“งั้นคุณกำลังจะบอกว่าคุณมาจากมหาวิทยาลัยซันนี่เดลเหรอ? ผมไม่เคยเห็นคุณที่นั่นมาก่อนเลย!” ดิกสันยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา“ไม่ ผมมาจากมหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่” เจอรัลด์รู้วิธีที่จะสงบสติอารมณ์ไม่ว่าคนอื่นจะให้ความรู้สึกแบบไหนกับเขาก็ตาม“มหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่ก็ดี ยังไงซะ ครอบครัวของคุณทำงานอะไร? คุณทำให้เอเลน่าตกหลุมรักคุณได้อย่างไรกัน?” ดิกสันถาม“เอาล่ะ ดิกสัน ให้ฉันบอกคุณนะ เขามาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ และครอบครัวของเขาเปิดร้านขายของชำที่เล็กมาก ๆ ! คุณจะไม่เข้าใจได้อย่างไรเมื่อมองวิธีที่เขาแต่งตัว?” แอมเบอร์ตอบ สภาวะสูงสุดของการเพิกเฉยก็คือการแสร้งทำเป็นว่าใครบางคนไม่ได้มีตัวตนอยู่ถึงแม้เขาจะอยู่ตรงหน้าของคุณก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เจ็บปวด แต่จริง ๆ แล้วก็คงไม่มีใครจะบ่งชี้ให้เห็น อย่างไรก็ตาม แอมเบอร์ได้ทำอย่างนั้นกับเจอรัลด์มาโดยตลอด และมันแสดงให้เห็นว่าเธอรังเกียจเขามากเพียงใด“โอ้ การมาจากเมืองเล็ก ๆ มันต้องเป็นการเรียนที่ยากลำบากแน่ในเมืองเมย์เบอร์รี่ โปรดแจ้งให้ผมได้รู้ถ้าคุณมีปัญหาใด ๆ ก็ตาม พ่อของผมรู้จักกับคณบดี และผมสามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้คุณได้ ถ้าคุณต้องการเงินกู้ คุ
ดิกสันพูดโอ้อวดเกี่ยวกับเส้นสายในเมืองเมย์เบอร์รี่ของครอบครัวของเขาตลอดบทสนทนาที่เหลือขณะที่แหย่เจอรัลด์เล่นไปด้วยมันคงไม่จริงถ้าเจอรัลด์ไม่ได้รู้สึกโกรธใด ๆ เลย ณ ขณะนี้ เขาอยากจะชกเข้าที่ใบหน้าของดิกสันจริง ๆ สิ่งที่ดิกสันทำได้ก็เพียงแค่โอ้อวดและล้อเลียนผู้คนเท่านั้น นอกเหนือจากสิ่งอื่นเหล่านั้น เขาก็ไม่ได้มีความมุ่งหมายใดที่ใหญ่กว่าการสังสรรค์ของครอบครัวในบ่ายวันนั้นค่อนข้างแย่มาก พวกเขายังคงพูดคุยกันต่อหลังจากมื้อเที่ยง และไม่นาน ก็ล่วงเลยเที่ยงวันไปแล้วเจอรัลด์ตื่นแต่เช้าตรู่ และเขาก็เริ่มเหนื่อยล้าแล้วจู่ ๆ แอมเบอร์ก็ตะโกนขึ้นมา และทำให้เจอรัลด์ตกใจ “ดิกสัน นี่ก็เกือบจะห้าโมงเย็นแล้วและปาร์ตี้ก็กำลังจะเริ่มในไม่ช้านี้! ไปเตรียมพร้อมกันเถอะตอนนี้ มันคงไม่ดีถ้าเราไปสาย!”“ใช่! โยเอล โฮลเดน เป็นคนจัดงานนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเราต้องไม่ไปสาย!” ดิกสันพูด“โอเค คุณควรจะไปตอนนี้เลย ดิกสัน โปรดดูแลแอมเบอร์และเอเลน่าด้วยนะ!” รูบี้พูด กันเจอรัลด์ออกจากบทสนทนาอย่างจงใจ“ครับ คุณผู้หญิง!” ดิกสันตอบพวกเขาไปรับรถของพวกเขา และเจอรัลด์ก็กระโดดขึ้นไปกับรถปอร์เช่ของแอมเบอร์ เป็นเพร
