“ไม่เคยรู้มาก่อน คุณหลี่มีลูกชายอีกคน” จงเหอแสร้งยิ้ม เอ่ยถามขึ้นมา
หลี่เสวียนยิ้มอารมณ์ดี ตอบคำถามด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายว่า
“อาเจิ้งเขาอยู่ที่เมืองไทยครับ เพิ่งเดินทางมาที่ฮ่องกงเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อมาช่วยงานผม”
“แบบนี้คุณหลี่ก็มีทายาททำงานแทนแล้วสิครับ แต่ผลงานจะเข้าตาทุกคนหรือเปล่านั้น คงต้องรอพิสูจน์อีกครั้ง”
เว่ยเหยียนเอ่ยเสียงเรียบ แต่สายตาของเขาคล้ายท้าทายในที
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผม จะทำให้พวกคุณยอมรับผมด้วยตัวเอง” หลี่เจิ้งโต้กลับ
เขามองสบสายตากับแกนนำทุกคน อำนาจของผู้เป็นพ่อไม่ได้ทำให้ใครเกรงกลัวเขาและไม่ช่วยให้เขาได้รับการยอมรับโดยไม่แสดงฝีมือให้ประจักษ์ คนเหล่านี้ล้วนเปรียบดังเสือ สิงห์ กระทิง แรด และจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ มีคมเขี้ยวที่พร้อมเข้าขย้ำคนที่ตกเป็นรองได้ทุกเมื่อ หลี่เจิ้งไม่ปล่อยให้ตัวเองแสดงความหวาดหวั่นออกมา หากพ่อของเขาคือมังกรเขาซึ่งเป็นลูกก็ควรเป็นมังกรอย่างเต็มความภาคภูมิ
“งานแรกที่ผมได้ทำและประสบความสำเร็จคือ การลากตัวคนร้ายที่ลอบวางระเบิดรถแม่ใหญ่กับพี่ชายผมมาได้”
หลี่เจิ้งยกมือให้สัญญาณ หวังไป่ฉีพยักหน้ารับแล้วเดินออกไปด้านนอกห้องประชุม ครู่หนึ่งเขาก็เดินนำลูกน้องสองคนที่พาชายคนหนึ่งที่ถูกคลุมศีรษะด้วยถุงผ้าสีดำมายืนกลางห้อง
“คนๆ นี้คือหนึ่งในผู้วางแผนลอบฆ่าแม่ใหญ่กับพี่ชายของผม เราได้หลักฐานและคำสารภาพจากมัน ยืนยันแน่ชัดว่ามันได้ลงมือจริง”
ร่างสูงสง่าของหลี่เจิ้งเดินเรียดเท้ามายืนตรงหน้าชายคนนั้น เหล่าแกนนำขยับลุกจากเก้าอี้ของตน มารุมล้อมคนร้ายไว้ต่างคนพากันจับตามองว่า หลี่เจิ้งจะลงโทษคนร้ายยังไง จงเหอเหงื่อซึมหน้าผากหากยังซ่อนรอยบางอย่างไว้ในแววตาของตัวเองลึกเร้นจนยากจะสังเกต ส่วนเว่ยเหยียนเองก็นิ่งสงบไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา หลี่เสวียนเป็นคนเดียวที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างใจเย็น เฝ้ามองลูกชายของตนด้วยแววตาชื่นชม
“ผมจะให้มันสารภาพว่าผู้บงการเบื้องหลังของมันคือใคร”
หลี่เจิ้งเอ่ยขึ้น เขายกยิ้มมุมปาก ขณะเดินเข้าไปหาชายคนนั้น
“บอกมาว่านายของแกเป็นใคร พูดออกมาดังๆ”
ชายคนนั้นยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ผ่านไปนานหลายนาทีก็ยังคงเงียบกริบไม่ยอมพูดเช่นเดิม คนที่รอฟังต่างมองหน้ากัน จงเหอเหงื่อแตกพลั่กกำหมัดแน่น จิ้งจอกเฒ่ามองไปรอบๆ กายเห็นสายตาของทุกคนจดจ้องคนร้ายอย่างตั้งอกตั้งใจรอฟัง แต่ละนาทีที่ผ่านไปแรงกดดันเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ยอมบอกสินะ”
หลี่เจิ้งล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบกล่องแบนกล่องหนึ่งออกมาเปิด ปลายนิ้วเรียวยาวคีบเข็มเล่มเล็กสีเงินออกมาจากกล่องใบนั้น เขามองไปรอบๆ กระตุกรอยยิ้มกว้างขึ้น ทว่าแววตากลับดุกร้าวเยียบเย็น ขณะวาดมือแทงเข็มเล่มนั้นลงไปยังร่างของคนร้ายรวดเร็ว
ไม่ถึงนาทีชายคนนั้นก็กระตุกเกร็งหอบหายใจแรง ลูกน้องของหลี่เสวียนจับแขนไว้จนไม่สามารถดิ้นไปไหนได้ จากที่ไม่ยอมพูดชายคนนั้นกลับร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด สั่นสะท้านไปทั้งตัว คนที่มองพากันมองอย่างสนใจ เพราะไม่เคยเห็นการทรมานนักโทษแบบนี้มาก่อน ปกติพวกเขามักจะซ้อมให้เจ็บตัว หรือไม่ก็ใช้มีดหรือปืนข่มขู่ให้สารภาพ แต่วิธีการของหลี่เจิ้งแทบไม่ต้องลงแรงอะไรเลย กลับสร้างความเจ็บปวดให้เหยื่ออย่างสาหัส
“ยอมแล้ว โอ๊ย ยอมบอกแล้ว!”
ชายคนนั้นร้องโหยหวน ยอมสารภาพเพราะทนความเจ็บปวดทรมานไม่ได้
“คนที่สั่งให้วางระเบิดคือ อึก อุ๊บ!”
ชื่อของผู้บงการไม่ทันจะหลุดออกมา คนสารภาพก็ถูกหลี่เจิ้งใช้เข็มแทงที่คอ ทำให้เสียงหายไป คนรอฟังแปลกใจกับการกระทำนั้น มีเพียงจงเหอที่ลอบเป่าปากคล้ายโล่งใจ อาการนั้นไม่ได้รอดพ้นจากสายตาของหลี่เสวียนที่เฝ้าดูอยู่
เขายิ้มให้ลูกชายส่งสายตาเป็นนัยยะบางอย่างให้รับรู้ หลี่เจิ้งพยักหน้ารับ
“คุณจง ผมอยากให้คุณช่วยทรมานคนทรยศคนนี้ ให้ผมดูเป็นตัวอย่างได้ไหมครับ”
หลี่เจิ้งส่งมีดให้จงเหอ เขามองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบนิ่ง จงเหอปาดเหงื่อมองมีดที่ถูกยื่นส่งมาให้อย่างขัดใจ แต่ก็ยอมรับมาถือไว้โดยดี
“การทรมานให้นักโทษสารภาพ มันต้องทำแบบนี้”
จงเหอยกมีดขึ้น สายตาของจิ้งจอกเฒ่าวาววับทีเดียว ขณะแทงมีดปักลงบนท้องของชายคนนั้น เลือดพุ่งกระฉูดไหลนองพื้นแดงฉาน ร่างของคนโดนแทงดิ้นกระตุกไปมาแต่ไม่มีเสียงร้องเปล่งออกมาจากคอได้ เพราะถูกฝังเข็มสกัดจุดไว้ หลี่เจิ้งพยักหน้าให้ลูกน้องปล่อยมือออก ร่างของชายโชคร้ายทรุดฮวบกองกับพื้น เลือดไหลทะลักไม่หยุด จงเหอไม่รีรอจะกระหน่ำแทงปลายมีดลงบนร่างนั้นไม่นับ แววตาของเขาฉายแววกระหายเลือด รอยพรุนนับสิบรอยบนร่างนั้นทำให้เลือดไหลไม่หยุด คนที่มุงดูต่างพากันสยดสยองกับความเหี้ยมโหดผิดมนุษย์ของจงเหอ ได้แต่พากันสบตากันกระซิบกระซาบเบาๆ คนในที่นั้นไม่ใช่ไม่เคยฆ่าใคร แต่การฆ่าให้ตายอย่างทรมานแบบนี้ต่อหน้าต่อตา ช่างโหดร้ายจนน่าสยดสยอง
“พอก่อนคุณจง เดี๋ยวมันตายจะไม่ทันได้รู้ว่าว่าใครบงการมัน”
หลี่เจิ้งดึงมีดออกจากมือของจงเหอ เขากระตุกยิ้มหยันชายแก่ ที่หอบเหนื่อยกับการออกแรงโชว์ความโหดให้คนอื่นในแก๊งค์ชม ก่อนจะเดินถอยมานั่งข้างบิดา แล้วพยักหน้าให้หวังไป่ฉี
“คุณหวังดึงผ้าคลุมหน้ามันออกหน่อย รู้สึกว่ามันจะหายไม่ค่อยออกนะ”
เขาสั่งเสียงเย็น แววตาจ้องมองเหตุการณ์ด้านหน้าอย่างคนที่กำลังรออะไรบางอย่าง
หวังไป่ฉีสั่งให้ลูกน้องประคองร่างชุ่มเลือดนั้นให้ลุกขึ้นยืน เขาค่อยดึงถุงผ้าที่ใช้คลุมศีรษะของชายคนนั้นออกช้าๆ ใบหน้าของคนร้ายปรากฏต่อสายตาของทุกคน มีเสียงร้องอุทานอื้ออึงไปทั่ว คนที่ร้องไม่ออกยืนเบิกตาค้างกลับเป็นจงเหอ เมื่อใบหน้าของชายที่เขาลงมือทรมานอย่างเหี้ยมโหดนั้น เหมือนกับหน้าของลูกชายคนเดียวของเขา คนเป็นพ่อผวาเข้าไปลูบใบหน้าซีดของลูกชายด้วยมืออันสั่นเทา
“อาลี่ถังลูกพ่อ!”
“จงลี่ถังเป็นคนที่ส่งคนไปลอบวางระเบิดรถแม่ใหญ่กับพี่จิน มือวางระเบิดได้สารภาพหมดแล้วว่า ได้รับคำสั่งจากจงลี่ถัง ผมมีหลักฐานพร้อม หากทุกคนต้องการดูผมยินดีนำมาเปิดเผย”
หลี่เจิ้งแจงรายละเอียดของข้อหาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เขามองสองพ่อลูกด้วยสายตาเวทนา คนเป็นพ่อลงมือทรมานลูกชายด้วยตนเองอย่างเหี้ยมโหด โดยไม่สนใจจะไต่ถามก่อนลงมือ
“แก แกหลอกให้ฉันทำร้ายลูกของฉัน!”
จงเหอหันมาแผดเสียงใส่หลี่เจิ้ง ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความแค้นใจ หลี่เจิ้งช่างร้ายกาจนัก หลอกให้เขาลงมือกับลูกตัวเอง หากไม่ได้แก้แค้นคืนเขาคงตายตาไม่หลับ
“คุณเป็นคนทำร้ายลูกชายคุณเองต่างหากล่ะ อย่ามาโทษผม”
หลี่เจิ้งหันไปสบตาบิดา เขายิ้มบางๆ เมื่อเห็นแววตาของท่าน
“รู้ไหมว่าสิ่งที่คุณได้รับวันนี้ เกิดจากการกระทำของคุณเองทั้งหมด นี่เป็นบทลงโทษสำหรับคนทรยศที่ปราณีที่สุดแล้วจงเหอ”
“แกกำลังใส่ร้ายฉันกับลูก คุณหลี่นี่คุณจะไม่ทำอะไรเลยหรือ ลูกชายคุณเล่นแรงไปแล้วนะ”
จงเหอหันไปพูดกับหลี่เสวียน เขามองหัวหน้าแกนนำคนอื่นๆ หวังให้เชื่อในสิ่งที่เขาพูด แต่ทุกคนกลับเงียบกริบ คนที่ไม่เคยกลัวใครเริ่มใจสั่น เขาหันไปมองหน้าลูกน้องของตนเองส่งสายตาให้ช่วยเหลือ แต่ก็ช้าเกินการณ์เมื่อหลี่เจิ้งเดินเข้ามาหาแล้วกระชากร่างของเขาพร้อมกับปักมีดลงบนหน้าอก มันรวดเร็วจนไม่รู้สึกเจ็บแต่ก็จุกจนพูดไม่ออก จงเหอสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกเสียวปลาบขึ้นมา เขาตาเหลือกค้างมองใบหน้าของมัจจุราชที่กระชากวิญญาณออกจากร่างอย่างเคียดแค้น ก่อนจะหมดลมหายใจเฮือกสุดท้ายในตอนที่ปลายมีดตัดขั้วหัวใจ
หลี่เจิ้งปล่อยร่างของจงเหอร่วงลงพื้น ส่งมีดให้หวังไป่ฉีแล้วเดินมาหาบิดา สายตาของคนในแก๊งแสดงความยำเกรงต่อว่าที่หัวหน้าแก๊งคนใหม่ออกมา การเชือดหมาจิ้งจอกเฒ่าครั้งนี้ไม่เพียงแต่กำจัดคนทรยศเท่านั้น แต่ยังทำให้คนในแก๊งยอมศิโรราบอย่างไร้ข้อโต้แย้ง
ชายหนุ่มไม่อาจหันหลังกลับไปสู่ชีวิตสามัญได้อีกต่อไป เมื่อเขาได้ก้าวเดินบนเส้นทางคนบาปสายนี้ไปครึ่งค่อนทางเสียแล้ว และต้องเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ...
ตอนที่ 7.เจ้าพ่อมาเฟีย/1เส้นทางบนถนนคนบาปของหลี่เจิ้งดำเนินไปภายใต้คำแนะนำสั่งสอนของหลี่เสวียนผู้เป็นบิดา อดีตอาจารย์หนุ่มเปลี่ยนสถานะมาเป็น มาเฟียเต็มขั้น หลี่เสวียนปล่อยมือให้ลูกชายลงไปจัดการกับงานในแก๊งด้วยตนเอง เพื่อเพาะบ่มให้หลี่เจิ้งซึมซับความเป็นมาเฟียให้ลึกซึ้ง หลี่เสวียนรู้ดีว่าตัวเขากำลังจะตายโดยโรคร้าย จึงทุ่มเทฝึกฝนลูกชาย รวมถึงทำให้ หลี่เจิ้งเป็นที่ยอมรับของคนในวงการให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งชายหนุ่มไม่ทำให้ผู้เป็นบิดาผิดหวัง ทักษะการต่อสู้ระดับยอดฝีมือ บวกกับหัวใจที่แกร่งและสมองอันชาญฉลาด ส่งให้หลี่เจิ้งสามารถเป็นที่ยอมรับของคนในแก๊งหงส์ไฟ รวมถึงเป็นที่เกรงขามต่อแก๊งมาเฟียแก๊งอื่น“คุณเจิ้งครับ นี่คือแปลนอาคารตึกแดงที่คุณเจิ้งสั่งให้ร่างแบบมาให้ครับ” หวังไป่ฉีวางแปลนอาคารบนโต๊ะทำงานของหลี่เจิ้งเขาได้รับมอบหมายจากมาเฟียหนุ่มให้ดำเนินการจัดหาคนมาออกแบบก่อสร้างอาคาร ซึ่งหลี่เจิ้งตั้งชื่อว่า ‘ตึกแดง’ หลังจากมาเฟียหนุ่มเข้ามาบริหารงานแทนหลี่เสวียนผู้เป็นบิดา หลี่เจิ้งสามารถทำให้คนในแก๊งยอมศิโรราบและยอมอยู่ภายใต้บังคับบัญชาอย่างเต็มใจ มาเฟียหนุ่มใช้ทั้งพระเดชและพระคุณในการปกครองค
ตอนที่ 8.เจ้าพ่อมาเฟีย/2แม้จะรู้สึกผิดที่พาลูกก้าวเข้ามาในวังวนของคนบาป แต่หลี่เจิ้งก็ไม่เสียใจเมื่อเขาได้ตัดสินใจทำเพื่อทดแทนบุญคุณของบิดา มาเฟียหนุ่มหวนนึกถึงคำพูดของเด็กสาวคนนั้นขึ้นมาอีกครั้ง“ลูกเสือย่อมไม่ทำตัวเหมือนลูกสุนัข ลูกมังกรย่อมเป็นมังกรไม่ใช่งูดิน” เมื่อเขาเป็นมังกร ลูกชายก็ควรเป็นมังกรเช่นเดียวกับเขา เหมือนที่พ่อของเขาเป็นมังกร ลูกชายอย่างเขาก็ไม่อาจลดตัวกลายเป็นงูดินเช่นกันเปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!!!เสียงปืนดังขึ้นสามนัดซ้อน ลูกกระสุนถูกปล่อยจากปลายกระบอกปืน แล่นตรงไปเจาะเข้าเป้าตรงจุดตายทุกนัด คนยิงลดปืนลงพร้อมกับหันมาสบตากับคนที่นั่งดูอยู่ คิ้วดกหนายกขึ้นสูงเมื่อเห็นท่าทีเงียบเฉยนั้น“คุณพ่อ ฝีมือผมยังดีไม่พอเหรอครับ” เด็กชายวัยสิบสี่หันมาถามผู้เป็นพ่อหลี่เจิ้งแย้มมุมปากยิ้มให้ลูกชาย “ดี ดีมากเลยอาทิตย์”เขาขยับลุกจากเก้าอี้ พยักหน้าให้ลูกน้องเลื่อนเป้าซ้อมมาใกล้ๆ สายตามองดูรอยพรุนบนเป้าอย่างพอใจสี่ปีแล้วที่อาทิตย์หรือหลี่ไท่หยางลูกชายของเขาได้ฝึกฝนยิงปืน รวมถึงการต่อสู้ด้วยมือเปล่าทุกชนิดจากการเคี่ยวเข็ญของผู้เป็นปู่ ลูกชายตัวน้อยของเขาสามารถทำได้ดีเยี่ยม ฝีม
ตอนที่ 9.เจ้าพ่อมาเฟีย/3แต่ภายในแก๊งมังกรไม่ได้เป็นปึกแผ่นภายใต้อำนาจของหัวหน้าแก๊งเหมือนแก๊งหงส์ไฟ ทุกๆ สี่ปีหัวหน้าแกนนำของแก๊งจะมีการผลัดเปลี่ยนขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าแก๊ง นั่นหมายถึงความบาดหมางจะเกิดขึ้น เมื่อหัวหน้าแก๊งใหม่ต่างต้องการประกาศศักดาของตนต่อหัวหน้าแก๊งมาเฟียแก๊งอื่นเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ หากสามารถเป็นพันธมิตรกันได้ก็ไม่เกิดอะไร แต่หากไม่สามารถปรองดองกันก็ย่อมมีการปะทะกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลี่เจิ้งหนักใจกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย“คุณเจิ้งครับ มีเรื่องด่วนครับ”หวังไป่ฉีเข้ามาบอกผู้เป็นนาย หลังจากได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องที่ส่งไปเป็นสายสืบ ได้แจ้งข่าวสำคัญมาให้รับรู้“ไปคุยกันที่ห้องทำงาน”หลี่เจิ้งลุกขึ้นเดินนำออกไปยังชั้นบนสุดของตึกแดง เขานั่งลงที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน พยักหน้าให้หวังไป่ฉีพูดต่อ“คนของเรารายงานมาว่า หย่งเซิ่งหัวหน้าเขตของแก๊งมังกรได้วางแผนชิงอำนาจจากคุณจางเหวิน ตอนนี้พวกนั้นได้สังหารคุณจางเหวินไปแล้ว คนของเราไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะคนของหย่งเซิ่งลงมือรวดเร็วมาก” หวังไป่ฉีเสียงสั่นเล็กน้อย เขาสนิทสนมคุ้นเคยกับจางเหวินไม่น้อย จึงรู้สึกสะเทือนใจกับการจา
ตอนที่ 10. สู่ร่มเงาตระกูลหลี่/1“คุณหนูครับ มีรถตามเรามาครับ”อาจงคนขับรถชะลอความเร็วของรถ เมื่อเห็นรถคันหนึ่งแล่นตามหลังมา ถนนช่วงนี้ห่างจากตัวเมือง ค่อนข้างร้างผู้คน ประสบการณ์ยาวนานจากการติดตามจางเหวินผู้เป็นนาย ทำให้อาจงระแวงตามสัญชาตญาณของนักฆ่า แม้เขาจะย่างเข้าสู่วัยชราแต่ก็ใช่จะหมดพิษสง ชายแก่ดึงปืนที่เหน็บเอวออกมาถือไว้ ประคองพวงมาลัยรถด้วยมือข้างเดียว ขณะหันมาบอกคุณหนูใหญ่ของตนที่หยิบปืนออกมาเช่นกันว่า“ระวังตัวด้วยครับคุณหนู ผมจะขับให้เร็วขึ้น ถ้ารถคันนั้นไม่ใช่รถของพวกมัน คงไม่ตามเราไปแน่” อาจงตัดสินใจเร่งความเร็วของรถหลินหลินกระชับปืนในมือแน่น หันมามองมารดาและน้องชายที่ตื่นขึ้นมาจากเสียงเรียกอย่างห่วงใย“อาหลง ดูแลแม่ด้วย” เธอบอกน้องชายเสียงกร้าวเด็กชายพยักหน้าให้พี่สาว ด้วยวัยเพียงสิบสองแต่จางหลงเคยถูกบิดาเคี่ยวเข็ญให้ฝึกการต่อสู้มาตั้งแต่เด็กๆ พร้อมพี่สาวจึงมีทักษะพอตัว แม้ไม่ได้เก่งกาจมากมายนักแต่ก็สามารถปกป้องดูแลตนเองได้ระดับหนึ่ง เด็กชายดึงปืนกระบอกเล็กจากเอวมาถือไว้ มืออีกข้างกุมมือมารดาเหมือนต้องการปลอบโยนให้คลายความหวาดหวั่นรถที่แล่นตามหลังมาเร่งความเร็วจนตามต
ตอนที่ 11. สู่ร่มเงาตระกูลหลี่/2ทันทีที่รถจอด หลินหลินก็รีบเปิดประตูลงมา หญิงสาวมองหาแม่กับน้องชายด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะวิ่งไปหาอาจงกับน้องชายที่ยืนอยู่ ใบหน้าของจางหลงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ทำให้คนเป็นพี่ใจหายวาบ หัวใจหล่นไปกองบนพื้นเมื่อสายตามองเห็นร่างผู้ให้กำเนิดนอนนิ่งอยู่บนพื้น“แม่ แม่คะ แม่เป็นอะไร”หลินหลินทรุดตัวลงประคองร่างมารดามากอดไว้แน่น เนื้อตัวเย็นชืดที่สัมผัส ทำให้หัวใจคนเป็นลูกตื่นตระหนก หญิงสาวหันไปมองน้องชายกับอาจง “อาจง อาหลงแม่เป็นอะไร”“ผมขอโทษครับคุณหนู ผมช่วยคุณผู้หญิงไว้ไม่ทัน”อาจงปาดน้ำตาเอ่ยเสียงแผ่วโหย ดวงตาของชายชราระริกไหวด้วยความเสียใจ“คุณผู้หญิงถูกพวกมันยิงครับ”“พี่หลินหลิน แม่จากเราไปแล้ว” จางหลงบอกพี่สาวทั้งน้ำตาเด็กชายเข้ามากอดพี่สาวไว้แน่น ซบหน้ากับไหล่ของเธอพร้อมกับร้องไห้เสียงดัง เหตุการณ์ร้ายเมื่อครู่ยังฝังอยู่ในหัว ตอนที่คนร้ายระดมยิงเข้าใส่รถนั้น เขาเห็นมารดาสะดุ้งเฮือกซบตัวลงมากโอบกอดเขาไว้แน่น ท่านโดนยิงก่อนรถจะตกลงไปในน้ำ เมื่อเขากับอาจงพาร่างของมารดาขึ้นจากน้ำก็พบว่าท่านไม่หายใจแล้ว พวกคนร้ายได้สังหารมารดาของเขาเหมือนที่สังหารบิดาของเข
ตอนที่ 12. สู่ร่มเงาตระกูลหลี่/3ผ่านไปหลายนาทีเสียงลมหายใจของคนตัวโตก็ดังเข้าออกสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเขาเข้าสู่ห้วงนิทราเรียบร้อยแล้ว คนเป็นภรรยาจึงรามือจากการนวด ดึงผ้าห่มมาคลุมกายให้แล้วสอดร่างใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน วาดแขนโอบกอดร่างหนาไว้ ใบหน้างามซบนิ่งอยู่บนแผ่นหลังของเขา เพียงลดาผ่อนลมหายใจยาว แววตาอ่อนเศร้าลง แขนเรียวบางกระชับอ้อมแขนโอบรัดร่างของสามีแน่นขึ้น“คุณเจิ้งคะ ลดารักคุณนะคะ...”เธอกระซิบบอกเขาเสียงแผ่ว แตะริมฝีปากจุมพิตแผ่นหลังหนาด้วยความรักสุดใจ ก่อนจะหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาหยดไหลลงมาช้าๆ เธอมีเวลาเหลืออีกไม่นาน ร่างกายกำลังถูกโรคร้ายรุมเร้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่ช้าเธอต้องจากเขาไปตลอดกาล“ร่างกายของคุณอ่อนแอลงมาก ตอนนี้เนื้องอกโตขึ้นมาก ซึ่งจะทำให้คุณมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท คุณอาจปวดหัวมากขึ้น ยาที่ผมให้ช่วยคุณไม่ได้มาก เพราะร่างกายของคุณเริ่มไม่ตอบสนองต่อยา สี่ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นกำไรชีวิต เพราะคุณมีชีวิตยาวนานกว่าที่หมอคาดการณ์ไว้” คำพูดของหมอเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมายังดังก้องอยู่ในหู เพียงลดารู้ดีว่าเธอร่างกายของเธอกำลังจะพ่ายแพ้ต่อโรคร้าย เมื่อสี่ปีก่อนช่วงที่หล
ตอนที่ 13. สู่ร่มเงาตระกูลหลี่/4ภายในตึกแดงซึ่งสร้างเป็นตึกสูงสามชั้น ชั้นล่างเป็นห้องโรงฝึกซ้อมการต่อสู้ ชั้นที่สองเป็นห้องซ้อมยิงปืน ส่วนชั้นบนสุดเป็นห้องที่หลี่เจิ้งใช้เป็นห้องทำงานและห้องประชุมสมาชิกของแก๊งหงส์ไฟ บอดี้การ์ดเดินนำผู้เป็นนายหญิงมายังชั้นสองซึ่งเป็นห้องซ้อมยิงปืน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น บริเวณหน้าซองซ้อมยิงเป้า เด็กชายสองคนถือปืนยิงเป้าตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ คนหนึ่งคือหลี่ไท่หยางลูกชายของหลี่เจิ้ง อีกคนคือจางหลงน้องชายของหลินหลิน มุมหนึ่งของห้องร่างสูงใหญ่ของ หลี่เจิ้งนั่งมองดูเด็กสองคนอยู่ เขาหันมาเห็นภรรยากับหลินหลินเดินเข้ามาก็รีบลุกขึ้นเดินตรงมาหา“ลดา...” เขาเรียกชื่อภรรยาเสียงนุ่ม พร้อมกับส่งยิ้มให้เพียงลดาคลี่ยิ้มอ่อนหวาน คลายมือจากมือของหลินหลินเมื่อสามีเดินเข้ามาหา ปล่อยให้เขาโอบไหล่พาเดินไปนั่งที่เก้าอี้มุมห้องหลินหลินชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามสองสามีภรรยาไป ภาพความสนิทสนมของทั้งสองทำให้คนมองรู้สึกวูบโหวงในหัวใจ หลี่เจิ้งไม่เหลือบตาแลมองเธอเลย สายตาของเขาทอดมองเพียงลดาคนเดียว ราวกับคนอื่นกลายเป็นเพียงอากาศธาตุไร้ความหมายในสายตาข
ตอนที่ 14. เผลอตัวไม่เผลอใจ/1ชีวิตภายใต้ร่มเงาตระกูลหลี่ของหลินหลินและจางหลง ดำเนินไปภายใต้การดูแลอย่างดีของหลี่เจิ้งและเพียงลดา มาเฟียหนุ่มหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟได้ให้สองพี่น้องไปฝึกการต่อสู้ร่วมกับเด็กในอุปการะคนอื่นที่ตึกแดง จางหลงกลายเป็นคู่ซ้อมที่มีฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยงกับหลี่ไท่หยางลูกชายของหลี่เจิ้ง ด้วยถูกบิดาจับให้ฝึกการต่อสู้ตั้งแต่เด็กๆ และยังส่งไปเรียนการต่อสู้กับคนของฟรานเชสโก้มาเฟียอิตาลีเพื่อนของบิดาในช่วงปิดเทอมด้วย หลินหลินเองก็มีฝีมือไม่แพ้ใคร หญิงสาวเกิดและเติบโตในฐานะลูกสาวของมาเฟีย ย่อมเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้น เธอยิงปืนเป็นตั้งแต่ก่อนหัดเขียนหนังสือตัวแรกเป็นด้วยซ้ำ อีกทั้งยังถูกเคี่ยวกรำจากบิดาและถูกส่งไปเรียนการต่อสู้ที่อิตาลีพร้อมกับน้องชาย ภายใต้ท่าทางนุ่มนิ่ม ใบหน้าอ่อนใสไร้เดียงสา สองพี่น้องซ่อนคมร้ายไว้อย่างลึกเร้น เป็นที่พอใจของหลี่เจิ้งมากช่วงเช้าและเย็นของทุกวันสองพี่น้องจะร่วมฝึกกับเด็กในอุปการะของหลี่เจิ้ง โดยหลี่เจิ้งเป็นคนดูแลการฝึกและเป็นอาจารย์สอนการต่อสู้ตลอดจนสอนการใช้อาวุธต่างๆ ให้ทุกคนเด็กชายในวัยสิบห้าถึงสิบแปดปีร่วมสามสิบคนถูกฝึกให้กลายเป็นนักฆ่าภายใ
ตอนที่ 81.สัญญาใจ (จบ)มาเฟียหนุ่มไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหว เขายังตั้งหน้าตั้งตานำพาเธอให้ร่วมเดินทางไปบนเส้นทางแห่งความหฤหรรษ์ จนร่างกายของเธอสะท้านไหวไปกับความต้องการอันล้นปรี่ของเขา หญิงสาวจิกปลายเล็บลงบนแผ่นหลังเมื่อความปั่นป่วนกำลังบิดเกลียวในจุดประสาน ความแข็งแกร่งของเขากำลังทำให้เธอถึงจุดที่เกินต้านทานไหว เขาเองคงไม่ต่างกัน เมื่อเร่งขับเคลื่อนกายแกร่งให้ล้ำลึกหนักหน่วงเร่าร้อนจนร่างกายแทบมอดไหม้ด้วยเพลิงเสน่หา ความรัญจวนใจก่อตัวขึ้นในจุดสูงสุดก่อนจะระเบิดเป็นแสงระยิบระยับในหัว เสียงครางครวญดังกระหึ่มผสานกับเสียงกรีดร้องหวานแหลมดังก้องขึ้นพร้อมกัน ร่างหนากระตุกเฮือกเมื่อโถมกายเข้าหาร่างบางเป็นครั้งสุดท้าย คนใต้ร่างหยัดสะโพกตอบรับ สองมือโอบรัดร่างแกร่งไว้แน่น ทั้งสองกอดกันนิ่งอยู่แบบนั้นราวกับไม่ต้องการพรากจากกันอีกต่อไปหลี่เจิ้งซบใบหน้ากับซอกคอขาวผ่อง ร่างหนาซบนิ่งอยู่บนร่างงามไม่ขยับไหวโดยวางศอกทั้งสองข้างรองรับน้ำหนักตัวไม่ให้กดทับร่างบาง เสียงลมหายใจของเขาดังสะท้อนอยู่ข้างใบหูของเธอ หลินหลินเงยหน้าขึ้นหอบหายใจแรง สองแขนยังคงโอบกอดไว้ไม่ยอมปล่อย ความอบอุ่นโอบล้อมทั้งกายและใจของทั้
ตอนที่ 80 รักครั้งสุดท้าย/2หนึ่งเดือนต่อมางานแต่งงานของหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟกับเจ้าสาวต่างวัยก็ถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราและยิ่งใหญ่ แม้ฐานะของหลินหลินไม่อาจเปิดเผยได้ แต่หญิงสาวก็พอใจที่เธอได้รับการยกย่องจากคนเป็นสามี เธออยากขอบคุณริคคาโด้เหลือเกินที่ทำให้หลี่เจิ้งยอมขอเธอแต่งงาน แต่ไม่กล้าไปพูดอะไรกับชายหนุ่มตรงๆ เพราะสามีของเธอขี้หวงอย่างหนัก แม้ตอนที่ริคคาโด้มาจับมือแสดงความยินดี ดวงตาคู่คมของหลี่เจิ้งก็เปล่งประกายวาบวาวด้วยความหวงแหน จนอีกฝ่ายปล่อยมือแทบไม่ทันคนที่เจ้าสาวอยากขอบคุณได้แต่นั่งมองภาพคู่บ่าวสาวด้วยสายตาหมองเศร้า เขาดีใจที่หลินหลินได้พบกับความสุขเสียที แม้ตัวเองต้องชอกช้ำขมขื่นเพียงใดก็ตาม เพื่อนร่วมแผนการอย่างเว่ยเหยียนก็อยู่ในสภาพเดียวกัน ต่างพากันมองเจ้าสาว คนสวยในชุดวิวาห์สีขาวด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ และมองเจ้าบ่าวด้วยแววตาอิจฉา“สงสัยชาติที่แล้วคุณเจิ้งคงทำบุญมาดี ชาตินี้ถึงผู้หญิงถึงเกลียดเขาไม่ลง ทั้งที่ทำร้ายเธอสาหัสขนาดนั้น” เว่ยเหยียนอดแขวะเจ้าบ่าวไม่ได้ริคคาโด้หัวเราะเสียงขื่น “ผมว่าคุณเจิ้งเขาโชคดี ที่ได้รับความรักจากผู้หญิงดีๆ อย่างลิลลี่ โชคดีจนน่าอิจฉา” เขาทอดสา
ตอนที่ 79. รักครั้งสุดท้าย/1“ริคคาโด้คงมีคุณกับผมเท่านั้นแหละ ที่เห็นค่าของคุณหลินหลิน เคยมีใครบางคนยกเธอให้คนอื่นโดยไม่รู้ถึงคุณค่าของเธอมาแล้ว ไม่รู้ทำบุญด้วยอะไรคุณหลินหลินถึงได้ยอมให้อภัย” เว่ยเหยียนเปรยขึ้นหลินหลินแสร้งยกคิ้วสูง ทำหน้าเหมือนสงสัย “อะไรนะคะ ฉันน่ะหรือเคยถูกยกให้คนอื่นเหมือนของไร้ค่า คุณพูดเล่นหรือเปล่า”“ถ้าคุณอยากรู้คืนนี้ลองถามคุณเจิ้งดูสิ” เว่ยเหยียนโยนภาระมาให้หลี่เจิ้งหลี่เจิ้งหัวใจกระตุกวาบเมื่อถูกเว่ยเหยียนสะกิดแผลเก่า เขามองหน้าภรรยาสาวที่ทำท่าสงสัยอย่างรู้สึกผิด ถึงแม้เธอจะเคยให้อภัยเขาแล้ว แต่ความผิดครั้งนั้นเหมือนรอยบาปที่เขาไม่อาจสลัดออกไปจากใจ สองหนุ่มดูเหมือนตั้งใจโจมตีเขา เหมือนวางแผนกันมาล่วงหน้า ไม่ใช่การมาเยี่ยมเยือนตามประสาคนรู้จัก มาเฟียหนุ่มใหญ่เพิ่งเข้าใจเจตนาของทั้งสองในนาทีนี้เอง ว่าเว่ยเหยียนกับริคคาโด้ต้องการบอกอะไรเขา ความหึงหวงทำให้สมองเขาทำงานช้าจนวิเคราะห์ไม่ออกว่า สองหนุ่มกำลังทำให้เขาสำนึกและมองเห็นคุณค่าของหลินหลิน ซึ่งเขาทำเมินเฉยไม่ได้ให้เกียรติเธอมากกว่าการดูแล ด้วยเข้าใจว่าเธอความจำเสื่อมคงไม่คิดอะไรมาก แต่วันนี้เขาเพิ่งรู้ต
ตอนที่ 78. ความทรงจำแห่งรัก/2“คุณเจิ้งไม่อยู่เหรอ” ริคคาโด้เอ่ยถามหาเจ้าของบ้าน ตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาเขายังไม่ได้พบมาเฟียหนุ่ม หลินหลินส่ายหน้า ยิ้มอ่อนๆ“คุณเจิ้งไปประชุมกับพวกหอการค้าค่ะ เย็นๆ ถึงจะกลับ” หลี่เจิ้งไม่ได้เป็นแค่มาเฟียแต่เขาเป็นนักธุรกิจด้วย งานในหน้าที่จึงมีมากมาย“คุณอยู่แต่ในบ้านไม่เหงาบ้างเหรอลิลลี่ วันๆ คงเอาแต่เลี้ยงลูกกับทำงานบ้านสินะ” เขาเอ่ยถาม สายตาทอดมองใบหน้างดงามไม่เสื่อมคลายของหญิงสาว อย่างอาทร“ฉันชินแล้วค่ะริคกี้” หลินหลินยิ้มละมุน ขอบคุณความห่วงใยของเพื่อนชายผ่านสายตา “ฉันมีความสุขตามประสา ไม่ได้ทุกข์ใจหรือเดือดร้อนใจอย่างที่คุณห่วง หรอกค่ะ คุณเจิ้งดีกับฉันมาก”“เขาดีกับคุณไม่พอหรอกลิลลี่” ริคคาโด้ท้วงเขามองหน้าหญิงสาวนิ่ง รับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่เธอซ่อนไว้ เธอบอกว่าไม่ได้ทุกข์ แต่เธอก็ไม่ได้สุขเต็มที่ เขารู้มาว่าหลี่เจิ้งไม่ได้ยกย่องหญิงสาวอย่างออกหน้าออกตาเหมือนที่เคยยกย่องเพียงลดา หลินหลินเป็นภรรยาก้นครัวที่หลี่เจิ้งเก็บไว้ภายในบ้าน ไม่เปิดเผยต่อคนในสังคม จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ริคคาโด้รู้สึกไม่พอใจที่หลี่เจิ้งทำเหมือนหลินหลินเป็นผู้หญิงไ
ตอนที่ 77. ความทรงจำแห่งรัก/1เขาร้องเรียกเธอสุดเสียง เมื่อเห็นร่างงามค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนฟ้า เธออยู่สูงจนเขาเอื้อมไปแตะไม่ได้ ใบหน้างามระบายรอยยิ้มอ่อนหวาน ขณะทอดสายตามองเขาด้วยแววตาอ่อนโยน“คุณเจิ้งคะ ปล่อยลดาไปเถอะคะ เวลาของลดาหมดลงแล้ว แต่เวลาของคุณยังมีเหลืออยู่” เธอบอกเขาด้วยบน้ำเสียงอ่อนเบาราวเสียงกระซิบ“ไม่นะลดา ผมรักลดา ผมไม่อยากสูญเสียลดาไป” เขายังคงดื้อดึง ไม่อยากปลดปล่อยของรักให้จากไป“เก็บลดาไว้ในความทรงจำของคุณก็พอ แต่จงมีชีวิตต่อไปเพื่อคนที่คุณควรรัก และดูแลเธอให้ดี อย่าให้ต้องสูญเสียเธอไปเหมือนที่คุณเสียลดา ดูแลหลินหลินด้วยนะคะ เธอเป็นคนที่ลดาเลือกให้คุณ ดูแลเธอด้วย...”เพียงลดาบอกก่อนจะลอยหายไปบนท้องฟ้า ปล่อยให้ม่านหมอกหนาคลุมลงมา จนมองไม่เห็นอะไร หลี่เจิ้งผวารู้สึกตัวตื่นขึ้น พร้อมกับเหงื่อโทรมกาย เขามองร่างบางที่นอนเคียงกัน ก่อนจะพยักหน้าให้ตัวเองเมื่อรู้ว่าเพียงลดามาหาเขาในฝัน เพราะต้องการให้เขาดูแลหลินหลินให้ดี เธอคงมาลาเขาเพื่อไปสู่ภพภูมิข้างหน้า แต่คงห่วงใยเขาและหลินหลินถึงได้มาสั่งลาก่อนจาก“คุณหลี่ครับ มีเรือสองลำกำลังแล่นมาทางนี้ครับ” เสียงของบอดี้การ์ดคนหนึ่งร
ตอนที่ 76.เลือกแล้วคือเธอ/2คืนนั้นเป็นคืนแรกในรอบหกเดือนที่หลี่เจิ้งมีโอกาสได้นอนร่วมเตียงกับภรรยาสาว เขาทำให้เธอสบายใจโดยการนอนนิ่งๆ คนละฟากกับเธอ โดยมีหมอนข้างกั้นอาณาเขตไว้ หลายชั่วโมงกว่าหลินหลินจะยอมวางใจนอนหลับไป เปิดโอกาสให้คนที่นอนตัวแข็งได้ขยับเข้ามาแนบชิด ใบหน้าคมชะโงกดูใบหน้างดงามที่นอนหลับตาพริ้มอย่างอาทร“หลินหลิน เมื่อไหร่เธอจะจำฉันได้สักที” เขารำพึงเสียงเศร้า ก่อนจะแตะริมฝีปากจุมพิตเรียวปากบางแผ่วเบาทะนุถนอม กอดร่างน้อยไว้แนบอกอุ่น แล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามเธอไปเสียงคลื่นซัดซ่ากับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ได้ทอดผ่านกรอบ หน้าต่างเข้ามาในห้องนอนกว้าง บนเตียงนุ่มร่างสองร่างนอนกอดซบกันใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แสงจัดจ้าของวันใหม่ปลุกให้คนที่นอนอยู่รู้สึกตัวตื่นขึ้น ความอบอุ่นที่โอบล้อมกายทำให้ร่างบางขยับกายอย่างเกียจคร้าน ดวงตาคู่สวยหรี่ปรือฉายรอยง่วงงุน ก่อนจะลืมตาโพลงเมื่อเห็นปลายคางของใครคนหนึ่งเข้า ร่างหนาของคนตัวโตนอนตะแคงสละแขนข้างหนึ่งให้หญิงสาวหนุนนอนต่างหมอน เสียงลมหายใจเข้าออกดังสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเขายังอยู่ในห้วงนิทราหลินหลินคลี่ยิ้มละมุน มองดวงหน้าคมคายของสามีหนุ่มใหญ่ด้ว
ตอนที่ 75 เลือกแล้วคือเธอ/1“มองแบบนี้ ฉันว่าฉันไปเปลี่ยนชุดดีกว่าค่ะ”ดูสิ... เขามองเธอราวกับจะกลืนกินแบบนี้ พาลให้แข้งขาสั่นแทบไม่มีแรงยืน ไม่รู้จะมองให้ทะลุผ้าที่พันไว้หรือไร หญิงสาวแอบบริภาษสามีหนุ่มจอมหื่นในใจ“ไม่เอาน่า ใส่ชุดนี้ดีแล้ว หรือว่าอยากเปลี่ยนใจไม่สวมอะไรก็ได้นะ ฉันไม่ว่า”หลินหลินหน้าร้อนแล้วร้อนอีกไม่คิดว่ามาเฟียหนุ่มจะเล่นมุกนี้ ใครจะรู้ว่าคนโหดๆ คนนี้จะมีมุมแบบนี้อยู่ในชีวิต หากไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน“ฉันว่าเราไปเล่นน้ำกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน”หลินหลินเบี่ยงกายจากอ้อมแขนแกร่ง เดินนำเขาออกมายังชายหาดหลังบ้านหญิงสาวลงไปเล่นน้ำโดยไม่ยอมถอดผ้าพันตัวออก หลี่เจิ้งได้แต่ส่ายหน้า อมยิ้มขำคนขี้อาย เขาตามลงมาในน้ำแต่หลินหลินกลับว่ายออกห่างไม่ยอมให้เขามาเล่นใกล้ๆ มีหรือคนที่ตั้งตารอเวลานี้จะยอมแพ้ ร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยพละกำลังของชายหนุ่มแกร่งฉกรรจ์ ย่อมแข็งแรงกว่าผู้หญิงร่างเล็กบอบบางหลายเท่า ในที่สุดร่างน้อยก็ถูกคนตัวโตกว่าโอบกระหวัดไว้แนบแผงอกกว้างตึงแน่นด้วยมัดกล้าม สายน้ำเย็นๆ ห้อมล้อมทั้งสองไว้ หญิงสาวช้อนตามองคนร่างหนาที่ตามมาวอแวด้วยแววตาเขินจัด“ทำไมต้องกอดด้
ตอนที่ 74.หวานนักรักของเรา/3หลินหลินกลั้นยิ้มจนแก้มตุ่ย เข้าใจหน้าเคร่งๆ ของสามีว่าเกิดจากอะไร หลี่เจิ้งมีปมเรื่องความหนุ่มความแก่ เขาคงระคายหูไม่น้อยเมื่อได้ยินกริชถามแบบนั้น หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าตัวเองแกล้งสามีมากเกินไป เมื่อครู่เขาก็มองเธอด้วยสายตาเหมือนน้อยใจ ที่เธอเอาแต่ตักกับข้าวให้กริช ตอนนี้หน้าของเขายับย่นจนเห็นรอยตีนกาจากคำถามแสลงใจ“คุณคิดว่าคุณเจิ้งเป็นอะไรกับฉันหรือคะคุณกริช” หลินหลินย้อนถาม ขณะเดินมานั่งข้างร่างหนาของสามี“ผมเดาว่าคุณเจิ้งไม่เป็นน้า ก็เป็นอาของคุณครับคุณหลินหลิน ถ้าเป็นพ่อคงแต่งงานตั้งแต่อายุน้อยถึงมีลูกสาวโตเป็นสาวและสวยขนาดนี้” กริชหยอดลูกชมในตอนท้าย พร้อมกับรอฟังคำตอบจากหญิงสาวหลี่เจิ้งขบกรามแน่นจ้องหน้าหลินหลินนิ่ง รอฟังว่าเธอจะบอกเจ้าหนุ่มหน้ามนว่ายังไง จะกล้าบอกไหมว่าตัวเองมีสามีอายุมากกว่าเป็นยี่สิบปี จะกล้าบอกว่าเขาเป็นสามีให้เจ้าหมอนั่นได้ยินหรือเปล่า“ไม่ใช่ทั้งสองอย่างค่ะคุณกริช”หลินหลินยิ้มละมุน ขยับเข้ามานั่งเบียดสามี แล้วคล้องแขนเขาไว้ เธอมองหน้าชายหนุ่มวัยเดียวกันอย่างเห็นใจ เมื่อเขาเริ่มรู้แล้วว่าเธอกับหลี่เจิ้งมีความสัมพันธ์อะไรกัน“ค
ตอนที่ 73.หวานนักรักของเรา/2“ผมว่าพาคุณหลินหลินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหมครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย ตัวเปียกมานานแล้ว”กริชบอกอย่างหวังดี หมายทำคะแนนให้สาวเจ้าสนใจหลี่เจิ้งพยักหน้าช้าๆ ลุกขึ้นช้อนอุ้มร่างบางของภรรยาไว้ “ขอบคุณมาก ไว้ผมจะหาทางตอบแทนอะไรคุณบ้าง” เขาบอกชายหนุ่มกริช รีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่เป็นไรครับ เรื่องแค่นี้เอง ถ้าอยากตอบแทนก็ขอแค่เลี้ยงข้าวผมสักมื้อก็พอ”เขาพูดกับหลี่เจิ้ง แต่สายตามองใบหน้างามของหลินหลินตาเชื่อม สร้างความขุ่นเคืองให้คนเป็นเจ้าของจนอยากให้รางวัลความดีความชอบเป็นลูกปืนสักนัดสองนัดกลางอก“ขอบคุณมากนะคะคุณกริชที่ช่วยฉันไว้ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงเชิญแวะมาทานอาหารด้วยกันสิคะ ฉันจะทำอาหารเพื่อตอบแทนคุณ”หลินหลินเอ่ยกับผู้ช่วยชีวิต โดยลืมไปว่าไม่ได้ขอความเห็นจากสามีเลย “ยินดีครับ พรุ่งนี้ผมจะมาทานอาหารฝีมือคุณให้ได้” กริชยิ้มกว้าง รีบตอบรับคำเชิญทันควันหลี่เจิ้งทนดูสายตาของหนุ่มอ่อนวัยกว่าไม่ไหว รีบอุ้มภรรยาเดินเข้าไปในห้อง เขาวางเธอลงบนเตียงแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ครู่หนึ่งถึงกลับออกมาพาเธอเข้าไปในด้านใน จัดการวางร่างงามในอ่างอาบน้ำที่ผสมน้ำอุ่นไว้“ขอบคุณค่ะค