“เขาได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โดยใครบางคนที่แข็งแกร่งมาก! ถ้าผมเคลื่อนไหวช้ากว่านี้ ผมคงจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว!” โฮแกนอธิบายด้วยความรู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง “แล้วใครกันแน่ที่เป็นคนทำร้ายเธอ” อีเร็ตถาม ขณะที่เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ตอนนั้นผมกำลังจดจ่ออยู่กับการหลบหนีการโจมตีของเขา ผมจึงมองเห็นเขาไม่ชัด!” “…เป็นไปได้ไหมว่ามีกองกำลังอื่นที่แอบช่วยเจอรัลด์อยู่…?” อีเร็ตพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เธอจมดิ่งลงไปในความคิด ใครก็ตามที่สามารถเอาชนะโฮแกนได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น อย่างน้อยพวกเขาต้องมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับขั้นสุดท้ายของอาณาจักรแห่งโลกวิญญาณ แม้ว่าเธอจะอนุมานได้มากน้อยเพียงใด อีเร็ตก็ไม่สามารถสรุปได้ว่า กองกำลังของใครที่เข้ามาช่วยเหลือเจอรัลด์เอาไว้ในครั้งนี้ ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงของใครบางคนพูดขึ้นมาว่า “ไม่ทราบว่าเจอรัลด์เป็นคนที่สร้างปัญหาให้กับคุณย่าทวดหรือเปล่าครับ?” เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เธอเห็นเด็กหนุ่มที่หล่อเหลามากคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาทางประตูทางออก มือทั้งสองของเขาที่ประสานกันไว้ด้านหลัง เมื่อเขาก้าวเข้าไปข้างใน ปฏิกิริยาแรกของเขาคือการมองผ่านห้องโถงด้
ด้วยเหตุนี้ พวกกันเทอร์และสมาชิกจากกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษาจึงตกลงร่วมมือกันเพื่อตามล่าเจอรัลด์ เห็นได้ชัดว่าการตามหาเจอรัลด์เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทั้งอีเร็ต และราชาแห่งกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษา ในเวลาเดียวกัน กองกำลังทั้งสองก็รู้ดีว่า แม้แต่ควีนน่า ซึ่งเป็นหัวหน้ากองกำลังที่ร้ายกาจก็กำลังมองหาเจอรัลด์เหมือนกัน แต่เป้าหมายของควีนน่าในการตามหาเจอรัลด์นั้นแตกต่างจากพวกเขา คือเธอต้องการให้เขาแต่งงานกับเธอ แม้จะมีเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในการตามหาเจอรัลด์ แต่ทั้งคุณหญิงกันเทอร์และราชาแห่งกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษา ก็ยังคงจับตาดูการกระทำของควีนน่าอย่างใกล้ชิด ส่วนภารกิจในการตามหาตัวเจอรัลด์ได้ตกเป็นหน้าที่ของเฟลตันและโฮแกน ในขณะที่พวกกันเทอร์มีอำนาจในการควบคุมเมืองโบราณได้อย่างเต็มที่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อิทธิพลของพวกเขาได้แผ่ขยายไปทั่วทั้งเมืองเคอร์ตัน ด้วยเหตุนี้ พวกกันเทอร์จึงสั่งให้พวกไซมม์จากเมืองเคอร์ตันช่วยเหลือพวกเขาในการค้นหาตัวเจอรัลด์ โดยใช้คนกลุ่มใหญ่และจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้พวกเขา แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากระดมกำลังกันเพื่อตามล่าเจอรัลด์ แต่อีเร
“ด้วยความน่ารักของเธอในตอนนี้ ฉันมั่นใจว่าเธอจะต้องเติบโตเป็นผู้หญิงที่สวยมากแน่ ๆ” โมนิก้าพูดด้วยรอยยิ้ม "ผมเห็นด้วย ผมแน่ใจว่าเธอจะค่อนข้างคล้ายกับคุณในแง่ของความงาม!” เจอรัลด์ตอบด้วยรอยยิ้ม ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็เอาผ้าขนหนูสีขาวที่ถืออยู่ขึ้นมาปิดปาก ก่อนที่จะเริ่มไออย่างรุนแรง เมื่อเห็นว่าผ้าขนหนูผืนนั้นเริ่มเปื้อนเลือด โมนิก้าก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ทางที่ดีคุณอย่าเพิ่งเดินไปเดินมาดีกว่านะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว อาการบาดเจ็บของคุณก็ยังไม่หายดี รู้ไหมล่ะ? พูดตามตรง ฉันยังทำใจยอมรับเกี่ยวกับความผิดปกติของร่างกายคุณไม่ค่อยได้เลยนะ!” หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็หันมามองเธอและพบว่าเธอกำลังจ้องไปที่หน้าอกของเขาอย่างตั้งใจ เจอรัลด์จึงรู้สึกแปลก และถามเธอออกมาว่า “…ทำไมคุณถึงจ้องหน้าอกผมแบบนั้น…?” “อย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิดสิ! ฉันแค่มองจี้หยกของคุณน่ะ! มันกลับมาเปล่งประกายอีกแล้วนะ รู้ไหม? ตั้งแต่วันที่คุณถูกพาตัวมาที่นี่ จี้จะส่องสว่างในเวลาเดียวกันทุกเช้าและทุกคืน เมื่อคิดย้อนกลับไป มันน่าจะทำแบบนั้นหลายสิบครั้งแล้ว!” โมนิก้าตอบ ในขณะที่เธอกลอกตาใส่เจอรัลด์ ก่อนจะชี้ไปที่จี้หยกทร
“ฉัน… ฉันไม่รู้จริง ๆ!” เซียร่าร้องออกมา ขณะที่เฟลตันยกเธอขึ้นไปในอากาศ ไม่ว่าเขาจะข่มขู่เธอมากแค่ไหน เซียร่าก็ยังคงปฏิเสธว่าเธอไม่รู้อะไรเลย เมื่อเขาเข้าใจแล้วว่าเขาไม่สามารถเอาข้อมูลอะไรมาจากเธอได้ เขาจึงหันไปจ้องพ่อและแม่ของเซียร่าด้วยสายตาที่เย็นชาแทน ก่อนจะถามว่า “แล้วแกสองคนล่ะ? รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม?” เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่กระตือรือร้นที่จะตอบ เขาจึงจับคอของเซียร่า แล้วค่อย ๆ เพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น ทั้งเอเลียสและภรรยาของเขา ซึ่งกำลังร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก ก็ได้แต่กัดฟันตัวเองอย่างตื่นตระหนก ในขณะที่ทั้งคู่รู้ความจริงว่าเฟลตันกำลังตามหาเจอรัลด์ ชายหนุ่มที่ได้รับการช่วยเหลือจากชายวัยกลางคน แต่พวกเขาก็ภักดีต่อชายคนนั้นเป็นอย่างมาก และไม่เคยคิดที่จะทรยศเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว ทั้งสองก็เอาแต่ส่ายหัว "…ฮึ! ฉันรู้อยู่แล้วแหละ! พวกแกมันเป็นพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! งั้นฉันจะแสดงให้พวกแกดู!” เฟลตันหัวเราะเยาะ ขณะยกแขนขึ้นช้า ๆ... ก่อนจะลดระดับลงมาด้วยการรูดลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง! ในขณะนั้น ทุกคนตัวแข็งทื่อ พวกเขาไม่แน่ใจนักว่
หากยังไม่ชัดเจนพอ เขาคือคนที่เพิ่งกลับมาจากเก็บสมุนไพรให้เจอรัลด์นั่นเอง เขาสัมผัสได้ถึงสถานการณ์อันตรายที่กำลังเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปในสลัมด้วยซ้ำ เมื่อรู้ว่าเขาไม่สามารถไปถึงที่เกิดเหตุได้ทันเวลา เขาจึงใช้พลังจิตอันศักดิ์สิทธิ์ของเขา เพื่อบังคับมีดให้ลอยมาปลดมีดของเฟลตันที่กำลังจะเฉือนคอของเซียร่าออกไป อนิจจา เมื่อเขาเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ เขาถึงได้รู้ว่าเฟลตันได้แยกชิ้นส่วนแขนของเซียร่าออกจากร่างของเธอแล้ว! “ส่งเธอมาให้ฉัน และเก็บรักษาแขนที่ขาดของเธอให้ดี! เธอยังมีสิทธิ์ที่จะหายได้!” ชายคนนั้นสั่ง ขณะที่เขารีบประคองเด็กสาวที่หมดสติก่อนจะรีบวิ่งกลับบ้านไป เนื่องจากระยะทางระหว่างบ้านของเขากับบ้านของเซียร่าค่อนข้างห่างไกลกัน ชายผู้นี้จึงรู้ว่าเขาไม่มีเวลามากนัก เมื่อมาถึงบ้านของเขา ทั้งเจอรัลด์และโมนิก้าต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเซียร่าตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขารีบดึงสติตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว และเริ่มช่วยเหลือเด็กหญิงที่กำลังบาดเจ็บ เนื่องจากเจอรัลด์มีความรู้เรื่องศิลปะการจัดกระดูก และชายวัยกลางคนก็มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์อย่างล้นห
หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็คุยกับชายคนนั้นต่อจนดึก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะกลับมาที่ห้องของเขาแล้ว แต่เจอรัลด์ก็เลือกที่จะไม่นอน หลังจากที่เขาได้คุยกับชายคนนั้นแล้ว เจอรัลด์จึงตระหนักได้ว่า การฝึกตัวเองอย่างสม่ำเสมอนั้นสำคัญเพียงใด เพราะแม้ว่าวันนี้เฟลตันจะหวาดกลัวจนหนีกลับไป แต่เจอรัลด์ก็รู้ดีว่า ในที่สุดเขาจะกลับมาในรูปแบบที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงนั่งขัดสมาธิในห้องของเขา ขณะที่เขาพยายามรำลึกถึงความทรงจำมากมายเกี่ยวกับเทพเจ้าที่ฝังอยู่ในหัวของเขา เขาได้รับความทรงจำเหล่านี้มาจากสุสานโบราณ ภายในพระราชวังที่ตั้งอยู่กลางทะเลทราย ในที่สุด เขาก็พบความทรงจำเกี่ยวกับเทคนิคการหายใจที่เก่าแก่มาก เจอรัลด์นึกถึงช่วงเวลาที่เขาพยายามฝึกฝนเทคนิคเหล่านั้น แม้ว่ามันจะไม่ประสบผลสำเร็จก็ตาม เขาจำได้ว่า ไม่ว่าเขาจะฝึกฝนอย่างหนักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถทำให้มันถูกต้องได้เลย ตอนนั้นเขาทำได้เพียงฝึกฝนเทคนิคที่ชั่วร้าย วิชากลืนกินดวงวิญญาณจนสำเร็จ ชายผู้นี้เคยบอกกับเขาว่า หลังจากที่เขาได้รับศีลจุ่มจากสวรรค์แล้ว ก็ถือว่าเขาประสบความสำเร็จในการเข้าสู่อากรณาจักรแห่งโลกวิญญาณ หรือพูดอีกนัยหนึ่
แม้ว่าเธอจะประหลาดใจกับเรื่องนั้น แต่เธอก็ตกใจยิ่งกว่า เมื่อเห็นสภาพของเจอรัลด์ โมนิก้ายกมือขึ้นมาปิดปากราวกับว่าเธอกำลังมองสัตว์ประหลาด จากนั้นเธอก็พูดว่า “คุณ… เจอรัลด์ คุณฟื้นพลังแล้วเหรอ…?” "ใช่! พูดตามตรงนะ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเทคนิคการหายใจเหล่านั้นจะมีประโยชน์มากถึงขนาดนี้! พวกมันเป็นสมบัติที่ล้ำค่าอย่างแท้จริง!” เจอรัลด์พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่มือทั้งสองข้างของตัวเอง “ค… คุณช่วยสอนเทคนิคแบบนั้นให้ฉันด้วยได้ไหม?” โมนิก้าถาม ในขณะที่ดวงตาของเธอเป็นประกาย เห็นได้ชัดว่าเธอสนใจที่จะเรียนรู้เทคนิคการหายใจ ที่ทั้งเจอรัลด์และชายวัยกลางคนสามารถทำได้ "ได้สิ! ถ้ามีโอกาสในอนาคต ฉันจะเลือกสอนเทคนิคที่เหมาะสมให้เธอสักอย่างสองอย่างแน่นอน!” เจอรัลด์ตอบด้วยรอยยิ้ม เมื่อมาถึงจุดนี้ เจอรัลด์ปฏิบัติต่อเธอในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธที่จะสอนเทคนิคง่าย ๆ บางอย่างแก่เธอ เขาได้ระบุคำว่า 'เทคนิคที่เหมาะสมสำหรับเธอ' เนื่องจากการเรียนรู้บางอย่าง เช่น วิชาท้องฟ้าพิโรธนั้นค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากสำหรับโมนิก้า ด้วยสภาพร่างกาย และทักษะปัจจุบันของเธอ ยิ่งไปกว่านั้น วิช
ผู้นำแห่งคิงวัลเลย์มีชื่อว่า รูเพิร์ท เยทแมนแม้ว่าชื่อนั้นจะฟังดูไม่โดดเด่นในหมู่คนทั่วไป แต่ก็เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงของผู้ที่มีอิทธิพลระดับโลก ซึ่งเห็นได้ชัดตั้งแต่ตอนที่เจอรัลด์เดินทางมาถึงที่นี่ ในขณะที่เขากำลังเดินตามไมลส์ไป เขาสังเกตเห็นป้ายต่าง ๆ มากมายติดแสดงไว้รอบ ๆ หุบเขา และป้ายเหล่านั้นก็คือภาพคนดังจากทั่วทุกมุมโลกนั่นเองเจอรัลด์พอจะเดาได้ว่า บุคคลที่อยู่ในภาพเหล่านั้นน่าจะเป็นคนที่เคยมาที่นี่เพื่อขอยาในขณะที่พวกเขาเดินต่อไป ไมลส์ยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ชายคนนั้นได้มารู้จักกับผู้นำของหุบเขาแห่งนี้ได้อย่างไร อย่างที่ไมลส์ได้กล่าวไว้แล้วก่อนหน้านี้ ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นคนขับรถส่วนตัวของผู้นำของหุบเขาแห่งนี้ และในตอนนั้น ทั้งคู่ก็มักจะออกเดินทางด้วยกันอยู่บ่อยครั้งอย่างไรก็ตาม วันหนึ่งทั้งคู่เจอศัตรูที่ตั้งใจจะฆ่าพวกเขาให้ได้! สิ่งต่าง ๆ เลวร้ายจนไมลส์ถึงกับต้องแบกเจ้านายของตัวเองไว้บนหลัง ขณะที่พวกเขาหนีเอาชีวิตรอด!โชคยังดีที่ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับชายคนนั้น ในขณะที่พวกเขายังคงพยายามจะหนีให้พ้นจากผู้ที่กำลังไล่ล่า ชายคนนั้นกำลังเดินทางกลับบ้าน และเห็นว่าพวกเขากำล
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