เสียงประหลาดใจและยินดีดังขึ้นในขณะเดียวกันมาจากชายวัยกลางคนที่ลุกยืนขึ้นทันทีที่เขาเห็นเธอ “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คุณลุง!” ซาเวียตอบกลับพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย “ฮึ่ม! ก็เหมือนอย่างที่พวกเขาพูด ตอนที่เธอยากจน ไม่มีใครมากมองหาเธอหรอก แม้ว่าเธอจะอาศัยอยู่ในเมืองพลุกพล่าน! แต่เมื่อเธอร่ำรวย ถึงแม้แต่ญาติห่าง ๆ ที่สุดก็จะมาพบเธอ แม้ว่าเธออาศัยอยู่ในกลางป่าก็ตาม! ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าคำกล่าวนี้ใช้ได้กับญาติบางคนของฉันที่บังเอิญได้ยินว่าไซออนของฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือไม่!” ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวหนึ่งพูดเยาะเย้ย ก่อนจะส่งยิ้มเย็นชาให้ขณะที่เธอยังคงแกะส้มต่อไป เมื่อได้ยินแบบนั้น ชายหญิงคนอื่นหลายคนที่อยู่ในห้องก็ผลัดกันจ้องไปที่ซาเวียอย่างดูถูก “มันก็นานขนาดนี้แล้ว แต่วิธีการพูดของคุณก็ยังไม่เคยเปลี่ยน ไปเลยใช่ไหม คุณป้า? ตอนนี้ที่ฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นี่ก็เป็นสถานที่ที่คุณเยาะเย้ยฉันและทำให้แม่ของฉันอับอายขายหน้าอย่างมากในตอนนั้นเช่นกัน ใช่ไหม?” ซาเวียตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เมื่อกระแอมในลำคอ จากนั้นลุงใหญ่ก็ถามด้วยน้ำเสียงกังวล “อย่าพูดเกี่ยวกับอดีตตอนนี้เลย…ยังไงซะ ฉันจำได้ว
“…ซ ซาเวีย…พ พวกเราผิดไปแล้วที่ปฏิบัติกับเธอแบบนั้นในตอนนั้น! ขอร้องล่ะ มีเงินมากมายเกินไปที่นี่! มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะได้จำนวนเงินที่แน่นอนได้!” ป้าสองที่ไม่ได้โง่ เธอพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก เธอรู้เป็นอย่างดีว่าซาเวียกลับมาแก้แค้นเธอในที่สุด เธอจึงขอร้องเพื่อให้หลุดจากการทรมานที่จวนจะใกล้เกิดขึ้น “นับมัน อย่าให้ฉันต้องพูดเป็นครั้งที่สาม!” ซาเวียพูดเยาะเย้ย ขณะที่ป้าสองเริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวในทันที เมื่อไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอื่น เธอจึงนั่งลงยอง ๆ และเริ่มนับธนบัตรดอลลาร์ทีละใบ “จำไว้ ฉันต้องการจำนวนเงินที่แน่นอน! แค่นี้! อีกครั้งนะ เงินนี้จะเป็นของคุณก็ต่อเมื่อคุณได้จำนวนเงินสุดท้ายที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ถ้าได้จำนวนเงินผิดล่ะก็ งั้นคุณก็นับมันต่อไปตลอดกาลก็แล้วกัน!” ซาเวียพูดเสริมด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินไปด้านข้าง และดื่มน้ำที่ลูกน้องของเธอเอามาให้เธอ ในเวลาเดียวกัน คนหนุ่มที่สวมหมวกแก๊ปก็ขมวดคิ้วภายใต้หน้ากากของเขา ขณะที่เธอยังคงสังเกการกระทำของซาเวียจากมุมไกล ๆ ต่อไป เขาเพิ่งเริ่มเข้ามาอยู่ในระยะที่ได้ยินเสียง แต่เมื่อคิดว่าสิ่งแรกที่เขาจะได้ยินก็คือคำสั่งท
