แชร์

มนตร์ตาละวัน
มนตร์ตาละวัน
ผู้แต่ง: พันพราย

1

ผู้เขียน: พันพราย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-28 14:08:08

สัตว์เลื้อยคลานร่างหนาใหญ่สองตัวดำผุดดำว่ายท่ามกลางแม่น้ำสองสี สีเข้มเกือบจะเป็นสีดำและสีดินทรายไหลมาบรรจบกัน ทอดยาวไปอีกหลายพันไมล์

ผ่านลำตัวที่มีผิวขรุขระยามขับเคลื่อนไปข้างหน้า แหวกน้ำออกเป็นระลอกคลื่น พละกำลังตามสรีระแข็งแกร่งกำยำทำให้พวกมันไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เป็นตรงกันข้าม พวกมันคงว่ายน้ำไปได้เรื่อย ๆ เช่นปลา

พวกมันไม่ได้มาด้วยกัน ไม่รู้จักหน้าค่าตาด้วยซ้ำ...

เจ้าตัวเล็กกว่ามองว่าตัวข้างมันมีขนาดมหึมา ใหญ่กว่ามันเกือบสองเท่า! จึงไม่กล้าเบ่งมากนัก โผล่พ้นเพียงดวงตาสีเหลืองทองเหนือผืนน้ำ ระหว่างทางที่มันแอบจับปลากินเป็นอาหาร ยังลังเลใจอยู่ว่าหากถูกแย่งแล้วมันจะยอมปล่อยเหยื่อให้อีกตัว เพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้หรือไม่ มันไม่แน่ใจว่าจะชนะ ดีไม่ดีมันอาจกลายเป็นอาหารของตัวใหญ่กว่า

ทว่าตัวข้างมันแค่ว่ายน้ำไปข้างหน้า มีเหลือบมองทางอื่นบ้างแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมัน ที่เพิ่งสังเกตเห็นว่าเจ้านี่มีดวงตาสีแดงก่ำ ลำตัวสีนิลสนิท

ไม่ใช่พวกมันแน่ ๆ ล่ะ! หรือว่ามันจะตาฝาดไป แต่ในเมื่อดวงตาแสนพิเศษของมันมีจุดรับภาพอันดีเลิศ ยิ่งน้ำจืดแล้วมันเห็นแสงสีแดงได้ไวกว่าน้ำเค็ม ซึ่งมันสามารถมองเห็นแสงสีน้ำเงินได้มากกว่า

ดังนั้นสีแดงก็ต้องเห็นแน่!

ขณะที่เจ้าตาแดงเริ่มรำคาญใจกับเจ้าถิ่น เพราะว่าการว่ายน้ำตีคู่กันมาคงไม่ใช่การทักทาย

จระเข้เป็นสัตว์ดุร้ายโดยสัญชาตญาณ ยังมีนิสัยหวงอาณาเขต เจ้าตัวเล็กคงอยากลองเชิงว่ามันแค่ผ่านทาง หรือจะย้ายถิ่นฐานมาแย่งตัวเมียละแวกนี้

มองกันไปมองกันมาอย่างไม่เป็นมิตรจนถึงทางแคบ ด้านฝั่งซ้ายเป็นชายฝั่งดินผสมทรายแฉะ ๆ มีพุ่มหญ้ารก สุดท้ายก็ไม่มีใครเป็นฝ่ายเปิดศึกประสาเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เจ้าตาแดงจึงว่ายชิดเข้าฝั่ง เหลือบตามองตัวที่คลานตามหลังมัน ซึ่งพอมันหดขาลงนอนอาบแดดตามกิจวัตร อีกตัวก็คลานย่องไป

เจ้าตาแดงนึกตลกขบขันเจ้าถิ่นที่ไม่กล้าแหยมกับมัน ได้แค่ทำเบ่งไปอย่างนั้น ยังเสียสละทำเลดี ๆ ตรงนี้ให้มันนอน ก่อนที่มันจะปิดตาข้างซ้ายลง

ธรรมชาติของจระเข้มักลืมตาข้างหนึ่งไว้เพื่อระวังภัย พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ แม้ในพุ่มไม้ขนาดใหญ่ หญ้ารกสีเขียวสลับน้ำตาลเข้มพรางตัวของมันได้ดี ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะมีใครมารบกวนเวลานอนของมัน...

คงหมายถึงมนุษย์

กลุ่มจระเข้ที่ฉลาดหลายตัวรู้จักมนุษย์ว่าทำอะไรได้บ้าง

บางทีพวกมันก็แค่อยากอาบแดดในสถานที่อากาศดี ๆ ช่วงน้ำลงเพราะไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาบ่อย ทว่าหากที่ใดได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว มันจะถูกจับโดยไม่มีการไถ่ถามสักคำ

มีบางตัวถูกพรานยิง ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ถูกจับขึ้นรถไปขาย ร้ายสุดคงได้กลายเป็นอาหารเย็น

ผู้ต้องหายังมีทนายไว้ต่อปากต่อคำ แต่จระเข้ไม่มี!

ได้ขึ้นชื่อว่าไอ้เข้ อย่างไรเสียก็ต้องทำร้ายมนุษย์ พวกมันจะถูกกำจัดไปเสียให้พ้นทาง ทั้งที่มันอยู่ตรงนี้มาก่อนด้วยซ้ำ

ก็นั่นแหละ...

ตำแหน่งสูงสุดของห่วงโซ่อาหารเวลานี้คือมนุษย์

วันนี้เจ้าตาแดงเลยเลือกทำเลดีสักหน่อย เป็นสถานที่ผู้คนอาศัยอยู่ร่วมกับสัตว์ป่าอย่าง Mamirauá[1]

คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ครึ่งหลับครึ่งตื่นใต้แสงแดดทออ่อนยามสาย ดวงตาสีแดงฉานหลุบมองผ่านหญ้าสีเขียว ไกลออกไปนั้นเป็นรีสอร์ตซึ่งมันคงไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวาย มันคงนอนอีกพักเดียวค่อยไป ทว่าทันใดนั้นเอง...