ชายหนุ่มที่ร่ำรวยสองสามคนโบกไม้โบกมือให้ดิกสันเมื่อเขามาถึง พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนจะรู้กันและกัน “ว้าว มีเพื่อน ๆ มากมายหลายคนที่นี่นะเนี่ย เอเลน่า ให้ผมแนะนำพวกเขาให้กับคุณนะ!” ดิกสันพูดคนหนุ่มสาวที่กำลังถกเถียงกันอยู่กำลังทำตัวไร้สาระขณะที่กินและดื่มกัน พวกเขาต่างก็กำลังสนุกกันอยู่เจอรัลด์รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีอารมณ์ที่จะพบคนใหม่ ๆ อีกต่อไป เขาต้องการสถานที่ที่จะพักผ่อนจริง ๆ จากค่อยไปหาว่าเอเดนและคนอื่น ๆ ไปที่ไหนกัน “พวกคุณสนุกกันเถอะ ผมจะไปห้องน้ำสักหน่อย และไม่ต้องตามหาผมนะ!” เจอรัลด์บอกพวกเขาและจากไปเอง “เขาแค่จะไปห้องน้ำจริง ๆ เหรอ หรือเขารู้สึกอับอายที่จะให้ใครรู้ว่าเขามาจากครอบครัวที่ยากจน?”“ฉันก็ว่าอย่างงั้นแหละ! เขาไม่รู้ว่าบริบททางสังคมคืออะไรใช่ไหม? และเขาอาจจะเสียใจอยู่ตอนนี้ก็ได้!”ทุกคนพูดคุยเกี่ยวกับเขาเอเลน่าอยากจะติดตามเจอรัลด์ไป แต่เธอก็รู้ว่าเธอได้ทำเขาเดือดร้อนมามากเกินไปแล้วในวันนี้ เธอจึงไม่อยากจะรบกวนเขาอีกต่อไป “คนนั้นคือใครเหรอ? เขาแค่จากไปโดยไม่พูดอะไรเลยเนี่ยนะ?”ชายหนุ่มคนหนึ่งไม่สบอารมณ์“ไม่ต้องสนหรอก ก็แค่คนบ้านนอกโง่ ๆ คนหนึ่ง!” แอมเ
สาว ๆ ในชุดบิกินีกำลังเล่นวอลเลย์บอลริมชายหาดขณะที่เจอรัลด์นอนลงข้างเก้าอี้ เขาเหนื่อยเกินไป และเขายังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าเขากำลังมองไปที่ไหนกันแน่ แต่สาว ๆ ก็เข้าใจผิดไปกันแล้วพวกเธอคิดว่าเขากำลังจ้องมองพวกเธอด้วยความคิดทะลึ่งอยู่ ตอนแรก หญิงสาวเหล่านั้นคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ที่จะเผยเนื้อหนังเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ชายหนุ่มได้ดูเพราะพวกเขาก็มาที่นี่เพื่อสนุกสนานกัน แต่ผู้ชายคนนั้นจ้องมองพวกเธออย่างไม่พึงประสงค์เกินไปแล้ว และเขายังฝันกลางวันขณะที่กำลังดูพวกเธอด้วยซ้ำไป! สาว ๆ คิดว่าพวกเธอรู้เป็นอย่างดีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น และพวกเธอก็รู้สึกรังเกียจขึ้นมา“ดูสิ! เขาน่ารังเกียจมาก และเขาก็ตื่นเต้นเมื่อได้มองดูพวกเรา!”“เขาต้องกำลังมองคริสตัลแน่ วันนี้ชุดของเธอนั้นโป๊กว่าชุดปกติที่เธอมักจะใส่ แม้แต่ชายหนุ่มที่ร่ำรวยตรงนั้น ก็กำลังพยายามจะถ่ายรูปเธออยู่เลย เมื่อเขาได้ยินว่าเธอสนิทกันมากกับ โยเอล โฮลเดน อย่างไรก็ดี เขาก็ได้ถอยไปทันที!” “ก็ว่างั้นแหละ ผู้ชายคนนั้นต้องอยากตายแน่ เขาอาจจะมีรูปทั้งหมดของเราในมือถือของเขาด้วยซ้ำนะ เขาจะเอามันกลับไปที่โรงแรมและช่วยตัวเองละมั้ง พระเจ้าช
หญิงสาวทั้งหลายตรึงเขาไว้กับพื้นทรายชายหาด“อย่าบังอาจมาทำให้ฉันขุ่นเคืองใจ ไอ้บ้านนอกวิตถาร! นายเสร็จแน่ถ้าโยเอลมาถึงนี่!” คริสตันเย้ยหยันหญิงสาวคนหนึ่งยื่นเสื้อคลุมอาบน้ำให้คริสตันใส่ปิดไว้“พวกเธอ! มีข่าวใหญ่บางอย่าง ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังรุมผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่นั่น!”“ห๊ะ? เกิดอะไรขึ้น?”“เห็นได้ชัดว่าชายโรคจิตคนหนึ่งกำลังจ้องมองไปที่สาว ๆ ในชุดบิกินีที่กำลังเล่นวอลเลย์บอล พวกเธอไม่พอใจที่เขาจ้องมอง และพวกเขาก็ต่อสู้!”“ไปดูกันเถอะ!”ผู้คนต่างก็พากันมาอีกด้านหนึ่งของชายหาดหลังจากที่ได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นดิกสัน แอมเบอร์และเอเลน่าก็ได้ยินเรื่องนี้ท่ามกลางการย่างบาร์บีคิวและรีบเดินไปทันที“เอเลน่าและแอมเบอร์ ไปดูกันเถอะ ฉันอยากจะเห็นว่าเป็นพี่ชายคนไหนที่ถูกทำร่วงลงจริง ๆ”ในตอนแรกเอเลน่าไม่อยากจะติดตามพวกเขาไป แต่ถึงยังไงซะเธอก็อยากจะจากไปอยู่แล้ว เพื่อจะดูว่าเจอรัลด์กลับไปที่โรงแรมหรือหยัง เธอจึงพยักหน้าและตามพวกเขาไปเมื่อพวกเขามาถึงอีกด้านหนึ่งของชายหาด หญิงสาวสองสามคนกำลังนั่งบนตัวชายหนุ่ม ตรึงเขาไว้ในขณะที่เขาดิ้นรน ดิกสัน แอมเบอร์ และเอเลน่าตกตะลึง“เจอรัลด์เหรอ?”
โยเอล โฮลเดน คือลูกชายของผู้ชายที่มั่งคั่งที่สุดในรัฐมณฑล เขายังเป็นผู้นำของหนุ่มสาวที่ร่ำรวยในย่านนี้ทั้งหมดด้วยไม่เพียงแค่เท่านั้น หญิงสาวมากมายก็ชอบเขา และต่างก็หวังว่าวันหนึ่งพวกเธอจะได้พบกับเขาอย่างสมบูรณ์แบบ โยเอลอาจจะตกหลุมรักความสวยของพวกเธอก็ได้ พวกเธอคิด แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความฝันเนื่องจากว่า โยเอล โฮลเดน ไม่ใช่ใครบางคนที่พวกเธอจะสามารถเข้าใกล้ได้ง่าย ๆ เรือสำราญส่งเสียงแตรดังเมื่อเทียบท่าเรือประตูห้องโดยสารถูกเปิดออก และโยเอลก็เดินลงมาพร้อมกับผู้หญิงขนาบซ้ายและขวาของเขา เขาไม่ได้หน้าตาดีเท่าไหร่ และก็ไม่ได้สูงเลย ยังค่อนข้างอ้วนด้วยซ้ำไป แต่สาวสวยทั้งหลายก็ยังเอาแต่ตะโกนว่า “เขาเร่าร้อนจริง!” แอมเวอร์คือคนที่เสียงดังที่สุดในฝั่งของพวกเขา หวังว่าจะดึงความสนใจของโยเอลได้ดิกสัน ในทางตรงกันข้าม กลับจ้องมองเขาด้วยความอิจฉา เขาอยากจะเป็นเขาแทบตายและหวังว่าเขาจะกลายมาเป็นแบบนั้นในสักวันหนึ่งแม้ว่าเขาจะไม่สามารถกลายมาเป็นเหมือนเขาได้ แต่ได้กลายมาเป็นแบบเอเดนก็ไม่แย่เท่าไหร่ กับการเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของโยเอล และผู้ชายส่วนใหญ่ก็คงจะปันความประสงค์ของดิกสันด้วยเช่นกั
“ดิกสัน เจอรัลด์ยอดเยี่ยมขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?” แอมเบอร์ตกตะลึง“ฉันเพิ่งได้ยินเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้เมื่อไม่นานมานี้ ว่าเขามีศักยภาพอย่างมาก มาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดู ครอบครัวของโฮลเดนสามารถกลายมาประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้ก็ต้องขอบคุณพี่สาวของเจอรัลด์!” ดิกสันกอดอกขณะที่อธิบายให้ทุกคนฟัง“ให้ตายสิ! มันหมายความว่าพวกเราจะได้เห็นว่าเจอรัลด์คนนี้คือใครใช่ไหม?” แอมเบอร์ตื่นเต้นอย่างแรงในเวลาเดียวกัน โยเอลมองไปที่เอเดน “เอเดน เจอรัลด์อยู่ไหนล่ะ?” เขาถาม โยเอลเคยเรียกเอเดนโดยชื่อเต็มของเขา แต่นับตั้งแต่ที่เขารู้ว่าเขาและเจอรัลด์คือเพื่อนที่ดีที่สุด ตอนนี้เขาจึงพูดกับเขาด้วยชื่อจริงของเขา อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะเอ่ยชื่อของเขาว่าอย่างไร ก็ยังคงมีช่องว่างใหญ่ระหว่างพวกเขาอยู่ดี“เขามาถึงนี่นานแล้วนะ แต่เขาอาจจะเพิ่งออกไป!” เอเดนกำลังมองไปรอบ ๆ เพื่อหาเจอรัลด์“โยเอล พวกเราควรไปตามหาเขาที่โรงแรมไหม? เราไม่ควรปล่อยให้เขารอเพราะเขาเป็นถึงแขกคนสำคัญเช่นนี้” คริสตัลตอบขณะที่เธอสะกิดแขนของโยเอลคริสตัลหน้าแดงไปหมดแล้ว ตอนแรก เธอคิดว่าโยเอลคือทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ามีคนอื่นที่ยั
“ว่าไงนะ? เขาคือคุณคลอฟอร์ดงั้นหรือ?!”เมื่อได้ยินคำพูดของเอเดน ฝูงชนก็มองไปยังทิศทางของพวกเขาด้วยความตกตะลึงดวงตาของดิกสันเบิกกว้างขึ้นด้วยความไม่เชื่อขณะที่กรามของแอมเบอร์อ้าค้างลง“เฮ้เพื่อน คุณคือน้องชายอุปถัมภ์ของผม เจอรัลด์ คลอฟอร์ดใช่ไหม?” โยเอลถามอย่างร้อนใจ เขาไม่เคยคิดว่าเจอรัลด์จะปรากฏตัวเช่นนี้“ใช่ ผมเอง!” เจอรัลด์ตอบขณะที่พยายามจะลุกขึ้น เขาเปล่งเสียงไม่พอใจและหายใจ ร่างกายของเขารู้สึกชาจากการทนรับน้ำหนักของสาวสวยสองสามคนนั้นที่นั่งอยู่บนตัวเขา“ใครก็ได้ ช่วยให้ผมลุกขึ้นหน่อย!”“ตายจริง! คุณคลอฟอร์ดค่ะ คุณคลอฟอร์ด!”หญิงสาวเหล่านั้นที่กำลังยืนอยู่ใกล้กับเจอรัลด์มากที่สุดต่างก็ตกตะลึง เสียงกรี๊ดร้องของพวกเธอดังมากจนกลบเสียงของเจอรัลด์ เอเลน่ารู้สึกกลัวและแทบช็อกกับสิ่งที่เธอได้เห็น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอยังคงรีบเข้าไปช่วยเจอรัลด์ให้ลุกขึ้นยืนครั้งที่แล้ว เอเลน่าได้ทำให้คุณคลอฟอร์ดขุ่นเคืองใจ แต่คุณคลอฟอร์ดก็ไม่ได้รุนแรงกับเธอมากเกินไปก็เพราะพ่อของเธอแต่อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ดูเหมือนจะร้ายแรงมาก เอเลน่าไม่แน่ใจว่าคุณคลอฟอร์ดจะโกรธกับเรื่องนี้แค่ไหน เธอยื
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