เจอรัลด์พบว่าตัวเองกำลังถอยห่างจากคนที่นั่งนิ่งอยู่ที่มุมถ้ำ อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เจอรัลด์ก็ตระหนักได้ว่าคน ๆ นั้นไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยเมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เจอรัลด์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเขาเห็นว่าดวงตาของบุคคลนั้นปิดอยู่ เป็นใครก็ต้องตกใจ ถ้าได้เห็นชายผู้ชายที่ยังมีชีวิตนั่งอยู่บนภูเขาเพียงลำพัง!เมื่อเขาค่อย ๆ เข้าใกล้ร่างนั้น ซึ่งกำลังนั่งไขว้ขาอยู่ เจอรัลด์ก็สังเกตเห็นว่าเขาเป็นชายชราผมขาวที่สวมเสื้อคลุม เขามีผิวแดงก่ำ และดวงตาปิดสนิท เขามีลักษณะเหมือนกับพระที่กำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการนั่งสมาธิเมื่อเดินเข้าไปใกล้เพื่อตรวจสอบว่าชายชรายังหายใจอยู่หรือไม่ เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น!เมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว เจอรัลด์จึงเข้าใกล้ชายชรามากขึ้น เพื่อทำการตรวจสอบร่างกายของเขา อย่างไรก็ตาม ในวินาทีที่เขาเอื้อมมือไปใกล้ ใบหน้าของชายชราคนนั้นก็กลายเป็นใบหน้าที่ว่างเปล่าทันที ผิวหนังของเขาแห้งกร้านอย่างรวดเร็ว! และเพียงชั่วพริบตา ร่างของเขาก็กลายเป็นมัมมี่!เจอรัลด์รีบเคลื่อนตัวออกห่างจากจุดที่เขายืนอยู่ จากนั้นเขาก็จ้องมองไ
เนื่องจากเจอรัลด์มีอาวุธที่ทรงพลังชิ้นนี้อยู่กับตัว คนทั้งเก้าจึงหลบหนีไปสักระยะ เพราะกลัวว่าเจอรัลด์อาจจะลงเอยด้วยการฆ่าพวกเขาแทนหลังจากที่พวกเขาหนีไปได้แล้ว พวกก็นึกขึ้นได้ว่า เจอรัลด์ยังไม่สามารถควบคุมพลังของจี้หยกได้อย่างคงที่นัก ขณะที่ทั้งเก้าคนค่อย ๆ ฟื้นคืนพละกำลัง ต่างคนก็ต่างคิดหาวิธีที่จะขโมยจี้หยกของเจอรัลด์มาให้ได้ ก่อนที่จะพาตัวเขาไปด้วยเมื่อตัดสินใจได้แล้ว พวกเขาทั้งหมดก็เริ่มเดินทางมายังเมาน์เทนท็อป ในช่วงเวลาที่เรี่ยวแรงของพวกเขาฟื้นตัวเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายไม่คาดคิดว่าจะเจอกันระหว่างทางไปที่นั่นเนื่องจากเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาก่อน พวกเขาจึงต่อสู้และทะเลาะเบาะแว้งกันมาตลอดทาง“ช่างโชคร้ายเหลือเกิน ที่ต้องมาเจอกับเธออีกครั้ง! แต่ถึงกระนั้น สุดท้ายแล้ว เราจะเป็นคนที่ได้ครอบครองทั้งเจอรัลด์และจี้หยกนั่นอย่างแน่นอน!”หลังจากทะเลาะกันอยู่พักใหญ่ ทั้งเก้าคนก็ผ่านเขตหวงห้ามบนยอดเขาไปอย่างรวดเร็วบอดี้การ์ดหลายคนสังเกตเห็นการบุกรุกเข้ามาอย่างรวดเร็วของพวกเขา และรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงรีบแจ้งถึงสิ่งที่พวกเขาเพิ่งพบเห็นให้ผู้บังคับบัญชา
ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม เชสเตอร์ก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว เขาใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายเพื่อยกแขนขึ้นมาป้องกันการโจมตีอันรุนแรงของเทียร่า!“นายประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไป ไอ้หนู!” เทียร่าเย้ยหยัน ในขณะที่เธอเริ่มเพิ่มพลังการโจมตีของเธอเป็นสองเท่าทันที! เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะตัดเส้นลมปราณในร่างกายของเชสเตอร์ให้หมดสิ้น!เมื่อฝ่ามือทั้งสองปะทะกัน เสียงระเบิดก็ดังขึ้น!แม้ว่าร่างของเชสเตอร์จะขยับจากแรงปะทะเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเทียร่ากลับตรงกันข้ามหญิงชราพบว่าตัวเองกระเด็นถอยหลังในทันที ร่างของเธอลอยไปชนเข้ากับลำต้นของต้นไม้ใหญ่หลายต้น จนพวกมันหักออกเป็นท่อน ๆ! เธอรู้สึกราวกับว่า เธอเพิ่งถูกพายุทอร์นาโดพัดถล่ม และผลจากการกระแทกกับต้นไม่อย่างรุนแรงนั้น ก็ทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะแตกสลาย! หลังจากทิ้งรอยเลือดที่เธอกระอักออกมาจากแรงกระแทกไว้บนพื้น ในที่สุดเธอร่างของเธอก็หยุดไถล หลังจากที่ชนต้นไม่ไปหลายต้นแล้ว!เมื่อถึงจุดนั้น แขนขาทั้งสี่ของเธอก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด และเธอก็รู้สึกว่าอวัยวะภายในส่วนใหญ่ของเธอได้รับความเสียหายอย่างหนัก เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองเชสเตอร์
“ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย คุณคลอฟอร์ด…!” ชายคนนั้นอ้อนวอน ในขณะที่เขาคลานถอยหลังกลับมา ก่อนจะหันกลับและคุกเข่าต่อหน้าเจอรัลด์ เขาตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างถึงที่สุดเขาไม่คิดเลยว่าเจอรัลด์จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หลังจากพบกันครั้งล่าสุดเมื่อสามวันที่แล้วเพียงเท่านั้น! เขาแข็งแกร่งจนเกินไป!ชายผู้นี้ฉลาดพอ และรู้ดีว่าเขาไม่ควรฝืนที่จะต่อสู้ต่อไป เมื่อโชคชะตาไม่เข้าข้างเขา การหลบหนีคือทางเลือกเดียวสำหรับเขาในตอนนี้ หากเขาต้องการจะเอาชีวิตรอด!“ถ ถ้าคุณไว้ชีวิตผม ผมจะเปิดเผยความลับที่ยิ่งใหญ่บางอย่างกับคุณ คุณคลอฟอร์ด!” ชายผู้นั้นพูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก พร้อมกับหายใจเข้าลึกอย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ก็ยกเท้าขึ้น และเหยียบลงบนศีรษะของชายคนนั้นชายคนนั้นกลืนน้ำลายแล้วพูดต่อว่า “ผม ผมจะบอกทุกอย่างที่ผมรู้ ตราบใดที่คุณสัญญาว่าจะไว้ชีวิตผม…!”ในขณะที่ชายคนนั้นกำลังพยายามจะดึงอาวุธที่ซ่อนอยู่ออกมาจากแขนเสื้อของเขา เจอรัลด์ตอบกลับเพียงว่า "ขอโทษนะ แต่ฉันไม่สนใจ"ทันใดนั้น เขาก็เพิ่มแรงกดลงไปที่เท้าของเขาจนทำให้เกิดเสียงดัง 'เผละ' ที่ฟังดูน่าขยะแขยง ในขณะที่ศีรษะของชายคนนั้นแตกกระจายออกเป็นช
เจอรัลด์หันกลับไปเพื่อดูว่าเป็นใคร และเขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจที่เห็นนาโอมิอยู่ที่นั่น เมื่อคิดย้อนกลับไป เขาไม่ได้เจอเธอมาหลายวันแล้ว“เธอมาทำอะไรที่นี่ นาโอมิ” เจอรัลด์ถาม“คือว่าอาจารย์นาโคลกำลังจะขึ้นบรรยายในวันนี้ และฉันต้องรับผิดชอบในการพานักเรียนที่มีผลการเรียนโดดเด่นในชั้นเรียนของเรามาร่วมฟังการบรรยายด้วย! แล้วเธอล่ะ? เธอสนใจที่จะมาร่วมฟังการบรรยายในหัวข้อนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ?” นาโอมิตอบ ในขณะที่เธอมองเจอรัลด์ด้วยรอยยิ้มการพบกับเจอรัลด์เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ และน่ายินดีเสมอสำหรับนาโอมิ อันที่จริงแล้ว เมื่อใดก็ตามที่เธอนอนไม่หลับ นาโอมิมักจะรู้สึกว่าอยากโทรหาเจอรัลด์เพื่อดูว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ และถามว่าช่วงนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง เธอไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับชีวิตเขาสักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายแล้ว นาโอมิก็เลือกที่จะหลีกเลี่ยงเขาอยู่ตลอดเวลา เพราะเธอไม่ต้องการลงเอยด้วยการตกหลุมรักเจอรัลด์อีกครั้งเจอรัลด์เองก็รับรู้ถึงความรู้สึกของนาโอมิที่มีต่อเขาถึงเธอจะรู้สึกเช่นนั้น แต่นาโอมิก็รู้ดีว่าเจอรัลด์มีใจภักดีต่อมิล่าเป็นที่สุด ไม่มีอะไรมาขวางทางเขาในการตามหาเธอได้ และเขาจะไม่
“ผม ผมไม่ได้ตั้งใจ…!” นักเรียนชายที่ยังรู้สึกเจ็บจากการตบตอบเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่เสียงเอะอะโวยวายของผู้หญิงจะดึงดูดความสนใจจากคนหลาย ๆ คนที่ได้ยิน และนักเรียนคนนั้นก็รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก เมื่อมีผู้คนมากมายกำลังจดจ้องสายตามาที่เขา นักเรียนคนนี้ฉลาดพอที่จะรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะตอบโต้ หรือยั่วยุพวกเขาได้เช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว บุคคลทั้งสองก็ดูจะเป็นชนชั้นสูงที่ร่ำรวย เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้ว เขาก็ได้แต่พูดติดอ่างต่อไปด้วยความลำบากใจ“'แกไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ?! แน่นอน แกอาจจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ภรรยาของฉันก็ยังเปียกโชกไปด้วยไวน์ใช่ไหมล่ะ! เว้นแต่แกจะบอกฉันว่า แกวางแผนสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว!” สามีของผู้หญิงคนนั้นคำราม ในขณะที่เขาเดินเข้ามาเตะที่ท้องของเด็กชายทันที!มองเพียงแค่แวบเดียว ทุกคนก็สามารถบอกได้ว่าสามีของเธอไม่ใช่คนที่พวกเขาควรจะยั่วยุด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงได้แต่มองดูเด็กชายอย่างเวทนนา ขณะที่เขาน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวดหลังจากถูกเตะออกไปไกลพอสมควร"ฮึ! ฉันจะบอกให้รู้เอาไว้เลยนะว่า ชุดนี้มีราคาถึงหมื่นกว่าดอลลาร์! และตอนนี้มันก็ใส่ไม่ได้อีกแล้ว! แกรี
"แก…!"ตอนนี้ไซล่ารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก จนเธอรู้สึกราวกับว่า เธอสามารถระเบิดความโกรธออกมาได้ทุกวินาที! คนอะไรช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!เธอหันไปส่งสายตาเป็นการเตือนให้เจอรัลด์และนาโอมิ จากนั้นเธอจึงรีบวิ่งไปนั่งข้าง ๆ ชายวัยกลางคนพร้อมกับตะโกนว่า “ที่รัก! คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ที่รัก?!”แม้ว่าปากของเขาจะเต็มไปด้วยเลือด แต่เซดี้ก็ยังมีสติอยู่ เนื่องจากเจอรัลด์ไม่ได้ใช้กำลังมากขนาดนั้นในการตบเขา แต่ในตอนนี้ชายวัยกลางคนกำลังรู้สึกเดือดดาล ในขณะที่เขาคำรามออกมาด้วยน้ำเสียงอำมหิต “ไปเรียกประธานแฮเรลล์มาเดี๋ยวนี้! และอย่าปล่อยให้ไอ้เด็กคนนั้นหนีไปได้! ฉันจะฆ่ามัน ถ้านั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องทำ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไซล่าก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคนทันที ในขณะเดียวกันนั้น ผู้คนที่กำลังมุงดูก็พากันกระซิบกระซาบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น“ไหนพูดอีกทีสิ คนที่กำลังโดนทำร้าย… เขาคือคุณลาวิงตันใช่ไหม? คุณลาวิงตันจาก บริษัทอสังหาริมทรัพย์ดาโกต้า อย่างนั้นเหรอ?”"ใช่จริง ๆ ด้วย ทุกคนรู้ดีว่าคุณลาวิงตันนั้นโหดเหี้ยมเพียงใด เขาไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่เขายังเ
ตอนนี้ฮักซ์ลีย์ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม เขารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากกับชะตากรรมของเขาและคนในครอบครัว ครอบครัวของเขาไม่ใช่คนที่มีฐานะดีตั้งแต่แรก และเขารู้ดีว่าการที่พ่อแม่ของเขาต้องทำงานหนัก เพื่อเลี้ยงดูคนครอบครัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ประธานแฮเรลล์คนนี้ กลับสั่งให้พ่อแม่ของเขามาคุกเข่าต่อหน้าคุณลาวิงตัน! เด็กชายทำได้เพียงตัวสั่นด้วยความกลัว ขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มไร้เรี่ยวแรง"กลับเหรอ? แกคิดว่าแกจะกลับออกไปได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ? ฉันจะบอกให้พวกแกรู้ไว้เลยนะว่า การประชุมกำลังจะเริ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นพวกแกไม่ควรจะทำให้ฉันเสียเวลาอีกต่อไป นอกจากนี้แล้ว พวกแกต้องรีบโทรหาผู้นำทั้งหมดจากโรงเรียน รวมถึงสมาชิกในครอบครัวของพวกแกทั้งหมดให้มาที่นี่ทันที ถ้ากล้าที่จะทำร้ายลูกพี่ลูกน้องของฉัน… ก็ต้องให้คำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด หากยังหวังที่จะกลับไปจริง ๆ!” ดิกซอนพูดเย้ยหยัน เขาเป็นคนที่ละเอียดถี่ถ้วนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เป็นอย่างมากนักเรียนคนอื่น ๆ หวาดกลัวมากจนไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจดังเกินไป เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่ค่อนข้างใหญ่โตในงานเลยทีเดียว“ในที่สุด เธอ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