"…อะไรนะ? มีคนอื่นคอยเฝ้าสังเกตการณ์ผมอยู่ตลอดเวลางั้นเหรอ…?!” เจอรัลด์ตอบอย่างหวาดกลัว ปรากฏว่าชีวิตในมหาวิทยาลัยของเขาไม่ได้สงบสุขอย่างที่เขาเคยจดจำ มันกลับตรงกันข้ามเสียด้วยซ้ำ! เมื่อได้รู้ว่ามีใครบางคนคอยติดตามเขาอยู่ตลอดเวลา! และไม่เพียงแค่นั้น เขาเพิ่งจะรู้อีกว่าคนอย่างปีเตอร์ก็คอยจับตาดูผู้สังเกตการณ์ของเขาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน! ความจริงแล้ว เจอรัลด์รู้สึกว่าปีเตอร์เป็นคนที่ค่อนข้างแปลก ตั้งแต่วินาทีที่เขาฟื้นขึ้นมาหลังจากที่ปีเตอร์ได้ช่วยเขาเอาไว้ตอนนั้น ท้ายที่สุด ปีเตอร์กลับรู้จักเขาดีกว่าใคร ๆ และแน่นอนว่ามันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ปีเตอร์จะมาช่วยเขาเอาไว้ในคืนนั้น หลังจากที่เริ่มเข้ากันได้ดีกับปีเตอร์ เจอรัลด์ก็รู้สึกว่าชายผู้นี้ดูเหมือนจะเข้าใจอารมณ์และคุณลักษณะของเขาได้เป็นอย่างดี แม้ว่าบางครั้งเจอรัลด์อยากจะถามปีเตอร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ทุกครั้งที่เขาเริ่มเปิดบทสนทนาไปในทิศทางนั้น ปีเตอร์ก็มักจะแสดงอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการที่จะพูดถึงเรื่องนี้ หลังจากนั้น สิ่งต่าง ๆ ก็เริ่มยุ่งเหยิง และเจอรัลด์ก็ไม่มีโอกาสคิดถึงเรื่องนี้อีกเลยจนกระทั่งตอนนี้ที่ปีเตอร์ได้หลุดป
เมื่อได้ยินคำถามของเจอรัลด์ ปีเตอร์ก็หลบสายตาของเขาอยู่ชั่วครู่ เขากระแอมในลำคอ จากนั้นเขาก็ตอบอย่างเขินอายว่า “…เรื่องนั้น… ฉันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปสู้กับเขา… สำหรับเบาะแสเกี่ยวกับเขา ฉันยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาด้วยซ้ำ… แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เราจะเจอกับเวส แน่นอน จากสิ่งที่เวสบอกเรา ตอนนี้เราสามารถสันนิษฐานได้ว่าผู้จัดการจากสำนักงานใหญ่จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เราได้รับเบาะแสต่อไป! นอกจากนี้แล้ว ฉันยังรู้สึกได้อีกว่าในเมื่อตอนนี้เขาเริ่มปรากฏตัวแล้ว เขาก็จะต้องปรากฏตัวอีกครั้งอย่างแน่นอน!” “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ฉันจะจับตัวนักสะกดรอยคนนั้นให้ได้ ถ้าเขาเป็นตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริง!” ในขณะนั้น เวสซึ่งกำลังตัวสั่นตลอดเวลาก็ล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงก่อนที่จะหมดสติไป เมื่อเห็นอย่างนั้น เจอรัลด์ก็พยุงชายที่กำลังหมดสติให้ลุกขึ้นทันทีก่อนจะพูดว่า “เขาแช่อยู่ในน้ำที่เย็นจัดนานเกินไป ผมคิดว่าตอนนี้อวัยวะภายในของเขาได้รับความเสียหายแล้ว! ผมจะต้องรีบช่วยเขาโดยเร็วที่สุดครับ คุณลุง!” ขณะที่เจอรัลด์เดินออกไปยังอีกห้องหนึ่งในคฤหาสน์ โดยมีเวสอยู่ในอ้อม
“…ผมเข้าใจแล้วครับ ไซล่า คุณลุง… ถึงกระนั้น ในเมื่อคุณบอกผมว่าแมคคิวชันสามารถช่วยฟื้นฟูฐานพลังเดเลอร์ของผมได้ แล้วผมจะเริ่มกระบวนการฟื้นฟูได้อย่างไร…? ในเมื่อพวกคุณพูดแบบนี้แล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะฟื้นฟูฐานพลังเดเลอร์ของผมอย่างเต็มที่ก่อนที่จะไปทำภารกิจอื่นๆต่อ!” “เมื่อพูดถึงเรื่องฐานพลังเดเลอร์ หลังจากที่ผมได้ทำการค้นคว้าข้อมูลมาบ้าง ผมก็ได้พบว่าแม้มันจะสั่นคลอนเพียงเล็กน้อย ก็ถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะฟื้นฟูให้มันกลับมาสู่สภาพเดิมได้… หากข้อมูลที่ผมได้อ่านมาเป็นความจริง มันก็จะสร้างปัญหาใหญ่ในเส้นทางการฝึกฝนของคน ๆ หนึ่งอย่างแน่นอน!” เจอรัลด์พูด เขารู้สึกได้ว่าโอกาสที่เขาจะฟื้นฟูฐานพลังเดเลอร์ให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมนั้นน้อยมาก แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งมหัศจรรย์อย่างแมคคูชั่นก็ตาม! จากข้อมูลที่เขาได้ค้นคว้ามา กระบวนการฟื้นฟูนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย! “แม้ว่าคุณจะต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมายอย่างปฏิเสธไม่ได้เพื่อฟื้นฟูฐานพลังเดเลอร์ของคุณ แต่จงรู้ไว้ว่าการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์นั้นไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย! แมคคิวชั่นถือเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวของคุณ และเพื่อให้คุณเริ่มต้นก
