ดังที่ปีเตอร์ได้บอก คนกลุ่มนั้นกำลังเดินทางมาด้วยความเร็วสูง และเป็นความจริง ในไม่ช้าจัสมินก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว!หลังจากนั้นไม่นานนัก ผู้คนมากกว่าสิบคนก็เดินออกมาจากป่า และเมื่อคนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้ากลุ่มมองเห็นคนทั้งคู่ เขาก็รีบตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “เราเจอพวกเขาแล้ว! ล้อมพวกเขาเอาไว้เดี๋ยวนี้!”ก็สมควรแล้วที่เขาจะตื่นเต้น ถ้าทุกอย่างไปได้สวย พวกเขาจะได้รับการยกย่องที่ได้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่แน่นอน เพราะพวกเขาเป็นพวกแรกที่ตามหาจัสมินเจอ แม้แต่ดวงตาของชายทั้งสิบเอ็ดคนยังเป็นประกาย เมื่อคิดว่ารางวัลแห่งความสำเร็จของพวกเขาได้ยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว“ระ เราควรทำยังไงดีคะคุณลุง?! พวกมันทรงพลังมาก!” จัสมินพูดด้วยความวิตกกังวล เพราะเธออยู่กับควีนน่ามานาน เธอรู้ดีว่าคนของควีนน่าแข็งแกร่งแค่ไหน“ฮ่า ๆ! พวกมันทำอะไรเราไม่ได้หรอก ถ้าลุงหยุดพวกมันไว้ตรงที่ที่พวกมันอยู่ตอนนี้! ถอยออกมาเดี๋ยวนี้จัสมิน!” ปีเตอร์ตอบพร้อมกับเผยยิ้มออกมาจาง ๆ ขณะที่เขาเปิดกระเป๋าที่เขาพกติดตัวอยู่ตลอดเวลาออก แล้วหยิบคันธนูที่ดูราวกับว่าทำมาจากทองคำโบราณที่มีเนื้อสีดำ ลูกศรก็เช่นเดียวกันเมื่
“...ก็ในเมื่อท่านชายกับฉันกลับมาได้อย่างปลอดภัย แถมคุณยังได้เจอผู้ช่วยที่ดีแบบนี้ ไม่ดีเหรอที่เราจะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในคืนนี้...? ยิ่งไปกว่านั้น ฉันยังนับถือท่านชายผู้นี้เหมือนคนในครอบครัว ตั้งแต่เขาช่วยฉันออกมา!” จัสมินที่รู้ตัวว่าตัวเองเกือบจะพลั้งปากพูดออกไปเอ่ยขึ้นโชคดีที่สิ่งที่เธออธิบายจะได้ผลเพราะเจอรัลด์หัวเราะออกมาก่อนจะตอบรับ “อ๋อ เธอพูดไม่ผิดหรอก! เขาเองก็ช่วยชีวิตฉันเอาไว้เหมือนกัน เธอรู้ไหม! ตั้งแต่ฉันฟื้นขึ้นมา ฉันก็นับถือเขาเหมือนคนในครอบครัวเหมือนกัน! พูดได้ดีมาก! งั้นมากินเลี้ยงอาหารค่ำในคืนนี้กันเถอะ! ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปทำอาหาร ถ้าไม่มีใครว่าอะไรน่ะนะ!”“ฉันจะช่วยเอง!” โมนิก้ากับโรซี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างเงียบ ๆ โพล่งออกมาแทบจะพร้อมกัน เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเธอทั้งคู่จึงรู้สึกประหม่าเล็กน้อยโมนิกากระตือรือร้นอยากจะช่วยมาก เพราะเธอชื่นชมเจอรัลด์มาสักพักหนึ่งแล้ว เธอนับถือทั้งพลังที่แข็งแกร่งและนิสัยที่เข้มแข็ง และแน่นอนว่าหน้าตาอันหล่อเหลาของเขาก็มีส่วนด้วยเช่นกันส่วนโรซี่นั้น ถึงเธอจะรู้จักกับเจอรัลด์ได้ไม่นานนัก แต่เธอก็สนใจเขามาก เพราะเขาไม่เพียงเป็นทายาท
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เจอรัลด์ก็เปล่งแสงออกมาเช่นกัน สายตาแปลก ๆ ที่มองมาโดยไม่ปิดบังทำให้ปีเตอร์รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อยจี้หยกที่เจอรัลด์ถือเอาไว้ในตอนนี้ช่างวิเศษจริง ๆ... แม้แต่ปีเตอร์ยังไม่รู้ว่ามันมีพลังอำนาจที่น่ากลัวแค่ไหน... ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ว่าจี้หยกนี้เข้ากันได้ดีกับเจอรัลด์ขณะที่คนอื่นเฝ้าดูอยู่เงียบ ๆ ในไม่ช้าพวกเขารู้สึกว่าตัวเองเบิกตากว้างขึ้น ขณะที่แสงจากจี้หยกพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าภายใต้การนำทางของปราณฟ้าพิโรธของเจอรัลด์หลังจากลำแสงที่ปรากฏทะยานขึ้นไป นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นช้า ๆ ขณะที่กระแสลมกรรโชกแรงพัดพาฝุ่นผงปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ“พลังอะไรถึงได้ทรงพลังขนาดนี้...?” ลีโอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความกลัว ขณะที่เขาได้เห็นเหตุการณ์นี้ประจักษ์แก่สายตา เพียงชั่วเวลาสั้น ๆ แสงสว่างก็ค่อย ๆ ถอยร่นลงมาจากท้องฟ้า จนในที่สุดกลับมาที่สนาม เมื่อมาถึงตอนนี้เจอรัลด์ก็แทบจะหมดพลัง อีกทั้งในตอนนี้เขายังเหงื่อออกท่วมไปหมดเขาพยุงตัวเองลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นเขาจึงมองไปที่โรซี่ที่ยังคงนั่งสมาธิอยู่เงียบ ๆเมื่อเห็นดังนั้น เจอร
เมื่อมองดูขณะที่เธอเผยยิ้มจาง ๆ หลังจากที่พูดแบบนั้น เจอรัลด์จึงหยิบจี้ออกมาก่อนจะพูดขึ้น “คุณ... อยากอยู่ในจี้นี้เหรอ?”“ใช่ เพื่อให้ท่านหาข้าเจอจริง ๆ ข้ารู้สึกว่าต้องมีคนบอกให้ท่านนำศพของข้าไปฝังร่วมกับลีมิสใช่หรือไม่? จุดหมายของที่ฝังศพอยู่ในจี้หยกโลหิตมังกร ดูเอาเถิด มีพื้นที่บริสุทธ์และธรรมชาติเหมาะแก่ข้า เพื่อให้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมภายในจี้ หรือกล่าวอีกนัยคือ ข้าฝึกตนในที่แห่งนั้นได้!” ไซล่าอธิบาย“...ผมเข้าใจแล้ว! จะว่าไป ไซล่า คุณรู้ไหมว่าบุคคลลึกลับนั่นเป็นใคร...?”“ข้ารู้ว่าเขาเป็นใคร แม้ว่าข้าจะไม่มั่นใจเรื่องนี้มากนัก ส่วนเรื่องที่เจาะจงยิ่งกว่านั้น ท่านจงต้องรอจนกว่าจะได้พบกับลีมิส เมื่อท่านทั้งสองผสานเข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์แล้ว โดยพึ่งพลังจากจี้หยกโลหิตมังกร คงใช้เวลาไม่นานนักเพื่อฟื้นพลังสุดยอดของท่าน” ไซล่าตอบ“ฟื้นพลังสุดยอดของผมงั้นเหรอ...?” เจอรัลด์ถามด้วยความรู้สึกสับสน แม้ว่าเขาพอจะเข้าใจในสิ่งที่เธอพยายามจะสื่อ‘เธอต้องการจะบอกว่า เธออยากให้ฉันกลับไปในยุคของลีมิส เทพเจ้าแห่งสงครามใช่ไหม...? ถ้าอย่างนั้น ฉันเป็นร่างจุติของเทพจริง ๆ ใช่ไหม...?’ เจอรัลด์คิดใ
"มีอะไรเหรอ?" เจอรัลด์ถาม “แม้ว่าฉันจะถูกกักขังไว้ในห้องลับของตระกูลกันเทอร์โดยราชาแห่งประตูมิติแห่งการพิพากษาอยู่ตลอดเวลา แต่ฉันก็มีสติสัมปชัญญะที่ดีตลอด ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงได้ยินแผนที่พวกกันเทอร์วางเอาไว้ทั้งหมด และจากสิ่งที่ฉันจำได้ พวกกันเทอร์ดูเหมือนจะจับเพื่อนของคุณสองคนไปเป็นเชลย หนึ่งในนั้นมีคนที่ใช้นามสกุลทินดอล ในขณะที่อีกคนหนึ่งใช้นามสกุลเบเกอร์ ทั้งคู่น่าจะถูกขังอยู่ในห้องลับใต้ดินของคฤหาสน์กันเทอร์!” “นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงหาเชสเตอร์ไม่เจอ! เจอรัลด์บอกให้ฉันตามหาเขา แต่มันน่าแปลกที่ฉันหาเขาไม่เจอสักที แม้จะสืบหาข้อมูลมาสองสามวันแล้วก็ตาม! ปรากฏว่าพวกกันเทอร์ได้ตัวเขาไปแล้วนั่นเอง!” ปีเตอร์พูดพร้อมกับส่ายหัว เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดได้กลายเป็นจริงอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อไม่นานมานี้ เขาเองก็เกือบจะตกหลุมพรางของพวกตระกูลกันเทอร์เช่นกัน หลุมพรางที่ทำให้โฮแกนเกือบจะฆ่าเขาได้สำเร็จ ในขณะที่เชสเตอร์ยังคงอยู่ในโรงแรมภายใต้คำสั่งของเจอรัลด์ และเป็นเวลาเดียวกันกับตอนที่โฮแกนยังโจมตีเขาอยู่ เจอรัลด์สัมผัสได้ว่าเชสเตอร์ก็ตกอยู่ในอัน
ในขณะที่พวกเขาแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ และช่วยกันค้นหาจนทั่วทั้งป่าทึบ โฮแกนเองก็กำลังนำทีมที่มีผู้ช่วยทั้งหมดห้าคนด้วยกัน และตอนที่พวกเขากำลังค้นหากันอย่างขะมักขะเม้นอยู่นั้น จู่ ๆ หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของโฮแกนก็ตะโกนว่า “มีคนอยู่ข้างหน้า โฮแกน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น กลุ่มอื่น ๆ ที่เหลือก็พากันพุ่งไปข้างหน้าทันที และในไม่ช้าพวกเขาก็ไปยืนอยู่ข้างคน ๆ นั้น ขณะที่พวกเขากำลังวิ่งเข้าไป พวกเขาก็สังเกตเห็นว่าคน ๆ นั้นไม่เพียงแต่เดินกะโผลกกะเผลกเท่านั้น แต่เขายังสวมเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น และมีรอยแผลทั่วทั้งร่างกายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้พวกเขาก็ได้มายืนอยู่ข้างชายคนนั้นแล้ว ดวงตาของโฮแกนเบิกกว้างด้วยความตกใจ ในขณะที่เขาพูดว่า “… นาย… นายน้อยกันเทอร์…?” มีคนติดต่อเฟลตันได้เป็นคนสุดท้ายเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากที่เขาถูกส่งไปที่ดอร์ดเวลล์ ไฮท์ส เพื่อตามหาเจอรัลด์ จากนั้นก็ไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้อีกเลยจนกระทั่งตอนนี้อีเร็ตที่กำลังรู้สึกวิตกกังวลพบเบาะแสบางอย่าง เธอจึงตัดสินใจส่งคนหลายคนไปที่ภูเขาเพื่อตามหาเขา แม้ว่าจะไม่พบอะไรเลยก็ตาม พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเฟลตั
อีเร็ตไม่ได้ตำหนิการกระทำของหลานชายเธอ เพราะเธอรู้ดีว่าที่เขาทำเช่นนั้นลงไปก็เพราะเขาแค่คิดว่าเธอคือเจอรัลด์ หลังจากที่เขาได้ผ่านความทุกข์ทรมานมามากมาย ก็ไม่แปลกใจเลยที่อารมณ์ของเฟลตันจะพลุ่งพล่านถึงเพียงนี้ 'ทำไมเขาถึงได้บอบช้ำถึงเพียงนี้...? เป็นเพราะไอ้บ้าเจอรัลด์นั่น…! ฉันจะสับมันให้เป็นชิ้น ๆ ถ้านั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ฉันทำ! ฉันจะต้องแก้แค้นแทนเขาแน่นอน…!’ อีเร็ตคิดกับตัวเอง ในขณะที่ความอาฆาตแค้นปรากฏให้เห็นชัดในดวงตาของเธอ แม้ว่าเธอจะโกรธอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับตระกูลกันเทอร์ ที่เฟลตันยังสามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้ เนื่องจากทั้งสมาชิกของประตูมิติแห่งการพิพากษาและตระกูลกันเทอร์กำลังออกตามล่าเจอรัลด์อยู่ อีเร็ตจึงรู้ว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะจับตัวเขาอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ เธอจึงปล่อยให้เฟลตันพักฟื้นในคฤหาสน์กันเทอร์ ขณะที่เธอออกเดินทางไปตามล่าตัวเจอรัลด์ร่วมกับคนอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากทุกคนมุ่งเน้นไปที่การจับกุมเจอรัลด์ คฤหาสน์กันเทอร์จึงค่อนข้างที่จะเงี่ยบเหงาเมื่อถึงช่วงเวลาบ่าย ตอนนั้นเองที่เฟลตันตัดสินใจลงจากเตียงผู้ป่วยในที่สุด เฟลตันในส
“ได้โปรดเถอะ ฉันรู้ว่าทำไมเธอถึงอยากไปที่นั่นมากขนาดนี้… ฉันรู้ว่าย่าทวดจับเพื่อนสองคนของเจอรัลด์มาขังไว้ที่นั่น เธอแค่ต้องการระบายความโกรธด้วยการทำร้ายพวกเขาใช่ไหม?” ยูเมะพูดโดยไม่ต้องคิดซ้ำสอง เพราะเธอเป็นคนที่เข้าใจถึงนิสัยใจคอของเฟลตันมากที่สุดในบรรดาทุกคน “พูดบ้าอะไรน่ะ! ฉันกำลังพยายามจะช่วยพวกเขา และพาพวกเขาไปยังที่ปลอดภัยต่างหากล่ะ!” เฟลตันตอบโต้ “…อะไรคือแรงจูงใจให้เธอคิดที่จะทำแบบนั้น…?” “ก็ดูสิ เจอรัลด์ฝังพิษที่ร้ายแรงไว้ในร่างกายของฉัน ถ้าฉันไม่ช่วยเพื่อนของเขา เขาจะฆ่าฉัน! เหตุผลนั้นดีพอสำหรับเธอหรือยัง?!” เฟลตันตอบ น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความกลัว “… อย่างนี้นี่เอง! ไม่น่าแปลกใจเลยที่นิสัยใจคอของเธอดูเปลี่ยนไปมากตั้งแต่เธอกลับมา! ดีมาก! ในเมื่อมีเพียงคุณย่าทวดกับฉันเท่านั้นที่มีกุญแจสู่คุกใต้ดิน ฉันจะเป็นคนพาเธอไปที่นั่นเอง!” ยูเมะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเต็มใจ เพราะในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ยูเมะเองก็ได้ใช้สมองคิดอย่างหนักว่าเธอจะช่วยปลดปล่อยเพื่อน ๆ ของเจอรัลด์ออกจากที่นี่ได้อย่างไร วินาทีที่ยูเมะและเฟลตันเดินผ่านประตูหลักของคุกใต้ดินไป พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับทันทีด