ขณะที่หลินหว่านหรูกำลังสิ้นหวัง เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าคนคนนั้นคือเย่เทียนหยู่เธอนึกว่าตัวเองตาลายเสียอีกต้องเป็นเพราะคิดมากไปแน่ ๆ ถึงได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แต่ในไม่ช้า เสียงของเย่เทียนหยู่ก็ดังขึ้นอีกครั้งเสียงนั้นอ่อนโยน มั่นคงและแข็งกร้าว ทำให้เธอแอบหลงใหลไปชั่วขณะในเวลานี้ เย่เทียนหยู่ได้ช่วยหลินหว่านหรูขึ้นมาแล้ว“คุณ ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?” หลินหว่านหรูตกใจ รู้สึกดีใจ ตื่นเต้นและเต็มไปด้วยอารมณ์อื่น ๆ ซึ่งมันซับซ้อนมาก“ก็คุณอยู่ที่นี่แล้วมีอันตราย ผมจะไม่อยู่ได้ยังไงล่ะครับ”เย่เทียนหยู่พูดเบา ๆทันทีที่ได้ยินแบบนั้น กำแพงหัวใจของหลินหว่านหรูถูกทลายลงอีกครั้ง เธอแทบจะอดไม่ได้ที่จะโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของอีกฝ่ายแต่กงซุนจื้อโกรธสุดขีดเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า อยากจะกินเลือดกินเนื้อเย่เทียนหยู่ซะแต่ไม่เป็นไร เย่เทียนหยู่ ฝากไว้ก่อนเถอะ ถ้าปล่อยให้แกอยู่รอดถึงคืนพรุ่งนี้ กงซุนจื้อสามตัวนี้ฉันจะเขียนมันกลับหัวซะที่แท้ก่อนที่เขาจะมาถึง มีข่าวมาจากที่บ้านของเขา ว่าผู้เฒ่าหวังจะเดินทางมาเทียนไห่ในวันพรุ่งนี้เมืองหลวงอยู่ไม่ไกลจากที่นี่และสามารถมาถึงได้ตอนเที่ยงเมื
“มึง!”“มึงมันรนหาที่ตาย!”หนุ่มผมทองโกรธและเรียกให้ทุกคนพุ่งไปรุมเขาในทันทีต่อให้ทักษะการต่อสู้ของปหจะเก่งแค่ไหน สองหมัดก็ยากจะเอาชนะสี่มือ อีกพักแกได้เห็นดีแน่แต่ไม่นาน หนุ่มผมทองก็ต้องพบกับความสิ้นหวัง คนของเขาไม่พอให้เป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายแน่ เวลาเพียงชั่วพริบตา ทุกคนนอนกองอยู่บนพื้นและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดทั่วทั้งร่างกายได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงโดยไม่มีละเว้นแม้แต่คนเดียว และเกือบทุกคนได้รับบาดเจ็บภายในสำหรับตัวเขาเอง อาจเป็นเพราะเขาเป็นผู้นำ ทำให้อีกฝ่ายลงมือกับเขาเบาเป็นพิเศษมือทั้งสองข้างหักหมดแต่เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นว่ามีคนเฝ้าดูอยู่รอบตัวเขา พวกเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เขาจึงรีบปิดหลินหว่านหรูและออกจากที่นี่ไปทันทีเขาไม่อยากตกเป็นข่าวเมื่อเห็นทั้งคู่จากไป หนุ่มผมทองก็รีบโทรหาโรงพยาบาล จากนั้นจึงมองซูถิงด้วยความโกรธและพูดว่า “คุณซู นี่มันหมายความว่ายังไง มันแค่การแสดงไม่ใช่เหรอ คิดจะเอาชีวิตพวกกูหรือไง”“ฉะ ฉันก็ไม่ปคิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้”ซูถิงสับสนมาก แน่นอนว่าเธอเป็นคนไปหาเจ้าของบาร์ เธอขอให้เจ้าของบาร์จัดกลุ่มคนมาร่วมแสดง แล้วจะให้มีคนเป็น
ขณะที่ซูถิงกำลังคิดว่าจะส่งหลินหว่านหรูไปที่เตียงของกงซุนจื้อได้ยังไง หลินหว่านหรูก็โทรมาหาเธอที่แท้แล้วสมองของหลินหว่านหรูหยุดทำงานไปชั่วขณะ ตอนที่เย่เทียนหยู่ปรากฏตัว จนกระทั่งเดินออกจากที่นั่นมาแล้ว ถึงจำได้ว่าซูถิงยังไม่ออกมาเธอรีบพูดว่า “เทียนหยู ซูถิงยังไม่ออกมาเลย”“ไม่ต้องกังวล เธอไม่เป็นไรหรอกครับ” เย่เทียนหยู่กล่าว“จริงเหรอ?”“อือ ก็พวกนั้นเป็นพวกเดียวกัน จะเป็นอะไรได้ยังไง?”“ไร้สาระ!”“ซูถิงถูกตบแรงมากเลยนะ แล้วเธอก็ต่อสู้เพื่อฉัน เธอจะเป็นพวกเดียวกันได้ยังไง แล้วอีกอย่าง เธอให้คนมาทำเรื่องแบบนี้แล้วจะได้อะไร?”เย่เทียนหยู่อยากจะบอกเธอว่าได้ปรากฏเจ้าชายขี่ม้าขาวแต่พอคิดไปแล้ว ครั้งนี้คนที่ได้เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวคือเขานี่“เทียนหยู่ ฉันรู้สึกขอบคุณนายมากที่นายมาช่วยฉันไว้ทันเวลา แต่ว่าไม่มีทางที่ซูถิงและพวกเขาจะเป็นพวกเดียวกัน”“ฉันรู้ว่านายมีอคติกับเธอ แต่ที่ผ่านมาเธอทำเรื่องผิดต่อนายก็เพื่อฉัน และเธอก็แก้ไขแล้วนี่”หลินหว่านหรูอธิบาย“เอาล่ะ เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็อย่าพูดถึง”“คุณเองก็ไม่ต้องกังวล ต่อให้พวกเขาไม่ใช่พวกเดียวกัน คนเหล่านั้นก็ถูกผมทำร้าย ไม่มี
“ไม่ต้องห่วง ฉันมีทรัพย์สินมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ฉันยังมีบ้านอยู่ในมืออีกสองสามหลัง เงินแค่นี้ฉันมีหรอก”“ไม่ กูไม่เชื่อมึง มึงบอกว่าแค่แสดง แต่แล้วเป็นยังไงล่ะ ดูพวกเพื่อนๆ กูสิวะยังมีใครยืนไหวอีก?”หนุ่มผมทองหัวเราะอย่างเย็นชา“คิดออกหรือยัง กูไม่มีเวลารอมึงหรอกนะ กูจะให้เวลาสิบวินาที ถ้ามึงไม่ตอบกลับ กูรับประกันว่าอนาคตมึงจบเห่แน่” หนุ่มผมทองขู่เพราะเขาได้ยินเสียงรถพยาบาลข้างนอก“ถ้าอย่างนั้น ครั้งเดียวนะ แค่ครั้งเดียว ให้แก่ทำคนเดียวไม่อย่างนั้นฉันไม่ยอมแน่”“ถ้าแก่ยอมให้ฉันทำแค่ครั้งเดียว เงินค่ารักษาสองล้านห้าฉันจะยังจ่ายให้แก่”ซูถิงยังมีข้อเรียกร้อง เป้าหมายสูงสุดของเธอคือเย่เทียนหยู่ถ้าเอาแต่คลุกตัวอยู่กับผู้ชายแบบนี้ เธอจะแต่งงานกับเย่เทียนหยู่ได้ยังไงหนุ่มผมทองไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องดี ๆ แบบนี้ ได้ทั้งคนสวยได้ทั้งเงิน เขาจึงตอบตกลงทันที “ได้ แค่ครั้งเดียวก็พอ มึงเป็นคนบอกเองนะ ตอนนี้มึงไปโรงพยาบาลกับกูซะ”“ทำไมต้องไปโรงพยาบาล”“ถ้ามึงหนีไปจะทำยังไง?” หนุ่มผมทองพูดอย่างเย็นชา“มือสองข้างของแกเป็นแบบนี้ แล้วจะ…”“เหอะ จะทำเรื่องนั้นไม่ได้ต้องให้ผมใช้มือนี่?” หนุ
เวลาเช้า 08:59 น หลินหว่านหรูจอดรถด้วยความไม่เต็มใจ เรียกได้ว่าเธอพยายามาสายเธอตั้งใจจะมาช้ากว่าเวลานัด เมื่อมองไปที่ประตูก่อนจะลงจากรถ เย่เทียนหยู่ไม่ได้อยู่ที่นี่ เธอจึงค่อย ๆ เดินลงไปอย่างเปิดเผยหลังจากมาถึงประตูหลินหว่านหรูก็เหลือบมองเวลาเก้าโมงกว่าแล้ว!เย่เทียนหยู่ยังไม่ปรากฏตัว!หึ ตาบ้านั่นปากแข็งชัด ๆ เก้าโมงกว่าแล้วก็ยังไม่เห็นมาเลยดูท่าคงทนหย่ากับเธอไม่ไหวต้องอย่างนี้สิ ก็ฉันสวยมาก สวยอย่างกับนางฟ้าและโดดเด่น ผู้ชายคนไหนมีเธอแล้วจะยอมเสียไปกันล่ะยิ่งหลินหว่านหรูคิดก็ยิ่งมีความสุข ความกังวลใจ ความวิตกกังวลก่อนหน้านี้หายไปหมดแล้วเธอเตรียมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาเย่เทียนหยู่ถามว่าทำไมไม่มาแต่ทันทีที่เธอโทรออก เธอก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นข้างหลัง และเธอก็อดตัวสั่นไม่ได้เสียงเรียกเข้านี้เป็นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือของเย่เทียนหยู่อย่างแน่นอนไม่ใช่เขาใช่ไหมเป็นไปไม่ได้“คุณกำลังโทรหาผมเหรอครับ?”ในขณะนี้เอง เสียงอันอ่อนโยนของเย่เทียนหยู่ดังมาจากด้านหลังหลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะค่อย ๆ หันหน้าไป ก่อนจะเห็นเย่เทียนหยู่ที่สวมชุดลำลองดูหล่อ
ในขณะนี้ เธอกำลังอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ทำให้เธอเต็มใจรับฟังได้มากขึ้นทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของหลินหว่านหรูก็ดังขึ้น เมื่อเธอมองดูก็เห็นว่าคนที่โทรมาคือซูถิงส่วนตัวซูถิงเองในเวลานี้กำลังโกรธจัดเมื่อคืน เพราะหวงเหมาได้รับบาดเจ็บ หวงเหมาเลยไม่ได้ขอมีอะไรกับเธอ แต่ก็ยังถูกเขาบังคับให้ใช้ปากครั้งหนึ่งในโรงพยาบาลเรื่องนี้ทำให้ซูถิงรู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมาก เธอกลับไปบ้วนปากนับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอก็ยังรู้สึกแย่แทบทนไม่ไหวเธอรู้สึกว่าเรื่องในครั้งนี้ต้องโทษเย่เทียนหยู่และหลินหว่านหรูถ้าไม่ใช่เพราะเย่เทียนหยู่เข้ามาขัดจังหวะ หลินหว่านหรูกับกงซุนจื้อก็คงจะได้กันไปแล้ว และเธอก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้ถ้าหลินหว่านหรูไม่ทิ้งเธอไว้ตามลำพัง เธอคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น“ถิงถิง เธอโอเคไหม? ยังเจ็บหน้าอยู่หรือเปล่า?” หลินหว่านหรูถามด้วยความห่วงใย ซูถิงพยายามสุดชีวิตเพื่อจะช่วยเธอเมื่อคืนนี้เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของซูถิงแสดงความขุ่นเคือง แต่เธอก็ยังตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไร เรื่องมันผ่านไปแล้ว แล้วเธอล่ะ เมื่อคืนเย่เทียนหยู่ไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม”“ไม่ได้ทำ เขาไม่ใช่คนแบบนั้น” หลิน
หลังจากได้ยินคำพูดของหลินหว่านหรูแล้ว เย่เทียนหยู่ก็เห็นด้วยในความเป็นจริง เขาเองก็ไม่เต็มใจ แต่หลินหว่านหรูยืนกรานและไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำตามคำขอของเธอ นอกจากนี้การเป็นรองประธานยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ดีๆ ที่คุณไม่ควรพลาดอีกด้วยหลังจากที่ไม่ได้ไปแสดงตัวอยู่หลายวัน เย่เทียนหยู่ก็ไปปรากฏตัวที่บริษัทอีกครั้ง ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายเมื่อเร็ว ๆ นี้ หลายคนแพร่ข่าวลือว่า เย่เทียนหยู่หยิ่งขึ้นระยะหลังมานี้ หลังจากประสบความสำเร็จเล็กน้อย จนทำให้ประธานหลินโกรธและอยากไล่เขาออกสิ่งสำคัญคือในขณะนี้ ทุกคนได้รับอีเมลแจ้งว่าเย่เทียนหยู่ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้นำทีมขาย และหลิว ซือซือเข้ามารับตำแหน่งผู้นำทีมขายแทนวินาทีแรกที่จางเหยียนเห็นอีเมลนี้ เธอก็ตกใจเล็กน้อยแม้ว่าหลิวซือซือจะพูดเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวมาหลายวันแล้ว ยิ่งเป็นเพราะมีข่าวลือไม่พึงประสงค์มากมายเกี่ยวกับเย่เทียนหยู่ เธอก็เลยเริ่มสงสัยว่าหรือแผนกถูกยุบแต่คิดไม่ถึงว่าในที่สุดเขาก็มาที่บริษัท เมื่อมองดูหลิวซือซือที่อยู่ข้าง ๆ เธอก็พูดว่า “ซือซือยินดีด้วยนะ ต่อจากนี้ไปเธอจะเป็นหัวหน้าของฉันแล้ว”
“หึ ไม่มีใครเกลียดนายหรอก แต่พวกผู้หญิงตาบอดชอบนายกันหมด เราเลยทนดูต่อไปไม่ไหว”เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้น ในที่สุดเขาก็เข้าใจและพูดอย่างใจเย็น “ผมไม่คิดว่าพวกเธอตาบอด ตรงกันข้าม เหมือนคนตาบอดจะเป็นพวกคุณนะ”“หลิวสุ่ย ไปที่แผนกทรัพยากรบุคคล แล้วไล่พวกเขาออกให้หมด”ทันทีที่สิ้นคำพูด ทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งหลิวสุ่ยก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งเช่นกันพี่เย่ ตามปกติจะไล่คนออกก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งแล้วในตอนแรกคนอื่นๆ ต่างก็ตกใจ จากนั้นจึงเยาะเย้ยทันที “เหอะ อวดดีอะไรอยู่? คิดว่าตัวเองยังเป็นหัวหน้าเย่ผู้เก่งกาจคนนั้นอยู่อีกหรือไง?”“ใช่ ผมไม่ใช่หัวหน้าทีมเย่อีกต่อไปแล้ว”“แต่ผมกำลังจะเป็นผู้อำนวยการเย่ของแผนกขายเร็วๆ นี้”เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ“อะไรนะ มันเป็นไปไม่ได้!” หลายคนตกใจกลัวหลิวสุ่ยก็ตกตะลึงเช่นกัน“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก พี่เย่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ”ในขณะนี้เอง หลิวซือซือเข้ามาและพูดอย่างเย็นชา “เมื่อไม่กี่วันก่อน พี่เย่ มาหาฉันเองและขอให้ฉันรับตำแหน่งหัวหน้าทีม เพราะเขาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขาย”“เป็นไปไม่ได
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก