“ก็ได้! เอาล่ะ ฉันคือคนที่ผิดเอง! ใจเย็น ๆ ได้แล้ว!” เลลาที่รู้สึกเสียใจมากจนแทบจะน้ำตาแตกได้แล้วตะเบ็งเสียงออกมา ไม่เคยมีใครด่าว่าเธอแบบนี้ และเมื่อเธอได้ยินเจอรัลด์แช่งด่าเธอ เธอจึงรู้สึกราวกับว่าเธอได้ทำบางอย่างผิดไปอย่างมหันต์ และเธอก็เริ่มโทษตัวเองในทันที มันไม่ได้นานเกินไปสำหรับเธอที่นำ้ตาของเธอจะเริ่มไหลอาบแก้ม เธอแค่ไม่เคยโทษตัวเองมากขนาดนี้บวกกับความละอายใจที่ถูกด่าว่า เมื่อเจอรัลด์เห็นเธอกำลังร้องไห้ เขาก็รู้สึกผิดนิด ๆ ในใจของเขา บางทีเขาอาจจะหยาบคายมากเกินไปเล็กน้อยกับเธอ ท้ายที่สุดแล้ว เหตุผลหลักที่ทำไมเขาถึงตะโกนอย่างหยาบคายใส่เธอ นั่นเป็นเพราะวิลลี่และเลอาทำให้เขารู้สึกโกรธ เขาเบาเสียงลงเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมา “ฉันต้องการพักผ่อนบ้างจริง ๆ ฉันไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืน ฉันสามารถเรียกรถแท็กซี่ให้เธอได้ถ้าเธอต้องการ!” “ฉันจะไม่ไป!” เลลากล่าวขณะที่เธอพยายามกระทืบเท้าที่เจ็บของเธอ ตอนนี้มันเป็นตาของเธอบ้างที่จะเริ่มอารมณ์เสีย จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ เดินกระโผลกกระเผลกไปที่จักรยานยูโฟ่ที่เจอรัลด์ได้จอดทิ้งไว้ก่อนจะยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับเอามือกอดอกไว้ ผู้หญิงคนนี้…
โดยการสบถด่าเจอรัลด์ วิลลี่ยังแสดงออกว่าจริง ๆ แล้วเขาอยู่ข้างใครอีกด้วยเช่นกัน เจอรัลด์โกรธมากจนหน้าเขาเปลี่ยนเป็นซีดเซียวทันที ขณะที่เขาพยายามจะระงับตัวเองจากการตะคอกคำหยาบคายใด ๆ ออกมา “พ่อกำลังพูดอะไร? เจอรัลด์! เข้ามาและนั่งก่อนสิ!” เลลาโต้กลับอย่างฉุนเฉียว “ทำไม… ทำไมลูกถึงอนุญาตให้คนชั้นต่ำคนนี้เข้ามาในบ้านของพวกเราด้วย? เขาเป็นคนไร้ค่าประเภทที่ชอบใช้ประโยชน์จากเรา ในขณะที่ช่วยเหลือคนอื่นอย่างลับ ๆ! กลับบ้านไปซะและช่วยเหลือยัยฟรานเซสก้าของนายนู้น! ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็อยากจะให้ความช่วยเหลือเธอแทนที่จะเป็นพวกเราอยู่ดี! ไม่เพียงแต่ฟรานเซสก้ากลายมาเป็นรองประธานเพราะเขา เธอยังกลายมาเป็นผู้อำนวยการอีกด้วยเช่นกัน! ครอบครัวจองไม่ได้อะไรเลยจากเขา!” เลอากล่าวอย่างขุ่นเคืองใจ เลอาพูดเรื่องนี้ออกมาเสียงดัง เพราะเธอรู้ว่าความช่วยเหลือที่เจอรัลด์มอบให้ฟรานเซสก้านั้นอุกอาจมากเกินไปเกินกว่าที่เขาจะจัดการได้ มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะมอบธุรกิจบริษัทมากมายขนาดนั้นให้เธอ เพราะเธอไม่อาจได้ความช่วยเหลือของเขา เธอก็ไม่จำเป็นต้องเห็นแก่หน้าเขาใด ๆ อีกต่อไป ใช่ไหม? เช่นนั้น เธอจึงด่าว่าเ
“นอกจากนี้ ผมได้ยินมาว่าเจซันนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างไฟแรงและกระตือรือร้น เพราะคุณมาจากเวสตัน เมอร์ชานต์ โฮลดิ้ง เขาจะเป็นคนสำคัญที่จะขอความช่วยเหลืออย่างแน่นอน!” “อืม คุณมีข้อมูลการติดต่อของเขาไหมถ้างั้น?” วิลลี่ถาม “น่าเศร้า ผมไม่มี ผมก็ยังคิดวิธีที่จะติดต่อเขาอยู่เช่นกัน!” แกรี่ตอบขณะที่เขาส่ายหัวของเขา จากนั้นวิลลี่ก็เริ่มไต่ถามทุกคนในห้องว่าพวกเขารู้วิธีติดต่อเจซันกันหรือไม่ “ลุงจองคะ! จริง ๆ แล้วหนูรู้จักบางคนที่สามารถช่วยคุณติดต่อเจซันคนนี้ได้!” ซินดี้พูดขึ้นมาเสียงดัง “…ว่าไงนะ? สิ่งที่หนูพูดจริงหรือเปล่า ซินดี้?” วิลลี่และแกรี่ต่างก็ประหลาดใจพอ ๆ กัน “เป็นเรื่องจริงค่ะ! แม่ของหนูได้รับผู้สนับสนุนมากมายขนาดนี้ก็เพราะเจซัน! และเป็นเพื่อนของหนูคนหนึ่งที่ได้บอกเจซันให้ช่วยเหลือเธอ!” ขณะที่เธอพูดไปเช่นนั้น ซินดี้ก็ให้ความสนใจกับการแสดงออกของเลลาอย่างใกล้ชิด “งั้นหนูช่วยบอกพวกเราหน่อยได้ไหมว่าเพื่อนของหนูเป็นใคร? หนูช่วยขอให้เขามาทานอาหารกับลุง เพื่อที่เขาจะสามารถให้ความช่วยเหลือได้หรือเปล่า?” วิลลี่ถามขณะที่เขาเดินไปหาซินดี้พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “อืมม? โอ
แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจ วิลลี่ก็ไม่สามารถต่อต้านการโน้มน้าวของทุกคนได้ ท้ายที่สุดแล้ว ใครจะช่วยเหลือเขาได้ล่ะ? เขาไม่มีทางเลือกนอกจากพึงพาความเมตตาของเจอรัลด์ในคราวนี้ เขาแค่จะต้องก้มหน้ารับกรรมไป และไม่นานเขาก็พบว่าตัวเองมุ่งหน้าไปที่โรงแรมที่เจอรัลด์ได้พักอาศัยอยู่แล้ว มีคนสองสามคนมาด้วยกับเขา แต่อย่างไรก็ตาม แม้หลังจากการรอค่อนข้างนานพอสมควรแล้วในห้องรับรองของโรงแรม แต่ก็ยังคงไม่มีวี่แววของเจอรัลด์ที่ไหนเลย เมื่อลูกสาวของเขาพยายามโทรติดต่อเขาอีกครั้ง สายโทรศัพท์ของเขาก็ยังคงไม่ว่างอยู่ดี เจอรัลด์ไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้ เพราะเขายังคงพูดคุยกับพ่อของเขาผ่านโทรศัพท์อยู่ “พ่อครับ ผมมีข่าวบางอย่างเกี่ยวกับจี้หยก มันมีต้นกำเนิดมาจากทางตะวันตกเฉียงใต้และตัวมันเองก็ค่อนข้างมีความเป็นมาที่ยาวนาน หยกประเภทนี้มีคุณค่าและล้ำค่าอย่างมาก เซร่าคนนี้ที่พ่อกำลังตามหาอยู่ เธอต้องเป็นคุณหนูจากตะกูลที่ร่ำรวยแน่ ถูกต้องไหมครับ?” เจอรัลด์ถามขณะที่เขาจบกาแฟ ตอนนี้เขานั่งอยู่ในร้านคาเฟ่ที่เงียบสงบ พ่อของเขาคือคนที่โทรมาหาเขาก่อน เนื่องจากว่าเขาอยากจะรู้เกี่ยวกับความคืบหน้าของเรื่องจี้หยก “ถูกต้อง! เ
พนักงานดั้งเดิมส่วนใหญ่ของกลุ่มการค้าเมย์เบอร์รี่อยู่ทำงานในโครงการพัฒนายอร์คนอร์ท เมาน์เทนกันเนื่องจากพวกเขาปฏิบัติตามกฏของการลงทุนในมณฑลเงียบสงบ ดังนั้นนอกเหนือจากผู้บริหารคนอื่น ๆ ไม่กี่คนที่เดิมทีก็มาจากกลุ่มการค้าเมย์เบอร์รี่ ผู้บริหารที่เหลือของดรีม อินเวสทเมนท์ กรุ๊ป จึงถูกคัดเลือกเข้ามาใหม่ผ่านการยึดและการรับคนเข้าใหม่ของบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทเพิกเฉยต่อการถือพวกพวก ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำไมถึงมีปัญหาทางธุรกิจที่น่าสงสัยมากมายขนาดนี้ เจอรัลด์เข้าใจเรื่องนี้ แต่ก็รอก่อนได้ สำหรับตอนนี้มื้อเที่ยงสำคัญมากกว่า เขาเพลิดเพลินกับมื้อเที่ยงง่าย ๆ ก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปที่ห้องของเขา ซึ่งเขาเปลี่ยนเป็นชุดสูทและรองเท้าบูทหนัง เขานำเอกสารการสัมภาษณ์และจดหมายแนะนำสำรองมาด้วยก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ดรีม อินเวสทเมนท์ กรุ๊ป เพื่อเข้าร่วมการสัมภาษณ์ของเขา “สวัสดีครับ คนสวย ชั้นยี่สิบหกคือที่ที่ผมควรจะมุ่งหน้าไปหรือเปล่าถ้าผมมาเข้าร่วมสัมภาษณ์สำหรับฝ่ายการลงทุน?” เจอรัลด์ถามหญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งจะเดินออกจากลิฟต์มาพร้อมกับกองเอกสารในมือ “อืม ใช่! นายมาที่นี่เพื่อสัมภาษณ์ ใช่ไหม? ชั้นยี่
ชายหนุ่มที่หล่อเหลาและหญิงสาวสวย ๆ อย่างน้อยสี่สิบคนต่างก็อยู่ที่นั่นกันแล้ว กำลังรอที่จะได้สัมภาษณ์กัน ขณะที่เขาเดินไปทางห้องสัมภาษณ์ เขาก็เดินผ่านพื้นที่สำนักงานห้องหนึ่ง ผู้หญิงจำนวนมากทำงานอยู่ที่นั่นและทุกครั้งที่พวกเธอเห็นผู้ชายหล่อ ๆ ก้าวออกมาจากลิฟต์ พวกเธอก็จะพูดกระหืดกระหอบกันอย่างอึกทึก และทำเหมือนราวกับว่าพวกเธอไม่เคยเห็นผู้ชายในชีวิตนี้มาก่อนงั้นแหละ เจอรัลด์บอกได้เลยว่ามีเสียงหืดหอบเบา ๆ อย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาก้าวออกมาจากลิฟต์ เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ก้าวออกมาถัดไป เขาไม่มีเสน่ห์มากขนาดเลยจริง ๆ เหรอ? เขาจึงอดไม่ได้ที่จะสบถเล็กน้อยในใจเขา “ให้ตายเถอะ คนที่สามสิบแปดอยู่นี่แล้ว! วันนี้พวกเขาจะจ้างเพียงแค่สองคนเท่านั้นดังนั้นทำไมพวกเราจำนวนมากมายขนาดนี้ถึงมาสัมภาษณ์กันล่ะ?!” เสียงนี้มาจากหญิงสาวคนหนึ่งที่ยังคงนับจำนวนคนที่พวกเขาต้องแข่งด้วยต่อไป เอาตามตรง มันค่อนข้างทำให้ใจห่อเหี่ยวกัน “เฮ้ ดูผู้ชายคนนั้นสิ เขามาคนเดียว! เขาคิดจริง ๆ เหรอว่าเขาจะได้งานนี้ตามเกณฑ์ของเขาอย่างเดียว?” “ใช่ไหมล่ะ? นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่หล่อเหล่านิด ๆ ของเขาแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นท
