ฮาเวนช็อกสุด ๆ ที่เขาเขาอยู่ที่นั่น ตามปกติแล้วเธอก็จำเขาได้เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างน่าสนใจคนหนึ่ง เมื่อพวกเขาพบกันเป็นครั้งแรกบนรถไฟ ด้วยความไม่เชื่อ เธอจึงเปิดประตูหลักด้วยความพยายามที่จะยืนยันว่าเธอเห็นเขาจริง ๆ หรือไม่ แม้กระนั้น เธอก็ทำได้เพียงแค่เห็นด้านหลังของ ‘เจอรัลด์’ แวบ ๆ เท่านั้นเนื่องจากเขาก้าวเข้าไปในรถแล้ว ก่อนที่พ่อของเธอจะปิดประตูด้านหลังเขา “เจอรัลด์!” ฮาเวนตะโกนขึ้น ขณะที่รถขับจากไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่สามารถได้ยินเสียงร้องของเธอได้เลย เมื่อเกาหลังหัวของเธอ เธอก็สงสัยว่ามันเป็นแค่จินตนาการของเธอเองหรือเปล่า ยังไงซะ ทำไมเขาถึงจะมาอยู่ในบ้านของเธอได้ล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น พ่อของเธอก็จะไม่เปิดประตูรถให้ใครบางคนอย่างเขาเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน! “มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ฮาเวน?” ซารีนาถาม ขณะที่เธอและควินตินเดินมาหาเธอ “เธอจะไม่มีทางเดาได้แน่ว่าฉันเห็นใคร พี่สาว!” “ใครล่ะ?” “ฉันเห็นเจอรัลด์!” “และนี่คือใครล่ะ เจอรัลด์คนนี้?” ซารีนาถามพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอลืมไปแล้วเหรอ? เขาคือผู้ชายที่พวกเราพบในรถไฟไง!” “ผู้ชายที่น่ารังเกียคนนั้นเหรอ? เธอยังค
เสียงนั้นเป็นของเคเลป และชายชราก็จัดการสกัดกั้นการโจมตีคับขันได้ทันเวลาพอดี “โอ้ดูนั่นสิ! เขาต้องฝึกฝนตัวเองอย่างไม่มีขอบเขตแน่ เพื่อจะโจมตีหมัดที่สมบูรณ์แบบเช่นนั้นได้!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขายังคงสังเกตการณ์การต่อสู้จากด้านข้างต่อไป เจอรัลด์สรุปได้แบบนั้น เพราะทักษะของเดเมียนไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่น ๆ ที่เขาเคยฆ่าทั้งหมดมาก่อนหน้านี้เลย แต่ถึงอย่างนั้น เดเมียนก็แตกต่างไปจากพวกเขา เพราะการใช้ทักษะแต่ละอย่างเหล่านั้นทรงพลังอย่างมาก! ถ้าเจอรัลด์ต้องคาดเดา เดเมียนอาจจะกลายมาเป็นนักต่อสู้ได้เร็วกว่าเคเลปมากนัก ท้ายที่สุดแล้ว กำลังภายในของนักต่อสู้ก็จะเริ่มแข็งแกร่งขึ้นโดยธรรมชาติ ยิ่งเมื่อพวกเขามีตำแหน่งนั้นยาวนานขึ้น ในทางหนึ่ง มันก็เหมือนกับไวน์ ยิ่งมันถูกทิ้งไว้ใต้ดินนานเท่าไหร่ รสชาติก็จะยิ่งยอดเยี่ยมมากขึ้นเท่านั้น แม้ทั้งเคเลปและเดเมียนคล้ายกับไวน์ชั้นเลิศ แต่เจอรัลด์รู้ว่าเคเลปจะไม่สามารถล้มเดเมียนได้หรอก ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สายตาที่แหลมคมของเจอรัลด์ก็เข้าใจได้ว่าแม้เคเลปมีประสบการณ์ในการต่อสู้มากกว่าอย่างแน่นอน แต่กำลังภายในของเดเมียนนั้นยอดเยี่ยมกว่าของชายชราอยู่มาก
“ตกลง!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เจอรัลด์เองก็พอกันทีกับการช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อจะให้ได้สิ่งที่เขาต้องการ เขารู้ว่าเขาต้องกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวบ้าง อย่าลืมว่า ณ จุดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลเลยจริง ๆ ที่เขาจะทำเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่เป็นผลประโยชน์กับเขาอีกต่อไป ทันทีที่เจอรัลด์ตกลงช่วยเหลือในที่สุด เคเลปและธีโอก็ถูกโยนมายังทิศทางของเขา และพวกเขาทั้งคู่ก็ล้มลงอยู่ตรงแทบเท้าของเขา “ฮ่าฮ่าฮ่า! แกพาคนโง่เหล่านี้มาเพื่อป้องกันแกจริง ๆ เหรอ แซนเดอร์? มีใครอื่นอีกบ้างไหมล่ะ? มาเลย เดี๋ยวนี้!” เดเมียนคำรามใส่ก่อนจะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์ก็เริ่มเดินไปทางเขาอย่างใจเย็น “…หืมม? งั้นนี่คืออะไร? เด็กน้อยคนหนึ่งเหรอ? แท้จริงแล้วมีใครอื่นจากตระกูลเลิฟเวลล์อีกไหม? นี่เป็นใครกันเนี่ย?” เดเมียนกล่าว ขณะที่เขาส่ายหัวของเขาในขณะที่มองไปที่เจอรัลด์ “ฉันได้ยินว่านายเรียนรู้ทักษะบางอย่างที่มีต้นกำเนิดมากจากเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ! นั่นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?” เจอรัลด์ถาม ขณะที่เขามองเดเมียนกลับ เมื่อได้ยินแบบนั้น เดเมียนก็ถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ อย่างไรซะ เขาก็รู้ว่าเขาได้ปิดบังต
ที่ตามมาหลังจากเสียงนั้น ก็เห็นได้ว่ามีบางอย่างแวบ ๆ กำลังบินไปอย่างรวดเร็วมาก และในไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมานของเดเมียนก็ดังไปทั่วอากาศ! ยังไม่ทันได้ถามแม้แต่กริชที่ย้อนกลับมาเองได้ แต่ทันทีที่แซนเดอร์เห็นร่างของเดเมียนล้มลงกับพื้นอย่างไร้ชีวิต เขาก็เริ่มตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้นทันที “ข เขาตายแล้ว! ในที่สุดเขาก็ตายซะที!” เมื่อหันไปมองเจอรัลด์ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “คุณคลอฟอร์ด คุณได้ช่วยเหลือเลิฟเวลล์ไว้อย่างใหญ่หลวงมาก! ผมต้องตอบแทนคุณอย่างเหมาะสมในนามของครอบครัวของผมแน่นอน!” “ตามสัญญา ทั้งหมดที่ผมต้องการก็คือหนังสืออสูร!” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขายิ้มอย่างมีเลศนัยให้แซนเดอร์ ทันทีทันใดหลังจากได้ยินแบบนั้น แซนเดอร์ก็ตัวแข็งทื่อคาที่ ขณะที่เขาเริ่มพยายามที่จะเปลี่ยนหัวข้อ ฮาเวนเองที่ซ่อนตัวอยู่กับพี่น้องของเธอในบริเวณป่าตลอดเวลามานี้ ก็ปิดปากของเธอขณะที่เธอพูดขึ้น “ห เห็นนั่นไหมพี่สาว? นั่นคือเจอรัลด์จริง ๆ ด้วย! และ…และเขาน่าทึ่งมาก?!” ซารีนาเองก็มุ่งความสนใจไปที่เขาได้สักพักแล้วตอนนี้ ‘เมื่อคิดว่าเจอรัลด์มายังจังหวัดโลแกนเพื่อช่วยเหลือพ่อ…ช่างเ
“ฉันเอง เจอรัลด์!” ก่อนที่เจอรัลด์จะทันได้พูดอะไร ประตูห้องของเขาก็ถูกผลักเปิดออก และฮาเวนก็ยื่นหัวของเธอเข้ามาก่อนจะเข้าไปในห้อง “คุณกลับไปที่ห้องของคุณเพื่อพักผ่อนแล้วไม่ใช่เหรอ ฮาเวน? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่อีกล่ะ?” เจอรัลด์ถามด้วยรอยยิ้มจำนนบนใบหน้าของเขา ฮาเวนได้ตามหาเขาทันทีที่เขากลับมาที่คฤหาสน์ โดยตั้งใจจะรู้ให้ได้ว่าเขาแข็งแกร่งมากอย่างไร เมื่อไม่เห็นเหตุผลใด ๆ ที่จะซ่อนตัวจาากเธอ ก่อนหน้านี้เจอรัลด์จึงคุยกับเธอสักพักก่อนจะส่งเธอไป เขาไม่ได้คาดคิดที่จะพบเธออีกครั้งเร็วขนาดนี้เลยจริง ๆ “เอาล่ะ ยิ่งฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตอนอยู่ในห้องของฉันมากขึ้นมเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง! ฮึ่ม! คุณไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเลย! คุณลืมไปแล้วเหรอว่าพวกเราตกลงเป็นเพื่อนกันในตอนนั้นเมื่อพวกเรายังคงอยู่บนรถไฟน่ะ? ฉันใช้เวลาสักพักเลยนะกว่าจะรู้ตัวได้ แต่สุดท้ายคุณก็ไม่เคยมามองหาฉันเลย! คุณคิดที่จะอธิบายตัวเองยังไง?” ฮาเวนกล่าว ขณะที่เธอนั่งลง “ฮ่าฮ่า…ยอมรับตามนั้นแหละครับ!” เจอรัลด์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ บนใบหน้าของเขา เมื่อจ้องมองเขาได้สักพัก จากนั้นฮาเวนก็ยิ้มหวาน
เมื่อได้ยินเจอรัลด์พูดแบบนั้น ซารีนาก็โต้กลับทันที “คุณ!” ก่อนที่เธอจะพูดอะไรที่ไม่ยั้งคิดออกไป แต่เธอก็เพียงพยักหน้าก่อนจะยังคงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เพื่อทำให้ตัวเองใจเย็นลง ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็ยิ้มอย่างโกรธเคืองก่อนจะพูด “เนื่องจากคุณดูถูกวิหารเล็ก ๆ ของพวกเรา งั้นฉันก็คิดว่าตระกูลเลิฟเวลล์จะเพียงมอบหนังสืออสูรให้คุณในวันพรุ่งนี้เพื่อแทนคำขอบคุณของเราแล้วกัน คุณผู้ชาย!” ทันทีที่เธอพูดจบ ซารีนาก็หันหลังกลับและออกจากห้องของเขาไปทันที เมื่อปิดประตูด้านหลังเธอ เธอก็สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะขึงตามองไปที่ห้องนั้น เช้าตรู่วันต่อมาเมื่อฮาเวนผลักประตูห้องของเจอรัลด์เปิดออกก่อนจะตะโกนขึ้น “สวัสดีตอนเช้า อาจารย์!” “อาจารย์เหรอ?” เจอรัลด์ตอบกลับ ขณะที่เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวของเขา ในขณะที่มองไปที่หญิงสาวที่นำชาโสมติดมือมาด้วย เขาไม่มีโอกาสที่จะเตือนเธอว่าให้เคาะประตูก่อนเข้ามาด้วยซ้ำในคราวนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอบุกรุกเข้ามา แต่เจอรัลด์ก็ยังคงยิ้มให้อยู่ดี “ใช่ค่ะ อาจารย์! ฮ่าฮ่าฮ่า! คุณพูดว่าคุณจะสอนทักษะบางอย่างให้ฉัน ดังนั้นก็แน่นอนว่าฉันจะต้องเรียกคุณแบบนั้น! ยังไงซะ ฉันก็นำชาโสมมาด้วย
“ผมได้ยินมาว่าคุณจับเจอรัลด์ คลอฟอร์ด ได้สำเร็จ คุณเลิฟเวลล์ ในนามของโมลเดล ผมก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะขอบคุณคุณได้อย่างไร” ชายสูงวัยคนหนึ่ง ที่กำลังเดินนำสมาชิกเจ็ดคนอื่นของตระกูลโมลเดลเข้ามาได้กล่าวขึ้น ขณะที่เขาหัวเราะเสียงดัง “คุณถ่อมตัวมากเกินไปแล้วครับ คุณยาสเตอร์ ท้ายที่สุดแล้ว เลิฟเวลล์และโมลเดลก็อาจถือว่าเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ในจังหวัดโลแกนเช่นกันในตอนนี้ เจอรัลด์เองก็เป็นแค่คนนอกเท่านั้น แล้วทำไมพวกเราถึงจะชื่นชอบคนนอกมากกว่าใครบางคนจากฝั่งของเราล่ะครับ?” แซนเดอร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “แม่เจ้าโว้ยไม่อยากจะเชื่อเลย! นั่นเป็นเขาจริง ๆ! คุณไม่รู้หรอกว่าพวกเราพยายามมากแค่ไหนเพื่อที่จะหาเขาเจอได้!” ยาสเตอร์กล่าว น้ำเสียงของเขาดีใจเหลือล้น ขณะที่เขาเข้าไปใกล้เจอรัลด์ที่ไม่ได้สติ ยาสเตอร์เองก็เป็นบุคคลอาวุโสภายในตระกูลโมลเดลในโลแกน อันที่จริงงานของเขาก็คือจัดการตระกูลทั้งหมดในจังหวัดนี้ ดังนั้น การจับเจอรัลด์ได้สำเร็จจึงจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากในส่วนของเขาแน่นอน เขาสงสัยแล้วว่าลุงสองของเขา คอร์ด จะมอบรางวัลให้เขาอย่างไรสำหรับผลสำเร็จนี้ “มันช่างเป็นความเจ็บปวดอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ดี คู่ต่อสู้ปัจจุบันของเขานั้นมาจากตระกูลโมลเดล ถึงอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะทุ่มอย่างสุดความสามารถ อย่าลืมว่า เจอรัลด์ก็ได้ช่วยชีวิตเขาไว้ ในช่วงการต่อสู้ชี้ขาดกับเดเมียนเมื่อคือก่อน การกระทำของเขาจึงทำให้เคเลปรู้สึกเคารพเขาอย่างที่ไม่เคยมาก่อน มันน่าซาบซึ้งใจต่อเคลเลปอย่างแท้จริง และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชายชราจึงรู้สึกราวกับว่าเขาไม่ต้องทนทุกข์กับความอัปยศอดสูใด ๆ อีกต่อไปแล้วเป็นผลให้ เคเลปปฏิญาณไว้ว่าจะจงรักภักดีและสวามิภักดิ์ต่อเจอรัลด์ทันทีทันใดในตอนนั้นแล้ว มันยังเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงกำลังต่อสู้อย่างหนักในตอนนี้ เพื่อผลประโยชน์ของเจอรัลด์เช่นกัน แม้หลังจากการต่อสู้ได้พักหนึ่ง ก็ดูเหมือนราวกับว่าลูกน้องของตระกูลโมลเดลไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเคเลปเลยจริง ๆ เมื่อเห็นแบบนั้น ยาสเตอร์จึงส่ายหัวของเขาพร้อมกับยิ้มขมขื่นบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพูดขึ้นมา “เขาคู่ควรกับตำแหน่งของนักต่อสู้อย่างแท้จริง! ผมเดาว่าแขกท่านนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาดูจะเป็นนะ!” “อืม นั่นอาจเป็นเพราะคุณยังไม่ได้ลงมือเองล่ะมั้ง คุณโมลเดล ใครในจังหวัดโลแกนที่ไม่รู้ว่าคุณคือปรมาจารย์ระดับสูงในทั้งเว