“คุณจะทำแบบนั้นก็ได้ แต่จำไว้ว่ากระบวนการในการใช้พลังจากจี้หยกเลือดมังกรเพื่อขัดเกลาแมคคิวชั่นต้องใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนเป็นอย่างต่ำ ด้วยเหตุนี้ โปรดกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่คุณทำภารกิจเสร็จแล้ว คุณลุงของคุณจะคอยช่วยฉันดูแลกระบวนการนี้เอง!” ไซล่ากล่าวหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “ไม่มีปัญหา คุณล็อคแลนด์ อย่างไรก็ตาม ผมยังมีข้อสงสัย… แม้ว่าเจอรัลด์จะสามารถย้อนกลับไปยังอดีตได้ เขาควรจะย้อนกลับไปในช่วงเวลาไหน? แล้วเขาจะอยู่ที่นั่นได้นานแค่ไหนกันครับ?” ปีเตอร์ถาม “นั่นเป็นคำถามที่ดี ท้ายที่สุด เจอรัลด์จำเป็นจะต้องกลับไปยังจุดที่เหมาะสมที่สุดชองช่วงเวลา ก่อนที่ฐานพลังเดเลอร์ของเขาจะถูกทำลาย จากนั้นเขาต้องเข้าพิธีรับศีลจุ่มจากสวรรค์ เพื่อให้พลังของเขาบรรลุผลสูงสุด ในความเป็นจริง เจอรัลด์เคยเข้ารับศีลจุ่มจากสวรรค์แล้ว แต่เขาได้รับมันช้าจนเกินไป… ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่สามารถเปิดฐานพลังเดเลอร์ของเขาได้ในระหว่างพิธีรับศีลจุ่ม เนื่องจากมันได้ถูกทำลายไปนานแล้ว!” “ทั้งนี้ทั้งนั้น หลังจากที่ฉันได้วิเคราะห์ภาวะปัจจุบันของเจอรัลด์ก่อนหน้านี้แล้ว ฉันคิดว่าเขาต้องย้อนเวลากลับไปอ
เจอรัลด์เดินทางมาถึงอาคารสำนักงานใหญ่ในเมืองเมย์เบอร์รี่ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ในขณะนั้น มีรองผู้จัดการทั่วไปสองคนของย่านเศรษฐกิจประจำการอยู่ที่นั่น แซคก็เป็นหนึ่งในนั้น และอีกคนคือวินสัน ไซโต้ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อประธานไซโต้ เจอรัลด์รู้ดีว่าชายทั้งสองภักดีต่อตระกูลคลอฟอร์ดมาโดยตลอด โดยเฉพาะแซค ถึงกระนั้น เนื่องจากปีเตอร์เคยกล่าวไว้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ทั้งคู่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในบางเรื่องเช่นกัน เจอรัลด์จึงคิดว่าเขาต้องสอบสวนทุกคนเป็นการส่วนตัว ไม่ช้าก็เร็ว “ต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่ทั้งประธานไซโต้ และประธานไลล์ไม่ได้อยู่ที่นี่คืนนี้! คุณจะต้องรอจนถึงเช้าหากคุณยังต้องการจะพบพวกเขา! อย่างไรก็ตาม โปรดรู้เอาไว้ด้วยว่าถึงแม้ว่าคุณจะต้องการพบกับพวกเขา แต่พวกเขาไม่ใช่คนที่คุณจะสามารถขอพบได้ง่าย ๆ เพียงเพราะคุณต้องการเท่านั้น!” พนักงานต้อนรับที่แผนกต้อนรับพูด ขณะที่เธอมองไปที่เจอรัลด์ แม้ว่าเธอจะดูสุภาพ แต่เธอก็ไม่สามารถปกปิดการดูถูกเหยียดหยามที่มีต่อเขาได้ เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน? เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาจะได้พบกับทั้งสองคนเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ใจเขาต้องการ? “โทรหาพวกเขาแล้
เมื่อหันไปมองว่าใครเรียกเขา เขาเห็นว่าเป็นเด็กสาวที่ค่อนข้างน่ารักซึ่งเขาไม่รู้จัก... “… ‘ผู้ชายคนนั้นเหรอ?’” เจอรัลด์ถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ "ใช่! เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมย์เบอร์รี่ใช่ไหม เธอรู้จักฮาร์เปอร์ไหม?” หญิงสาวถาม "รู้จักสิ! เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของฉัน ว่าแต่ว่า… เราสองคนเคยเจอกันมาก่อนด้วยเหรอ?” เจอรัลด์ตอบ เด็กสาวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็หัวเราะก่อนจะพูดว่า “ฉันคิดไม่ผิด! เป็นเธอจริง ๆ ด้วย! ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอดูคุ้นตามาก!” “เขาเป็นใครเหรอ เวสลิน…?” เด็กผู้หญิงอีกคนในกลุ่มถาม เด็กสาวแต่ละคนถือกระเป๋าถือของตัวเอง ขณะที่พวกเธอยืนกอดอก และเริ่มมองสำรวจเจอรัลด์ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น 'แม้ว่าเขาจะดูหล่อเหลาทีเดียว แต่ดูจากเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ตอนนี้แล้ว ก็พอจะบอกได้ว่าเขาคงไม่ได้เป็นคนที่ร่ำรวยสักเท่าไร!' สาว ๆ คิดกับตัวเอง “โอ้ เขาน่ะเหรอ? เขาเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องของเพื่อนที่บ้านเกิดของฉัน! ฉันจำเขาได้แม่นยำเพราะเขาเคยเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น! บ่อยครั้งฉันมักจะเห็นเขากำลังเก็บกวาดขยะในโรงเรียนของเรา หรือแม้แต
เจอรัลด์จ้องมองกลับมาที่เธอ จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปยังเวย์แฟร์เมาน์เทน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เขาทนกับผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้จริง ๆ ความจริงแล้ว เขาไม่ได้ไปที่นั่นเพื่อนอนหรือดูแลเรื่องที่พัก เขาแค่ไปที่นั่นเพราะเขารู้ว่าคนที่นั่นรู้ว่าเขาเป็นใคร หลังจากนั้นเขาก็สามารถบอกให้พวกเขาโทรหาแซคให้เขาได้ อย่างน้อยที่สุด เขาก็อยากให้แซครู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ โชคดีที่ครั้งนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น และเมื่อแซครู้ว่าเจอรัลด์คือคนที่อยู่ปลายสาย เขาก็อุทานทันทีด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพ นอบน้อม และตื่นเต้น “คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ คุณคลอฟอร์ด?! นี่เป็นข่าวดีจริง ๆ!" “ฉันไม่เป็นไร ฉันอยากฟังคำอธิบายของเธอเกี่ยวกับบางเรื่อง ดังนั้นฉันจะรอการกลับมาของเธอนะแซค” เจอรัลด์ตอบอย่างเป็นกันเอง “ได้ครับ คุณคลอฟอร์ด! ผมจะรีบกลับไปทันที เพื่อรายงานเรื่องนี้ให้คุณทราบเป็นการส่วนตัว!” แซคกล่าวโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ฟังจากสิ่งที่แซคพูด ดูเหมือนว่าข้อสันนิษฐานของปีเตอร์จะถูกต้องว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เจอรัลด์สามารถบอกได้ว่าแซคน่าจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น... เจอรัลด์บอกไ
ความจริงแล้ว เจอรัลด์รู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้าคนกลุ่มนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะเขาเองก็ไม่ได้สนิทสนมกับใครในนั้นเลยสักคน เลย์ลาเองก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เธอเริ่มหายใจไม่สะดวกขึ้นเรื่อย ๆ จนในวินาทีต่อมา ในที่สุดเธอก็ตะโกนออกมาว่า “…จ เจอรัลด์…?!” แม้ว่าเธอจะไม่ได้พบกับเขามาเป็นเวลานานมากแล้ว แต่เธอก็ได้ยินมาว่าตอนนี้เขาเป็นคนที่มีอำนาจมาก และด้วยความที่เขามีสถานะทางสังคมที่สูงส่งเช่นนี้ เธอจะกล้าอ้างได้อย่างไรว่าครั้งหนึ่งเธอเคยผูกพันกับเขา? ด้วยเหตุนี้ เด็กหญิงผู้น่าสงสารจึงตกตะลึงจนพูดไม่ออกตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอสังเกตเห็นว่าเจอรัลด์อยู่ที่นั่นด้วย ในขณะที่เลย์ลายังไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรอีกในตอนนี้ ในทางกลับกัน เวสลินก็ประหลาดและรู้สึกโกรธไปพร้อมกัน "โอ้พระเจ้า! ช่างน่าผิดหวังจริง! เวย์แฟร์เมาน์เทน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ยังคงเป็นบ้านพักตากอากาศบนภูเขาที่ดีที่สุดในเวสตันอยู่หรือเปล่า? พวกเขาไม่เพียงแต่จ้างสาวเสิร์ฟตาบอดมาทำงานเท่านั้น แต่ฉันเดาว่าตาสีตาสาที่ไหนก็คงจะเดินเข้ามาที่นี่ได้ตามที่ใจต้องการเลยสินะ! ฉันไม่ได้ตาบอดใช่ไหมเนี่ย?!” ที่นี่ควรจะเป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