“นั่นอะไรนะ?” เสียงแหลมเล็กของเด็กาวอายุประมาณสี่ขวบ ผมเปียสีบลอนด์ทองนัยน์ตาสีฟ้า อุ้งมือเล็กกอดตุ๊กตาจระเข้น่ารัก หยุดก้าวลงหน้าพุ่มไม้ด้วยหน้าตาใสซื่อ ไร้ความระแวดระวังภัย

ก็จะตัวอะไรล่ะ?’

“เสียงอะไร ใครคะ?”

เด็กน้อยถามอีกครั้งเพราะได้ยินแค่เสียงทุ้มแหบลอยมาตามลม เหมือนเสียงของชายหนุ่มร่างหนาใหญ่สักคน หมุนคอมองซ้ายขวา ไม่เห็นว่าตรงนี้จะมีใคร

ทางนี้นังหนู อยู่ตรงพุ่มหญ้านี่’

ประมาณหกถึงเจ็ดก้าวเดิน หนูน้อยตากลมโตมองเห็นเพียงเงาดำขนาดใหญ่เหมือนเป็นก้อนหิน แต่ไม่ใช่... เธอไม่แน่ใจ ไม่กล้าเข้าไปใกล้กว่านี้ สองมือกอดตุ๊กตาแน่น

“คุณพูดได้หรือคะ คุณเป็นตัวอะไร...?”

พูดได้เฉพาะกับเด็ก ผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ ผู้มี ‘ญาณทิพย์’ คือการรับรู้ทางจิตทางอารมณ์ มี ‘หูทิพย์’ การได้ยินเสียงแปลก ๆ อาจเป็นเสียงของวิญญาณหรืออะไรบางอย่าง...

“หนูฟังไม่เข้าใจค่ะ”

นั่นคงเป็นเรื่องราวที่ยากเกินไปสำหรับเด็กวัยสี่ขวบ เธอจำได้ว่าแม่เคยบอกเรื่องก้อนหินว่ามันพูดไม่ได้

เข้ามานี่ซิอีหนู... เข้ามาใกล้ ๆ มาคุยกับลุงตรงนี้ไม่ต้องกลัว’

หนูน้อยพยายามรวบรวมความกล้าหาญอย่างถึงที่สุด เกือบจะก้าวเข้าไป ก่อนนึกขึ้นได้ว่าแอบหนีคุณพ่อคุณแม่มา...

“มัมต้องดุหนูแน่เลยค่ะ หนูไปตามมัมกับแด๊ดมาด้วยดีกว่า นั่งคุยกันหลายคนสบายใจ”

เป็นเด็กฉลาดดี แต่ถ้าไม่เดินมาลุงว่าจะไปแล้วนะ หนูคงอดเห็นของดีแล้วล่ะ’

ดวงตาคู่สวยกลอกไปมา ในที่สุดเธอก็เดินไปตามคำล่อหลอกของตัวอะไรสักอย่างด้วยความไร้เดียงสา

“จระเข้!”

หนูน้อยเบิกตากว้าง ยกมือป้องปาก ตุ๊กตาหล่นตุบ! สองขาก้าวถอยครูดด้วยความตกใจ ทว่าพอได้ยิน...

ไม่ใช่จระเข้ ดูให้ดี ๆ จระเข้ที่ไหน’

“ไม่ใช่จระเข้แล้วตัวอะไร!”

แอลลิเกเตอร์ [alligator] มาจากภาษาสเปน ‘Lagarto’ หมายถึงสัตว์เลื้อยคลาน ตัวนี้ปากเป็นโค้งทรงรูปตัวยู ไม่ใช่เจ้าตัวปากแหลม ต่างกัน... อันนั้นถึงเรียกว่าจระเข้ ดุร้ายกว่า พบในเอเชีย ส่วนแอลลิเกเตอร์จะพบในจีนและอเมริกา’

เด็กสาวมีสีหน้างุนงง แต่ไม่เลือกที่จะวิ่งหนี เธอแค่รู้สึกไม่ปลอดภัยพอเห็นว่าจระเข้ไม่เหมือนในการ์ตูนน่ารัก เหมือนในจินตนาการของเธอ

“ตกลง... คุณลุงเป็นแอลลิเกเตอร์เหรอคะ?”

ไม่เชิงว่าใช่... อาจไม่ใช่ทั้งสองอย่าง...’

“แล้วเป็นตัวอะไรคะ?”

ก็เคยเป็นมนุษย์ตัวเล็ก ๆ ขี้สงสัยอย่างหนูนี่แหละ แต่ตอนนี้จะเรียกลุงว่าเกเตอร์ก็ได้

“ทำไมคุณลุงพูดได้ล่ะ?”

เข้ามาใกล้ ๆ ลุงอีกนิดสิ เดี๋ยวลุงจะบอก...’

[1] Mamirauá เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งธรรมชาติของอนุสัญญามรดกโลก โครงการ PPG-7 เพื่อการปกป้องป่าเขตร้อนของบราซิล ลุ่มน้ำแอมะซอน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มนตร์ตาละวัน   2

    “แมรี่!”เสียงตวาดของแม่ดังขึ้นอย่างรวดเร็วเท่ากับสองแขนที่วาดคว้าตัวลูกสาวขึ้นอุ้ม โอบร่างเล็กจิ๋วไว้แน่น ก่อนเงยหน้าว่าลูกสาว“หนูมาทำอะไรตรงนี้ลูก! มัมบอกแล้วนะว่าห้ามออกมาคนเดียว ไปไหนต้องไปด้วยกัน ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรานะลูก”“หนูกำลังคุยกับคุณลุงเกเตอร์ค่ะแม่”“ไม่เห็นมี...” สิ้นคำเท่านั้น คุณแม่แทบเป็นลม! เมื่อเห็นบางอย่างในพุ่มหญ้า เร็วกว่าความคิด สาวร่างบางในกางเกงยีนทะมัดทะแมงรีบอุ้มลูกน้อยออกไปให้ไกลกว่าเดิม ในระยะที่วิ่งหนีทันหากเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ก่อนตะโกนเรียกสามี“Alanaa!”เรียวแขนกว้างกอดรัดร่างเล็กแน่น ปากจูบหน้าผากลูกสาวซ้ำ ๆ พร้อมแววตาเอ่อคลอ นึกโทษโกรธตัวเองไม่หาย เพราะถ้าหากว่าเด็กน้อยแสนไร้เดียงสาเป็นอะไรไป นั่นคือความผิดของแม่คนเดียว!“ปริม! เจอแมรี่แล้วใช่ไหม...”คุณพ่อหน้าตาตื่นตระหนกหลังจากที่ลูกสาวเดินหายไปจึงช่วยกันตามหา เข้าไปกอดทั้งลูกเมียอย่างเป็นห่วง อีกฝ่ายก็ขอโทษเขาน้ำตาคลอว่าคลาดสายตาจากลูก ก่อนจะชะโงกคอมองเงาดำไกล ๆ“อะไรน่ะ?”“จระเข้ค่ะ มันตัวใหญ่มาก ปริมไม่เคยเห็นตัวใหญ่เท่านี้มาก่อนเลยนะ เรียกพี่ ๆ ไกด์มาด้วยมาเซลฟี่กัน พี่อลัน ๆ เรียกเขามาเร็ว”“ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มนตร์ตาละวัน   3

    “พุทโธ่! คุณหลวงขึ้นฝั่งไปที่ไหน ทำไมไม่บอกผมครับ!?” เสียงตวาดว่าเสียใหญ่โตของหนุ่มร่างเล็กอ้อนแอ้น มือเท้าเอวมองชายในสูทหล่อเหลา วางตุ๊กตาจระเข้น่ารักและถังกลมลายซูเปอร์ฮีโร่ยอดฮิตลงในฝั่งซ้ายและขวา“ทำไมล่ะ? ไม่ใช่นักโทษซะหน่อย อยากไปไหนฉันก็ไป...”“ขืนโดนจับไปผมจะทำยังไง ไถ่ถอนตัวออกมาจากสวนสัตว์ไม่ได้ง่าย ๆ นะครับ นี่... แล้วถ้าเจอคนไม่ดี...”“ได้โดนถลกหนังไปทำกระเป๋าใช่ไหม? ฉันยังไม่เคยเห็นอะไรที่แกว่ามาสักอย่าง ยุคนี้มันศิวิไลซ์จะตายดูซี... มีทุกอย่าง มือถือ อินเทอร์เน็ต ฉันดูซีรีส์ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ” พูดพลางเคี้ยวป๊อปคอร์นกรุบกรอบรสชาติจืดสนิท นัยน์ตาสีแดงที่มีรูรับภาพแสงคมปลาบราวดวงตาของจระเข้ เหลือบมองหนุ่มร่างเล็กความสูงเพียงระดับบ่า เมื่อเจ้าตัวกระแทกก้นนั่งลงบนโซฟาตัวเดี่ยวข้างกัน ในสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด“คุณหลวงนี่พูดอย่างไร เดือนนู้นก็โดนลูกดอกยาสลบ ซมซานคลานมานอนอืดอยู่หน้าบ้าน ดีนะ กลายร่างเป็นคนเสียก่อนจะได้เป็นหนูทดลองที่ศูนย์วิจัย...”“พิกลล่ะ ไอ้เข้เกเตอร์จะกลายเป็นหนูได้ยังไงกัน...”หนุ่มใหญ่ส่งเสียงหัวเราะดัง หน้าโทรทัศน์ขนาดใหญ่กว่าห้าสิบนิ้วในห้องมืดส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มนตร์ตาละวัน   4

    แน่นอนว่าคฤหาสน์แสนสวยนี้นายจันออกแบบมันเอง ด้วยประสบการณ์ด้านสถาปนิก วิศวกร และงานช่างสิบหมู่ที่สืบสกุลมา งานวาดรูปที่เขาชื่นชอบมันไม่น้อย เขาก็วาดมัน แปะไว้บนฝาผนังเป็นเครื่องบันทึกความทรงจำร่างสูงกระโจนลงเหยียดตัวนอนบนเตียงนุ่มที่สั่งทำพิเศษ กว้างถึงสี่เตียงต่อกัน ไม่ลืมหยิบโทรศัพท์มือถือเสียบสายชาร์จก่อนเข้านอน อย่างที่ทำจนติดเป็นนิสัยวันนี้คงเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง...หากเป็นเมื่อก่อนก็นับตั้งแต่ย่ำค่ำ พระอาทิตย์ตกดินในเวลา ๑๘ นาฬิกานายจันเคยคิดว่ามันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยกับสิ่งที่ตนเป็น เขาเคยลองขับรถข้ามเมืองเพื่อหนีพระอาทิตย์ หนีพระจันทร์ ในเมื่อหลายสถานที่ก็อาทิตย์ตกดินไม่เท่ากันอยู่แล้วถ้าไปอยู่อเมริกาล่ะ... ตรงนี้คงเป็นเวลากลางวันแล้วไอ้เรื่องบ้า ๆ นี่ต้องนับเวลาไหน มันถึงจะเม้คเซ้นส์!คำตอบอยู่ในภาพนั้น...ตามองผ่านกระจกบานใสความสูงจรดเพดาน ไปยังรูปภาพใบใหญ่ที่สุด เป็นภาพหินหลักหน้าตาประหลาดซึ่งปักล้อมรอบบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ พระจันทร์ดวงกลมโตสีแดงสนิทกำลังจมหายลงไป ทว่าลอยอยู่เหนือสระว่ายน้ำกลางบ้านมันเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกมืดมนหม่นหมอง“ใกล้ถึงเวลานอนแล้วสินะ เฮ้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มนตร์ตาละวัน   5

    “ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แกก็รู้นี่... ตกดึกทีไรใครขัดใจไม่ได้ อารมณ์เสียทุกที”“ผมคงไม่โกรธอะไรแล้วล่ะครับ ผมเข้าใจ ตามสบายนะพี่”เจ้านายฉีกยิ้มกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวคมตรงมุมปาก “งั้นไปนะ... ไปดูซีรีส์ต่อดีกว่า”“เอ๊ะ... พี่ติดดูทีวีหรือ? ดูอะไรอยู่ล่ะ”“หลายเรื่อง ซีรีส์ฝรั่งเกาหลีบู๊ล้างผลาญ นางเอกสวยดี อีกเรื่องอะไรนะ... จิ้งจอกเก้าหางหรืออะไรสักอย่าง”“เหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบปีนะครับ... เดี๋ยวก็ไม่ได้ดูแล้ว ถ้ายังอยากดูหนัง ยังอยากเที่ยว เราต้องตามหาแม่ตะเภาทอง”ตะเภาแก้ว ตะเภาทอง เป็นลูกสาวเศรษฐีเมืองพิจิตร พญาจระเข้เคยคาบแม่ตะเภาทองไปอยู่ด้วยในเมืองบาดาล เสกให้หลงด้วยมนตร์เสน่ห์ แต่ในเมื่อนางเอกต้องลงเอยกับพระเอกอย่างหมอจระเข้อยู่แล้ว ไอ้ชาละวันก็ถูกเสียบด้วยหอกอาคมนายจันและนายคล้าวได้ยินมาว่าเวทย์อาคมเพียงเท่านั้นจะแก้ไขสิ่งที่พวกเขาเป็น ไม่เช่นนั้นก็ต้องตาย...“น่าสงสารพ่อชาละวันเสียจริง เชื่อเถอะว่าหล่อนไม่มีตัวตน ถ้าเจอ ฉันคงเจอไปนานแล้วไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน วนเวียนอยู่กับอสงไขย[1] เช่นนี้ ฉันอยู่มากี่ร้อยปี”“เป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรเลยสักอย่างเหมือนเดิมนะครับ”“เชื่อ... แต่สิ่งที่พิส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มนตร์ตาละวัน   6

    “คนรับรองคนไหน? ผมยาวหรือผมสั้นคนนั้น”“ผมสีน้ำตาลอัลมอนต์ครับ ที่หิ้วกระเป๋าจระเข้...”“สวยดีนี่ ตาถึง แต่ว่าฉันไม่ชอบรสนิยมนั่นเท่าไร ฉันเห็นจระเข้ตัวเมียโดนเชือดก่อนกลายเป็นกระเป๋าสีขาวแสนสวยของหล่อน แล้วแต่งตัวแบบนี้น่ะ คนเขาเรียกว่า ‘เซลล์’” นายจันมองหาคนไกลด้วยดวงตาที่สามารถมองได้ไกลลิบ มากสุดคงมองได้เป็นกิโลฯ แม้ว่ามันอาจไม่ชัดเจนนักแค่เห็นว่าแต่ละคนกำลังทำอะไรจากนัยน์ตาเป็นประกายใต้คอนแทคเลนส์สีน้ำตาลทรงเสน่ห์เช่นเดียวกับคนน้อง พวกเขามีใบขับขี่! ใบรับรองแพทย์ที่บ่งบอกอาการของสายตาอันเฉียบคมว่าเป็นการทำงานผิดปกติของกลุ่มแยกแยะสีในตา อาการไม่ร้ายแรง สามารถใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไปนายจันมีเอกสารครบ ส่วนเรื่องอะไรต่อมิอะไร คนเป็นนายออกนอกบ้านมากกว่าก็จะรู้มากกว่า“เซลล์? หมายถึง seller อะไรประมาณนั้นน่ะหรือครับ”“ใช่ ตอนนี้เรียกเซลล์ เซลล์ขายของ พนักงานขายทำงานกันเป็นกลุ่ม ก็แล้วแต่ว่าขายอะไร ยุค ๆ นั้นก็เรียกพนักงานขายนี่แหละ แกคงยังไม่ชิน” “จากการแต่งตัวแล้วผมพอเดาได้ว่าเธอขายอะไร เฮ้อ... คนในยุคนี้ช่างโหดร้ายทารุณ” ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วนายคล้าวหันไปบอก “อย่าลืมนะครับว่าเราสองค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มนตร์ตาละวัน   7

    สองคนมองหน้ากัน เพราะว่าถ้าพวกเขาจะไม่กิน...‘ฉันเป็นมังสะวิรัต! ไม่กินพวกเดียวกัน แกพาฉันมาทำอะไรวะไอ้คล้าว!’‘กิน ๆ เข้าไปเถอะครับ ผมอยากพิสูจน์อะไรหน่อย อดทนหน่อยนะพี่นะ’“เอ่อ... มีใคร... เป็นมังสะวิรัตหรือเปล่าคะ? คือกันได้ยิน... เสียง... เหมือนคนคุยกัน”กัญญาวีร์แน่ใจว่าเธอได้ยินเสียงสองหนุ่มชัดเจนมาก แม้เป็นเสียงก้อง ๆ คล้ายเสียงสะท้อนของลำโพง ขณะที่พวกเขาเพียงนั่งเฉย ๆ โดยที่ปากไม่ขยับ“ไม่มีนี่ครับคุณกัน ผมกับพี่ชายขอเลือกเมนูสักครู่นะครับ”‘ต่อให้เจอแม่แก้ว... มันมีทางเลือกเดียวคือตายกับตายใช่ไหม!?’‘ไม่ถึงตายหรอกครับ ใจเย็น ๆ รอดูเธอก่อน เธออาจไม่ใช่คนที่เราคิดก็ได้’‘อย่ามาเล่นลิ้นปลิ้นปล้อน หัดเป็นบ่าวขี้ปดตั้งแต่เมื่อไร ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันลากแกไปเฆี่ยนแล้วไอ้น้องชายจอมปลอม! ทำอะไรไม่ปรึกษาพี่สักคำ แกเอาหัวเป็นประกันไหมว่าฉันจะไม่ต้องกลายเป็นสเต๊กจระเข้ให้เธอกิน...’‘คงไม่มั้งครับ เธอไม่รู้สักหน่อย แล้วผมว่าเธอไม่น่าจะชอบเนื้อเหนียว ๆ เคี้ยวเข็ดฟันรุ่นคุณหลวงมั้งครับ’‘แกกำลังจะบอกว่าจระเข้หนุ่มอร่อยกว่า?’‘ก็แน่นอนน่ะสิครับ’ ‘อยากกลายเป็นสเต๊กจระเข้ตอนนี้เลยไหมวะ ไอ้ค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มนตร์ตาละวัน   8

    หญิงสาวยืนนิ่งอึ้งตะลึงงัน ก้าวขาไม่ออก นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องแผ่นหลังกว้างกำยำจนถึงลานจอดรถยนต์โล่งกว้างกลางแจ้ง พวกเขาขึ้นรถสปอร์ตคาร์สีแดงไปด้วยกันเขารู้ว่าเธอได้ยินเสียงประหลาด แล้วเธอได้ยินพวกเขาคุยกัน ไหนจะภาษาแสนโบราณนั่น!ก่อนหน้านี้มีเรื่องที่คุณยายและพี่สาวบอกให้เธอระวังตัวเมื่อพบปะชายแปลกหน้า โดยเฉพาะปีนี้ อีกไม่กี่วันเธอจะอายุครบยี่สิบห้าปีกัญญาวีร์เคยไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่เพราะว่าดันเกิดมามีซิกซ์เซ้นส์ พบเจอประหลาดอยู่เสมอ และอย่าว่าแต่เสียงเลย ที่ไหนว่ามีผี มีคนตาย เรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ เธอเปิดประเดิมเจอเป็นคนแรก! ประหนึ่งเครื่องส่งโทรจิตถึงวิญญาณ จนได้รับฉายาจากเพื่อนในคลาสว่ายัยแอนนาเบลเรียนเมืองนอกตั้งแต่ไฮสคูล โดนบูลลี่เป็นประจำ กว่าจะคว้าประกาศนียบัตรจาก UK University มาได้ กลับมาทำงานเมืองไทยไม่ถึงเดือน เธอก็ยังเจอเรื่องบ้า ๆยัยกันเอ๊ย มันจะเบญจเพสอาเพศอะไรนักหนา!ใบหน้าสดสวยส่ายไปมาเพื่อสลัดความฟุ้งซ่าน เมื่อเธอยังมีงานกองเท่าภูเขารออยู่ จึงหมุนตัวก้าวฉับ ๆ ไป สะบัดปลายส้นสูงอย่างนางงามพร้อมความมั่นใจที่กลับมาอีกครั้งใครต่างก็ว่าเธอเป็นคนสวย ชุดสูททำงานเค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • มนตร์ตาละวัน   9

    บนโซฟาหนังกำมะหยี่ที่เพิ่งถอดจิตไปหาหญิงสาว นายจันสงบสติอารมณ์ลง ผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่จำได้ว่าไม่ได้พบแม่ตะเภาแก้วมานานมากแล้วหลังภพชาติก่อนของเธอไม่เกิด...ตะเภาทองที่เคยเป็นเมียโดยไม่เต็มใจ ใช่... เขาถือว่าหล่อนไม่เต็มใจเพราะต้องมนตร์สะกดชาละวัน ก่อนจะไปเป็นเมียของไกรทอง พ่อคนดีเมืองพิจิตร ภพชาติต่อมาก็ยังเป็นลูกหลานบ้านเดิม ก่อนจะตัดสินใจลาบวชด้วยความเลื่อมใสในพระธรรมไม่รู้มาก่อนว่าคนน้องนี้จิตแข็ง ไม่หวั่นพรึงต่อสภาพการณ์อีกโลกหนึ่ง หากได้ยินเสียงวิญญาณหรือถูกผีหลอกเข้าสักคืน แม่คงฟาดฝีปากสาปแช่งด่าผีไม่ให้ไปผุดไปเกิดหรือไม่ก็... ไล่เตลิดเปิดเปิงจนหลุดจากนิมิตกลับมาที่เดิม“นั่งเหลือกตาอ้าปากยังกับจระเข้ ประหลาดคน” นายคล้าวบ่นพลางเคาะแป้นพิมพ์เสียงดัง ชะโงกหน้าที่สวมแว่นหนาเตอะผ่านจอสี่เหลี่ยม ให้ความสนใจกับคนที่นอนเหยียดขาอย่างสบายใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ “ไปหาแม่แก้วหรือนั่น”“อืม... แม่ดุมากสายแข็ง แต่ไม่เป็นไร ขอลองใหม่อีกที” เขาปิดตาลงอีกครั้ง พร้อมความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องเผด็จศึกให้จงได้ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็คาถา‘แม่แก้ว... มาหาพี่...’“ฉันชื่อกัญญาวีร์!”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28

บทล่าสุด

  • มนตร์ตาละวัน   61

    เมื่อผู้ชายตัวโตเป็นฝ่ายยอมปล่อยจากเรียวปากอิ่มงาม กัญญาวีร์ชนหน้าผากไว้กับหน้าผากกว้าง เธอตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่กับเขาไปตลอด สุดอสงไขย ณ สถานที่ไร้ห้วงเวลาแห่งนี้“หากว่าถึงเวลาของเรา สักวันหนึ่งเราจะไปด้วยกันนะคะ เราสามคน”“ไม่แค่สามครับ... อนาคตเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่แน่นอนว่าบ้านหลังนี้จะมีจระเข้แอลลิเกเตอร์มากกว่าสามตัว”นานเท่าไรก็จะไม่พรากจาก รอยยิ้มปรากฏบนวงหน้าหล่อเหลา กุมภิลหนุ่มเจ้าเล่ห์กำลังจินตนาการถึงลูกครึ่งจระเข้และแอลลิเกเตอร์ ลูกของเขากับแม่แก้วกัญญาส่วนหญิงสาวยังคงมองตามหยดน้ำใสที่ไหลออกมาจากดวงตาเมื่อมันกลายเป็นก้อนกลม ลอยขึ้นที่สูงแล้วสลายหายไปในอากาศ เธอผุดรอยยิ้มกว้างออกมา ยกปลายนิ้วขึ้นแตะมันที่แตกกระจายออกเป็นฟอง ไม่เลิกร้องไห้ในอ้อมกอดของกุมภิลในวังบาดาลของพญาจระเข้ใหญ่นี้ก็คงจะมีลูกหลานทายาทจระเข้มากกว่าหนึ่งตัว และจากนี้ไปคงมีเรื่องให้คนช่างอยากรู้อยากเห็นอย่างกัญญาวีร์สนุกตามคุณพ่อจระเข้อีกแน่ ๆ ------------------------------------การออกไปว่ายน้ำหาสถานที่อาบแดดเป็นอะไรที่... มีความสุขที่สุด! หากไม่เป็นเพราะว่าคุณแม่อยากลองสถานที่แปลกใหม่ คน

  • มนตร์ตาละวัน   60

    พญาชาละวันคงไม่มีเมตตาต่อมนุษย์เท่าเดิม เมื่อจิตวิญญาณและความทรงจำทั้งหมดกลับคืนมา ตาคมจรดมองร่างสั่นเทา เปียกปอนเหน็บหนาวไม่ต่างจากพรายสาว น้ำตาลูกผู้ชายก็พาลไหลชาละวันบัดนี้ไม่กลัวเกรงพญายมราชหรือใครหน้าไหน แม้ว่าเขาจะเหยียบหน้าเจ้าถิ่น ก็คิดเพียงว่าต้องพาเมียรักกลับคืน ตรงกันข้ามกับอีกคน หญิงสาวคิดว่ามันคงถึงเวลาต้องจากกัน...“ให้แล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำมาร่วมกันเถิดค่ะ ตอนนี้กันต้องไปแล้ว ลาก่อนคุณหลวงจัน... พญาชาละวัน...”เพียงเรือลำน้อยแล่นฉลิวไปด้วยความเร็วต่างจากเมื่อครู่ หยาดน้ำใสก็เจิ่งนองเต็มสองตาเจ้าจระเข้ยักษ์ มันไม่ยอมว่ายห่างจากเรือ ยังแปลงกายครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์ แผงอกกว้างกำยำและสองมือเกาะติดเรือไม้อย่างแน่นหนึบ“ผมไปด้วยได้ไหม?”‘ไสหัวไป... ไอ้ตาละวัน’“ไม่ไปครับ...” ในสีหน้ายียวนกวนประสาท กุมภิลหนุ่มรู้ว่าตนจะต้องเจอกับอะไร ไม่มีใครกล้าลองดีกับท่านท้าวพญายมราช ที่ถึงจะส่งพระยมไปเก็บดวงวิญญาณ ก็สามารถสื่อสารจิตถึงกัน หากว่าเจอเรื่องราวอันเป็นอุปสรรคในเมื่อบนโลกนี้ยังมีอมนุษย์และปีศาจบางตน ปะปนแอบแฝงอยู่กับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆทว่าจากเรือนผมที่เคยเป็นสีขาวยาวประเอว บัดนี้

  • มนตร์ตาละวัน   59

    เคียดแค้นชิงชัง โกรธในสิ่งที่เธอทำแต่ว่ายังรัก... เขายังรักเธอหมดหัวใจ‘แม่แก้ว!’ เสียงเรียกดังผ่านกระแสน้ำถึงห้วงจิต อีกเพียงนิดก็คว้าร่างของแม่สาวเอวบางได้แล้ว ทว่าเจ้าของเรือนผมสวยสีดำขลับในมินิเดรสตัวเดิม กลับว่ายขึ้นฝั่งผ่านหน้าเขาไปเสียเฉย ๆ ไม่แม้จะสนใจเขาด้วยซ้ำ‘กัญญาวีร์! รอผมก่อน จะรีบไปไหน...’เดรสลายดอกไม้ตัวนั้นเขาก็ซื้อให้ แค่เธอบอกว่าสวยคำเดียวไม่ว่ามันจะราคาเท่าไร เธอมันก็แค่ผู้หญิงเอาแต่ใจ เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง หัวสูง ทำอะไรไม่ปรึกษา ยิ่งคิดยิ่งน่าโมโห!นัยน์ตาสีแดงสนิทพยายามเพ่งมองให้ชัด โทสะปะทุขึ้นในจิตใจ ร่างสีดำสนิทของจระเข้ใหญ่แหวกว่ายตามไป ก่อนจะพบว่าเป็นเพียงร่างโปร่งใสยังมีอีกคนลอยอยู่ท่ามกลางความมืด สองแขนยกขึ้นเหนือศีรษะ เส้นผมสยายกระจายตามกระแสน้ำ ดวงตาคู่สวยใสใต้เปลือกตาขาวเพียงเบิกมองข้างหน้าอย่างเคว้งคว้าง ในสถานที่แสนเงียบเชียบและหนาวเหน็บลำพัง------------------------------------ร่างไร้ลมหายใจที่หลับใหลอยู่ใต้น้ำ ราวกระชากหัวใจกุมภิลไปจากอก ไม่มีประโยชน์ที่จะดึงรั้งเธอไว้ เมื่อภาพที่ตาเห็น สิ่งที่สองมือสัมผัสเป็นเพียงกายหยาบ เขากอดร่างแสนหวงแหนไม่ห่าง

  • มนตร์ตาละวัน   58

    ปริศนาในใจเธอได้ไขกระจ่างเมื่อไม่นานมานี้ บางทีนี่อาจจะเป็นชะตาลิขิตตามพระครูว่าเธอเป็นกุญแจสำคัญ“ฉันเป็นคนขังเขา แต่ในเมื่อเขาเลิกกินเนื้อมนุษย์ไปแล้ว หมอจระเข้ก็หมดกรรมกับเขาไปแล้ว เขาควรได้รับการปลดปล่อยเสียที ฉันจะทำมันค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันไม่ได้ไปคนเดียว”“เช่นนั้นผมคงห้ามอะไรคุณกันไม่ได้ เอาเป็นว่ามีเหตุฉุกเฉินอะไรให้ตะโกนเรียกผมนะครับ ผมลงไปในบ่อน้ำนี้ไม่ได้”สองนายบ่าวแทบจำมันไม่ได้ด้วยซ้ำ หากว่าไม่เห็นกับตา ยืนอยู่ตรงหน้า พวกเขาจะลืมเรื่องบ่อน้ำเสมอ ขณะส่ายคอมองหาไปรอบ ๆ บริเวณด้านหลังบ้านที่เต็มไปด้วยหญ้ารก ท้องฟ้ามืดลงเต็มที ต่างคนมองเห็นร่างโปรงใสของชายหน้าคุ้นตา ยืนเอามือไพล่หลังอยู่หน้าบ้าน กำลังชะเง้อคอมองหาอะไรสักอย่าง แววตาคู่สวยแปรเปลี่ยนเป็นขึงขังจริงจัง“ฝากด้วยนะคุณคลาวด์ อย่าให้เขามา”“ครับ คุณรีบไปจัดการธุระเสียเถอะ ถึงเจ้านายผมจะหลับ จิตเขาไม่ได้หลับไปด้วย”ได้ยินเท่านั้น เรือนร่างงามของหญิงมนุษย์ก็กลายเป็นเดรัจฉานสีขาว นัยน์ตาสีทอง สัตว์เลื้อยคลานที่มีเขี้ยวคมคลานไปด้วยสี่เท้าของมันลงบ่อไป ------------------------------------ลึก ๆ แล้วกัญญาวีร์

  • มนตร์ตาละวัน   57

    เขายังมีเรื่องราวแปลก ๆ เล่าให้เธอฟังอีกมากแต่เป็นเพราะว่านั่งฟังเสียงตึกตักดังมาได้สักพักจากคุณแม่และคุณลูก จึงซุกปลายจมูกโด่งเป็นสันคมเข้าหาเดรสลายดอกไม้สวย สูดกลิ่นหอมเบา ๆ ให้ชื่นใจ มือเอื้อมผ่านแผ่นหลัง โอบเอวบางของคุณแม่ที่หน้าท้องใหญ่ขึ้นเพียงเล็กน้อยอย่างระวัง“ท้องโตขึ้นนะ คุณพ่ออยากเห็นหน้าเจ้าตัวน้อยเร็ว ๆ จัง”“คุณชาร์ลว่าผู้หญิงหรือผู้ชายคะ?”“ผู้ชาย... ผมรู้สึกว่าเขาเป็นเด็กผู้ชาย”สัญชาตญาณลึก ๆ บอกเขาที่เชื่อในความสามารถการรับรู้ของตน คุณพ่อยังนึกซน พอกลิ่นหอมอ่อนอันมีเอกลักษณ์โชยมาแตะจมูกตามทิศทางลม ขณะที่เดรสกระโปรงยาวคงทำอะไรต่อมิอะไรได้ยากเสียหน่อย คุณแม่ยังหวงเนื้อหวงตัวเป็นพิเศษในระยะหลัง ๆ มา เป็นอาทิตย์แล้วที่เขาไม่ได้กิน! “ตัวเล็กครับ... ก๊อก ๆ อยู่ไหมนะ... พ่อกวนแม่ได้ไหมครับ” “ไม่ได้ครับ ห้ามกวน” คุณแม่ดัดเสียงแหลมเล็กหยอกล้อ ส่งเสียงหัวเราะดังระคนกันไปนายจันเผลอคิดว่าเมียคงกลายเป็นคนขี้แกล้งอย่างเขาเสียแล้ว ขณะมือหนาค่อย ๆ เลื่อนลงต่ำ เลิกกระโปรงบานพลิ้วขี้นกองเหนือหน้าขา ก่อนจะโดนตีมือดังเพี๊ยะ! ดวงตาคู่สวยใสแปรเปลี่ยนเป็นดุดัน ดุแ

  • มนตร์ตาละวัน   56

    กัญญาวีร์ดูเร่งเร้าเหลือเกิน ชายกระโปรงสีครีมหวานเขย่าไปเขย่ามา ทำเอาเจ้าของบ้านลอบยิ้มกรุ้มกริ่ม มือไขประตูอย่างไม่รีบร้อนอะไร แต่พอได้ยินเสียงหวานตะโกน“แม่อ่วม ๆ!”‘เจ้าขา... คุณผู้หญิง... อ่วมอยู่นี่เจ้าค่ะ’ คงไม่มีใครคิดว่าบ่าวผู้จงรักภักดีอย่างแม่อ่วมจะยังอยู่บ้านหลังนี้ นายจันมาที่นี่กี่ทีไม่เคยลองเรียกหล่อนดู จึงไม่รู้ว่าหล่อนยังอยู่ นั่นทำให้เขายิ่งแปลกใจ“เรียกหาบ่าวทำไม?”“คือ... กันดีใจไปหน่อย ลืมตัวค่ะ เราเข้าบ้านกันดีกว่า กันหิวแล้ว” พูดพลันควงท่อนแขนเป็นล่ำสันกลบเกลื่อน นายจันยังมีสีหน้าสงสัย ขณะพาหญิงสาวเข้าบ้าน เพิ่งจะเห็นเธอนิ่งเงียบไปหลังส่ายคอมองไปทั่ว ด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น“กันทำตัวไม่น่าไว้ใจนะครับ”“ก็ปรกตินี่คะ คุณชาร์ลคิดเองเออเองรึเปล่า?”รอยยิ้มบนวงหน้าหวานบอกว่าไม่มีอะไร เมื่อชายหนุ่มโน้มตัวลงจับมือเรียวเดินผ่านทางเข้าบ้านโบราณที่ตกแต่งด้วยสีขาวครีม ขอบหน้าต่างหลังคาเป็นเกล็ดขนมปังขิง ตามแบบสมัยนิยมยุคคุณหลวง มีภาพขนาดใหญ่ใส่กรอบเป็นหนุ่มหน้าตาเหมือนกับนายชรัณไม่ผิดเพี้ยนแต่ถือไม้เท้าสวมชุดราชปะแตนอยู่กลางบ้าน“คิดถึงจังเลยค่ะ กันอยากกลับบ้านหลังนี้มาน

  • มนตร์ตาละวัน   55

    ‘ง่วงก็นอนเสียนะคะคุณหลวงของแก้ว...’เสียงหวานใสยังก้องกังวานในหัว หลังลืมตาตื่นพร้อมคนในอ้อมแขน เรือนร่างกำยำในกางเกงนอนตัวเดียว แผงอกกว้างกำยำเปลือยเปล่าลุกสะลึมสะลือเดินออกจากเตียง เห็นบางคนนั่งอยู่หน้าโน้ตบุ๊คสักพักใหญ่ เขาคิดว่าเธอคงจะงานล้นมือ เพราะหลังจากเลิกงานแต่งมาก็นั่งอยู่แต่หน้าจอวันก่อนคืนงานแต่งงานบอกลาแขกเหรื่อในเวลาสองทุ่มตรง นายจันรู้สึกไม่ดีนักกับการเป็นครึ่งกุมภิล เขาทำอะไรไม่สะดวกเพราะต้องเผื่อเวลาไปไหนมาไหน ยิ่งภรรยาเป็นพวกชอบออกงาน เจ้าสาวยังลำบากกับการจัดการผมยาว ๆ ให้กลับมาเรียบร้อยหล่อเหลา จนทุกวันนี้เธอแทบจะกลายเป็นช่างตัดผมส่วนตัวไปแล้ว“ทำงานหรือครับ? กินข้าวเช้ารึยัง...” บอกพลางหย่อนก้นนั่งลง เกยคางไว้บนไหล่มนอย่างออดอ้อน บนเก้าอี้แคบ ๆ ไม่มีแม้พนักสำหรับวางแขน เขาก็พยายามจะเบียดตัวเข้าไป“กินแล้วค่ะ คุณชาร์ลไปกินข้าวสิคะ กันทำข้าวต้มไว้ให้”“ผมไม่อยากกินข้าวต้ม ใครบอกว่าผมอยากกิน...”‘อยากชื่นใจเมีย’“แต่ว่ากันเหนื่อยมากค่ะ งานแต่งเป็นอะไรที่ยุ่งมาก วุ่นวายมาก ไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย”“ปากบอกว่ายุ่งแต่มีเวลามานั่งทำ...” เงียบไป ตาคมหลุบมองคนที่สลับจอเ

  • มนตร์ตาละวัน   54

    สิ้นเสียงตวาดกร้าวผ่านห้วงจิต หล่อนก็กลับกลายเป็นหญิงงาม เจ้าของร่างพอรับรู้ได้ว่าตนไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น เหลือเพียงเรือนร่างเปลือยเปล่าบนที่นอนนุ่ม จึงรีบคว้าผ้านวมหนาขึ้นคลุมหน้าอก มองไปทางเสื้อผ้าขาดวิ่นบนพื้นพลางถอนหายใจ“เฮ้อ... เสียดายชุดสวย บอกให้ถอดก่อนก็ไม่ได้ แม่วิมาลานี่นิสัยแย่ไม่เปลี่ยน”“ช่างมันเถอะครับ มันเป็นเหตุสุดวิสัย”ร่างสูงหย่อนก้นนั่งลงข้างกัน เป็นเธอที่พอสบเข้ากับแววตาคมวาบก็หลุบหนี ใบหน้างามบึ้งตึง เริ่มจากแก้มร้อนผ่าวเพราะอารมณ์โกรธ แดงขึ้นตามลำดับ“พ่อคนหลายเมีย เมียเยอะมากความ มากเรื่องวุ่นวาย มีคนเดียวเสียตั้งแต่ทีแรกคงไม่ต้องมานั่งปวดหัวขนาดนี้”“กันไม่เกิดให้เร็วกว่านี้ล่ะ”“เกิดมาแล้วไงคะ แต่ว่าเราคงทำบุญมาร่วมกันแค่นั้น มันน่าเสียใจนะ...”กัญญาวีร์รับรู้ทุกอย่างได้จากจิตใต้สำนึกของเธอเอง เพียงเปิดใจรับฟังอีกสองดวงจิตอย่างไร้ความหวาดกลัว ไร้ข้อโต้แย้ง ปล่อยให้ทุกอย่างหลั่งไหลเข้ามาดังกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก...สายน้ำอันอบอุ่นเปรียบดังความรักของชายผู้หนึ่ง ผู้เป็นรักแรกพบตั้งแต่วันแต่งงาน ‘คุณจัน’ ทำให้เธอเป็นคนที่ดีขึ้น มอบความสบายให้เธอผู้เป็นเมียมาทุกภพช

  • มนตร์ตาละวัน   53

    ดวงตาคู่สวยส่ายมองโซฟาสีดำหน้าเตาผิงน่ารักในห้องใต้หลังคา รอบเตียงประดับด้วยไฟเชิงเทียนดวงเล็ก มีกลีบดอกกุหลายโรยบนที่นอนสีน้ำตาลเทา พื้นพรมนุ่มนิ่มเหมือนว่ากำลังเหยียบขนสัตว์ ทุกอณูอบอวลกลิ่นอายของเมืองนอก ซึ่งเธออาจไม่ได้กลับไปอีกแล้ว กัญญาวีร์เคยบอกกับเขาครั้งหนึ่ง ไม่คิดว่าเขาจะจดจำมันได้ยังหาบ้านที่ถูกใจเธอ แม้ว่าเฟอร์นิเจอร์สำหรับเมืองร้อนหลายชิ้นอาจเอาไว้แค่ตั้งโชว์“สวยจัง... เหมือนอยู่เมืองนอกเลยค่ะ ถ้ามองออกไปเห็นหิมะได้คงดี”“ห้องนี้ผมแต่งเติมเพิ่มแค่ห้องเดียวครับ ทำเองทั้งหลังไม่มีทางทัน รีโนเวตทีเป็นเดือน ๆ”ใบหน้าสดสวยระเรื่อยิ้ม เขย่งปลายเท้าขึ้นจูบกรามแกร่งเป็นรางวัล ก่อนจะหันไปเห็นกรอบภาพบนโต๊ะหัวเตียง หญิงสาวในภาพตรงหน้า ใส่ชุดเดียวกับที่เธอใส่ เธอมีรอยยิ้มสดใสประดับบนใบหน้าหวานหมดจด งามอย่างหญิงไทยโบราณ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเธอและเขาเพิ่งเดินเข้าห้องมา ไม่มีทางที่เขาจะอัดรูปมาแปะฝาผนังไว้ทัน ดวงงตาคู่สวยเบิกกว้าง ปลายนิ้วชี้หน้าสาวในรูป“คุณชาร์ล! กล้านอกใจกันเหรอ?”“เปล่าครับ... ไม่เคยทำเลยนะ แล้วผมเพิ่งบอกกันไปเมื่อกี้ ไม่ได้ฟังเหรอ?”‘สมองหมาปัญญานิ่ม แม่

DMCA.com Protection Status