เพราะเสียงของเขาเป็นมีแรงทะลวงไม่น้อย ทำให้แทรกผ่านเข้าไปในหูของผู้ฟังได้อย่างง่ายดาย ผู้คนในที่นี่ทุกคนจึงสงบลงอย่างรวดรเร็วเพราะถึงยังไงซะ ก่อนหน้าทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่าชายหนุ่มคนนี้พูดจาฉะฉานมีหลักมีฐาน และค่อย ๆ เผยความจริงทุกอย่างออกมาทีละก้าวถึงแม้สิ่งที่พวกเขาต้องการจะไม่ใช่ความจริง แต่ก็แก้ไขปัญหายุ่งยากของพวกเขาได้ แถมยังได้เงินชดเชน แต่ชายหนุ่มคนนี้มีความสามารถอย่างไม่ต้องสงสัยยังมีผู้รับประกันแทนด้วยเหรอ?หลินหว่านหรูเหม่อลอยไปอีกครั้ง ทำไมเธอไม่รู้เลยว่ามีคนมาค้ำประกันให้แทนด้วยแต่ในขณะนั้นเอง ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เขาอายุราวสามสิบปี แต่ท่าทางภูมิฐานไม่ธรรมดา ทั้งท่วงท่าของเขายังให้ความรู้สึกเหมือนบัตเลอร์นี่มัน?“เลขาหวัง?”นักข่าวแถวหน้าจำบุคคลนั้นได้และตะโกนด้วยความประหลาดใจ“เลขาหวัง คุณมาที่นี่ได้ยังไงกันคะ?”นักข่าวหญิงอีกคนจำบุคคลนั้นได้จึงยื่นไมโครโฟนให้ทันที และพยายามดำเนินการสัมภาษณ์โดยเร็วที่สุด นี่คือเลขาของหวงหงเจี้ยนผู้เป็นนายกเทศมนตรีประจำเมืองหวงซีวันนี้ทำผลงานได้ดีมากและมีผลงานโดดเด่นสามารถขึ้นต่อได้ทุกเมื่อ ไปที่เมืองอื่นเพื่อเป็นผู้นำระดั
เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นสายตาของหลินหว่านหรู เขาหันกลับมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นอะไรไปครับ โดนเสน่ห์ผมดึงดูดสายตาเหรอ”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ก่อนจะเธอพูดด้วยความโกรธ “ฝันไปเถอะย่ะนายน่ะ!”แม้ว่าเสียงจะเบามากและไม่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล แต่ถ้านั่งอยู่ใกล้และตั้งใจฟังก็ยังสามารถได้ยินอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่นหลิวเหวินที่สังเกตเห็นเธออดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มแห้ง “คุณสองคน ข้อเท็จจริงยังไม่ทันแก้ไข ก็จู๋จี๋กันแล้วเหรอ”แม้จะไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่ฉากนี้ก็ตกไปในสายตาของซูถิงซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเธอมองดูภาพเบื้องหน้า พร้อมความรู้สึกที่เริ่มหดหู่มากขึ้นเรื่อย ๆเย่เทียนหยู่ทำไมคุณถึงได้เก่งมากขนาดนี้ แล้วทำไมคุณถึงดูถูกฉันฉันแย่กว่าหลินหว่านหรูที่ตรงไหนแต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไปเพราะฉันจะไม่มีวันปล่อยให้คุณประสบความสำเร็จ หลินหว่านหรูจะเลิกกับคุณอย่างแน่นอนสีหน้าของหลี่ว์ซิงเหอที่ยืนอยู่ด้านข้างยังคงเปลี่ยนไปไม่หยุด ปกติแล้วปัญหานี้ไม่มีทางแก้ไขได้แน่นอน หรือว่าพวกเขามีวิธีที่พิเศษจริงๆ?เป็นไปได้จริงๆ เหรอ?แต่ไม่ต้องกังวล เป็นความจริ
เย่เทียนหยู่รับประกัน“ได้ ฟังคุณพูดแบบนี้ พวกเราก็สบายใจแล้วล่ะ”มาถึงตอนนี้ ไม่มีใครสงสัยอะไรอีก สุดท้ายจึงเหลือเพียงแค่ผู้เสียหายและผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้เสียหายเท่านั้นแต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีบางคนอาศัยโอกาสแกล้งเป็นญาติหรือเพื่อนของผู้เสียหายเพื่ออยู่ต่อแต่เย่เทียนหยู่ไม่ได้ถือสา พร้อมยังให้พวกเขาเข้าไปด้านในหลังจากที่เข้ามาด้านใน หลินหว่านหรูก็พูดขึ้นทันที “ขอบคุณทุกคนที่ให้ความไว้วางใจฉันนะคะ ครั้งนี้เราได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวง และบริษัทจะต้องชดเชยให้อย่างเหมาะสมแน่นอนค่ะ”“แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรักษาจุดดำบนใบหน้าของทุกคน เพราะฉะนั้นแล้วตอนนี้ฉันจะให้ลงทะเบียนรักษารอยดำ แล้วอีกพักเรามาคุยเรื่องการชดเชยกันค่ะ”หลังจากฟังจบ ผู้คนต่างก็พากันพยักหน้าแต่ก็มีบางคนที่ทำทีกระซิบกระซาบราวกับกำลังหารืออะไรกันอยู่เป็นไปตามที่คาด ผ่านไปไม่นานชายหนุ่มผู้นำคนหนึ่งก็เอ่ยปาก “ไม่รีบร้อนหรอก ผมคิดว่าบริษัทสร้างบาดแผลทางร่างกายและจิตใจให้ทุกคนมากขนาดนี้ น่าจะคุยเรื่องเงินชดเชยกันก่อนนะ”หลินหว่านหรูขมวดคิ้ว เธอไม่โง่และเธอก็มองออกในทันที ว่าคนพวกนี้อยากได้เงินก้อน
ถึงแม้ปากของหลินหว่านหรูจะกำลังก่นด่า แต่ภายในใจกลับชื่นมื่น ต่อจากนั้นเธอก็ไปจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องในทันทีเรื่องที่ยุ่งยากเย่เทียนหยู่ก็จัดการให้เธอไปหมดแล้ว เรื่องเล็กแค่นี้เธอคงไม่ถึงขั้นทำพังหรอกใช่ไหมเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ ผู้บริหารบริษัทคนอื่นๆ ก็มองมาที่เธอด้วยสายตาเคารพนับถืออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหัวใจของเธอหลากหลายอารมณ์เห็นได้ชัดว่า คนทั้งภายในและนอกบริษัทต่างคิดว่าเรื่องทั้งหมดในวันนี้เป็นแผนการของเธอ และเป็นเธอที่ทำสำเร็จและทุกอย่างนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เย่เทียนหยู่สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจฐานะของเขาไม่สูงนัก และเขาต้องได้ความสำเร็จเช่นนี้ไปประดับตนเองแต่เพื่อให้เธอควบคุมทุกอย่างได้ง่ายขึ้น พัฒนาได้มากขึ้น กลับยอมยกความพยายามทั้งหมดนี้ให้เธอด้วยความเต็มใจเห็นได้ชัดว่าเขารักเธอมากผู้ชายแบบนี้ เธอจะยอมปล่อยไปได้ยังไงต่อให้ความแตกต่างระหว่างคนทั้งสองมากแค่ไหน อนาคตจะลำบากยังไง เธอก็จะไม่ยอมถอยอย่างแน่นอนหวังเพียงแต่ว่าหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เย่เทียนหยู่จะแข็งแกร่งมากขึ้น และพยายามอยู่เหนือกว่าเดิมในที่สุดตอนนี้เธอก็ค้นพบแล้วว่า เย่เทียนหยู่ม
“เข้าใจแล้วค่ะ!”ผู้ช่วยสาวพยักหน้า เพียงแต่เธอยังไม่ค่อยเข้าใจแค่ยาทาธรรมดาเท่านั้น วัตถุดิบยาด้านบนก็ไม่ใช่ของหายาก แปะไปทั้งแบบนี้จะได้ผลจริงๆ เหรอ?กลับเป็นการฝังเข็มของเขาต่างหากที่ดูจะมีผลอยู่บ้างผู้หญิงที่ได้รับการรักษารู้สึกว่าใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนอยู่พักหนึ่งแล้วรู้สึกสบายใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็บอกว่าเสร็จแล้ว และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณจะทำอะไรต่อไป”“ขั้นตอนต่อไปคือการรอ จนกระทั่งมีการสร้างปฏิกิริยาเป็นเวลาแปดชั่วโมงจึงจะสามารถถอดออกได้”“แล้วยังไง?”“มันจะไม่เป็นไรครับ” เย่เทียนหยู่กล่าว“แค่นั้นเหรอ?”“ง่ายมากเลยเหรอ?”ผู้หญิงคนนั้นไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ครอบครัวของเธอค่อนข้างร่ำรวย ดังนั้นเธอจึงขอให้เพื่อนหลายคนแนะนำเธอ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้แพทย์บางคนถึงกับประกาศโดยตรงว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดให้หมดสิ้นแต่ตอนนี้ มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอที่จะแก้ปัญหา?อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะคิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังมีความสุขมากที่ได้ยินสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูด และพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงดีมากเลย ขอบคุณค่ะคุณหมอ”“ไม่เป็นไรครับ พวกเขาเชิญผมมาเพื่อ
เย่เทียนหยู่ล็อกประตูก่อนจะนั่งลงแล้วหมุนเวียนพลังหฤทัยสูตรจักรพรรดิภายในร่างกายทันที เขาดูดซับและหมุนเวียนพลังชี่แท้ไม่หยุด จากนั้นก็ส่งพลังไปทุกส่วนของร่างกายครั้งแล้วครั้งเล่าในขณะที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ อย่างชัดเจนตามการหมุนเวียนชี่แท้ เขาก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมาก ก่อนที่ใบหน้าก็เผยเสน่ห์ชวนให้ลุ่มหลงออกมาทีละน้อยหฤทัยสูตรจักรพรรดิ!ในที่สุดเขาก็ทะลวงพลังไปถึงขั้นที่เก้า!หฤทัยสูตรจักรพรรดิเป็นวิชาที่ถูกเก็บไว้ในหอสมุดของพรรคมังกร ไม่มีใครสามารถฝึกฝนได้สำเร็จมานานนับพันปี ว่ากันว่าจักรพรรดิโบราณฝึกฝนวิชานี้ เมื่อฝึกฝนไปถึงจุดสูงสุดแล้วจะสามารถเผด็จศึกสาวนับร้อยได้ถึงแม้ว่าเย่เทียนหยู่จะไม่ได้สนใจการเผด็จศึกสาว และเขาก็ไม่ได้ต้องการมัน เพราะถึงยังไงในสายตาของเขาก็มีเพียงหลินหว่านหรูแต่พลังน่าอัศจรรย์ที่นำมาซึ่งความแข็งแกร่งนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนาเป็นเพราะพรสวรรค์ของเขา เขาจึงสามารถฝึกหฤทัยสูตรจักรพรรดิได้ และเพราะแบบนี้เขาถึงกลายมาเป็นนายน้อยแห่งพรรคมังกร และรับตำแหน่งประมุขพรรคมังกรในเวลานี้ เย่เทียนหยู่กำมือขวาของเขาแน่น และรับสัมพัสพลังมหาศาลอันน
เขาอาศัยจังหวะไม่มีคนรีบตอบกลับเสียงแผ่วว่า “ไม่เป็นไรครับ!”เย่เทียนหยู่เปิดประตูห้องทันที สภาพตัวเขาในตอนนี้ยอดเยี่ยมมาก ถึงกับแฝงไปด้วยรอยยิ้มด้วยซ้ำไปเมื่อหลินหว่านหรูได้เห็นท่าทางของเขาเธอก็สบายใจขึ้น แต่ก็ยังอดถามไม่ได้ว่า “ยิ้มแย้มขนาดนี้ คงจะรักษาสำเร็จทุกคนเลยใช่ไหมคะ?”“เรื่องนั้น ต้องรอดูสักสองวัน”“อีกสองวันถึงจะรู้เหรอ ตกลงนายทำได้หรือเปล่า?” หลินหว่านหรูพูดไม่ออก เรื่องครั้งนี้ทำเอานายกเทศมนตรีหวงออกหน้ามารับประกันให้ จะทำเป็นเล่นไม่ได้เด็ดขาด“วางใจเถอะ ไม่มีปัญหาหรอก ผมแค่ล้อเล่นน่ะ” เย่เทียนหยู่หัวเราะ“นาย! นิสัยเสียจริงๆ!”หลินหว่านหรูพูดด้วยความโกรธ “แต่ก็ ต้องขอบคุณคนของนายกเทศมนตรีหวง ที่มารับประกันให้ครั้งนี้ นายเชิญเขามาได้ยังไง?” เธอกล่าวเสริมหลังจากเขินอายเสร็จ“เขายืนกรานจะมาซัพพอร์ตเองครับ ผมเลยทำได้แค่หาอะไรให้เขาทำหน่อย” เย่เทียนหยู่ตอบอย่างตรงไปตรงมาแน่นอนว่าเป็นหวงหงเจี้ยนเองที่ถามถึงสถานการณ์และอยากจะช่วยเหลือเขา และแน่นอนว่าเหตุผลก็คือ เพื่อปกป้ององค์กรธุรกิจในพื้นที่“บ้า เชื่อนายก็บ้าแล้ว บอกฉันมาตามตรงนะว่าเป็นรัฐมนตรีไช่ช่วยใช่หรือเปล
“ที่นายพูดหมายความว่ายังไงนายมีข่าวสารภายในอะไรมาอีกแล้วใช่หรือเปล่า?” หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก แน่นอนว่าระยะนี้เธอได้ยินข่าววงในจากเย่เทียนหยู่มามากมาย ไม่รู้ว่าเขาไปได้มาจากไหนถึงได้แม่นขนาดนี้“แน่นอนครับ!”“อันที่จริง ครั้งนี้ที่ผมพบว่าหลี่ว์ซิงเหอกับซูเหวินฮุยเป็นคนทำเรื่องชั่วลับหลังเร็วขนาดนี้ อีกทั้งยังพบตัวพยานได้อย่างว่องไว คงต้องขอบคุณความช่วยเลหือจากคนคนหนึ่งจริงๆ”“ใครเหรอ?”“ซูเหวินฮวา!”“ซูเหวินฮวาคือใคร?”“รอเดี๋ยวนะ นายหมายถึงนายน้อยคนรองตระกูลซูคนที่ชอบเที่ยวดื่มเมามั่วราคะไม่เอางานเอาการคนนั้นน่ะเหรอ?” หลินหว่านหรูตกตะลึงไปเล็กน้อย“อ่า ชื่อเสียงซูเหวินฮวาแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”“นายคิดว่ายังไงล่ะ”หลินหว่านหรูมองบนใส่เย่เทียนหยู่ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย “นายรู้จักซูเหวินฮวาแล้วเขาก็ยังยอมช่วยนายจริงๆ เหรอ?”“อืม!”“เขาค้นพบเรื่องนี้ตอนที่ตรวจสอบซูเหวินฮุย เขาก็เลยมาบอกผมน่ะ”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองสินะ ฉันรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงช่วยคุณ ก็เพื่อทำให้ซูเหวินฮุยตกที่นั่งลำบากสินะ แต่ว่าเขากล้าหาญมาก เขาไม่กลัวว่าซูเหวินฮุยจะลงโทษเขาถ้าเขารู้เหรอ?”“เข
