จางเหยียนสีหน้าไม่สู้ดีนัก เพราะสิ่งที่เธอทำ แค่การไล่ออกยังถือว่าเป็นเรื่องเล็ก กลัวก็แต่จะถูกเรียกร้องให้รับผิดชอบ เธอจึงเอ่ยปากขอวอนโดยไม่รู้ตัว:“ซือซือ ขอร้องล่ะ คุณช่วยหน่อยนะ ถ้าคุณไม่ช่วยฉัน ฉันตายแน่เลย”ในขณะนี้เธอไม่มีความเย่อหยิ่งเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปไม่ต้องเอ่ยถึงแต่ก่อนที่เธอเอาแต่บอกว่า อยากจัดการกับเย่เทียนหยู่เลยหลิวซือซือส่ายหน้าและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันช่วยคุณเรื่องนี้ไม่ได้หรอก เพราะความสัมพันธ์ของฉันกับหัวหน้าทีมเย่ไม่ค่อยดีนัก และความผิดที่คุณทำนั้นร้ายแรงมาก”ทันทีที่เธอพูดแบบนี้ เธอก็ตกใจเล็กน้อยและพูดว่า “ทำไมวิดีโอถึงหายไปอีกแล้วล่ะ”แน่นอน วิดีโอถูกตัดขาดไปอีกครั้งผู้คนด้านนอกเองก็ดูได้ถึงตรงนี้ก็มองไม่เห็นอะไรอีก แต่มาถึงจุดนี้พวกเขาไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้นอีกแล้วเพราะถึงยังไง เรื่องราวก็คลี่คลายความจริงแล้วต่อจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจัดการกับผลที่ตามมา การแก้ไขปัญหาและการชดเชยเงินมีคนตั้งมากมายกำลังมองดู อีกทั้งยังมีนักข่าว พวกเขาจะต้องชดเชยให้ไม่น้อยแน่การตัดขาดการติดต่อจากคนภายนอกแบบนี้ แน่นอนว่าเย่เทียนหยู่เป็
“เฮ้อ มาถึงตรงนี้แล้ว คุณก็ยังไม่สำนึกถึงความใจดีของประธานหลินอีก”“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องฟังประธานหลินแล้วเอาตามที่ผมว่า แจ้งตำรวจซะเลยตอนนี้แล้วให้คนของสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์เข้าแทรกแซงตรวจสอบ คนที่ควรติดคุกก็ติดซะ ที่ควรโดนปรับก็ปรับไป”เย่เทียนหยู่เอ่ยเสียงเรียบ ระหว่างที่พูดเขาก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาทันที “ผมจะโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้” เขาพูดเรื่องนี้ทำเอาผู้คนจ้องเขม็งไปที่โทรศัพท์ของเขาโดยไม่รู้ตัวแม้แต่หลินหว่านหรูเองก็ด้วย ตัวเธอไปมีแผนอะไรตั้งแต่เมื่อไรยังถึงบอกว่าไม่ฟังเธอ แต่ว่าเรื่องนี้หลินหว่านหรูไม่ค่อยอยากแจ้งตำรวจจริงๆ จนแทบอดห้ามเขาไว้ไม่อยู่เพียงแต่หลี่ว์ซิงเหอเป็นฝ่ายทนไม่ไหวเสียก่อน เขานึกว่าเห็นแก่ที่เขาเป็นพนักงานเก่าแก่ของบริษัทจะไม่ทำกับเขาขนาดนั้น แต่ใครจะไปคิดว่าจะเจอคนบ้าแบบเย่เทียนหยู่เขารีบพูดขึ้นทันที “ถ้ายังไงก็ลองฟังแผนของประธานหลินดูก่อน”“ไม่ดีกว่า ผมว่าคุณไม่อยากรับความเมตตา” เย่เทียนหยู่ส่ายหน้า“ลองฟังก่อนสิ ถ้ายังไว้หน้ากันบ้างผมรับแน่” หลี่ว์ซิงเหอรีบพูด ตอนนี้เขากลัวเข้าแล้วจริงๆหลินหว่านหรูมองไปที่ท่าทางที่ซีดเซียวและวิตกกังวลของ
เมื่อได้ฟังการสนทนาระหว่างทั้งสอง หลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นปกติแล้ว การซื้อหุ้นของหลี่ว์ซิงเหอในราคาห้าร้อยล้านจะถูกมาก แต่ปัญหาคือตอนนี้เธอไม่มีเงินห้าร้อยล้านแล้วเย่เทียนหยู่ไม่ได้ถามเธอด้วยซ้ำว่าเธอมีเงินมากขนาดนั้นหรือไม่ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้บริษัทได้รับผลกระทบอย่างมาก และจะมีปัญหาที่ใหญ่กว่านี้รออยู่ข้างหน้าในเวลานี้ การใช้จ่ายห้าร้อยล้านเพื่อซื้อหุ้นของหลี่ว์ซิงเหอ อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีแต่ในขณะนี้ เธอไม่จะออกมาทำลายแผนไม่ได้คำพูดของเย่เทียนหยู่ทำให้หลี่ว์ซิงเหอพูดไม่ออกแน่นอนว่าการปฏิรูปครั้งใหญ่ของหลินหว่านหรูทำให้มีระยะที่ยากลำบากอยู่บ้างแต่ก็ผ่านกันมาได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ที่บริษัทได้เข้าร่วมหอการค้าหลงเถิงจากนั้นจึงร่วมมือกับนายน้อยซูในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางปัวเรต์ เมื่อประกอบกับความร่วมมือของธนาคาร ทุกอย่างกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็วเพียงแค่ว่า คงต้องอดทนผ่านช่วงเวลาที่การเงินถูกจำกัดเพราะการขยายตัวแบบนี้ไปก่อน โดยเฉพาะครั้งที่แล้วเขาถูกหลิวเจี๋ยหลอก ทำให้เงินทุนของบริษัทหลายสิบล้านได้รับความเสียหายแต่หลี่ว์ซิงเหอกล่าวอย่างรวดเร็
“ให้เงินเข้าบัญชีตอนนี้คงทำไม่ได้ ให้เวลาเราสามวัน ภายในสามวัน เงินห้าร้อยล้านจะถึงมือ”“จริงสิ ประธานหลินร่างสัญญาไว้ให้คุณแล้ว คุณลองดูก่อน”เย่เทียนหยู่รับเอกสารสัญญาสองฉบับมาจากคนทื่ยืนอยู่ข้างๆ ระหว่างที่เขากำลังพูด จากนั้นก็ยื่นออกไป ฉบับหนึ่งให้หลี่ว์ซิงเหอ อีกฉบับให้หลินหว่านหรูหลี่ว์ซิงเหอตกตะลึงพร้อมกับรับสัญญา เขาทำสีหน้าขมขื่นระหว่างอ่านเนื้อหาบนสัญญาที่แท้ เขาถูกกำหนดให้พ่ายแพ้มาแต่แรกไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะเตรียมเอาไว้แม้แต่สัญญาซื้อกิจการได้ยังไงกัน นี่หมายความว่า เรื่องทั้งหมดอยู่ในแผนการของอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้วทุกคนมองดูฉากด้วยหัวใจสั่นระรัวที่แท้ทุกอย่างอยู่ในแผนการของประธานหลิน ที่แท้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ประธานหลินวางหมากไว้ส่วนพวกเขากลับเป็นคนโง่ ที่คิดว่าประธานหลินกำลังจะจบเห่ ถึงขั้นไล่เธอลงจากตำแหน่งในยามนี้ ภายในใจของคนที่อยากจะไล่หลินหว่านหรูออกจากต่างก็กำลังหวาดหวั่นและตึงเครียดถึงที่สุดในยามนี้ พวกเขาเข้าใจแล้วในที่สุดประธานหลินเป็นจูกัดเหลียงร่างผู้หญิงตอนนี้แม้แต่หลี่ว์หรงก็ยังตกตะลึง เขาพูดอย่างเหลือเชื่อว่า “พี่ใหญ่ เรื่องทั้งหมดหว่าน
เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของหลี่ว์ซิงเหอก็เปลี่ยนไปหลี่ว์ซิงเหอหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ“ฉันต้องบอกว่าสัญญานี้ดีมาก มันทำให้ฉันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าร่วมในหลินซื่อกรุ๊ปหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับมัน”“แต่มันยังทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยด้วย เพราะปัญหาที่ตามมาทั้งหมดของหลินซื่อกรุ๊ปไม่เกี่ยวข้องกับฉัน แม้ว่ามันจะเป็นปัญหาใหญ่ก็ตาม”หลี่ว์ซิงเหอเยาะเย้ย“คุณหมายความว่ายังไง” หลินว่านหรูรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ และมักจะรู้สึกว่าต้องมีการฉ้อโกงเกิดขึ้น มิฉะนั้น หลี่ว์ซิงเหอคงไม่มีทัศนคติเช่นนี้ในเวลานี้“คุณจะรู้ว่าฉันหมายถึงอะไรเร็วๆ นี้ ฉันอยากรู้ว่าประธานหลินจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหลังจากที่เขากำจัดฉัน” หลี่ว์ซิงเหอ หัวเราะเบา ๆหลินหว่านหรูรู้ได้อย่างไรว่าแผนคืออะไร ตอนนี้เธอสับสนอย่างสิ้นเชิงและไม่รู้อะไรเลย ทุกอย่างนำโดยเย่เทียนหยู่หลังจากที่หลี่ว์ซิงเหอถาม ทุกคนก็มองไปที่หลินว่านหรูคราวนี้ หลี่ว์ซิงเหอ จ้องไปที่หลี่ว์ซิงเหออย่างใกล้ชิดแน่นอนว่าหลี่ว์ซิงเหอดูไม่ได้เตรียมตัวมาเลยและเย่เทียนหยู่ก็พูดอีกครั้งเป็นอย่างนี้นี่เองภายในใจของหลี่ว์ซิงเหอพรั่นพรึงอย
แต่ทุกคนก็เชื่อเขา “แต่ถึงแบบนั้น ชื่อเสียงในส่วนนั้นก็เน่าเหม็นไปแล้ว จะให้ทุกคนเชื่อในสินค้าใหม่ของเราได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้นแล้วสินค้าใหม่ของเราโอเคจริงๆ เหรอ?”“ตามปกติคงยากจะทำให้ดี แต่ครั้งนี้ผมตรวจสอบต้นเหตุทั้งหมดมาแล้ว ทุกคนจะต้องเข้าใจแน่ ถ้าเป็นสินค้าใหม่ของเรา จะต้องลบรอยด่างดำบนหน้าของผู้เสียหายได้แน่ และมันก็จะเป็นการโฆษณาอันยิ่งใหญ่ไม่ใช่เหรอ?”เย่เทียนหยู่เอ่ยเสียงเรียบ“และเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่ฮือฮามาก ถึงแม้ว่ามันจะสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของบริษัทอย่างมาก แต่ก็สามารถแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราได้อย่างง่ายดาย”“หากผลิตภัณฑ์นั้นใช้งานง่ายจริงๆ มันจะต้องเป็นที่นิยมแน่นอน!”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ ทุกคนก็พยักหน้าหากพัฒนาเช่นนี้ จะไม่เพียงแต่แก้ปัญหาภายนอกและลดปริมาณการชดเชยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มหาศาลสำหรับการพัฒนาในอนาคตอีกด้วยดูเหมือนว่าประธานหลินจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วคิดไปถึงแผนสำรองแล้วด้วยซ้ำ!หลินหว่านหรูเพียงนั่งอยู่ที่นั่นและฟังทั้งหมดนี้อย่างตั้งใจเธอไม่รู้จริงๆว่าบริษัทมีผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่ไหนส่วนจุดด่างด
เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในใจของเธอ การกำจัดจุดดำนี้เป็นเรื่องยากมาก แต่ด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันจะแก้ไขได้ไม่ช้าก็เร็ว ท้ายที่สุดแล้วมันไม่ได้มีมา แต่กำเนิด แต่ได้รับความเสียหายจากยาแต่จากสิ่งที่ฉันได้ยินฉันไม่สามารถเข้าใจได้หากเป็นเช่นนั้น ค่าชดเชยที่ทุกคนเรียกร้องจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้แต่คราบสกปรกเช่นนี้ก็ยังติดตามบริษัทไปด้วย ทำลายเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามด้วยผลลัพธ์แบบนี้ใครจะไว้วางใจเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ปในอนาคตท้ายที่สุดแล้ว มันไม่ใช่ตัวคุณเองที่จะบอกคุณว่าทำไม สิ่งที่ทุกคนเห็นคือเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ป ทำลายชีวิตของพวกเขาเมื่อทุกคนด้านล่างได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป พวกเขาทุกคนก็คิดถึงเรื่องนี้หากเป็นกรณีนี้ ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางจะเสียหายอย่างสิ้นเชิง แต่เงินลงทุนจำนวนมหาศาลจะไม่ได้รับผลตอบแทนใด ๆ เลย และจะส่งผลกระทบต่อบริษัทด้วยซ้ำเมื่อรวมกับค่าชดเชยจำนวนมาก หากคุณพบบางสิ่งที่จัดการได้ยากกว่า คุณอาจขอค่าชดเชยจำนวนมหาศาลหรือฟ้องร้องพวกเขาก็ได้สรุปแล้ว หากทั้งหมดนี
“แต่ฉันจะหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวนั่นได้จากที่ไหนล่ะ?” หลินว่านหรูถามอย่างหมดหนทาง“ใช่ ฉันเป็นลูกศิษย์ของแพทย์เซียน บังเอิญว่าอาจารย์ของฉันมีใบสั่งยาที่มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในด้านนี้ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการขัดเกลาและการวิจัยอย่างรอบคอบก่อนจึงจะทำเป็นเครื่องสำอางได้”“แต่อย่าเพิ่งกังวลไปตอนนี้ ในขณะที่ความร้อนอยู่ที่นี่ มามีชื่อเสียงกันก่อน ยังไงก็ตาม ชื่อนี้ยังไม่ได้ถูกเลือก คุณคิดเองก็ได้”“หมายความว่ายังไงที่ฉันอยากได้? นั่นคือสูตรของคุณ”“ของของฉันไม่ใช่ของคุณเหรอ? อย่างไรก็ตาม ฉันมอบมันให้กับคุณแล้ว และมันจะเป็นของคุณโดยสมบูรณ์นับจากนี้ไป คุณจะใช้มันอย่างไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ” เย่เทียนหยู่กล่าวเมื่อได้ฟังแบบนั้น หลินหว่านหรูก็รู้สึกประทับใจมาก แต่เธอก็คิดถึงคำถามอื่นและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ทำไมคุณถึงซื้อหุ้นของหลี่ว์ซิงเหอด้วยความคิดริเริ่มของคุณเอง”“ถ้าคุณไม่ซื้อตอนนี้ ทำไมไม่ซื้อในเมื่อมูลค่าตลาดของบริษัทเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่าลืมว่าหากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเราได้รับความนิยมอย่างมาก มูลค่าตลาดของบริษัทก็จะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน”“แต่ไม่เป็นความจริงหรอกหรือที่ดวงยั
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก