“แม่งเอ้ย! รถเบนซ์ G-Class มีมูลค่ามากกว่าสามแสนดอลลาร์เลยนะ!” เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกังวลใจ แม้ว่ารถสองคันจะชนกัน แต่รถเบนซ์ G-Class คันนี้ก็ยังเสียหายน้อยกว่า เมื่อเทียบกับรถของคาเมรอนเอง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าการเรียกค่าเสียหายถูกร้องขอขึ้นมา คาเมรอนรู้ดีว่าเขาจะต้องตัดใจจ่ายอย่างน้อยถึงหนึ่งแสนดอลลาร์เลยทีเดียว เขาตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยด้วยความกลัว “ฉันขอโทษนะคาเมรอน! ถ้ามันไม่ใช่เพราะฉันนายก็คงจะไม่ได้ชนรถคันนั้น!” เซลล่าร้องไห้คร่ำครวญ ราวกับว่าภาระอีกอย่างถูกเพิ่มขึ้นมาในใจของเธอ เธอถอนหายใจอยู่ภายในขณะที่กลั้นน้ำตาของเธอเอาไว้ ‘ถ้ามันไม่ใช่เพราะฉัน เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้นวันนี้…’ ‘เวย์ลอนถูกทุบตี และตอนนี้คาเมรอนก็เพิ่งจะขับรถชนเข้ากับรถอีกคันเมื่อเขาพยายามจะไปส่งฉันที่โรงพยาบาลเพื่อไปเยี่ยมเวย์ลอน! พวกเราจะยังสามารถทำอะไรได้อีกตอนนี้?’ จิตใจของเซลล่าเต็มไปด้วยความคิดด้านลบ และมันทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดและปั่นป่วนยิ่งกว่าเดิมแล้วเท่านั้น คนอื่น ๆ ก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาเช่นกัน พวกเขาเริ่มหารือกันว่าจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับรถสุดหรูคันนี้อย่
ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม รถของคาเมรอนก็จะไม่ขับไปส่งทุกคนที่ไหนก็ตามด้วยฝากระโปรงรถที่เสียหายอย่างรุนแรงเช่นนั้นได้อย่างแน่นอน ทุกอย่างที่ผิดพลาดไปมีต้นเหตุมาจากเซลล่า แต่ก็ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะเสียใจกับสิ่งที่ผ่านไปแล้วเลยจริง ๆ นอกจากนี้ เจอรัลด์ก็ไม่คิดว่ามันเหมาะสมที่จะทิ้งพวกเขาไว้แบบนั้นกัน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามพวกเขาก็เป็นเพื่อน ๆ ในอดีต “เอาน่า ขึ้นรถสิ ฉันจะไปส่งเธอที่โรงพยาบาลเอง!” เจอรัลด์กล่าวอย่างใจเย็น เจอรัลด์คนใหม่ที่เป็นผู้ใหญ่และใจเย็นนี้ ทำให้คนอื่นรู้สึกค่อนข้างแปลกใจและไม่คุ้นเคย เมื่อคิดย้อนกลับไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงดูเหมือนจะใจเย็นและสบาย ๆ มากเมื่อเขากำลังพูดคุยกับพวหเขาที่ป้ายรถเมล์ เอาตามตรงพวกเขาไม่ได้ใส่ใจมากนักเกี่ยวกับท่าทางของเขาตอนนั้นเนื่องจากว่าพวกเขาคิดว่าเขายังคงเป็นคนไม่เอาไหนอยู่เหมือนเดิม แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เมื่อพวกเขาใส่ใจมากขึ้นกับท่าทางที่เขาพูด พวกเขาก็พบว่าน้ำเสียงของเขาฟังดูเย็นชาและสงบราวกับตรงกันข้ามกับเจอรัลด์คนเก่าที่พวกเขาเคนรู้จัก มันค่อนข้างน่าเคารพเกรงขาม “เจอรัลด์! นี่...นี่คือรถของนายเหรอ?” เรถาม สา
