“ปกป้องคุณชายเหรอ?”“มีเราอยู่ที่นี่ เขาจะทำอะไรได้?” หลงเจี๋ยพูดอย่างเย็นชา: “อีกอย่าง ผู้ชายตัวกระจ้อยแบบเขา จะเป็นคุณชายตระกูลไหนได้?”เธอจงใจยั่วยุหยางผั่วจวิน เพราะยังไงซะเย่เทียนหยู่ก็ผ่านไปไม่ได้ หยางผั่วจวินคนนี้อาจจะเป็นแค่ตัวล่อแน่นอนว่าเมื่อหหยางผั่วจวินเห็นว่าอีกฝ่ายกล้าดูหมิ่นคุณชายของเขา เขาก็โกรธทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก: “ความสามารถของคุณชายเรา อย่างเธอ...”“หยางผั่วจวิน!”“ช่างมันเถอะ”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “จะคิดเล็กคิดน้อยกับผู้หญิงแค่คนเดียวไปทำไม”หยางผั่วจวินเชื่อฟังเขาและเงียบไปทันทีสำหรับเขา คำพูดของเย่เทียนหยู่ถือเป็นคำสั่งแต่นั่นทำให้หลงเจี๋ยโกรธมาก อะไรเรียกว่ากับผู้หญิงแค่คนเดียวกัน ทำอย่างกับเธอไร้ความสามารถมากอย่างนั้นละไม่ ฉันไม่สามารถโกรธได้ ยิ่งเขาโกรธมากเท่าไร เขาก็ยิ่งภูมิใจมากขึ้นเท่านั้น เขาพูดอย่างเย็นชา: “ช่างเถอะถ้าคุณไม่บอกฉัน ฉันไม่สน นอกจากนี้ คุณไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้”หยางผั่วจวินยังคงเงียบ แต่มีแววตาที่เฉียบคมปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาหลงเจี๋ยเกือบจะตกใจเธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และขอให้ใครสักคนสอบสวน หยางผั่วจว
ผู้กองจางหรือจางเจิ้งส่ายหน้าและพูดอย่างช่วยไม่ได้: “ไม่ใช่ว่าลุงไม่บอกเธอหรอกนะ แต่เพราะลุงเองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ แต่เขามีความสามารถมาก”“มากแค่ไหนคะ?”หลงเจี๋ยถามด้วยความสงสัย ในเมื่อลุงจางพูดถึงขนาดนี้ จะต้องมีข้อมูลอ้างอิงอะไรมาแน่ และเธออยากจะฟังข้อมูลนั้น“มากแค่ไหนน่ะเหรอ? เธอยังจำ ตระกูลซา หนึ่งในสี่ตระกูลหลักเมืองเทียนไห่ได้มั้ย?” จางเจิ้งถามกลับ“จำได้แน่นอนค่ะ ก็ลุงจางวางแผนโค่นตระกูลซามาตั้งนานนี่คะ”“ลุงวางแผนมานานแล้ว แต่ตระกูลอย่างตระกูลซาไม่ใช่อะไรที่ลุงจะทำให้สั่นคลอนได้ ต่อให้เป็นรัฐมนตรีหวงก็แค่พอรับมือไหว ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ต้องขอบคุณคุณชายเย่ที่ช่วยเหลือ”“ไม่จริงหน่า เขาจะช่วยได้ยังไงกันคะ?”“เรื่องนั้นเธอไม่ต้องไปใส่ใจ สรุปก็คือ เธอต้องจำไว้ว่าไม่เพียงแค่ลุง แต่กระทั่งรัฐมนตรีหวงก็ยังต้องสุภาพและให้ความเคารพเวลาเจอเขา”จางเจิ้งบอกให้เธอรู้เอาไว้ เดิมทีคำพูดเหล่านี้ไม่ควรหลุดออกมาจากปาก แต่เพื่อหยุดหลานสาวผู้โง่เขลาไม่ให้มุ่งเป้าไปที่อีกฝ่าย เขาจึงจำต้องเปิดเผยบางอย่างเพราะถึงยังไง เขากับพ่อของเธอก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันขณะที่เดินออกไป หัวใจ