ในตอนที่เหอฉุนเดินออกมา เดิมทีเธอตั้งใจหยิบตั๋วเพิ่มมาสองสามใบ มีที่นั่งดี ๆ ในแถวแรกแค่หนึ่งที่เท่านั้น ส่วนที่นั่งอื่น ๆ อยู่ถัดลงไปด้านหลังอีกเล็กน้อยเวทีตรงนี้จัดไว้เพื่อที่เวลาทำการแสดง แม้ผู้ชมจะนั่งแถวหน้า ก็ไม่จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย เป็นตำแหน่งที่สบายมากแต่เพราะสายตาที่ไม่อยู่นิ่งของเย่เทียนหยู่ เธอเลยหยิบตั๋วแบบลวก ๆ ให้เขาไปหนึ่งใบ เดิมทีตามคำขอของเฉินเฟยเฟยนั้น คือต้องการให้เย่เทียนหยู่นั่งอยู่ตรงกลางของแถวแรกอย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ได้รับนั้นก็ถือว่าค่อนข้างดีเช่นกัน อยู่ในแถวที่สาม ซึ่งอาจจะสบายกว่าด้วยซ้ำแต่การโต้ตอบกับดารานักร้องนั้น ก็อาจจะลำบากไปสักหน่อยเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นอารมณ์ร้ายของเหอฉุนได้โดยธรรมชาติ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แถมอารมณ์ร้ายอีกต่างหาก เธอคงเคยถูกผู้ชายรังแกมาสินะในครั้งนี้ เขานั้นทายถูกแล้วจริง ๆแน่นอนว่าเย่เทียนหยู่ก็ไม่คิดที่จะถือสาเรื่องเล็กน้อยพวกนี้อยู่แล้ว เขาเหลือบมองหมายเลขบนตั๋ว และเดินตามฝูงชนเข้าไปด้านในหลังจากผ่านความยากลำบากในการแหวกฝูงชนเข้ามา ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็พบที่นั่งของเขาที่อยู่ตรง
เธอถึงขั้นตั้งใจสืบเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ และพบว่าตระกูลหนานกงเป็นถึงหนึ่งในตระกูลอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรมังกร พวกเขามีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงพวกเขาได้เลยพี่เย่เก่งกาจมากก็จริง หากเป็นแค่ตระกูลทั่วไปในเมืองตะวันออก เธอก็อาจจะลองเสี่ยงดวงดู แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหนานกง ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรับมือพวกเขาได้เลย“คุณเย่จะมาเหรอคะ?” จางผิงถามด้วยความประหลาดใจ“อือ ฉันเชิญเขามาชมคอนเสิร์ตของฉันในคืนนี้ และเขาเองก็ตอบตกลงแล้วด้วย” เมื่อพูดถึงเย่เทียนหยู่ ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยก็แสดงถึงความปิติขึ้นมา“ได้ค่ะ!”จางผิงพยักหน้า แต่ในใจเธอกลับกำลังคิดอยู่ว่า เธอควรจะใช้วิธีไหนเพื่อทำให้คุณเย่รู้เรื่องที่พี่เฟยเฟยกำลังถูกรังแกโดยเธอไม่จำเป็นต้องเป็นคนพูดดีไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอถึงมักคิดว่าตัวตนของคุณเย่นั้นไม่ธรรมดาบางที เขาอาจจะมีวิธีรับมือจริง ๆ ก็ได้เหอฉุนไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเองก็อยากที่จะพบกับบุคคลในตำนานคนนี้เหมือนกัน ดูว่าเขาโดดเด่นอย่างที่ทุกคนพูดกันจริงไหมแน่นอน หากดูจากเหตุการณ์ของปาร์คดาฮยอนก่อนหน้านี้แล้ว คนคนนี้น่าจะพอมีความสามา
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว