เซลิกชักดาบของเขาออกมาเพื่อป้องกันตัวทันที“กระบี่ลวงตา!” เลฟตะโกนนี่คือชื่อท่าต่อสู้ที่เป็นทีเด็ดของเลฟ และเงาของดาบก็เรียงกันลงมาจากท้องฟ้าราวกับกลีบดอกไม้ ทำให้เซลิกไม่สามารถระบุได้ว่าดาบใดเป็นดาบจริงหลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสื้อของเซลิกก็มีแต่รอยขาดวิ่นจากดาบของเขา และดูเหมือนว่าเขากำลังหวาดกลัวและสับสนเป็นอย่างมากเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าใครแพ้และใครชนะ เห็นได้ชัดว่าเลฟเป็นผู้ชนะในการต่อสู้รอบนี้“เอาล่ะ คุณทั้งคู่หยุดได้แล้ว เราได้ผู้ชนะแล้ว!”อาจารย์อิคินก์ประกาศผลการต่อสู้“เลฟ เบย์ฟิลด์จากชั้นเรียนระดับสูงชนะเป็นรอบที่สอง!”แม้ว่าเซลิกจะไม่พอใจและไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่เขาไม่มีความสามารถเท่าเลฟ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ยอมรับผลของการต่อสู้ในครั้งนี้“ฮึ่ม เซลิก เลียร์ ฉันขอบอกเอาไว้เลยว่า นายจะต้องพ่ายแพ้ให้ฉันตลอดไป ดังนั้นจากนี้ไป ทุกครั้งที่นายเจอฉันในสถาบัน นายควรจะหนีไปให้ไกล ๆ ไม่อย่างนั้นนายเสร็จฉันแน่!”เลฟชี้หน้าเซลิกต่อหน้าทุกคน และเตือนเขาอย่างเย็นชาคำพูดของเขาทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในฝูงชนอีกครั้ง ใครจะคาดคิดว่าเลฟจะกล้าใช้คำพูดที่รุนแรงต่อ
เลฟลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ ท่ามกลางสายตาของทุกคนจากนั้นเขาจึงเดินตรงไปหาเจอรัลด์ทันที“ใครจะไปคาดคิดว่านายจะเลือกฉัน ดูเหมือนว่าตำแหน่งนักเรียนที่ได้รับเลือกจากคณบดีจะต้องกลายเป็นของฉันอย่างแน่นอน!”เลฟเยาะเย้ยเจอรัลด์ด้วยความมั่นใจการต่อสู้ของพวกเขายังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ แต่เลฟก็แสดงท่าทีเย่อหยิ่งออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนในทางกลับกัน เจอรัลด์กลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย ในสายตาของเขา เลฟเป็นเพียงแค่ตัวตลกจอมโอ้อวด ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับความเย่อหยิ่งของเลฟผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงมักจะไม่โอ้อวด และไม่สำคัญตัวเองต่อหน้าผู้อื่น ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเขาก็จะกลายเป็นแค่คนงี่เง่า ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการกระทำของเลฟในตอนนี้“ทั้งสองฝ่ายโปรดเตรียมพร้อม!”อาจารย์อิคินก์พูดพร้อมกับส่งสัญญาณให้เจอรัลด์และเลฟ เมื่อได้ยินคำสั่งจากอาจารย์อิคินก์แล้ว เลฟจึงตั้งท่าพร้อมสำหรับการโจมตี เมื่อมีการประกาศให้เริ่มต้นการต่อสู้ เขาก็จะโจมตีเจอรัลด์ทันทีเจอรัลด์มีท่าทีที่นิ่งสงบเหมือนเช่นเคย เขาหลับตาขณะยืนอยู่ที่จุดเดิม โดยสีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อยเมื่อเห็นการกระทำของเจอรัล
หลังจากค้นพบเจ้าของเสียงแล้ว ความโกลาหลก็เกิดขึ้นท่ามกลางฝูงชนอีกครั้งผู้ชายที่ทุกคนกำลังพูดถึงคือ เรย์ เลห์ตัน นักเรียนที่เก่งที่สุดในชั้นเรียนระดับสูง ความสามารถของเขาได้บรรลุถึงจิตวิญญาณระดับที่เจ็ดในอาณาจักรแห่งนักปราชญ์แล้วเรย์ลุกขึ้น และเดินมุ่งหน้าไปยังใจกลางลานประลอง ก่อนจะเผชิญหน้ากับเจอรัลด์ เขาชี้หน้าเจอรัลด์อย่างเยือกเย็นก่อนจะพูดว่า "ฉัน เรย์ เลห์ตัน และฉันขอท้านาย หากนายชนะ ฉันจะยินดีเชื่อฟังและคอยติดตามรับใช้นาย แต่ถ้าฉันชนะ นายจะต้องยกตำแหน่งนักเรียนที่ได้รับเลือกให้ฉัน และมาเป็นลูกน้องของฉัน!”คำพูดของเรย์นั้นฟังดูเย่อหยิ่งและคุกคามอย่างเห็นได้ชัดเจอรัลด์ไม่ได้รู้สึกโกรธเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา ในทางกลับกัน เขาคิดว่าเรย์เป็นคนที่น่าสนใจมากเรย์เป็นคนตรงไปตรงมาและห้าวหาญ และเขากล้าที่จะแสดงถึงความไม่พอใจทันทีแทนที่จะทำอะไรสกปรกลับหลัง เขาสมควรได้รับความเคารพยกย่องเป็นอย่างยิ่ง“ตกลง ฉันยอมรับคำท้า!”เจอรัลด์ไม่คิดที่จะปฏิเสธเขา และตอบรับคำท้านั้นทันทีท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน เรย์พุ่งเข้าหาเจอรัลด์ราวกับเสือที่ดุร้ายที่มีพลังทำลายล้างไม่ต่
“เอาล่ะ การทดสอบการต่อสู้ของเราในวันนี้ได้จบลงแล้ว พรุ่งนี้จะมีการทดสอบฝึกซ้อมที่หอคอยเทวาลัย ฉันหวังว่าทุกคนจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ในคืนนี้!”ท้องฟ้าเริ่มมืดลง หลังจากที่อาจารย์อิคินก์ประกาศปิดกิจกรรมการทดสอบการต่อสู้ในวันนี้จากนั้นทุกคนก็ออกจากลานประลองหอคอยเทวาลัยถือเป็นความท้าทายสูงสุดแห่งสำนักศึกษาไลคอม และมันถูกแบ่งออกเป็นยี่สิบระดับจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถไปถึงระดับที่สูงที่สุดได้สำเร็จ แม้แต่คณบดีซุเมรุเองก็ยังไปถึงเพียงระดับสิบแปด ส่วนปรมาจารย์ทั้งสี่ก็หยุดอยู่ที่ระดับสิบเจ็ดในแต่ละระดับผู้ร่วมประลองจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าพวกเขาจะเจอกับความท้าทายรูปแบบใดในหอคอยเทวาลัยแห่งนี้ จึงถือเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะคิดกลโกงต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อเอาชนะได้คืนนั้นเจอรัลด์ถูกเรียกไปที่ห้องนอนของคณบดีซุเมรุ“ท่านคณบดีต้องการพบผมเหรอครับ?”เจอรัลด์เข้าไปในห้องด้วยท่าทีที่นอบน้อม และถามคณบดีซุเมรุที่กำลังนั่งสมาธิอยู่คณบดีซุเมรุลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ และมองเจอรัลด์ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า“เจอรัลด์ เมื่อบ่ายวันนี้เธอทำได้ดี ในฐานะอาจาร
“เป็นไปได้ไหมที่เจอรัลด์จะเป็นนักบุญที่จะมาช่วยกอบกู้ทวีปไลคอมของเรา?!”เมื่อเห็นแสงดาวจากดาวดวงนั้น คณบดีซุเมรุก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ***ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์ก็กลับมาที่ตำหนักทางทิศใต้“พี่เจอรัลด์!”เมื่อเขาไปถึงประตูทางเข้า เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลังเจ้าของเสียงนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเรย์ เลห์ตัน ชายที่ต่อสู้กับเขาเมื่อบ่ายวันนี้“เรย์ น้องชาย นายมีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า?”เมื่อเห็นว่าเป็นเรย์ เจอรัลด์ก็ถามด้วยความงุนงง โดยไม่คิดว่าเรย์จะมาหาเขา“ฮ่า ฮ่า! พี่เจอรัลด์ ฉันมาที่นี่เพื่อพูดคุยแบบเป็นกันเอง พี่อยากไปหาอะไรดื่มด้วยกันหน่อยไหม?”เรย์หัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาเขย่าขวดเบียร์ที่ถืออยู่ในมือเจอรัลด์ยิ้มอย่างเข้าใจและพยักหน้า "แน่นอน เข้ามาเลย!”หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็พาเรย์เข้าไปในตำหนักเมื่อพวกเขาเข้าไปในตำหนัก พวกเขาก็เห็นโนริและเพื่อนอีกสองคนนั่งอยู่ข้างใน“เจอรัลด์ คุณกลับมาแล้ว!”เมื่อเห็นเจอรัลด์เดินเข้ามา โนริก็ยืนขึ้นและทักทายเขา"อืม? นี่รุ่นพี่เรย์ไม่ใช่เหรอ?”เมื่อพวกเขาเห็นเรย์ ทุกคนก็อยู่ในอาการตกตะลึง“สวัสดีทุกคน!”
เมื่อประตูหอคอยถูกเลื่อนลง เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่จะมองสำรวจไปรอบ ๆ และพยายามรวบรวมสติและสมาธิของเขา อย่างไรก็ตาม ความมืดมิดทำให้เขามองอะไรไม่เห็นเลย... ขณะที่เจอรัลด์กำลังสงสัยว่าจะทำอย่างไรต่อไป ก็มีลำแสงปรากฏขึ้นจากหอคอย! เมื่อมันสว่างขึ้นเรื่อย ๆ แสงที่เจิดจ้านั้น ก็ชวนให้นึกถึงกองไฟที่โหมกระหน่ำ... อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้นชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีขาวก็เดินออกมาจากแสงสว่าง... เมื่อเห็นอย่างนั้น เจอรัลด์ก็ถามทันที “…แล้วคุณคือ?” “ฉันคือเทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์ ในทวีปไลคอม และที่เธอกำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ คือวิญญาณบรรพกาลร่างสุดท้ายที่ฉันทิ้งไว้ในหอคอยเทวาลัย ฉันถูกเรียกโดยการมาถึงของเธอ!” วิญญาณบรรพกาลอธิบาย ขณะที่มันจ้องมองไปที่เจอรัลด์ “คุณคือเทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์งั้นเหรอ? และคุณหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าผมเป็นคนเรียกคุณออกมา?” เจอรัลด์ตอบด้วยความตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างกะทันหัน ประการหนึ่ง เขาไม่ได้คาดคิดว่าคนตรงหน้าจะเป็นวิญญาณบรรพกาลของเทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์… เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น เทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์ก็หัวเราะคิกคักและยื่นม
เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่ชะตากรรมของโลกจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาอย่างไม่คาดคิดเช่นนี้ “…เอาล่ะ แต่… ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะครับ?” เจอรัลด์ถาม “นั่นก็เป็นเพราะว่ามีเจตจำนงที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเธอแต่โบราณมาแล้ว หากเธอพัฒนาเจตจำนงนั้นได้อย่างเหมาะสม เธอก็จะสามารถต้านทานมาสรัสได้อย่างแน่นอน! ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเป็นความหวังสุดท้ายของโลกอย่างแท้จริง!” เทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์ อธิบายด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น เมื่อเห็นว่าคำพูดของเขาฟังดูสมเหตุสมผล เจอรัลด์จึงตอบว่า "...แล้วผมจะพัฒนาเจตจำนงนั้นได้อย่างไรล่ะครับ?" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์ ก็ประสานมือของเขาเข้าด้วยกัน ทันใดนั้น ม้วนคัมภีร์ม้วนหนึ่งก็ปรากฏขึ้น... หลังจากที่รับม้วนคัมภีร์มาแล้ว เจอรัลด์ก็สังเกตเห็นว่ามีช่องบางอย่างอยู่ในนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาต้องใช้บางอย่างสอดเข้าไปในช่องนั้นเพื่อเปิดม้วนคัมภีร์... “นั่นคือคัมภีร์แห่งดวงดาว… เธอจะต้องใช้อัญมณีมาปลดล็อก เพื่อค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้น หลังจากนั้น เธอก็จะเริ่มพัฒนาเจตจำนงที่แฝงอยู่ในร่างกายของเธอได้ แต่จงรู้เอาไว้ว่ายัง
เมื่อรู้สึกถึงพลังอันมหาศาลที่พุ่งเข้าสู่น้ำอมฤตแห่งชีวิตของเขา เจอรัลด์จึงรีบนั่งลงบนพื้นและเริ่มนั่งสมาธิ หลังจากที่หลับตาลง เจอรัลด์ก็พยายามควบคุมพลังอันมหาศาลในร่างกายของเขาให้เสถียร... แต่เขาก็ต้องประหลาดใจที่เขาไม่สามารถควบคุมมันได้เลย! ด้วยความรู้สึกกังวลชั่วขณะ จู่ ๆ เจอรัลด์ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ 'เดี๋ยวก่อน ฉันมีแอปเปิลแห่งสวรรค์อีกหลายลูกไม่ใช่เหรอ?' เจอรัลด์หยิบแอปเปิลลูกหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บของของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็กัดแอปเปิลไปหนึ่งคำ ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็รู้สึกเย็นและสดชื่นขึ้นมาทันที! สำหรับพลังที่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ เขารู้สึกได้ว่ามันไม่ได้พลุ่งพล่านในร่างกายของเขาอีกต่อไปแล้ว… กล่าวอีกนัยหนึ่ง เจอรัลด์สามารถบรรลุจิตวิญญาณระดับเก้าของอาณาจักรแห่งนักปราชญ์ได้สำเร็จ! ในที่สุดเขาก็ก้าวเข้าสู่จิตวิญญาณระดับที่หนึ่งแห่งอาณาจักรอวตาร์แล้ว! ด้วยร่างกายของเขาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เจอรัลด์สามารถสัมผัสได้ว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก “ขอแสดงความยินดีที่เธอก้าวเข้าสู่อาณาจักรอวาตาร์ได้สำเร็จ เจอรัลด์ ตอนนี้เธอมีพลังที่จะเข้าสู่โหมดร่างเทพทำลายล้าง