เวย์ลอนกำลังขอความช่วยเหลือจากเจซันอยู่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะสามารถได้ทราบข้อมูลที่แน่ชัด เวย์ลอนก็วางสายไปแล้ว นี่เป็นเพราะเขาได้สังเกตเห็นเซลล่าและคนที่เหลือกำลังเจลข้ามาในห้อง “ฉันขอโทษนะเวย์ลอน! ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉันเอง!” เซลล่ากล่าวขอโทษ “เธอกำลังพูดถึงอะไรอยู่เซลล่า? ฉันแค่รู้สึกประหลาดใจเมื่อพวกเขาเริ่มทำร้ายพวกเราโดยไม่แม้แต่จะทำเรื่องให้กระจ่างเสียก่อนด้วยซ้ำ! อย่ากังวลไปเลย ลูกน้องของพ่อของฉันกำลังจัดการกับพวกเขาอยู่ตอนนี้! พ่อของฉันก็ได้ข่าวเกี่ยวกับปัญหาของเธอเหมือนกัน!” เวย์ลอนกล่าวด้วยนำ้เสียงดุร้าย เซลล่ากำลังจะพูดบางอย่างเมื่อโทรศัพท์ของเธอเริ่มดังขึ้นมา ด้วยการสูดหายใจเข้าลึก ๆ เธอกดรับสาย มันเป็นการพูดคุยกันสั้น ๆ และเธอก็วางสายไม่นานหลังจากนั้น “...ตอนนี้มันจบแล้ว! สายนั่นมาจากประธานของฉัน เขาแจ้งให้ฉันทราบว่าฉันถูกไล่ออก!” เซลล่ากล่าวอย่างอ่อนแรง เธอรู้ว่าเธอเพิ่งจะเสียโอกาสในการมีอาชีพที่ยอดเยี่ยมไปแล้ว เพราะตอนนี้เธอถูกไล่ออก เธอจะไม่สามารถเข้าทำงานที่บริษัทสาขาที่ดีเลิศหรือการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ภายใต้ดรีม อินเวสทเมนท์ กรุ๊ปท
ทุกคนตกตะตึง ในใจของพวกเขา พวกเขาทุกคนต่างก็คิดถึงสิ่งเดียวกัน ‘…อะไรนะ? นั่นช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สุดขีด! และรวดเร็วมากเหมือนกัน!’ “…เซลล่า ฉันคิดว่าใครบางคนต้องใช้เส้นสายอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เพื่อช่วยเหลือเธออย่างแน่นอน…มิอย่างงั้น ทำไมเจ้านายของเธอถึงจะก้าวออกมาเพื่อจัดการกับคนวิตรถารนั่นในตอนแรกล่ะ? การสืบสวนเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้านายเข้ามาเกี่ยวข้องแต่กระนั้นเขายังโทรหาเบอร์ส่วนตัวของเธอเพื่อขออภัย! ยิ่งไปกว่านั้น ไอ้วิตรถารนั่นก็ถูกไล่ออกอีกด้วย!” “ฉันเห็นด้วย เธอพูดเองว่าเบื้องบนเป็นคนตัดสินใจ ใครบางคนต้องใช้เส้นสายของพวกเขาในการทำแบบนี้แน่นอน!” เรและคนอื่น ๆ กำลังถกการคาดเดาของพวกเธอกันอย่างเปิดเผยในตอนนี้ “ฉันคิดว่ามันเป็นอย่างงั้นเหมือนกัน มันเป็นเรื่องยากมากที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ฝึกงานที่มีศักยภาพสำหรับแผนกบุคคล ฉันอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าใครจะมีอำนาจมากขนาดนั้นกันที่จะทำให้เจ้านายและผู้บังคับบัญชาของฉันกระทำการได้…” เซลล่ากล่าวขณะที่เธอนวดขมับของเธอเบา ๆ ทันทีทันใดนั้น เธอก็แข็งทื่อไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นและจับจ้องสายตาไปที่เจอรัลด์ “เจอรัลด์!” เ
เขาถูมือเข้าด้วยกันอย่างตื่นเต้นขณะที่เขาถามคำถามนั้น พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “…เอ๋? คุณคลอฟอร์ดเหรอ?” คนอื่น ๆ ในห้องคนไข้ต่างก็ตกตะลึงไปเมื่อพวกเขาได้ยินชื่อนี้ นี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของเวย์ลอน ที่พร้อมจะกล่าวทักทายประธานและทำตัวอิ่มอกอิ่มใจต่อหน้าคนอื่น ๆ นั้น เขาตกตะลึงถึงสองเท่าเหมือนกับคนอื่น ๆ ในห้อง ‘ทำไมเขาเอ่ยถึงเจอรัลด์ว่าคุณคลอฟอร์ด?’ “คุณรู้ว่าผมเป็นใครเหรอครับ ประธาน?” เจอรัลด์ถาม เขาก็ตกตะลึงเช่นกัน “แน่นอนสิครับผมรู้! เมื่อตอนที่คุณวินเทอร์ได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ผมก็มาเยี่ยมเขาด้วยเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม ผมไม่สามารถตามคุณได้ทันเพราะคุณจากไปก่อน!” ประธานกล่าวขณะที่เขายังยิ้มต่อไป เมื่อคิดถึงคำพูดของเขา เจอรัลด์ก็ปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว เมื่อคุณวินเทอร์ได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล เขาบังเอิญได้พบกับมอร์กาน่าที่โรงอาหาร ตอนนั้น มอร์กาน่ามีปัญหากับปัญหาในที่ทำงานของเธอ เมื่อเขาจากไปและพบปะกับแซคในภายหลัง เขาจึงเล่าเกี่ยวกับปัญหางานของมอร์กาน่าให้เขาฟัง ถึงแม้ว่าปัญหาของเธอจะได้รับการแก้ไขในท้ายที่สุดแล้ว สุดท้ายคาเม
คำถามนั้นมาจากเร “เธอพูดว่าไงนะ? เขาขับรถเบนซ์ G-Class งั้นเหรอ?” เวย์ลอนกล่าว ด้วยความช็อก เมื่อคิดย้อนกลับไป เจอรัลด์เพียงแค่ยิ้มอย่างใจเย็นอยู่ด้านข้าง ในขณะที่เวย์ลอนกำลังอวดรถของเขาอยู่ก่อนหน้านี้ เขาคิดว่ามันคือความอิจฉา แต่เจอรัลด์เพียงแค่กำลังสนุกกับคนโง่ที่กำลังโอ้อวดรถออดี้ A4L ของเขาอยู่! ด้วยราคาปัจจุบันของรถเบนซ์ G-Class เงินจำนวนนั้นสามารถซื้อรถออดี้ A4L แปดหรือเก้าคันได้อย่างง่ายดาย! “อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ ฉันชนะได้มันเป็นรางวัลมา! ก็แค่ยานพาหนะคันหนึ่งที่ช่วยให้ฉันไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ” เจอรัลด์กล่าวอย่างใจเย็นขณะที่เขายิ้ม จากนั้นเขาก็วางเหยือกน้ำลงและออกจากห้องคนไข้ไป เซลล่าไม่ได้พูดอะไร แต่ตอนนี้เธอนับถือเจอรัลด์มากกว่าที่เธอเคยมี เขาเพียงจากห้องคนไข้ไป เมื่อปัญหาได้รับการแก้ไขโดยไม่คาดหวังการยกย่องใด ๆ เลย ในใจของเธอ เธอรู้ว่าแม้ว่าเธอจะคิดว่าคนอื่น ๆ ได้คอยช่วยเหลือเธอมาตลอด แต่เจอรัลด์ก็ไม่ได้ใส่ใจตราบใดที่ไม่มีปัญหาอีกต่อไป แม้ตอนที่เจอรัลด์เข้าไปในรถของเขาแล้ว เพื่อนร่วมชั้นของเขาทั้งหลายก็ยังไม่ขยับไปไหนกันสักนิด พวกเขายังคงจ้องกันและก
