หลังจากพูดไปแบบนั้น ผู้ชายที่ดูอายุประมาณเก้าสิบปีได้ก็โค้งคำนับต่อหน้าเจอรัลด์จริง ๆ! แม้หลังจากเขาได้เห็นทุกอย่างแล้ว มันจึงไม่แปลกที่ทำไมเขาถึงทำแบบนั้น เจอรัลด์เองก็อนุมานได้ว่าพละกำลังปัจจุบันของเคเลปนั้นก็คล้ายกับของตัวเขาเมื่อครึ่งปีก่อน เขายังบอกได้เช่นกันว่าเคเลปบรรลุถึงกำลังภายในของเขาแล้ว แม้เขายังคงขาดทักษะกว่าเจอรัลด์อย่างชัดเจน แต่ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเคเลป ชายชราคนนี้ก็อาจถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนักต่อสู้คนหนึ่ง ด้วยเหตุนั้น ความกระหายเลือดในตาของเจอรัลด์จึงค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ ท่าทางที่น่าเกรงขามของเขาก็ค่อย ๆ ลดลงเช่นกัน ทำให้เคเลปถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกได้ในที่สุด “ผมบอกได้เลยว่าคุณใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝน เพียงเพื่อจะได้บรรลุกำลังภายในของคุณ มันคงต้องไม่ง่ายแน่ ดังนั้นผมจะไม่ฆ่าคุณ แค่ไปเตือนคนอื่น ๆ ว่าอย่าแม้แต่จะมาลองดีกับผมอีก!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่อารมณ์ของเขากลับมาเป็นปกติอย่างสมบูรณ์ “ขอบคุณครับที่ไว้ชีวิตผม และใช่ ผมจะทำตามคำสั่งของคุณแน่นอน คุณผู้ชาย! อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่ผมยังคงไม่ค่อยเข้าใจ” เคเลปตอบกลับด้วยประกายทั้งความตื่นเต้น และควา
จากนั้นเจอรัลด์ก็โทรหามิสตี้เพื่อยกเลิกแผนทานมื้อเที่ยงของพวกเขา ท้ายที่สุดแล้ว การจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากเคเลปนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกของเขาอย่างแน่นอน “หืม? เขาจะมาด้วยไหม?” ลิเดียถามอย่างประหม่าทันทีที่มิสตี้วางสายโทรศัพท์ “เขาอาจไม่เต็มใจที่จะมาร่วมกับพวกเรา เพราะเธอทำให้เขากลัวมากก็ได้…” มืสตี้ตอบกลับด้วยโทนเสียงผิดหวังเล็กน้อย “นั่นก็เยี่ยมไปเลยที่ได้ยินแบบนี้! ยังไงซะ ตอนนี้เขาก็ไปให้พ้น ๆ ซะที เจมี่บอกว่าพวกเราจะทานมื้อเที่ยงกันที่โรงแรมโลแกน แกรนด์! แบบนั้นพวกเราก็จะได้ชมดูรอบ ๆ โรงแรมที่ดีที่สุดในจังหวัดโลแกนได้ในเวลาเดียวกันไง!” ลิเดียส่งเสียงเชียร์อย่างตื่นเต้น ขณะที่มิสตี้พยักหน้ากลับอย่างขมขื่น อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึง พนักงานเสริฟ์ที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าได้หยุดพวกเขาไว้ “ขออภัยด้วยครับ แต่มีคนจองโรงแรมโลแกน แกรนด์ทั้งหมดไว้ในวันนี้แล้ว พวกเราเกรงว่าคุณจะต้องเลือกร้านอาหารอื่นเพื่อทานมื้อเที่ยงกันแล้วครับ ขออภัยจริง ๆ นะครับ” พนักงานกล่าว เมื่อได้ยินแบบนั้น ลิเดีย ที่ก่อนหน้านี้ค่อนข้างกระตือรือร้นที่จะทานอาหารที่นั่น ก็กลายเป็นผิดหวังในทันที เนื่องจากความตื่นเ