ซาเวียดิ้นรนด้วยแรงทั้งหมดที่เธอทำได้ และจัดการหลุดพ้นได้ชั่วคราว ทันทีทันใดหลังจากนั้น เธอก็ดึงกริชออกมาจากไหนไม่รู้! “อย่าขยับเข้ามาใกล้! คนของฉันอยู่ใกล้ ๆ นี้! วิธีที่นายพูด ฉันมั่นใจว่าพวกนายตามฉันมาได้สักพักหนึ่งแล้วสินะ!” ซาเวียเตือน ขณะที่เธอโบกกริชในมือไปมา “โปรดเชื่อใจพวกเราเถอะ คุณยอร์ค เจ้านายของเราสนใจที่จะทำงานกับคุณอย่างแท้จริง! นอกจากนี้ คุณก็จะได้รับอย่างอื่นตอบแทนเช่นกันนะครับ!” คนต่างชาติกล่าวอย่างมุ่งร้าย ขณะที่เขาเริ่มเดินไปหาเธอ ขณะที่ความอกสั่นขวัญหายของซาเวียพู่งขึ้นสุดขีด เธอก็ได้ยินเสียงกระซิบบางอย่างพูดขึ้นมา “ขว้างกริชออกไป!” แม้ไม่มีใครอื่นดูเหมือนจะได้ยินมัน แต่ซาเวียก็รู้สึกว่าจำเป็นต้องทำตามคำสั่งนั้น เป็นผลให้ เธอปากริชไปทางชาวต่างชาติทันที! คนต่างชาติเองกำลังหัวเราะพร้อมกับส่ายหัวของพวกเขากันก่อนที่เธอจะปามันออกไป เมื่อกริชออกจากมือของมือเธอไปแล้ว เขาก็พูดได้ครึ่งทางว่า “คุณซาเวีย หยุดแกว่งสิ่งนั้นไปมาเถอะ! นั่นค่อนข้างหยาบคายนะครับ คุณรู้” ประโยคของเขาถูกตัดให้สั้นเมื่อกริช ที่เขามั่นใจว่าเขาสามารถจัดการหลบได้อย่างง่ายดาย เมื่อพิจารณาว
ฮาเวนช็อกสุด ๆ ที่เขาเขาอยู่ที่นั่น ตามปกติแล้วเธอก็จำเขาได้เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างน่าสนใจคนหนึ่ง เมื่อพวกเขาพบกันเป็นครั้งแรกบนรถไฟ ด้วยความไม่เชื่อ เธอจึงเปิดประตูหลักด้วยความพยายามที่จะยืนยันว่าเธอเห็นเขาจริง ๆ หรือไม่ แม้กระนั้น เธอก็ทำได้เพียงแค่เห็นด้านหลังของ ‘เจอรัลด์’ แวบ ๆ เท่านั้นเนื่องจากเขาก้าวเข้าไปในรถแล้ว ก่อนที่พ่อของเธอจะปิดประตูด้านหลังเขา “เจอรัลด์!” ฮาเวนตะโกนขึ้น ขณะที่รถขับจากไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สามารถได้ยินเสียงร้องของเธอได้เลย เมื่อเกาหลังหัวของเธอ เธอก็สงสัยว่ามันเป็นแค่จินตนาการของเธอเองหรือเปล่า ยังไงซะ ทำไมเขาถึงจะมาอยู่ในบ้านของเธอได้ล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น พ่อของเธอก็จะไม่เปิดประตูรถให้ใครบางคนอย่างเขาเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน! “มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ฮาเวน?” ซารีนาถาม ขณะที่เธอและควินตินเดินมาหาเธอ “เธอจะไม่มีทางเดาได้แน่ว่าฉันเห็นใคร พี่สาว!” “ใครล่ะ?” “ฉันเห็นเจอรัลด์!” “และนี่คือใครล่ะ เจอรัลด์คนนี้?” ซารีนาถามพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอลืมไปแล้วเหรอ? เขาคือผู้ชายที่พวกเราพบในรถไฟไง!” “ผู้ชายที่น่ารังเกียคนนั้นเหรอ? เธอยังค
