เขาต้องก้าวเข้ามาเป็น ‘มาเฟีย’ เพราะถูกบังคับด้วยคำว่า ‘ความกตัญญู’ ต้องหันหลังให้ชีวิตสุขสงบ มาผจญกับคนเลวสารพัดรูปแบบ มือต้องเปื้อนเลือด เท้าต้องเดินข้ามซากศพของศัตรูและคู่แข่ง เพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าพ่อมาเฟียแห่งเกาะฮ่องกง เธอคือลูกสาวของอดีตหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียที่โดนลูกน้องคนสนิททรยศจนถูกฆ่าตาย เมื่อขาดผู้ปกป้องเธอจำต้องเข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเงาของเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ บุญคุณของเขามากมายล้นฟ้า หากต้องแลกด้วยชีวิตและพรหมจรรย์เพื่อตอบแทนบุญคุณเธอก็พร้อมยอมทำ
View Moreร่างสูงใหญ่ของอาจารย์หนุ่มแห่งโรงเรียนสอนวิชาศิลปะการต่อสู้ กำลังเคลื่อนไหวแสดงท่าทางการต่อสู้ให้กับลูกศิษย์ที่พากันนั่งคุกเข่าเป็นระเบียบได้ชม คู่ซ้อมเป็นลูกศิษย์รุ่นใหญ่ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้ช่วยครูฝึก รูปร่างของเขาค่อนข้างล่ำสันแต่การเคลื่อนไหวขณะโจมตีคล่องแคล่วว่องไว หากยังไม่เก่งกาจและชำนาญเท่าผู้เป็นอาจารย์ หมัดและเท้าเตะต่อยเหวี่ยงตัวเข้าใส่ร่างหนาสูงใหญ่ของผู้เป็นอาจารย์หลายต่อหลายครั้ง แต่ถูกอีกฝ่ายพลิกพลิ้วเบี่ยงกายหลบและตอบโต้ได้ทุกครั้ง ร่างสูงของอาจารย์หนุ่มเคลื่อนกายพลิ้วไหวลักษณะเป็นวงกลม ตั้งรับทุกกระบวนท่าอย่างสงบนิ่ง การเคลื่อนไหวเลื่อนไหลไปตามธรรมชาติของร่างกาย เป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่ารุก ดวงตาคมกริบแววตาเปล่งประกายวาวกล้าทรงพลังจ้องมองคู่ต่อสู้ไม่ละสายตา เหงื่อเม็ดเล็กไหลหยดลงมาบนปลายจมูกโด่งงามเป็นสัน ทว่าเจ้าตัวไม่ได้ใส่ใจเช็ดมันออก ริมฝีปากหยักสวยขยับแย้ม เมื่อเห็นอาการหอบเหนื่อยของคู่ซ้อมที่เริ่มผ่อนแรงลง รู้ดีว่าตอนนี้หมดเวลาเล่นแล้วถึงเวลาเผด็จศึก!
ปึก พลั่ก ตุ๊บ!!!
ร่างล่ำสันถูกจู่โจมอย่างฉับไว คนเป็นขยับเพียงครั้งเดียวก็สามารถจัดการ บิดล็อก ใช้สันมือฟันฉับบนต้นคอหนา เหวี่ยงร่างกำยำลองกองกับพื้นเสียงดังตุ๊บ จับล็อกกดตรึงคู่ต่อสู้ลงแนบกับพื้นหมดสภาพทันที สายตาหลายคู่มองการต่อสู้ที่จบลงด้วยแววตาชื่นชม
“การเคลื่อนไหวทุกรูปแบบของไอคิโดเป็นวงกลม แม้แต่การเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนเป็นแนวตรง ก็มีการเคลื่อนที่เป็นลักษณะเกลียวซ่อนอยู่” เสียงทุ้มเอ่ยออกมา สายตากราดมองลูกศิษย์ทุกคน
“เทคนิคของไอคิโดถูกออกแบบมาให้มีการเคลื่อนไหว โดยการเลื่อนไหลไปตามธรรมชาติของร่างกาย การบิดข้อ จะบิดไปตามลักษณะการเคลื่อนที่ตามธรรมชาติของข้อนั้น”
ผู้เป็นอาจารย์แสดงท่าทางการต่อสู้แบบช้าๆ ให้ลูกศิษย์ดูอีกครั้ง โดยการจับบิดล็อก และจับกดตรึงกับพื้น
“การบิดด้วยลักษณะแบบนี้ จะบังคับทำให้ผู้โจมตีล้มลงโดยไม่เป็นอันตรายต่อข้อมือหรือข้อต่อต่างๆ การตรึงคู่ต่อสู้ไว้กับพื้นแบบไอคิโดก็ใช้วิธีแบบเดียวกัน และสามารถใช้ได้กับทุกคนไม่ว่าจะมีรูปร่างเล็กหรือใหญ่ โดยใช้แรงเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่ต้องใช้เลย”
“เซนเซย์เจิ้งครับ ปล่อยผมก่อนได้ไหมครับ ไหล่จะหลุดแล้ว”
เสียงพิโอดพิครวญดังออกมาจากร่างของคู่ซ้อม ที่ถูกจับกดอยู่นาน
“เจ็บก็ไม่บอกนะวิรัตน์ ขอโทษที”
หลี่เจิ้ง หรือ จักรพรรดิ ลีวงศ์กุล อาจารย์หนุ่มลูกครึ่งไทยฮ่องกง ปล่อยมือจากร่างของลูกศิษย์เอก พร้อมกับดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น แล้วหันไปบอกกับลูกศิษย์คนอื่นว่า
“จับคู่ซ้อมกันครึ่งชั่วโมง ผลัดกันเป็นฝ่ายรุกคนละสิบห้านาที อาจารย์จะดูพวกเธอ”
เขาขยับไปนั่งบนเบาะตรงด้านหน้า มองดูลูกศิษย์ฝึกซ้อมอย่างตั้งใจ
กว่าห้าปีแล้วที่หลี่เจิ้งเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้แห่งนี้ขึ้นมา ช่วงเช้าเขาจะไปสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัย ช่วงเย็นถึงจะมาดูแลโรงเรียน ในวัยสามสิบหกเขาแต่งงานแล้วและมีลูกชายหนึ่งคนอายุสิบขวบ มีภรรยาแสนสวยคอยดูแล ครอบครัวแสนอบอุ่นพรั่งพร้อมสมบูรณ์ ชีวิตของหลี่เจิ้งสุขสงบจนน่าอิจฉา หากทุกสิ่งกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
“เซนเซย์ครับ มีคนต้องการพบเซนเซย์ครับ”
วิรัตน์เข้ามารายงานผู้เป็นอาจารย์ ที่ห้องทำงาน หลังจากหมดคาบเรียนแล้ว
“เชิญเขาเข้ามาสิ เอาน้ำมาเสิร์ฟด้วยนะ”
หลี่เจิ้งเงยหน้าจากกองเอกสาร พยักหน้ารับ
ครู่หนึ่งวิรัตน์ก็พาชายคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่เข้ามา หลี่เจิ้งลุกขึ้นต้อนรับผายมือเชื้อเชิญให้นั่ง
“เชิญนั่งครับ”
“ขอบคุณครับคุณเจิ้ง”
ชายคนนั้นตอบรับเป็นภาษาจีน สร้างความกังขาให้หลี่เจิ้งมาก
“คุณมีธุระอะไรกับผมหรือครับ”
หลี่เจิ้งจำต้องสนทนาเป็นภาษาจีนตอบโต้ไป เขาถูกมารดาเคี่ยวเข็ญให้เรียนภาษาจีนตั้งแต่จำความได้ จึงพูดและสื่อสารภาษานี้ได้อย่างคล่องแคล่วไม่แพ้เจ้าของภาษา
“คุณคงสงสัยว่าผมเป็นใคร”
ชายคนนั้นยิ้มบางๆ สายตาคมกล้าจ้องมองใบหน้าของเจ้าของโรงเรียนนิ่ง
“ผมชื่อหวังไป่ฉี เป็นคนสนิทของท่านหลี่เสวียน คุณพ่อของคุณครับ”
