“คุณเรียกนั่นว่ายาพิษเหรอ? ผมใช้มันเป็นยาบำรุงสุขภาพของผมมากว่าครึ่งปีก่อนแล้ว! คุณพยายามที่จะใช้มันเพื่อวางยาผมจริง ๆหรือนี่?” หลังจากการแช่ร่างกายในยาสมุนไพรและสสารอื่น ๆ มากมายทุกประเภท ที่ฟินน์เลย์ได้จัดหามาให้เขาในตอนนั้น เจอรัลด์จึงมีภูมิต้านทานต่อยาพิษบางชนิดแล้ว มันชัดเจนว่าพิษที่พวกเขาพยายามใช้กับเขาก็เป็นหนึ่งในยาพิษพวกนั้น เอาตามตรง เจอรัลด์ก็บอกได้อยู่แล้วว่าน้ำชาที่ฮาเวนเสริฟ์ให้เขาก่อนหน้านี้ ถูกวางยาพิษมานานแล้วก่อนที่เขาจะจิบดื่มมัน อย่าลืมว่า เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งเมื่อเป็นเรื่องของเภสัชวิทยา เขายังทราบดีในตอนนั้นเช่นกันว่า ฮาเวนจะไม่มีทางพยายามทำร้ายเขาหรอก ด้วยความคิดนั้นในใจ เขาก็รู้ว่าต้องเป็นหนึ่งในเลิฟเวลล์อย่างแน่นอนที่ต้องการจะทำร้ายเขา แต่ใครกันล่ะ? เมื่อต้องการรู้ให้ได้ เจอรัลด์จึงแกล้งทำเป็นหมดสติไป เพื่อที่เขาจะได้รอผู้ร้ายตัวจริงแสดงตัวเองออกมา “เด็กเปรต! แกรู้ไหมบ้างไหมว่าโมลเดลพยายามตามหาแกตลอดเวลามานี้อย่างยากเย็นเพียงใด? แม้พวกเราล้มเหลวในการวางยาแก แต่อย่าคิดว่าแกจะสามารถหนีไปได้ง่าย ๆ เลย!” ยาสเตอร์พูดเยาะเย้ย เคเลป ในทางกลับกัน ก
“ป โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย คุณคลอฟอร์ด!” แซนเดอร์ร้องออกมา ขณะที่เขาคุกเข่าทันทีด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นแบบนั้น เลิฟเวลล์คนอื่นทั้งหมดจึงทำแบบเดียวกัน เมื่อสูดหายใจเข้าลึก เจอรัลด์หลับตาลงชั่วครู่สั้น ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง ความเดือดดาลในดวงตาของเขาไม่ได้ปรากฏอยู่อีกต่อไป เนื่องจากเจอรัลด์ยังคงโกรธจัดอยู่ก่อนหน้านี้ เซนได้ทำผิดพลาดมหันต์โดยการสัมผัสเขา ในขณะที่เขายังคงอยู่ในสภาวะเป็นปรปักษ์อย่างมากอยู่ ตอนนี้ที่เขาใจเย็นขึ้นมากแล้ว เจอรัลด์หันไปมองแซนเดอร์และเดินไปหาเขาก่อนจะพูดขึ้นมา “…ไว้ชีวิตคุณเหรอ? หลังจากคุณผิดสัญญาที่จะมอบหนังสืออสูรให้ผมงั้นเหรอ? และอย่าแม้แต่จะให้ผมต้องเริ่มพูดความจริงที่ว่าคุณสมรู้ร่วมคิดกับโมลเดลเพื่อทำร้ายผมอีกด้วยซ้ำ…” เมื่อพูดไปแบบนั้น เขาก็คว้าจับบนหัวของแซนเดอร์เบา ๆ แซนเดอร์เองก็มีใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูกอยู่แล้ว ขณะที่เขาจ้องมองผู้ชายปีศาจที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา และในขณะที่เจอรัลด์กำลังจะเพิ่มกำลังของการจับของเขา ทันใดนั้นฮาเวนก็วิ่งเข้ามาในขณะที่ตะโกนขึ้น “จ เจอรัลด์! อย่า!” “ฮ ฮาเวน! เธออยู่นี่! ป โปรดช่วยฉันด้วย!” ซารีนาร้องไห้ค
‘แต่…ไม่มีทางที่เธอจะรู้ว่าเจอรัลด์เป็นใคร…เว้นแต่ว่า…เขาอาจอยู่ในจังหวัดโลแกนจริงหรือเปล่า…? เดี๋ยวนะ เธออาจจะไม่ได้พูดถึงเจอรัลด์คนเดียวกันก็ได้!’ ซาเวียคิดกับตัวเอง ด้วยคำถามมากมายหลายอย่างลอยอยู่ในหัวของเธอ ซาเวียจึงไม่สามารถยั้งตัวเองจากการไล่ตามหลังฮาเวนไปได้ เธอต้องการคำตอบอย่างมาก ข้ามไปอีกสองวันถัดไป เจอรัลด์พบว่าตัวเองอยู่ในเขตที่ห่างไกลจากตัวเมืองของป่าเอเวอร์แดร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายแดนของจังหวัดโลแกน ด้วยมรดกที่สืบยาวนานกว่าหลายพันปี ต้นไม้ภายในป่าเอเวอร์แดร์จึงเติบโตอย่างหนาแน่นมากบนภูเขามากมายที่เติบโตอยู่ใกล้กันและกันโดยเฉพาะพิเศษ นอกเหนือจากความหลากหลายมากมายของพืชที่ขึ้นในเฉพาะพื้นที่สามารถพบได้ที่นั่นแล้ว แต่ก็เป็นที่รู้กันว่ามีนักล่าหลากหลายชนิดซุ่มซ่อนอยู่ภายในป่า “ระวังด้วยตอนที่เสียบโพลง! พวกเราไม่สามารถปล่อยให้สัตว์ร้ายหนีไปได้อีกด้วยความเจ้าเล่ห์ของมัน!” หนึ่งในผู้ชายหลายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ารูที่จิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์ถูกต้อนให้จนมุม ด้วยการที่เวลสันรับผิดชอบในการปฏิบัติการนี้ มันก็ชัดเจนว่ากลุ่มคนประกอบด้วยเจอรัลด์และคนของเขา เนื่องจากเคเลปมอบแผนที่ของป่า
ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนั้น เจอรัลด์ก็จะไม่ยอมแพ้ไปอย่างง่ายดายขนาดนั้นหรอก เขาใช้ทักษะหนึ่งให้เป็นประโยชน์ ซึ่งให้เขาก้าวไปได้อย่างล่องลอย เท้าของเขาจึงแทบจะไม่ได้แตะพื้นเลย ขณะที่เขาวิ่งเต็มฝีเท้าไล่ตามจิ้งจอกไป หลังจากการวิ่งมาได้สักพัก จิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์ก็ตระหนักได้ว่าเจอรัลด์ไม่ได้ดูเหมือนจะช้าลงเลย เมื่อเข้าใจว่ามันจะไม่สามารถกำจัดเขาไปได้ง่าย ๆ เพียงแค่วิ่งไปทั่ว จิ้งจอกจึงพุ่งเข้าไปในพุ่มไม้แห่งหนึ่ง เมื่อมันเข้าไปในพุ่มไม้ เจอรัลด์จึงพลัดหลงกับมันแทบจะในทันที! “โธ่เว้ย! แกหนีไปได้อีกแล้วงั้นเหรอ?!” เจอรัลด์พูดกับตัวเอง ขณะที่เขาหยุดวิ่ง เมื่อรู้สึกเศร้าสลดเล็กน้อย ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่ได้ยอมแพ้ เมื่อกลั้นหายใจเพื่อนิ่งเงียบไว้ เขาก็กวาดมองไปทั่วสถานที่รอบตัวเขาอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง ถ้าเขาไม่ให้ความสนใจอย่างระวังในขณะที่เขาทำได้ เจอรัลด์ก็กลัวว่าจิ้งจอกคงจะลงเอยออกจากบริเวณนี้ไปแล้วแน่ แม้กระนั้น เขารู้สึกประหลาดใจ เมื่อทันใดนั้นได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้น “อ อย่าฆ่าพวกเรา! ได้โปรดอย่าฆ่าพวกเราเลย!” เมื่อมองไปยังทิศทางของเสียงตะโกนนั้น เจอรัลด์ก็เห็นผู้คนสองสามคนก
เมื่อหันไปด้านข้าง เจอรัลด์ก็สังเกตเห็นว่าคนที่ทำเสียงนั้นคือลูกสุนัขตัวหนึ่งที่กำลังเดินยโยกเขยกมาทางเขาอย่างช้า ๆ! เมื่อตรวจดูอย่างใกล้ชิด ดูเหมือนว่าลูกสุนัขตัวนั้นจะขาหัก ยิ่งไปกว่านั้น ก็มีแผลที่เห็นได้ชัดเจนทั่วร่างกายของมันเช่นกัน เมื่อมันมาถึงด้านข้างเจอรัลด์ในที่สุด มันก็นอนอยู่แทบเท้าของเขาก่อนจะเริ่มเลียปลายรองเท้าของเขาในทันที เจอรัลด์สะดุ้งตกใจมากกว่าสิ่งใด อย่างไรซะ เขาก็ไม่คาดคิดว่าจะบังเอิญเจอเจ้าตัวเล็กนี้ในป่าลึกขนาดนี้ ในทางหนึ่ง มันก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ลูกสนัขตัวนี้ยังคงมีชีวิตรอดด้วยการที่มีสัตว์นักล่ามากมายซุ่มซ่อนอยู่ภายในป่า “…นายอาจกำลังขอให้ฉันช่วยนายอยู่หรือเปล่า?” เจอรัลด์ถาม เมื่อเห่าสองครั้งเป็นการตอบสนอง จากนั้นมันก็เลียรองเท้าของเจอรัลด์ต่อไป ในขณะที่ความคิดแรกของเจอรัลด์ เมื่อได้เห็นลูกสุนัข คือการสกัดเลือดของมันเพื่อจะทำเลือดบริสุทธิ์ก็ตาม แต่หลังจากลูกสุนัขเริ่มเลียรองเท้าของเขา เขาก็ตระหนักได้ถึงสองสิ่ง อย่างแรก ลูกสุนัขยังตัวเล็กมากเกินไปที่จะสกัดเลือดบริสุทธิ์ได้อย่างคุ้มค่า อย่างที่สอง เขาตระหนักได้ว่าลูกสุนัขมีจิตวิญญาณธรรมชาติ ถึง
ด้วยเหตุนั้น เขาก็หัวเราะออกมา แม้เขาตื่นเต้นที่พบแหล่งเลือด แต่เขาก็ประหลาดใจอย่างแท้จริงกับคำกล่าวของชายชรา “แน่นอน! คุณทำให้ผมเสียเวลาและความพยายามอย่างมากเลย รู้ไหม? ผมทันคิด เนื่องจากผมบังเอิญได้พบคุณในขณะที่กำลังมองหาส่วนผสมสำคัญอย่างสุดท้ายสำหรับยาของผม ผมเชื่อว่าพวกเราทั้งคู่ถูกลิขิตให้พบกันที่นี่ แม้มันน่าเสียดายที่ผมไม่สามารถฆ่าคุณได้ในตอนนั้นในจังหวัดซอลฟอร์ด แต่ก็ดูเหมือนว่าคุณปรารถนาที่จะตายเพราะคุณพาตัวเองมาถึงที่ในคราวนี้! มันถึงเวลาซะทีที่พวกเราจะได้ชำระความแค้นและความคับข้องใจของพวกเราทั้งหมดในอดีตในวันนี้ คุณคลอฟอร์ด!” ชายชราตอบกลับ การเพ่งมองของเขาแข็งกระด้าง “อ่า ใช่ คุณยังคงทำงานให้ชุยเลอร์ในตอนนั้นในจังหวัดซอลฟอร์ดถ้าผมจำไม่ผิด พวกเรายังไม่ได้เกลียดกันและกันในตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น อย่างไรซะ ผมก็รู้สึกประหลาดใจที่คุณไม่แม้แต่จะอยู่ที่นั่น ตอนที่ผมกลับไปที่จังหวัดประมาณหกเดือนก่อน งั้นกลับกลายเป็นว่าคุณได้ย้ายมายังภูมิภาคทางเหนือเองสินะ!” เจอรัลด์กล่าว ขณะที่เขาจ้องชายชรากลับ ชายชราคนนี้มีใบหน้าทั้งสองซีกถูกระบายเป็นสีดำและสีขาวตามล
ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม ในที่สุดตอนนี้จูเลียนก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเจอรัลด์ถึงมีความสุขที่เห็นเขาก่อนหน้านี้ แทนที่จะตกใจกลัว ดังนั้นเจอรัลด์ก็แข็งแกร่งขนาดนี้อยู่แล้ว…ไม่เพียงเท่านั้น การเคลื่อนไหวของเขายังคาดเดาไม่ได้อย่างมาก และร่างกายของเขาก็แทบจะทำลายไม่ได้เลย! มันชัดเจนว่าเจอรัลด์รู้อยู่แล้วว่าจูเลียนไม่มีทางสู้เขาได้ตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อคิดย้อนกลับไป เจอรัลด์ยังขอบคุณเขาที่เสนอตัวเองมาที่นี่อีกด้วยซ้ำ! ตอนนี้ความเสียใจไหลผ่านจูเลียน ขณะที่เขาสงสัยว่าสิ่งต่าง ๆ อาจแตกต่างไปหรือไม่ถ้าเขาไม่ได้ตัดสินใจไล่ตามเจอรัลด์ก่อนหน้านี้ ถ้าเขาแค่กลับบ้านไปหลังจากฆ่าคนไม่กี่คนเหล่านั้น งั้นเขาก็คงจะสกัดยาอายุวัฒนะ และอาจจะได้รับโอกาสให้เข้าไปยังดินแดนลึกลับแห่งกำลังภายในแล้ว อย่างไรก็ตาม มันสายมากเกินไปแล้วที่จะเสียใจในตอนนี้ “นาย…นายวางแผนที่จะทำอะไรกับฉัน…?” จูเลียนพูดในระหว่างหอบหายใจ รู้สึกเหนื่อยมากจนจะหมดแรงอยู่แล้ว “ผมจะเอาเลือดของคุณออกตอนนี้ ไม่ต้องกังวลไป ผมจะรักษาร่างของคุณอย่างสมบูรณ์ตามที่ผมได้สัญญาไว้! ขอให้คุณเข้าสู่ชีวิตหลังความตายด้วยความสบายใจนะครับ!” เจอรัลด์กล่าวขณ
“พาพวกเลิฟเวลล์มา!” ชายหนุ่มสั่ง ขณะที่เขาขมวดคิ้วแน่นขึ้น เมื่อได้ยินแบบนั้น ลูกน้องของเขาจึงนำแซนเดอร์และเคเลปที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาตรงหน้าเขา “คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่ได้โกหกพวกเรา เมื่อคุณบอกว่าเขาจะมาที่ป่าเอเวอร์แดร์?” ชายหนุ่มถาม “ทำไมผมถึงจะโกหกคุณเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้ด้วยล่ะครับ คุณโมลเดล? เขาพูดจริง ๆ ว่าเขาจะมุ่งหน้ามาที่สถานที่นี้! อีกอย่าง ผมก็หวังว่าคุณจะตระหนักได้ว่าไม่ใช่เลิฟเวลล์ที่ฆ่าสมาชิกโมลเดลแปดคนนั้น! ได้โปรดจำไว้ด้วยนะครับ…!” แซนเดอร์ตอบกลับ ด้วยสีหน้าหวาดกลัวบนใบหน้าของเขา ชายหนุ่มที่ถามคำถามเหล่านั้นมีชื่อว่ายูวาน โมลเดล และเขาคือลูกชายคนที่สองของผู้นำของตระกูลโมลเดล แซนเดอร์เองก็เคยได้ยินเกี่ยวกับเขามานานแล้ว คำเล่าลือของวิธีการของชายผู้นั้นว่าเยือกเย็นและโหดเหี้ยมเพียงใด การเป็นนักธุรกิจ แซนเดอร์รู้ว่าเขาไม่สามารถทำให้ทั้งเจอรัลด์และโมลเดลต้องขุ่นเคืองใจได้อีกต่อไป แต่ถึงกระนั้น เมื่อโมลเดลส่งคนมาเพื่อตรวจสอบ เมื่อพวกเขาได้ยินข่าวลือถึงการตายของสมาชิกโมลเดลแปดคนภายในคฤหาสน์เลิฟเวลล์ เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบอกพวกเขาตามจริงว่าเจอรัลด์อยู่ที่ไหน
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