“แล้ว… แล้วเจอรัลด์คนนั้นล่ะ? ในเมื่อเธอตัดสินใจเลือกนายน้อยเลดเลอร์เป็นรักแท้ของเธอแล้ว ทำไมวันนี้เธอถึงเชิญเจอรัลด์มาที่นี่อีกล่ะ?” ซาเวอรี่ถาม ขณะที่เธอยิ้มซีเรียลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะตอบว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ฉันแค่รู้สึกสงสัยในตัวเจอรัลด์มาก ไม่ใช่เพียงเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้เท่านั้น ฉันยังอยากจะเจอเขาอีกครั้ง เพื่อที่ฉันจะได้รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ อันที่จริง ในตอนแรกฉันเคยคิดที่จะจับคู่เธอกับเขาด้วยซ้ำ ฮ่าฮ่าฮ่า! แต่พอมาคิดดูแล้ว ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ได้มาจากสังคมเดียวกันกับเราอยู่ดี ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจเชิญทั้งสองคนมาที่นี่ เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำให้ฉันในวันนี้!” ซีเรียลพูดขณะที่เธอหายใจเข้าลึกและยิ้มออกมา“เธอนี่มันแย่มากเลยนะ! ฮึ่ม! ซีเรียล เธอกำลังคิดที่จะผลักผู้ชายที่เธอคิดว่าไม่ได้มาตรฐานมาให้ฉัน เหมือนเธอกำลังทิ้งขยะอย่างนั้นเหรอ?! ฉันไม่ต้องการมัน! ชิ!"ซาเวอรี่เริ่มปะทะคารมกับซีเรียลขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่ ซาเวอรี่ก็ชี้ไปข้างหน้า“ซีเรียล ดูสิ! เจอรัลด์อยู่ที่นี่แล้ว!” ซาเวอรี่ตะโกนจากนั้นซีเรียลก็
“นายน้อยเลดเลอร์หล่อเหลือเกิน…! ฉันคงจะมีความสุขมากถ้าได้เป็นแฟนกับเขาสักวัน…!” หญิงสาวคนหนึ่งในฝูงชนคร่ำครวญ จากนั้นสเต็ดสันก็พูดว่า “ผมเชื่อว่าคงจะมีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผมทิ้งซีเรียลไปก่อนหน้านี้… ผมไม่คิดว่าคุณจะประสบกับอันตรายแบบนั้น แผนที่ผมคิดไว้ก็คือผมจะล่อวัวกระทิงปีศาจออกไปจากที่เกิดเหตุเพื่อช่วยชีวิตทุกคน!” "…ฉันคิดอยู่แล้วเชียว!" ซีเรียลตอบ ‘นั่นน่ะสิ… ทำไมฉันถึงมองเขาแบบนั้น? ฉันยังไม่ถูกผลักตกจากแท่นสูงนั้นด้วยซ้ำ ตอนที่สเต็ดสันหายไปจากที่นั่น… ไม่มีทางที่เขาจะรู้เกี่ยวกับอันตรายที่ฉันจะต้องเผชิญในเวลาต่อมา…’ ซีเรียลคิดกับตัวเอง เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมากหลังจากได้ยินคำอธิบายจากสเต็ดสัน ด้วยเหตุนี้ งานปาร์ตี้วันเกิดในช่วงกลางคืนจึงดำเนินต่อไป เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ถูกเพิกเฉยเหมือนเคย... ไม่นานหลังจากนั้น ชายวัยกลางคนก็เดินเข้ามาในงาน… เมื่อมองไปที่ซีเรียลและนายน้อยเลดเลอร์จากระยะไกล เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างพึงพอใจ ในขณะนั้น คุณบาเบลเดินไปทางด้านหลังของชายวัยกลางคน สายตาของเขาดูเต็มไปด้วยความเกรงขามที่มีต่อชายคนนั้น ในขณะที่เขากระซิบว่า “ท่านอาจารย์…!
เมื่อเจอรัลด์ลุกขึ้นยืนเพื่อดูยาคอฟ เขาก็พบว่าทุกคนกำลังมองไปที่สเต็ดสัน ซึ่งยืนขึ้นอย่างน่าประหลาดใจเช่นกัน ในขณะที่เขาพูดว่า “อา คุณแวดดี้! พ่อของผมฝากแสดงความนับถือด้วยนะครับ!” ยาคอฟเองก็เดินไปหาสเต็ดสันด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม เขาไม่ได้ให้ความสนใจคนอื่นที่อยู่ในงานเลยแม้แต่น้อย จากนั้นเขาก็ตบไหล่สเต็ดสันและพูดว่า “เธอโตขึ้นมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สเต็ดสัน! ฉันหวังว่าเธอจะแสดงความสามารถพิเศษของเธอให้ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคนอีกครั้งในเทศกาลใต้ดินปีนี้!” หลังจากพูดคุยทักทายกับสเต็ดสันสักพัก เหล่าชายหนุ่มที่อยู่ในฝูงชนก็เข้ามาแนะนำตัวเองเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ายาคอฟไม่ได้กระตือรือร้นที่จะทำความรู้จักกับพวกเขามากนัก เนื่องจากไม่มีใครสำคัญเท่ากับสเต็ดสันในสายตาของเขา สำหรับซีเรียล หลังจากที่เธอตระหนักได้ว่าเจอรัลด์ไม่ได้คิดที่จะแนะนำตัวเองเหมือนผู้ชายคนอื่น เธอก็รู้สึกสมเพชเขาขึ้นมาทันที ท้ายที่สุด ผู้ชายคนอื่นนั้นโดดเด่นกว่ามากเมื่อเทียบกับเจอรัลด์ ในขณะที่ซีเรียลมั่นใจแล้วว่าเขาสามารถแบ่งปันโลกของตัวเองกับกลุ่มเพื่อนของเขาได้เป็นอย่างดี แต่แท้จริงแล้ว เขาไม่ได้อยู่ในโลกเด
แม้จะไม่มีใครรู้ความจริงว่าเหตุใดอาจารย์แวดดี้จึงเรียกเจอรัลด์เข้าพบเป็นการส่วนตัว แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เห็นได้ชัดว่า เขาไม่ชอบเจอรัลด์เป็นอย่างมาก ถึงกระนั้น การได้รับรู้เรื่องนั้นก็ทำให้หลายคนรู้สึกโล่งใจ เพราะดูเหมือนสิ่งต่าง ๆ จะเป็นไปตามที่พวกเขาคาดหมายไว้ ในขณะที่ยาคอฟ ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มักจะเคร่งขรึม และจริงจังทุกครั้งที่ต้องจัดการกับเรื่องสำคัญเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัว แต่เขาก็มีข้อบกพร่องที่ทราบกันดีอยู่ประการหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีที่เขาปฏิบัติต่อลูกหลานของเขาเอง เพื่ออนาคตของลูก เขาจะยอมให้พวกเขาแต่งงานกับคนที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะทางสังคมเท่าเทียมกันเท่านั้น จากที่กล่าวมา สำหรับเขาแล้ว มีเพียงบุคคลที่โดดเด่นอย่างสเต็ดสันเท่านั้นที่คู่ควรกับลูกสาวของเขา อย่างน้อยก็ในตอนนี้ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายกับการกำจัดคู่ครองที่ไม่เหมาะสม ซึ่งพยายามจะตามจีบลูกสาวของเขาด้วย หลังจากที่เจอรัลด์ถูกพาไปที่ทะเลสาบ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนหลังบ้าน ยาคอฟก็หันมาพูดกับเขาทันทีว่า “เงื่อนไขของเธอเป็นอย่างไร?” "เงื่อนไข?" เจอรัลด์ถาม ในขณะที
แม้ว่าทุกอย่างจะไม่ราบรื่นอย่างที่เขาคิดไว้แต่แรก แต่เจอรัลด์ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลมากนักสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในตอนนี้คือ เจอรัลด์จะต้องต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรคเพื่อหาทางเข้างานเทศกาลให้ได้ แม้จะคิดเช่นนั้น แต่เจอรัลด์ก็ยังมีความมั่นใจเล็กน้อยว่าในที่สุดแล้วทุกอย่างก็จะเป็นไปอย่างราบรึ่น ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับแผนการต่อไป เจอรัลด์ซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะหลัง โดยหลับตาอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาก่อนจะสั่งว่า “…เพอร์ลา หยุดรถก่อน!” "…ฮะ? มีอะไรเหรอคะอาจารย์?” เพอร์ลาถามอย่างตกตะลึง เจอรัลด์มองสำรวจรอบตัวเขาอยู่ชั่วขณะ จากนั้นจึงตอบว่า “…เรากำลังถูกใครบางคนสะกดรอยตาม… และดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ห่างจากเราไม่มากนัก!” "อะไรกัน? เป็นไปได้ไหมว่ายาคอฟอาจจะส่งคนมาฆ่าเรา? ไอ้สารเลว!” เพอร์ลาคำราม "ฉันก็สงสัยอยู่เหมือนกัน เพราะคนที่ตามเรามานั้นมีรัศมีพลังที่แข็งแกร่งมาก ฉันได้เฝ้าสังเกตการณ์พวกคนพิเศษที่ฉันเจอที่คฤหาสน์แวดดี้ก่อนหน้านี้แล้ว และเท่าที่ฉันสามารถบอกได้ ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มีใครพิเศษพอที่จะมีรัศมีพลังที่รุนแรงเท่าคนคนนี้” เจอรัลด์อธิบายโดยยังคงจดจ่ออยู่กับสภาพแวดล้อมรอบกายเขา “ง
“ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่านายเป็นใครกันแน่?” เจอรัลด์ถาม ในขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นและหรี่ตาไปที่ชายผู้กำลังแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายให้เขา จากสิ่งที่เขาสัมผัสได้ ฝีมือในการฝึกฝนวิชาของบุคคลลึกลับผู้นี้มีพลังมากกว่าของจูเลียนมาก เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่อยากจะรู้จักชายชราคนนี้ให้มากขึ้น บอกตามตรงว่าตั้งแต่เจอรัลด์ออกจากคฤหาสน์ตระกูลแวดดี้ เขาก็สัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของบุคคลที่ฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางวิญญาณ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่นั่นมีคนเป็นจำนวนมากที่ต้องการมาเข้าร่วมงานเทศกาลใต้ดิน และดูเหมือนคนเหล่านั้นจะไม่สนใจที่จะเปิดเผยตัวตนในเวลานั้น เจอรัลด์จึงเลิกสนใจพวกเขาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อชายชราปลดปล่อยพลังลมปราณที่จำเป็นออกมาก่อนหน้านี้ เจอรัลด์ก็รู้สึกได้ว่าชายชราต้องการให้เขาตามมา ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์ซึ่งต้องการจะค้นหาคำตอบว่าชายผู้นั้นต้องการอะไรจากเขากันแน่ เขาจึงตัดสินใจตามชายชรามาที่นี่ และนั่นก็คือที่มาของสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ถึงกระนั้นก็ตาม ชายชรากลับเพิกเฉยต่อคำถามของเจอรัลด์ เขาหัวเราะเสียงดังก่อนจะพูดว่า “วันนี้ฉันไม่นึกเลยว่าจะได้เจอค
เสียงหัวเราะสั่นสะท้านไปทั่วบริเวณอยู่พักหนึ่ง และเมื่อคาร์ลอสหยุดหัวเราะ เขาก็วางมือทั้งสองข้างไว้ที่เอวด้วยความพึงพอใจ ราวกับว่าเขาพร้อมที่จะเขมือบอาหารของเขาอย่างเต็มที่... อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาหันไปมองเจอรัลด์อีกครั้ง เขาก็ถึงกับตกตะลึงทันที ในตอนแรก เขาสันนิษฐานว่าเจอรัลด์คงจะไม่สามารถต้านทานพลังอันยิ่งใหญ่ของเสียงหัวเราะของเขาได้ เนื่องจากมันสามารถเอาชนะเสียงทุกเสียงที่ดังอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย และเมื่อมาถึงจุดนี้ เจอรัลด์ก็ควรจะเสียสติไปแล้วด้วยซ้ำ ถึงกระนั้น ไม่เพียงแต่เจอรัลด์จะดูสบายดีเท่านั้น แต่เขายังล้วงมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋ากางเกงของเขาขณะที่เขาจ้องกลับไปที่คาร์ลอสโดยไม่สะทกสะท้านอะไรเลย! “…นี่มัน…เป็นไปได้ยังไงเนี่ย…?!” ชายชราพึมพำกับตัวเองด้วยความไม่เชื่ออย่างที่สุด เจอรัลด์มองดูชายชราอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาจึงถือโอกาสถาม “เอาอย่างนี้ ท่านอาจารย์ซีนส์ โปรดหยุดหัวเราะก่อน… ฉันแค่มีอะไรอยากจะถาม” และเป็นอีกครั้งที่คาร์ลอสตัดบทเจอรัลด์ด้วยการหัวเราะเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และคราวนี้มันรุนแรงกว่าครั้งที่แล้วหลายเท่า! “นายเป็นโรคจิตหรือยังไง?
'ฉันใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัดมาโดยตลอด...! จากที่กล่าวมา ไม่มีทางที่ฉันจะพ่ายแพ้ให้กับชายหนุ่มที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและไม่มีประสบการณ์คนนี้! มันเป็นไปไม่ได้เลย!' คาร์ลอสคิดกับตัวเอง สีหน้าของเขาดูน่ากลัวอย่างยิ่งขณะที่เขายื่นมือออกไป! เมื่อเล็บยาวสีดำห้าเล็บยื่นออกมาจากฝ่ามือของเขา คาร์ลอสก็คำรามว่า “ไปลงนรกซะ!” “นายทำให้ฉันเบื่อ” เจอรัลด์ตอบ ในขณะที่เขามองไปที่การโจมตีของคาร์ลอสก่อนจะส่ายหัว จากนั้นรอยยิ้มอันบิดเบี้ยวก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา ก่อนที่การโจมตีของคาร์ลอสจะสร้างความเสียหาย เขาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเจอรัลด์สะบัดนิ้วมาทางเขาเบา ๆ… และส่งลำแสงพุ่งเข้าหาเขา! คาร์ลอสไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทัน แสงสีทองพุ่งตรงเข้ามาในความมืดที่ปกคลุมรอบกายเขา ลำแสงนั้นปะทะกับการโจมตีของคาร์ลอสอย่างจัง พร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังตามมาในทันที! สิ่งต่อมาที่ชายชรารู้ เขากำลังลอยกระเด็นถอยหลังเหมือนว่าวที่ยับยู่ยี่ เสื้อผ้าที่ปกคลุมบริเวณหน้าอกถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และเลือดก็ไหลทะลักออกจากปากของเขาเป็นจำนวนมาก คาร์ลอสมองเจอรัลด์ด้วยความไม่อยากเชื่อ ในขณะที่เขากำลังทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปว
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