เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของหลี่ว์ซิงเหอก็เปลี่ยนไปหลี่ว์ซิงเหอหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ“ฉันต้องบอกว่าสัญญานี้ดีมาก มันทำให้ฉันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าร่วมในหลินซื่อกรุ๊ปหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับมัน”“แต่มันยังทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยด้วย เพราะปัญหาที่ตามมาทั้งหมดของหลินซื่อกรุ๊ปไม่เกี่ยวข้องกับฉัน แม้ว่ามันจะเป็นปัญหาใหญ่ก็ตาม”หลี่ว์ซิงเหอเยาะเย้ย“คุณหมายความว่ายังไง” หลินว่านหรูรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ และมักจะรู้สึกว่าต้องมีการฉ้อโกงเกิดขึ้น มิฉะนั้น หลี่ว์ซิงเหอคงไม่มีทัศนคติเช่นนี้ในเวลานี้“คุณจะรู้ว่าฉันหมายถึงอะไรเร็วๆ นี้ ฉันอยากรู้ว่าประธานหลินจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหลังจากที่เขากำจัดฉัน” หลี่ว์ซิงเหอ หัวเราะเบา ๆหลินหว่านหรูรู้ได้อย่างไรว่าแผนคืออะไร ตอนนี้เธอสับสนอย่างสิ้นเชิงและไม่รู้อะไรเลย ทุกอย่างนำโดยเย่เทียนหยู่หลังจากที่หลี่ว์ซิงเหอถาม ทุกคนก็มองไปที่หลินว่านหรูคราวนี้ หลี่ว์ซิงเหอ จ้องไปที่หลี่ว์ซิงเหออย่างใกล้ชิดแน่นอนว่าหลี่ว์ซิงเหอดูไม่ได้เตรียมตัวมาเลยและเย่เทียนหยู่ก็พูดอีกครั้งเป็นอย่างนี้นี่เองภายในใจของหลี่ว์ซิงเหอพรั่นพรึงอย
แต่ทุกคนก็เชื่อเขา “แต่ถึงแบบนั้น ชื่อเสียงในส่วนนั้นก็เน่าเหม็นไปแล้ว จะให้ทุกคนเชื่อในสินค้าใหม่ของเราได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้นแล้วสินค้าใหม่ของเราโอเคจริงๆ เหรอ?”“ตามปกติคงยากจะทำให้ดี แต่ครั้งนี้ผมตรวจสอบต้นเหตุทั้งหมดมาแล้ว ทุกคนจะต้องเข้าใจแน่ ถ้าเป็นสินค้าใหม่ของเรา จะต้องลบรอยด่างดำบนหน้าของผู้เสียหายได้แน่ และมันก็จะเป็นการโฆษณาอันยิ่งใหญ่ไม่ใช่เหรอ?”เย่เทียนหยู่เอ่ยเสียงเรียบ“และเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่ฮือฮามาก ถึงแม้ว่ามันจะสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของบริษัทอย่างมาก แต่ก็สามารถแจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราได้อย่างง่ายดาย”“หากผลิตภัณฑ์นั้นใช้งานง่ายจริงๆ มันจะต้องเป็นที่นิยมแน่นอน!”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ ทุกคนก็พยักหน้าหากพัฒนาเช่นนี้ จะไม่เพียงแต่แก้ปัญหาภายนอกและลดปริมาณการชดเชยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มหาศาลสำหรับการพัฒนาในอนาคตอีกด้วยดูเหมือนว่าประธานหลินจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วคิดไปถึงแผนสำรองแล้วด้วยซ้ำ!หลินหว่านหรูเพียงนั่งอยู่ที่นั่นและฟังทั้งหมดนี้อย่างตั้งใจเธอไม่รู้จริงๆว่าบริษัทมีผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่ไหนส่วนจุดด่างด
เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปในใจของเธอ การกำจัดจุดดำนี้เป็นเรื่องยากมาก แต่ด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันจะแก้ไขได้ไม่ช้าก็เร็ว ท้ายที่สุดแล้วมันไม่ได้มีมา แต่กำเนิด แต่ได้รับความเสียหายจากยาแต่จากสิ่งที่ฉันได้ยินฉันไม่สามารถเข้าใจได้หากเป็นเช่นนั้น ค่าชดเชยที่ทุกคนเรียกร้องจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้แต่คราบสกปรกเช่นนี้ก็ยังติดตามบริษัทไปด้วย ทำลายเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามด้วยผลลัพธ์แบบนี้ใครจะไว้วางใจเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ปในอนาคตท้ายที่สุดแล้ว มันไม่ใช่ตัวคุณเองที่จะบอกคุณว่าทำไม สิ่งที่ทุกคนเห็นคือเครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ป ทำลายชีวิตของพวกเขาเมื่อทุกคนด้านล่างได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป พวกเขาทุกคนก็คิดถึงเรื่องนี้หากเป็นกรณีนี้ ไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางจะเสียหายอย่างสิ้นเชิง แต่เงินลงทุนจำนวนมหาศาลจะไม่ได้รับผลตอบแทนใด ๆ เลย และจะส่งผลกระทบต่อบริษัทด้วยซ้ำเมื่อรวมกับค่าชดเชยจำนวนมาก หากคุณพบบางสิ่งที่จัดการได้ยากกว่า คุณอาจขอค่าชดเชยจำนวนมหาศาลหรือฟ้องร้องพวกเขาก็ได้สรุปแล้ว หากทั้งหมดนี
“แต่ฉันจะหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวนั่นได้จากที่ไหนล่ะ?” หลินว่านหรูถามอย่างหมดหนทาง“ใช่ ฉันเป็นลูกศิษย์ของแพทย์เซียน บังเอิญว่าอาจารย์ของฉันมีใบสั่งยาที่มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในด้านนี้ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการขัดเกลาและการวิจัยอย่างรอบคอบก่อนจึงจะทำเป็นเครื่องสำอางได้”“แต่อย่าเพิ่งกังวลไปตอนนี้ ในขณะที่ความร้อนอยู่ที่นี่ มามีชื่อเสียงกันก่อน ยังไงก็ตาม ชื่อนี้ยังไม่ได้ถูกเลือก คุณคิดเองก็ได้”“หมายความว่ายังไงที่ฉันอยากได้? นั่นคือสูตรของคุณ”“ของของฉันไม่ใช่ของคุณเหรอ? อย่างไรก็ตาม ฉันมอบมันให้กับคุณแล้ว และมันจะเป็นของคุณโดยสมบูรณ์นับจากนี้ไป คุณจะใช้มันอย่างไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ” เย่เทียนหยู่กล่าวเมื่อได้ฟังแบบนั้น หลินหว่านหรูก็รู้สึกประทับใจมาก แต่เธอก็คิดถึงคำถามอื่นและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ทำไมคุณถึงซื้อหุ้นของหลี่ว์ซิงเหอด้วยความคิดริเริ่มของคุณเอง”“ถ้าคุณไม่ซื้อตอนนี้ ทำไมไม่ซื้อในเมื่อมูลค่าตลาดของบริษัทเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่าลืมว่าหากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเราได้รับความนิยมอย่างมาก มูลค่าตลาดของบริษัทก็จะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน”“แต่ไม่เป็นความจริงหรอกหรือที่ดวงยั
ขณะนี้มีผู้สื่อข่าวจำนวนมากจากสื่อช่องทางต่างๆ และสถานีโทรทัศน์รายงานสดเกี่ยวกับสถานการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์นี้ได้รับความนิยมเพียงใดหากจัดการได้ไม่ดีพอ ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนโชคร้ายสักกี่คน อย่างน้อยหลินซื่อกรุ๊ปก็คงถึงคราวจบสิ้นอย่างแน่นอนในขณะนี้ หลี่ว์ซิงเหอเดินออกมาทางด้านของของห้องประชุมก่อน ส่วนเย่เทียนหยู่เพียงป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้หลินหว่านหรู แต่ไม่ได้จำกัดการกระทำของเขาเมื่อมองดูผู้คนที่กำลังโวยวายอยู่ข้างนอก หลี่ว์ซิงเหอก็แอบเยาะเย้ยอยู่ในใจเย่เทียนหยู่ ไม่ว่าแกจะเก่งแค่ไหน วางแผนไว้มากแค่ไหน แกก็แก้ปัญหาจุดด่างดำไม่ได้หรอก ตอนนี้ฉันจะคอยดูอยู่เงียบ ๆ ว่าแกจะตายยังไง“ประธานหลี่ว์...”จางเหยียนเห็นหลี่ว์ซิงเหอ และก้าวไปข้างหน้าทันที“ผมไม่ใช่ประธานหลี่ว์อีกต่อไปแล้ว และหลินซื่อกรุ๊ปก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม” หลี่ว์ซิงเหอพูดอย่างใจเย็น“อ่า……”เนื่องจากการถ่ายทอดสดถูกตัดออกไปในภายหลัง จางเหยียนจึงไม่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด เขาอดไม่ได้ที่จะหน้าซีดในขณะเดียวกัน ซูเหวินฮุยเองได้ทราบถึงสถานการณ์ในห้องประชุมก่อนจะเผยสีหน้าเยอะเย้ย ไม่คิดเลยว่าหลินหว่านหรูจ
“นั่นสิ แต่ถ้าเรามีวิธีการเอาจุดด่างดำบนหน้าออกละก็ ก็อาจจะช่วยคุณได้ใช่ไหม?” จางผิงเอ่ยปากถาม“เป็นไปไม่ได้!”“แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญอย่างฮวาเสวี่ยยังทำอะไรไม่ได้ คุณคิดว่าแค่บริษัทเครื่องสำอางจะมีวิธีการหรือยังไงกัน?”เฉินเฟยเฟยส่ายหน้า“แต่เมื่อกี้เขาบอกว่า...”“เขาแค่พูดไปอย่างนั้น”เฉินเฟยเฟยส่ายหน้า แต่ขณะที่เธอเป็นกังวลก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากเขาทำสิ่งที่คนอื่นไม่อาจทำได้จริงๆ ล่ะ จะมีโอกาสลบรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอได้ด้วยหรือเปล่าในเวลาเดียวกัน พี่สาวจงเล่ยก็เห็นมันเช่นกัน และพูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “เป็นเธอเอง โอเค ใส่รองเท้าเหล็กแล้วหาอะไรไม่เจอจริงๆ ไม่ต้องพยายามเลยที่จะมาที่นี่”“ตอนนี้ฉันรู้ว่าคุณมาทำงานที่ไหน ฉันจะขุดคุณออกไปได้ รอก่อน แล้วฉันจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับคุณอย่างแน่นอน”ในเวลานี้ หลินหว่านหรูโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบทันที ขณะเดียวกันเธอก็หยิบไมโครโฟนและพูดเสียงดัง “ทุกคน ได้โปรดเงียบและฟังฉันก่อนนะคะ!”ในสายตาของทุกคน หลินหว่านหรูก็คือคู่กรณีทันทีที่เธอพูด สถานการณ์ก็กลับเข้าสู่ความสงบทันที“ก่อนอื่นเลย เกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ แม้
ในตอนนี้เย่เทียนหยู่หยิบไมโครโฟนอีกตัวแล้วพูดเสียงดังด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หุบปาก!”ทันทีที่สิ้นคำพูด ทุกคนก็ตกใจ!ก่อนที่ทุกคนจะตะลึงงันอยู่กับที่ ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่เทียนหยู่จะกล้าที่จะหยิ่งผยองขนาดนี้ในเวลานี้อย่าว่าแต่คนอื่น แม้แต่หลินหว่านหรูก็ยังตกตะลึงทำแบบนี้อาจถูกเอาไปด่าทัวร์ลงบนเน็ตได้ทุกเมื่อหลี่ว์ซิงเหอยิ่งตกตะลึงมากกว่าเดิม สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย ไอ้เด็กนี่คงจะบ้าไปแล้วแต่แล้วเย่เทียนหยู่ก็พูดขึ้นด้วยความเย็นชา “อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าภายในนี้มีแค่คนส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นผู้เสียหายกับญาติ และส่วนใหญ่เป็นพวกเข้ามาสอดรู้เรื่องชาวบ้านหรือไม่ก็เข้ามาก่อเรื่อง”“ถ้าพวกคุณต้องการแก้ไขปัญหาจริงๆ และต้องการทำเพื่อผู้เสียหายจริง คุณก็ไม่ควรทำให้เรื่องมันวุ่นวาย ประธานหลินสัญญาว่าจะให้คำตอบที่น่าพอใจ เพราะฉะนั้นเธอก็จะให้แน่นอน”“เพราะอย่างนั้น ขอให้ทุกคนเงียบกันก่อน แล้วฟังแผนการแก้ปัญหาของเรา ถ้าพวกคุณไม่พอใจ พวกคุณก็ค่อยเรียกร้อง”“อีกอย่าง แผนการนี้ผมก็ได้รับรู้ด้วย เป็นแผนที่สมบูรณ์แบบ ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องพอใจอย่างแน่นอน”คำพูดเช่นนี้ปลอบประโลมคนที่อย
เพราะเสียงของเขาเป็นมีแรงทะลวงไม่น้อย ทำให้แทรกผ่านเข้าไปในหูของผู้ฟังได้อย่างง่ายดาย ผู้คนในที่นี่ทุกคนจึงสงบลงอย่างรวดรเร็วเพราะถึงยังไงซะ ก่อนหน้าทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่าชายหนุ่มคนนี้พูดจาฉะฉานมีหลักมีฐาน และค่อย ๆ เผยความจริงทุกอย่างออกมาทีละก้าวถึงแม้สิ่งที่พวกเขาต้องการจะไม่ใช่ความจริง แต่ก็แก้ไขปัญหายุ่งยากของพวกเขาได้ แถมยังได้เงินชดเชน แต่ชายหนุ่มคนนี้มีความสามารถอย่างไม่ต้องสงสัยยังมีผู้รับประกันแทนด้วยเหรอ?