หวังไป่ฉีแนะนำตัวเอง พร้อมสังเกตปฏิกิริยาของชายหนุ่มไปด้วย หลี่เจิ้งไม่ได้แสดงท่าทางตกใจหรือแปลกใจมากมาย เขายังคงความคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดี แววตาคมกริบนิ่งสงบหากทรงพลังไม่ต่างจากผู้เป็นนายของเขาเลย นี่สินะ เขาถึงเรียกว่าลูกมังกร ยังไงก็เป็นมังกร ต่อให้อยู่ในสถานะใดก็เปล่งบารมีของผู้ยิ่งใหญ่เสมอ หวังไป่ฉีลอบยิ้มชื่นชมนายน้อยของตนเงียบๆ
“คนของคุณพ่อ...” หลี่เจิ้งทวนคำ
เขามองบุรุษสูงวัยตรงหน้าอย่างพินิจ แม้ไม่ได้รู้จักหวังไป่ฉีเป็นการส่วนตัวแต่เขาพอรู้ว่าบิดาของเขา เป็นนักธุรกิจใหญ่มีอิทธิพลคนหนึ่งของฮ่องกง หวังไป่ฉีเป็นคนสนิทของท่านคงมีธุระสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงไม่มาหาเขาซึ่งเป็นแค่ลูกนอกสมรสด้วยตัวเอง
“ตอนนี้ท่านหลี่เสวียนกำลังป่วยหนักครับ ท่านต้องการพบคุณ”
หวังไป่ฉีบอกจุดประสงค์ของตนเองให้ชายหนุ่มรู้
“คุณพ่อป่วยหนัก ท่าน... ท่านเป็นยังไงบ้าง”
หลี่เจิ้งเอ่ยถามเสียงสั่นเล็กน้อย แม้บิดาจะไม่ค่อยได้ให้ความเอาใจใส่กับเขามากมายเหมือนพี่ชายซึ่งเป็นลูกเมียแต่ง แต่ท่านก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ยังคงส่งเสียเลี้ยงดูเขากับมารดาอย่างดีมาโดยตลอด จนเขาเรียนจบมีงานทำหลี่เจิ้งถึงได้งดรับความช่วยเหลือจากท่าน บิดาของเขามักจะเดินทางมาหามารดาของเขาปีละสองครั้ง นั่นเป็นโอกาสเดียวที่เขาได้อยู่ใกล้ชิดท่าน ชายหนุ่มไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวฝั่งบิดาด้วยรู้ว่าตัวเองเป็นแค่ลูกนอกสมรส หลายสิบปีที่ผ่านมาหลี่เจิ้งอาศัยอยู่ที่เมืองไทยกับมารดามาโดยตลอด เขาพอใจชีวิตที่เป็นอยู่ไม่อยากแย่งชิงสมบัติหรือความสำคัญจากบิดา จึงไม่คิดจะเดินทางไปฮ่องกงสักครั้ง
“ท่านหลี่เสวียนต้องการพบคุณเจิ้งกับคุณแม่ของคุณ”
หวังไป่ฉีไม่ได้บอกอะไรมากกว่านี้ เขาต้องการให้หลี่เจิ้งไปพบกับผู้เป็นบิดาด้วยตัวเองมากกว่า
“ได้ผมจะรีบไป พรุ่งนี้ถ้าจองตั๋วได้ ผมจะเดินทางเลย”
หลี่เจิ้งไม่เสียเวลาคิดมาก ความห่วงใยทำให้เขาอยากเดินทางไปพบบิดาให้เร็วที่สุด
“ผมได้จองตั๋วเครื่องบินให้คุณกับคุณแม่ของคุณแล้วครับ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ ขอเพียงคุณรับปากไปหาท่าน ก็พร้อมเดินทางได้ทันที”
หวังไป่ฉีเตรียมการเรื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น ผมคงต้องบอกคุณแม่ให้เตรียมตัวก่อน”
“ครับคุณเจิ้ง พรุ่งนี้เช้า ผมจะไปรับคุณที่บ้านนะครับ ผมขอตัวก่อน”
หวังไป่ฉีนัดหมาย แล้วขอตัวเมื่อเสร็จธุระ
หลี่เจิ้งออกมาส่งหวังไป่ฉีที่รถ เขาขับรถพาตัวเองกลับไปบ้านทันที เมื่อไปถึงบ้านก็เข้าไปหามารดา คุณจันทร์ฉายมองใบหน้าหม่นหมองของลูกชายก็รู้ว่า หลี่เจิ้งกำลังมีเรื่องทุกข์ใจอยู่ คนเป็นแม่ลูบศีรษะลูกชายปลอบโยนขณะเอ่ยถามเสียงนุ่ม
“มีเรื่องใช่ไหมลูก”
ศีรษะได้รูปพยักรับช้าๆ ดวงตาคู่คมหม่นแสงลง
“เมื่อครู่คนของคุณพ่อ มาหาผมที่โรงเรียน บอกว่าคุณพ่อป่วยหนัก อยากให้ผมกับคุณแม่ไปพบท่านที่ฮ่องกง” เขาบอกมารดา
คุณจันทร์ฉายนิ่งไปครู่หนึ่ง
“คุณเสวียนคงอาการหนักจริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางบอกเราหรอก”
เธอรู้นิสัยของสามีว่าหลี่เสวียนจะไม่ยอมแสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครเห็น และไม่มีทางจะเรียกลูกชายคนเล็กให้ไปพบหากไม่มีเรื่องสำคัญจริงๆ คุณจันทร์ฉายสังหรณ์ใจว่าสิ่งที่เธอกลัวและพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดชีวิต ครั้งนี้อาจจะหนีไม่พ้น คนเป็นแม่มองลูกชายที่เติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ด้วยแววตาเป็นกังวล เธอพาหลี่เจิ้งกลับมาอยู่ที่เมืองไทยร่วมสามสิบกว่าปี ใช้ชีวิตสุขสงบมายาวนานจนวางใจว่า ลูกชายจะหลุดพ้นจากเส้นทางสายนั้น เส้นทางชีวิตที่ผู้เป็นสามีคลุกคลีมาตลอดชีวิตของเขา เขาเคยรับปากกับเธอแล้วว่าจะปล่อยเธอกับลูกให้อยู่อย่างสงบ ทำไมถึงได้เรียกตัวไปพบแบบนี้
ตอนที่ 81.สัญญาใจ (จบ)มาเฟียหนุ่มไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหว เขายังตั้งหน้าตั้งตานำพาเธอให้ร่วมเดินทางไปบนเส้นทางแห่งความหฤหรรษ์ จนร่างกายของเธอสะท้านไหวไปกับความต้องการอันล้นปรี่ของเขา หญิงสาวจิกปลายเล็บลงบนแผ่นหลังเมื่อความปั่นป่วนกำลังบิดเกลียวในจุดประสาน ความแข็งแกร่งของเขากำลังทำให้เธอถึงจุดที่เกินต้านทานไหว เขาเองคงไม่ต่างกัน เมื่อเร่งขับเคลื่อนกายแกร่งให้ล้ำลึกหนักหน่วงเร่าร้อนจนร่างกายแทบมอดไหม้ด้วยเพลิงเสน่หา ความรัญจวนใจก่อตัวขึ้นในจุดสูงสุดก่อนจะระเบิดเป็นแสงระยิบระยับในหัว เสียงครางครวญดังกระหึ่มผสานกับเสียงกรีดร้องหวานแหลมดังก้องขึ้นพร้อมกัน ร่างหนากระตุกเฮือกเมื่อโถมกายเข้าหาร่างบางเป็นครั้งสุดท้าย คนใต้ร่างหยัดสะโพกตอบรับ สองมือโอบรัดร่างแกร่งไว้แน่น ทั้งสองกอดกันนิ่งอยู่แบบนั้นราวกับไม่ต้องการพรากจากกันอีกต่อไปหลี่เจิ้งซบใบหน้ากับซอกคอขาวผ่อง ร่างหนาซบนิ่งอยู่บนร่างงามไม่ขยับไหวโดยวางศอกทั้งสองข้างรองรับน้ำหนักตัวไม่ให้กดทับร่างบาง เสียงลมหายใจของเขาดังสะท้อนอยู่ข้างใบหูของเธอ หลินหลินเงยหน้าขึ้นหอบหายใจแรง สองแขนยังคงโอบกอดไว้ไม่ยอมปล่อย ความอบอุ่นโอบล้อมทั้งกายและใจของทั้
