ไม่นานนัก คนงานสองพันคนก็เดิมทางมาถึง และพร้อมที่จะเริ่มงานทันทีในเมื่อพวกเขามีหน้าที่ที่จะต้องขุดเจาะภูเขา พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพัง เมาน์เทนท็อปวิลล่าลงมาเนื่องจากงานที่พวกเขาทำค่อนข้างจะเอิกเกริก ไม่นานนัก ผู้คนที่ผ่านมาพบเห็นก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยเหตุนั้น ข่าวภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาก็แพร่สะพัดไปบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง จนกลายเป็นหัวข้อสนทนาอันร้อนระอุของชาวเมืองเมย์เบอร์รี่ไปโดยปริยาย“พวกเขามีแผนจะทำลาย เมาน์เทนท็อปวิลล่าจริงเหรอเนี่ย?”“ก็ใช่น่ะสิ! บ้าจริง! น่าเสียดายที่วิลล่าราคาหนึ่งร้อยยี่สิบล้านดอลลาร์นั่นจะต้องถูกทำลายลง… พวกเขาคงจะร่ำรวยมากสินะ!” ผู้คนที่ชื่นชอบวิลล่าแห่งนี้พูดคุยกันนอกจากข่าวเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงไปทั่วทั้งโลกออนไลน์แล้ว ฝ่ายบริหารของเมาน์เทนท็อปวิลล่ากลับยังไม่ได้รับข่าวสารอะไรเกี่ยวกับการทำลายวิลล่าเลยแม้แต่นิดเดียว มันช่วยไม่ได้ที่เวลาแซคจะทำอะไร เขาไม่ค่อยชอบอธิบายรายละเอียดให้ลูกน้องของเขาฟัง เพราะเขารู้สึกว่ามันไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องทำเช่นนั้นอย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารรู้ดีอยู่แล้วว่าเมาน์เทนท็อปวิลล่า ไม่ใช่แ
ทันใดนั้นเอง ประตูของวิลล่าก็เปิดออก บอดี้การ์ดสองคนลากตัวริต้าเข้ามาข้างในริต้าพยายามดิ้นรนให้ตัวเองหลุดออกจากพันธนาการของพวกเขา ก่อนจะตะโกนออกมา “ปล่อยฉัน! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!”“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้เลย!” เจอรัลด์ตะโกน ในขณะที่เดินตรงมาหาพวกเขา“... เจอรัลด์?” ทันทีที่เธอเห็นเขา ริต้าก็บ่นพึมพำด้วยความรู้สึกประหลาดใจ หลังจากที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอหายไป เธอก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวของเธอจากเจอรัลด์อีกเลยหลังจากที่เธอหายตกใจ ริต้าก็คิดกับตัวเองว่า ‘หืม เจอรัลด์ คลอฟอร์ด… ทายาทผู้ร่ำรวยของตระกูลคลอฟอร์ด… ผู้มีเงินทองมากมายมหาศาล… เขาเป็นคนที่มีอำนาจขนาดนั้น ฉันยังนึกสงสัยว่าทำไมเขาถึงยังนึกถึงลูกพี่ลูกน้องของฉันอยู่อีก… บ้าจริง เขาไม่เคยติดต่อเรามาเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่เธอหายตัวไป… เขาคงจะไม่แคร์หรอกมั้ง ว่าลูกพี่ลูกน้องของเราจะเป็นจะตายอย่างไรในตอนนี้!’ในตอนนั้น เจอรัลด์ได้ส่งแซคไปปลอบขวัญคนในตระกูลสมิทที่เหลือเท่านั้น ตามที่เจอรัลด์ได้สั่งเขาเอาไว้ แซคบอกกับพวกเขาว่า พวกเขามาหาแซคได้เสมอ หากต้องการความช่วยเหลือ ตระกูลคลอฟอร์ดเต็มใจที่จะช่วยเหลือตระกูลสมิทเสมอ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามถ
“… มัน… มันเป็นความจริงใช่ไหม…?” ริต้าถามหลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของเขา และเห็นถุงเครื่องหอมนั้นแล้ว ริต้าก็เริ่มรู้สึกเชื่อคำพูดของเขาขึ้นมาบ้าง และเธอก็รู้ว่าเจอรัลด์เป็นคนอย่างไร อย่างน้อยก็ในอดีต เพราะเขาดูไม่เหมือนคนที่จะลืมคนที่เคยรักอย่างมากมายได้ลงคอเช่นนั้น“ผมขอบอกตรงนี้เลยว่า ที่ผมไม่ติดต่อไปหาพวกคุณด้วยตัวของผมเองตลอดสองปีที่ผ่านมา ก็เป็นเพราะว่า ผมรู้สึกอับอายที่จะต้องเผชิญหน้ากับคนในตระกูลสมิท คิดว่าผมจะคอยส่งแซคไปช่วยเหลือพวกคุณทำไมกัน? แต่ถึงกระนั้น แซคได้บอกผมว่า พวกคุณปฏิเสธที่จะรับของขวัญใด ๆ จากผม มันเป็นความจริงหรือไม่?” เจอรัลด์ถาม เขาไม่เคยมีข้อกังขาในเรื่องการตัดสินใจของพวกเขามาก่อน“ก็ใช่น่ะสิ ตระกูลสมิทเองก็มีเกียรติและศักดิ์ศรีที่จะต้องรักษาเอาไว้เช่นกัน หรือไม่ใช่? ก็ในเมื่อตอนนี้มิล่าหายตัวไป และคุณสองคนก็ยังไม่ได้แต่งงานกัน แล้วพวกเรามีสิทธิ์อะไรที่จะไปรับของ ๆ คุณล่ะ? อย่างน้อย นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณยายบอกกับพวกเราเอาไว้!” ริต้าตอบ หลังจากที่เจอรัลด์ได้ไขข้อข้องใจ เรื่องความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาเรียบร้อยแล้วด้วยเหตุนั้น เธอจึงกล้าที่จะบอกร
ริต้ากัดริมฝีปากล่างของเธอเบา ๆ หลังจากที่เธออธิบายเรื่องราวทั้งหมดจบแล้ว“ถ้าคุณยายรู้ว่าพวกเขามีเจตนาที่ไม่ค่อยดี แล้วทำไมเธอถึงอยากจะไปร่วมงานเลี้ยงอยู่อีกล่ะ?” เจอรัลด์ถาม“คุณยายบอกว่า ในเมื่อตระกูลสมิทไม่ได้ทำเรื่องน่าอับอายอะไร จิตวิญญาณของเราก็ไม่ควรจะหวั่นไหวไปกับเจตนาร้ายเหล่านั้น นอกจากนั้นแล้ว จอร์เจียก็ดูแลต้อนรับเราเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่ตอบรับคำเชิญของเธอ” ริต้าตอบ“พอพูดถึงเรื่องนี้ รู้ไหมว่าคุณยายของพวกเราน่ะเริ่มเป็นคนแก่ที่ดื้อดึงขึ้นทุกวัน ๆ ตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา… รู้หรือเปล่าว่าเมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของเธอ เธอบอกว่าเธอคิดถึงมิล่ามาก และจะไม่จัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดอีก จนกว่ามิล่าจะกลับมา!”“... เข้าใจแล้ว ในเมื่อคุณต้องไปร่ามงานเลี้ยงฉลองวันเกิดอยู่แล้ว ผมขออนุญาตไปกับคุณด้วยนะ!” เจอรัลด์ตอบจอร์เจียมาจากตระกูลเซียร์ พวกเขามีสถานะไม่ต่างกับตระกูลสมิทนัก พวกเขาเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดกลางในเมืองเมย์เบอร์รี่มาตั้งแต่ในอดีต แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ ธุรกิจของพวกเขาเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมากในช่วงสองปีที่ผ่านมาในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสห
ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างก็ดีขึ้นตามลำดับ และในตอนนี้ หลานสาวของเธอก็ดันหายตัวไป แฟนหนุ่มที่ร่ำรวยคนนั้นก็ดูเหมือนจะลืมเรื่องของตระกูลสมิทไปหมดแล้ว“เธอยังจำได้ไหม ตอนนั้นที่หลานชายของฉันพยายามตามจีบมิล่า เซเรนิตี้? ฉันสงสัยเหลือเกิน ว่าเธอรู้สึกเสียใจไหม ที่มิล่าหักอกเขาในตอนนั้น… ฉันรู้ว่าเธอคงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร… เพราะทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเด็ก ๆ เอง! แต่ถึงกระนั้น ในฐานะที่เธอเป็นผู้นำครอบครัว เธอไม่คิดว่าเธอควรจะเข้มงวดในเรื่องของการตัดสินใจของหลานสาวเธอสักหน่อยเหรอ? หากเธอทำแบบนั้น หลานสาวของเธอก็คงจะไม่เลือกทางผิด และยอมไปเรียนต่อที่ฮ่องกง! หากไม่เกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้น ป่านนี้เธอคงได้แต่งงานกับหลานชายของฉัน และพวกเขาก็อาจจะได้เปิดบริษัทด้วยกันไปแล้วก็ได้นะ! มันคงจะเป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว!” จอร์เจียป่าวประกาศ ก่อนที่แขกคนอื่น ๆ ที่ได้ยินต่างพากันส่ายหน้า“จริงด้วย! ช่างน่าเสียดาย!”ในขณะที่ผู้คนกำลังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลสมิทก็หน้าแดงเพราะอับอาย โดยเฉพาะเกวินและเฮเลน พ่อและแม่ของหญิงสาวที่หายตัวไปด้วยความที่จอร์เจียพูดถึงชื่อ
จอร์เจียขึ้นเสียงอย่างตั้งใจ เพราะเธอต้องการให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นได้ยินเมื่อทุกคนมุ่งความสนใจมาที่เจอรัลด์แล้ว จัสตินก็ยิ้มอ่อน ก่อนจะพูดว่า “อ้อ ถ้าอย่างนั้น นายก็เป็นลูกพี่ลูกน้องขอฉันอีกคนน่ะสิ! ยินดีที่ได้รู้จักนะ!”เขาไม่ได้สนใจอยากจะจับมือกับเจอรัลด์เลยด้วยซ้ำ ส่วนภรรยาที่ยืนอยู่ข้างเขา ก็เอาแต่มองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของริต้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ในเมื่อเจอรัลด์ไม่ได้แต่งตัวด้วยชุดที่หรูหรามีราคา เธอจึงมองว่าเจอรัลด์ต้องมีความผิดปกติบางอย่างแน่นอน“ในเมื่อเธอเป็นคนที่แสนดี ฉันเลยเดาว่าแฟนของเธอก็ต้องเป็นคนดีเหมือนกัน! ช่วยแนะนำเขาให้พวกเรารู้จักหน่อยสิ!” จอร์เจียพูด“ต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณหญิงวอลฟอร์ด แต่เขาไม่ใช่แฟนฉันหรอกค่ะ” ริต้าตอบ ในขณะที่หันไปมองสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวของเธอที่กำลังนั่งรวมตัวกันบนโต๊ะพวกตระกูลสมิทยังไม่หายตกใจกับภาพที่เห็น พวกเขายังคงอ้าปากค้าง ในขณะที่จ้องมองทั้งสองคนด้วยความนิ่งเงียบ แม้แต่ตัวเซเรนิตี้เอง ก็ยังไม่สามารถรวบรวมสติเพื่อโต้ตอบอะไรได้เลย“... โอ้! เขาไม่ใช่แฟนเธอหรอกเหรอจ๊ะ? แล้วเขาเป็นใครกัน ถึงได้มีสิทธิ์เข้ามาในงานนี้ด้วย?”‘พวกเธ
คำพูดของเจอรัลด์กินใจสมาชิกตระกูลสมิททุกคน รวมถึงเซเรนิตี้ด้วย ตอนนี้พวกเขาได้รู้แล้วว่า พวกเขาเข้าใจเจอรัลด์ผิดมาโดยตลอด และมิล่าก็ไม่ได้มองผู้ชายคนนี้ผิดแต่อย่างใดทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว บรรยากาศภายในวิลล่าได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เจอรัลด์มาถึง ก่อนหน้านี้ไม่มีใครให้ความสนใจตระกูลสมิทสักเท่าไร แต่ในตอนนี้ แขกหลายคนต่างพากันเดินมาที่โต๊ะของพวกเขา เพื่อขอชนแก้วและพูดคุย ด้วยหวังว่าจะได้รู้จักกับพวกเขามากขึ้นกว่าเดิม และแน่นอน บางคนก็เริ่มที่จะมีท่าทีประจบประแจงพวกสมิทเหมือนแต่ก่อนประธานาธิบดีหลายคนก็มารุมเร้าเซเรนิตี้ ก่อนจะพูดว่า “ว่าแต่ว่า เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของคุณใช่ไหมครับ คุณหญิง? ทำไมไม่เห็นส่งการ์ดเชิญมาให้เราบ้างเลยล่ะครับ? น่าเสียดายที่พวกเราไม่ได้มีโอกาสร่วมฉลองกับคุณนะครับ… ไม่ว่าอย่างไร พวกเราจะต้องจัดงานเลี้ยงชดเชยให้คุณแน่นอนครับ!”คนที่กำลังรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็คงจะไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นจอร์เจียเองท้ายที่สุดแล้ว เธอชวนเซเรนิตี้และทุกคนในครอบครัวมาที่นี่ ก็เพื่อที่จะอวดหลานชาย หลานสะใภ้ และหลานเขยของเธอต่างหาก ไม่คิดเลยว่า แฟนหนุ่ม
ยาน่ามีน้ำเสียงที่ฟังดูมั่นใจมากขึ้น“เพื่อน… เพื่อนร่วมชั้นเหรอ?” จัสตินและจอร์เจียพูดออกมาพร้อมกัน ทั้งคู่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากราวกับว่าพวกเขากำลังได้ยินเรื่องราวจากเรื่องเดอะ อาราเบียน ไนทส์ และพวกเขาก็มีเหตุผลมากพอที่จะเกิดความสงสัย เรื่องราวที่บังเอิญแบบนี้มักจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก! นอกจากนั้นแล้ว ถึงยาน่าจะมาจากครอบครัวที่มีอำนาจ แต่เธอก็ไม่มีทางร่ำรวยพอที่จะมีโอกาสได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นของคุณคลอฟอร์ดได้อย่างแน่นอน!“... เธอพูดถึงเพื่อนร่วมชั้นแบบไหนกันเหรอ? เราไม่มีเวลามาล้อเล่นกับเรื่องแบบนี้หรอกนะ ยาน่า! ฉันขอบอกเธอไว้ก่อนเลยว่า ฉันพอจะรู้เรื่องที่มาของแฟนมิล่าอยู่บ้างแล้ว และฉันก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีอำนาจมาก นั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงเชื่อว่า คุณคลอฟอร์ดเป็นแฟนของมิล่าจริง ๆ ตอนที่เขาเปิดเผยตัวตนออกมา! หากเราทำอะไรให้เขาไม่พอใจในตอนนี้ เราอาจจะใช้ชีวิตในเมืองเมย์เบอร์รี่อย่างสงบสุขต่อไปไม่ได้อีกแล้วนะ!” จอร์เจียตอบพร้อมกับเอากำปั้นทุบสะโพกของตัวเองด้วยความวิตกกังวล“ฉันมั่นใจค่ะ ว่าเขาเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉันจริง ๆ ฉันจำได้ชัดเจนว่า ตอนช่วงที่ฉันยังเรียนอยู่ชั้น
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