ในท้ายที่สุด เคเลปก็เคาะแก้วไวน์ของเขาเบา ๆ โดยบ่งบอกให้แซนเดอร์คุยกับเจอรัลด์ อย่างไรก็ตาม แซนเดอร์ก็ค่อนข้างไม่เต็มใจที่จะทำแบบนั้น ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าเขาจะมองเจอรัลด์มากแค่ไหนก็ตาม คนหนุ่มคนนั้นก็ยังคงดูเหมือนเป็นคนธรรมดาทั่วไป เมื่อรู้ว่าเขาจะต้องขอร้องคนธรรมดาสำหรับความช่วยเหลือ แน่นอนว่ามันทำให้แซนเดอร์ค่อนข้างลำบากใจ ขณะที่เขาครุ่นคิดว่าจะทำอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาขณะที่ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ซึ่งนั่งอยู่ข้างแซนเดอร์ กระแทกแก้วไวน์ของเขาลงบนโต๊ะ จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็พูดขึ้น “ผมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าอะไรคือแรงจูงใจเบื้องหลังมื้ออาหารของวันนี้ ประธานเลิฟเวลล์ คุณกำลังพยายามที่จะให้ความบันเทิงใครกันแน่?” มันชัดเจนว่าคำถามของชายวัยกลางคนคนนั้นหมายถึงเจอรัลด์โดยตรง ซึ่งนั่งอยู่ตรงที่นั่งอันทรงเกียรติตลอดเวลามานี้ แม้คน ๆ นั้นรู้สึกรำคาญกับข้อเท็จจริงนั้น แต่ความรำคาญใจของเขาก็เพิ่มเป็นสองเท่าตั้งแต่ที่เขารู้ว่าแซนเดอร์กำลังพยายามที่จะทำให้เจอรัลด์พอใจเช่นกัน “ฮึ่ม! งานเลี้ยงวันนี้ถูกจัดขึ้นเพราะพวกเราเชิญคุณคลอฟอร์ดมาที่นี่ได้สำเร็จไงล่ะ!” เคเลปตอบกลับด้วยรอยยิ้มจาง
“…อะไรกัน?” ธีโอตกใจสุดขีดกับสิ่งที่เขาเพิ่งเห็น นั่นคือสิ่งเดียวที่เขาสามารถพึมพำออกมาขณะที่เขาลุกขึ้นยืนทันที คนอื่นต่างก็รู้สึกช็อกไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานเสิร์ฟที่ยืนอยู่หลังประตู ในขณะที่พร้อมจะเสิร์ฟอาหารจานต่อไป เมื่อทั้งหมดนั้นเกิดขึ้น แซนเดอร์เองก็มีเหตุมีผลแล้วในตอนนี้ แม้ในตอนแรกเขาให้ความมั่นใจตัวเองแล้วว่าเจอรัลด์เป็นเพียงแค่ชายหนุ่มธรรมดาทั่วไปโดยไม่มีความสามารถที่แท้จริงใด ๆ อย่างแน่นอนหรอก ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาคิดผิดอย่างไร เมื่อคิดว่าจริง ๆ แล้วเขาจะสามารถทุบประตูไม้พังเป็นเสี่ยง ๆ ได้ด้วยผักใบเดียวนั้นล่ะก็! เขาต้องฝ่าฟันการฝึกฝนมากแค่ไหนถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้?! บรรยากาศในห้องเริ่มตรึงเครียดมากขึ้นในแต่ละวินาที โดยรู้สึกถูกกดกันอย่างชัดเจน ธีโอที่ในเวลานี้เหงื่อแตกพลั่ก พึมพำกับตัวเอง “มีคนที่สร้างความเจ็บปวดให้ผู้อื่นได้ด้วยเพียงการใช้ผักใบเดียวจริง ๆ” เพื่อพยายามทำให้สถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจอย่างท่วมท้นผ่อนคลายลง หนึ่งในผู้คนจากตระกูลเลิฟเวลล์ ที่ยืนอยู่ด้านข้างตลอดเวลามานี้ ยิ้มและกล่าวขึ้นมา “น นายท่านซาบินสกี้ ผมไม่ค่อยได้ยิน…คุณช่วยกล่า
เมื่อมื้ออาหารของพวกเขาสิ้นสุดลง เจอรัลด์ก็ออกจากโรงแรมไปด้วยกันกับแซนเดอร์และคนอื่น ๆ เมื่อมาถึงตรงทางเข้าของโรงแรม พวกเขาก็ได้รับการทักทายโดยพ่อบ้านคนหนึ่งที่พูดขึ้นมาฉับพลัน “คนจากตระกูลหลงในยานเคนต้องการมาเยี่ยมคุณครับ ประธานเลิฟเวลล์” “ตระกูลหลงงั้นเหรอ? ฮึ่ม! พวกเขามาเยี่ยมฉันด้วยเหตุผลอะไรล่ะ? พวกเขาส่งใครมาเป็นตัวแทนของพวกเขากัน?” แซนเดอร์ที่เห็นได้ชัดว่ามั่นใจมากขึ้นแล้วในตอนนี้ที่เจอรัลด์ตกลงที่จะช่วยเหลือเขาตอบกลับ “พวกเขาส่งคุณหญิงสองของตระกูลหลงมาครับ! ในเวลานี้เธอกำลังรอพบคุณอยู่และเธอก็ยังนำของขวัญดี ๆ มากมายมาด้วยเพื่อฉลองความสำเร็จของงานแลกเปลี่ยนสมบัติ!” พ่อบ้านอธิบาย เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย คุณหญิงสองของตระกูลหลงงั้นเหรอ? อาจเป็น…? “ตัวแทนของตระกูลหลงมีนามสกุลว่ายอร์คหรือเปล่าครับ เป็นไปได้ไหม?” ในการตอบสนอง พ่อบ้านยิ้มทันทีก่อนจะพูดขึ้น “ใช่ครับ ใช่เลย!” เช่นนั้นก็เป็นซาเวียจริง ๆ! ด้วยเหตุผลบางอย่าง เจอรัลด์รู้สึกค่อนข้างแปลก ๆ ทันทีที่เขาได้ยินว่าซาเวียอยู่ที่นี่ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่ได้พบเธอมานานกว่าหนึ่งปีแล้วตอนนี้แ
“อ่า งั้นกลับกลายเป็นว่าคุณมีแขกที่ค่อนข้างพิเศษที่นี่ในวันนี้สินะคะ! ฉันขอโทษด้วยที่ทำให้คุณใช้เวลาพอสมควร…อย่างไรก็ดี ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าใครคือแขกที่คุณมอบมอบเคารพให้เขาอย่างสูงเช่นนี้ ประธานเลิฟเวลล์ ท้ายที่สุดแล้ว คุณเองก็เป็นคนมีอำนาจและทรงอิทธิพลมากคนหนึ่งนะคะ!” ซาเวียกล่าวขณะที่เธอยิ้มพร้อมกับลูบจับผมของเธอให้ตรง “ฮ่าฮ่า! เนื่องจากงานแลกเปลี่ยนสมบัติกำลังดำเนินการอยู่ ในเวลานี้จึงมีแขกพิเศษคนอื่นมากมายเหลือเกินในจังหวัดโลแกน! แม้กระนั้น แขกพิเศษที่อยู่กับผมตอนนี้นั้นแตกต่างไปจากคนอื่น ๆ เล็กน้อย…ยังไงซะ ทำไมพวกเราไม่หารือกันเรื่องอื่นในตอนนี้ล่ะครับ? ไม่ต้องกังวลไป ผมจะหาเวลาอ่านข้อเสนอความร่วมมืออย่างละเอียดแน่นอน จริง ๆ แล้ว เนื่องจากงานจะยังไม่สิ้นสุดลงจนกว่าอีกสองสามวันข้างหน้า ทำไมคุณไม่อยู่ที่นี่ในระหว่างนี้ล่ะครับ คุณยอร์ค? เมื่องานแลกเปลี่ยนสมบัติจบลง พวกเราก็จะเจรจาต่อรองว่าเรื่องต่าง ๆ จะเป็นไปยังไงกันอย่างเป็นทางการ คุณคิดว่าไงครับ?” “จะเป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ ประธานเลิฟเวลล์” ซาเวียตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ที่เหลือของวันก็ค่อนข้างธรรมดา และวันต่อมาก็มาถึงในไม่ช้า เ
เสียงประหลาดใจและยินดีดังขึ้นในขณะเดียวกันมาจากชายวัยกลางคนที่ลุกยืนขึ้นทันทีที่เขาเห็นเธอ “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คุณลุง!” ซาเวียตอบกลับพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย “ฮึ่ม! ก็เหมือนอย่างที่พวกเขาพูด ตอนที่เธอยากจน ไม่มีใครมากมองหาเธอหรอก แม้ว่าเธอจะอาศัยอยู่ในเมืองพลุกพล่าน! แต่เมื่อเธอร่ำรวย ถึงแม้แต่ญาติห่าง ๆ ที่สุดก็จะมาพบเธอ แม้ว่าเธออาศัยอยู่ในกลางป่าก็ตาม! ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าคำกล่าวนี้ใช้ได้กับญาติบางคนของฉันที่บังเอิญได้ยินว่าไซออนของฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือไม่!” ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวหนึ่งพูดเยาะเย้ย ก่อนจะส่งยิ้มเย็นชาให้ขณะที่เธอยังคงแกะส้มต่อไป เมื่อได้ยินแบบนั้น ชายหญิงคนอื่นหลายคนที่อยู่ในห้องก็ผลัดกันจ้องไปที่ซาเวียอย่างดูถูก “มันก็นานขนาดนี้แล้ว แต่วิธีการพูดของคุณก็ยังไม่เคยเปลี่ยน ไปเลยใช่ไหม คุณป้า? ตอนนี้ที่ฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นี่ก็เป็นสถานที่ที่คุณเยาะเย้ยฉันและทำให้แม่ของฉันอับอายขายหน้าอย่างมากในตอนนั้นเช่นกัน ใช่ไหม?” ซาเวียตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เมื่อกระแอมในลำคอ จากนั้นลุงใหญ่ก็ถามด้วยน้ำเสียงกังวล “อย่าพูดเกี่ยวกับอดีตตอนนี้เลย…ยังไงซะ ฉันจำได้ว
“…ซ ซาเวีย…พ พวกเราผิดไปแล้วที่ปฏิบัติกับเธอแบบนั้นในตอนนั้น! ขอร้องล่ะ มีเงินมากมายเกินไปที่นี่! มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะได้จำนวนเงินที่แน่นอนได้!” ป้าสองที่ไม่ได้โง่ เธอพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก เธอรู้เป็นอย่างดีว่าซาเวียกลับมาแก้แค้นเธอในที่สุด เธอจึงขอร้องเพื่อให้หลุดจากการทรมานที่จวนจะใกล้เกิดขึ้น “นับมัน อย่าให้ฉันต้องพูดเป็นครั้งที่สาม!” ซาเวียพูดเยาะเย้ย ขณะที่ป้าสองเริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวในทันที เมื่อไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอื่น เธอจึงนั่งลงยอง ๆ และเริ่มนับธนบัตรดอลลาร์ทีละใบ “จำไว้ ฉันต้องการจำนวนเงินที่แน่นอน! แค่นี้! อีกครั้งนะ เงินนี้จะเป็นของคุณก็ต่อเมื่อคุณได้จำนวนเงินสุดท้ายที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ถ้าได้จำนวนเงินผิดล่ะก็ งั้นคุณก็นับมันต่อไปตลอดกาลก็แล้วกัน!” ซาเวียพูดเสริมด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินไปด้านข้าง และดื่มน้ำที่ลูกน้องของเธอเอามาให้เธอ ในเวลาเดียวกัน คนหนุ่มที่สวมหมวกแก๊ปก็ขมวดคิ้วภายใต้หน้ากากของเขา ขณะที่เธอยังคงสังเกการกระทำของซาเวียจากมุมไกล ๆ ต่อไป เขาเพิ่งเริ่มเข้ามาอยู่ในระยะที่ได้ยินเสียง แต่เมื่อคิดว่าสิ่งแรกที่เขาจะได้ยินก็คือคำสั่งท