เมื่อรู้สึกถึงพลังอันมหาศาลที่พุ่งเข้าสู่น้ำอมฤตแห่งชีวิตของเขา เจอรัลด์จึงรีบนั่งลงบนพื้นและเริ่มนั่งสมาธิ หลังจากที่หลับตาลง เจอรัลด์ก็พยายามควบคุมพลังอันมหาศาลในร่างกายของเขาให้เสถียร... แต่เขาก็ต้องประหลาดใจที่เขาไม่สามารถควบคุมมันได้เลย! ด้วยความรู้สึกกังวลชั่วขณะ จู่ ๆ เจอรัลด์ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ 'เดี๋ยวก่อน ฉันมีแอปเปิลแห่งสวรรค์อีกหลายลูกไม่ใช่เหรอ?' เจอรัลด์หยิบแอปเปิลลูกหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บของของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็กัดแอปเปิลไปหนึ่งคำ ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็รู้สึกเย็นและสดชื่นขึ้นมาทันที! สำหรับพลังที่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ เขารู้สึกได้ว่ามันไม่ได้พลุ่งพล่านในร่างกายของเขาอีกต่อไปแล้ว… กล่าวอีกนัยหนึ่ง เจอรัลด์สามารถบรรลุจิตวิญญาณระดับเก้าของอาณาจักรแห่งนักปราชญ์ได้สำเร็จ! ในที่สุดเขาก็ก้าวเข้าสู่จิตวิญญาณระดับที่หนึ่งแห่งอาณาจักรอวตาร์แล้ว! ด้วยร่างกายของเขาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เจอรัลด์สามารถสัมผัสได้ว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก “ขอแสดงความยินดีที่เธอก้าวเข้าสู่อาณาจักรอวาตาร์ได้สำเร็จ เจอรัลด์ ตอนนี้เธอมีพลังที่จะเข้าสู่โหมดร่างเทพทำลายล้าง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปรมาจารย์ทั้งสี่ก็หันไปมองคณบดีซุเมรุ ขณะที่เขาพยักหน้าตอบเจอรัลด์ “ตอนนี้เธอก็รู้ทุกอย่างแล้ว… นั่นก็หมายความว่าเธอเป็นคนที่ถูกลิขิตไว้จริง ๆ! เพราะฉะนั้นแล้ว เธอพร้อมที่จะรับภาระหน้าที่นั้นแล้วหรือยัง เจอรัลด์?” คณบดีถามขณะจ้องมองเจอรัลด์ด้วยสายตาที่มุ่งหวัง "พร้อมครับ! หลังจากที่ผมได้ใช้เวลาครุ่นคิดอยู่สักพัก ผมคิดว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการค้นหาอัญมณีเรืองแสงให้เจอ!” เจอรัลด์ตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว เขาให้ความสำคัญกับเรื่องของอัญมณีเป็นอันดับแรก เนื่องจากเขาต้องใช้มันในการเปิดคัมภีร์แห่งดวงดาว หลังจากนั้น เจอรัลด์หวังว่าเขาจะสามารถพัฒนาเจตจำนงที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเขาได้อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะยืนหยัดต่อสู้กับมาสรัส เทพเจ้าปีศาจที่จะปรากฏตัวในอีกสามร้อยวันข้างหน้านี้ “เธอจะทำอะไรก็ได้ตามที่ใจเธอต้องการ แต่โปรดจำไว้ว่านาฬิกานั้นเดินอยู่ตลอดเวลา หากเธอไม่สามารถค้นหาอัญมณีได้ภายในเวลาสามร้อยวัน สิ่งเดียวที่รอโลกของเราอยู่ก็คือความพินาศ!” คณบดีซุเมรุเตือนเจอรัลด์ “ผมเข้าใจแล้วครับ ท่านอาจารย์! นอกจากนี้ เพื่อเร่งการค้นหาให้เร็วยิ่งขึ้น ผมกำลังคิด
“…ฉันยินดีที่จะเข้าร่วมทีมกับคุณ เจอรัลด์! ฉันจะคอยติดตามคุณไปในทุก ๆ ที่!” โนริประกาศหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ผมด้วยครับคุณคลอฟอร์ด!” “เราทุกคนเต็มใจที่จะเข้าร่วมทีมกับคุณ!” เมื่อเห็นว่าโนริตอบรับเจอรัลด์แล้ว เซลิก ไซริล และเรย์ก็ตัดสินใจทำแบบเดียวกัน เมื่อได้ยินคำตอบที่กระตือรือร้นของพวกเขา เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจ หากจะให้พูดตามตรง เขาแอบคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะไปกับเขา ท้ายที่สุด ทั้งสี่คนก็เพิ่งรู้จักเขาได้ไม่นาน เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้ เจอรัลด์จึงรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่มากเกินไปที่จะขอร้องให้ทุกคนไปเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขา ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันโดยไม่ต้องคิดอะไรมากมาย มันแสดงให้เจอรัลด์เห็นว่าพวกเขาเห็นเจอรัลด์เป็นเพื่อนอย่างแท้จริง ในความเป็นจริง มันยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไว้วางใจในตัวเจอรัลด์มากแค่ไหน “…ขอบคุณ…พวกคุณทุกคน แม้ว่าผมอยากจะอยากซาบซึ้งและตอบแทนน้ำใจของทุกคนในตอนนี้ แต่เราก็ไม่มีเวลามากนัก อย่างที่บอกไป พวกคุณรีบไปเก็บข้าวของเถอะ! เราจะออกเดินทางในอีกสองชั่วโมง!” เจอรัลด์ประกาศ เนื่องจากเวลาเป็นสิ่งที่มีค่า ยิ่งพวกเขาเก็บข้า
เซาท์ เวสท์แลนด์เป็นสถานที่ที่มหัศจรรย์อย่างน่าเหลือเชื่อ… ไม่มีใครคาดคิดว่าแม้กระทั่งแสงจันทร์ก็ยังสาดส่องเข้ามาไม่ถึงที่นี่! ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก! ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้ ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์และทุกคนจึงได้แต่นั่งอยู่ที่นั่นต่อไป ขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่ดวงจันทร์ที่สว่างไสวและสวยงาม... ในเวลาต่อมา เรย์ที่กำลังตรวจสอบพื้นที่บริเวณนั้นก็ตะโกนขึ้นมาว่า “…พี่คลอฟอร์ด มาทางนี้เร็วเข้า! มีแผ่นหินบางอย่างอยู่ตรงนี้!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์และอีกสามคนก็วิ่งไปหาเรย์ทันที ตามคำพูดของเขา ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดเห็นแผ่นศิลาจารึกแผ่นหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าพวกเขา... เจอรัลด์ใช้มือเช็ดฝุ่นหนาออกจากศิลาจารึกแผ่นนั้น และสังเกตเห็นว่ามีคำอยู่สองสามคำสลักไว้บนแผ่นศิลา เจอรัลด์หรี่ตาเพื่อมองดูมันใกล้ ๆ แล้วอ่านว่า “อสูรแห่งเซาท์ เวสแลนด์!” ทันทีที่เจอรัลด์อ่านข้อความนั้น เสียงคำรามที่โกรธเกรี้ยวและเสียดหูก็ดังมาจากด้านบน! ขณะที่เสียงคำรามยังคงดังก้องไปทั่วเซาท์ เวสแลนด์ ก็มีเสียงระเบิดดังตามมา! หลังจากนั้น ทุกคนก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจขณะที่ร่า
สิงโตยังคงคำรามอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มันพุ่งตรงไปหาเจอรัลด์ จากนั้นมันก็กระโจนใส่เขาอย่างเต็มแรงด้วยน้ำหนักที่มหาศาลของมัน! แน่นอนว่าเจอรัลด์ไม่มีทางปล่อยให้มันมีโอกาสทำเช่นนั้นได้! เจอรัลด์ไถลเข้าไปใต้ท้องของสิงโตอย่างช่ำชอง โดยใช้ฝ่ามือตบเข้าที่ท้องของมัน มันถึงกับตกตะลึงทันที ก่อนที่ร่างของมันจะลอยกระเด็นออกไป! ขณะที่เขามองร่างของสิงโตที่กระเด็นออกไป เจอรัลด์ก็สรุปได้ว่าถึงแม้มันจะมีขนาดใหญ่ แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่มหาศาลของมัน มันจึงไม่มีทางที่จะเทียบกับความเร็วของเจอรัลด์ได้ อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ไม่ได้มีเจตนาที่จะปลิดชีพมันแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เขากำลังคิดที่จะฝึกฝนมัน ท้ายที่สุด เจอรัลด์เองก็คิดอยากจะมีสิงโตตัวใหญ่มาอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเขา วินาทีที่ร่างของสิงโตกระแทกกับพื้น มันก็กลิ้งไปอีกสองสามตลบก่อนที่จะหยุดในที่สุด มันสลัดขนของมันขณะที่พยายามจะทรงตัว จากนั้นมันก็หันไปเผชิญหน้ากับเจอรัลด์ และจ้องมองเขาพร้อมกับคำรามอย่างดุเดือด แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ร้าย แต่มันก็ไม่ได้โง่ มันตระหนักดีว่ามันไม่สามารถเอาชนะเจอรัลด์ได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงไม่กล้าโจมตีเขาอย่างบุ่ม
อย่างน้อยที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ทั้งห้าคนตกตะลึง ใครจะไปคิดว่ามังกรเขียวตัวเล็ก ๆ จะแข็งแกร่งพอที่จะทำให้สิงโตตัวใหญ่ยอมจำนนได้! “มังกรตัวนั้นต้องมีเอกลักษณ์อันทรงเกียรติอย่างมาก! ไม่เช่นนั้น มันคงไม่สามารถข่มขู่สิงโตตัวนั้นได้แม้มันจะตัวเล็กมากก็ตาม!” เรย์พูด ขณะที่เขาเดินไปหาเจอรัลด์ หลังจากนั้น พวกเขาก็เฝ้าดูมังกรส่งเสียงร้องเล็ก ๆ ของมันออกมาก่อนที่จะบินกลับไปหาเจอรัลด์ จากนั้นมันก็จ้องมองเขาพร้อมกับโยกตัวไปมา เมื่อตระหนักว่ามันกำลังพยายามขออะไรบางอย่างจากเขา เจอรัลด์จึงเดาได้ไม่ยากว่ามันต้องการอะไร เจอรัลด์ส่ายหัวและพูดว่า "ฉันเข้าใจแล้ว แกต้องการแอปเปิลแห่งสวรรค์ใช่ไหม? เอาล่ะ ฉันจะให้แกหนึ่งอันนะ!” ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงหยิบแอปเปิลแห่งสวรรค์หนึ่งผลออกมาจากแหวนเก็บของของเขา ก่อนที่จะมอบให้มังกรน้อย อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ามังกรจะไม่พอใจกับแอปเปิลเพียงลูกเดียว มันยังคงขยับตัวไปมาไม่หยุด จากนั้นมังกรก็สลับการจ้องมองระหว่างเจอรัลด์กับสิงโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้าใจว่ามังกรต้องการให้เขามอบแอปเปิลแห่งสวรรค์ให้กับสิงโตด้วย เจอรัลด์จึงลังเลเล็กน้อย ถึงกระนั้นเขาก
หลังจากที่สิงโตร้ายเชื่องขึ้นแล้ว ค่ำคืนที่เหลือก็ผ่านไปอย่างเงียบสงบและไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นอีก ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์และอีกสี่คนจึงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จนถึงเช้า เนื่องจากเซาท์ เวสท์แลนด์ ไม่ใช่พื้นที่ที่ปลอดภัยนัก กลุ่มคนทั้งห้าจึงตัดสินใจออกเดินทางให้เร็วที่สุด เป็นเรื่องธรรมดาที่เจอรัลด์จะต้องเปิดแผนที่ก่อนเพื่อตรวจดูให้แน่ใจว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด ก่อนจะเริ่มต้นการเดินทางอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ประกาศว่าสถานที่ที่พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปคือเมืองเลือดมังกร หากพวกเขาโชคดี พวกเขาอาจจะหาอัญมณีเจอได้ที่นั่น... มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเมืองเลือดมังกรโบราณแห่งนี้ ข่าวลือที่มีชื่อเสียงที่สุดคือการปรากฏตัวของมังกรโลหิตโบราณ ในร่างของมังกรดังกล่าวน่าจะมีวัตถุที่เรียกว่า เม็ดเลือดมังกร และใครก็ตามที่ได้รับเม็ดเลือดมังกรนั้นไปก็จะสามารถรับพลังของเลือดมังกรอันแข็งแกร่งได้ แม้ว่าเรื่องราวของมันจะน่าสนใจ แต่เจอรัลด์ก็ไม่ได้คิดที่จะไปที่นั่นเพื่อค้นหาเม็ดเลือดมังก
เมื่อไปถึงทางเข้าตรอก ทุกคนก็ทันเห็นภาพของชายฉกรรจ์สี่คนกำลังรุมฉีกเสื้อผ้าของหญิงสาวจนขาดวิ่น! ช่างป่าเถื่อนยิ่งนัก! เมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนก็รู้สึกโกรธเคืองทันที! เจอรัลด์เกลียดคนแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเขาก็อดไม่ได้ที่จะชี้ไปที่กลุ่มคนร้ายก่อนจะส่งเสียงคำราม “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเจอรัลด์ ชายเหล่านั้นก็เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับหันกลับมาจ้องมองที่เด็กหนุ่ม “ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน! เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับแก!” ชายคนหนึ่งตะคอกพร้อมกับทำหน้าบึ้งตึง “แกควรจะทำตามที่เขาบอกซะ ไม่งั้นฉันจะส่งแกไปหายมบาลเดี๋ยวนี้เลย!” ชายอีกคนคำราม ขณะที่เขาชักดาบยาวออกมาเพื่อข่มขู่เจอรัลด์และทุกคน “ไอ้สารเลว พวกแกกำลังทำร้ายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้คนนี้ในเวลากลางวันแสก ๆ! มันคงจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนักถ้าฉันปล่อยพวกแกให้ลอยนวล!” เจอรัลด์โต้กลับ สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ "ว่ายังไงนะ? แกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังพูดอยู่กับใคร ไอ้เด็กน้อย! พวกเรามาจากสหภาพฮัลเกอโรอิกนะรู้ไหม?! ถ้าแกกล้าทำให้เราขุ่นเคือง แกจะไม่มีทางรอดออกไปจากเมืองนี้ได้เลย!” ชายผู้ถือดาบเยาะเย้ย
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