หลินหว่านหรูแสดงสีหน้าดูแย่มาก แต่เธอก็ไม่กล้าตอบโต้ กลับรีบเดินออกมาให้ห่างจากผู้หญิงคนนี้แทน เพราะผู้หญิงคนนี้ไร้มารยาทยิ่งกว่าลูกชายของเธอเสียอีกขณะที่มองดูหลินหว่านหรูเดินจากไป ซาจื่อหาวก็พูดด้วยอารมณ์โกรธ “แม่ ดูสิครับ ตระกูลซาของพวกเราไม่ได้อยู่ในสายตาพวกเขาเลยด้วยซ้ำ”“แม่เห็นแล้ว ลูกวางใจเถอะ แม่จะทำให้ไอ้คนที่มันทำร้ายลูกต้องมาคุกเขาขอความเมตตาต่อหน้าลูก เท่านั้นยังไม่พอ แม่จะทำให้มันต้องทนทุกข์ทรมานจนตายด้วย”“ผู้หญิงคนนี้ แม่ขอสัญญาเลยว่าจะทำให้เธอค่อย ๆ คลานขึ้นไปที่เตียงของลูกด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องครอบครัวของเธอก็ขึ้นอยู่กับลูกแล้วล่ะ”“อืม!”สีหน้าของซาจื่อหาวตื่นเต้นไม่น้อยเจ้าหนู แกกล้าทำร้ายฉัน พอถึงตอนนั้น รอดูเถอะว่าฉันจะเล่นกับเมียแกยังไงบ้างเขาไม่มีทางรู้เลย ว่าฝันร้ายของตัวเองกำลังคืบคลานเข้ามาแล้วหลังจากออกจากโรงพยาบาล ซูถิงพูดด้วยรอยยิ้มที่เป็นกังวล “หว่านหรู การที่เธอทำแบบนี้ มันไม่แค่ไม่ช่วยแก้ปัญหา แถมยังเป็นการสุมไฟเผาตัวเองอีกต่างหาก”“ฉันก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ สองแม่ลูกนั่นไม่มีเหตุผลเลย เพราะงั้นฉันถึงได้เข้าใจว่าทำไมซาจื่อห
“สถานการณ์เป็นยังไง?” เย่เทียนหยู่ถาม“เพราะหัวหน้าใหญ่ซาแห่งเหิงซากรุ๊ปออกคำสั่งให้ไล่ล่าคุณ ให้คุณไปรับผิดที่บ้านเขาด้วยตัวเอง เพื่อที่จะช่วยคุณ ประธานหลินจึงเข้าไปพบหัวหน้าใหญ่ซาเป็นการส่วนตัว”“ว่ายังไงนะ!”“ยัยบื้อนี่หนิ เธอโง่หรือเปล่าเนี่ย!”หลังจากที่เย่เทียนหยู่ได้ยินเรื่องทั้งหมด สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูมืดมนมาก หัวหน้าใหญ่ซาเป็นคนยังไง หลินหว่านหรูส่งตัวเองเข้าไปแบบนั้น จะเกิดเรื่องดีอะไรได้กันเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลินหว่านรู้จะยอมเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับอันตรายเพื่อเขา“ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้แล้ว แต่ว่าคุณก็อย่าได้กังวล คนของผมที่อยู่ที่นั่นจะคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด นอกจากเรื่อนี้แล้ว เธอยังไปที่โรงพยาบาล แถมยังถูกทำร้ายอีกด้วย” หยางต้าฝูฝืนยิ้มพูดออกมา“ว่ายังไงนะ!”เย่เทียนหยู่โกรธขึ้นมาทันที และพูดว่า “ส่งที่อยู่ของเขามาให้ฉัน!”“ได้ครับ ยังมีคลิปวิดีโอตอนที่อยู่โรงพยาบาลด้วย ผมจะส่งไปให้คุณพร้อมกันเลย!”หยางต้าฝูรีบส่งที่อยู่ไปให้ทันทีจากนั้นก็ส่งคลิปวิดีโอตามไปอีกทีหลังจากที่เย่เทียนหยู่วางสาย เขาก็รีบวิ่งไปที่โรงรถและสตาร์ทรถทันทีนี่คือความตั้งใจของหยางต้า
พอหลินหว่านหรูได้ยินก็ทั้งตกใจและโกรธ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ คนพวกนี้ถูกเลี้ยงมาด้วยสเปิร์มรึไง สองพ่อลูกนี้ช่างเหมือนกันจริง ๆตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมซาจื่อหาวถึงเป็นคนแบบนั้น เพราะคานบนมันไม่ตรงคานล่างก็เลยเบี้ยวไปด้วย ผู้ใหญ่ทำนิสัยแย่ ๆ เขาเลยได้แม่แบบที่ไม่ดีมานั่นเองแต่เพราะซาวั่นไห่ที่เป็นแบบนี้ เขากลับเป็นคนที่มีอำนาจซะงั้น ช่างเป็นเรื่องที่น่าขันอะไรอย่างนี้“หัวหน้าใหญ่ซา ด้วยสถานะของคุณตอนนี้ คุณยังมีผู้หญิงที่คุณยังไม่เคยได้มาอยู่อีกเหรอ ทำไมต้อง......”“เอาล่ะ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ยอมทำอีกแล้วสินะ!”“ถ้าอย่างงั้น ก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก” หัวหน้าใหญ่ซาพูดอย่างเย็นชาหลินหว่านหรูเริ่มรู้สึกถึงอันตราย จากนิสัยของอีกฝ่ายตอนนี้คงไม่มีอะไรต้องคุยต่อแล้ว ดังนั้นเธอจึงรีบลุกแล้วเดินออกมาทันทีแต่ครู่หนึ่งหัวหน้าใหญ่ซาก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “หยุดนะ!”หลินหว่านหรูรู้สึกตกใจและตื่นตระหนก จนทำให้เธอหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ“ประธานหลิน เธอคิดว่าที่บ้านฉันคือส่วนหลังบ้านของเธอที่คิดอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปงั้นเหรอ?”หัวหน้าใหญ่ซาพูดเหน็บแนม
หัวหน้าใหญ่ซามองไปที่เรือนร่างอันอวบอิ่มของซูถิงด้วยสายตาที่ชั่วร้าย และพูดออกมาว่า “ ไม่เลวเลย แถมยังสวยอีกด้วย ดีเลย ฉันไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงสองคนพร้อมกันมานานแล้วเหมือนกัน”หลินหว่านหรูรู้สึกสิ้นหวัง ทั้งตกใจและโกรธเธอคิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าใหญ่ซาที่มีสถานะสูงศักดิ์จะเป็นคนที่ทำอะไรต่ำช้าได้ขนาดนี้โดยทั่วไปแล้ว คนที่จะมีตำแหน่งหรืออำนาจสูงแบบนี้ได้ ส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นคนที่ไม่ธรรมดาทั้งนั้นใครจะไปคิดว่าระดับหัวหน้าใหญ่ซาจะทำตัวเหมือนกับพวกอันธพาลแบบนี้“เธอจะยอมเชื่อฟังฉัน หรือรอให้ฉันจัดการเอง?” หัวหน้าใหญ่ซายืนขึ้นแล้วเดินตรงไปที่หลินหว่านหรู“ฝันไปเถอะ!”หลินหว่านหรูเดินถอยหลังไปด้วยความตกใจปนกับความโกรธ และพูดอย่างหมดหวัง “ต่อให้ฉันต้องตาย ฉันก็ไม่ยอมให้แกได้สิ่งที่ต้องการหรอก”“ตายงั้นเหรอ?”หัวหน้าใหญ่ซายิ้มเย้ย “เชื่อไหมว่าต่อให้เธอตาย ฉันก็ไม่ปล่อยร่างกายของเธอไปหรอก”“แก แกมันเดรัจฉาน!”“เธอพูดถูก ฉันมันไม่ใช่คนหรอก! ไม่ใช่แค่ร่างกายของเธอที่ฉันไม่ยอมปล่อยไป แม้แต่เพื่อนสนิทของเธอฉันก็จะให้ผู้ชายร้อยคนค่อย ๆ เล่นกับเธอเอง”“เมื่อถึงเวลานั้น เธอจะรู้ว่ามันเลวร
เห็นได้ชัดว่าหลินหว่านหรูนั้นทำเรื่องไม่ดีต่อเย่เทียนหยู่ ทั้งเรื่องที่เข้าใจผิดและเรื่องที่ถูกดุด่าว่าร้าย แล้วทำไมเขาถึงไม่โทษเธอเลยล่ะ?ในฐานะที่ภรรยาก่อเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ว่าควรจะถูกตำหนิหรอกเหรอในขณะเดียวกันนี้เอง เย่เทียนหยู่ก็หันหน้าไปทางหัวหน้าใหญ่ซาทันที ใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนก่อนหน้านี้ก็ถูกแทนทีด้วยความเย็นชาเมื่อเห็นสภาพของหลินหว่านหรู ถ้าหากตนมาไม่ทันเวลา อาจจะเกิดเรื่องเลวร้ายไปแล้วหัวหน้าใหญ่ซาก็โกรธมากเช่นกัน เขาโกรธจนเดือดพล่านไปหมด กี่ปีมาแล้ว ที่ไม่มีคนทำเมินเฉยไม่สนใจเขาแบบนี้“หัวหน้าใหญ่ซาใช่ไหม งั้นให้ฉันแนะนำตัวเองสักนิดก็แล้วกัน ฉันคือเย่เทียนหยู่” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง แต่ตรงกันข้ามกันกับจิตสังหารของเขาที่ปิดยังไงก็ปิดไม่มิด“แกคือเย่เทียนหยู่งั้นเหรอ แกคือไอ้คนที่มันทำร้ายลูกชายของฉันสินะ พอดีเลย ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามหาแก เพราะตอนนี้แกก็มาที่นี่ด้วยตัวเองแล้ว”“วันนี้ แกอย่าได้หวังเลยว่าจะได้ออกไปจากที่นี่แบบมีชีวิต”หัวหน้าใหญ่ซาไม่มีความเกรงกลัวเขา อีกทั้งแววตาของเขาตอนนี้แฝงไปด้วยความดุร้ายและจิตสังหารอันแรงกล้
จากนั้น เย่เทียนหยู่ก็หยิบท่อนเหล็กขึ้นมา แล้วเหวี่ยงไปรอบ ๆ ซ้ายขวา เขาได้ยินแค่เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดที่ลอยออกไป และกลิ้งตลบไปมาบนพื้นเท่านั้นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ ขณะที่เขากำลังโจมตีอยู่ เขาไม่แม้แต่จะมองอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ ดวงตาของเขาจ้องมองแค่หัวหน้าใหญ่ซาที่อยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้นดวงตาของทุกคนเริ่มเต็มไปด้วยความกลัว ต่างก็ยื่นไม่อยู่กับที่ ค่อย ๆ ก้าวถอยหลังกลับไปยิ่งไม่ต้องพูดถึงแค่พวกเขา ต่อให้เป็นซูถิงและหลินหว่านหรูที่เคยเห็นเย่เทียนหยู่ลงมือมาแล้ว ก็ยังคงตกตะลึงอยู่ดีพวกเขารู้ว่าทักษะกังฟูของเย่เทียนหยู่เก่งกาจมาก แต่ทุกครั้งที่เขาลงมือ กลับเกินกว่าที่พวกเธอจินตนาการไว้เสียอีก“มาสิ ต่อได้เลย! ”เย่เทียนหยู่ประสานนิ้วของเขา แล้วพูดอย่างเรียบเฉย“ลุย ลุยพร้อมกันกับฉัน ใครที่สามารถแตะโดนมันได้ มีรางวัลให้ห้าแสน ต่อยโดนมันได้ ให้ห้าล้าน แต่ถ้าทำให้มันล้มลงได้ มีรางวัลให้ห้าสิบล้าน! ”หัวหน้าใหญ่ซาตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ทั้งตกใจและหวาดกลัวดังคำกล่าวที่ว่า จะต้องมีผู้กล้าภายใต้รางวัลอันหนักหน่วงหลังจากได้ยินเงินรางวัลก้อนโตแบบนี้ ในเวลานั้นใครมันจะไปสนใจ
ซูถิงเองก็พูดโน้มน้าวด้วย แถมเธอยังคิดเผื่อเย่เทียนหยู่ด้วยเช่นกันที่สำคัญที่สุดคือน้ำเสียงมีความอ่อนโยนเป็นพิเศษหลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ตั้นแต่เมื่อไหร่ที่ซูถิงพูดอ่อนโยนกับเย่เทียนหยู่แบบนี้ แต่ว่าก็อาจจะเป็นเพราะวันนี้เย่เทียนหยู่ช่วยพวกเธอไว้ก็ได้ยังไงซะ ถ้าหากไม่มีเย่เทียนหยู่ คืนนี้ก็คงจบเห่ไปแล้วหัวหน้าใหญ่ซามองไปที่เย่เทียนหยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ ดวงตาของเขากำลังขอร้องอ้อนวอน แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความโกรธ ใช่ คนของเขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้จริง ๆแต่นั่นมันก็แค่วันนี้เท่านั้นแหละ เขาจะต้องให้มือปืนสักชุดซุ่มโจมตีให้ได้ต่อให้กังฟูของแกจะดีแค่ไหน แต่คิดว่าจะเร็วสู้ลูกกระสุนปืนได้อย่างงั้นเหรอคนอื่นไม่ทันได้สังเกตเห็น แต่เย่เทียนหยู่กลับสังเกตเห็นความชั่วร้ายในแววตาของหัวหน้าใหญ่ซา คนแบบนี้น่ะ หากยังปล่อยให้ลอยนวลไป ไม่รู้ว่าจะไปทำเรื่องที่เลวร้ายอะไรอีกถ้าแค่มาหาเรื่องเขาคนเดียว นั่นก็ไม่เป็นไร แต่ที่กลัวคือ กลัวว่ามันจะไปหาเรื่องหลินหว่านหรูมากกว่า“ไม่ได้ วันนี้เขาจะต้องตาย”ท่าทางของเย่เทียนหยู่เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที เขาจะต้องลงมือให้ได้แต่ในขณะเด
“เย่เทียนหยู่ นายเป็นคนแจ้งตำรวจหรือเปล่า” หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะถาม“เปล่า! ” เย่เทียนหยู่ส่ายหัว“จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ดูท่าทางของผู้กองจางเมื่อกี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเราก็อยู่ที่นี่ด้วย” หลินหว่านหรูพูดด้วยความสับสนซูถิงเองก็ตกตะลึง ไม่ใช่เย่เทียนหยู่หรอกเหรอ? แต่ว่าต่อให้ไม่ใช่เขา คนนั้นก็น่าจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเย่เทียนหยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ควรให้หลินว่านหยูรู้เรื่องนี้ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังต้องการที่จะให้หลินหว่านหรูรู้สึกหวั่นไหวกับนายน้อยหลิวด้วยจู่ ๆ เธอก็มีความคิดเข้ามาในหัว และรีบพูดว่า “ฉันรู้แล้ว ต้องเป็นนายน้อยหลิวแน่ ๆ! ”“นายน้อยหลิวอย่างงั้นเหรอ? ”หลินหว่านหรูกลับไม่คิดแบบนั้น จากพฤติกรรมของนายน้อยหลิวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับซาจื่อหาว เขาไม่กล้าแม้แต่จะเป็นปรปักษ์กับตระกูลซาด้วยซ้ำ ไม่เห็นก่อนหน้านี้ที่หลิวเจี๋ยถูกเขาทำให้ตกใจจนตื่นตระหนกหรือไง“ต่อให้เธอจะคิดว่านายน้อยหลิวไม่ได้เรื่อง แต่ฉันก็ยังโทรหาเขา เขาบอกให้ฉันใจเย็น ๆ แล้วยังบอกอีกว่าลุงของเขากำลังตรวจสอบซาวั่นไห่อยู่”“ถ้าฉันเดาไม่ผิด นี่อาจจะเป็นคำขอของนายน้อยหลิว เบื่องบนถึงได้ดำเนินหารกับซาวั