เสียงนั้นเป็นของเคเลป และชายชราก็จัดการสกัดกั้นการโจมตีคับขันได้ทันเวลาพอดี “โอ้ดูนั่นสิ! เขาต้องฝึกฝนตัวเองอย่างไม่มีขอบเขตแน่ เพื่อจะโจมตีหมัดที่สมบูรณ์แบบเช่นนั้นได้!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขายังคงสังเกตการณ์การต่อสู้จากด้านข้างต่อไป เจอรัลด์สรุปได้แบบนั้น เพราะทักษะของเดเมียนไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่น ๆ ที่เขาเคยฆ่าทั้งหมดมาก่อนหน้านี้เลย แต่ถึงอย่างนั้น เดเมียนก็แตกต่างไปจากพวกเขา เพราะการใช้ทักษะแต่ละอย่างเหล่านั้นทรงพลังอย่างมาก! ถ้าเจอรัลด์ต้องคาดเดา เดเมียนอาจจะกลายมาเป็นนักต่อสู้ได้เร็วกว่าเคเลปมากนัก ท้ายที่สุดแล้ว กำลังภายในของนักต่อสู้ก็จะเริ่มแข็งแกร่งขึ้นโดยธรรมชาติ ยิ่งเมื่อพวกเขามีตำแหน่งนั้นยาวนานขึ้น ในทางหนึ่ง มันก็เหมือนกับไวน์ ยิ่งมันถูกทิ้งไว้ใต้ดินนานเท่าไหร่ รสชาติก็จะยิ่งยอดเยี่ยมมากขึ้นเท่านั้น แม้ทั้งเคเลปและเดเมียนคล้ายกับไวน์ชั้นเลิศ แต่เจอรัลด์รู้ว่าเคเลปจะไม่สามารถล้มเดเมียนได้หรอก ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สายตาที่แหลมคมของเจอรัลด์ก็เข้าใจได้ว่าแม้เคเลปมีประสบการณ์ในการต่อสู้มากกว่าอย่างแน่นอน แต่กำลังภายในของเดเมียนนั้นยอดเยี่ยมกว่าของชายชราอยู่มาก
“ตกลง!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เจอรัลด์เองก็พอกันทีกับการช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อจะให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ เขารู้ว่าเขาต้องกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวบ้าง อย่าลืมว่า ณ จุดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลเลยจริง ๆ ที่เขาจะทำเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่เป็นผลประโยชน์กับเขาอีกต่อไป ทันทีที่เจอรัลด์ตกลงช่วยเหลือในที่สุด เคเลปและธีโอก็ถูกโยนมายังทิศทางของเขา และพวกเขาทั้งคู่ก็ล้มลงอยู่ตรงแทบเท้าของเขา “ฮ่าฮ่าฮ่า! แกพาคนโง่เหล่านี้มาเพื่อป้องกันแกจริง ๆ เหรอ แซนเดอร์? มีใครอื่นอีกบ้างไหมล่ะ? มาเลย เดี๋ยวนี้!” เดเมียนคำรามใส่ก่อนจะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็เริ่มเดินไปทางเขาอย่างใจเย็น “…หืมม? งั้นนี่คืออะไร? เด็กน้อยคนหนึ่งเหรอ? แท้จริงแล้วมีใครอื่นจากตระกูลเลิฟเวลล์อีกไหม? นี่เป็นใครกันเนี่ย?” เดเมียนกล่าว ขณะที่เขาส่ายหัวของเขาในขณะที่มองไปที่เจอรัลด์ “ฉันได้ยินว่านายเรียนรู้ทักษะบางอย่างที่มีต้นกำเนิดมากจากเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ! นั่นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?” เจอรัลด์ถาม ขณะที่เขามองเดเมียนกลับ เมื่อได้ยินแบบนั้น เดเมียนก็ถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ อย่างไรซะ เขาก็รู้ว่าเขาได้ปิดบังต
ที่ตามมาหลังจากเสียงนั้น ก็เห็นได้ว่ามีบางอย่างแวบ ๆ กำลังบินไปอย่างรวดเร็วมาก และในไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมานของเดเมียนก็ดังไปทั่วอากาศ! ยังไม่ทันได้ถามแม้แต่กริชที่ย้อนกลับมาเองได้ แต่ทันทีที่แซนเดอร์เห็นร่างของเดเมียนล้มลงกับพื้นอย่างไร้ชีวิต เขาก็เริ่มตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้นทันที “ข เขาตายแล้ว! ในที่สุดเขาก็ตายซะที!” เมื่อหันไปมองเจอรัลด์ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “คุณคลอฟอร์ด คุณได้ช่วยเหลือเลิฟเวลล์ไว้อย่างใหญ่หลวงมาก! ผมต้องตอบแทนคุณอย่างเหมาะสมในนามของครอบครัวของผมแน่นอน!” “ตามสัญญา ทั้งหมดที่ผมต้องการก็คือหนังสืออสูร!” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขายิ้มอย่างมีเลศนัยให้แซนเดอร์ ทันทีทันใดหลังจากได้ยินแบบนั้น แซนเดอร์ก็ตัวแข็งทื่อคาที่ ขณะที่เขาเริ่มพยายามที่จะเปลี่ยนหัวข้อ ฮาเวนเองที่ซ่อนตัวอยู่กับพี่น้องของเธอในบริเวณป่าตลอดเวลามานี้ ก็ปิดปากของเธอขณะที่เธอพูดขึ้น “ห เห็นนั่นไหมพี่สาว? นั่นคือเจอรัลด์จริง ๆ ด้วย! และ…และเขาน่าทึ่งมาก?!” ซารีนาเองก็มุ่งความสนใจไปที่เขาได้สักพักแล้วตอนนี้ ‘เมื่อคิดว่าเจอรัลด์มายังจังหวัดโลแกนเพื่อช่วยเหลือพ่อ…ช่างเ
“ฉันเอง เจอรัลด์!” ก่อนที่เจอรัลด์จะทันได้พูดอะไร ประตูห้องของเขาก็ถูกผลักเปิดออก และฮาเวนก็ยื่นหัวของเธอเข้ามาก่อนจะเข้าไปในห้อง “คุณกลับไปที่ห้องของคุณเพื่อพักผ่อนแล้วไม่ใช่เหรอ ฮาเวน? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่อีกล่ะ?” เจอรัลด์ถามด้วยรอยยิ้มจำนนบนใบหน้าของเขา ฮาเวนได้ตามหาเขาทันทีที่เขากลับมาที่คฤหาสน์ โดยตั้งใจจะรู้ให้ได้ว่าเขาแข็งแกร่งมากอย่างไร เมื่อไม่เห็นเหตุผลใด ๆ ที่จะซ่อนตัวจาากเธอ ก่อนหน้านี้เจอรัลด์จึงคุยกับเธอสักพักก่อนจะส่งเธอไป เขาไม่ได้คาดคิดที่จะพบเธออีกครั้งเร็วขนาดนี้เลยจริง ๆ “เอาล่ะ ยิ่งฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตอนอยู่ในห้องของฉันมากขึ้นมเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง! ฮึ่ม! คุณไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเลย! คุณลืมไปแล้วเหรอว่าพวกเราตกลงเป็นเพื่อนกันในตอนนั้นเมื่อพวกเรายังคงอยู่บนรถไฟน่ะ? ฉันใช้เวลาสักพักเลยนะกว่าจะรู้ตัวได้ แต่สุดท้ายคุณก็ไม่เคยมามองหาฉันเลย! คุณคิดที่จะอธิบายตัวเองยังไง?” ฮาเวนกล่าว ขณะที่เธอนั่งลง “ฮ่าฮ่า…ยอมรับตามนั้นแหละครับ!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ บนใบหน้าของเขา เมื่อจ้องมองเขาได้สักพัก จากนั้นฮาเวนก็ยิ้มหวาน
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