ขณะนี้มีผู้สื่อข่าวจำนวนมากจากสื่อช่องทางต่างๆ และสถานีโทรทัศน์รายงานสดเกี่ยวกับสถานการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์นี้ได้รับความนิยมเพียงใดหากจัดการได้ไม่ดีพอ ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนโชคร้ายสักกี่คน อย่างน้อยหลินซื่อกรุ๊ปก็คงถึงคราวจบสิ้นอย่างแน่นอนในขณะนี้ หลี่ว์ซิงเหอเดินออกมาทางด้านของของห้องประชุมก่อน ส่วนเย่เทียนหยู่เพียงป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้หลินหว่านหรู แต่ไม่ได้จำกัดการกระทำของเขาเมื่อมองดูผู้คนที่กำลังโวยวายอยู่ข้างนอก หลี่ว์ซิงเหอก็แอบเยาะเย้ยอยู่ในใจเย่เทียนหยู่ ไม่ว่าแกจะเก่งแค่ไหน วางแผนไว้มากแค่ไหน แกก็แก้ปัญหาจุดด่างดำไม่ได้หรอก ตอนนี้ฉันจะคอยดูอยู่เงียบ ๆ ว่าแกจะตายยังไง“ประธานหลี่ว์...”จางเหยียนเห็นหลี่ว์ซิงเหอ และก้าวไปข้างหน้าทันที“ผมไม่ใช่ประธานหลี่ว์อีกต่อไปแล้ว และหลินซื่อกรุ๊ปก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม” หลี่ว์ซิงเหอพูดอย่างใจเย็น“อ่า……”เนื่องจากการถ่ายทอดสดถูกตัดออกไปในภายหลัง จางเหยียนจึงไม่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด เขาอดไม่ได้ที่จะหน้าซีดในขณะเดียวกัน ซูเหวินฮุยเองได้ทราบถึงสถานการณ์ในห้องประชุมก่อนจะเผยสีหน้าเยอะเย้ย ไม่คิดเลยว่าหลินหว่านหรูจ
“นั่นสิ แต่ถ้าเรามีวิธีการเอาจุดด่างดำบนหน้าออกละก็ ก็อาจจะช่วยคุณได้ใช่ไหม?” จางผิงเอ่ยปากถาม“เป็นไปไม่ได้!”“แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญอย่างฮวาเสวี่ยยังทำอะไรไม่ได้ คุณคิดว่าแค่บริษัทเครื่องสำอางจะมีวิธีการหรือยังไงกัน?”เฉินเฟยเฟยส่ายหน้า“แต่เมื่อกี้เขาบอกว่า...”“เขาแค่พูดไปอย่างนั้น”เฉินเฟยเฟยส่ายหน้า แต่ขณะที่เธอเป็นกังวลก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากเขาทำสิ่งที่คนอื่นไม่อาจทำได้จริงๆ ล่ะ จะมีโอกาสลบรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอได้ด้วยหรือเปล่าในเวลาเดียวกัน พี่สาวจงเล่ยก็เห็นมันเช่นกัน และพูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “เป็นเธอเอง โอเค ใส่รองเท้าเหล็กแล้วหาอะไรไม่เจอจริงๆ ไม่ต้องพยายามเลยที่จะมาที่นี่”“ตอนนี้ฉันรู้ว่าคุณมาทำงานที่ไหน ฉันจะขุดคุณออกไปได้ รอก่อน แล้วฉันจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับคุณอย่างแน่นอน”ในเวลานี้ หลินหว่านหรูโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบทันที ขณะเดียวกันเธอก็หยิบไมโครโฟนและพูดเสียงดัง “ทุกคน ได้โปรดเงียบและฟังฉันก่อนนะคะ!”ในสายตาของทุกคน หลินหว่านหรูก็คือคู่กรณีทันทีที่เธอพูด สถานการณ์ก็กลับเข้าสู่ความสงบทันที“ก่อนอื่นเลย เกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ แม้
ในตอนนี้เย่เทียนหยู่หยิบไมโครโฟนอีกตัวแล้วพูดเสียงดังด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หุบปาก!”ทันทีที่สิ้นคำพูด ทุกคนก็ตกใจ!ก่อนที่ทุกคนจะตะลึงงันอยู่กับที่ ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่เทียนหยู่จะกล้าที่จะหยิ่งผยองขนาดนี้ในเวลานี้อย่าว่าแต่คนอื่น แม้แต่หลินหว่านหรูก็ยังตกตะลึงทำแบบนี้อาจถูกเอาไปด่าทัวร์ลงบนเน็ตได้ทุกเมื่อหลี่ว์ซิงเหอยิ่งตกตะลึงมากกว่าเดิม สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย ไอ้เด็กนี่คงจะบ้าไปแล้วแต่แล้วเย่เทียนหยู่ก็พูดขึ้นด้วยความเย็นชา “อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าภายในนี้มีแค่คนส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นผู้เสียหายกับญาติ และส่วนใหญ่เป็นพวกเข้ามาสอดรู้เรื่องชาวบ้านหรือไม่ก็เข้ามาก่อเรื่อง”“ถ้าพวกคุณต้องการแก้ไขปัญหาจริงๆ และต้องการทำเพื่อผู้เสียหายจริง คุณก็ไม่ควรทำให้เรื่องมันวุ่นวาย ประธานหลินสัญญาว่าจะให้คำตอบที่น่าพอใจ เพราะฉะนั้นเธอก็จะให้แน่นอน”“เพราะอย่างนั้น ขอให้ทุกคนเงียบกันก่อน แล้วฟังแผนการแก้ปัญหาของเรา ถ้าพวกคุณไม่พอใจ พวกคุณก็ค่อยเรียกร้อง”“อีกอย่าง แผนการนี้ผมก็ได้รับรู้ด้วย เป็นแผนที่สมบูรณ์แบบ ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องพอใจอย่างแน่นอน”คำพูดเช่นนี้ปลอบประโลมคนที่อย
เพราะเสียงของเขาเป็นมีแรงทะลวงไม่น้อย ทำให้แทรกผ่านเข้าไปในหูของผู้ฟังได้อย่างง่ายดาย ผู้คนในที่นี่ทุกคนจึงสงบลงอย่างรวดรเร็วเพราะถึงยังไงซะ ก่อนหน้าทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่าชายหนุ่มคนนี้พูดจาฉะฉานมีหลักมีฐาน และค่อย ๆ เผยความจริงทุกอย่างออกมาทีละก้าวถึงแม้สิ่งที่พวกเขาต้องการจะไม่ใช่ความจริง แต่ก็แก้ไขปัญหายุ่งยากของพวกเขาได้ แถมยังได้เงินชดเชน แต่ชายหนุ่มคนนี้มีความสามารถอย่างไม่ต้องสงสัยยังมีผู้รับประกันแทนด้วยเหรอ?หลินหว่านหรูเหม่อลอยไปอีกครั้ง ทำไมเธอไม่รู้เลยว่ามีคนมาค้ำประกันให้แทนด้วยแต่ในขณะนั้นเอง ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขาอายุราวสามสิบปี แต่ท่าทางภูมิฐานไม่ธรรมดา ทั้งท่วงท่าของเขายังให้ความรู้สึกเหมือนบัตเลอร์นี่มัน?“เลขาหวัง?”นักข่าวแถวหน้าจำบุคคลนั้นได้และตะโกนด้วยความประหลาดใจ“เลขาหวัง คุณมาที่นี่ได้ยังไงกันคะ?”นักข่าวหญิงอีกคนจำบุคคลนั้นได้จึงยื่นไมโครโฟนให้ทันที และพยายามดำเนินการสัมภาษณ์โดยเร็วที่สุด นี่คือเลขาของหวงหงเจี้ยนผู้เป็นนายกเทศมนตรีประจำเมืองหวงซีวันนี้ทำผลงานได้ดีมากและมีผลงานโดดเด่นสามารถขึ้นต่อได้ทุกเมื่อ ไปที่เมืองอื่นเพื่อเป็นผู้นำระดั
เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นสายตาของหลินหว่านหรู เขาหันกลับมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นอะไรไปครับ โดนเสน่ห์ผมดึงดูดสายตาเหรอ”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ก่อนจะเธอพูดด้วยความโกรธ “ฝันไปเถอะย่ะนายน่ะ!”แม้ว่าเสียงจะเบามากและไม่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล แต่ถ้านั่งอยู่ใกล้และตั้งใจฟังก็ยังสามารถได้ยินอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่นหลิวเหวินที่สังเกตเห็นเธออดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มแห้ง “คุณสองคน ข้อเท็จจริงยังไม่ทันแก้ไข ก็จู๋จี๋กันแล้วเหรอ”แม้จะไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่ฉากนี้ก็ตกไปในสายตาของซูถิงซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเธอมองดูภาพเบื้องหน้า พร้อมความรู้สึกที่เริ่มหดหู่มากขึ้นเรื่อย ๆเย่เทียนหยู่ทำไมคุณถึงได้เก่งมากขนาดนี้ แล้วทำไมคุณถึงดูถูกฉันฉันแย่กว่าหลินหว่านหรูที่ตรงไหนแต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไปเพราะฉันจะไม่มีวันปล่อยให้คุณประสบความสำเร็จ หลินหว่านหรูจะเลิกกับคุณอย่างแน่นอนสีหน้าของหลี่ว์ซิงเหอที่ยืนอยู่ด้านข้างยังคงเปลี่ยนไปไม่หยุด ปกติแล้วปัญหานี้ไม่มีทางแก้ไขได้แน่นอน หรือว่าพวกเขามีวิธีที่พิเศษจริงๆ?เป็นไปได้จริงๆ เหรอ?แต่ไม่ต้องกังวล เป็นความจริ
เย่เทียนหยู่รับประกัน“ได้ ฟังคุณพูดแบบนี้ พวกเราก็สบายใจแล้วล่ะ”มาถึงตอนนี้ ไม่มีใครสงสัยอะไรอีก สุดท้ายจึงเหลือเพียงแค่ผู้เสียหายและผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้เสียหายเท่านั้นแต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีบางคนอาศัยโอกาสแกล้งเป็นญาติหรือเพื่อนของผู้เสียหายเพื่ออยู่ต่อแต่เย่เทียนหยู่ไม่ได้ถือสา พร้อมยังให้พวกเขาเข้าไปด้านในหลังจากที่เข้ามาด้านใน หลินหว่านหรูก็พูดขึ้นทันที “ขอบคุณทุกคนที่ให้ความไว้วางใจฉันนะคะ ครั้งนี้เราได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวง และบริษัทจะต้องชดเชยให้อย่างเหมาะสมแน่นอนค่ะ”“แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรักษาจุดดำบนใบหน้าของทุกคน เพราะฉะนั้นแล้วตอนนี้ฉันจะให้ลงทะเบียนรักษารอยดำ แล้วอีกพักเรามาคุยเรื่องการชดเชยกันค่ะ”หลังจากฟังจบ ผู้คนต่างก็พากันพยักหน้าแต่ก็มีบางคนที่ทำทีกระซิบกระซาบราวกับกำลังหารืออะไรกันอยู่เป็นไปตามที่คาด ผ่านไปไม่นานชายหนุ่มผู้นำคนหนึ่งก็เอ่ยปาก “ไม่รีบร้อนหรอก ผมคิดว่าบริษัทสร้างบาดแผลทางร่างกายและจิตใจให้ทุกคนมากขนาดนี้ น่าจะคุยเรื่องเงินชดเชยกันก่อนนะ”หลินหว่านหรูขมวดคิ้ว เธอไม่โง่และเธอก็มองออกในทันที ว่าคนพวกนี้อยากได้เงินก้อน
ถึงแม้ปากของหลินหว่านหรูจะกำลังก่นด่า แต่ภายในใจกลับชื่นมื่น ต่อจากนั้นเธอก็ไปจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องในทันทีเรื่องที่ยุ่งยากเย่เทียนหยู่ก็จัดการให้เธอไปหมดแล้ว เรื่องเล็กแค่นี้เธอคงไม่ถึงขั้นทำพังหรอกใช่ไหมเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ ผู้บริหารบริษัทคนอื่นๆ ก็มองมาที่เธอด้วยสายตาเคารพนับถืออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหัวใจของเธอหลากหลายอารมณ์เห็นได้ชัดว่า คนทั้งภายในและนอกบริษัทต่างคิดว่าเรื่องทั้งหมดในวันนี้เป็นแผนการของเธอ และเป็นเธอที่ทำสำเร็จและทุกอย่างนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เย่เทียนหยู่สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจฐานะของเขาไม่สูงนัก และเขาต้องได้ความสำเร็จเช่นนี้ไปประดับตนเองแต่เพื่อให้เธอควบคุมทุกอย่างได้ง่ายขึ้น พัฒนาได้มากขึ้น กลับยอมยกความพยายามทั้งหมดนี้ให้เธอด้วยความเต็มใจเห็นได้ชัดว่าเขารักเธอมากผู้ชายแบบนี้ เธอจะยอมปล่อยไปได้ยังไงต่อให้ความแตกต่างระหว่างคนทั้งสองมากแค่ไหน อนาคตจะลำบากยังไง เธอก็จะไม่ยอมถอยอย่างแน่นอนหวังเพียงแต่ว่าหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เย่เทียนหยู่จะแข็งแกร่งมากขึ้น และพยายามอยู่เหนือกว่าเดิมในที่สุดตอนนี้เธอก็ค้นพบแล้วว่า เย่เทียนหยู่ม
“เข้าใจแล้วค่ะ!”ผู้ช่วยสาวพยักหน้า เพียงแต่เธอยังไม่ค่อยเข้าใจแค่ยาทาธรรมดาเท่านั้น วัตถุดิบยาด้านบนก็ไม่ใช่ของหายาก แปะไปทั้งแบบนี้จะได้ผลจริงๆ เหรอ?กลับเป็นการฝังเข็มของเขาต่างหากที่ดูจะมีผลอยู่บ้างผู้หญิงที่ได้รับการรักษารู้สึกว่าใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนอยู่พักหนึ่งแล้วรู้สึกสบายใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็บอกว่าเสร็จแล้ว และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณจะทำอะไรต่อไป”“ขั้นตอนต่อไปคือการรอ จนกระทั่งมีการสร้างปฏิกิริยาเป็นเวลาแปดชั่วโมงจึงจะสามารถถอดออกได้”“แล้วยังไง?”“มันจะไม่เป็นไรครับ” เย่เทียนหยู่กล่าว“แค่นั้นเหรอ?”“ง่ายมากเลยเหรอ?”ผู้หญิงคนนั้นไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ครอบครัวของเธอค่อนข้างร่ำรวย ดังนั้นเธอจึงขอให้เพื่อนหลายคนแนะนำเธอ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้แพทย์บางคนถึงกับประกาศโดยตรงว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดให้หมดสิ้นแต่ตอนนี้ มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอที่จะแก้ปัญหา?อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะคิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังมีความสุขมากที่ได้ยินสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูด และพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงดีมากเลย ขอบคุณค่ะคุณหมอ”“ไม่เป็นไรครับ พวกเขาเชิญผมมาเพื่อ
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก