หลังจากค้นพบเจ้าของเสียงแล้ว ความโกลาหลก็เกิดขึ้นท่ามกลางฝูงชนอีกครั้งผู้ชายที่ทุกคนกำลังพูดถึงคือ เรย์ เลห์ตัน นักเรียนที่เก่งที่สุดในชั้นเรียนระดับสูง ความสามารถของเขาได้บรรลุถึงจิตวิญญาณระดับที่เจ็ดในอาณาจักรแห่งนักปราชญ์แล้วเรย์ลุกขึ้น และเดินมุ่งหน้าไปยังใจกลางลานประลอง ก่อนจะเผชิญหน้ากับเจอรัลด์ เขาชี้หน้าเจอรัลด์อย่างเยือกเย็นก่อนจะพูดว่า "ฉัน เรย์ เลห์ตัน และฉันขอท้านาย หากนายชนะ ฉันจะยินดีเชื่อฟังและคอยติดตามรับใช้นาย แต่ถ้าฉันชนะ นายจะต้องยกตำแหน่งนักเรียนที่ได้รับเลือกให้ฉัน และมาเป็นลูกน้องของฉัน!”คำพูดของเรย์นั้นฟังดูเย่อหยิ่งและคุกคามอย่างเห็นได้ชัดเจอรัลด์ไม่ได้รู้สึกโกรธเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเขา ในทางกลับกัน เขาคิดว่าเรย์เป็นคนที่น่าสนใจมากเรย์เป็นคนตรงไปตรงมาและห้าวหาญ และเขากล้าที่จะแสดงถึงความไม่พอใจทันทีแทนที่จะทำอะไรสกปรกลับหลัง เขาสมควรได้รับความเคารพยกย่องเป็นอย่างยิ่ง“ตกลง ฉันยอมรับคำท้า!”เจอรัลด์ไม่คิดที่จะปฏิเสธเขา และตอบรับคำท้านั้นทันทีท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน เรย์พุ่งเข้าหาเจอรัลด์ราวกับเสือที่ดุร้ายที่มีพลังทำลายล้างไม่ต่
“เอาล่ะ การทดสอบการต่อสู้ของเราในวันนี้ได้จบลงแล้ว พรุ่งนี้จะมีการทดสอบฝึกซ้อมที่หอคอยเทวาลัย ฉันหวังว่าทุกคนจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ในคืนนี้!”ท้องฟ้าเริ่มมืดลง หลังจากที่อาจารย์อิคินก์ประกาศปิดกิจกรรมการทดสอบการต่อสู้ในวันนี้จากนั้นทุกคนก็ออกจากลานประลองหอคอยเทวาลัยถือเป็นความท้าทายสูงสุดแห่งสำนักศึกษาไลคอม และมันถูกแบ่งออกเป็นยี่สิบระดับจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถไปถึงระดับที่สูงที่สุดได้สำเร็จ แม้แต่คณบดีซุเมรุเองก็ยังไปถึงเพียงระดับสิบแปด ส่วนปรมาจารย์ทั้งสี่ก็หยุดอยู่ที่ระดับสิบเจ็ดในแต่ละระดับผู้ร่วมประลองจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าพวกเขาจะเจอกับความท้าทายรูปแบบใดในหอคอยเทวาลัยแห่งนี้ จึงถือเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะคิดกลโกงต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อเอาชนะได้คืนนั้นเจอรัลด์ถูกเรียกไปที่ห้องนอนของคณบดีซุเมรุ“ท่านคณบดีต้องการพบผมเหรอครับ?”เจอรัลด์เข้าไปในห้องด้วยท่าทีที่นอบน้อม และถามคณบดีซุเมรุที่กำลังนั่งสมาธิอยู่คณบดีซุเมรุลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ และมองเจอรัลด์ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า“เจอรัลด์ เมื่อบ่ายวันนี้เธอทำได้ดี ในฐานะอาจาร
“เป็นไปได้ไหมที่เจอรัลด์จะเป็นนักบุญที่จะมาช่วยกอบกู้ทวีปไลคอมของเรา?!”เมื่อเห็นแสงดาวจากดาวดวงนั้น คณบดีซุเมรุก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ***ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์ก็กลับมาที่ตำหนักทางทิศใต้“พี่เจอรัลด์!”เมื่อเขาไปถึงประตูทางเข้า เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลังเจ้าของเสียงนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเรย์ เลห์ตัน ชายที่ต่อสู้กับเขาเมื่อบ่ายวันนี้“เรย์ น้องชาย นายมีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า?”เมื่อเห็นว่าเป็นเรย์ เจอรัลด์ก็ถามด้วยความงุนงง โดยไม่คิดว่าเรย์จะมาหาเขา“ฮ่า ฮ่า! พี่เจอรัลด์ ฉันมาที่นี่เพื่อพูดคุยแบบเป็นกันเอง พี่อยากไปหาอะไรดื่มด้วยกันหน่อยไหม?”เรย์หัวเราะเบา ๆ ขณะที่เขาเขย่าขวดเบียร์ที่ถืออยู่ในมือเจอรัลด์ยิ้มอย่างเข้าใจและพยักหน้า "แน่นอน เข้ามาเลย!”หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็พาเรย์เข้าไปในตำหนักเมื่อพวกเขาเข้าไปในตำหนัก พวกเขาก็เห็นโนริและเพื่อนอีกสองคนนั่งอยู่ข้างใน“เจอรัลด์ คุณกลับมาแล้ว!”เมื่อเห็นเจอรัลด์เดินเข้ามา โนริก็ยืนขึ้นและทักทายเขา"อืม? นี่รุ่นพี่เรย์ไม่ใช่เหรอ?”เมื่อพวกเขาเห็นเรย์ ทุกคนก็อยู่ในอาการตกตะลึง“สวัสดีทุกคน!”
เมื่อประตูหอคอยถูกเลื่อนลง เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่จะมองสำรวจไปรอบ ๆ และพยายามรวบรวมสติและสมาธิของเขา อย่างไรก็ตาม ความมืดมิดทำให้เขามองอะไรไม่เห็นเลย... ขณะที่เจอรัลด์กำลังสงสัยว่าจะทำอย่างไรต่อไป ก็มีลำแสงปรากฏขึ้นจากหอคอย! เมื่อมันสว่างขึ้นเรื่อย ๆ แสงที่เจิดจ้านั้น ก็ชวนให้นึกถึงกองไฟที่โหมกระหน่ำ... อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้นชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีขาวก็เดินออกมาจากแสงสว่าง... เมื่อเห็นอย่างนั้น เจอรัลด์ก็ถามทันที “…แล้วคุณคือ?” “ฉันคือเทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์ ในทวีปไลคอม และที่เธอกำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ คือวิญญาณบรรพกาลร่างสุดท้ายที่ฉันทิ้งไว้ในหอคอยเทวาลัย ฉันถูกเรียกโดยการมาถึงของเธอ!” วิญญาณบรรพกาลอธิบาย ขณะที่มันจ้องมองไปที่เจอรัลด์ “คุณคือเทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์งั้นเหรอ? และคุณหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าผมเป็นคนเรียกคุณออกมา?” เจอรัลด์ตอบด้วยความตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างกะทันหัน ประการหนึ่ง เขาไม่ได้คาดคิดว่าคนตรงหน้าจะเป็นวิญญาณบรรพกาลของเทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์… เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น เทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์ก็หัวเราะคิกคักและยื่นม
เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่ชะตากรรมของโลกจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาอย่างไม่คาดคิดเช่นนี้ “…เอาล่ะ แต่… ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะครับ?” เจอรัลด์ถาม “นั่นก็เป็นเพราะว่ามีเจตจำนงที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเธอแต่โบราณมาแล้ว หากเธอพัฒนาเจตจำนงนั้นได้อย่างเหมาะสม เธอก็จะสามารถต้านทานมาสรัสได้อย่างแน่นอน! ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเป็นความหวังสุดท้ายของโลกอย่างแท้จริง!” เทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์ อธิบายด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น เมื่อเห็นว่าคำพูดของเขาฟังดูสมเหตุสมผล เจอรัลด์จึงตอบว่า "...แล้วผมจะพัฒนาเจตจำนงนั้นได้อย่างไรล่ะครับ?" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เทพเจ้าแห่งแอสตรอล ทราเวลเลอร์ ก็ประสานมือของเขาเข้าด้วยกัน ทันใดนั้น ม้วนคัมภีร์ม้วนหนึ่งก็ปรากฏขึ้น... หลังจากที่รับม้วนคัมภีร์มาแล้ว เจอรัลด์ก็สังเกตเห็นว่ามีช่องบางอย่างอยู่ในนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาต้องใช้บางอย่างสอดเข้าไปในช่องนั้นเพื่อเปิดม้วนคัมภีร์... “นั่นคือคัมภีร์แห่งดวงดาว… เธอจะต้องใช้อัญมณีมาปลดล็อก เพื่อค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้น หลังจากนั้น เธอก็จะเริ่มพัฒนาเจตจำนงที่แฝงอยู่ในร่างกายของเธอได้ แต่จงรู้เอาไว้ว่ายัง
เมื่อรู้สึกถึงพลังอันมหาศาลที่พุ่งเข้าสู่น้ำอมฤตแห่งชีวิตของเขา เจอรัลด์จึงรีบนั่งลงบนพื้นและเริ่มนั่งสมาธิ หลังจากที่หลับตาลง เจอรัลด์ก็พยายามควบคุมพลังอันมหาศาลในร่างกายของเขาให้เสถียร... แต่เขาก็ต้องประหลาดใจที่เขาไม่สามารถควบคุมมันได้เลย! ด้วยความรู้สึกกังวลชั่วขณะ จู่ ๆ เจอรัลด์ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ 'เดี๋ยวก่อน ฉันมีแอปเปิลแห่งสวรรค์อีกหลายลูกไม่ใช่เหรอ?' เจอรัลด์หยิบแอปเปิลลูกหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บของของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็กัดแอปเปิลไปหนึ่งคำ ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็รู้สึกเย็นและสดชื่นขึ้นมาทันที! สำหรับพลังที่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ เขารู้สึกได้ว่ามันไม่ได้พลุ่งพล่านในร่างกายของเขาอีกต่อไปแล้ว… กล่าวอีกนัยหนึ่ง เจอรัลด์สามารถบรรลุจิตวิญญาณระดับเก้าของอาณาจักรแห่งนักปราชญ์ได้สำเร็จ! ในที่สุดเขาก็ก้าวเข้าสู่จิตวิญญาณระดับที่หนึ่งแห่งอาณาจักรอวตาร์แล้ว! ด้วยร่างกายของเขาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เจอรัลด์สามารถสัมผัสได้ว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก “ขอแสดงความยินดีที่เธอก้าวเข้าสู่อาณาจักรอวาตาร์ได้สำเร็จ เจอรัลด์ ตอนนี้เธอมีพลังที่จะเข้าสู่โหมดร่างเทพทำลายล้าง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปรมาจารย์ทั้งสี่ก็หันไปมองคณบดีซุเมรุ ขณะที่เขาพยักหน้าตอบเจอรัลด์ “ตอนนี้เธอก็รู้ทุกอย่างแล้ว… นั่นก็หมายความว่าเธอเป็นคนที่ถูกลิขิตไว้จริง ๆ! เพราะฉะนั้นแล้ว เธอพร้อมที่จะรับภาระหน้าที่นั้นแล้วหรือยัง เจอรัลด์?” คณบดีถามขณะจ้องมองเจอรัลด์ด้วยสายตาที่มุ่งหวัง "พร้อมครับ! หลังจากที่ผมได้ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่สักพัก ผมคิดว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการค้นหาอัญมณีเรืองแสงให้เจอ!” เจอรัลด์ตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว เขาให้ความสำคัญกับเรื่องของอัญมณีเป็นอันดับแรก เนื่องจากเขาต้องใช้มันในการเปิดคัมภีร์แห่งดวงดาว หลังจากนั้น เจอรัลด์หวังว่าเขาจะสามารถพัฒนาเจตจำนงที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเขาได้อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะยืนหยัดต่อสู้กับมาสรัส เทพเจ้าปีศาจที่จะปรากฏตัวในอีกสามร้อยวันข้างหน้านี้ “เธอจะทำอะไรก็ได้ตามที่ใจเธอต้องการ แต่โปรดจำไว้ว่านาฬิกานั้นเดินอยู่ตลอดเวลา หากเธอไม่สามารถค้นหาอัญมณีได้ภายในเวลาสามร้อยวัน สิ่งเดียวที่รอโลกของเราอยู่ก็คือความพินาศ!” คณบดีซุเมรุเตือนเจอรัลด์ “ผมเข้าใจแล้วครับ ท่านอาจารย์! นอกจากนี้ เพื่อเร่งการค้นหาให้เร็วยิ่งขึ้น ผมกำลังคิด
“…ฉันยินดีที่จะเข้าร่วมทีมกับคุณ เจอรัลด์! ฉันจะคอยติดตามคุณไปในทุก ๆ ที่!” โนริประกาศหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ผมด้วยครับคุณคลอฟอร์ด!” “เราทุกคนเต็มใจที่จะเข้าร่วมทีมกับคุณ!” เมื่อเห็นว่าโนริตอบรับเจอรัลด์แล้ว เซลิก ไซริล และเรย์ก็ตัดสินใจทำแบบเดียวกัน เมื่อได้ยินคำตอบที่กระตือรือร้นของพวกเขา เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจ หากจะให้พูดตามตรง เขาแอบคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะไปกับเขา ท้ายที่สุด ทั้งสี่คนก็เพิ่งรู้จักเขาได้ไม่นาน เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้ เจอรัลด์จึงรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่มากเกินไปที่จะขอร้องให้ทุกคนไปเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขา ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันโดยไม่ต้องคิดอะไรมากมาย มันแสดงให้เจอรัลด์เห็นว่าพวกเขาเห็นเจอรัลด์เป็นเพื่อนอย่างแท้จริง ในความเป็นจริง มันยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไว้วางใจในตัวเจอรัลด์มากแค่ไหน “…ขอบคุณ…พวกคุณทุกคน แม้ว่าผมอยากจะอยากซาบซึ้งและตอบแทนน้ำใจของทุกคนในตอนนี้ แต่เราก็ไม่มีเวลามากนัก อย่างที่บอกไป พวกคุณรีบไปเก็บข้าวของเถอะ! เราจะออกเดินทางในอีกสองชั่วโมง!” เจอรัลด์ประกาศ เนื่องจากเวลาเป็นสิ่งที่มีค่า ยิ่งพวกเขาเก็บข้า