ตอนที่ 80 รักครั้งสุดท้าย/2หนึ่งเดือนต่อมางานแต่งงานของหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟกับเจ้าสาวต่างวัยก็ถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราและยิ่งใหญ่ แม้ฐานะของหลินหลินไม่อาจเปิดเผยได้ แต่หญิงสาวก็พอใจที่เธอได้รับการยกย่องจากคนเป็นสามี เธออยากขอบคุณริคคาโด้เหลือเกินที่ทำให้หลี่เจิ้งยอมขอเธอแต่งงาน แต่ไม่กล้าไปพูดอะไรกับชายหนุ่มตรงๆ เพราะสามีของเธอขี้หวงอย่างหนัก แม้ตอนที่ริคคาโด้มาจับมือแสดงความยินดี ดวงตาคู่คมของหลี่เจิ้งก็เปล่งประกายวาบวาวด้วยความหวงแหน จนอีกฝ่ายปล่อยมือแทบไม่ทันคนที่เจ้าสาวอยากขอบคุณได้แต่นั่งมองภาพคู่บ่าวสาวด้วยสายตาหมองเศร้า เขาดีใจที่หลินหลินได้พบกับความสุขเสียที แม้ตัวเองต้องชอกช้ำขมขื่นเพียงใดก็ตาม เพื่อนร่วมแผนการอย่างเว่ยเหยียนก็อยู่ในสภาพเดียวกัน ต่างพากันมองเจ้าสาว คนสวยในชุดวิวาห์สีขาวด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ และมองเจ้าบ่าวด้วยแววตาอิจฉา“สงสัยชาติที่แล้วคุณเจิ้งคงทำบุญมาดี ชาตินี้ถึงผู้หญิงถึงเกลียดเขาไม่ลง ทั้งที่ทำร้ายเธอสาหัสขนาดนั้น” เว่ยเหยียนอดแขวะเจ้าบ่าวไม่ได้ริคคาโด้หัวเราะเสียงขื่น “ผมว่าคุณเจิ้งเขาโชคดี ที่ได้รับความรักจากผู้หญิงดีๆ อย่างลิลลี่ โชคดีจนน่าอิจฉา” เขาทอดสา
ตอนที่ 79. รักครั้งสุดท้าย/1“ริคคาโด้คงมีคุณกับผมเท่านั้นแหละ ที่เห็นค่าของคุณหลินหลิน เคยมีใครบางคนยกเธอให้คนอื่นโดยไม่รู้ถึงคุณค่าของเธอมาแล้ว ไม่รู้ทำบุญด้วยอะไรคุณหลินหลินถึงได้ยอมให้อภัย” เว่ยเหยียนเปรยขึ้นหลินหลินแสร้งยกคิ้วสูง ทำหน้าเหมือนสงสัย “อะไรนะคะ ฉันน่ะหรือเคยถูกยกให้คนอื่นเหมือนของไร้ค่า คุณพูดเล่นหรือเปล่า”“ถ้าคุณอยากรู้คืนนี้ลองถามคุณเจิ้งดูสิ” เว่ยเหยียนโยนภาระมาให้หลี่เจิ้งหลี่เจิ้งหัวใจกระตุกวาบเมื่อถูกเว่ยเหยียนสะกิดแผลเก่า เขามองหน้าภรรยาสาวที่ทำท่าสงสัยอย่างรู้สึกผิด ถึงแม้เธอจะเคยให้อภัยเขาแล้ว แต่ความผิดครั้งนั้นเหมือนรอยบาปที่เขาไม่อาจสลัดออกไปจากใจ สองหนุ่มดูเหมือนตั้งใจโจมตีเขา เหมือนวางแผนกันมาล่วงหน้า ไม่ใช่การมาเยี่ยมเยือนตามประสาคนรู้จัก มาเฟียหนุ่มใหญ่เพิ่งเข้าใจเจตนาของทั้งสองในนาทีนี้เอง ว่าเว่ยเหยียนกับริคคาโด้ต้องการบอกอะไรเขา ความหึงหวงทำให้สมองเขาทำงานช้าจนวิเคราะห์ไม่ออกว่า สองหนุ่มกำลังทำให้เขาสำนึกและมองเห็นคุณค่าของหลินหลิน ซึ่งเขาทำเมินเฉยไม่ได้ให้เกียรติเธอมากกว่าการดูแล ด้วยเข้าใจว่าเธอความจำเสื่อมคงไม่คิดอะไรมาก แต่วันนี้เขาเพิ่งรู้ต
ตอนที่ 78. ความทรงจำแห่งรัก/2“คุณเจิ้งไม่อยู่เหรอ” ริคคาโด้เอ่ยถามหาเจ้าของบ้าน ตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาเขายังไม่ได้พบมาเฟียหนุ่ม หลินหลินส่ายหน้า ยิ้มอ่อนๆ“คุณเจิ้งไปประชุมกับพวกหอการค้าค่ะ เย็นๆ ถึงจะกลับ” หลี่เจิ้งไม่ได้เป็นแค่มาเฟียแต่เขาเป็นนักธุรกิจด้วย งานในหน้าที่จึงมีมากมาย“คุณอยู่แต่ในบ้านไม่เหงาบ้างเหรอลิลลี่ วันๆ คงเอาแต่เลี้ยงลูกกับทำงานบ้านสินะ” เขาเอ่ยถาม สายตาทอดมองใบหน้างดงามไม่เสื่อมคลายของหญิงสาว อย่างอาทร“ฉันชินแล้วค่ะริคกี้” หลินหลินยิ้มละมุน ขอบคุณความห่วงใยของเพื่อนชายผ่านสายตา “ฉันมีความสุขตามประสา ไม่ได้ทุกข์ใจหรือเดือดร้อนใจอย่างที่คุณห่วง หรอกค่ะ คุณเจิ้งดีกับฉันมาก”“เขาดีกับคุณไม่พอหรอกลิลลี่” ริคคาโด้ท้วงเขามองหน้าหญิงสาวนิ่ง รับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่เธอซ่อนไว้ เธอบอกว่าไม่ได้ทุกข์ แต่เธอก็ไม่ได้สุขเต็มที่ เขารู้มาว่าหลี่เจิ้งไม่ได้ยกย่องหญิงสาวอย่างออกหน้าออกตาเหมือนที่เคยยกย่องเพียงลดา หลินหลินเป็นภรรยาก้นครัวที่หลี่เจิ้งเก็บไว้ภายในบ้าน ไม่เปิดเผยต่อคนในสังคม จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ริคคาโด้รู้สึกไม่พอใจที่หลี่เจิ้งทำเหมือนหลินหลินเป็นผู้หญิงไ
ตอนที่ 77. ความทรงจำแห่งรัก/1เขาร้องเรียกเธอสุดเสียง เมื่อเห็นร่างงามค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนฟ้า เธออยู่สูงจนเขาเอื้อมไปแตะไม่ได้ ใบหน้างามระบายรอยยิ้มอ่อนหวาน ขณะทอดสายตามองเขาด้วยแววตาอ่อนโยน“คุณเจิ้งคะ ปล่อยลดาไปเถอะคะ เวลาของลดาหมดลงแล้ว แต่เวลาของคุณยังมีเหลืออยู่” เธอบอกเขาด้วยบน้ำเสียงอ่อนเบาราวเสียงกระซิบ“ไม่นะลดา ผมรักลดา ผมไม่อยากสูญเสียลดาไป” เขายังคงดื้อดึง ไม่อยากปลดปล่อยของรักให้จากไป“เก็บลดาไว้ในความทรงจำของคุณก็พอ แต่จงมีชีวิตต่อไปเพื่อคนที่คุณควรรัก และดูแลเธอให้ดี อย่าให้ต้องสูญเสียเธอไปเหมือนที่คุณเสียลดา ดูแลหลินหลินด้วยนะคะ เธอเป็นคนที่ลดาเลือกให้คุณ ดูแลเธอด้วย...”เพียงลดาบอกก่อนจะลอยหายไปบนท้องฟ้า ปล่อยให้ม่านหมอกหนาคลุมลงมา จนมองไม่เห็นอะไร หลี่เจิ้งผวารู้สึกตัวตื่นขึ้น พร้อมกับเหงื่อโทรมกาย เขามองร่างบางที่นอนเคียงกัน ก่อนจะพยักหน้าให้ตัวเองเมื่อรู้ว่าเพียงลดามาหาเขาในฝัน เพราะต้องการให้เขาดูแลหลินหลินให้ดี เธอคงมาลาเขาเพื่อไปสู่ภพภูมิข้างหน้า แต่คงห่วงใยเขาและหลินหลินถึงได้มาสั่งลาก่อนจาก“คุณหลี่ครับ มีเรือสองลำกำลังแล่นมาทางนี้ครับ” เสียงของบอดี้การ์ดคนหนึ่งร
ตอนที่ 76.เลือกแล้วคือเธอ/2คืนนั้นเป็นคืนแรกในรอบหกเดือนที่หลี่เจิ้งมีโอกาสได้นอนร่วมเตียงกับภรรยาสาว เขาทำให้เธอสบายใจโดยการนอนนิ่งๆ คนละฟากกับเธอ โดยมีหมอนข้างกั้นอาณาเขตไว้ หลายชั่วโมงกว่าหลินหลินจะยอมวางใจนอนหลับไป เปิดโอกาสให้คนที่นอนตัวแข็งได้ขยับเข้ามาแนบชิด ใบหน้าคมชะโงกดูใบหน้างดงามที่นอนหลับตาพริ้มอย่างอาทร“หลินหลิน เมื่อไหร่เธอจะจำฉันได้สักที” เขารำพึงเสียงเศร้า ก่อนจะแตะริมฝีปากจุมพิตเรียวปากบางแผ่วเบาทะนุถนอม กอดร่างน้อยไว้แนบอกอุ่น แล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามเธอไปเสียงคลื่นซัดซ่ากับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ได้ทอดผ่านกรอบ หน้าต่างเข้ามาในห้องนอนกว้าง บนเตียงนุ่มร่างสองร่างนอนกอดซบกันใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แสงจัดจ้าของวันใหม่ปลุกให้คนที่นอนอยู่รู้สึกตัวตื่นขึ้น ความอบอุ่นที่โอบล้อมกายทำให้ร่างบางขยับกายอย่างเกียจคร้าน ดวงตาคู่สวยหรี่ปรือฉายรอยง่วงงุน ก่อนจะลืมตาโพลงเมื่อเห็นปลายคางของใครคนหนึ่งเข้า ร่างหนาของคนตัวโตนอนตะแคงสละแขนข้างหนึ่งให้หญิงสาวหนุนนอนต่างหมอน เสียงลมหายใจเข้าออกดังสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเขายังอยู่ในห้วงนิทราหลินหลินคลี่ยิ้มละมุน มองดวงหน้าคมคายของสามีหนุ่มใหญ่ด้ว
ตอนที่ 75 เลือกแล้วคือเธอ/1“มองแบบนี้ ฉันว่าฉันไปเปลี่ยนชุดดีกว่าค่ะ”ดูสิ... เขามองเธอราวกับจะกลืนกินแบบนี้ พาลให้แข้งขาสั่นแทบไม่มีแรงยืน ไม่รู้จะมองให้ทะลุผ้าที่พันไว้หรือไร หญิงสาวแอบบริภาษสามีหนุ่มจอมหื่นในใจ“ไม่เอาน่า ใส่ชุดนี้ดีแล้ว หรือว่าอยากเปลี่ยนใจไม่สวมอะไรก็ได้นะ ฉันไม่ว่า”หลินหลินหน้าร้อนแล้วร้อนอีกไม่คิดว่ามาเฟียหนุ่มจะเล่นมุกนี้ ใครจะรู้ว่าคนโหดๆ คนนี้จะมีมุมแบบนี้อยู่ในชีวิต หากไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน“ฉันว่าเราไปเล่นน้ำกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน”หลินหลินเบี่ยงกายจากอ้อมแขนแกร่ง เดินนำเขาออกมายังชายหาดหลังบ้านหญิงสาวลงไปเล่นน้ำโดยไม่ยอมถอดผ้าพันตัวออก หลี่เจิ้งได้แต่ส่ายหน้า อมยิ้มขำคนขี้อาย เขาตามลงมาในน้ำแต่หลินหลินกลับว่ายออกห่างไม่ยอมให้เขามาเล่นใกล้ๆ มีหรือคนที่ตั้งตารอเวลานี้จะยอมแพ้ ร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยพละกำลังของชายหนุ่มแกร่งฉกรรจ์ ย่อมแข็งแรงกว่าผู้หญิงร่างเล็กบอบบางหลายเท่า ในที่สุดร่างน้อยก็ถูกคนตัวโตกว่าโอบกระหวัดไว้แนบแผงอกกว้างตึงแน่นด้วยมัดกล้าม สายน้ำเย็นๆ ห้อมล้อมทั้งสองไว้ หญิงสาวช้อนตามองคนร่างหนาที่ตามมาวอแวด้วยแววตาเขินจัด“ทำไมต้องกอดด้
