เมื่อได้ยินเจอรัลด์พูดแบบนั้น ซารีนาก็โต้กลับทันที “คุณ!” ก่อนที่เธอจะพูดอะไรที่ไม่ยั้งคิดออกไป แต่เธอก็เพียงพยักหน้าก่อนจะยังคงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เพื่อทำให้ตัวเองใจเย็นลง ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็ยิ้มอย่างโกรธเคืองก่อนจะพูด “เนื่องจากคุณดูถูกวิหารเล็ก ๆ ของพวกเรา งั้นฉันก็คิดว่าตระกูลเลิฟเวลล์จะเพียงมอบหนังสืออสูรให้คุณในวันพรุ่งนี้เพื่อแทนคำขอบคุณของเราแล้วกัน คุณผู้ชาย!” ทันทีที่เธอพูดจบ ซารีนาก็หันหลังกลับและออกจากห้องของเขาไปทันที เมื่อปิดประตูด้านหลังเธอ เธอก็สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะขึงตามองไปที่ห้องนั้น เช้าตรู่วันต่อมาเมื่อฮาเวนผลักประตูห้องของเจอรัลด์เปิดออกก่อนจะตะโกนขึ้น “สวัสดีตอนเช้า อาจารย์!” “อาจารย์เหรอ?” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวของเขา ในขณะที่มองไปที่หญิงสาวที่นำชาโสมติดมือมาด้วย เขาไม่มีโอกาสที่จะเตือนเธอว่าให้เคาะประตูก่อนเข้ามาด้วยซ้ำในคราวนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอบุกรุกเข้ามา แต่เจอรัลด์ก็ยังคงยิ้มให้อยู่ดี “ใช่ค่ะ อาจารย์! ฮ่าฮ่าฮ่า! คุณพูดว่าคุณจะสอนทักษะบางอย่างให้ฉัน ดังนั้นก็แน่นอนว่าฉันจะต้องเรียกคุณแบบนั้น! ยังไงซะ ฉันก็นำชาโสมมาด้วย
“ผมได้ยินมาว่าคุณจับเจอรัลด์ คลอฟอร์ด ได้สำเร็จ คุณเลิฟเวลล์ ในนามของโมลเดล ผมก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะขอบคุณคุณได้อย่างไร” ชายสูงวัยคนหนึ่ง ที่กำลังเดินนำสมาชิกเจ็ดคนอื่นของตระกูลโมลเดลเข้ามาได้กล่าวขึ้น ขณะที่เขาหัวเราะเสียงดัง “คุณถ่อมตัวมากเกินไปแล้วครับ คุณยาสเตอร์ ท้ายที่สุดแล้ว เลิฟเวลล์และโมลเดลก็อาจถือว่าเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ในจังหวัดโลแกนเช่นกันในตอนนี้ เจอรัลด์เองก็เป็นแค่คนนอกเท่านั้น แล้วทำไมพวกเราถึงจะชื่นชอบคนนอกมากกว่าใครบางคนจากฝั่งของเราล่ะครับ?” แซนเดอร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “แม่เจ้าโว้ยไม่อยากจะเชื่อเลย! นั่นเป็นเขาจริง ๆ! คุณไม่รู้หรอกว่าพวกเราพยายามมากแค่ไหนเพื่อที่จะหาเขาเจอได้!” ยาสเตอร์กล่าว น้ำเสียงของเขาดีใจเหลือล้น ขณะที่เขาเข้าไปใกล้เจอรัลด์ที่ไม่ได้สติ ยาสเตอร์เองก็เป็นบุคคลอาวุโสภายในตระกูลโมลเดลในโลแกน อันที่จริงงานของเขาก็คือจัดการตระกูลทั้งหมดในจังหวัดนี้ ดังนั้น การจับเจอรัลด์ได้สำเร็จจึงจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากในส่วนของเขาแน่นอน เขาสงสัยแล้วว่าลุงสองของเขา คอร์ด จะมอบรางวัลให้เขาอย่างไรสำหรับผลสำเร็จนี้ “มันช่างเป็นความเจ็บปวดอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี คู่ต่อสู้ปัจจุบันของเขานั้นมาจากตระกูลโมลเดล ถึงอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะทุ่มอย่างสุดความสามารถ อย่าลืมว่า เจอรัลด์ก็ได้ช่วยชีวิตเขาไว้ ในช่วงการต่อสู้ชี้ขาดกับเดเมียนเมื่อคือก่อน การกระทำของเขาจึงทำให้เคเลปรู้สึกเคารพเขาอย่างที่ไม่เคยมาก่อน มันน่าซาบซึ้งใจต่อเคลเลปอย่างแท้จริง และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชายชราจึงรู้สึกราวกับว่าเขาไม่ต้องทนทุกข์กับความอัปยศอดสูใด ๆ อีกต่อไปแล้วเป็นผลให้ เคเลปปฏิญาณไว้ว่าจะจงรักภักดีและสวามิภักดิ์ต่อเจอรัลด์ทันทีทันใดในตอนนั้นแล้ว มันยังเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงกำลังต่อสู้อย่างหนักในตอนนี้ เพื่อผลประโยชน์ของเจอรัลด์เช่นกัน แม้หลังจากการต่อสู้ได้พักหนึ่ง ก็ดูเหมือนราวกับว่าลูกน้องของตระกูลโมลเดลไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเคเลปเลยจริง ๆ เมื่อเห็นแบบนั้น ยาสเตอร์จึงส่ายหัวของเขาพร้อมกับยิ้มขมขื่นบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพูดขึ้นมา “เขาคู่ควรกับตำแหน่งของนักต่อสู้อย่างแท้จริง! ผมเดาว่าแขกท่านนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาดูจะเป็นนะ!” “อืม นั่นอาจเป็นเพราะคุณยังไม่ได้ลงมือเองล่ะมั้ง คุณโมลเดล ใครในจังหวัดโลแกนที่ไม่รู้ว่าคุณคือปรมาจารย์ระดับสูงในทั้งเว
“คุณเรียกนั่นว่ายาพิษเหรอ? ผมใช้มันเป็นยาบำรุงสุขภาพของผมมากว่าครึ่งปีก่อนแล้ว! คุณพยายามที่จะใช้มันเพื่อวางยาผมจริง ๆหรือนี่?” หลังจากการแช่ร่างกายในยาสมุนไพรและสสารอื่น ๆ มากมายทุกประเภท ที่ฟินน์เลย์ได้จัดหามาให้เขาในตอนนั้น เจอรัลด์จึงมีภูมิต้านทานต่อยาพิษบางชนิดแล้ว มันชัดเจนว่าพิษที่พวกเขาพยายามใช้กับเขาก็เป็นหนึ่งในยาพิษพวกนั้น เอาตามตรง เจอรัลด์ก็บอกได้อยู่แล้วว่าน้ำชาที่ฮาเวนเสริฟ์ให้เขาก่อนหน้านี้ ถูกวางยาพิษมานานแล้วก่อนที่เขาจะจิบดื่มมัน อย่าลืมว่า เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งเมื่อเป็นเรื่องของเภสัชวิทยา เขายังทราบดีในตอนนั้นเช่นกันว่า ฮาเวนจะไม่มีทางพยายามทำร้ายเขาหรอก ด้วยความคิดนั้นในใจ เขาก็รู้ว่าต้องเป็นหนึ่งในเลิฟเวลล์อย่างแน่นอนที่ต้องการจะทำร้ายเขา แต่ใครกันล่ะ? เมื่อต้องการรู้ให้ได้ เจอรัลด์จึงแกล้งทำเป็นหมดสติไป เพื่อที่เขาจะได้รอผู้ร้ายตัวจริงแสดงตัวเองออกมา “เด็กเปรต! แกรู้ไหมบ้างไหมว่าโมลเดลพยายามตามหาแกตลอดเวลามานี้อย่างยากเย็นเพียงใด? แม้พวกเราล้มเหลวในการวางยาแก แต่อย่าคิดว่าแกจะสามารถหนีไปได้ง่าย ๆ เลย!” ยาสเตอร์พูดเยาะเย้ย เคเลป ในทางกลับกัน ก
“ป โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย คุณคลอฟอร์ด!” แซนเดอร์ร้องออกมา ขณะที่เขาคุกเข่าทันทีด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นแบบนั้น เลิฟเวลล์คนอื่นทั้งหมดจึงทำแบบเดียวกัน เมื่อสูดหายใจเข้าลึก เจอรัลด์หลับตาลงชั่วครู่สั้น ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง ความเดือดดาลในดวงตาของเขาไม่ได้ปรากฏอยู่อีกต่อไป เนื่องจากเจอรัลด์ยังคงโกรธจัดอยู่ก่อนหน้านี้ เซนได้ทำผิดพลาดมหันต์โดยการสัมผัสเขา ในขณะที่เขายังคงอยู่ในสภาวะเป็นปรปักษ์อย่างมากอยู่ ตอนนี้ที่เขาใจเย็นขึ้นมากแล้ว เจอรัลด์หันไปมองแซนเดอร์และเดินไปหาเขาก่อนจะพูดขึ้นมา “…ไว้ชีวิตคุณเหรอ? หลังจากคุณผิดสัญญาที่จะมอบหนังสืออสูรให้ผมงั้นเหรอ? และอย่าแม้แต่จะให้ผมต้องเริ่มพูดความจริงที่ว่าคุณสมรู้ร่วมคิดกับโมลเดลเพื่อทำร้ายผมอีกด้วยซ้ำ…” เมื่อพูดไปแบบนั้น เขาก็คว้าจับบนหัวของแซนเดอร์เบา ๆ แซนเดอร์เองก็มีใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูกอยู่แล้ว ขณะที่เขาจ้องมองผู้ชายปีศาจที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา และในขณะที่เจอรัลด์กำลังจะเพิ่มกำลังของการจับของเขา ทันใดนั้นฮาเวนก็วิ่งเข้ามาในขณะที่ตะโกนขึ้น “จ เจอรัลด์! อย่า!” “ฮ ฮาเวน! เธออยู่นี่! ป โปรดช่วยฉันด้วย!” ซารีนาร้องไห้ค
‘แต่…ไม่มีทางที่เธอจะรู้ว่าเจอรัลด์เป็นใคร…เว้นแต่ว่า…เขาอาจอยู่ในจังหวัดโลแกนจริงหรือเปล่า…? เดี๋ยวนะ เธออาจจะไม่ได้พูดถึงเจอรัลด์คนเดียวกันก็ได้!’ ซาเวียคิดกับตัวเอง ด้วยคำถามมากมายหลายอย่างลอยอยู่ในหัวของเธอ ซาเวียจึงไม่สามารถยั้งตัวเองจากการไล่ตามหลังฮาเวนไปได้ เธอต้องการคำตอบอย่างมาก ข้ามไปอีกสองวันถัดไป เจอรัลด์พบว่าตัวเองอยู่ในเขตที่ห่างไกลจากตัวเมืองของป่าเอเวอร์แดร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายแดนของจังหวัดโลแกน ด้วยมรดกที่สืบยาวนานกว่าหลายพันปี ต้นไม้ภายในป่าเอเวอร์แดร์จึงเติบโตอย่างหนาแน่นมากบนภูเขามากมายที่เติบโตอยู่ใกล้กันและกันโดยเฉพาะพิเศษ นอกเหนือจากความหลากหลายมากมายของพืชที่ขึ้นในเฉพาะพื้นที่สามารถพบได้ที่นั่นแล้ว แต่ก็เป็นที่รู้กันว่ามีนักล่าหลากหลายชนิดซุ่มซ่อนอยู่ภายในป่า “ระวังด้วยตอนที่เสียบโพลง! พวกเราไม่สามารถปล่อยให้สัตว์ร้ายหนีไปได้อีกด้วยความเจ้าเล่ห์ของมัน!” หนึ่งในผู้ชายหลายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ารูที่จิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์ถูกต้อนให้จนมุม ด้วยการที่เวลสันรับผิดชอบในการปฏิบัติการนี้ มันก็ชัดเจนว่ากลุ่มคนประกอบด้วยเจอรัลด์และคนของเขา เนื่องจากเคเลปมอบแผนที่ของป่า
ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนั้น เจอรัลด์ก็จะไม่ยอมแพ้ไปอย่างง่ายดายขนาดนั้นหรอก เขาใช้ทักษะหนึ่งให้เป็นประโยชน์ ซึ่งให้เขาก้าวไปได้อย่างล่องลอย เท้าของเขาจึงแทบจะไม่ได้แตะพื้นเลย ขณะที่เขาวิ่งเต็มฝีเท้าไล่ตามจิ้งจอกไป หลังจากการวิ่งมาได้สักพัก จิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์ก็ตระหนักได้ว่าเจอรัลด์ไม่ได้ดูเหมือนจะช้าลงเลย เมื่อเข้าใจว่ามันจะไม่สามารถกำจัดเขาไปได้ง่าย ๆ เพียงแค่วิ่งไปทั่ว จิ้งจอกจึงพุ่งเข้าไปในพุ่มไม้แห่งหนึ่ง เมื่อมันเข้าไปในพุ่มไม้ เจอรัลด์จึงพลัดหลงกับมันแทบจะในทันที! “โธ่เว้ย! แกหนีไปได้อีกแล้วงั้นเหรอ?!” เจอรัลด์พูดกับตัวเอง ขณะที่เขาหยุดวิ่ง เมื่อรู้สึกเศร้าสลดเล็กน้อย ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่ได้ยอมแพ้ เมื่อกลั้นหายใจเพื่อนิ่งเงียบไว้ เขาก็กวาดมองไปทั่วสถานที่รอบตัวเขาอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง ถ้าเขาไม่ให้ความสนใจอย่างระวังในขณะที่เขาทำได้ เจอรัลด์ก็กลัวว่าจิ้งจอกคงจะลงเอยออกจากบริเวณนี้ไปแล้วแน่ แม้กระนั้น เขารู้สึกประหลาดใจ เมื่อทันใดนั้นได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้น “อ อย่าฆ่าพวกเรา! ได้โปรดอย่าฆ่าพวกเราเลย!” เมื่อมองไปยังทิศทางของเสียงตะโกนนั้น เจอรัลด์ก็เห็นผู้คนสองสามคนก
เมื่อหันไปด้านข้าง เจอรัลด์ก็สังเกตเห็นว่าคนที่ทำเสียงนั้นคือลูกสุนัขตัวหนึ่งที่กำลังเดินยโยกเขยกมาทางเขาอย่างช้า ๆ! เมื่อตรวจดูอย่างใกล้ชิด ดูเหมือนว่าลูกสุนัขตัวนั้นจะขาหัก ยิ่งไปกว่านั้น ก็มีแผลที่เห็นได้ชัดเจนทั่วร่างกายของมันเช่นกัน เมื่อมันมาถึงด้านข้างเจอรัลด์ในที่สุด มันก็นอนอยู่แทบเท้าของเขาก่อนจะเริ่มเลียปลายรองเท้าของเขาในทันที เจอรัลด์สะดุ้งตกใจมากกว่าสิ่งใด อย่างไรซะ เขาก็ไม่คาดคิดว่าจะบังเอิญเจอเจ้าตัวเล็กนี้ในป่าลึกขนาดนี้ ในทางหนึ่ง มันก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ลูกสนัขตัวนี้ยังคงมีชีวิตรอดด้วยการที่มีสัตว์นักล่ามากมายซุ่มซ่อนอยู่ภายในป่า “…นายอาจกำลังขอให้ฉันช่วยนายอยู่หรือเปล่า?” เจอรัลด์ถาม เมื่อเห่าสองครั้งเป็นการตอบสนอง จากนั้นมันก็เลียรองเท้าของเจอรัลด์ต่อไป ในขณะที่ความคิดแรกของเจอรัลด์ เมื่อได้เห็นลูกสุนัข คือการสกัดเลือดของมันเพื่อจะทำเลือดบริสุทธิ์ก็ตาม แต่หลังจากลูกสุนัขเริ่มเลียรองเท้าของเขา เขาก็ตระหนักได้ถึงสองสิ่ง อย่างแรก ลูกสุนัขยังตัวเล็กมากเกินไปที่จะสกัดเลือดบริสุทธิ์ได้อย่างคุ้มค่า อย่างที่สอง เขาตระหนักได้ว่าลูกสุนัขมีจิตวิญญาณธรรมชาติ ถึง