หญิงสาวยืนนิ่งอึ้งตะลึงงัน ก้าวขาไม่ออก นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องแผ่นหลังกว้างกำยำจนถึงลานจอดรถยนต์โล่งกว้างกลางแจ้ง พวกเขาขึ้นรถสปอร์ตคาร์สีแดงไปด้วยกัน
เขารู้ว่าเธอได้ยินเสียงประหลาด แล้วเธอได้ยินพวกเขาคุยกัน ไหนจะภาษาแสนโบราณนั่น!
ก่อนหน้านี้มีเรื่องที่คุณยายและพี่สาวบอกให้เธอระวังตัวเมื่อพบปะชายแปลกหน้า โดยเฉพาะปีนี้ อีกไม่กี่วันเธอจะอายุครบยี่สิบห้าปี
กัญญาวีร์เคยไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่เพราะว่าดันเกิดมามีซิกซ์เซ้นส์ พบเจอประหลาดอยู่เสมอ และอย่าว่าแต่เสียงเลย ที่ไหนว่ามีผี มีคนตาย เรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ เธอเปิดประเดิมเจอเป็นคนแรก! ประหนึ่งเครื่องส่งโทรจิตถึงวิญญาณ จนได้รับฉายาจากเพื่อนในคลาสว่ายัยแอนนาเบล
เรียนเมืองนอกตั้งแต่ไฮสคูล โดนบูลลี่เป็นประจำ กว่าจะคว้าประกาศนียบัตรจาก UK University มาได้ กลับมาทำงานเมืองไทยไม่ถึงเดือน เธอก็ยังเจอเรื่องบ้า ๆ
ยัยกันเอ๊ย มันจะเบญจเพสอาเพศอะไรนักหนา!
ใบหน้าสดสวยส่ายไปมาเพื่อสลัดความฟุ้งซ่าน เมื่อเธอยังมีงานกองเท่าภูเขารออยู่ จึงหมุนตัวก้าวฉับ ๆ ไป สะบัดปลายส้นสูงอย่างนางงามพร้อมความมั่นใจที่กลับมาอีกครั้ง
ใครต่างก็ว่าเธอเป็นคนสวย ชุดสูททำงานเครื่องแบบบริษัทธรรมดา เธอสวมแล้วดูมีน้ำมีนวล หน้าอกอวบอัดคัพใหญ่โตผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาวสังเกตเห็นได้จนเธอต้องหยิบเสื้อคลุมติดมือไปไหนต่อไหนด้วย กระทั่งสะโพกผึ่งผายรับเอวคอดบาง หลายคนยังอิจฉารูปลักษณ์แสนมีชาติตระกูล ราวรูปสลักของหญิงไทยในหนังสือโบราณสักเล่ม แม้ว่าความเป็นจริงแล้วเธอจะเป็นแค่คนหาเช้ากินค่ำ
สาวงามตามธรรมชาติไม่เคยพึ่งมีดหมอ แค่คุณพ่อคุณแม่ให้ทรัพย์ติดตัวแต่กำเนิดมาเลยป๊อปปูลาร์ตลอด
กัญญาวีร์นึกผยองในใจ เข้าข้างตัวเองว่าคงไม่มีอะไร ใช่ครั้งแรกเสียเมื่อไร เธอเจอเรื่องแบบนี้มาทั้งชีวิตตั้งแต่มีลมหายใจมา!
มือผลักประตูกระจกที่ติดฟิล์มมืดดำสนิทเข้าไปแล้ววางกระเป๋าสีขาวใบโปรดลงบนโต๊ะ เอกสารที่หยิบติดมือไป ก่อนก้มหน้าลงมองแฟ้มกองพะเนินบนโต๊ะที่มีตราบริษัทหราอยู่บนหัวกระดาษ
‘Kawanai’ แบรนด์หนังนิยมติดตลาดไทยและส่งออกขายในต่างประเทศ ที่นี่ไม่ได้ขายแค่หนังจระเข้ ยังมีหนังปลากระเบน หนังงู และเครื่องหนังอื่น ๆ ด้วย
น้องใหม่งานดีได้รับพื้นที่พิเศษติดประตู พวกพี่ ๆ เห็นพ้องต้องกันว่าเธอมีหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับตรงนี้ ห้ามลืมเด็ดขาดว่าหากวันไหนเจ้านายอารมณ์ไม่ดี ให้รีบฉีกยิ้มกว้างหวานตรงนั้นแหละ เป็นป้อมปราการป้องกันข้าศึกด่านแรก คนที่เหลือก็จะรอด...
ในออฟฟิศขนาดกลางมีพนักงานไม่ถึงสิบ แต่ละคนทำงานขยันขันแข็งทั้งรับโทรศัพท์จากบริษัททัวร์ แผนกขายสินค้าติดต่อเจรจางานกับลูกค้า ร้านค้าขายปลีกส่ง โรงงานฟอกหนัง ตัดเย็บอย่างดี ให้ผลิตสินค้าทันตามออเดอร์
เฮ้อ... จะทำงานเสร็จไหมนี่ โดนพี่สนบ่นแน่เลย
เสียงถอนหายใจดังผ่านริมฝีปากงามกระจับเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อน กัญญาวีร์กระแทกก้นนั่งลงบนเก้าอี้หมุน เปิดลิ้นชักหาเอกสารที่ส่งให้ลูกค้าเซ็นผิดสองรอบจนต้องรอลายเซ็นและลงตราประทับใหม่จากเจ้านาย ซึ่งวันนี้คงไม่กลับเข้ามาอีกรอบ จึงตัดสินใจโทรไปบอก
“พี่สนจะเข้ามากี่โมงคะ? พรุ่งนี้กันรบกวนพี่เซ็นอนุมัติสินค้าหน่อยค่ะ ลูกค้า VVIP พร้อมจ่ายเงินสด”
[สิบโมงครับเจอกันนะ พี่ไลน์หาอีกที]
“ค่ะ เจอกันนะคะ”
ทันทีที่วางสายจากรุ่นพี่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เป็นเด็กสาวตัวกระจ้อยร่อยอย่าง ‘ไกรสร’ หรือพี่สน ก่อนที่เธอจะถูกส่งตัวไปอยู่เท็กซัสกับญาติห่าง ๆ คงเหมือนยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก
ร่างบางฟุบหน้านอนลงบนโต๊ะ รวบเส้นผมสยายกระจายมัดไว้ลวก ๆ บริเวณต้นคอแสนปวดเมื่อยเหนื่อยล้า เธอทำให้เพื่อนร่วมงานเป็นห่วงจนต้องถาม ‘น้องกัน เป็นอะไรจ๊ะ? เหนื่อยก็กลับบ้านก่อนได้นะ’ ทั้งที่ไม่เคยแสดงท่าทีอ่อนแอให้ใครเห็นมาก่อน
หน้าจอสี่เหลี่ยมที่มีไฟกะพริบ เสียงดังเตือนจากอีเมล บอกว่าเธอคงได้กลับบ้านมืดแน่หากว่ายังทำงานผิดพลาดอีก กัญญาวีร์จึงสลัดความเกียจคร้าน ลุกขึ้นนั่งหลังตรงอกผึ่งผายบนเก้าอี้หมุน หัวคิ้วเรียวสวยชนชิดติดกัน ปลายนิ้วเรียวเคาะแป้นพิมพ์เสียงดังกรอกแกรก รวบรวมสติกลับมาอีกครั้ง เพื่อใช้ความตั้งใจในการทำงานให้มากกว่าเดิม
------------------------------------
“เนื้ออิ่มอวบแนบเนื้อ นวลนาง
ขยับถอดสอดแท่งกาม เข้าไซร้
เคลื่อนอีกท่าคว้าดารา ได้ต่อ หนอแม่
กี่ราตรีควบขี่ข้าง พี่นี้ ดุร้าย นำพา”
“ลามกจกเปรต! ผู้ชายที่ไหนเขาแต่งกลอนแนว Sexual Harassment จีบสาวกัน” กระแทกเสียงบริภาษว่า ทั่วทั้งวงหน้าหวานเต็มไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด แก้มแดงก่ำเพราะโกรธและอับอาย หนุ่มใหญ่กลับยิ้มกรุ้มกริ่ม
“แล้วน้องต้องการเยี่ยงไร?”
“สายเปย์ค่ะ พ่อบุญทุ่มหมดตัวหมดใจ กลับบ้านตรงเวลา ไปไหนกับใครส่งข้อความบอก สำคัญที่สุดคือไม่เจ้าชู้มีหลายเมีย กันไม่ชอบ ไม่เอาเด็ดขาด กลัวโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ผัวร่วมกับใคร มีไม่ดีไม่มีดีกว่า...”
กัญญาวีร์หน้าบึ้งตึงใส่คนข้างกายที่อยู่ในชุดโบราณ นุ่งโจงกระเบนสีดำ อกกว้างกำยำเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวเหลืองนวลทอประกายสีทองอ่อนราวสีสันของแสงอรุณยามเช้า สตรีนางไหนได้เห็นคงต้องตาต้องใจทันทีเว้นเพียงเธอ ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยสติสำนึกรู้ตน ไม่สบตา ไม่แม้แต่จะสนใจเส้นผมดำขลับมัดเกล้าแซมสีขาวเทาเป็นปอย ขนานไปกับกรามแกร่งราวม่านน้ำ
บุรุษรูปงามราวกับว่าเป็นเทวดาบนสรวงสวรรค์ ทว่าคงไม่ใช่...
บนตั่งนอนไม้สักสลักลายดอกไม้ ปูทับด้วยฟูกนอนซึ่งเธอและเขานั่งเคียงกัน ไอหมอกขาวรายล้อมรอบกายบอกว่านี่ไม่ใช่ความเป็นจริง แต่เป็นภาพนิมิต
“บอกพี่มาเถิดหนาแม่แก้ว แม่ปรารถนาสิ่งใด”
“พูดไปก็ทำไม่ได้ หาให้ไม่ได้”
“ไม่ลองรึจะรู้?”
“ไม่อยากรู้ค่ะ”
สวยเริ่ดเชิดหยิ่ง! เธอยกมือกอดอกส่ายหน้าหนีไปอีกทาง ขณะมือหนาเลื่อนมาปัดผมสีน้ำตาลซ้อนไว้หลังใบหู เขากลับถูกมองด้วยท่าทางเป็นศัตรูเต็มที่
“อย่ามาแตะแม้ปลายผม ถ้ายังไม่อนุญาต”
กุมภิลหนุ่มดึงมือออกฉับไว ยิ้มอ่อนมองแม่สาวงามดุ ที่ร้ายกว่าจระเข้ก็สายตาเจ้าหล่อน
“ฤาน้องจะกุดเล็บพี่ไปประดับต่างหู เฉือนหางพี่ไปตัดกระเป๋าไว้หิ้วอวดเพื่อน ถึงจะยอมรับรัก...”
“มาค่ะ... กรรไกรมี” ฉับ! ใบมีดแหลมคมปรากฏในมือเรียว กรรไกรไม้โบราณกระทบกันเสียงดัง ทำเอาหนุ่มรูปงามเบิกตากว้างมองใบหน้าสดสวยโกรธขึ้งบึ้งตึง
“ไล่แล้วยังไม่ไปอีก มาสิ แม่จะเจื๋อนให้หางกุดเชียว อยากได้กระเป๋าจระเข้ใบใหม่พอดี!”
ตาคมลืมพรึบพร้อมอาการตื่นตระหนกหลังโดนข่มขู่จากสาวตัวเล็กใจกล้า เกเตอร์รุ่นใหญ่ยกมือขึ้นแนบอก เพราะไม่อยากถูกถลกหนังไปทำกระเป๋าจระเข้!
