“เขาได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โดยใครบางคนที่แข็งแกร่งมาก! ถ้าผมเคลื่อนไหวช้ากว่านี้ ผมคงจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว!” โฮแกนอธิบายด้วยความรู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่ง “แล้วใครกันแน่ที่เป็นคนทำร้ายเธอ” อีเร็ตถาม ขณะที่เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ตอนนั้นผมกำลังจดจ่ออยู่กับการหลบหนีการโจมตีของเขา ผมจึงมองเห็นเขาไม่ชัด!” “…เป็นไปได้ไหมว่ามีกองกำลังอื่นที่แอบช่วยเจอรัลด์อยู่…?” อีเร็ตพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เธอจมดิ่งลงไปในความคิด ใครก็ตามที่สามารถเอาชนะโฮแกนได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น อย่างน้อยพวกเขาต้องมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับขั้นสุดท้ายของอาณาจักรแห่งโลกวิญญาณ แม้ว่าเธอจะอนุมานได้มากน้อยเพียงใด อีเร็ตก็ไม่สามารถสรุปได้ว่า กองกำลังของใครที่เข้ามาช่วยเหลือเจอรัลด์เอาไว้ในครั้งนี้ ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงของใครบางคนพูดขึ้นมาว่า “ไม่ทราบว่าเจอรัลด์เป็นคนที่สร้างปัญหาให้กับคุณย่าทวดหรือเปล่าครับ?” เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เธอเห็นเด็กหนุ่มที่หล่อเหลามากคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาทางประตูทางออก มือทั้งสองของเขาที่ประสานกันไว้ด้านหลัง เมื่อเขาก้าวเข้าไปข้างใน ปฏิกิริยาแรกของเขาคือการมองผ่านห้องโถงด้
ด้วยเหตุนี้ พวกกันเทอร์และสมาชิกจากกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษาจึงตกลงร่วมมือกันเพื่อตามล่าเจอรัลด์ เห็นได้ชัดว่าการตามหาเจอรัลด์เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทั้งอีเร็ต และราชาแห่งกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษา ในเวลาเดียวกัน กองกำลังทั้งสองก็รู้ดีว่า แม้แต่ควีนน่า ซึ่งเป็นหัวหน้ากองกำลังที่ร้ายกาจก็กำลังมองหาเจอรัลด์เหมือนกัน แต่เป้าหมายของควีนน่าในการตามหาเจอรัลด์นั้นแตกต่างจากพวกเขา คือเธอต้องการให้เขาแต่งงานกับเธอ แม้จะมีเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนในการตามหาเจอรัลด์ แต่ทั้งคุณหญิงกันเทอร์และราชาแห่งกลุ่มประตูมิติแห่งการพิพากษา ก็ยังคงจับตาดูการกระทำของควีนน่าอย่างใกล้ชิด ส่วนภารกิจในการตามหาตัวเจอรัลด์ได้ตกเป็นหน้าที่ของเฟลตันและโฮแกน ในขณะที่พวกกันเทอร์มีอำนาจในการควบคุมเมืองโบราณได้อย่างเต็มที่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อิทธิพลของพวกเขาได้แผ่ขยายไปทั่วทั้งเมืองเคอร์ตัน ด้วยเหตุนี้ พวกกันเทอร์จึงสั่งให้พวกไซมม์จากเมืองเคอร์ตันช่วยเหลือพวกเขาในการค้นหาตัวเจอรัลด์ โดยใช้คนกลุ่มใหญ่และจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้พวกเขา แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากระดมกำลังกันเพื่อตามล่าเจอรัลด์ แต่อีเร
“ด้วยความน่ารักของเธอในตอนนี้ ฉันมั่นใจว่าเธอจะต้องเติบโตเป็นผู้หญิงที่สวยมากแน่ ๆ” โมนิก้าพูดด้วยรอยยิ้ม "ผมเห็นด้วย ผมแน่ใจว่าเธอจะค่อนข้างคล้ายกับคุณในแง่ของความงาม!” เจอรัลด์ตอบด้วยรอยยิ้ม ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็เอาผ้าขนหนูสีขาวที่ถืออยู่ขึ้นมาปิดปาก ก่อนที่จะเริ่มไออย่างรุนแรง เมื่อเห็นว่าผ้าขนหนูผืนนั้นเริ่มเปื้อนเลือด โมนิก้าก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ทางที่ดีคุณอย่าเพิ่งเดินไปเดินมาดีกว่านะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว อาการบาดเจ็บของคุณก็ยังไม่หายดี รู้ไหมล่ะ? พูดตามตรง ฉันยังทำใจยอมรับเกี่ยวกับความผิดปกติของร่างกายคุณไม่ค่อยได้เลยนะ!” หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็หันมามองเธอและพบว่าเธอกำลังจ้องไปที่หน้าอกของเขาอย่างตั้งใจ เจอรัลด์จึงรู้สึกแปลก และถามเธอออกมาว่า “…ทำไมคุณถึงจ้องหน้าอกผมแบบนั้น…?” “อย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิดสิ! ฉันแค่มองจี้หยกของคุณน่ะ! มันกลับมาเปล่งประกายอีกแล้วนะ รู้ไหม? ตั้งแต่วันที่คุณถูกพาตัวมาที่นี่ จี้จะส่องสว่างในเวลาเดียวกันทุกเช้าและทุกคืน เมื่อคิดย้อนกลับไป มันน่าจะทำแบบนั้นหลายสิบครั้งแล้ว!” โมนิก้าตอบ ในขณะที่เธอกลอกตาใส่เจอรัลด์ ก่อนจะชี้ไปที่จี้หยกทร
“ฉัน… ฉันไม่รู้จริง ๆ!” เซียร่าร้องออกมา ขณะที่เฟลตันยกเธอขึ้นไปในอากาศ ไม่ว่าเขาจะข่มขู่เธอมากแค่ไหน เซียร่าก็ยังคงปฏิเสธว่าเธอไม่รู้อะไรเลย เมื่อเขาเข้าใจแล้วว่าเขาไม่สามารถเอาข้อมูลอะไรมาจากเธอได้ เขาจึงหันไปจ้องพ่อและแม่ของเซียร่าด้วยสายตาที่เย็นชาแทน ก่อนจะถามว่า “แล้วแกสองคนล่ะ? รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม?” เมื่อเห็นว่าทั้งคู่ไม่กระตือรือร้นที่จะตอบ เขาจึงจับคอของเซียร่า แล้วค่อย ๆ เพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น ทั้งเอเลียสและภรรยาของเขา ซึ่งกำลังร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก ก็ได้แต่กัดฟันตัวเองอย่างตื่นตระหนก ในขณะที่ทั้งคู่รู้ความจริงว่าเฟลตันกำลังตามหาเจอรัลด์ ชายหนุ่มที่ได้รับการช่วยเหลือจากชายวัยกลางคน แต่พวกเขาก็ภักดีต่อชายคนนั้นเป็นอย่างมาก และไม่เคยคิดที่จะทรยศเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว ทั้งสองก็เอาแต่ส่ายหัว "…ฮึ! ฉันรู้อยู่แล้วแหละ! พวกแกมันเป็นพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! งั้นฉันจะแสดงให้พวกแกดู!” เฟลตันหัวเราะเยาะ ขณะยกแขนขึ้นช้า ๆ... ก่อนจะลดระดับลงมาด้วยการรูดลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง! ในขณะนั้น ทุกคนตัวแข็งทื่อ พวกเขาไม่แน่ใจนักว่
หากยังไม่ชัดเจนพอ เขาคือคนที่เพิ่งกลับมาจากเก็บสมุนไพรให้เจอรัลด์นั่นเอง เขาสัมผัสได้ถึงสถานการณ์อันตรายที่กำลังเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปในสลัมด้วยซ้ำ เมื่อรู้ว่าเขาไม่สามารถไปถึงที่เกิดเหตุได้ทันเวลา เขาจึงใช้พลังจิตอันศักดิ์สิทธิ์ของเขา เพื่อบังคับมีดให้ลอยมาปลดมีดของเฟลตันที่กำลังจะเฉือนคอของเซียร่าออกไป อนิจจา เมื่อเขาเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ เขาถึงได้รู้ว่าเฟลตันได้แยกชิ้นส่วนแขนของเซียร่าออกจากร่างของเธอแล้ว! “ส่งเธอมาให้ฉัน และเก็บรักษาแขนที่ขาดของเธอให้ดี! เธอยังมีสิทธิ์ที่จะหายได้!” ชายคนนั้นสั่ง ขณะที่เขารีบประคองเด็กสาวที่หมดสติก่อนจะรีบวิ่งกลับบ้านไป เนื่องจากระยะทางระหว่างบ้านของเขากับบ้านของเซียร่าค่อนข้างห่างไกลกัน ชายผู้นี้จึงรู้ว่าเขาไม่มีเวลามากนัก เมื่อมาถึงบ้านของเขา ทั้งเจอรัลด์และโมนิก้าต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเซียร่าตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขารีบดึงสติตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว และเริ่มช่วยเหลือเด็กหญิงที่กำลังบาดเจ็บ เนื่องจากเจอรัลด์มีความรู้เรื่องศิลปะการจัดกระดูก และชายวัยกลางคนก็มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์อย่างล้นห
หลังจากนั้น เจอรัลด์ก็คุยกับชายคนนั้นต่อจนดึก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะกลับมาที่ห้องของเขาแล้ว แต่เจอรัลด์ก็เลือกที่จะไม่นอน หลังจากที่เขาได้คุยกับชายคนนั้นแล้ว เจอรัลด์จึงตระหนักได้ว่า การฝึกตัวเองอย่างสม่ำเสมอนั้นสำคัญเพียงใด เพราะแม้ว่าวันนี้เฟลตันจะหวาดกลัวจนหนีกลับไป แต่เจอรัลด์ก็รู้ดีว่า ในที่สุดเขาจะกลับมาในรูปแบบที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ เจอรัลด์จึงนั่งขัดสมาธิในห้องของเขา ขณะที่เขาพยายามรำลึกถึงความทรงจำมากมายเกี่ยวกับเทพเจ้าที่ฝังอยู่ในหัวของเขา เขาได้รับความทรงจำเหล่านี้มาจากสุสานโบราณ ภายในพระราชวังที่ตั้งอยู่กลางทะเลทราย ในที่สุด เขาก็พบความทรงจำเกี่ยวกับเทคนิคการหายใจที่เก่าแก่มาก เจอรัลด์นึกถึงช่วงเวลาที่เขาพยายามฝึกฝนเทคนิคเหล่านั้น แม้ว่ามันจะไม่ประสบผลสำเร็จก็ตาม เขาจำได้ว่า ไม่ว่าเขาจะฝึกฝนอย่างหนักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถทำให้มันถูกต้องได้เลย ตอนนั้นเขาทำได้เพียงฝึกฝนเทคนิคที่ชั่วร้าย วิชากลืนกินดวงวิญญาณจนสำเร็จ ชายผู้นี้เคยบอกกับเขาว่า หลังจากที่เขาได้รับศีลจุ่มจากสวรรค์แล้ว ก็ถือว่าเขาประสบความสำเร็จในการเข้าสู่อากรณาจักรแห่งโลกวิญญาณ หรือพูดอีกนัยหนึ่
แม้ว่าเธอจะประหลาดใจกับเรื่องนั้น แต่เธอก็ตกใจยิ่งกว่า เมื่อเห็นสภาพของเจอรัลด์ โมนิก้ายกมือขึ้นมาปิดปากราวกับว่าเธอกำลังมองสัตว์ประหลาด จากนั้นเธอก็พูดว่า “คุณ… เจอรัลด์ คุณฟื้นพลังแล้วเหรอ…?” "ใช่! พูดตามตรงนะ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเทคนิคการหายใจเหล่านั้นจะมีประโยชน์มากถึงขนาดนี้! พวกมันเป็นสมบัติที่ล้ำค่าอย่างแท้จริง!” เจอรัลด์พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่มือทั้งสองข้างของตัวเอง “ค… คุณช่วยสอนเทคนิคแบบนั้นให้ฉันด้วยได้ไหม?” โมนิก้าถาม ในขณะที่ดวงตาของเธอเป็นประกาย เห็นได้ชัดว่าเธอสนใจที่จะเรียนรู้เทคนิคการหายใจ ที่ทั้งเจอรัลด์และชายวัยกลางคนสามารถทำได้ "ได้สิ! ถ้ามีโอกาสในอนาคต ฉันจะเลือกสอนเทคนิคที่เหมาะสมให้เธอสักอย่างสองอย่างแน่นอน!” เจอรัลด์ตอบด้วยรอยยิ้ม เมื่อมาถึงจุดนี้ เจอรัลด์ปฏิบัติต่อเธอในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธที่จะสอนเทคนิคง่าย ๆ บางอย่างแก่เธอ เขาได้ระบุคำว่า 'เทคนิคที่เหมาะสมสำหรับเธอ' เนื่องจากการเรียนรู้บางอย่าง เช่น วิชาท้องฟ้าพิโรธนั้นค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากสำหรับโมนิก้า ด้วยสภาพร่างกาย และทักษะปัจจุบันของเธอ ยิ่งไปกว่านั้น วิช
ผู้นำแห่งคิงวัลเลย์มีชื่อว่า รูเพิร์ท เยทแมนแม้ว่าชื่อนั้นจะฟังดูไม่โดดเด่นในหมู่คนทั่วไป แต่ก็เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงของผู้ที่มีอิทธิพลระดับโลก ซึ่งเห็นได้ชัดตั้งแต่ตอนที่เจอรัลด์เดินทางมาถึงที่นี่ ในขณะที่เขากำลังเดินตามไมลส์ไป เขาสังเกตเห็นป้ายต่าง ๆ มากมายติดแสดงไว้รอบ ๆ หุบเขา และป้ายเหล่านั้นก็คือภาพคนดังจากทั่วทุกมุมโลกนั่นเองเจอรัลด์พอจะเดาได้ว่า บุคคลที่อยู่ในภาพเหล่านั้นน่าจะเป็นคนที่เคยมาที่นี่เพื่อขอยาในขณะที่พวกเขาเดินต่อไป ไมลส์ยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ชายคนนั้นได้มารู้จักกับผู้นำของหุบเขาแห่งนี้ได้อย่างไร อย่างที่ไมลส์ได้กล่าวไว้แล้วก่อนหน้านี้ ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นคนขับรถส่วนตัวของผู้นำของหุบเขาแห่งนี้ และในตอนนั้น ทั้งคู่ก็มักจะออกเดินทางด้วยกันอยู่บ่อยครั้งอย่างไรก็ตาม วันหนึ่งทั้งคู่เจอศัตรูที่ตั้งใจจะฆ่าพวกเขาให้ได้! สิ่งต่าง ๆ เลวร้ายจนไมลส์ถึงกับต้องแบกเจ้านายของตัวเองไว้บนหลัง ขณะที่พวกเขาหนีเอาชีวิตรอด!โชคยังดีที่ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับชายคนนั้น ในขณะที่พวกเขายังคงพยายามจะหนีให้พ้นจากผู้ที่กำลังไล่ล่า ชายคนนั้นกำลังเดินทางกลับบ้าน และเห็นว่าพวกเขากำล