ตอนที่ 74.หวานนักรักของเรา/3หลินหลินกลั้นยิ้มจนแก้มตุ่ย เข้าใจหน้าเคร่งๆ ของสามีว่าเกิดจากอะไร หลี่เจิ้งมีปมเรื่องความหนุ่มความแก่ เขาคงระคายหูไม่น้อยเมื่อได้ยินกริชถามแบบนั้น หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าตัวเองแกล้งสามีมากเกินไป เมื่อครู่เขาก็มองเธอด้วยสายตาเหมือนน้อยใจ ที่เธอเอาแต่ตักกับข้าวให้กริช ตอนนี้หน้าของเขายับย่นจนเห็นรอยตีนกาจากคำถามแสลงใจ“คุณคิดว่าคุณเจิ้งเป็นอะไรกับฉันหรือคะคุณกริช” หลินหลินย้อนถาม ขณะเดินมานั่งข้างร่างหนาของสามี“ผมเดาว่าคุณเจิ้งไม่เป็นน้า ก็เป็นอาของคุณครับคุณหลินหลิน ถ้าเป็นพ่อคงแต่งงานตั้งแต่อายุน้อยถึงมีลูกสาวโตเป็นสาวและสวยขนาดนี้” กริชหยอดลูกชมในตอนท้าย พร้อมกับรอฟังคำตอบจากหญิงสาวหลี่เจิ้งขบกรามแน่นจ้องหน้าหลินหลินนิ่ง รอฟังว่าเธอจะบอกเจ้าหนุ่มหน้ามนว่ายังไง จะกล้าบอกไหมว่าตัวเองมีสามีอายุมากกว่าเป็นยี่สิบปี จะกล้าบอกว่าเขาเป็นสามีให้เจ้าหมอนั่นได้ยินหรือเปล่า“ไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะคุณกริช”หลินหลินยิ้มละมุน ขยับเข้ามานั่งเบียดสามี แล้วคล้องแขนเขาไว้ เธอมองหน้าชายหนุ่มวัยเดียวกันอย่างเห็นใจ เมื่อเขาเริ่มรู้แล้วว่าเธอกับหลี่เจิ้งมีความสัมพันธ์อะไรกัน“ค
ตอนที่ 73.หวานนักรักของเรา/2“ผมว่าพาคุณหลินหลินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหมครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย ตัวเปียกมานานแล้ว”กริชบอกอย่างหวังดี หมายทำคะแนนให้สาวเจ้าสนใจหลี่เจิ้งพยักหน้าช้าๆ ลุกขึ้นช้อนอุ้มร่างบางของภรรยาไว้ “ขอบคุณมาก ไว้ผมจะหาทางตอบแทนอะไรคุณบ้าง” เขาบอกชายหนุ่มกริช รีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้เอง ถ้าอยากตอบแทนก็ขอแค่เลี้ยงข้าวผมสักมื้อก็พอ”เขาพูดกับหลี่เจิ้ง แต่สายตามองใบหน้างามของหลินหลินตาเชื่อม สร้างความขุ่นเคืองให้คนเป็นเจ้าของจนอยากให้รางวัลความดีความชอบเป็นลูกปืนสักนัดสองนัดกลางอก“ขอบคุณมากนะคะคุณกริชที่ช่วยฉันไว้ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงเชิญแวะมาทานอาหารด้วยกันสิคะ ฉันจะทำอาหารเพื่อตอบแทนคุณ”หลินหลินเอ่ยกับผู้ช่วยชีวิต โดยลืมไปว่าไม่ได้ขอความเห็นจากสามีเลย “ยินดีครับ พรุ่งนี้ผมจะมาทานอาหารฝีมือคุณให้ได้” กริชยิ้มกว้าง รีบตอบรับคำเชิญทันควันหลี่เจิ้งทนดูสายตาของหนุ่มอ่อนวัยกว่าไม่ไหว รีบอุ้มภรรยาเดินเข้าไปในห้อง เขาวางเธอลงบนเตียงแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ครู่หนึ่งถึงกลับออกมาพาเธอเข้าไปในด้านใน จัดการวางร่างงามในอ่างอาบน้ำที่ผสมน้ำอุ่นไว้“ขอบคุณค่ะค
Comments