“ได้โปรดเถอะ ฉันรู้ว่าทำไมเธอถึงอยากไปที่นั่นมากขนาดนี้… ฉันรู้ว่าย่าทวดจับเพื่อนสองคนของเจอรัลด์มาขังไว้ที่นั่น เธอแค่ต้องการระบายความโกรธด้วยการทำร้ายพวกเขาใช่ไหม?” ยูเมะพูดโดยไม่ต้องคิดซ้ำสอง เพราะเธอเป็นคนที่เข้าใจถึงนิสัยใจคอของเฟลตันมากที่สุดในบรรดาทุกคน “พูดบ้าอะไรน่ะ! ฉันกำลังพยายามจะช่วยพวกเขา และพาพวกเขาไปยังที่ปลอดภัยต่างหากล่ะ!” เฟลตันตอบโต้ “…อะไรคือแรงจูงใจให้เธอคิดที่จะทำแบบนั้น…?” “ก็ดูสิ เจอรัลด์ฝังพิษที่ร้ายแรงไว้ในร่างกายของฉัน ถ้าฉันไม่ช่วยเพื่อนของเขา เขาจะฆ่าฉัน! เหตุผลนั้นดีพอสำหรับเธอหรือยัง?!” เฟลตันตอบ น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความกลัว “… อย่างนี้นี่เอง! ไม่น่าแปลกใจเลยที่นิสัยใจคอของเธอดูเปลี่ยนไปมากตั้งแต่เธอกลับมา! ดีมาก! ในเมื่อมีเพียงคุณย่าทวดกับฉันเท่านั้นที่มีกุญแจสู่คุกใต้ดิน ฉันจะเป็นคนพาเธอไปที่นั่นเอง!” ยูเมะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเต็มใจ เพราะในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ยูเมะเองก็ได้ใช้สมองคิดอย่างหนักว่าเธอจะช่วยปลดปล่อยเพื่อน ๆ ของเจอรัลด์ออกจากที่นี่ได้อย่างไร วินาทีที่ยูเมะและเฟลตันเดินผ่านประตูหลักของคุกใต้ดินไป พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับทันทีด
“…นายท่านอยู่ที่นี่เหรอ?” เชสเตอร์ถามอย่างไม่แน่ใจนักว่าจะตอบโต้ต่อคำกล่าวของเขาอย่างไร “ฮ่าฮ่าฮ่า! อีกไม่นานเราก็จะรอดแล้ว! รอก่อนเถอะ ไอพวกกันเทอร์! เมื่อเราเป็นอิสระแล้ว ฉันจะเผาที่นี่ให้ราบคาบอย่างแน่นอน!” เอเดนคำรามด้วยความโกรธ หลังจากนั้นไม่นาน เฟลตันและยูเมะก็มาถึงที่ห้องของอีเร็ต เมื่อทั้งสองคนเดินเขาไปในห้อง พวกเขาก็พบว่าผังห้องไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมาก ความจริงแล้ว มันดูค่อนข้างจะเรียบง่ายด้วยซ้ำไป สิ่งเดียวที่ดูผิดปกติก็คือโต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของห้อง และชั้นวางของที่อยู่ด้านหลังมัน “…ห้องลับน่าจะอยู่ตรงนี้หรือเปล่า…?” เฟลตันถาม “น่าจะใช่… แต่เท่าที่ฉันรู้ คุณย่าทวดมีห้องลับอยู่สองห้อง ฉันไม่แน่ใจว่าเธอรู้เรื่องนี้หรือไม่ แต่ย่าทวดมีห้องลับที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านห้องค้นคว้าพิเศษของเธอ มันเป็นสถานที่ที่เธอขังผู้หญิงในชุดขาวเอาไว้ สำหรับห้องนี้… ครั้งหนึ่งฉันเคยเห็นย่าทวดออกมาจากห้องผ่านทางลับหลังชั้นวางของตอนที่ฉันยังเด็กมาก… ด้วยเหตุนี้ ในห้องนี้น่าจะมีอุปกรณ์บางอย่างที่สามารถเปิดทางลับด้านหลังชั้นวางของนั่นได้ ถ้ามันเป็นวิธีเดียวกันกับที่เธอใช้เปิดห้องลับ
“…ค คุณเป็นใคร…? แล้วทำไมคุณถึงมาอยู่ในคฤหาสน์ของเรา…?” ยูเมะถามด้วยความประหลาดใจ “ฮ่าฮ่าฮ่า! คฤหาสน์ของเธอหรอ? นี่คือคฤหาสน์ของฉัน! ฉันเป็นคนที่ก่อตั้งตระกูลกันเทอร์ สาวน้อย! เธอทั้งสองคนไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าลูกหลานของฉัน!” แสงสีดำตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังกึกก้อง ก่อนจะค่อย ๆ กลายร่างเป็นชายชรา การที่เขามีผมขาวเป็นกระจุกรอบศีรษะ และหนวดเคราที่ยาวลงมาถึงหน้าอก ทำให้ยากที่จะปฏิเสธได้ว่าชายชราคนนี้ดูเหมือนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ จากนั้นยูเมะที่กำลังตกใจจึงตอบกลับไปว่า “…ค คุณพูดว่าอะไรนะ…?” เจอรัลด์เองก็กำลังจ้องมองไปที่ชายชราด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากสิ่งที่เจอรัลด์สามารถบอกได้ รูปแบบการดำรงอยู่ของชายชรานั้นค่อนข้างคล้ายกับจิตวิญญาณของผู้หญิงในชุดขาว อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างจิตวิญญาณของคนทั้งสอง นั่นก็คือพลังงานที่ชายชราปลดปล่อยออกมาจากตัวเขาเองนั้นแข็งแกร่งกว่าพลังของผู้หญิงในชุดขาว ในขณะที่ผู้ในชุดขาวไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าจิตวิญญาณธรรมดาทั่วไป ก่อนการหลอมรวมเป็นร่าง แต่ร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ท้ายที่ส
"ใช่แล้ว! เมื่อฉันได้ครอบครองร่างของเจอรัลด์ ฉันก็จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง! หลังจากนั้น ครอบครัวของเราจะได้มุ่งหน้าไปยังจาเอลตราด้วยกัน ซึ่งเป็นโลกที่สมบูรณ์แบบสำหรับตระกูลกันเทอร์ เพื่อที่จะได้ครองอำนาจสูงสุดในฐานะเจ้าเหนือหัว! เมื่อถึงตอนนั้น ตระกูลของเราจะเป็นผู้ควบคุมทั้งสวรรค์และโลกทั้งหมด!” ชายชรากล่าวเสริม ขณะที่เขาหัวเราะอย่างผู้มีชัย “…ว่าแต่ว่า… คุณพาเราทั้งคู่ลงมาที่นี่เพียงเพราะต้องการจะบอกเรื่องนี้กับเราหรือเปล่า…?” ยูเมะถาม “นั่นเป็นคำถามที่ดีนะ! คืออย่างนี้ แม้ว่าร่างกายของเจอรัลด์จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับฉันอย่างไม่ต้องสงสัย แต่อีเร็ตและคนอื่น ๆ ก็โง่เขลาเกินไป หลังจากทนรออยู่ที่นี่อย่างใจจดใจจ่อมานาน ฉันก็ไม่อยากจะรออีกต่อไปแล้ว! บวกกับความจริงที่ว่า ฉันรู้สึกกังวลเล็กน้อยว่าอีเร็ตจะลงเอยด้วยการทำลายร่างที่ฉันต้องการจะครอบครอง ฉันกำลังวางแผนที่จะกลับมาให้เร็วกว่านั้น! อย่างไรก็ตาม การที่จะทำเช่นนั้นได้ ก่อนอื่นฉันต้องมีร่างกายที่เหมาะสมเพื่อให้ฉันสิงสถิตเสียก่อน และร่างกายของเธอทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะมีพลังที่เพียงพอ…” ชายชราตอบ เขาหันไปมองเจอรัลด์แล้วพูดเสริ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ยูเมะก็หันไปมองเฟลตันด้วยความประหลาดใจ และสัมผัสได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ประการหนึ่งคือ เธอไม่เคยเห็นดวงตาของเฟลตันเป็นแบบนั้นมาก่อน เจอรัลด์ยิ้มจาง ๆ แล้วตอบว่า “… คุณพูดถูก ผมไม่ใช่เฟลตัน” บอกตามตรงเลยว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่เขารู้สึกวิงเวียนเป็นอย่างมากหลังจากถูกวิญญาณของชายชราโจมตีก่อนหน้านี้ ก่อนที่พลังลมปราณที่สำคัญจะหลั่งไหลเข้ามาเติมเต็มร่างกายของเขา! มันเหมือนกับว่าเทพแห่งสายน้ำได้ชนปะทะกับภูเขา ทำให้พลังลมที่สำคัญทั้งหมดภายในร่างกายของเขาพุ่งออกมาทันทีที่รอยแยกปรากฏขึ้น! กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ร่างกายของเจอรัลด์กำลังเอ่อล้นไปด้วยพลัง และยังมีการทำลายล้างที่รุนแรงอีกด้วย เมื่อเจอรัลด์ตระหนักได้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวชายชราอีกต่อไป ยูเมะที่กำลังตกใจก็อุทานออกมาว่า “…ห๊ะ หา…? ถ้าอย่างนั้น… ถ้าเธอไม่ใช่เฟลตัน… แล้วเธอเป็นใครล่ะ…?!” “ฉันเป็นคนที่ฆ่าเขา!” เจอรัลด์ตอบอย่างสบาย ๆ “เธอ… เธอฆ่าเฟลตันงั้นเหรอ…?!” ยูเมะพูด ขณะที่เธอถอยหลังไปสองสามก้าว ถึงกระนั้น เธอก็พอจะเดาได้แล้วว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือใคร… นั่น… นั่นเขาจริง ๆ
“…เจอรัลด์?” ยูเมะถาม ในขณะที่มองเจอรัลด์ด้วยดวงตาเบิกกว้าง เจอรัลด์พยักหน้าตอบ จากนั้นเขาก็พูดว่า “ถึงแม้ไซล่าจะเคยพูดถึงวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังให้ฉันฟังมาบ้างแล้ว แต่เธอไม่ได้อธิบายรายละเอียดอะไรมากนัก ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงรู้เรื่องนี้น้อยมาก ว่าแต่ว่ามันคืออะไรกันแน่…? จากที่ฉันเดาได้ ดูเหมือนว่าแกกำลังพูดถึงความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวฉัน… พวกประตูมิติแห่งการพิพากษาก็มาที่นี่เพราะความลับนี้เหมือนกันเหรอ…?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของชายชราก็เปล่งประกายขึ้นทันที ในขณะที่เขาตะโกนว่า “แกคือเจอรัลด์จริง ๆ ด้วย!” ในขณะที่เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ในที่สุดเจอรัลด์ก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้วในตอนนี้ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกเศร้าใจเมื่อได้รู้ว่าศักยภาพและความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขานั้น ดูน่ากลัวเกินกว่าที่เขาจะรับมือไหว ชายชรายังทราบดีว่า ความประมาทเลินเล่อเพียงเล็กน้อยของเขาก็อาจจะทำให้เจอรัลด์โกรธ และอาจจะส่งผลให้เขาทำลายคฤหาสน์กันเทอร์ หรือแม้แต่สมาชิกคนอื่น ๆ จนราบคาบ แม้ว่าพวกเขาจะระมัดระวังตัวมาตลอดก็ตาม! ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาเองจะเป็นคนที่ช่วยเจอรัลด์ปลดล็
จากนั้นแสงสีทองของเจอรัลด์ก็กะพริบก่อนจะห่อหุ้มแสงสีดำที่จาง ๆ อยู่จนหมด ด้วยเหตุนั้น แสงสีดำก็ได้ถูกพลังอันมหาศาลกลืนกินไปตลอดกาล ‘ในที่สุดศักยภาพของฉันก็ถูกปลดปล่อยออกมา… ถ้านี่คือวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังจริง ๆ นั่นก็หมายความว่าฉันได้ปลดล็อกขั้นแรกของพลังนั้นสำเร็จแล้ว! แม้ว่าฉันจะสงสัยว่า… เมื่อฉันปลดล็อกพลังทั้งเก้าขั้นจนหมดแล้ว ฉันจะมีความสามารถจนถึงขั้นทำลายล้างทั้งสวรรค์และโลกได้หรือไม่…?’ เจอรัลด์คิดกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ก็อุ้มร่างยูเมะที่กำลังหมดสติขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะฉีกหน้ากากของเขาออก และเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา ในขณะที่เขากำลังจะพาเธอออกไปจากห้องห้องนั้น เขาก็สังเกตเห็นอุปกรณ์ที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดตั้งอยู่ใจกลางของห้องลับ มันดูเหมือนจะเป็นสระน้ำบางอย่าง และเหนือขึ้นไปมีแสงสีฟ้าที่กระจายของเหลวสีฟ้าออกจากสระ ไม่ต่างจากการทำงานของน้ำพุอัตโนมัติ ตัวสระดูเหมือนจะเปล่งแสงสีฟ้าออกมาเองอีกด้วย ‘…นี่คงจะเป็นสิ่งที่เฟลตันเคยเล่าให้ฉันฟัง… มันน่าจะเป็นขุมทรัพย์ที่สำคัญของครอบครัวนี้ พวกเขาใช้มันในการฝึกฝนความแข็งแกร่งภายในของพวกเ
เมื่ออีเร็ตกลับมาที่คฤหาสน์กันเทอร์พร้อมกับสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัว สิ่งที่พวกเขาเห็นคือเปลวเพลิงที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าคฤหาสน์กันเทอร์ทั้งหมดถูกไฟมอดไหม้อย่างรุนแรงจนเกือบจะกลายเป็นขี้เถ้าใบหน้าของอีเร็ตแดงก่ำด้วยความโกรธ ในขณะนี้ เธอรู้สึกทั้งโศกเศร้าและแค้นเคืองปะปนกันไป ความรู้สึกเหล่านั้นทำให้เธอแทบจะกลายเป็นบ้า “ขุมทรัพย์พลังของตระกูลกันเทอร์ที่มีมานานกว่าหมื่นปีถูกเจอรัลด์ทำลายจนสิ้นซาก! ถ้าฉัน อีเร็ต กันเทอร์ ไม่ได้ล้างแค้นให้ตระกูลกันเทอร์สำหรับทุกสิ่งที่แกทำลงไปในวันนี้ ฉันก็คงไม่ใช่สมาชิกของตระกูลกันเทอร์!”ในตอนนี้ อีเร็ตเข้าใจถึงสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว คนที่สวมรอยเป็นเฟลตันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจอรัลด์นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่เจอรัลด์พูดคือความจริง เฟลตันตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา แต่เฟลตันไม่สามารถหลบหนีได้สำเร็จ ตรงกันข้าม เขากลับถูกเจอรัลด์สังหารอย่างโหดเหี้ยมในป่าหลังจากนั้น เจอรัลด์ก็เข้าไปในคฤหาสน์กันเทอร์ และเผาทำลายขุมทรัพย์พลังของตระกูลกันเทอร์จนหมดสิ้นอีเร็ตรู้สึกโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอรู้สึกตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ขณะที่เธอกัดฟันตัวเองจนแหลก