“งั้นก็ได้!”หลงเจี๋ยไม่ได้ถามอะไรต่อ และส่งเขาออกไปด้านนอกเพราะเธอรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่พูดจาเถลไปไถมาเก่งมาก และเธอคงไม่ได้อะไรจากปากของเขาแน่เมื่อพวกเขาออกไปข้างนอก หยางผั่วจวินก็จัดรถไว้แล้ว และเขาก็ขับรถพาเย่เทียนหยู่ออกไปทันที“คุณชายตอนนี้จะไปที่ไหนครับ” หยางผั่วจวินถาม“ไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่ง!”ขณะที่เย่เทียนหยู่พูด เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลขของหลินหว่านหรู เขาถูกหลงเจี๋ยทำเอาเสียเวลานานขนาดนี้ หว่านหรูก็น่าจะตื่นแล้วเป็นไปตามที่คาด อีกฝ่ายรับสายอย่างรวดเร็ว“หว่านหรู เป็นยังไงบ้าง คุณโอเคมั้ย” เย่เทียนหยู่ถามด้วยความเป็นห่วง“ฉันสบายดี ๆ นายไม่ต้องห่วง”“งั้นก็ดีแล้วครับ ผมจะไม่กลับไปน่ะ” เย่เทียนหยู่รู้สึกว่าร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส และเขาต้องหาทางที่จะฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด“นายไม่มาเยี่ยมฉันหน่อยเหรอ” น้ำเสียงของหลินหว่านหรูเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความไม่พอใจตอนแรกที่เธอตื่นขึ้นมา เธอนึกว่าเย่เทียนหยู่ช่วยชีวิตเธอไว้นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกี่ยวข้องกับเย่เทียนหยู่ แต่กลับเป็นคุณชายเย่เซวียนคนที่เธอไม่อยากไปรู้จักมักจี่ด้
อันที่จริงเย่เทียนหยู่ฟังน้ำเสียงไม่พอใจของหลินหว่านหรูออก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการฟื้นความแข็งแกร่ง ทำให้เขาไม่มีเวลาคิดมากเท่าไหร่นักการลงมือติดกันหลายครั้งแบบนี้ สร้างความเสียหายให้กับเขามากเกินไปหากเป็นเหมือนเดิมที ขอแค่เขาได้พักผ่อนสักสองสามวัน ทุกอย่างก็จะคืนสู่สภาพเดิม แต่ตอนนี้แค่จะทำให้พลังกลับมาอยู่ในระดับปรมาจารย์เขายังทำไม่ได้เว้นแต่เขาจะเอาลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาได้แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทำแบบนั้นไม่ว่าจะเพื่อความบริสุทธิ์ของหยางเฉียนเฉียนหรือเพราะไม่อาจทำผิดต่อหลินหว่านหรูผิดหวัง เขาก็ไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นเพราะฉะนั้น ไม่ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เย่เทียนหยู่จะไม่ยอมชะล่าใจอีกแล้วการมีหยางผั่วจวินคอยอยู่ดูแล ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกผ่อนคลายมาก เขาหลับตาลงก่อนจะผล็อยหลับไป หลายวันมานี้ เป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่จะได้หลับสนิทแบบนี้รถเข้าไปในวิลล่าและทั้งสองก็ลงจากรถจากนั้น เย่เทียนหยู่ก็เข้ามา ตามมาด้วยหยางผั่วจวิน ขณะที่เขาเข้ามา หยางผั่วจวินก็ถามด้วยความประหลาดใจ: “ใคร?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตา
“ผมต้องรู้อยู่แล้ว เพราะพรรคปีศาจก็แค่สถานที่แห่งความสกปรกโสมมที่เลือกรับเฉพาะพวกลูกศิษย์ชาติชั่วนั่นยังไง” เย่เทียนหยู่ยิ้มเยาะ“อวดดี!”ชายชราหงุดหงิดขึ้นมาทันทีแล้วพูดว่า “เจ้าหนู เจ้ามันแกว่งเท้าหาเสี้ยน!”“หรือถ้าผมไม่พูดแบบนั้น พวกคุณจะไม่ฆ่าผมรึไง?”เย่เทียนหยู่หัวเราะเยาะและพูดว่า: “จะว่าไปแล้ว เรื่องคนที่เผาสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในตอนนั้น นอกจากปีศาจที่นิสัยไร้มนุษยธรรมอย่างพวกคุณแล้ว จะเป็นใครไปได้อีก!”“รนหาที่ตายนัก!”ชายชราโกรธถึงขีดสุดแล้ว เขาโบกมือขวาเรียกให้จอมยุทธ์สองคนที่อยู่ด้านหลังเขาให้รีบออกไป ทว่าเขากลับพูดว่า: “เก็บมันซะ!”เพราะยามนั้นราชาปีศาจบอกว่า หากยืนยันตัวตนของเย่เสี่ยวเทียนได้แล้ว จะต้องไว้ชีวิตของเขา แต่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป เพราะว่ากันว่าบนตัวของเย่เสี่ยวเทียนอาจมีสมบัติแสนล้ำค่าเก็บเอาไว้เมื่อหยางผั่วจวินเห็น เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและยืนขวางหน้าเย่เทียนหยู่ทันที“ฆ่าพวกมันซะ!”เย่เทียนหยู่พูดหยางผั่วจวินตกใจเล็กน้อย เขาคิดว่าแค่เอาชนะคู่ต่อสู้ก็เพียงพอแล้ว แต่ไม่คิดว่าคุณชายจะให้เขาฆ่าคน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาฆ่าคนไม่เก่งแต่เมื่อมีคำ
สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไป ความกลัวจับกุมหัวใจของเขา เขารู้สึกได้เลยว่าหากเขาไม่ให้ความร่วมมือ อีกฝ่ายต้องฆ่าเขาจริง ๆ แน่โดยเฉพาะ ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มตรงหน้าช่างน่าหวาดกลัวจริง ๆ แถมสองคนที่ติดตามเขามาก็ตายไปแล้วแต่ท่าทางของเขาดูสงบมาก“ที่ผมพูดเมื่อกี้คุณคงได้ยินแล้วสินะ” เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น“ข้าได้ยินแล้ว”ใบหน้าของชายชราตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย เขาอยากจะสู้กลับ แต่เขาไม่กล้าพอเพราะเขารู้ว่าเขาจะโจมตีอีกฝ่ายโดยปราศจากความเมตตาและถ้าเขาทำผิดเขาอาจจะตายจริง ๆ“ดีมาก ฉันขอถามคุณว่าใครสั่งให้คุณทำไฟนั้น” เย่เทียนหยู่ถามทันทีที่คำถามนี้เกิดขึ้น สีหน้าของชายชราก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“คิดให้รอบคอบก่อนที่จะตอบ เพราะถ้าคุณไม่มีประโยชน์โดยสิ้นเชิง ก็อย่าตำหนิฉันที่โหดร้าย” เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ“ท่านราชาปีศาจ!”ชายชราทำได้เพียงแต่สารภาพออกไปตามตรงอย่างไร้ทางเลือก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาต้องรอดชีวิตออกไปจากที่นี่ ขอแค่รอดออกไปได้ เขาจะไปรายงานให้ราชาปีศาจทราบทันทีเมื่อถึงเวลา ราชาปีศาจจะลงมือด้วยตัวเอง เขาจะสามารถจัดการกับเจ้าเด็กนี่ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าพวกเด็กรอบกายเ
“ไม่ต้องรีบ!”“ถึงคุณจะแข็งแกร่ง แต่ยังไม่เหมาะจะบุกเขาพรรคปีศาจ” เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าปฏิเสธ ตอนนี้หยางผั่วจวิน อยู่เป็นเพียงปรมาจารย์ขั้นต้นเท่านั้นต่อให้เขาพยายามสุดกำลัง ก็ทำได้แค่รับมือกับปรมาจารย์ขั้นกลาง ถ้าต้องปะมือกับปรมาจารย์ขั้นปลาย เห็นได้ชัดว่าคงลำบากไม่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดเลย ว่าพรรหคปีศาจแตกต่างจากพรรคทั่วไปมาก เพราะที่นั่นมีกลไกมากมาย“ตอนนี้เราควรทำยังไงต่อดีครับ?” หยางผั่วจวินถาม“มารอดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”“แต่เนื่องจากราชาปีศาจสั่งให้พวกเขาเริ่มต่อต้านฉัน เห็นได้ชัดว่าเขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของฉัน เมื่อคนเหล่านี้ไม่กลับไป คนที่มาครั้งต่อไปอาจจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”เย่เทียนหยู่กล่าว“แล้วเราควรทำยังไงดี อาการบาดเจ็บของคุณเป็นยังไงบ้าง” เนื่องจากเย่เทียนหยู่ไม่ได้ตั้งใจซ่อนมันไว้ หยางผั่วจวินจึงค้นพบเบาะแสบางอย่าง“ไม่เป็นไรหรอก!”“ถ้าผมยังไม่อยากตายเอง ลำพังแค่พวกเขายังทำอะไรผมไม่ได้หรอก”เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ เพียงแต่ตอนนี้เขานึกถึงหลินหว่านหรูขึ้นมา “บอกเรื่องนี้ให้นักฆ่าหมายเลขเจ็ดรู้ แล้วให้เขาไปคุ้มกันหลินหว่านหรู อย่าให้เกิดปัญหาเด็ดขาด”“ครับ!
ทุกคนในตระกูลหลินพร้อมแล้ว กระทั่งยาก็เตรียมไว้แล้วเช่นกันนี่เป็นยากระตุ้นอารมณ์ที่มีฤทธิ์แรงซึ่งคุณปู่หลินได้มาจากเส้นสายของเขา แรงขนาดต่อให้เป็นวัวก็ยังต้องบ้าคลั่ง แม้เย่เทียนหยู่จะเก่งวรยุทธ์และสมรรถภาพทางกายแข็งแรง เกรงว่าก็คงจะอาการหนักพอกันประมาณหกโมงเย็น เย่เทียนหยู่ก็กลับบ้าน ยังไงก็ตาม หลังจากเข้าไปแล้ว เขาไม่เห็นหลินว่านหรู แต่เขาเห็นหลิวเมิ่งที่ถูกนำกลับมาก่อนหน้านี้วันนี้ชุดของ หลิวเมิ่งแตกต่างไปจากเมื่อก่อนเล็กน้อย เสื้อเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว ซึ่งเน้นไปที่หน้าอกของเธอโดยสิ้นเชิงด้านล่างเป็นกระโปรงสีดำสั้นกุดการแต่งกายเช่นนี้เผยให้เห็นทรวดทรงองเอวของเธอได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะส่วนเว้าของเอวที่บางคอดจนน่าตกใจนั่นราวกับทดสอบว่าเขาสามารถอดทนได้หรือเปล่ารวมถึงผิวพรรณของขาอันเรียวยาวก็ขาวเนียนไม่แพ้กัน เย่เทียนหยู่รู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อยในชุดของเขาที่บ้าน แต่อย่างน้อยเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองมันอย่างระมัดระวัง“พี่เขย มาแล้วเหรอคะ”หลิวเมิ่งก้าวไปข้างหน้าทันทีเพื่อทักทายเขาอย่างมีความสุข ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าและท่าทางที่มีความสุขมากเย่เทียนหยู่ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่อ
“ครับ เจ้านาย!”เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนหยู่ หยางผั่วจวินก็กลับไม่โต้แย้งเลยแม้แต่คำเดียว เขาเพียงก้มตัวและโน้มศีรษะด้วยท่าทีเคารพเท่านั้น ก่อนจะถอยกลับไปฉากนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอีกครั้งอย่างอธิบายไม่ได้เมื่อกี้ท่าทีของหยางผั่วจวินดูหยิ่งยโสอย่างมาก แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงเขาได้เลย แต่เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าตำหนักหยู่ กลับแสดงท่าทีเคารพออกมาเสียอย่างนั้น ให้เกียรติมากถึงขั้นเรียกว่าเจ้านายเลยด้วยที่สำคัญเลยก็คือ ดูเหมือนว่าเขาจะทำเพราะความเต็มใจเสียด้วยซ้ำนี่จึงยิ่งทำให้ในใจของเจวี๋ยเทียนเกิดความมืดมนขึ้นมานิดหน่อย แต่เมื่อลองนึกดูอีกที