“…นายท่านอยู่ที่นี่เหรอ?” เชสเตอร์ถามอย่างไม่แน่ใจนักว่าจะตอบโต้ต่อคำกล่าวของเขาอย่างไร “ฮ่าฮ่าฮ่า! อีกไม่นานเราก็จะรอดแล้ว! รอก่อนเถอะ ไอพวกกันเทอร์! เมื่อเราเป็นอิสระแล้ว ฉันจะเผาที่นี่ให้ราบคาบอย่างแน่นอน!” เอเดนคำรามด้วยความโกรธ หลังจากนั้นไม่นาน เฟลตันและยูเมะก็มาถึงที่ห้องของอีเร็ต เมื่อทั้งสองคนเดินเขาไปในห้อง พวกเขาก็พบว่าผังห้องไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมาก ความจริงแล้ว มันดูค่อนข้างจะเรียบง่ายด้วยซ้ำไป สิ่งเดียวที่ดูผิดปกติก็คือโต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของห้อง และชั้นวางของที่อยู่ด้านหลังมัน “…ห้องลับน่าจะอยู่ตรงนี้หรือเปล่า…?” เฟลตันถาม “น่าจะใช่… แต่เท่าที่ฉันรู้ คุณย่าทวดมีห้องลับอยู่สองห้อง ฉันไม่แน่ใจว่าเธอรู้เรื่องนี้หรือไม่ แต่ย่าทวดมีห้องลับที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านห้องค้นคว้าพิเศษของเธอ มันเป็นสถานที่ที่เธอขังผู้หญิงในชุดขาวเอาไว้ สำหรับห้องนี้… ครั้งหนึ่งฉันเคยเห็นย่าทวดออกมาจากห้องผ่านทางลับหลังชั้นวางของตอนที่ฉันยังเด็กมาก… ด้วยเหตุนี้ ในห้องนี้น่าจะมีอุปกรณ์บางอย่างที่สามารถเปิดทางลับด้านหลังชั้นวางของนั่นได้ ถ้ามันเป็นวิธีเดียวกันกับที่เธอใช้เปิดห้องลับ
“…ค คุณเป็นใคร…? แล้วทำไมคุณถึงมาอยู่ในคฤหาสน์ของเรา…?” ยูเมะถามด้วยความประหลาดใจ “ฮ่าฮ่าฮ่า! คฤหาสน์ของเธอหรอ? นี่คือคฤหาสน์ของฉัน! ฉันเป็นคนที่ก่อตั้งตระกูลกันเทอร์ สาวน้อย! เธอทั้งสองคนไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าลูกหลานของฉัน!” แสงสีดำตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดังกึกก้อง ก่อนจะค่อย ๆ กลายร่างเป็นชายชรา การที่เขามีผมขาวเป็นกระจุกรอบศีรษะ และหนวดเคราที่ยาวลงมาถึงหน้าอก ทำให้ยากที่จะปฏิเสธได้ว่าชายชราคนนี้ดูเหมือนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ จากนั้นยูเมะที่กำลังตกใจจึงตอบกลับไปว่า “…ค คุณพูดว่าอะไรนะ…?” เจอรัลด์เองก็กำลังจ้องมองไปที่ชายชราด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากสิ่งที่เจอรัลด์สามารถบอกได้ รูปแบบการดำรงอยู่ของชายชรานั้นค่อนข้างคล้ายกับจิตวิญญาณของผู้หญิงในชุดขาว อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างจิตวิญญาณของคนทั้งสอง นั่นก็คือพลังงานที่ชายชราปลดปล่อยออกมาจากตัวเขาเองนั้นแข็งแกร่งกว่าพลังของผู้หญิงในชุดขาว ในขณะที่ผู้ในชุดขาวไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าจิตวิญญาณธรรมดาทั่วไป ก่อนการหลอมรวมเป็นร่าง แต่ร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ท้ายที่ส
"ใช่แล้ว! เมื่อฉันได้ครอบครองร่างของเจอรัลด์ ฉันก็จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง! หลังจากนั้น ครอบครัวของเราจะได้มุ่งหน้าไปยังจาเอลตราด้วยกัน ซึ่งเป็นโลกที่สมบูรณ์แบบสำหรับตระกูลกันเทอร์ เพื่อที่จะได้ครองอำนาจสูงสุดในฐานะเจ้าเหนือหัว! เมื่อถึงตอนนั้น ตระกูลของเราจะเป็นผู้ควบคุมทั้งสวรรค์และโลกทั้งหมด!” ชายชรากล่าวเสริม ขณะที่เขาหัวเราะอย่างผู้มีชัย “…ว่าแต่ว่า… คุณพาเราทั้งคู่ลงมาที่นี่เพียงเพราะต้องการจะบอกเรื่องนี้กับเราหรือเปล่า…?” ยูเมะถาม “นั่นเป็นคำถามที่ดีนะ! คืออย่างนี้ แม้ว่าร่างกายของเจอรัลด์จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับฉันอย่างไม่ต้องสงสัย แต่อีเร็ตและคนอื่น ๆ ก็โง่เขลาเกินไป หลังจากทนรออยู่ที่นี่อย่างใจจดใจจ่อมานาน ฉันก็ไม่อยากจะรออีกต่อไปแล้ว! บวกกับความจริงที่ว่า ฉันรู้สึกกังวลเล็กน้อยว่าอีเร็ตจะลงเอยด้วยการทำลายร่างที่ฉันต้องการจะครอบครอง ฉันกำลังวางแผนที่จะกลับมาให้เร็วกว่านั้น! อย่างไรก็ตาม การที่จะทำเช่นนั้นได้ ก่อนอื่นฉันต้องมีร่างกายที่เหมาะสมเพื่อให้ฉันสิงสถิตเสียก่อน และร่างกายของเธอทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะมีพลังที่เพียงพอ…” ชายชราตอบ เขาหันไปมองเจอรัลด์แล้วพูดเสริ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ยูเมะก็หันไปมองเฟลตันด้วยความประหลาดใจ และสัมผัสได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ประการหนึ่งคือ เธอไม่เคยเห็นดวงตาของเฟลตันเป็นแบบนั้นมาก่อน เจอรัลด์ยิ้มจาง ๆ แล้วตอบว่า “… คุณพูดถูก ผมไม่ใช่เฟลตัน” บอกตามตรงเลยว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่เขารู้สึกวิงเวียนเป็นอย่างมากหลังจากถูกวิญญาณของชายชราโจมตีก่อนหน้านี้ ก่อนที่พลังลมปราณที่สำคัญจะหลั่งไหลเข้ามาเติมเต็มร่างกายของเขา! มันเหมือนกับว่าเทพแห่งสายน้ำได้ชนปะทะกับภูเขา ทำให้พลังลมที่สำคัญทั้งหมดภายในร่างกายของเขาพุ่งออกมาทันทีที่รอยแยกปรากฏขึ้น! กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ร่างกายของเจอรัลด์กำลังเอ่อล้นไปด้วยพลัง และยังมีการทำลายล้างที่รุนแรงอีกด้วย เมื่อเจอรัลด์ตระหนักได้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องกลัวชายชราอีกต่อไป ยูเมะที่กำลังตกใจก็อุทานออกมาว่า “…ห๊ะ หา…? ถ้าอย่างนั้น… ถ้าเธอไม่ใช่เฟลตัน… แล้วเธอเป็นใครล่ะ…?!” “ฉันเป็นคนที่ฆ่าเขา!” เจอรัลด์ตอบอย่างสบาย ๆ “เธอ… เธอฆ่าเฟลตันงั้นเหรอ…?!” ยูเมะพูด ขณะที่เธอถอยหลังไปสองสามก้าว ถึงกระนั้น เธอก็พอจะเดาได้แล้วว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือใคร… นั่น… นั่นเขาจริง ๆ
“…เจอรัลด์?” ยูเมะถาม ในขณะที่มองเจอรัลด์ด้วยดวงตาเบิกกว้าง เจอรัลด์พยักหน้าตอบ จากนั้นเขาก็พูดว่า “ถึงแม้ไซล่าจะเคยพูดถึงวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังให้ฉันฟังมาบ้างแล้ว แต่เธอไม่ได้อธิบายรายละเอียดอะไรมากนัก ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงรู้เรื่องนี้น้อยมาก ว่าแต่ว่ามันคืออะไรกันแน่…? จากที่ฉันเดาได้ ดูเหมือนว่าแกกำลังพูดถึงความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวฉัน… พวกประตูมิติแห่งการพิพากษาก็มาที่นี่เพราะความลับนี้เหมือนกันเหรอ…?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของชายชราก็เปล่งประกายขึ้นทันที ในขณะที่เขาตะโกนว่า “แกคือเจอรัลด์จริง ๆ ด้วย!” ในขณะที่เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ในที่สุดเจอรัลด์ก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้วในตอนนี้ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกเศร้าใจเมื่อได้รู้ว่าศักยภาพและความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขานั้น ดูน่ากลัวเกินกว่าที่เขาจะรับมือไหว ชายชรายังทราบดีว่า ความประมาทเลินเล่อเพียงเล็กน้อยของเขาก็อาจจะทำให้เจอรัลด์โกรธ และอาจจะส่งผลให้เขาทำลายคฤหาสน์กันเทอร์ หรือแม้แต่สมาชิกคนอื่น ๆ จนราบคาบ แม้ว่าพวกเขาจะระมัดระวังตัวมาตลอดก็ตาม! ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาเองจะเป็นคนที่ช่วยเจอรัลด์ปลดล็
จากนั้นแสงสีทองของเจอรัลด์ก็กะพริบก่อนจะห่อหุ้มแสงสีดำที่จาง ๆ อยู่จนหมด ด้วยเหตุนั้น แสงสีดำก็ได้ถูกพลังอันมหาศาลกลืนกินไปตลอดกาล ‘ในที่สุดศักยภาพของฉันก็ถูกปลดปล่อยออกมา… ถ้านี่คือวิญญาณบรรพกาลอันทรงพลังจริง ๆ นั่นก็หมายความว่าฉันได้ปลดล็อกขั้นแรกของพลังนั้นสำเร็จแล้ว! แม้ว่าฉันจะสงสัยว่า… เมื่อฉันปลดล็อกพลังทั้งเก้าขั้นจนหมดแล้ว ฉันจะมีความสามารถจนถึงขั้นทำลายล้างทั้งสวรรค์และโลกได้หรือไม่…?’ เจอรัลด์คิดกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ก็อุ้มร่างยูเมะที่กำลังหมดสติขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะฉีกหน้ากากของเขาออก และเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา ในขณะที่เขากำลังจะพาเธอออกไปจากห้องห้องนั้น เขาก็สังเกตเห็นอุปกรณ์ที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดตั้งอยู่ใจกลางของห้องลับ มันดูเหมือนจะเป็นสระน้ำบางอย่าง และเหนือขึ้นไปมีแสงสีฟ้าที่กระจายของเหลวสีฟ้าออกจากสระ ไม่ต่างจากการทำงานของน้ำพุอัตโนมัติ ตัวสระดูเหมือนจะเปล่งแสงสีฟ้าออกมาเองอีกด้วย ‘…นี่คงจะเป็นสิ่งที่เฟลตันเคยเล่าให้ฉันฟัง… มันน่าจะเป็นขุมทรัพย์ที่สำคัญของครอบครัวนี้ พวกเขาใช้มันในการฝึกฝนความแข็งแกร่งภายในของพวกเ
เมื่ออีเร็ตกลับมาที่คฤหาสน์กันเทอร์พร้อมกับสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัว สิ่งที่พวกเขาเห็นคือเปลวเพลิงที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าคฤหาสน์กันเทอร์ทั้งหมดถูกไฟมอดไหม้อย่างรุนแรงจนเกือบจะกลายเป็นขี้เถ้าใบหน้าของอีเร็ตแดงก่ำด้วยความโกรธ ในขณะนี้ เธอรู้สึกทั้งโศกเศร้าและแค้นเคืองปะปนกันไป ความรู้สึกเหล่านั้นทำให้เธอแทบจะกลายเป็นบ้า “ขุมทรัพย์พลังของตระกูลกันเทอร์ที่มีมานานกว่าหมื่นปีถูกเจอรัลด์ทำลายจนสิ้นซาก! ถ้าฉัน อีเร็ต กันเทอร์ ไม่ได้ล้างแค้นให้ตระกูลกันเทอร์สำหรับทุกสิ่งที่แกทำลงไปในวันนี้ ฉันก็คงไม่ใช่สมาชิกของตระกูลกันเทอร์!”ในตอนนี้ อีเร็ตเข้าใจถึงสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้ว คนที่สวมรอยเป็นเฟลตันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจอรัลด์นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่เจอรัลด์พูดคือความจริง เฟลตันตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา แต่เฟลตันไม่สามารถหลบหนีได้สำเร็จ ตรงกันข้าม เขากลับถูกเจอรัลด์สังหารอย่างโหดเหี้ยมในป่าหลังจากนั้น เจอรัลด์ก็เข้าไปในคฤหาสน์กันเทอร์ และเผาทำลายขุมทรัพย์พลังของตระกูลกันเทอร์จนหมดสิ้นอีเร็ตรู้สึกโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอรู้สึกตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ขณะที่เธอกัดฟันตัวเองจนแหลก
เจอรัลด์ถาม"ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เมื่อเร็ว ๆ นี้เรามีแขกมาเข้าพักที่นี่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม คนเหล่านั้นล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตก และพวกเขายังมีโลโก้บางอย่างติดไว้ที่หน้าอกอีกด้วย จากที่ผมเห็น เพื่อน ๆ ของคุณได้รับการปฏิบัติจากคนเหล่านั้นด้วยความเคารพ!” ผู้จัดการกล่าวเจอรัลด์พยักหน้าลุงไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้เขาตามหาได้เลยดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน แม้ว่าพวกเขาจะเต็มในไปที่นั่นก็ตาม อย่างไรก็ตาม ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขาแน่ และนั่นคือสาเหตุที่ลุงและคนอื่น ๆ ยังไม่กลับมา“อา พ่อหนุ่ม คุณเห็นนั่นไหม? คนเหล่านั้นแต่งตัวคล้ายกับพวกเขา พวกเขาดูเหมือนคนที่มารับเพื่อนของคุณเลยครับ”ในขณะนั้นเอง ผู้จัดการก็พูดขึ้นมา ในขณะที่เขามองออกไปนอกประตู และชี้ไปที่กลุ่มคนที่มีจำนวนมากกว่าหนึ่งโหลเจอรัลด์มองตามไปทางที่เข้าชี้คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเป็นผู้หญิงตัวสูง เธอมีผมยาวหยิกเป็นธรรมชาติ เธอสวมชุดกีฬารัดรูป และเห็นได้ชัดว่าเธอน่าจะมาจากครอบครัวที่มีทักษะทางด้านศิลปะการต่อสู้เธอดูสวยและโดดเด่นมาก จนทำให้ผู้คนที่อยู่บริเวณนั
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