บนโซฟาหนังกำมะหยี่ที่เพิ่งถอดจิตไปหาหญิงสาว นายจันสงบสติอารมณ์ลง ผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่จำได้ว่าไม่ได้พบแม่ตะเภาแก้วมานานมากแล้วหลังภพชาติก่อนของเธอไม่เกิด...ตะเภาทองที่เคยเป็นเมียโดยไม่เต็มใจ ใช่... เขาถือว่าหล่อนไม่เต็มใจเพราะต้องมนตร์สะกดชาละวัน ก่อนจะไปเป็นเมียของไกรทอง พ่อคนดีเมืองพิจิตร ภพชาติต่อมาก็ยังเป็นลูกหลานบ้านเดิม ก่อนจะตัดสินใจลาบวชด้วยความเลื่อมใสในพระธรรมไม่รู้มาก่อนว่าคนน้องนี้จิตแข็ง ไม่หวั่นพรึงต่อสภาพการณ์อีกโลกหนึ่ง หากได้ยินเสียงวิญญาณหรือถูกผีหลอกเข้าสักคืน แม่คงฟาดฝีปากสาปแช่งด่าผีไม่ให้ไปผุดไปเกิดหรือไม่ก็... ไล่เตลิดเปิดเปิงจนหลุดจากนิมิตกลับมาที่เดิม“นั่งเหลือกตาอ้าปากยังกับจระเข้ ประหลาดคน” นายคล้าวบ่นพลางเคาะแป้นพิมพ์เสียงดัง ชะโงกหน้าที่สวมแว่นหนาเตอะผ่านจอสี่เหลี่ยม ให้ความสนใจกับคนที่นอนเหยียดขาอย่างสบายใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ “ไปหาแม่แก้วหรือนั่น”“อืม... แม่ดุมากสายแข็ง แต่ไม่เป็นไร ขอลองใหม่อีกที” เขาปิดตาลงอีกครั้ง พร้อมความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องเผด็จศึกให้จงได้ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็คาถา‘แม่แก้ว... มาหาพี่...’“ฉันชื่อกัญญาวีร์!”
สัมผัสรับรู้ในที่นี้ไม่ใช่ความจริง แต่จะปรากฏในภาพฝัน ความทรงจำ อาจรับรู้ได้เมื่อลืมตาตื่นแสงสีทองเล็ก ๆ ปรากฏเป็นสิ่งแรก สาดสะท้อนเข้านัยน์ตาสีแดง ถึงแม้ว่าผู้บุกรุกจะตระหนักรู้ว่ามันเกราะคุ้มกันภัยของหญิงสาว อาจเผาไหม้ร่างของเขาให้กลายเป็นเถ้าธุลี แต่ชายผู้บำเพ็ญเพียรมานานนับหลายร้อยปีไม่หวั่นพรึงต่อสิ่งใดเรือนร่างงามใต้ก้นบึ้งลึกสุดจมอยู่ก้นบ่อ เธอคงอยู่ในนิทราหวานที่ใดสักแห่ง เดรัจฉานตัวสีดำตรงเข้าไปใช้ปากกว้างคาบร่างงามอย่างระวัง กระทั่งเขี้ยวฟันก็ไม่ให้ถูกเนื้อกายของเธอมากนัก เพื่อพาขึ้นฝั่ง ค่อยกลับคืนสู่ร่างเดิม โอบอุ้มคนตัวเล็กในอ้อมแขนพร้อมรอยยิ้มย่ามใจบุรุษรูปงามนุ่งโจงกระเบนสีดำ สวมเครื่องอาภรณ์เป็นสร้อยอัญมณีมรกต เส้นผมดำขลับตรงยาวราวผมของอิสตรีทิ้งลงเหนือสะโพกสอบ ปอยผมสีขาวข้างกรามแกร่งตามอายุขัยคือหกร้อยห้าสิบเจ็ดปี แม้ใบหน้าหล่อเหลายังคงไว้ในร่างชายวัยสามสิบ‘แม่แก้วตาดวงใจพี่ หนีอย่างไรก็ไม่พ้น พี่จะตามหาน้องจนพบนั่นแล’เสียงดังก้องที่ลอยวนในอากาศนั้นอีกฝ่ายได้ยินชัดเจน ทว่าพอเปลือกตาขาวปรือขึ้นมองเจ้าของอ้อมแขนกว้าง หญิงสาวเหมือนคนเมามายไร้สภาวะสำนึกรู้ในเวลายามด
สัตว์เลื้อยคลานร่างหนาใหญ่สองตัวดำผุดดำว่ายท่ามกลางแม่น้ำสองสี สีเข้มเกือบจะเป็นสีดำและสีดินทรายไหลมาบรรจบกัน ทอดยาวไปอีกหลายพันไมล์ผ่านลำตัวที่มีผิวขรุขระยามขับเคลื่อนไปข้างหน้า แหวกน้ำออกเป็นระลอกคลื่น พละกำลังตามสรีระแข็งแกร่งกำยำทำให้พวกมันไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เป็นตรงกันข้าม พวกมันคงว่ายน้ำไปได้เรื่อย ๆ เช่นปลาพวกมันไม่ได้มาด้วยกัน ไม่รู้จักหน้าค่าตาด้วยซ้ำ...เจ้าตัวเล็กกว่ามองว่าตัวข้างมันมีขนาดมหึมา ใหญ่กว่ามันเกือบสองเท่า! จึงไม่กล้าเบ่งมากนัก โผล่พ้นเพียงดวงตาสีเหลืองทองเหนือผืนน้ำ ระหว่างทางที่มันแอบจับปลากินเป็นอาหาร ยังลังเลใจอยู่ว่าหากถูกแย่งแล้วมันจะยอมปล่อยเหยื่อให้อีกตัว เพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้หรือไม่ มันไม่แน่ใจว่าจะชนะ ดีไม่ดีมันอาจกลายเป็นอาหารของตัวใหญ่กว่าทว่าตัวข้างมันแค่ว่ายน้ำไปข้างหน้า มีเหลือบมองทางอื่นบ้างแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมัน ที่เพิ่งสังเกตเห็นว่าเจ้านี่มีดวงตาสีแดงก่ำ ลำตัวสีนิลสนิทไม่ใช่พวกมันแน่ ๆ ล่ะ! หรือว่ามันจะตาฝาดไป แต่ในเมื่อดวงตาแสนพิเศษของมันมีจุดรับภาพอันดีเลิศ ยิ่งน้ำจืดแล้วมันเห็นแสงสีแดงได้ไวกว่าน้ำเค็ม ซึ่
“แมรี่!”เสียงตวาดของแม่ดังขึ้นอย่างรวดเร็วเท่ากับสองแขนที่วาดคว้าตัวลูกสาวขึ้นอุ้ม โอบร่างเล็กจิ๋วไว้แน่น ก่อนเงยหน้าว่าลูกสาว“หนูมาทำอะไรตรงนี้ลูก! มัมบอกแล้วนะว่าห้ามออกมาคนเดียว ไปไหนต้องไปด้วยกัน ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรานะลูก”“หนูกำลังคุยกับคุณลุงเกเตอร์ค่ะแม่”“ไม่เห็นมี...” สิ้นคำเท่านั้น คุณแม่แทบเป็นลม! เมื่อเห็นบางอย่างในพุ่มหญ้า เร็วกว่าความคิด สาวร่างบางในกางเกงยีนทะมัดทะแมงรีบอุ้มลูกน้อยออกไปให้ไกลกว่าเดิม ในระยะที่วิ่งหนีทันหากเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ก่อนตะโกนเรียกสามี“Alanaa!”เรียวแขนกว้างกอดรัดร่างเล็กแน่น ปากจูบหน้าผากลูกสาวซ้ำ ๆ พร้อมแววตาเอ่อคลอ นึกโทษโกรธตัวเองไม่หาย เพราะถ้าหากว่าเด็กน้อยแสนไร้เดียงสาเป็นอะไรไป นั่นคือความผิดของแม่คนเดียว!“ปริม! เจอแมรี่แล้วใช่ไหม...”คุณพ่อหน้าตาตื่นตระหนกหลังจากที่ลูกสาวเดินหายไปจึงช่วยกันตามหา เข้าไปกอดทั้งลูกเมียอย่างเป็นห่วง อีกฝ่ายก็ขอโทษเขาน้ำตาคลอว่าคลาดสายตาจากลูก ก่อนจะชะโงกคอมองเงาดำไกล ๆ“อะไรน่ะ?”“จระเข้ค่ะ มันตัวใหญ่มาก ปริมไม่เคยเห็นตัวใหญ่เท่านี้มาก่อนเลยนะ เรียกพี่ ๆ ไกด์มาด้วยมาเซลฟี่กัน พี่อลัน ๆ เรียกเขามาเร็ว”“ม
“พุทโธ่! คุณหลวงขึ้นฝั่งไปที่ไหน ทำไมไม่บอกผมครับ!?” เสียงตวาดว่าเสียใหญ่โตของหนุ่มร่างเล็กอ้อนแอ้น มือเท้าเอวมองชายในสูทหล่อเหลา วางตุ๊กตาจระเข้น่ารักและถังกลมลายซูเปอร์ฮีโร่ยอดฮิตลงในฝั่งซ้ายและขวา“ทำไมล่ะ? ไม่ใช่นักโทษซะหน่อย อยากไปไหนฉันก็ไป...”“ขืนโดนจับไปผมจะทำยังไง ไถ่ถอนตัวออกมาจากสวนสัตว์ไม่ได้ง่าย ๆ นะครับ นี่... แล้วถ้าเจอคนไม่ดี...”“ได้โดนถลกหนังไปทำกระเป๋าใช่ไหม? ฉันยังไม่เคยเห็นอะไรที่แกว่ามาสักอย่าง ยุคนี้มันศิวิไลซ์จะตายดูซี... มีทุกอย่าง มือถือ อินเทอร์เน็ต ฉันดูซีรีส์ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ” พูดพลางเคี้ยวป๊อปคอร์นกรุบกรอบรสชาติจืดสนิท นัยน์ตาสีแดงที่มีรูรับภาพแสงคมปลาบราวดวงตาของจระเข้ เหลือบมองหนุ่มร่างเล็กความสูงเพียงระดับบ่า เมื่อเจ้าตัวกระแทกก้นนั่งลงบนโซฟาตัวเดี่ยวข้างกัน ในสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด“คุณหลวงนี่พูดอย่างไร เดือนนู้นก็โดนลูกดอกยาสลบ ซมซานคลานมานอนอืดอยู่หน้าบ้าน ดีนะ กลายร่างเป็นคนเสียก่อนจะได้เป็นหนูทดลองที่ศูนย์วิจัย...”“พิกลล่ะ ไอ้เข้เกเตอร์จะกลายเป็นหนูได้ยังไงกัน...”หนุ่มใหญ่ส่งเสียงหัวเราะดัง หน้าโทรทัศน์ขนาดใหญ่กว่าห้าสิบนิ้วในห้องมืดส
แน่นอนว่าคฤหาสน์แสนสวยนี้นายจันออกแบบมันเอง ด้วยประสบการณ์ด้านสถาปนิก วิศวกร และงานช่างสิบหมู่ที่สืบสกุลมา งานวาดรูปที่เขาชื่นชอบมันไม่น้อย เขาก็วาดมัน แปะไว้บนฝาผนังเป็นเครื่องบันทึกความทรงจำร่างสูงกระโจนลงเหยียดตัวนอนบนเตียงนุ่มที่สั่งทำพิเศษ กว้างถึงสี่เตียงต่อกัน ไม่ลืมหยิบโทรศัพท์มือถือเสียบสายชาร์จก่อนเข้านอน อย่างที่ทำจนติดเป็นนิสัยวันนี้คงเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง...หากเป็นเมื่อก่อนก็นับตั้งแต่ย่ำค่ำ พระอาทิตย์ตกดินในเวลา ๑๘ นาฬิกานายจันเคยคิดว่ามันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยกับสิ่งที่ตนเป็น เขาเคยลองขับรถข้ามเมืองเพื่อหนีพระอาทิตย์ หนีพระจันทร์ ในเมื่อหลายสถานที่ก็อาทิตย์ตกดินไม่เท่ากันอยู่แล้วถ้าไปอยู่อเมริกาล่ะ... ตรงนี้คงเป็นเวลากลางวันแล้วไอ้เรื่องบ้า ๆ นี่ต้องนับเวลาไหน มันถึงจะเม้คเซ้นส์!คำตอบอยู่ในภาพนั้น...ตามองผ่านกระจกบานใสความสูงจรดเพดาน ไปยังรูปภาพใบใหญ่ที่สุด เป็นภาพหินหลักหน้าตาประหลาดซึ่งปักล้อมรอบบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ พระจันทร์ดวงกลมโตสีแดงสนิทกำลังจมหายลงไป ทว่าลอยอยู่เหนือสระว่ายน้ำกลางบ้านมันเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกมืดมนหม่นหมอง“ใกล้ถึงเวลานอนแล้วสินะ เฮ้อ
“ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แกก็รู้นี่... ตกดึกทีไรใครขัดใจไม่ได้ อารมณ์เสียทุกที”“ผมคงไม่โกรธอะไรแล้วล่ะครับ ผมเข้าใจ ตามสบายนะพี่”เจ้านายฉีกยิ้มกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวคมตรงมุมปาก “งั้นไปนะ... ไปดูซีรีส์ต่อดีกว่า”“เอ๊ะ... พี่ติดดูทีวีหรือ? ดูอะไรอยู่ล่ะ”“หลายเรื่อง ซีรีส์ฝรั่งเกาหลีบู๊ล้างผลาญ นางเอกสวยดี อีกเรื่องอะไรนะ... จิ้งจอกเก้าหางหรืออะไรสักอย่าง”“เหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบปีนะครับ... เดี๋ยวก็ไม่ได้ดูแล้ว ถ้ายังอยากดูหนัง ยังอยากเที่ยว เราต้องตามหาแม่ตะเภาทอง”ตะเภาแก้ว ตะเภาทอง เป็นลูกสาวเศรษฐีเมืองพิจิตร พญาจระเข้เคยคาบแม่ตะเภาทองไปอยู่ด้วยในเมืองบาดาล เสกให้หลงด้วยมนตร์เสน่ห์ แต่ในเมื่อนางเอกต้องลงเอยกับพระเอกอย่างหมอจระเข้อยู่แล้ว ไอ้ชาละวันก็ถูกเสียบด้วยหอกอาคมนายจันและนายคล้าวได้ยินมาว่าเวทย์อาคมเพียงเท่านั้นจะแก้ไขสิ่งที่พวกเขาเป็น ไม่เช่นนั้นก็ต้องตาย...“น่าสงสารพ่อชาละวันเสียจริง เชื่อเถอะว่าหล่อนไม่มีตัวตน ถ้าเจอ ฉันคงเจอไปนานแล้วไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน วนเวียนอยู่กับอสงไขย[1] เช่นนี้ ฉันอยู่มากี่ร้อยปี”“เป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรเลยสักอย่างเหมือนเดิมนะครับ”“เชื่อ... แต่สิ่งที่พิส
“คนรับรองคนไหน? ผมยาวหรือผมสั้นคนนั้น”“ผมสีน้ำตาลอัลมอนต์ครับ ที่หิ้วกระเป๋าจระเข้...”“สวยดีนี่ ตาถึง แต่ว่าฉันไม่ชอบรสนิยมนั่นเท่าไร ฉันเห็นจระเข้ตัวเมียโดนเชือดก่อนกลายเป็นกระเป๋าสีขาวแสนสวยของหล่อน แล้วแต่งตัวแบบนี้น่ะ คนเขาเรียกว่า ‘เซลล์’” นายจันมองหาคนไกลด้วยดวงตาที่สามารถมองได้ไกลลิบ มากสุดคงมองได้เป็นกิโลฯ แม้ว่ามันอาจไม่ชัดเจนนักแค่เห็นว่าแต่ละคนกำลังทำอะไรจากนัยน์ตาเป็นประกายใต้คอนแทคเลนส์สีน้ำตาลทรงเสน่ห์เช่นเดียวกับคนน้อง พวกเขามีใบขับขี่! ใบรับรองแพทย์ที่บ่งบอกอาการของสายตาอันเฉียบคมว่าเป็นการทำงานผิดปกติของกลุ่มแยกแยะสีในตา อาการไม่ร้ายแรง สามารถใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไปนายจันมีเอกสารครบ ส่วนเรื่องอะไรต่อมิอะไร คนเป็นนายออกนอกบ้านมากกว่าก็จะรู้มากกว่า“เซลล์? หมายถึง seller อะไรประมาณนั้นน่ะหรือครับ”“ใช่ ตอนนี้เรียกเซลล์ เซลล์ขายของ พนักงานขายทำงานกันเป็นกลุ่ม ก็แล้วแต่ว่าขายอะไร ยุค ๆ นั้นก็เรียกพนักงานขายนี่แหละ แกคงยังไม่ชิน” “จากการแต่งตัวแล้วผมพอเดาได้ว่าเธอขายอะไร เฮ้อ... คนในยุคนี้ช่างโหดร้ายทารุณ” ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วนายคล้าวหันไปบอก “อย่าลืมนะครับว่าเราสองค
สัมผัสรับรู้ในที่นี้ไม่ใช่ความจริง แต่จะปรากฏในภาพฝัน ความทรงจำ อาจรับรู้ได้เมื่อลืมตาตื่นแสงสีทองเล็ก ๆ ปรากฏเป็นสิ่งแรก สาดสะท้อนเข้านัยน์ตาสีแดง ถึงแม้ว่าผู้บุกรุกจะตระหนักรู้ว่ามันเกราะคุ้มกันภัยของหญิงสาว อาจเผาไหม้ร่างของเขาให้กลายเป็นเถ้าธุลี แต่ชายผู้บำเพ็ญเพียรมานานนับหลายร้อยปีไม่หวั่นพรึงต่อสิ่งใดเรือนร่างงามใต้ก้นบึ้งลึกสุดจมอยู่ก้นบ่อ เธอคงอยู่ในนิทราหวานที่ใดสักแห่ง เดรัจฉานตัวสีดำตรงเข้าไปใช้ปากกว้างคาบร่างงามอย่างระวัง กระทั่งเขี้ยวฟันก็ไม่ให้ถูกเนื้อกายของเธอมากนัก เพื่อพาขึ้นฝั่ง ค่อยกลับคืนสู่ร่างเดิม โอบอุ้มคนตัวเล็กในอ้อมแขนพร้อมรอยยิ้มย่ามใจบุรุษรูปงามนุ่งโจงกระเบนสีดำ สวมเครื่องอาภรณ์เป็นสร้อยอัญมณีมรกต เส้นผมดำขลับตรงยาวราวผมของอิสตรีทิ้งลงเหนือสะโพกสอบ ปอยผมสีขาวข้างกรามแกร่งตามอายุขัยคือหกร้อยห้าสิบเจ็ดปี แม้ใบหน้าหล่อเหลายังคงไว้ในร่างชายวัยสามสิบ‘แม่แก้วตาดวงใจพี่ หนีอย่างไรก็ไม่พ้น พี่จะตามหาน้องจนพบนั่นแล’เสียงดังก้องที่ลอยวนในอากาศนั้นอีกฝ่ายได้ยินชัดเจน ทว่าพอเปลือกตาขาวปรือขึ้นมองเจ้าของอ้อมแขนกว้าง หญิงสาวเหมือนคนเมามายไร้สภาวะสำนึกรู้ในเวลายามด
บนโซฟาหนังกำมะหยี่ที่เพิ่งถอดจิตไปหาหญิงสาว นายจันสงบสติอารมณ์ลง ผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่จำได้ว่าไม่ได้พบแม่ตะเภาแก้วมานานมากแล้วหลังภพชาติก่อนของเธอไม่เกิด...ตะเภาทองที่เคยเป็นเมียโดยไม่เต็มใจ ใช่... เขาถือว่าหล่อนไม่เต็มใจเพราะต้องมนตร์สะกดชาละวัน ก่อนจะไปเป็นเมียของไกรทอง พ่อคนดีเมืองพิจิตร ภพชาติต่อมาก็ยังเป็นลูกหลานบ้านเดิม ก่อนจะตัดสินใจลาบวชด้วยความเลื่อมใสในพระธรรมไม่รู้มาก่อนว่าคนน้องนี้จิตแข็ง ไม่หวั่นพรึงต่อสภาพการณ์อีกโลกหนึ่ง หากได้ยินเสียงวิญญาณหรือถูกผีหลอกเข้าสักคืน แม่คงฟาดฝีปากสาปแช่งด่าผีไม่ให้ไปผุดไปเกิดหรือไม่ก็... ไล่เตลิดเปิดเปิงจนหลุดจากนิมิตกลับมาที่เดิม“นั่งเหลือกตาอ้าปากยังกับจระเข้ ประหลาดคน” นายคล้าวบ่นพลางเคาะแป้นพิมพ์เสียงดัง ชะโงกหน้าที่สวมแว่นหนาเตอะผ่านจอสี่เหลี่ยม ให้ความสนใจกับคนที่นอนเหยียดขาอย่างสบายใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ “ไปหาแม่แก้วหรือนั่น”“อืม... แม่ดุมากสายแข็ง แต่ไม่เป็นไร ขอลองใหม่อีกที” เขาปิดตาลงอีกครั้ง พร้อมความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องเผด็จศึกให้จงได้ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็คาถา‘แม่แก้ว... มาหาพี่...’“ฉันชื่อกัญญาวีร์!”
หญิงสาวยืนนิ่งอึ้งตะลึงงัน ก้าวขาไม่ออก นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องแผ่นหลังกว้างกำยำจนถึงลานจอดรถยนต์โล่งกว้างกลางแจ้ง พวกเขาขึ้นรถสปอร์ตคาร์สีแดงไปด้วยกันเขารู้ว่าเธอได้ยินเสียงประหลาด แล้วเธอได้ยินพวกเขาคุยกัน ไหนจะภาษาแสนโบราณนั่น!ก่อนหน้านี้มีเรื่องที่คุณยายและพี่สาวบอกให้เธอระวังตัวเมื่อพบปะชายแปลกหน้า โดยเฉพาะปีนี้ อีกไม่กี่วันเธอจะอายุครบยี่สิบห้าปีกัญญาวีร์เคยไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่เพราะว่าดันเกิดมามีซิกซ์เซ้นส์ พบเจอประหลาดอยู่เสมอ และอย่าว่าแต่เสียงเลย ที่ไหนว่ามีผี มีคนตาย เรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ เธอเปิดประเดิมเจอเป็นคนแรก! ประหนึ่งเครื่องส่งโทรจิตถึงวิญญาณ จนได้รับฉายาจากเพื่อนในคลาสว่ายัยแอนนาเบลเรียนเมืองนอกตั้งแต่ไฮสคูล โดนบูลลี่เป็นประจำ กว่าจะคว้าประกาศนียบัตรจาก UK University มาได้ กลับมาทำงานเมืองไทยไม่ถึงเดือน เธอก็ยังเจอเรื่องบ้า ๆยัยกันเอ๊ย มันจะเบญจเพสอาเพศอะไรนักหนา!ใบหน้าสดสวยส่ายไปมาเพื่อสลัดความฟุ้งซ่าน เมื่อเธอยังมีงานกองเท่าภูเขารออยู่ จึงหมุนตัวก้าวฉับ ๆ ไป สะบัดปลายส้นสูงอย่างนางงามพร้อมความมั่นใจที่กลับมาอีกครั้งใครต่างก็ว่าเธอเป็นคนสวย ชุดสูททำงานเค
สองคนมองหน้ากัน เพราะว่าถ้าพวกเขาจะไม่กิน...‘ฉันเป็นมังสะวิรัต! ไม่กินพวกเดียวกัน แกพาฉันมาทำอะไรวะไอ้คล้าว!’‘กิน ๆ เข้าไปเถอะครับ ผมอยากพิสูจน์อะไรหน่อย อดทนหน่อยนะพี่นะ’“เอ่อ... มีใคร... เป็นมังสะวิรัตหรือเปล่าคะ? คือกันได้ยิน... เสียง... เหมือนคนคุยกัน”กัญญาวีร์แน่ใจว่าเธอได้ยินเสียงสองหนุ่มชัดเจนมาก แม้เป็นเสียงก้อง ๆ คล้ายเสียงสะท้อนของลำโพง ขณะที่พวกเขาเพียงนั่งเฉย ๆ โดยที่ปากไม่ขยับ“ไม่มีนี่ครับคุณกัน ผมกับพี่ชายขอเลือกเมนูสักครู่นะครับ”‘ต่อให้เจอแม่แก้ว... มันมีทางเลือกเดียวคือตายกับตายใช่ไหม!?’‘ไม่ถึงตายหรอกครับ ใจเย็น ๆ รอดูเธอก่อน เธออาจไม่ใช่คนที่เราคิดก็ได้’‘อย่ามาเล่นลิ้นปลิ้นปล้อน หัดเป็นบ่าวขี้ปดตั้งแต่เมื่อไร ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันลากแกไปเฆี่ยนแล้วไอ้น้องชายจอมปลอม! ทำอะไรไม่ปรึกษาพี่สักคำ แกเอาหัวเป็นประกันไหมว่าฉันจะไม่ต้องกลายเป็นสเต๊กจระเข้ให้เธอกิน...’‘คงไม่มั้งครับ เธอไม่รู้สักหน่อย แล้วผมว่าเธอไม่น่าจะชอบเนื้อเหนียว ๆ เคี้ยวเข็ดฟันรุ่นคุณหลวงมั้งครับ’‘แกกำลังจะบอกว่าจระเข้หนุ่มอร่อยกว่า?’‘ก็แน่นอนน่ะสิครับ’ ‘อยากกลายเป็นสเต๊กจระเข้ตอนนี้เลยไหมวะ ไอ้ค
“คนรับรองคนไหน? ผมยาวหรือผมสั้นคนนั้น”“ผมสีน้ำตาลอัลมอนต์ครับ ที่หิ้วกระเป๋าจระเข้...”“สวยดีนี่ ตาถึง แต่ว่าฉันไม่ชอบรสนิยมนั่นเท่าไร ฉันเห็นจระเข้ตัวเมียโดนเชือดก่อนกลายเป็นกระเป๋าสีขาวแสนสวยของหล่อน แล้วแต่งตัวแบบนี้น่ะ คนเขาเรียกว่า ‘เซลล์’” นายจันมองหาคนไกลด้วยดวงตาที่สามารถมองได้ไกลลิบ มากสุดคงมองได้เป็นกิโลฯ แม้ว่ามันอาจไม่ชัดเจนนักแค่เห็นว่าแต่ละคนกำลังทำอะไรจากนัยน์ตาเป็นประกายใต้คอนแทคเลนส์สีน้ำตาลทรงเสน่ห์เช่นเดียวกับคนน้อง พวกเขามีใบขับขี่! ใบรับรองแพทย์ที่บ่งบอกอาการของสายตาอันเฉียบคมว่าเป็นการทำงานผิดปกติของกลุ่มแยกแยะสีในตา อาการไม่ร้ายแรง สามารถใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไปนายจันมีเอกสารครบ ส่วนเรื่องอะไรต่อมิอะไร คนเป็นนายออกนอกบ้านมากกว่าก็จะรู้มากกว่า“เซลล์? หมายถึง seller อะไรประมาณนั้นน่ะหรือครับ”“ใช่ ตอนนี้เรียกเซลล์ เซลล์ขายของ พนักงานขายทำงานกันเป็นกลุ่ม ก็แล้วแต่ว่าขายอะไร ยุค ๆ นั้นก็เรียกพนักงานขายนี่แหละ แกคงยังไม่ชิน” “จากการแต่งตัวแล้วผมพอเดาได้ว่าเธอขายอะไร เฮ้อ... คนในยุคนี้ช่างโหดร้ายทารุณ” ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วนายคล้าวหันไปบอก “อย่าลืมนะครับว่าเราสองค
“ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แกก็รู้นี่... ตกดึกทีไรใครขัดใจไม่ได้ อารมณ์เสียทุกที”“ผมคงไม่โกรธอะไรแล้วล่ะครับ ผมเข้าใจ ตามสบายนะพี่”เจ้านายฉีกยิ้มกว้างเผยให้เห็นเขี้ยวคมตรงมุมปาก “งั้นไปนะ... ไปดูซีรีส์ต่อดีกว่า”“เอ๊ะ... พี่ติดดูทีวีหรือ? ดูอะไรอยู่ล่ะ”“หลายเรื่อง ซีรีส์ฝรั่งเกาหลีบู๊ล้างผลาญ นางเอกสวยดี อีกเรื่องอะไรนะ... จิ้งจอกเก้าหางหรืออะไรสักอย่าง”“เหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบปีนะครับ... เดี๋ยวก็ไม่ได้ดูแล้ว ถ้ายังอยากดูหนัง ยังอยากเที่ยว เราต้องตามหาแม่ตะเภาทอง”ตะเภาแก้ว ตะเภาทอง เป็นลูกสาวเศรษฐีเมืองพิจิตร พญาจระเข้เคยคาบแม่ตะเภาทองไปอยู่ด้วยในเมืองบาดาล เสกให้หลงด้วยมนตร์เสน่ห์ แต่ในเมื่อนางเอกต้องลงเอยกับพระเอกอย่างหมอจระเข้อยู่แล้ว ไอ้ชาละวันก็ถูกเสียบด้วยหอกอาคมนายจันและนายคล้าวได้ยินมาว่าเวทย์อาคมเพียงเท่านั้นจะแก้ไขสิ่งที่พวกเขาเป็น ไม่เช่นนั้นก็ต้องตาย...“น่าสงสารพ่อชาละวันเสียจริง เชื่อเถอะว่าหล่อนไม่มีตัวตน ถ้าเจอ ฉันคงเจอไปนานแล้วไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน วนเวียนอยู่กับอสงไขย[1] เช่นนี้ ฉันอยู่มากี่ร้อยปี”“เป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรเลยสักอย่างเหมือนเดิมนะครับ”“เชื่อ... แต่สิ่งที่พิส
แน่นอนว่าคฤหาสน์แสนสวยนี้นายจันออกแบบมันเอง ด้วยประสบการณ์ด้านสถาปนิก วิศวกร และงานช่างสิบหมู่ที่สืบสกุลมา งานวาดรูปที่เขาชื่นชอบมันไม่น้อย เขาก็วาดมัน แปะไว้บนฝาผนังเป็นเครื่องบันทึกความทรงจำร่างสูงกระโจนลงเหยียดตัวนอนบนเตียงนุ่มที่สั่งทำพิเศษ กว้างถึงสี่เตียงต่อกัน ไม่ลืมหยิบโทรศัพท์มือถือเสียบสายชาร์จก่อนเข้านอน อย่างที่ทำจนติดเป็นนิสัยวันนี้คงเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง...หากเป็นเมื่อก่อนก็นับตั้งแต่ย่ำค่ำ พระอาทิตย์ตกดินในเวลา ๑๘ นาฬิกานายจันเคยคิดว่ามันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยกับสิ่งที่ตนเป็น เขาเคยลองขับรถข้ามเมืองเพื่อหนีพระอาทิตย์ หนีพระจันทร์ ในเมื่อหลายสถานที่ก็อาทิตย์ตกดินไม่เท่ากันอยู่แล้วถ้าไปอยู่อเมริกาล่ะ... ตรงนี้คงเป็นเวลากลางวันแล้วไอ้เรื่องบ้า ๆ นี่ต้องนับเวลาไหน มันถึงจะเม้คเซ้นส์!คำตอบอยู่ในภาพนั้น...ตามองผ่านกระจกบานใสความสูงจรดเพดาน ไปยังรูปภาพใบใหญ่ที่สุด เป็นภาพหินหลักหน้าตาประหลาดซึ่งปักล้อมรอบบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ พระจันทร์ดวงกลมโตสีแดงสนิทกำลังจมหายลงไป ทว่าลอยอยู่เหนือสระว่ายน้ำกลางบ้านมันเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกมืดมนหม่นหมอง“ใกล้ถึงเวลานอนแล้วสินะ เฮ้อ
“พุทโธ่! คุณหลวงขึ้นฝั่งไปที่ไหน ทำไมไม่บอกผมครับ!?” เสียงตวาดว่าเสียใหญ่โตของหนุ่มร่างเล็กอ้อนแอ้น มือเท้าเอวมองชายในสูทหล่อเหลา วางตุ๊กตาจระเข้น่ารักและถังกลมลายซูเปอร์ฮีโร่ยอดฮิตลงในฝั่งซ้ายและขวา“ทำไมล่ะ? ไม่ใช่นักโทษซะหน่อย อยากไปไหนฉันก็ไป...”“ขืนโดนจับไปผมจะทำยังไง ไถ่ถอนตัวออกมาจากสวนสัตว์ไม่ได้ง่าย ๆ นะครับ นี่... แล้วถ้าเจอคนไม่ดี...”“ได้โดนถลกหนังไปทำกระเป๋าใช่ไหม? ฉันยังไม่เคยเห็นอะไรที่แกว่ามาสักอย่าง ยุคนี้มันศิวิไลซ์จะตายดูซี... มีทุกอย่าง มือถือ อินเทอร์เน็ต ฉันดูซีรีส์ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ” พูดพลางเคี้ยวป๊อปคอร์นกรุบกรอบรสชาติจืดสนิท นัยน์ตาสีแดงที่มีรูรับภาพแสงคมปลาบราวดวงตาของจระเข้ เหลือบมองหนุ่มร่างเล็กความสูงเพียงระดับบ่า เมื่อเจ้าตัวกระแทกก้นนั่งลงบนโซฟาตัวเดี่ยวข้างกัน ในสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด“คุณหลวงนี่พูดอย่างไร เดือนนู้นก็โดนลูกดอกยาสลบ ซมซานคลานมานอนอืดอยู่หน้าบ้าน ดีนะ กลายร่างเป็นคนเสียก่อนจะได้เป็นหนูทดลองที่ศูนย์วิจัย...”“พิกลล่ะ ไอ้เข้เกเตอร์จะกลายเป็นหนูได้ยังไงกัน...”หนุ่มใหญ่ส่งเสียงหัวเราะดัง หน้าโทรทัศน์ขนาดใหญ่กว่าห้าสิบนิ้วในห้องมืดส
“แมรี่!”เสียงตวาดของแม่ดังขึ้นอย่างรวดเร็วเท่ากับสองแขนที่วาดคว้าตัวลูกสาวขึ้นอุ้ม โอบร่างเล็กจิ๋วไว้แน่น ก่อนเงยหน้าว่าลูกสาว“หนูมาทำอะไรตรงนี้ลูก! มัมบอกแล้วนะว่าห้ามออกมาคนเดียว ไปไหนต้องไปด้วยกัน ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรานะลูก”“หนูกำลังคุยกับคุณลุงเกเตอร์ค่ะแม่”“ไม่เห็นมี...” สิ้นคำเท่านั้น คุณแม่แทบเป็นลม! เมื่อเห็นบางอย่างในพุ่มหญ้า เร็วกว่าความคิด สาวร่างบางในกางเกงยีนทะมัดทะแมงรีบอุ้มลูกน้อยออกไปให้ไกลกว่าเดิม ในระยะที่วิ่งหนีทันหากเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ก่อนตะโกนเรียกสามี“Alanaa!”เรียวแขนกว้างกอดรัดร่างเล็กแน่น ปากจูบหน้าผากลูกสาวซ้ำ ๆ พร้อมแววตาเอ่อคลอ นึกโทษโกรธตัวเองไม่หาย เพราะถ้าหากว่าเด็กน้อยแสนไร้เดียงสาเป็นอะไรไป นั่นคือความผิดของแม่คนเดียว!“ปริม! เจอแมรี่แล้วใช่ไหม...”คุณพ่อหน้าตาตื่นตระหนกหลังจากที่ลูกสาวเดินหายไปจึงช่วยกันตามหา เข้าไปกอดทั้งลูกเมียอย่างเป็นห่วง อีกฝ่ายก็ขอโทษเขาน้ำตาคลอว่าคลาดสายตาจากลูก ก่อนจะชะโงกคอมองเงาดำไกล ๆ“อะไรน่ะ?”“จระเข้ค่ะ มันตัวใหญ่มาก ปริมไม่เคยเห็นตัวใหญ่เท่านี้มาก่อนเลยนะ เรียกพี่ ๆ ไกด์มาด้วยมาเซลฟี่กัน พี่อลัน ๆ เรียกเขามาเร็ว”“ม