ต่อให้เจ้าตำหนักหยู่จะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็คงไม่มีทางแข็งแกร่งถึงขั้นนั้นแน่นอนเว้นเสียแต่ว่า เขาจะเลื่อนขั้นถึงระดับเทพยดาแดนดินแล้วแต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในวัยแค่นี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถทำได้ส่วนหยางผั่วจวิน เจ้าเด็กนั่นมีร่างกายที่แปลกประหลาด เขามีพรสวรรค์ที่โดดเด่น แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง นั่นจึงไม่อาจมองเขาเป็นแค่คนธรรมดาได้เพราะด้วยเหตุนี้ เจวี๋ยเทียนจึงคิดว่าเย่เทียนห
แต่สีหน้าของเจวี๋ยซินกลับเริ่มเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาถึงขั้นยอมสละทุกอย่างออกไปจนหมดแล้วแท้ ๆ แต่กลับทำอะไรอีกฝ่ายได้เลยไม่มีกระทั่งบาดแผลเลยแม้แต่น้อย!เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!ทันใดนั้นเลือดก็พุ่งออกจากปาก ก่อนจะสลบไปในทันที“เจวี๋ยซิน!”เจวี๋ยเทียนตกใจมาก เขาจึงรีบตรวจสอบร่างกายของเขาโชคดี ที่มันเป็นแค่ผลข้างเคียงจากการใช้ยาจนร่างกายอ่อนแอลงก็เท่านั้น ก่อนจะนำยาสองสามเม็ดให้เขากิน จากนั้นจึงเรียกให้ยอดฝีมือคนอื่นพาไปดูแลต่อเมื่อเห็นเจวี๋ยซินกำลังถูกยกลงไปจากสนาม แววตาของหยางผั่วจวินก็เป็นประกาย ก่อนจะพูดว่า “เจวี๋ยเทียน เจวี๋ยซินถูกฉันจัดการจนอยู่ในสภาพนี้แล้ว มันกลายเป็นสวะไปแล้ว งั้นแกก็รีบขึ้นมาแก้แค้นแทนเขาเถอะ มาจัดการฉันซะสิ?”“......”คนอื่น ๆ ต่างก็หมดคำจะพูด หยางผั่วจวินคนนี้ต้องการจะทำให้เจวี๋ยเทียนโกรธจนตายเลยรึไง อวดดีเกินไปแล้วพวกเขาคิดแค่ว่าหยางผั่วจวินกำลังตั้งใจจะดูถูกเจวี๋ยเทียน แต่จริง ๆ แล้วหยางผั่วจวินแค่ต้องการต่อสู้เท่านั้นทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเจวี๋ยเทียน เพื่อดูว่าจะรับมือกับอีกฝ่ายอย่างไรหากเขาปฏิเสธ นั่นก็เท่ากับ
เจวี๋ยซินส่งเสียงคำรามออกมาเสียงดัง ร่างกายของเขากลับมามีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง ทำให้ท่าทีของเขาดูเหมือนคนบ้ายิ่งกว่าเดิม ดวงตาของเขาแดงก่ำสีหน้าของหยางผั่วจวินดูมืดลง เขารู้ ว่าอีกฝ่ายกำลังจะใช้ท่าไม้ตายแล้วหลังจากท่านี้ถูกปล่อยออกมา อีกฝ่ายจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแน่นอนตัวเขาเองก็ทำการรวบรวมกำลังภายในของตนด้วยเช่นกัน ความน่าสะพรึงกลัวของชี่แท้ถูกหลอมรวมเอาไว้ที่หมัดทั้งสองข้างทันที เพื่อเตรียมพร้อมรับการโจมตีที่ดีที่สุดทุกคนต่างจ้องมองฉากตรงหน้าด้วยความตั้งใจ เพราะพวกเขารู้ดีว่าหลังจากทำการปล่อยท่านี้ออกไป ผลแพ้ชนะของทั้งสองก็จะปรากฏออกมาแล้วเป็นอย่างที่คิด เวลาหลังจากนั้นผ่านไปเพียงชั่วขณะ ความแข็งแกร่งอันทรงพลังทั้งสองก็เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงทันใดนั้น บรรยากาศรอบ ๆ ราวกับฟ้าถล่มดินทลาย เสียงระเบิดที่น่ากลัวดังขึ้นซ้อนกันเป็นระยะ ๆ ทั่วทั้งพื้นที่โดยรอบมีเพียงกระแสของกำลังภายในที่น่าทึ่งลอยเต็มไปหมดพื้นที่ทั้งหมดถูกฉีกขาดอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นพายุหมุนที่พัดผ่านไปมาทั้งสองคนติดอยู่ด้านในกับสถานการณ์ที่ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจนผลกระทบที่เกิดจากพลังอันน
“สายเกินว่าที่แกจะเข้าไปขวางแล้วล่ะ”“ก็แล้วแต่แกจะคิด เสร็จรึยัง ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วเนี่ย” หยางผั่วจวินพูดด้วยความตื่นเต้น รู้สึกราวกับว่าคนตรงหน้าคือสาวงามที่หาใดเปรียบแทบอยากกระโจนเข้าไปกระชากเสื้อผ้าออกจนเกลี้ยงเขาแทบรอไม่ไหวแล้วจริง ๆคนอื่น ๆ ต่างมองฉากนี้ด้วยความงงงวย และหมดคำจะพูดไปโดยสิ้นเชิงบางครั้งพวกเขาก็อยากจะพูดออกไปว่า เจ้าเด็กนี่กำลังรนหาที่ตายอยู่รึไง ในตอนแรกพวกเขาอาจจะคิดแบบนี้ แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นว่าหมัดที่ทรงพลังนั้นได้ตอบคำถามทั้งหมดกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าพวกเขาคิดผิด กระทั่งผิดจนไม่อาจให้อภัยได้เลยทีเดียวแต่คำพูดนี้ กลับทำให้เจวี๋ยซินโกรธจัดทันทีเห็นเพียงกำลังภายในของเจวี๋ยซินที่กำลังพุ่งสูงขึ้นจนถึงจุดที่น่ากลัว ดวงตาสองข้างแดงก่ำ จ้องมองไปทางหยางผั่วจวินอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะพูดด้วยความโกรธออกไปว่า “เจ้าหนู แกตายซะเถอะ!”หลังจากที่เขาพูดจบ เจวี๋ยซินก็พุ่งตรงเข้าหาหยางผั่วจวินทันที พร้อมกับพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวจนน่าตกใจ“เข้ามาเลย!”หยางผั่วจวินเองก็ตรงเข้าไปเผชิญหน้าโดยตรงเช่นกัน เมื่อเขาเห็นพลังที่เพิ
เมื่อเห็นว่าหยางผั่วจวินไม่ได้รับบาดแผลเลยแม้แต่น้อย แถมยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ อีกต่างหาก เจวี๋ยซินกลับแทบพังทลายอยู่รอมร่อ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นคนที่ภูมิใจในตัวเองมาโดยตลอด จะให้ทนอับอายอยู่แบบนี้ได้อย่างไรเมื่อเจวี๋ยเทียนเห็นฉากนี้ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแย่แล้ว! สถานการณ์แบบนี้เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่ เกรงว่าเขาคงจะเปิดใช้เวทอาคมเป็นแน่ จะทำอย่างไรดีเป็นอย่างที่คิด เห็นเพียงแววตาแดงก่ำของเจวี๋ยซิน เขาบ่นพึมพำขึ้นมาว่า “เวรเอ้ย ฉันไม่มีทางยอมแพ้ให้กับเด็กเมื่อวานซืนอย่างแกแน่!”ทันทีที่เขาพูดจบ มือขวาของเขาก็ยาเม็ดหนึ่งออดมา ก่อนจะกลืนมันลงไปทันทีสีหน้าเจวี๋ยเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก คนอื่นอาจจะยังไม่รู้ แต่เขากลับรู้ดีว่าเจวี๋ยซินคิดจะทำอะไรเขาต้องการที่จะหยุดยั้งเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ทันแม้แต่จะได้เอ่ยปาก เพราะนอกจากสิ่งนี้ ก็แทบจะไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้อีกแล้วทุกคนต่างพากันชะงักไปชั่วขณะ การที่เลือกกินยารักษาบาดแผลในเวลานี้ เกรงว่าคงจะไม่ช่วยอะไรมากนักแต่ในเวลาต่อมา เจวี๋ยซินก็ได้เริ่มทำการใช้วิชามารที่คนทั่วไปไม่สามารถใช้ได้อย่าง วิชามหาเวทสลายชีพจรทันที ผ่านไป
“เข้ามาเลย!”สีหน้าหยางผั่วจวินเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาเองก็เริ่มด้วยเช่นกันในชั่วพริบตา ทั้งสองต่างก็นำพาพลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง ในเวลาอันสั้น ทั้งสองกลับมีการแลกกระบวนท่ากันไปแล้วกว่าสิบกระบวนท่าภายใต้การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้มีการปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมาเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ชมต้องตกตะลึงไปกับความตื่นตาตื่นใจทุกคนต่างจ้องมองการต่อสู้บนสนามโดยไม่ละสายตาหลัก ๆ แล้วการต่อสู้ของทั้งสองนั้นน่ากลัวและแข็งแกร่งมาก ทั้งชีวิตนี้ เกรงว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็นการต่อสู้แบบนี้อีกแล้วนอกจากนี้ พวกเขาต่างก็มีผู้สนับสนุนของตนเองเวลาผ่านไปนานพอสมควร ทั้งสองถึงได้แยกออกจากกันหลังจากการเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง หยางผั่วจวินหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะพูดอย่างมีความสุขออกไปว่า “สะใจ นี่สิ ถึงจะเรียกว่าการต่อสู้!”“คนเมื่อกี้ มารโลหิตอะไรนั่นก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้นแหละ!”“......”ทุกคนที่กำลังตั้งใจดูการต่อสู้ จู่ ๆ พูดแบบนี้ขึ้นมา เสียมารยาทเกินไปไหมถ้าบอกว่ามารโลหิตคือขยะ เช่นนั้นพวกเราล่ะ?สีหน้าเจวี๋ยซินดูเคร่งเครียด แม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เขาก็แทบจะใช
ฉากนี้ทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์พากันตกตะลึงไปตาม ๆ กันทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนพวกเขาไม่มีเวลาให้ได้ตอบสนองเลยด้วยซ้ำในเวลาอันสั้น เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ สถานการณ์ในสนามก็เปลี่ยนแปลงอย่างมาก มารโลหิตถูกสังหารในทันทีไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าหยางผั่วจวินจะลงมือได้อย่างรวดเร็ว คาดไม่ถึงว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวขนาดนี้ แถมยังลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมอีกต่างหากบอกได้เลยว่า ในตอนนั้นมารโลหิตเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าตนจะต้องมาพบกับชะตากรรมเช่นนี้ในใจของตู๋เปียนฝูและบรรพจารย์หวงเฉวียนต่างก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน พลังของพวกเขาต่างจากมารโลหิตก็จริง กระทั่งยังแข็งแกร่งกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากพวกเขาบุกเข้าไป ก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่ในเวลานี้ พวกเขารู้สึกโชคดีมากจริง ๆโดยเฉพาะตู๋เปียนฝู เมื่อกี้เขาเองก็กำลังคิดที่จะลงมือเช่นกันถ้าหากเขาลงมือจริง ๆ ตอนนี้คนที่นอนกองอยู่บนพื้นก็คงเป็นเขาไปแล้วปรมาจารย์ที่แท้จริง น่ากลัวขนาดนี้เชียวเหรอ?พวกเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าระดับปรมาจารย์ที่ตนมีอยู่ตอนนี้จะเป็นของปลอมรึเปล่าเย
พลังทั้งสองปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง แรงกดดันมหาศาลกระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับพายุฝนฟ้าคะนอง น่าสะพรึงกลัวและน่าตกใจอย่างมากอึก!มารโลหิตร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งออกมาจากปาก ก่อนที่ตัวเขาจะเดินถอยหลังอย่างควบคุมไม่ได้เพียงแค่หมัดเดียว อวัยวะภายในของเขาก็ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงจนไม่เหลือชิ้นดี สภาพดูน่าอนาถมาก เห็นได้ชัดว่าภายในได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงต้องเข้าใจก่อนว่า ความสามารถของเขาเองก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดเช่นกันแม้ว่าระยะเวลาในการบรรลุจะเพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้วพูดตามตรง ความแข็งแกร่งของเขายังห่างจากหยางผั่วจวินอยู่มาก ซึ่งความแข็งแกร่งของหยางผั่วจวินตอนนี้ก็ได้ไปถึงคอขวดของระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดแล้ว บวกกับร่างกายที่ไม่เหมือนใครของหยางผั่วจวินที่ทำการโจมตีอย่างฉับพลันนั่นอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะสามารถรับกระบวนท่านี้ของอีกฝ่ายได้ ช่างเป็นความเร็วที่น่าทึ่งจริง ๆ!เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก!ทุกคนที่เห็นฉากนี้ ต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน แบบนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้วเมื่อเทียบกันแล้ว เห็นได้
ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงทันที!สามหาว!สามหาวเกินไปแล้ว!นี่มันสามหาวจนเกินเยียวยาแล้วจริง ๆ!เยว่เหลียนหานและคนจากสำนักดอกไม้ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน จนเกือบคิดว่าตัวเองประสาทหลอนไปแล้วเสียอีก แม้จะรู้อยู่แล้วว่าหยางผั่วจวินคนนี้แข็งแกร่งมากก็เถอะ แต่นี่มันก็บ้าเกินไปแล้ว คิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองจะมีความสามารถมากขนาดนั้น ถึงคิดที่จะสู้กับปรมาจารย์ยอดฝีมือพร้อมกันทีเดียวหลาย ๆ คนอีกอย่าง แค่เจวี๋ยซินคนเดียวก็อาจเพียงพอที่จะทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานได้แล้ว ยังไงซะ นั่นก็เป็นถึงคนที่มีฝีมือเทียบเท่ากับชิงหลงอย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่มู่หรงอินเองก็ยังชะงักไปชั่วขณะ ความรู้สึกตกใจเผยออกมาจากแววตาของเธอลูกน้องของลูกชายตนช่างอวดเก่งเสียจริง ไม่เห็นเจวี๋ยเทียนอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ คิดจะลุยเดี่ยวเลยรึไงดวงตาของทูตใหญ่เบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจจูเก่อหลิวหลีกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก สมแล้วที่เป็นลูกน้องของคุณชาย ยอดเยี่ยมจริง ๆอย่าว่าแต่พวกเขาเลย เย่เทียนหยู่เองก็ตกตะลึงไปชั่วขณะเช่นกันเชี่ย!เจ้าเด็กนี่ เพื่อที่จะแย่งคู่ต่อสู้มาให้ได้ จำเป็นต้องขนาดนี้เ