หลินหว่านหรูเหม่อลอยไปอีกครั้ง ทำไมเธอไม่รู้เลยว่ามีคนมาค้ำประกันให้แทนด้วยแต่ในขณะนั้นเอง ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขาอายุราวสามสิบปี แต่ท่าทางภูมิฐานไม่ธรรมดา ทั้งท่วงท่าของเขายังให้ความรู้สึกเหมือนบัตเลอร์นี่มัน?“เลขาหวัง?”นักข่าวแถวหน้าจำบุคคลนั้นได้และตะโกนด้วยความประหลาดใจ“เลขาหวัง คุณมาที่นี่ได้ยังไงกันคะ?”นักข่าวหญิงอีกคนจำบุคคลนั้นได้จึงยื่นไมโครโฟนให้ทันที และพยายามดำเนินการสัมภาษณ์โดยเร็วที่สุด นี่คือเลขาของหวงหงเจี้ยนผู้เป็นนายกเทศมนตรีประจำเมืองหวงซีวันนี้ทำผลงานได้ดีมากและมีผลงานโดดเด่นสามารถขึ้นต่อได้ทุกเมื่อ ไปที่เมืองอื่นเพื่อเป็นผู้นำระดั
ในตอนที่เหอฉุนเดินออกมา เดิมทีเธอตั้งใจหยิบตั๋วเพิ่มมาสองสามใบ มีที่นั่งดี ๆ ในแถวแรกแค่หนึ่งที่เท่านั้น ส่วนที่นั่งอื่น ๆ อยู่ถัดลงไปด้านหลังอีกเล็กน้อยเวทีตรงนี้จัดไว้เพื่อที่เวลาทำการแสดง แม้ผู้ชมจะนั่งแถวหน้า ก็ไม่จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย เป็นตำแหน่งที่สบายมากแต่เพราะสายตาที่ไม่อยู่นิ่งของเย่เทียนหยู่ เธอเลยหยิบตั๋วแบบลวก ๆ ให้เขาไปหนึ่งใบ เดิมทีตามคำขอของเฉินเฟยเฟยนั้น คือต้องการให้เย่เทียนหยู่นั่งอยู่ตรงกลางของแถวแรกอย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ได้รับนั้นก็ถือว่าค่อนข้างดีเช่นกัน อยู่ในแถวที่สาม ซึ่งอาจจะสบายกว่าด้วยซ้ำแต่การโต้ตอบกับดารานักร้องนั้น ก็อาจจะลำบากไปสักหน่อยเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นอารมณ์ร้ายของเหอฉุนได้โดยธรรมชาติ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แถมอารมณ์ร้ายอีกต่างหาก เธอคงเคยถูกผู้ชายรังแกมาสินะในครั้งนี้ เขานั้นทายถูกแล้วจริง ๆแน่นอนว่าเย่เทียนหยู่ก็ไม่คิดที่จะถือสาเรื่องเล็กน้อยพวกนี้อยู่แล้ว เขาเหลือบมองหมายเลขบนตั๋ว และเดินตามฝูงชนเข้าไปด้านในหลังจากผ่านความยากลำบากในการแหวกฝูงชนเข้ามา ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็พบที่นั่งของเขาที่อยู่ตรง
เธอถึงขั้นตั้งใจสืบเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ และพบว่าตระกูลหนานกงเป็นถึงหนึ่งในตระกูลอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรมังกร พวกเขามีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงพวกเขาได้เลยพี่เย่เก่งกาจมากก็จริง หากเป็นแค่ตระกูลทั่วไปในเมืองตะวันออก เธอก็อาจจะลองเสี่ยงดวงดู แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหนานกง ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรับมือพวกเขาได้เลย“คุณเย่จะมาเหรอคะ?” จางผิงถามด้วยความประหลาดใจ“อือ ฉันเชิญเขามาชมคอนเสิร์ตของฉันในคืนนี้ และเขาเองก็ตอบตกลงแล้วด้วย” เมื่อพูดถึงเย่เทียนหยู่ ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยก็แสดงถึงความปิติขึ้นมา“ได้ค่ะ!”จางผิงพยักหน้า แต่ในใจเธอกลับกำลังคิดอยู่ว่า เธอควรจะใช้วิธีไหนเพื่อทำให้คุณเย่รู้เรื่องที่พี่เฟยเฟยกำลังถูกรังแกโดยเธอไม่จำเป็นต้องเป็นคนพูดดีไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอถึงมักคิดว่าตัวตนของคุณเย่นั้นไม่ธรรมดาบางที เขาอาจจะมีวิธีรับมือจริง ๆ ก็ได้เหอฉุนไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเองก็อยากที่จะพบกับบุคคลในตำนานคนนี้เหมือนกัน ดูว่าเขาโดดเด่นอย่างที่ทุกคนพูดกันจริงไหมแน่นอน หากดูจากเหตุการณ์ของปาร์คดาฮยอนก่อนหน้านี้แล้ว คนคนนี้น่าจะพอมีความสามา
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว