“แล้ว… แล้วเจอรัลด์คนนั้นล่ะ? ในเมื่อเธอตัดสินใจเลือกนายน้อยเลดเลอร์เป็นรักแท้ของเธอแล้ว ทำไมวันนี้เธอถึงเชิญเจอรัลด์มาที่นี่อีกล่ะ?” ซาเวอรี่ถาม ขณะที่เธอยิ้มซีเรียลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะตอบว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ฉันแค่รู้สึกสงสัยในตัวเจอรัลด์มาก ไม่ใช่เพียงเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้เท่านั้น ฉันยังอยากจะเจอเขาอีกครั้ง เพื่อที่ฉันจะได้รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ อันที่จริง ในตอนแรกฉันเคยคิดที่จะจับคู่เธอกับเขาด้วยซ้ำ ฮ่าฮ่าฮ่า! แต่พอมาคิดดูแล้ว ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ได้มาจากสังคมเดียวกันกับเราอยู่ดี ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจเชิญทั้งสองคนมาที่นี่ เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำให้ฉันในวันนี้!” ซีเรียลพูดขณะที่เธอหายใจเข้าลึกและยิ้มออกมา“เธอนี่มันแย่มากเลยนะ! ฮึ่ม! ซีเรียล เธอกำลังคิดที่จะผลักผู้ชายที่เธอคิดว่าไม่ได้มาตรฐานมาให้ฉัน เหมือนเธอกำลังทิ้งขยะอย่างนั้นเหรอ?! ฉันไม่ต้องการมัน! ชิ!"ซาเวอรี่เริ่มปะทะคารมกับซีเรียลขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่ ซาเวอรี่ก็ชี้ไปข้างหน้า“ซีเรียล ดูสิ! เจอรัลด์อยู่ที่นี่แล้ว!” ซาเวอรี่ตะโกนจากนั้นซีเรียลก็
“นายน้อยเลดเลอร์หล่อเหลือเกิน…! ฉันคงจะมีความสุขมากถ้าได้เป็นแฟนกับเขาสักวัน…!” หญิงสาวคนหนึ่งในฝูงชนคร่ำครวญ จากนั้นสเต็ดสันก็พูดว่า “ผมเชื่อว่าคงจะมีคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผมทิ้งซีเรียลไปก่อนหน้านี้… ผมไม่คิดว่าคุณจะประสบกับอันตรายแบบนั้น แผนที่ผมคิดไว้ก็คือผมจะล่อวัวกระทิงปีศาจออกไปจากที่เกิดเหตุเพื่อช่วยชีวิตทุกคน!” "…ฉันคิดอยู่แล้วเชียว!" ซีเรียลตอบ ‘นั่นน่ะสิ… ทำไมฉันถึงมองเขาแบบนั้น? ฉันยังไม่ถูกผลักตกจากแท่นสูงนั้นด้วยซ้ำ ตอนที่สเต็ดสันหายไปจากที่นั่น… ไม่มีทางที่เขาจะรู้เกี่ยวกับอันตรายที่ฉันจะต้องเผชิญในเวลาต่อมา…’ ซีเรียลคิดกับตัวเอง เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมากหลังจากได้ยินคำอธิบายจากสเต็ดสัน ด้วยเหตุนี้ งานปาร์ตี้วันเกิดในช่วงกลางคืนจึงดำเนินต่อไป เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ถูกเพิกเฉยเหมือนเคย... ไม่นานหลังจากนั้น ชายวัยกลางคนก็เดินเข้ามาในงาน… เมื่อมองไปที่ซีเรียลและนายน้อยเลดเลอร์จากระยะไกล เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างพึงพอใจ ในขณะนั้น คุณบาเบลเดินไปทางด้านหลังของชายวัยกลางคน สายตาของเขาดูเต็มไปด้วยความเกรงขามที่มีต่อชายคนนั้น ในขณะที่เขากระซิบว่า “ท่านอาจารย์…!
เมื่อเจอรัลด์ลุกขึ้นยืนเพื่อดูยาคอฟ เขาก็พบว่าทุกคนกำลังมองไปที่สเต็ดสัน ซึ่งยืนขึ้นอย่างน่าประหลาดใจเช่นกัน ในขณะที่เขาพูดว่า “อา คุณแวดดี้! พ่อของผมฝากแสดงความนับถือด้วยนะครับ!” ยาคอฟเองก็เดินไปหาสเต็ดสันด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม เขาไม่ได้ให้ความสนใจคนอื่นที่อยู่ในงานเลยแม้แต่น้อย จากนั้นเขาก็ตบไหล่สเต็ดสันและพูดว่า “เธอโตขึ้นมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สเต็ดสัน! ฉันหวังว่าเธอจะแสดงความสามารถพิเศษของเธอให้ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคนอีกครั้งในเทศกาลใต้ดินปีนี้!” หลังจากพูดคุยทักทายกับสเต็ดสันสักพัก เหล่าชายหนุ่มที่อยู่ในฝูงชนก็เข้ามาแนะนำตัวเองเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ายาคอฟไม่ได้กระตือรือร้นที่จะทำความรู้จักกับพวกเขามากนัก เนื่องจากไม่มีใครสำคัญเท่ากับสเต็ดสันในสายตาของเขา สำหรับซีเรียล หลังจากที่เธอตระหนักได้ว่าเจอรัลด์ไม่ได้คิดที่จะแนะนำตัวเองเหมือนผู้ชายคนอื่น เธอก็รู้สึกสมเพชเขาขึ้นมาทันที ท้ายที่สุด ผู้ชายคนอื่นนั้นโดดเด่นกว่ามากเมื่อเทียบกับเจอรัลด์ ในขณะที่ซีเรียลมั่นใจแล้วว่าเขาสามารถแบ่งปันโลกของตัวเองกับกลุ่มเพื่อนของเขาได้เป็นอย่างดี แต่แท้จริงแล้ว เขาไม่ได้อยู่ในโลกเด
แม้จะไม่มีใครรู้ความจริงว่าเหตุใดอาจารย์แวดดี้จึงเรียกเจอรัลด์เข้าพบเป็นการส่วนตัว แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เห็นได้ชัดว่า เขาไม่ชอบเจอรัลด์เป็นอย่างมาก ถึงกระนั้น การได้รับรู้เรื่องนั้นก็ทำให้หลายคนรู้สึกโล่งใจ เพราะดูเหมือนสิ่งต่าง ๆ จะเป็นไปตามที่พวกเขาคาดหมายไว้ ในขณะที่ยาคอฟ ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มักจะเคร่งขรึม และจริงจังทุกครั้งที่ต้องจัดการกับเรื่องสำคัญเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัว แต่เขาก็มีข้อบกพร่องที่ทราบกันดีอยู่ประการหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีที่เขาปฏิบัติต่อลูกหลานของเขาเอง เพื่ออนาคตของลูก เขาจะยอมให้พวกเขาแต่งงานกับคนที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะทางสังคมเท่าเทียมกันเท่านั้น จากที่กล่าวมา สำหรับเขาแล้ว มีเพียงบุคคลที่โดดเด่นอย่างสเต็ดสันเท่านั้นที่คู่ควรกับลูกสาวของเขา อย่างน้อยก็ในตอนนี้ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายกับการกำจัดคู่ครองที่ไม่เหมาะสม ซึ่งพยายามจะตามจีบลูกสาวของเขาด้วย หลังจากที่เจอรัลด์ถูกพาไปที่ทะเลสาบ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนหลังบ้าน ยาคอฟก็หันมาพูดกับเขาทันทีว่า “เงื่อนไขของเธอเป็นอย่างไร?” "เงื่อนไข?" เจอรัลด์ถาม ในขณะที
แม้ว่าทุกอย่างจะไม่ราบรื่นอย่างที่เขาคิดไว้แต่แรก แต่เจอรัลด์ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลมากนักสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในตอนนี้คือ เจอรัลด์จะต้องต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรคเพื่อหาทางเข้างานเทศกาลให้ได้ แม้จะคิดเช่นนั้น แต่เจอรัลด์ก็ยังมีความมั่นใจเล็กน้อยว่าในที่สุดแล้วทุกอย่างก็จะเป็นไปอย่างราบรึ่น ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับแผนการต่อไป เจอรัลด์ซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะหลัง โดยหลับตาอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาก่อนจะสั่งว่า “…เพอร์ลา หยุดรถก่อน!” "…ฮะ? มีอะไรเหรอคะอาจารย์?” เพอร์ลาถามอย่างตกตะลึง เจอรัลด์มองสำรวจรอบตัวเขาอยู่ชั่วขณะ จากนั้นจึงตอบว่า “…เรากำลังถูกใครบางคนสะกดรอยตาม… และดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ห่างจากเราไม่มากนัก!” "อะไรกัน? เป็นไปได้ไหมว่ายาคอฟอาจจะส่งคนมาฆ่าเรา? ไอ้สารเลว!” เพอร์ลาคำราม "ฉันก็สงสัยอยู่เหมือนกัน เพราะคนที่ตามเรามานั้นมีรัศมีพลังที่แข็งแกร่งมาก ฉันได้เฝ้าสังเกตการณ์พวกคนพิเศษที่ฉันเจอที่คฤหาสน์แวดดี้ก่อนหน้านี้แล้ว และเท่าที่ฉันสามารถบอกได้ ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าไม่มีใครพิเศษพอที่จะมีรัศมีพลังที่รุนแรงเท่าคนคนนี้” เจอรัลด์อธิบายโดยยังคงจดจ่ออยู่กับสภาพแวดล้อมรอบกายเขา “ง
“ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่านายเป็นใครกันแน่?” เจอรัลด์ถาม ในขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นและหรี่ตาไปที่ชายผู้กำลังแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายให้เขา จากสิ่งที่เขาสัมผัสได้ ฝีมือในการฝึกฝนวิชาของบุคคลลึกลับผู้นี้มีพลังมากกว่าของจูเลียนมาก เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว เจอรัลด์ก็อดไม่ได้ที่อยากจะรู้จักชายชราคนนี้ให้มากขึ้น บอกตามตรงว่าตั้งแต่เจอรัลด์ออกจากคฤหาสน์ตระกูลแวดดี้ เขาก็สัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของบุคคลที่ฝึกฝนเพื่อบรรลุการตรัสรู้ทางวิญญาณ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่นั่นมีคนเป็นจำนวนมากที่ต้องการมาเข้าร่วมงานเทศกาลใต้ดิน และดูเหมือนคนเหล่านั้นจะไม่สนใจที่จะเปิดเผยตัวตนในเวลานั้น เจอรัลด์จึงเลิกสนใจพวกเขาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อชายชราปลดปล่อยพลังลมปราณที่จำเป็นออกมาก่อนหน้านี้ เจอรัลด์ก็รู้สึกได้ว่าชายชราต้องการให้เขาตามมา ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์ซึ่งต้องการจะค้นหาคำตอบว่าชายผู้นั้นต้องการอะไรจากเขากันแน่ เขาจึงตัดสินใจตามชายชรามาที่นี่ และนั่นก็คือที่มาของสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ถึงกระนั้นก็ตาม ชายชรากลับเพิกเฉยต่อคำถามของเจอรัลด์ เขาหัวเราะเสียงดังก่อนจะพูดว่า “วันนี้ฉันไม่นึกเลยว่าจะได้เจอค
เสียงหัวเราะสั่นสะท้านไปทั่วบริเวณอยู่พักหนึ่ง และเมื่อคาร์ลอสหยุดหัวเราะ เขาก็วางมือทั้งสองข้างไว้ที่เอวด้วยความพึงพอใจ ราวกับว่าเขาพร้อมที่จะเขมือบอาหารของเขาอย่างเต็มที่... อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาหันไปมองเจอรัลด์อีกครั้ง เขาก็ถึงกับตกตะลึงทันที ในตอนแรก เขาสันนิษฐานว่าเจอรัลด์คงจะไม่สามารถต้านทานพลังอันยิ่งใหญ่ของเสียงหัวเราะของเขาได้ เนื่องจากมันสามารถเอาชนะเสียงทุกเสียงที่ดังอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย และเมื่อมาถึงจุดนี้ เจอรัลด์ก็ควรจะเสียสติไปแล้วด้วยซ้ำ ถึงกระนั้น ไม่เพียงแต่เจอรัลด์จะดูสบายดีเท่านั้น แต่เขายังล้วงมือทั้งสองข้างไว้ในกระเป๋ากางเกงของเขาขณะที่เขาจ้องกลับไปที่คาร์ลอสโดยไม่สะทกสะท้านอะไรเลย! “…นี่มัน…เป็นไปได้ยังไงเนี่ย…?!” ชายชราพึมพำกับตัวเองด้วยความไม่เชื่ออย่างที่สุด เจอรัลด์มองดูชายชราอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาจึงถือโอกาสถาม “เอาอย่างนี้ ท่านอาจารย์ซีนส์ โปรดหยุดหัวเราะก่อน… ฉันแค่มีอะไรอยากจะถาม” และเป็นอีกครั้งที่คาร์ลอสตัดบทเจอรัลด์ด้วยการหัวเราะเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และคราวนี้มันรุนแรงกว่าครั้งที่แล้วหลายเท่า! “นายเป็นโรคจิตหรือยังไง?
'ฉันใช้ชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัดมาโดยตลอด...! จากที่กล่าวมา ไม่มีทางที่ฉันจะพ่ายแพ้ให้กับชายหนุ่มที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและไม่มีประสบการณ์คนนี้! มันเป็นไปไม่ได้เลย!' คาร์ลอสคิดกับตัวเอง สีหน้าของเขาดูน่ากลัวอย่างยิ่งขณะที่เขายื่นมือออกไป! เมื่อเล็บยาวสีดำห้าเล็บยื่นออกมาจากฝ่ามือของเขา คาร์ลอสก็คำรามว่า “ไปลงนรกซะ!” “นายทำให้ฉันเบื่อ” เจอรัลด์ตอบ ในขณะที่เขามองไปที่การโจมตีของคาร์ลอสก่อนจะส่ายหัว จากนั้นรอยยิ้มอันบิดเบี้ยวก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา ก่อนที่การโจมตีของคาร์ลอสจะสร้างความเสียหาย เขาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเจอรัลด์สะบัดนิ้วมาทางเขาเบา ๆ… และส่งลำแสงพุ่งเข้าหาเขา! คาร์ลอสไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทัน แสงสีทองพุ่งตรงเข้ามาในความมืดที่ปกคลุมรอบกายเขา ลำแสงนั้นปะทะกับการโจมตีของคาร์ลอสอย่างจัง พร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังตามมาในทันที! สิ่งต่อมาที่ชายชรารู้ เขากำลังลอยกระเด็นถอยหลังเหมือนว่าวที่ยับยู่ยี่ เสื้อผ้าที่ปกคลุมบริเวณหน้าอกถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และเลือดก็ไหลทะลักออกจากปากของเขาเป็นจำนวนมาก คาร์ลอสมองเจอรัลด์ด้วยความไม่อยากเชื่อ ในขณะที่เขากำลังทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปว