณลี โกวเวอร์เป็นคนนอกกฏหมาย เขาเคยทำสิ่งที่คล้ายกันนี้มาก่อนและเขาก็จัดการให้ตัวเองหนีรอดมาได้ในทุก ๆ ครั้ง! แต่ไม่ใช่ครั้งนี้แน่! พวกเรามีหลักฐานที่เพียงพอในการพิสูจน์ว่าเขาทำผิดในการลักพาตัวคนสามคน!” “ถึงเวลาที่เขาจะต้องชดใช้ความผิดของเขาแล้ว อีกอย่าง มีใครหนุนหลังเขาไหม? มีใครที่สนิทกับเขาเป็นพิเศษหรือเปล่า?” คุณลีถาม “พวกเรายั
หญิงสาวที่ว่านี้ก็คือ เลลา จองนั่นเอง เอาตามตรงเจอรัลด์ไม่ได้เกลียดเธอ และไม่ได้โกรธเคืองเธอเลยเมื่อเทียบกับพ่อแม่ของเธอ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็หวังจริง ๆ ว่าเธอไม่ได้เห็นเขาในตอนนี้ ในตอนนั้น เขานึกถึงช่วงเวลาของเขาในตอนที่ยังเป็นเด็กอายุเจ็ดหรือแปดขวบ พ่อของเขาได้พาเขาออกไปข้างนอก และคือตอนนั้นเองที่เขาได้พบกับเลลาเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเขาคิดว่าเธอสวยมากจริง ๆ และนั่นเขาจะมีเธอเป็นภรรยาของเขาอย่างแน่นอนเมื่อเขาโตขึ้น เจอรัลด์ไม่อาจตำหนิตัวเขาเองในตอนเด็กได้เหมือนกันที่คิดแบบนั้น ท้ายที่สุดแล้ว เลลาที่ยังเด็กก็เป็นคนสะอาดและน่ารักอยู่เสมอ เธอใส่เสื้อผ้าดี ๆ ตลอดเวลาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่ได้เปลี่ยนคือความเย่อหยิ่งของเธอ เธอไม่ชอบความจริงที่ว่าเจอรัลด์ไม่ใช่คนกรุง เจอรัลด์เด็กน้อยได้พยายามเข้าใกล้เธอให้มากขึ้นในหลาย ๆ โอกาส แต่เธอก็มักจะปฏิเสธเขาอยู่เสมอ เจอรัลด์จำได้ว่าเขามองโลกในแง่ดีแค่ไหนที่จะทำให้เธอมาเป็นภรรยาของเขา แม้ว่าเขายังคงกลัวเธออยู่เล็กน้อยในตอนนั้น โชคดีความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอจางหายไป เมื่อเขาเข้าเรียนในมัธยมต้น ตอนนี้ที่พวกเขาได้พบกันอีกครั้
“ก็ได้! เอาล่ะ ฉันคือคนที่ผิดเอง! ใจเย็น ๆ ได้แล้ว!” เลลาที่รู้สึกเสียใจมากจนแทบจะน้ำตาแตกได้แล้วตะเบ็งเสียงออกมา ไม่เคยมีใครด่าว่าเธอแบบนี้ และเมื่อเธอได้ยินเจอรัลด์แช่งด่าเธอ เธอจึงรู้สึกราวกับว่าเธอได้ทำบางอย่างผิดไปอย่างมหันต์ และเธอก็เริ่มโทษตัวเองในทันที มันไม่ได้นานเกินไปสำหรับเธอที่นำ้ตาของเธอจะเริ่มไหลอาบแก้ม เธอแค่ไม่เคยโทษตัวเองมากขนาดนี้บวกกับความละอายใจที่ถูกด่าว่า เมื่อเจอรัลด์เห็นเธอกำลังร้องไห้ เขาก็รู้สึกผิดนิด ๆ ในใจของเขา บางทีเขาอาจจะหยาบคายมากเกินไปเล็กน้อยกับเธอ ท้ายที่สุดแล้ว เหตุผลหลักที่ทำไมเขาถึงตะโกนอย่างหยาบคายใส่เธอ นั่นเป็นเพราะวิลลี่และเลอาทำให้เขารู้สึกโกรธ เขาเบาเสียงลงเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมา “ฉันต้องการพักผ่อนบ้างจริง ๆ ฉันไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืน ฉันสามารถเรียกรถแท็กซี่ให้เธอได้ถ้าเธอต้องการ!” “ฉันจะไม่ไป!” เลลากล่าวขณะที่เธอพยายามกระทืบเท้าที่เจ็บของเธอ ตอนนี้มันเป็นตาของเธอบ้างที่จะเริ่มอารมณ์เสีย จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ เดินกระโผลกกระเผลกไปที่จักรยานยูโฟ่ที่เจอรัลด์ได้จอดทิ้งไว้ก่อนจะยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับเอามือกอดอกไว้ ผู้หญิงคนนี้…
โดยการสบถด่าเจอรัลด์ วิลลี่ยังแสดงออกว่าจริง ๆ แล้วเขาอยู่ข้างใครอีกด้วยเช่นกัน เจอรัลด์โกรธมากจนหน้าเขาเปลี่ยนเป็นซีดเซียวทันที ขณะที่เขาพยายามจะระงับตัวเองจากการตะคอกคำหยาบคายใด ๆ ออกมา “พ่อกำลังพูดอะไร? เจอรัลด์! เข้ามาและนั่งก่อนสิ!” เลลาโต้กลับอย่างฉุนเฉียว “ทำไม… ทำไมลูกถึงอนุญาตให้คนชั้นต่ำคนนี้เข้ามาในบ้านของพวกเราด้วย? เขาเป็นคนไร้ค่าประเภทที่ชอบใช้ประโยชน์จากเรา ในขณะที่ช่วยเหลือคนอื่นอย่างลับ ๆ! กลับบ้านไปซะและช่วยเหลือยัยฟรานเซสก้าของนายนู้น! ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็อยากจะให้ความช่วยเหลือเธอแทนที่จะเป็นพวกเราอยู่ดี! ไม่เพียงแต่ฟรานเซสก้ากลายมาเป็นรองประธานเพราะเขา เธอยังกลายมาเป็นผู้อำนวยการอีกด้วยเช่นกัน! ครอบครัวจองไม่ได้อะไรเลยจากเขา!” เลอากล่าวอย่างขุ่นเคืองใจ เลอาพูดเรื่องนี้ออกมาเสียงดัง เพราะเธอรู้ว่าความช่วยเหลือที่เจอรัลด์มอบให้ฟรานเซสก้านั้นอุกอาจมากเกินไปเกินกว่าที่เขาจะจัดการได้ มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะมอบธุรกิจบริษัทมากมายขนาดนั้นให้เธอ เพราะเธอไม่อาจได้ความช่วยเหลือของเขา เธอก็ไม่จำเป็นต้องเห็นแก่หน้าเขาใด ๆ อีกต่อไป ใช่ไหม? เช่นนั้น เธอจึงด่าว่าเ
“นอกจากนี้ ผมได้ยินมาว่าเจซันนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างไฟแรงและกระตือรือร้น เพราะคุณมาจากเวสตัน เมอร์ชานต์ โฮลดิ้ง เขาจะเป็นคนสำคัญที่จะขอความช่วยเหลืออย่างแน่นอน!” “อืม คุณมีข้อมูลการติดต่อของเขาไหมถ้างั้น?” วิลลี่ถาม “น่าเศร้า ผมไม่มี ผมก็ยังคิดวิธีที่จะติดต่อเขาอยู่เช่นกัน!” แกรี่ตอบขณะที่เขาส่ายหัวของเขา จากนั้นวิลลี่ก็เริ่มไต่ถามทุกคนในห้องว่าพวกเขารู้วิธีติดต่อเจซันกันหรือไม่ “ลุงจองคะ! จริง ๆ แล้วหนูรู้จักบางคนที่สามารถช่วยคุณติดต่อเจซันคนนี้ได้!” ซินดี้พูดขึ้นมาเสียงดัง “…ว่าไงนะ? สิ่งที่หนูพูดจริงหรือเปล่า ซินดี้?” วิลลี่และแกรี่ต่างก็ประหลาดใจพอ ๆ กัน “เป็นเรื่องจริงค่ะ! แม่ของหนูได้รับผู้สนับสนุนมากมายขนาดนี้ก็เพราะเจซัน! และเป็นเพื่อนของหนูคนหนึ่งที่ได้บอกเจซันให้ช่วยเหลือเธอ!” ขณะที่เธอพูดไปเช่นนั้น ซินดี้ก็ให้ความสนใจกับการแสดงออกของเลลาอย่างใกล้ชิด “งั้นหนูช่วยบอกพวกเราหน่อยได้ไหมว่าเพื่อนของหนูเป็นใคร? หนูช่วยขอให้เขามาทานอาหารกับลุง เพื่อที่เขาจะสามารถให้ความช่วยเหลือได้หรือเปล่า?” วิลลี่ถามขณะที่เขาเดินไปหาซินดี้พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “อืมม? โอ
แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจ วิลลี่ก็ไม่สามารถต่อต้านการโน้มน้าวของทุกคนได้ ท้ายที่สุดแล้ว ใครจะช่วยเหลือเขาได้ล่ะ? เขาไม่มีทางเลือกนอกจากพึงพาความเมตตาของเจอรัลด์ในคราวนี้ เขาแค่จะต้องก้มหน้ารับกรรมไป และไม่นานเขาก็พบว่าตัวเองมุ่งหน้าไปที่โรงแรมที่เจอรัลด์ได้พักอาศัยอยู่แล้ว มีคนสองสามคนมาด้วยกับเขา แต่อย่างไรก็ตาม แม้หลังจากการรอค่อนข้างนานพอสมควรแล้วในห้องรับรองของโรงแรม แต่ก็ยังคงไม่มีวี่แววของเจอรัลด์ที่ไหนเลย เมื่อลูกสาวของเขาพยายามโทรติดต่อเขาอีกครั้ง สายโทรศัพท์ของเขาก็ยังคงไม่ว่างอยู่ดี เจอรัลด์ไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้ เพราะเขายังคงพูดคุยกับพ่อของเขาผ่านโทรศัพท์อยู่ “พ่อครับ ผมมีข่าวบางอย่างเกี่ยวกับจี้หยก มันมีต้นกำเนิดมาจากทางตะวันตกเฉียงใต้และตัวมันเองก็ค่อนข้างมีความเป็นมาที่ยาวนาน หยกประเภทนี้มีคุณค่าและล้ำค่าอย่างมาก เซร่าคนนี้ที่พ่อกำลังตามหาอยู่ เธอต้องเป็นคุณหนูจากตะกูลที่ร่ำรวยแน่ ถูกต้องไหมครับ?” เจอรัลด์ถามขณะที่เขาจบกาแฟ ตอนนี้เขานั่งอยู่ในร้านคาเฟ่ที่เงียบสงบ พ่อของเขาคือคนที่โทรมาหาเขาก่อน เนื่องจากว่าเขาอยากจะรู้เกี่ยวกับความคืบหน้าของเรื่องจี้หยก “ถูกต้อง! เ
พนักงานดั้งเดิมส่วนใหญ่ของกลุ่มการค้าเมย์เบอร์รี่อยู่ทำงานในโครงการพัฒนายอร์คนอร์ท เมาน์เทนกันเนื่องจากพวกเขาปฏิบัติตามกฏของการลงทุนในมณฑลเงียบสงบ ดังนั้นนอกเหนือจากผู้บริหารคนอื่น ๆ ไม่กี่คนที่เดิมทีก็มาจากกลุ่มการค้าเมย์เบอร์รี่ ผู้บริหารที่เหลือของดรีม อินเวสทเมนท์ กรุ๊ป จึงถูกคัดเลือกเข้ามาใหม่ผ่านการยึดและการรับคนเข้าใหม่ของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทเพิกเฉยต่อการถือพวกพวก ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำไมถึงมีปัญหาทางธุรกิจที่น่าสงสัยมากมายขนาดนี้ เจอรัลด์เข้าใจเรื่องนี้ แต่ก็รอก่อนได้ สำหรับตอนนี้มื้อเที่ยงสำคัญมากกว่า เขาเพลิดเพลินกับมื้อเที่ยงง่าย ๆ ก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปที่ห้องของเขา ซึ่งเขาเปลี่ยนเป็นชุดสูทและรองเท้าบูทหนัง เขานำเอกสารการสัมภาษณ์และจดหมายแนะนำสำรองมาด้วยก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ดรีม อินเวสทเมนท์ กรุ๊ป เพื่อเข้าร่วมการสัมภาษณ์ของเขา “สวัสดีครับ คนสวย ชั้นยี่สิบหกคือที่ที่ผมควรจะมุ่งหน้าไปหรือเปล่าถ้าผมมาเข้าร่วมสัมภาษณ์สำหรับฝ่ายการลงทุน?” เจอรัลด์ถามหญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งจะเดินออกจากลิฟต์มาพร้อมกับกองเอกสารในมือ “อืม ใช่! นายมาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์ ใช่ไหม? ชั้นยี่
ชายหนุ่มที่หล่อเหลาและหญิงสาวสวย ๆ อย่างน้อยสี่สิบคนต่างก็อยู่ที่นั่นกันแล้ว กำลังรอที่จะได้สัมภาษณ์กัน ขณะที่เขาเดินไปทางห้องสัมภาษณ์ เขาก็เดินผ่านพื้นที่สำนักงานห้องหนึ่ง ผู้หญิงจำนวนมากทำงานอยู่ที่นั่นและทุกครั้งที่พวกเธอเห็นผู้ชายหล่อ ๆ ก้าวออกมาจากลิฟต์ พวกเธอก็จะพูดกระหืดกระหอบกันอย่างอึกทึก และทำเหมือนราวกับว่าพวกเธอไม่เคยเห็นผู้ชายในชีวิตนี้มาก่อนงั้นแหละ เจอรัลด์บอกได้เลยว่ามีเสียงหืดหอบเบา ๆ อย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาก้าวออกมาจากลิฟต์ เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ก้าวออกมาถัดไป เขาไม่มีเสน่ห์มากขนาดเลยจริง ๆ เหรอ? เขาจึงอดไม่ได้ที่จะสบถเล็กน้อยในใจเขา “ให้ตายเถอะ คนที่สามสิบแปดอยู่นี่แล้ว! วันนี้พวกเขาจะจ้างเพียงแค่สองคนเท่านั้นดังนั้นทำไมพวกเราจำนวนมากมายขนาดนี้ถึงมาสัมภาษณ์กันล่ะ?!” เสียงนี้มาจากหญิงสาวคนหนึ่งที่ยังคงนับจำนวนคนที่พวกเขาต้องแข่งด้วยต่อไป เอาตามตรง มันค่อนข้างทำให้ใจห่อเหี่ยวกัน “เฮ้ ดูผู้ชายคนนั้นสิ เขามาคนเดียว! เขาคิดจริง ๆ เหรอว่าเขาจะได้งานนี้ตามเกณฑ์ของเขาอย่างเดียว?” “ใช่ไหมล่ะ? นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่หล่อเหล่านิด ๆ ของเขาแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นท
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