“ขอโทษครับ ผมได้ยินผิดไป!” เจอรัลด์กล่าวขณะที่เขายิ้มเก้อเขิน “ฮ่า! เป็นไปได้ไหมว่าเขาคิดว่าเธอกำลังเรียกหาคุณคลอฟอร์ดอยู่?” ผู้ถูกสัมภาษณ์คนหนึ่งกล่าวขณะที่เขาหัวเราะเสียงดังออกมา “ถ้าพวกเราโดนหลอกได้ง่ายกว่านี้ละก็ พวกเราคงคิดว่าเขาคือ คุณคลอฟอร์ดตัวจริงจากเมย์เบอร์รี่ไปแล้ว!” จากนั้นทุกคนที่นั่นก็ระเบิดหัวเราะกัน แม้แต่สาวสวยจากก่อนหน้านี้ก็กำลังยิ้มอยู่ เจอรัลด์ยังคงนิ่งเงียบ เมื่อรู้ว่าเขาได้ทำให้ตัวเองอับอายขายหน้าเข้าแล้ว จากนั้นจาเรดก็ลุกยืนขึ้นและเข้าไปสัมภาษณ์ อีกสักพักต่อมา เขาก็ก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มอิ่มอกอิ่มใจบนใบหน้าของเขา “เฮ้ จาเรด พวกเขาถามอะไรในช่วงสัมภาษณ์? สนใจที่จะให้คำแนะนำกับพวกเราบ้างไหม?” หลายคนมารุมล้อมเขาทันทีที่เขาก้าวออกมา “โอ้ ไม่มีอะไรพิเศษ เอาตามตรงนะ ทั้งหมดที่ฉันทำคือพูดอย่างสบาย ๆ และฉันยังสามารถทำให้พวกเขาหัวเราะได้ด้วย! พวกเขายังถามฉันด้วยซ้ำว่าฉันพร้อมที่จะทำงานเมื่อไหร่! มันไม่ใช่เรื่องท้าทายใด ๆ เลย!” จาเรดกล่าว มือของเขาล้วงไว้ในกระเป๋ากางเกง ผู้ชายคนอื่น ๆ จ้องไปที่จาเรดอย่างอิจฉา เขาจะได้ตำแหน่งที่สงวนไว้ให้พวกผู้ชายแต่เพียงผู้
เมื่อประตูเหวี่ยงเปิดออก ในที่สุดเจอรัลด์ก็สามารถเห็นผู้จัดการคนนั้นได้อย่างชัดเจน เธอกำลังเดินอยู่ข้างหลังผู้ช่วยเมื่อเจอรัลด์อุทานออกมา “เอวา แอนเดอร์สันเหรอ? นั่นเป็นเธอจริง ๆ ใช่ไหม?” เอวา แอนเดอร์สันคือเพื่อนร่วมชั้นของเจอรัลด์ในช่วงมัธยมต้น เธอเป็นลูกสาวของครูใหญ่และยังเป็นหนึ่งในนักเรียนตัวท็อปร่วมกันกับเจอรัลด์และเซโน่ พวกเขาทั้งสามคนยังได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วยกันมาหลายครั้งอีกด้วย แม้พวกเขาค่อนข้างสนิทกันในตอนนั้น แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ชั้นเรียนเดียวกันอีกต่อไปเมื่อพวกเขาเข้าเรียนมัธยมปลาย ในช่วงไม่กี่วันเมื่อเข้าเรียนมัธยมปลาย เอว่าจะยังคงชวนเจอรัลด์ออกไปทานมื้อเที่ยงเนื่องจากว่าพวกเขาทั้งสองยังไม่คุ้นเคยกับชั้นเรียนใหม่ของพวกเขากัน หลังเลิกเรียน เธอจะพบกับเจอรัลด์และพวกเขาจะพูดคุยถึงวันของพวกเขาว่าผ่านไปกันอย่างไรบ้าง หลังจากไม่กี่วันเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม เอวาเริ่มจะทานมื้อเที่ยงกับเพื่อนร่วมหอพักของเธอแทน นี่จึงทำให้พวกเขาเริ่มพูดคุยกันน้อยลงไปเรื่อย ๆ และเมื่อเวลาผ่านไป สุดท้ายพวกเขาจึงได้พบกันหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ระยะห่างของพวกเขาเริ่มเพิ่มมากขึ้นในภาคเ