ขณะที่ทั้งหมดนี้กำลังเกิดขึ้น เขาก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ “แทมมี่ คุณควาริงตันกระวนกระวายมากเลยตอนนี้ เขายังไปที่สถานีตำรวจอีกด้วยซ้ำเพื่อจะแจ้งความ พวกเราควรจะทำยังไงดี? เราควรจะรอเจอรัลด์คนนั้นอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหนกัน?” บางอย่างได้เกิดขึ้นกับกีย่าแลครอบครัวของเธอและแน่นอนว่าเพื่อน ๆ ก็รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้กัน คนที่ถอนหายใจคือเพื่อนร่วมห้องของกีย่าคนหนึ่ง ตอนนี้พวกเธอทุกคนกำลังรอเจอรัลด์อยู่ที่ทางเข้าของมหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่กัน แทมมี่ตกลงที่จะพบกับเขาที่นั่นในโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากคุณควาริงตันได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ แทมมี่และคนอื่น ๆ ก็ได้แสดงท่าทีอย่างมีเหตุมีผลโดยการไปที่มหาวิทยาลัย โดยการแจ้งและแบ่งปันสิ่งที่พวกเธอรู้กับทางมหาวิทยาลัยนั่นคือทั้งหมดที่พวกเธอสามารถทำได้ในขณะนี้ “รอเขากันก่อนเถอะ เขาคือคนที่รู้มากที่สุดเกี่ยวกับสถานการณ์เนื่องจากกีย่าถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายในที่ของเขา อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ได้รับการปลดปล่อยจากการถูกสอนบทเรียนโดยพวกเราในภายหลังแน่! การหายตัวไปของเธอยังคงเกี่ยวข้องกับเขา!” แทมมี่กล่าวอย่างโกรธเคือง หญิงสาวคนอื่น ๆ ก็โกรธเช่นกัน พว
“ฉันโทรหาเฟลิเซียและเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับสถานการณ์แล้ว เธอบอกฉันว่าเธอจะพยายามให้เพื่อนร่วมชั้นของเธอช่วยพวกเรา หวังว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยดี! ด้วยการช่วยเหลือของแฟน ๆ ของผู้ประกาศนั้น ในที่สุดพวกเราก็จะสามารถรู้ได้ว่ากีย่าอยู่ที่ไหน! ทุกคนมีพลังและมีความสำคัญมากกว่าคนเพียงคนเดียวอยู่แล้ว!” แทมมี่กล่าว เจอรัลด์พยักหน้า เขาคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี คนธรรมดานั้นไม่เข้าใจความสามารถที่แท้จริงของคนเหล่านั้น ที่ทำงานกับสื่อมวลชนและคนเหล่านั้นที่ปฏิบัติต่ออินเตอร์เน็ตเหมือนบ้านหลังที่สองของพวกเขา ตราบใดที่คน ๆ หนึ่งเต็มใจที่จะค้นคว้า ข้อมูลที่พวกเขาต้องการก็จะถูกค้นพบอย่างแน่นอน เจอรัลด์โทรหาเดรกและไทสันเพื่อสืบสวนเรื่องนี้เช่นกัน ไม่มีพวกเขาคนไหนที่จะลองเสี่ยงโอกาสดูเลย “เฟลิเซียอยู่นี่แล้ว!” ในขณะนั้นเอง รถสีคำคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ข้างถนนและลูกพี่ลูกน้องคนเล็กของแทมมี่ก็โดดลงรถมา ชายหนุ่มคนหล่อที่สวมแว่นตานำทางเธอไปที่กลุ่ม เจอรัลด์เคยพบกับเฟลิเซียแล้วในวันก่อนพร้อมกับแทมมี่ ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเธอเป็นใคร เธอรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับกีย่าตั้งแต่ที่เธอเห็นเจอรัลด์ เธอกรอกตาด้
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